ก่อนอื่นหาหลักฐาน ก่อนละกันครับ
ที่สำคัญ ประเมินหน่อยว่า ถ้าแจ้งแล้วจะเกิดอะไรขึ้น
หลักฐานไม่แน่นโดนฟ้องกลับ แถมอาจถูกอุ้ม เรื่องงานไม่ต้องพูดถึง
ถ้าหลักฐานมี อาจโดนปิดปาก หรือล้างแค้น ที่สำคัญ ผู้ถือหุ้นอื่นๆ ที่คุณพยายามรักษาผลประโยชน์ให้เขา คงไม่ลงขันปกป้องคุณแน่แท้
เสียมากกว่าได้ครับ
ที่สำคัญบางครั้งการเอาเงินไปทำอะไรอย่างที่คุณบอก เขาอาจจะเห็นถึงผลประโยชน์ในระยาว หรือ การได้มาซึ่งสภาพที่ทำให้เงินสดเหลือน้อยลง แล้วลดภาษีได้
เช่น การเข้าซื้อกิจการที่มีสภาพหนี้ ทำให้บริษัท มีกำไรลดลง และจ่ายภาษีในอัตราที่ต่ำลง
เจ้านายเก่าผม เคยซื้อโรงงานผลิตอาหาร de-hydrate พอซื้อมา เอามาลงบัญชี กลายเป็นว่าจ่ายภาษีน้อยลงมาก โรงงานที่ซื้อเหมือนได้เปล่าเลย
ตอนนี้เขาก็เข้าไปบริหารจนโรงงานนั้นเติบโต และพลิกกลับมามีกำไรได้
บางครั้ง เขาอาจจะเห็นในสิ่งที่คุณไม่เห็นก็ได้ ถ้าบริษัทจ่ายภาษีต่ำลง อาจจะทำให้เงินเหลือมาจ่ายโบนัสพวกคุณมากขึ้นก็ได้
ที่สำคัญ ผู้ถือหุ้น มีสิทธิืในการออกเสียง กำหนดนโยบาย หรือ วางแนวทางของบริษัท เพื่อให้ผู้บริหาร กรรมการผู้จัดการ ไปดำเนินการต่อ ถ้าผู้ถือหุ้นใหญ่เขากำหนดมาแล้ว นั่นคือแนวทางที่บริษัทจะต้องไป ถ้าเป้นพนักงานก็ต้องทำตามนั้น
การที่บริษัทเอาเิงินไปลงทุน ถ้าเป็นบริษัทใน ตลาดหลักทรัพย์ ประชุมผู้ถือหุ้นออกมายังไงก้ต้องชี้แจงต่อสาธารณะอยู่แล้ว ส่วนจะเป็นผลดีผลเสีย ผู้ลงทุนคนอื่นๆ จะอ่านเกมส์ออกไม่ออก ก็ว่ากันอีกที
หน้าที่พนักงาน คือ ทำตามนโยบายบริษัท ถ้ารู้สึกไม่ดี ก็ควรหางานใหม่ ที่ทำแล้วสบายใจครับ
จากคุณ |
:
Gethsemane
|
เขียนเมื่อ |
:
19 ธ.ค. 54 23:36:05
|
|
|
|