หากท่านตัดสินใจได้แล้วว่าจะเลือกลงทุนโดยให้มืออาชีพดูแลเงินลงทุนให้ โดยลงทุนผ่านกองทุนรวม ทีนี้ท่านก็ต้องทำการตัดสินใจว่าจะเลือกลงทุนในกองทุนหุ้น กองทุนตราสารหนี้ กองทุนแบบผสม หรือกองทุนทางเลือกอื่นๆ ดี
การที่จะเลือกกองทุนไหนอยู่ที่วัตถุประสงค์ที่ลงทุน และความชอบส่วนตัวของคุณ ตอบตนเองก่อนว่า คุณต้องการอะไร และยอมรับเงื่อนไขต่อไปนี้ได้หรือไม่
เลือกลงทุนกองทุนหุ้น ถ้าท่านไม่กลัวราคาที่ขึ้นๆลงๆ ไม่กลัวที่บางวันหรือบางปีจะขาดทุน หวังผลตอบแทนสูงกว่าที่ได้จากเงินฝากหรือพันธบัตร และมีเวลารอเก็บเกี่ยวกำไรได้สักห้าปี หรือมากกว่านั้น
เลือกลงทุนกองทุนตราสารหนี้ ถ้าท่านกลัวเงินต้นหาย ไม่อยากเสี่ยงกับราคาที่หวือหวา เดี๋ยวกำไร เดี๋ยวขาดทุน ต้องการผลตอบแทนที่สูงกว่าเงินฝากสักนิด อยากเปลี่ยนใจได้ง่ายๆโดยที่ไม่ต้องห่วงเรื่องขาดทุนตลอดเวลา คาดหวังว่าเงินต้นที่ลงทุนจะได้กลับคืน
เลือกลงทุนกองทุนรวมแบบผสม ถ้าท่านไม่อยากที่จะตัดสินใจเองว่าจะต้องลงทุนแบบไหน สัดส่วนเท่าใด และอยากให้มีคนจัดพอร์ตให้แทนดีกว่า
เมื่อท่านตัดสินใจได้แล้วว่าท่านต้องการอะไรและสามารถยอมรับเงื่อนไขได้ท่านก็ทำการลงทุนอย่างที่ต้องการ แต่ก็มีหลายๆท่านเห็นทางเลือกการลงทุนประเภทอื่นๆอีกนอกเหนือจาก 3 ทางเลือกนี้ก็เกิดความสนใจและต้องการที่จะลงทุนเพราะเห็นว่าสามารถช่วยกระจายการลงทุนได้ อย่างเช่นการลงทุนในกองทุนทองคำ กองทุนทองคำถือเป็นกองทุนทางเลือก ทำให้ผู้ลงทุนสามารถกระจายการลงทุนได้ มีผู้นิยมอย่างมากในกองทุนประเภทนี้เพราะกระแสของราคาทองคำที่สูงขึ้นและปัญหาด้านเศรษฐกิจ จึงทำให้กองทุนทองคำได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นและมีผู้ให้ความสนใจมาก จึงเกิดคำถามว่ากองทุนทองคำมีข้อดีอย่างไร
1.การลงทุนใช้เงินจำนวนน้อยก็สามารถลงทุนในกองทุนทองคำได้แล้ว ไม่ต้องรอเก็บเงินก้อนโต แล้วค่อยไปซื้อทองคำแท่งไม่จำเป็นต้องมีเงินซื้อจำนวนมากเท่าซื้อทองคำแท้ๆ และในทางกลับกันเวลาขาย เช่น ถ้าถือทองคำไว้ 1 บาททอง หรือ ประมาณ 17,800 บาท ต้องการใช้เงินแค่ 5,000 บาท ต้องขายทั้ง 17,800 บาท แต่กองทุนของเราไม่จำเป็นขายเอาเงินออกแค่ 5,000 บาทได้เลย
2.ลดความเสี่ยงในเรื่องของการสูญหายและลดค่าใช้จ่ายในการหาที่จัดเก็บรักษา (หากจะลงทุนในทองคำแท่งเป็นจำนวนมากผู้ลงทุนยังต้องรับความเสี่ยงจากการถูกโจรกรรมหรือต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษา)
3.ช่องทางการขายสะดวกไม่ต้องกลับไปที่ร้านเดิมอย่างทองคำแท่ง (หากผู้ลงทุนต้องการจะขายก็จะต้องเดินทางไปขายที่ร้านเดิมที่ซื้อมาถึงจะได้ราคาที่ดี)
4.ไม่ต้องกังวลว่าจะโดนร้านค้าหลอกในเรื่องความบริสุทธิ์ของทองคำ
5.การลงทุนในกองทุนทองคำ ราคาที่ได้จะได้ราคาอ้างอิงกับทองคำในประเทศ ทำให้ตรวจสอบการขึ้นลงของราคาทองคำได้ง่าย
6.การลงทุนในกองทุนทองคำหลายๆคนอาจจะกลัวความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน แต่ในความเป็นจริงแล้วราคาทองคำในประเทศที่ถูกกำหนดโดยสมาคมค้าทองก็อ้างอิงอัตราแลกเปลี่ยนด้วยเช่นเดียวกัน
7.ไม่ต้องห่วงในเรื่องไม่ได้รับเงินคืน (เพราะมี กลต.ค่อยควบคุมกำกับดูแล)
8.กำไรที่เกิดจากการลงทุนไม่เสียภาษี (สำหรับลูกค้าบุคคลธรรมดา)
ทั้งนี้ไม่ว่าท่านจะเลือกลงทุนกองทุนใด และแบบไหน ที่สำคัญที่สุดท่านควรศึกษาข้อมูลกองทุนก่อนการลงทุน เพื่อให้ท่านได้รับประโยชน์จากการลงทุนจริงๆ
สุรกิจ จันไทย บลจ. บัวหลวง จำกัด
จากคุณ |
:
Wild Rabbit
|
เขียนเมื่อ |
:
24 ธ.ค. 54 15:32:54
|
|
|
|