ความคิดเห็นที่ 1 - ต้องบอกว่าเรื่องการนับอายุ RMF ผมเคยทำมาก่อนครับตอนปี 2551 การนับอายุนับจากวันแรกที่ซื้อจริง ๆ ไม่ใช่นับวันที่ซื้อกองทุนหน่วยนั้น ๆ - เรื่องการคงอายุกองทุนไว้โดยขายไม่หมด ไม่เคยทำเพราะอายุยังไม่ถึง 55 แต่เรื่องนี้นักบัญชีที่ผมใช้บริการเป็นคนแนะนำให้ - เรื่องการมีกองทุน 2 กองนั้นเคยทำครับ ถ้าเป็นธนาคารเดียวกันจะสังเกตุเห็นว่าหมายเลขกองทุนจะเป็นหมายเลขเดียวกัน แต่ถ้าคนละธนาคารไม่เคยทำ ในกรณีของคุณถ้าเป็นธนาคารเดียวกัน ก็น่าจะถือว่ากองทุนยังมีอายุอยู่เพราะยังคงมีหน่วยลงทุนเหลืออยู่ แต่ถ้าเป็นคนละธนาคารไม่แน่ใจเหมือนกัน ลองสอบถามกับทางธนาคารดูดีกว่า - ลองสอบถามดูว่าถ้าคุณโอน RMF ของที่เหลืออยู่นี้เข้าไปกองทุนที่ขายหมดแล้วจะทำได้หรือไม่ ถ้าได้ก็น่าจะแสดงว่ากองทุนนั้นยังไม่ตาย จากคุณ : TLL01 เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 54 20:29:05

ความคิดเห็นที่ 2 ตามหลักเกณฑ์ RMF หลังจากปี 2551 เดือนตค.หรืออะไรจำไม่ได้ ผู้ลงทุนต้องถือลงทุนไม่น้อยกว่า 5ปี และอายุครบตั้ง 55 ปีขึ้นไปจึงจะได้รับยกว้นภาษีเงินได้ (ก่อนปี51ถ้าซื้อไว้ครบ5 ปีเต็ม ขายได้เลย) ผมเคยแบ่งขาย แต่ขายไม่หมด เหลือไว้บางส่วนเพื่อเป็นเชื้อให้มีกองทุนRMFที่ยังถืออยู่สามารถนับต่อเนื่องครบ 5 ปี ผมได้ขายไปเมื่อปี 2552 ซึ่งอายุครบ 55ปี ยังไม่ถูกเรียกไปพบแต่อย่างใด(คิดว่าไม่มีปัญหาเพระขายครั้งแรก เมื่อครบตามสิทธิ์ ) แต่ปี2554ผมก็ขายไปอีก ที่นี้ขายหมดเป็นกองๆ แต่ก็จะเหลือกองที่ยังไม่เคยขายไว้ให้ครบ 5ปี เพื่อให้มีกองทุนRMF ครบ 5 ปี เพื่อเป็นหลักฐานแสดงให้ผู้จัดการกองทุนเห็นว่า เราลงทุนครบ5ปี และอายุเกิน 55 แล้ว และยังถืออยู่ เพื่อจะได้ไม่ต้องถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย แต่หากขายไปแล้วไม่ครบ 5 ปี กองที่ซื้อใหม่ต้องถือให้ครบ 5ปีจึงจะได้รับการยกเว้น อยากแนะนำให้ขายกองที่เกิน5ปีไปก่อน เหลือกองอื่นๆไว้ให้ตรบ 5 ปี และเมื่อซื้อใหม่ ก็ให้ขายกองที่เกิน5ปีไป ก็จะไม่มีปัญหา แต่เคยอ่านเจอว่าถ้าขายไม่หมด เหลือเป็นเชื้อไว้ก็ได้เหมือนกันครับ จากคุณ : Wild Rabbit เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 54 22:09:53

ความคิดเห็นที่ 3 ผมเคยสอบถามเจ้าหน้าที่กรมสรรพากรเกี่ยวกับเรื่องนี้มาแล้วและเคยมีเอกสารของบลจพูดเกี่ยวกับการขายให้เหลือเชื้อไว้ ก็สามารถนับต่อเนื่องได้ แต่ถ้าซื้อปี 2554 แล้วขายในปี 2555ไม่แน่ใจเท่าไร ก็เลยไปขายส่วนที่ซื้อเกิน5ปีแทน วันจันทร์หน้าถ้ายังหาเอกสารดังกล่าวเจอ จะมาคอนเฟอร์มให้อีกทีนะครับ จากคุณ : Wild Rabbit เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 54 22:21:03

ความคิดเห็นที่ 4 ขอบคุณมากค่ะ 1. กองทุนที่ยังเหลืออยู่ยังไม่ได้ขายเป็นของอีกธนาคารที่ไม่ใช่ธนาคารที่ซื้อในปีแรก ปี 2549 ซื้อ RMF จาก 2 ธนาคารในวันเดียวกัน ธนาคารแรกได้เปลี่ยนชื่อย่อของกองทุนจาก RM1 เป็น R1 เพื่อแยกว่า RM1 เป็นส่วนที่ซื้อก่อน 1  มึนา 2551 ซึ่งขายได้เมื่อครบห้าปีเต็ม โดยผู้ซื้ออายุขณะขายคืนไม่ถึง 55 ปีก็ขายได้โดยไม่ผิดเงื่อนไข ส่วน R1 ต้องอายุ 55 ปีเต็มด้วย จึงจะถือว่าขายได้โดยไม่ผิดเงื่อนไข ถ้าโอนธนาคารก็จะรับโอนเข้าเป็น R1 ซึ่งเวลาขายกองทุนธนาคารอื่นซึ่งซื้อยังไม่ครบห้าปีในปีหน้า ธนาคารอื่นก็จะขอดูหลักฐานสมุดกองทุนของธนาคาร R1 ด้วยว่าครบห้าปีจริงไหม ซึง R1 จะแสดงในสมุดกองทุนว่าเริ่มซื้อ R1 ปี 2551 อาจมีปัญหาว่าธนาคารอื่นอาจตีความว่า เริ่มซื้อ R1 ปี 2551 การขายปี 2555 เป็นการขายผิดเงื่อนไข และธนาคาร R1 จะถือว่าการโอนจากกองทุนธนาคารอื่นมาหลังจากเคยขาย R1 หมดแล้ว ถือว่าต้องเริ่มนับเป็นปีที่ 1 หรือไม่ถ้าขาย R1 ปี 2556 2. อีกธนาคารที่เริ่มซื้อปี 2549 เช่นกันและขายไปหมดแล้วในปีนี้ ปี 2551 ได้เปลี่ยนสมุดกองทุนเป็นเล่มที่มีความกว้างน้อยลงเพื่อให้ผู้ลงทุนสามารถ update สมุดกองทุนได้ด้วยเครื่องปรับสมุดอัตโนมัติเครื่องเดียวกับที่ใช้ปรับสมุดยัญชีเงินออมทรัพย์ และได้เปลี่ยนชื่อย่อกองทุนด้วยเพราะเปลี่ยนชื่อเต็มของกองทุนเป็นชื่ออื่น และเจ้าหน้าที่ที่เปลี่ยนสมุดให้ ไม่ได้ให้สมุดเล่มเก่าที่มีหลักฐานว่าเริ่มซื้อกองทุนปี 2549 กลับมา ถ้าโอนกองทุนที่ยังเหลือมาธนาคารนี้ ก็มีสมุดกองทุนที่เป็นหลักฐานตั้งแต่ที่ซื้อปี 2551 เท่านั้น  สำหรับไปแสดงต่อธนาคารอื่นเวลาขายกองทุน 3. นักบัญชีที่แนะนำคุณ อายุยังไม่ถึง 55 ใช่ไหม ไม่เคยขาย RMF ไม่หมดใช่ไหม หรือเขาเคยรู้จักผู้ที่เคยขาย RMF ไม่หมด 4. ท่านอื่นท่านใดเคยขาย RMF ไม่หมดบ้าง ขอความรู้ด้วยค่ะ จากคุณ : sumcha (sumcha) เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 54 23:38:16

ความคิดเห็นที่ 5 เงื่อนไขของการขาย RMF ต่างจาก LTF คะ LTF ต้องถือจนครบ 5 ปี ไม่จำเป็นต้อง 5 ปีบริบูรณ์ นับ พ.ศ.เป็นหลักคะ เมื่อครบ ก็ขายโดยต้องขายกองที่ครบ 5 ปีก่อน กองที่ไม่ครบยังขายไม่ได้ ถ้าใช้สิทธิลดหย่อนภาษีไปแล้ว สรุปคือ ถ้าใช้สิทธิลดหย่อนภาษี ต้องขายตามหลัก ซื้อก่อนขายก่อนคะ ส่วน RMF เงื่อนไข ต้องถือครบ 5 ปี และคุณอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ นับวันชนวัน และต้องซื้อทุกปี อย่างน้อยปีละ 5000 บาท เมื่อครบเงื่อนไข ถือจนครบ 5 ปี และอายุ 55ปี คุณสามารถขายได้ทั้งหมดทุกกอง นับตั้งแต่วันที่ซื้อครั้งแรกคะ ถึงแม้ว่ากองสุดท้ายที่ซื้อยังถือไม่ครบ 5ปีก็ตาม สรุป คุณมีสิทธิขายทั้งหมดคะ แต่ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจว่าจะขายหรือไม่ ขึ้นอยู่กับคุณแล้วคะ ว่าคุณจะขายหมด หรือขายบางส่วน ไม่ผิดเงื่อนไขอันใด แก้ไขเมื่อ 25 ธ.ค. 54 00:05:56 แก้ไขเมื่อ 25 ธ.ค. 54 00:04:03 จากคุณ : MaiRuDi เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 54 00:01:34

ความคิดเห็นที่ 6 ขอบคุณ คุณ Wild Rabbit มากค่ะ 1. จากการขาย RMF ไม่หมดในปี 2552 ของคุณแสดงให้เห็นว่าไม่จำเป็นต้องขายให้หมดก็ได้ 2. แต่ยังไม่เข้าใจเรื่องเมื่อปี 2552 ที่คุณเคยแบ่งขาย แต่ขายไม่หมด เหลือไว้บางส่วนเพื่อเป็นเชื้อให้มีกองทุนRMFที่ยังถืออยู่สามารถนับต่อเนื่องครบ 5 ปี แต่ปี2554คุณขายไปอีก ที่นี้ขายหมดเป็นกองๆ นั้นจริงๆคุณขายในปี 2552 บางส่วนอย่างไรให้สามารถนับต่อเนื่องครบ 5 ปี เช่นกองทุนที่หนึ่งที่ซื้อปี2547 แล้วไม่ซื้อกองที่หนึ่งในปี2548-2552 แต่ขายไปบางส่วนในปี2552 ส่วนกองที่เริ่มซื้อปี2549ก็ไม่ซื้อในปี2550-2554 และขายกองที่เริ่มซื้อปี2549ไปบางส่วนหนึ่งกองในปี2554 โดยอีกกองที่เริ่มซื้อปี2549เช่นกันยังไม่ขาย ใช่หรือไม่ คุณจึงเหลือกองที่ยังไม่เคยขายไว้ให้ครบ 5ปี หลังคุณขายกองที่เคยขายไปบางส่วนปี2552โดยขายแบบยกกองในปี2554แล้ว ใช่หรือไม่ จากคุณ : sumcha (sumcha) เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 54 01:38:30

ความคิดเห็นที่ 7 ผมซื้อไว้หลายบลจ.ในแต่ละปี มีประมาณ 6บลจ. โดยการกระจายการซื้อทุกปีต่อเนื่องกันครับ แต่ตอนที่ผมขายในปี 2552 ผมขายไปแค่ 2-3 กองทุนไม่ได้ขายหมดทุกกองครับ และขายไปโดยยังเหลือไว้ประมาณกองละ10,000บาท (เพื่อเป็นเชื้อไว้นับการลงทุนให้ต่อเนื่องครับ) แต่การขายในปี 2554 ผมก็เปลี่ยนเป็นขายไปทั้งกองให้หมด แต่จะเก็บกองทุนที่ผมลงทุนต่อเนื่องมาทุกปีและครบ 5 ปีแล้วจะไม่ขาย(A) เมื่อผมจะขายกองทุนอื่นที่ซื้อมายังไม่ครบ5 ปี ผมก็จะถ่ายสมุดกองทุนRMFที่ยังถืออยู่(A) และซื้อทุกปี รวม 5 ปีให้กับบลจ.ที่ผมจะขายเป็นหลักฐานว่าผมมีสิทธิ๘ายได้โดยลงทุนมาแล้วเกิน 5ปี และอายุเกิน 55 ปีครับ จริงๆแล้วผมสามารถนับกองทุนที่ให้ต่อเนื่องโดยนับกองทุนที่ขายไปแล้ว ที่เหลือเชื้อไว้ก็ได้ แต่พอดีผมมีกองทุนเยอะ เลยเปลี่ยนวิธีการโดยเอากองทุนจาก บลจ.ใด บลจ.หนึ่ง เป็นหลักฐานให้บลจ.ทีผมจะขายให้แทน( สดวกดี) แก้ไขเมื่อ 25 ธ.ค. 54 17:41:35 จากคุณ : Wild Rabbit เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 54 17:37:28

ความคิดเห็นที่ 8 ขอบคุณ คุณ Wild Rabbit อีกครั้งค่ะ ตอนที่ขาย R1 ซึ่งซื้อทุกปี ขายไปหมดยกกองเพราะเข้าใจผิดว่าต้องขาย RMF ทุกกองให้หมดก่อน ถึงจะเริ่มซื้อใหม่เพื่อนับเป็นปีที่หนึ่งใหม่ได้ ได้คิดไว้แล้วก่อนขายกองทุนว่าจะซื้อ R1 ด้วยในรอบใหม่ภายในปีนี้หลังขายทุกกองแล้ว ในเมื่อไม่จำเป็นต้องขายหมด ก็จะไม่ขายกองที่เหลืออยู่หนึ่งกองของธนาคารอื่น และจะไม่ย้ายกองนี้ข้ามธนาคารด้วยเพราะการย้ายข้ามธนาคารมีขบวนการหลายขั้นตอนเสียเวลา ต้องใช้เวลาที่เหลืออยู่อีกไม่กี่วัน(และไม่มีเวลาว่างทั้งวันเพื่อซื้อกองทุน) เพื่อซื้อ RMF ของ 4 ธนาคารให้ทัน เพื่อกระจายความเสี่ยง 1. การซื้อ R1 เพิ่มปีนี้ หลังจากขาย RM1 และ R1 ของปี 49-53 (ซึ่งความจริง RM1 และ R1 เป็นกองเดียวกันที่เปลี่ยนชื่อ) ขายหมดยกกองในปีนี้ จะถือว่าการซื้อ R1 เป็นการซื้อติดต่อกันเป็นปีที่ 6 หรือไม่ เพื่อทำให้สามารถขาย RMF กองอื่นที่จะซื้อปีนี้ในปี 2556 ได้ โดยใช้สมุดกองทุน R1 ไปยื่นธนาคารอื่นเป็นหลักฐานว่าได้เริ่มซื้อ RMF มาเกิน 5 ปีแล้ว + อายุเกิน 55 แล้ว 2. กะว่าจะซื้อ RMF ของธนาคารกรุงไทยด้วยในปีนี้ (ไม่เคยซื้อของธนาคารนี้มาก่อน) โดยใช้บัตรเครดิตแบบ cash back ของธนาคารอื่น ระยะปลายปีนี้ธนาคารนี้ยอมให้ใช้บัตรของธนาคารอื่นทุกธนาคารซื้อ RMF ได้บางกองทุนคือ RMF1, KSRMF, KTGOLDRMF 3 กองนี้ควรซื้อไหม  KSRMF เป็นกองทุนที่ลงในหุ้นที่ไม่ขัดกับหลักศาสนาอิสลาม หุ้นที่ขัดกับหลักศาสนาอิสลามเป็นหุ้นแบบไหน เป็นหุ้นที่ลงทุนในสินค้าเช่นหมูหรือสุราเป็นต้นใช่ไหม ดังนั้นไม่ลงทุนในหุ้นของบริษัทเช่น CP ใช่ไหม จากคุณ : sumcha (sumcha) เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 54 01:03:54