 |
อันดับที่ 6 FTSE เพิ่มอันดับหุ้นไทย
เป็นเหตุการณ์ที่ไม่ได้สร้างความสั่นสะเทือนใดๆให้แก่ตลาดหุ้นไทย และทุกวันนี้นักลงทุนทุกคนก็ยังไม่รู้ว่ารับข่าวนี้ไปหรือยัง เพราะการจัดอันดับดัชนีโดย FTSE ประกาศเพิ่มอันดับหุ้นไทยมาในช่วงที่ตลาดกำลังมีปัญหาและโฟกัสไปที่กรีซ จึงทำให้บรรยากาศการลงทุนแทบไม่ส่งผลใดๆต่อไทยในเชิงบวกหลังจากที่ข่าวนี้ออกมา
นักลงทุนส่วนใหญ่อาจจะยังไม่เห็นความสำคัญของเรื่องนี้ แต่ผมคิดว่าเรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่สำคัญมาก และคาดว่ามีผลกระทบต่อตลาดทุนไทยในระยะยาวด้วย (ผลกระทบในเชิงบวก)
FTSE Group คือใคร? FTSE เป็นบริษัทผู้จัดทำดัชนีชั้นนำของโลก ซึ่งการจัดทำดัชนีของ FTSE เป็นที่ยอมรับในวงการการเงินและใช้เป็นดัชนีอ้างอิงการดำเนินงานของกองทุนต่างๆ ทั่วโลก เช่นเดียวกับ MSCI (ของ Morgan Stanley) ดัชนีในกลุ่ม MSCI ก็เป็นที่ยอมรับทั่วโลกเช่นกัน ความสำคัญของทั้งสองบริษัทก็พอๆกัน เหมือนกับที่สหรัฐมีสำนักจัดอันดับ 3 แห่งคือ S&P, Fitch และ Moodys ซึ่งก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน แล้วแต่ว่าการดำเนินงานของบริษัททางการเงินเหล่านั้นต้องการเลือกอ้างอิงบริษัทจัดอันดับแห่งใด
โดยการประกาศนี้ออกมาเมื่อประมาณวันที่ 21 กันยายน 2554 เป็นการประกาศยกอันดับตลาดทุนไทยขึ้นไปอยู่ในระดับสูงขึ้นกว่าเดิม โดยประกาศให้ขึ้นไปอยู่ในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ชั้นนำหรือ Advanced Emerging Market จากเดิมไทยอยู่ในระดับตลาดเกิดใหม่ระดับรองหรือ Secondary Emerging Market ซึ่งการเริ่มใช้คำนวณดัชนีในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ชั้นนำของประเทศไทย จะเริ่มใช้ในช่วงเดือนมีนาคม 2555
การแบ่งกลุ่มตลาดของ FTSE เพื่อจัดทำดัชนีจะแบ่งออกเป็น 4 ระดับได้แก่ กลุ่มตลาดพัฒนาแล้ว (Developed Market), กลุ่มตลาดเกิดใหม่ชั้นนำ (Advanced Emerging Market), กลุ่มตลาดเกิดใหม่ระดับรอง (Secondary Emerging Market) และสุดท้ายคือกลุ่มตลาดด้อยพัฒนา (Frontier Market)
การพิจารณาปรับอันดับตลาดทุนของ FTSE จะประกาศปีละ 1 ครั้ง ซึ่งในปัจจุบันกลุ่มตลาดเกิดใหม่ชั้นนำมีทั้งสิ้น 9 ประเทศ ประกอบไปด้วย บราซิล, เม็กซิโก, ไต้หวัน, แอฟริกาใต้, มาเลเซีย, ฮังการี, โปแลนด์, เช็ก และตุรกี ในรอบนี้ประเทศไทยเป็นเพียงประเทศเดียวที่ได้รับการปรับอันดับขึ้นไปอยู่ในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ชั้นนำ
ความสำคัญคือกองทุนจำนวนมาก หลายกองทุนที่ทำการลงทุนในตลาดเกิดใหม่ (Emerging Market) ก็จะต้องพิจารณาดำเนินงานตามการจัดอันดับเหล่านี้ ซึ่งประเทศที่ถูกจัดอันดับเพิ่มขึ้นหรือลดลง จะมีผลต่อการดำเนินงานของกองทุนด้วย เพราะแต่ละกองทุนที่อ้างอิงการจัดอันดับเหล่านี้ ก็จะต้องมีการปรับพอร์ทการลงทุนไปตามการเปลี่ยนแปลงของการจัดอันดับ
ดังนั้นความสำคัญนี้ซึ่งจะมีผลในปี 2555 จึงถูกเราจัดอันดับเป็นความสำคัญระดับที่ 6
จากคุณ |
:
venezier
|
เขียนเมื่อ |
:
26 ธ.ค. 54 01:15:14
|
|
|
|
 |