High Dividend Yield Stocks อีกทางเลือกของการลงทุน
|
|
กรุงเทพธุรกิจ โดย : อาภาภรณ์ แสวงพรรค วันที่ 27 ธันวาคม 2554 01:00
ในช่วงที่ตลาดใกล้ปิดงวดปลายปี 2554 ปัจจัยหนึ่งที่นักลงทุนให้ความสนใจ คือ เงินปันผล ซึ่งเราพบว่า หลักทรัพย์ที่จะจ่ายเงินปันผลสูง
สำหรับผลประกอบการปี 2554 ที่จะจ่ายในช่วงเดือน เม.ย.ถึง พ.ค.ปี 55 โดยคาดว่าจะให้อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล 5-8% ได้แก่ SIRI, KGI, PF, PHATRA, QH, TISCO, TMT, DELTA, PTTGC, BLS, SC, MJD, CSL, SVI และ HANA
• สำหรับปี 2555 เรามองว่าตลาดหุ้นมีความเสี่ยงจากปัจจัยภายนอกสูง ทั้งจากปัญหาหนี้สินยูโรโซน, เศรษฐกิจสหรัฐเพิ่งเริ่มฟื้นตัว แต่มีความเสี่ยงเรื่องความต่อเนื่อง เพราะปัญหาหนี้ยุโรปอาจฉุดการฟื้นตัวให้สะดุดในบางช่วง รวมทั้งสหรัฐจะมีการเลือกตั้งในปี 2555 ด้วย ซึ่งการเมืองอาจทำให้ขาดความต่อเนื่องในการใช้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ด้านเศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มเติบโตชะลอลงในปี 2555 ซึ่งจะมีผลต่อการบริโภคสินค้าโภคภัณฑ์ต่างๆ เช่น น้ำมัน, เหล็ก, ถ่านหิน, ปิโตรเคมี เป็นต้น ส่วนภายในประเทศ อยู่ในสถานะที่ดีกว่า แต่ก็มีความเสี่ยงเรื่องการใช้นโยบายที่อาจล่าช้า และปัญหาการเมืองในประเด็นการแก้กฎหมายนิรโทษกรรมที่อาจนำไปสู่ความขัดแย้งทางการเมืองที่รุนแรงขึ้นอีกรอบ
• ดังนั้นในการลงทุนในตลาดหุ้นจึงควรมีหุ้น Defensive (ได้รับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจจำกัด ฐานะการเงินแข็งแกร่ง และจ่ายปันผลสูง) ซึ่งจากการคัดกรองของ Retail Research จากหลักทรัพย์ใน DBS Vickers Coverage พบว่า หลักทรัพย์ที่น่าสนใจ และเราให้เป็น Top Picks ของหุ้นปันผลสูงสำหรับปี 2555 คือ CSL, MODERN, MCS, ADVANC, DCC, AP และ KTB สรุปปัจจัยพื้นฐานของหุ้น Top Picks ในกลุ่มปันผลสูงสำหรับปี 55
# CSL : บริษัทวางแผนที่จะให้บริการ IT recovery สำหรับอุตสาหกรรมต่างๆ ที่ถูกน้ำท่วม เราคาดว่าจะทำให้เกิดรายได้พิเศษใน 1Q55 นอกจากนี้ CSL ได้มองเห็นถึงอุปสงค์ที่แข็งแกร่งในบริการ IDC แนะนำซื้อ เนื่องจาก 1) มีอัตราการเติบโตของกำไรได้อย่างต่อเนื่อง 2) ประเมินมูลค่าหุ้นพบว่ายังน่าสนใจ EV/EBITDA ปี 2555 เป็นเพียง 4.0 เท่า และ 3) คาดการณ์อัตราผลตอบแทนเงินปันผลปี 2555 สูงถึง 11.1% กำหนดราคาพื้นฐานไว้ที่ 6.50 บาทซึ่งประเมินด้วย P/E ปี 2555 ที่ 9.0 เท่า
# MODERN : ยอดขายเฟอร์นิเจอร์ดีขึ้นมากหลังน้ำลด นอกจากนั้นยังเริ่มมีการส่งมอบเฟอร์นิเจอร์สำนักงานที่เป็นโครงการซึ่งมีการเลื่อนส่งมอบมาช่วงก่อนหน้า โดยในส่วนนี้จะเห็นชัดเจนตั้งแต่ 1Q55 เป็นต้นไป จุดเด่นของบริษัท คือ ความมั่นคงทางธุรกิจ แม้ว่าในระยะสั้นจะถูกกระทบจากปัญหาน้ำท่วมไปบ้าง แต่คาดว่าจะฟื้นกลับมาได้ในระยะกลาง-ยาว ฐานะการเงินที่แข็งแกร่งมาก และการจ่ายเงินปันผลสูงอย่างสม่ำเสมอ คาดการณ์ปันผลปี 2555 ไว้ที่ 0.45 บาท คิดเป็น Dividend Yield 8% แนะนำซื้อ โดยให้ราคาพื้นฐาน 6.50 บาท (Sum-of-parts)
# MCS : ปี 2555 คาดว่าผลประกอบการปกติเติบโตดีขึ้น โดยจะส่งมอบสินค้าได้ตามปกติ และได้รับประโยชน์จากการที่มีใบอนุญาต S-Grade ที่ทำให้มีโอกาสได้รับงานที่มีมาร์จินสูงเนื่องจากมีผู้ประการเพียง 10 รายในญี่ปุ่นที่มีใบอนุญาตประเภทนี้ ขณะที่ใบอนุญาตเดิม คือ H-Grade มีผู้ได้รับกว่า 200 ราย รวมทั้งมีโอกาสขยายตลาดส่งออกใหม่ๆ นอกเหนือจากตลาดญี่ปุ่นด้วย เช่น เวียดนาม, ชิลี, ฟิลิปปินส์ เป็นต้น แนะนำซื้อ โดยให้ราคาพื้นฐาน 11.30 บาท อิงกับ P/E ปี 2555 ที่ 8 เท่า และคาดการณ์ Dividend Yield ปี 2555 จูงใจเท่ากับ 7.8% (จ่ายปีละ 2 ครั้ง)
# ADVANC : คาดการณ์อัตราการเติบโตกำไรสุทธิปี 2555 น่าประทับใจเป็น 17% y-o-y แรงผลักดันการเติบโตมาจากธุรกิจข้อมูลที่ขยายตัวดี กระแสเงินสดจากการดำเนินงานดีมาก และผันแปรตามเศรษฐกิจจำกัดมาก (Defensive) และคาดว่าในปี 2555 ซึ่งเศรษฐกิจไทยฟื้นตัว การบริโภคเติบโตดีขึ้น จะทำให้ความต้องการใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่มากขึ้นด้วย แนะนำซื้อ โดยคาดการณ์อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลปี 2555 เท่ากับ 7.1% ซึ่งสูงกว่า DTAC ที่ 5.3% ให้ราคาพื้นฐานไว้ที่ 156 บาท
# DCC : อุปสงค์กระเบื้องปูพื้น-บุผนังฟื้นตัวดีมากหลังน้ำลด เนื่องจากต้องใช้กระเบื้องในการซ่อมแซมและทดแทนประกอบกับไตรมาส 1 เป็นช่วง High season ของการขาย เพราะเป็นช่วงหลังฤดูเก็บเกี่ยว ทั้งนี้บริษัทมียอดขายในต่างจังหวัดถึงประมาณ 90% ทั้งปี 2555 คาดว่ากำไรสุทธิจะเติบโตสูงกว่า 20% เนื่องจากยอดขายสูงขึ้น, มาร์จินเพิ่มขึ้นจากการปรับ Product Mixed และการปรับปรุงการใช้วัตถุดิบเพื่อลดต้นทุนพลังงาน และอัตราภาษีจ่ายต่ำลงเป็น 23% ฐานะการเงินแข็งแกร่ง เป็นเงินสดสุทธิ ทำให้จ่ายปันผลได้ 100% ของกำไรสุทธิ แนะนำซื้อ ให้ราคาพื้นฐาน 69 บาท คาดการณ์ Dividend Yield ปี 2555 เท่ากับ 6.3% (จ่ายทุกไตรมาส)
# AP : ในระยะสั้นยอดขายได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมแต่คาดว่าจะเป็นแค่ชั่วคราว ยอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) ปัจจุบันสูงถึง 2.6 หมื่นล้านบาท ทำให้การรับรู้รายได้ในปี 2555 ขยายตัวสูงและได้รับประโยชน์จากอัตราภาษีจ่ายที่ต่ำลงเป็น 23% ในปี 2555 คาดการณ์ว่ากำไรสุทธิปี 2555 ของ AP จะขยายตัวสูง 40% มากกว่าอุตสาหกรรมที่คาดว่าจะเติบโต 30-35% แนะนำซื้อ โดยให้ราคาพื้นฐาน 5.61 บาท โดยอิงกับ P/E ปี 2555 ที่ 8.0 เท่า และคาดการณ์อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลปี 2555 เท่ากับ 5.7%
# KTB : เชื่อว่าธนาคารจะได้รับประโยชน์จากการใช้จ่ายและลงทุนภาครัฐ และเรามองว่า Key growth ของเศรษฐกิจไทยในปี 2555 จะมาจากการใช้จ่ายและการบริโภคภายในเป็นหลัก คาดว่าสินเชื่อปี 2555 เติบโต 9% ดีขึ้นจากปี 2554 ที่ 8% เพราะมีการชำระคืนหนี้ภาครัฐมาก แนะนำซื้อ KTB โดยราคาตามปัจจัยพื้นฐาน 17.20 บาท อิงกับ P/BV เฉลี่ยปี 2554-2555 ที่ 1.4 เท่า และคาดการณ์ Dividend Yield ปี 2555 เท่ากับ 5.0%
http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/finance/stock-focus/20111227/426501/High-Dividend-Yield-Stocks-%E0%B8%AD%E0%B8%B5%E0%B8%81%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A5%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%B8%E0%B8%99.html
แก้ไขเมื่อ 28 ธ.ค. 54 20:16:13
จากคุณ |
:
Wild Rabbit
|
เขียนเมื่อ |
:
28 ธ.ค. 54 20:15:14
|
|
|
|