ความคิดเห็นที่ 1 เห็นด้วยค่ะ ผู้ได้รับผลกระทบอย่าปล่อยให้เรื่องนี้ผ่านไป คิดว่าผู้ได้รับผลกระทบน่าจะมีจำนวนมาก คงต้องตั้งกลุ่มกันค่ะ "ผู้ได้รับผลกระทบจากกองทุน Kgold 30/12/2554" จากคุณ : ซำเม่า (ซำเม่า) เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 55 09:41:38

ความคิดเห็นที่ 2 ผมคิดว่า ไม่ใช่ความผิดตรงๆ ของ บลจ. เค้าก็บริหารไปตาม order กินส่วนต่าง%ค่าบริหารจัดการ แต่เมื่อมีความผิดปกติเกิดขึ้น บลจ.ก็ควรออกมาช่วยเหลือผู้ลงทุนด้วย เพราะมันผิดปกติกว่าที่ควรมาก อาจจะลดส่วนของรายได้จากค่าบริหารจัดการมาช่วยเหลือกัน จริงๆแล้ว ก็ไม่ได้ีแต่ K-gold ทุกกองทุนที่ลงทุนแบบเดียวกัน โดนหมด ผมสงสัยว่า ถ้า แห่งหนึ่งเริ่มมีมาตรการช่วยเหลือนักลงทุน แล้วแห่งอื่นๆ จะโดนมัดมือชกให้ทำด้วยหรือเปล่า แก้ไขเมื่อ 05 ม.ค. 55 09:49:13 จากคุณ : กฤษณะ เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 55 09:48:36

ความคิดเห็นที่ 3 KAsset แจ้งว่า จะมีการหารือร่วมกันในสมาคมบริษัทจัดการเพื่อหาแนวทางเกี่ยวกับการคำนวณ NAV ของกองทุนทองคำ  เพื่อให้เป็นแนวทางปฏิบัติเดียวกันทุก บลจ.ค่ะ จากคุณ : K8888 เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 55 10:02:49

ความคิดเห็นที่ 4 ลงจากดอยแล้วลาขาด จากคุณ : snapdragon เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 55 10:13:08

ความคิดเห็นที่ 5 คิดเเบบตาสี ตาสา ตาใส (ปล. ขอบคุณข้อมูลจากคุณ คิดมากเกิ้น  เจ้า)   ... เริ่มมี progress  เเต่กว่าจะตกลงกันได้  คงคุยกันยาว  เพราะมีหลาย บลจ. มาก  ที่เด้งดึ๋งไป 9-10%  วันนั้น  ..  ต้นทุนเเต่ละที่ ก้อเเตกต่างกันไป  ถ้าชดเชยไม่เท่ากัน ก้อเป็นคำถามอีก  พัชรดันไป set  มาตรฐานกองทองที่อิงตลาดสิงคโปร์ซะเเล้ว ถ้าไม่ทำอะไรเลย  คนที่ติดดอย  ถ้าหลุดเเล้ว คงหนีไปลงกองทองที่อิงราคาตลาดโลกมากที่สุด อืม..  กระเเสมหาชนกดดันจริงๆ จากคุณ : Worthog เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 55 10:15:27

ความคิดเห็นที่ 6 โดยส่วนตัวคิดว่าจะไปโทษบลจ.ก็ไม่ถูกนะคะ ต้องโทษSPDR เลยค่ะ แต่เมื่อเดือนมี.คก็เห็นมีแต่KASSETนี่คะที่ออกมาแสดงความรับผิดชอบกับผู้ถือหน่วย ก็น่านับถือแล้วนะคะ แต่ถ้าจะให้เค้าควักกระเป๋ามารับผิดชอบให้อีกเค้าคงจะแย่แล้วล่ะ แก้ไขเมื่อ 05 ม.ค. 55 10:33:10 จากคุณ : N'NooSexyGern เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 55 10:30:31

ความคิดเห็นที่ 7 แล้วตกลงบลจ. ผิดอะไร? ราคาอิงตลาดสิงคโปร์ ครั้งแรกมันผิดพลาด เขาก็ช่วยเหลือขณะที่ที่อื่นไม่ได้ทำอะไรเลย แต่ครั้งหลังเขาจะไม่ช่วยจะไปว่าเขาว่าสองมาตรฐานได้ไง? กลายเป็นว่า บลจ. ผิดถ้าราคาตลาดที่สิงคโปร์ เด้งขึ้นลงแรง แล้วพวกที่ได้กำไรจากการขึ้นล่ะ? ต้องไปทวงเงินเขามาคืนด้วยไหม จากคุณ : sace22 เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 55 10:35:58

ความคิดเห็นที่ 8 จาก คห 5 แสดงว่าทุกคนที่ซื้อ วันที่ 30 ธค 54 ขาดทุนจากการแกว่งที่เกินควรอย่างน้อย  ~ 7% K8888 น่าจะแจ้งให้ชัดเจน ว่าจะหารือเมื่อไหร่ จะมีคำตอบภายในกี่วัน การรอจะได้มีจุดจบ ไม่งั้นคนก็โวยกันทุกวันคืน ไม่จบแน่ครับ จะชดเชยเท่าไหร่ หรือ เฉยๆ ก็บอกมา เค้าจะได้ตัดสินใจ เรื่องการลงทุนแบบอื่น ที่มีเหตุผลมากกว่าหรืออย่างไรต่อไป ==================================== ถูกครับ.... ไม่ใช่ความผิดของ บลจ. โดยตรง แต่ บลจ. ก็ปฎิเสธไม่ได้ที่จะมีหน้าที่ หาเหตุผลที่ชัดเจนจากกองทุนแม่ เพื่ออธิบายสาเหตุของความผิดปกตินั้นให้นักลงทุนทราบ และตัดสินใจต่อไป ไม่ใช่ปล่อยไปเฉยๆ แล้วบอกไม่เกี่ยว ผมไม่รู้ เค้าทำ ผมแค่คำนวณ คำถามคือการปั่นราคาโดยไม่อิงราคาตลาดโลกมันเกิดขึ้นได้อย่างไร ในนาทีสุดท้าย เป็น เพราะอะไร ใครทำให้มันเกิดขึ้น หรือมีความเสี่ยงจะเกิดขึ้นอีกหรือไม่ มากน้อยอย่างไร มีแนวทางป้องกันในอนาคตหรือไม่ อย่างไร จากกองทุนแม่ และมีแนวทาง แก้ไขอย่างไร จาก บลจ หากมันเกิดขึ้นอีก =========================================== แก้ไขเมื่อ 05 ม.ค. 55 11:12:15 จากคุณ : PopperMan เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 55 10:40:02

ความคิดเห็นที่ 9 พอมี 1 แล้วก้ต้องมี 2..3..4 จากคุณ : corner_newc เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 55 10:40:34

ความคิดเห็นที่ 10 ทุกบริษัทจัดการเขาจะไม่ชดเชยราคาของวันที่ 30/12 นะ เพราะมันมีทั้งคนซื้อ คนขายทั้งสองขา  ลงทุนทั้ง กสิกร กรุงศรี ไทยพาณิชย์ ถามมาแล้วทั้ง 3 ที่   เขาว่าปีนี้ทองคำจะ 1800-2000 USD จะรอดูต่อไป ไม่ขายๆ แก้ไขเมื่อ 05 ม.ค. 55 10:50:33 จากคุณ : คิดมากเกิ้น เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 55 10:47:05

ความคิดเห็นที่ 11 สมมุต ถ้าได้กำไรเกินควรที่จะเป็น ลูกค้าจะต้องเเจ้งให้กองทุนมาเอาเงินคืนไปปะ สงสัย เพราะไม่เคยเล่น จากคุณ : ศูนย์หน้าหมายเลข9 เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 55 11:07:07

ความคิดเห็นที่ 12 พี่ๆ ก้อเห็นใจเจ้าของเงินเค้าหน่อย เค้าเเค่ต้องการคำอธิบาย  ความชัดเจนอะไรพวกนี้ อาจจะไม่ต้องชดใช้หรืออะไร (มั้ง) จู่ๆมากระโดดเด้งดึ๋งนาทีสุดท้าย ใครมันจะไปตั้งตัวทัน  ถ้าพี่ๆ ตามราคามาตลอดช่วง 2-3 วันนั้น   trend มันก้อลงนะ  ถ้าที่สิงคโปร์มันเล่นปั่นกัน เค้าจะได้พิจารณาทางเลือกไง   ไอ้เรื่องความเสี่ยงเค้าคงเข้าใจ ยอมรับกันอยู่เเล้วเเระ   เเต่ไอ้ราคาเปลี่ยน 10% ชั่วโมงสุดท้าย ก่อนตลาดปิดอ่ะ   จะให้ทำใจ  มันก้อต้องใช้เวลา พร้อมคำอธิบาย เงินใคร ใครก้อรัก ก้อหวง   ..  อันนี้ก้อพูดกลางๆ  ไม่ได้เข้าข้างใคร จากคุณ : Worthog เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 55 11:24:35

ความคิดเห็นที่ 13 การลงทุนมีความเสี่ยงครับ ผมว่าทุกคนเข้าใจ แต่การที่เราดูราคามาดีแล้ว พอใจกับราคานี้แล้วจึงซื้อ แต่อยู่ๆราคามาเด้งตอนก่อนตลาดปิด ทั้งๆที่ราคาทองคำในตลาดโลกไม่ได้ขยับมากมายขนาดนั้น ผมว่าเรื่องแบบนี้มันรับได้ยากครับ ถ้าราคาในตลาดโลกมันลงจริงๆมันยังเข้าใจได้ว่าเราผิดพลาดเอง น่าจะมีความเชื่อมั่นให้ลูกค้ามากกว่านี้นะครับ จากคุณ : Unif เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 55 11:44:30

ความคิดเห็นที่ 14 ขอมอบกลอนนี้ให้ผู้ประสบเคราะห์กรรม เงินทองของหายาก ต้องลำบากตรากตรำมา อยู่ อยู่ ฉุดราคา เงินหามา หายวับไป ทำใจลำบากจริงๆๆๆๆ แก้ไขเมื่อ 05 ม.ค. 55 12:18:14 แก้ไขเมื่อ 05 ม.ค. 55 11:54:28 จากคุณ : ซำเม่า เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 55 11:50:25

ความคิดเห็นที่ 15 ใช่เลยครับ กำไรขาดทุนรับได้ ไม่งั้นไม่มาซื้อกองทุนหรอก เก็บเงินแช่ตายดีกว่า แต่เวลาซื้อก็ดูแล้วว่า ราคาน่าจะอยู่ระดับไหน แต่การพุ่งขึ้นของราคาแบบที่คนซื้อที่ส่งคำสั่งไปก่อน ไม่สามารถเปลี่ยนหรือถอนคำสั่งได้นี่ น่าเจ็บใจนะ อยากรู้ว่าผู้ดูแลผลประโยชน์ ถึงเวลารับค่าดูแล แต่เวลามีปัญหากลับปัดเรื่องออก ก็ไม่ถูกต้อง อย่างน้อยสมควรหาวิธีจัดการ ไม่ให้เกิดเหตุการที่ไม่ควรเกิดแบบนี้อีก ทั้งนี้เรื่องแบบนี้เคยเกิดขึ้นแล้ว แต่กลับกลายเป็นว่าไม่สามารถจำกัดไม่ให้เกิดขึ้นอีกได้ แสดงว่ากองทุนที่ทางกองทุนไทยไปลงทุนไว้ น่าจะมีปัญหาบางอย่างแน่ หรือปัญหาพอผ่านก็ทอดทิ้งไม่ใส่ใจ เรื่องถึงเกิดขึ้นได้อีก งวดนี้ถ้าไม่มีการแถลงหรือหามาตรการอะไรออกมา คนที่ลงทุนก็จะเสี่ยงกับเหตุการแบบนี้อีกได้ในอนาคต หากว่ายังมีคนสนใจกล้าที่จะลงทุนกับกองทุนพวกนี้ต่อนะ จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 55 12:14:02

ความคิดเห็นที่ 16 ได้ราคาเท่าทุนเมื่อไหร่ + ปันผลสักหน ขายทิ้งหมด ดูราคาตอนสั่งซื้อ ตอนสั่งขายพอใจเลยทำคำสั่ง แต่ต้องมาลุ้นราคาตอนตลาดปิดหลังจากนั้นอีกเกือบชั่วโมงว่า จะกระเด้งกระโดด หรือ ทรุดไปมากน้อยแค่ไหน แบบนี้ไม่ไหว ไหงว่าอีกราคาตลาดโลกไงงงง ถ้ามีคนมาปั่นราคาตอนตลาดปิด โดยที่เราไม่ได้เห็นราคาเลย แต่โดนเหมือนมัดมือชกให้จำใจ ยากที่จะทำำใจ จากคุณ : sonique เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 55 12:23:24

ความคิดเห็นที่ 17 สมมุติว่าคุณซื้อรถยนต์มา แล้วเครื่องเสียงที่ติดมากับรถมันมีปัญหา คุณจะไปโวยวายกับบริษัทผลิตเครื่องเสียง หรือบริษัทผลิตรถยนต์หละครับ ผมเห็นเกือบทุกคนก็ต้องไปโวยวายกับบริษัทรถ ในทำนองเดียวกัน เราๆก็รู้ว่าปัญหามันเกิดจาก SPDR แต่ถ้าเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีกแล้วตีมึนว่าไม่ใช่ความผิดของบลจ. แบบนี้มันก็ขาดความน่าเชื่อถือครับ Factor ภายนอกคุณไม่สามารถที่จะคาดเดาได้อย่างน้อยก็ควรจะหาทางป้องกันไว้ก่อน เป็นบลจ.ความน่าเชื่อถือคือสิ่งสำคัญ ถ้าคุณยอมให้ Factor ภายนอก มาทำลายความน่าเชื่อถือ ลูกค้าคุณจะหายหมดนะครับ ด้วยความเคารพ แก้ไขเมื่อ 05 ม.ค. 55 17:06:07 จากคุณ : Infinite_J เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 55 12:37:21

ความคิดเห็นที่ 18 แก้ไขเมื่อ 05 ม.ค. 55 13:32:19 จากคุณ : sonique เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 55 13:24:51

ความคิดเห็นที่ 19 เพียงแค่นี้ gold พวกนี้ ซื้อไม่ซื้อวันที่ 30/12/2011 ก็โดนจับขึ้นดอยสูงปรี้ด.. ใช่ไหม จากคุณ : เด็กอ่อนกองทุนทอง (PASSENGERS ON BOARD) เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 55 14:08:49

ความคิดเห็นที่ 21 โดนเหมือนกัน 300,000 บาท 30,000 หายไปชั่วข้ามคืน ที่จริงตอนนี้น่าจะกำไรซัก 15,000 กำ จากคุณ : kla (kla-ka) เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 55 17:45:46

ความคิดเห็นที่ 22 แนะนำให้ซื้อกองทุนทอง ที่เป็น ETF เลยครับ ซื้อขายในกระดานหุ้น ซื้อราคาไหน ได้ราคานั้นเลย ไม่ต้องมาลุ้นราคาให้ปวดหัว ที่เห็นราคาใกล้เคียงกับราคาทองแท่งก็มี KG965, ส่วน BCHAY สภาพคล่องน้อยกว่านิดนึง เวลาอยากขาย ขายไม่ค่อยได้ราคา, GLD เคยซื้อราคาไม่ค่อยขยับตามราคาทองแท่งเท่าไหร่ เลยเลิกเล่นไปแล้ว ส่วนใหญ่วันที่ 30/12 มีแต่คนซื้อครับเป็นส่วนใหญ่ คนขายไม่ค่อยมีหรอก เพราะติดดอยกันหมดแล้ว ผมเองก็ติดดอยลบเป็นหมื่น ขายไปก็ขาดทุนทันที เห็นว่ายอดสุทธิเป็นยอดซื้อหลายร้อยล้าน ของผม SCBGOLD รอหลุดดอยก่อนจะขายให้เรียบเลย จากคุณ : p173174 เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 55 18:19:10

ความคิดเห็นที่ 23 ไม่เห็นด้วย แต่โหวตให้ เผื่อมีคำอธิบายดีๆออกมาว่าทำไม? จากคุณ : Dark Archon เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 55 18:24:19

ความคิดเห็นที่ 24 ลงดอยได้เมื่อไหร่ ขอลาขาดกันทีกับกองทอง จากคุณ : White Chocolate Cheese Cake เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 55 18:55:27

ความคิดเห็นที่ 25 #1 เปลี่ยนเป็น "ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากกองทุนทอง 30/12/2554" ดีกว่า     จะได้รวมทุก บลจ. เพราะผมซื้อ scbgoldh ตอนนี้ก็ขาดทุนอยู่ประมาณ 45,000 บาท   โทรถาม scbam ถึงสาเหตุที่แท้จริงและมาตรการแก้ไข ก็ตอบไม่ชัดเจน เหมือนๆ k-asset อ่ะครับ เฮ้อ!!! จากคุณ : lukmaekaew เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 55 20:00:10

ความคิดเห็นที่ 26 ผมว่าการเคลื่อนไหวนี้กลับเป็นผลดีกับ บลจ. นะครับ เป็นการเปิดโอกาสให้อธิบาย เรียกความเชื่อมั่นกลับคืนมา แต่ถ้าผู้บริหารเลือกจะเฉยกับปัญหานี้ แล้วใครจะกล้าลงทุนต่อ ความเสี่ยงที่มีเหตุผลใครๆก็ยอดรับได้ แต่ถ้าไม่มีเหตุผลก็เหมือนกับบอกนักลงทุนว่า ถึงคราวซวยของคุณเอง เท่านั้น แสดงตนให้เห็นว่าคุณไม่ได้นิ่งเฉยกับเหตุการณ์แบบนี้ ลงไปถึงจุดผิดพลาดได้ยิ่งดี จากคุณ : luke_s เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 55 20:14:03

ความคิดเห็นที่ 27 มันไม่จบง่ายๆหรอกครับ K-Gold บลจ กสิกร / KBank ขาดความเชื่อถือแน่นอน และ บลจ อื่นที่ลง SPDR ก็มีผลด้วยหากไม่มีแนวทางป้องกันที่ชัดเจนใอนาคต เหตุการณ์นี้มันจะมาอีกในอนาคตหากไม่มีมาตรการออกมาที่ชัดเจนว่าจะป้องกันยังไง เหมือน 18 มีนาไงครับ คราวนี้ก็เอาอีกแระ คนซื้อ โดนปั่นซะ พออีกวันราคากลับมาแทบจะเหมือนเดิม แล้วคนซื้อวันนั้น ได้ราคาต้นทุนที่ไม่สมเหตุผลและไม่เป็นตามหนังสือชี้ชวนของคุณเลย ว่าราคา อิงตลาดโลก / ใกล้เคียงตลาดโลก อะไรที่คุณพูดมาโฆษณามา แต่ที่สำคัญคือ ที่ผมจะเรียกร้อง : เคส 18 มีนาคม 2554 บลจ KBank กสิกร มาแก้ไขให้, คราวนี้ 30 ธันวาคม เคสเดียวกันทุกกรณี แต่ ไม่ยอมชดเชยให้แบบเดิม แปลว่า???? ความน่าเชื่อถืออยู่ที่ไหน????? ตอนนี้ K-Gold กสิกร มี 2 มาตรฐานแล้วเหรอ จากคุณ : Mr Thai Find เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 55 21:07:41

ความคิดเห็นที่ 28 K gold เตรียมลาขาด ได้ราคาเท่าทุนเมื่อไหร่ ขายทิ้งหมด เสีย 0.1% เพื่อให้บริหารเงินเรา แต่กลับเอาเงินเราไปแจกฝรั่งหัวดำที่สิงคโปร์ หนังสือชี้ชวนบอกว่าอิงราคาตลาดโลกไง ตอนนี้ spdr ก็ลบราคาผันผวนนั้นออกแล้วทั้ง yahoo finance, bloomberg spdr คำตอบคำชี้แจงอยู่ที่ไหน ผจก กองทุนเสนอหน้าออกมาชี้แจงหน่อย จากคุณ : sonique เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 55 21:39:14

ความคิดเห็นที่ 29 ผู้ที่ลงทุนกองทุน k gold ไม่ได้เสียแค่ค่าธรรมเนียมอย่างเดียวนะครับ ลองเปิดดูผลการดำเนินงาน คำอธิบายค่าใช้จ่ายหัวข้อที่ 9 ด้วย เขายังคิดค่าส่งเสริมการขาย ฯลฯ ซึ่งค่าใช้จ่ายบางรายการเหล่านี้ น่าจะเป็นค่าใ่ช้จ่ายของบลจ.เองซึ่งช่วยให้นักลงทุนเข้ามาซื้อหน่วยลงทุนจากบลจ. ไม่น่าจะผลักภาระให้ผู้ลงทุนนะครับ จากคุณ : ClasS_X เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 55 22:14:36

ความคิดเห็นที่ 30 อืม นั่งอ่านๆแล้วรุ้สึกเรื่องนี้จะยาว ผมว่าหลายคนในที่นี้ สมควรจะลงทุนแต่ทองคำแท่งในประเทศจริงๆครับ ไม่ควรไปเล่นกองทุน เพราะคุณอ่านหนังสือไม่แตก เท่าที่ผมลองไปอ่านๆดูนะครับ 1. ไม่มี บลจ.ไหนเลยบอกว่า ไปลงทุนในทองคำแท่งจริงๆ (ยกเว้นของธนชาต) แต่เกือบทุก บลจ.​ไปลงทุนในกองทุน ETF ที่ชื่อ SPDR GOLD TRUST ดังนั้น คุณที่เข้าใจว่า กองทุนนี้ลงทองคำแท่ง ควรไปอ่านภาษาไทยใหม่ 2. เข้าใจคำว่า ETF ไหมครับ ETF คือกองทุนรวม ที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์​ เมื่อบอกว่าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ราคามันก็คือขึ้นกับคนซื้อ และคนขาย จริงอยู่ในระหว่างวัน มันจะมีราคาบอกว่าคร่าวๆว่าตอนนี้ควรจะเป็นเท่าไหร่ แต่สุดท้ายแล้ว ถ้าคนซื้อ และคนขายไม่เห็นด้วยกับราคาที่ควรจะเป็น มันก็เท่านั้น ...​เพราะยังไงเสีย คนซื้อกับคนขายจะเป็นคนกำหนดราคาในตลาดเอง โดยปกตินะครับ ถ้าราคาของ ETF มันผิดไปจากราคาที่ควรจะเป็น เค้าจะมี market maker ทำหน้าที่ซื้อ หรือขายให้ราคามันกลับสุ่สมดุลอีกครั้ง (อย่างในไทย กอง ETF เช่น TDEX, CHINA หรือแม้กระทั่งกอง ETF ทองคำอย่าง GLD BCHAY  หรือกระทั่ง KG965 ของกสิกร เค้าก็จะมี market maker คอยทำราคาให้มันใกล้เคียงกับราคาที่ควรจะเป็นที่สุด (แม้ว่าบางทีมันจะทำหน้าที่ห่วยก็เถอะนะ ผมเคยดูกอง KG965 เนี่ย ราคาซื้อขายกับราคาที่ควรจะเป็นก็ห่างกัน 2-3% แสดงว่า MM พวกนี้ห่วยจริง) แต่ไอ้ที่ซวยกันไปหม๊ดเลยเนี่ยก็ดันเป็นเพราะว่าไอ้ราคาที่ดันมีคนตกลงซื้อขายกันระดับแพงเกินจริง 10% เนี่ย มันดั๊น เป็นราคาที่ไป match กันตอนตลาดปิดแล้วเนี่ยสิ (เหมือนตลาดหุ้นไทยอ่ะ ช่วง market call ที่มันจะมีการจับคู่ราคาตอนตลาดปิด แล้วดูว่า ราคาไหนที่มี volume สูงสุดก็จะใช้ราคานั้นเป็นราคาปิด) เพราะฉะนั้น มันก็เลยเกิดความซวยกันถ้วนหน้า เพราะดันมีไอ้บ้าที่ส่งคำสั่งซื้อไปที่แพงเกิน 10% เข้าไป (ไม่รู้ว่าบ้าหรือเมา) แล้วก็ดัน match ในช่วงปิดตลาดด้วยสิ ต่อให้มี market maker 100 คนก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะปิดตลาดแล้ว ความซวยก็เลยบังเกิดต่อกองทุนทองคำในไทย ที่ดั๊นแห่กันไปลงในสิงคโปร์เนี่ยแหละ ฉะนั้น จะด่า SPDR GOLD ก็ไม่ถูก เพราะเค้าไม่ได้ทำอะไรผิด เค้าไม่ได้เป็นคนกำหนดราคา จะด่ากองทุนเมืองไทย ยิ่งไม่ได้ใหญ่ เพราะก็รับกรรมต่อมาอีกที ผมเลยไม่เข้าใจว่า ที่พวกคุณๆทั้งหลายบอกให้ บลจ.ต่างๆออกมารับผิดชอบ เค้าต้องรับผิดชอบอะไร แล้ว SPDR มันจะต้องมาชี้แจงทำไม เพราะมันไม่เกี่ยวข้องกับราคาที่ขึ้นไปตอนนั้นเลย ที่น่าด่าคือ ไอ้คนส่งคำสั่งซื้อราคาเว่อร์ๆนั่นน่ะ (ไม่รู้เป็นใคร) แล้วอีกอันนึง ก็น่าจะเป็นตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์เนี่ยแหละ ที่ดั๊นไปจับคู่ match ราคาอภิมหานิรันดร์กาลตอนปิดตลาดไปแล้ว คือ ผมเองด้วยความที่ไม่ได้ซื้อหรือขายวันที่ 30 ธค. ก็เลยไม่เดือดร้อนอะไร ก็เลยอาจจะมองต่างจากคนที่ซื้อแล้วขาดทุนไป (ก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าถ้าเกิดซื้อเข้าไป จะเลือดเข้าตาบ้างหรือเปล่า) แต่ถ้าศึกษาให้เข้าใจจริงๆ แล้วจะพบว่า มันไม่ใช่ความผิดใครเลย แล้วจะบอกว่าคราวหน้าจะต้องป้องกัน .. ก็ไม่รู้เค้าจะไปป้องกันไม่ให้คนส่งคำสั่งซื้อขายในสิงคโปร์ได้อย่างไร เพราะเค้าก็ไม่ใช่เมืองขึ้นของเรา สุดท้ายนี้ ถ้าอ่านที่ผมเขียนมาทั้งหมดแล้วยังไม่เข้าใจ ... ผมว่า กลับไปเข้าคิวร้านทองเหมือนเดิมดีกว่าคับ จากคุณ : ^Sleepless Society^ เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 55 22:22:00

ความคิดเห็นที่ 31 เคส 18 มีนาคม 2554 บลจ KBank กสิกร มาแก้ไขให้, คราวนี้ 30 ธันวาคม เคสเดียวกันทุกกรณี แต่ ไม่ยอมชดเชยให้แบบเดิม แปลว่า???? ความน่าเชื่อถืออยู่ที่ไหน????? ตอนนี้ K-Gold กสิกร มี 2 มาตรฐานแล้วเหรอ แล้วจะมาโฆษณาทำไม ถ้าทำไม่ได้ ว่าราคาอิงหรือ ใกล้เคียงตลาดโลก อีกทั้ง ต้องมีมารตฐานในการแก้ไขให้ลูกค้า เหมือนคุณซื้อของแล้วของไม่เหมือนที่คุณโฆษณาขายไว้ คุณจะขอคืนเงินไหม หรือ ให้เขาชดใช้ไหม แน่นอน คิดตรรกะง่ายๆ จากคุณ : Mr Thai Find เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 55 22:43:11

ความคิดเห็นที่ 32 อืม จริงๆผมว่า กสิกรพลาดเองแหละ เพราะคราวที่แล้วก็ไม่เห็นมี บลจ.ไหนเค้าชดเชยกัน ดันทำซ่าเด่นอยู่เจ้าเดียว พอคราวนี้เลยซวยซะ เหอะๆ จากคุณ : ^Sleepless Society^ เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 55 22:55:17

ความคิดเห็นที่ 33 มันไม่ใช่ว่าต้องมาชดใช้อะไร แต่การป้องกันเหตุการแบบนี้ กองทุนฯเหล่านี้คิดจะทำอย่างไร มีคนทำราคาตอนท้าย ตามในกระทู้นี้ http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/topic/I11539572/I11539572.html ด้วยวอลุ่มเท่านี้ สามารถทำให้ราคากองทุนฯในไทย กลายเป็นหมูได่ในทันที ลองคิดแบบในหนัง ให้คนที่อยู่เมืองไทยขาย แล้วกลุ่มนึงปั่นราคาที่นั่น เพราะมีช่องโหว่ในเงื่อนไขให้ยึดราคานั้น คราววันที่ 18 มีนาอาจลองของ เที่ยวนี้ทดสอบ หากยังไม่แก้ เที่ยวหน้าจัดการแบบทำทีเดียวไม่ผิดกฎหมายใดๆ แถมได้เงินใช้สบายไปเลย ส่วนนักลงทุนรายย่อย ก็มาสะสมเงินให้กองทุนไปโดนเค้าถลุงต่อไป 5555555 ใครจะสร้างหนัง ยกพล็อตเรื่องให้ไปเลย จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 55 06:44:30

ความคิดเห็นที่ 34 อันนี้พี่จุกดูให้  ความคิดเห็นที่ 8    มีการซื้อ-ขายกันจริงที่จะเห็นว่ามีผู้ที่ต้องการซื้ออีก 280 หุ้น (size 90 + 10 + 10 + 100 + 70)  ซึ่ง ณ ขณะนั้นคนขายปรับราคาขึ้นมาสูงที่ 165 – 166 เหรียญดอลลาร์สิงคโปร์  ลูกค้าต้องการปิด order ซื้อจึงยอมซื้อที่ราคา 165.99 เหรียญดอลลาร์สิงคโปร์ เมื่อดูจากจำนวนหุ้นที่ซื้อแล้ว ไม่ใช่ Order จากประเทศไทยแน่นอนครับ จากคุณ : pjuk   เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 55 12:59:19  ถูกใจ : office hours, PASSENGERS ON BOARD จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 55 06:50:49

ความคิดเห็นที่ 35 บอกตามตรง เคสนี้ ผมไม่แน่ใจว่าเป็นความผิดของ KBANK แต่อยากจะบอกว่า ถ้าไม่สบายใจ ก็ระบายออกมาครับ พอใจแล้ว ก็ถอนครับ  หาช่องทางอื่นในกับลงทุนในทองคำ เมื่อปลายปี 53 ผมก็เคยซื้อ K-Gold ผมมาขายตอนต้นปี 54 ตอน new high แต่ผมขาดทุน(นิดหน่อย) ผมก็ออกมาโพส บ่นๆ ด่าๆ K-Gold พอหอมปากหอมคอ สะใจแต่อารมณ์ สุดท้าย  ผมไม่เคยสนใจที่จะซื้อมันอีกเลย... จากคุณ : เขียนบน iPad3 (me-ci-tan) เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 55 08:23:19

ความคิดเห็นที่ 36 เป็นคนนึงที่ถือK-GOLDอยู่ค่ะ เลยไปลองอ่านหนังสือชี้ชวนดูก็เลยได้แต่ทำใจเพราะในหนังสือชี้ชวนมีบอกเรื่องความเสี่ยงของราคาอยู่ด้วยค่ะ ถ้าบลจ.เค้าไม่มาชดเชยก็คงไปว่าเค้าไม่ได้ จากคุณ : crystalmind เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 55 11:11:55

ความคิดเห็นที่ 37 ในวันนั้น ยังไงคนที่เล่นกองทุน มีคนซื้อมากกว่าขายแน่นอนครับ แปลแบบชาวบ้านๆเลยก็ """"""มีรายรับ มากกว่ารายจ่าย สรุปคือกำไรครับ"""""  การช่วยเหลือหากจะมีกันออกมาจริง คืออะไร    """"""""""การคืนกำไรบางส่วน ให้กับคนที่เสียรู้ในวันนั้น""""""""""""""" ส่วนตัวผมเข็ดจริงๆ คงไม่โทษอะไรKbank หรอกครับเพราะเป็นกันทุกเจ้า แค่อยากจะบอกว่า  หากคุณออกมาช่วยเหลือ มันดูสง่างามกว่า จะให้เข้าใจว่า       """""""คุณมันแค่พ่อค้าไร้จรรยาบรรณ""""""""" จากคุณ : shin anjo เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 55 11:21:29

ความคิดเห็นที่ 38 เคส 18 มีนาคม 2554 บลจ KBank กสิกร มาแก้ไขให้, คราวนี้ 30 ธันวาคม เคสเดียวกันทุกกรณี แต่ ไม่ยอมชดเชยให้แบบเดิม แปลว่า???? ความน่าเชื่อถืออยู่ที่ไหน????? ตอนนี้ K-Gold กสิกร มี 2 มาตรฐานแล้วเหรอ จากคุณ : Mr Thai Find เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 55 12:19:01

ความคิดเห็นที่ 39 เราเขียนเรื่องกองทุนปลาเค็ม พอเขียนต่อในบล๊อกแสดงความคิดเห็น ถูกลบกระทู้มา 3 รอบแล้ว ไม่ทราบใครเป็นคนลบ หรือว่า ที่เราเขียนน่ะ มันโดนอะไรใครรึเปล่า จากคุณ : ซำเม่า เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 55 12:35:28

ความคิดเห็นที่ 40 คราวนี้เรื่องกองทุนปลาเค็ม โดนลบทั้งกระทู้เลย จากคุณ : ซำเม่า เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 55 12:42:49

ความคิดเห็นที่ 41 เห็นด้วยกับคุณความเห็นที่37 อยากทราบว่าส่วนต่างหายไปไหน ถ้าคุณซื้อช่วงกลางวันราคาหนึ่ง แต่พอปิดตลาดราคคากระโดดขึ้น พอวันเปิดต่อมาราคากระโดดลง ได้ส่วนต่างเต็มๆ ส่วนต่างหายไปไหน ถึงบอกว่าลูกค้าไม่ได้รับความเป็นธรรม แม้คนที่ไม่ได้ซื้อกองทุนวันนั้นก็เถอะ รู้มั๊ยว่าเค้าทำอะไรกันอยู่ แก้ไขเมื่อ 06 ม.ค. 55 12:58:56 แก้ไขเมื่อ 06 ม.ค. 55 12:52:18 จากคุณ : ซำเม่า เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 55 12:51:31

ความคิดเห็นที่ 42 คุณความเห็นที่36 คะ ก็อยากให้ทางธนาคารออกมาแจงไงคะว่า วันนั้นส่งคำสั่งซื้อขายไปที่ราคาเท่าไหร่ คงไม่ใช่ไปซื้อขายที่ราคาปิดทั้งหมดแน่ๆ เหมือนเราซื้อหุ้น ใน1วันราคาจะมีการเปลี่ยนแปลง ถ้าท้ายตลาดแพงมากเราไม่ซื้อก็ได้ ธนาคารควรมีความโปร่งใสค่ะ และราคาNVA ควรเป็นราคาที่คุณซื้อขายในวันนั้นโดยเฉลี่ย ไม่ใช่ราคาปิด จากคุณ : ซำเม่า เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 55 13:03:58

ความคิดเห็นที่ 43 โอ เค ค่ะ แม้จะได้รับผลกระทบจากกองทุน Kgold แต่ลุกค้าไม่มีสิทธิ์แสดงความคิดเห็น เข้าใจแล้วค่ะ จะรอดูนะคะว่า ทางKbank หรือ bankอื่น ที่ลูกค้าได้รับผลกระืทบ จะออกมารับผิดชอบอย่างไร จากคุณ : ซำเม่า เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 55 13:15:01

ความคิดเห็นที่ 44 โดนเหมือนกัน ว่าดูราคาดีแล้วเชียว แต่กลายเป็นซื้อแพงแบบไม่รู้ตัว เล่นเอามึนไปเลย จากคุณ : dzire เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 55 02:09:26

ความคิดเห็นที่ 45 เอ่อ  อ่านแล้วขอสงสัย 1. ไอ้ 280 หุ้นสุดท้าย ที่คำสั่งซื้อ ราคาถีบตัวขึ้นไปในตลาดสิงค์โปรเนี่ย  มันไม่น่าจะใช่มูลค่าทั้งหมดของเงินของนักลงทุนในประเทศไทยที่ทำคำสั่งซื้อกองทุนทองคำใช่หรือไม่ครับ  แสดงว่าราคาที่ซื้อไม่น่าจะใช่ราคาปิดทั้งหมด 2. ในวันที่ 30 ธ.ค. 54 น่าจะมีคำสั่งซื้อมากกว่าคำสั่งขาย สำหรับกองทุนทองคำในเมืองไทยใช่ไหมครับ 3. ถ้าเป็นดัง 2 ข้อข้างต้น แสดงว่า ราคา nav วันที่ 30 ธ.ค. 54 ที่เป็นราคาปิด ก็ไม่ได้สะท้อนต้นทุนที่แท้จริงของกองทุนทองคำในประเทศไทยใช่ไหมครับ และถ้าสมมติฐานเป็นจริงที่ว่าจำนวนผู้ซื้อมากกว่าผู้ขายมาก นั่นจะทำให้  ต้นทุนที่แท้จริงควรต่ำกว่านี้ใช่ไหมครับ  ส่วนต่าง ของต้นทุนที่แท้จริง กับ ต้นทุนจากราคาปิด  จะเป็นเท่าไหร่ และไปอยู่ที่ไหน เป็นผลกำไรของใคร (ถ้าไม่ใช่ผู้ลงทุน) อยากให้มีคำอธิบายให้ชัดเจนสักนิดครับ  จะได้ไม่รู้สึกว่า กองทุนทองคำในประเทศไทย อาศัยโอกาสดังกล่าวทำเนียนครับ จากคุณ : morst เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 55 03:41:17

ความคิดเห็นที่ 46 เท่าที่รู้จาก pjuk กองทุนไทยไม่ได้ซื้อที่ราคานั้น เป็นการซื้อก่อนราคาสุดท้าย ดั้งนั้นกองทุนทองคำในไทยจึงซื้อขายที่ราคาปกติก่อนปิดตลาด ซึ่งเป็ราคาปกติ  ราคาปิดจึงเป็นราคาตามกฎของสมาคมที่เราใช้คำนวณ nav เท่านั้น กองทุนและบริษัทไม่ได้อะไรจากราคาปิดสิ้นวันนั้นเลย เหมือนกับคุณซื้อทองแท่งมาเก็บที่บ้านแล้วราคาสมาคมทองคำประกาศขึ้นในวันรุ่งขึ้น คุณไม่ได้ไปขายมัน คุณก็ไม่ได้อะไรจากราคาที่ขึ้น แต่คุณแค่จะรู้สึกดีใจว่าคุณได้กำไรที่เป็นตัวเลขที่บวกอยู่ในใจ  กำไรจะเกิดถ้าคุณเดินไปขายในวันนั้น แบบนี้แหละครับ เหมือนกองทุนหุ้นแหละครับเขาก็ใช้ราคาปิดในตลาดหุ้นในการคำนวณ nav แบบเดียวกัน ราคาหุ้นท้ายตลาดก็มีคำสั่งจับคู่ทีเป็นแบบนี้บ้างเหมือนกัน แต่เผอิญกองทุนหุ้นลงหุ้นประมาณ 30-40ตัว จึงไม่เห็นชัดเจน กองทองคำดันไปลงspdr ตัวเดียวครับ จากคุณ : Fun_Manager เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 55 06:06:06

ความคิดเห็นที่ 47 แบบนี้เห็นจะแย่้   หรือว่าเราต้องซื้อทองแท่ง ยังโดนเลย ไปช่องทางไหนดี เฮ้อ เม่าอย่างเรา ความสะเพร่า ดูราคาก่อนซื้อแท่งตั่งอั่วเซง วันที่ซื้อ มัน 23700 แต่ไปซื้อบนตึกชั้น 4 ราคาขายมัน 23750 ก็คิดว่าณ เวลานั้นมันคงเด้งขึ้นไป +50 กลับลงมา ดูหน้าร้านทำไมมัน 23700 ว่ะ ตรูตาฝาดหรือเปล่า ขึ้นกลับไปถาม ได้คำตอบแบบ  หน้าร้านคงเปลี่ยนไม่ทัน ถ้าขายก็ขาดทุนทันที ได้แต่ใบมา รับทองก็อีก 2 weeks  เข้าไปถามหน้าร้านให้หายสงสัย ก็บอกราคาตอนนี้ 23700 แล้ว +50 มันมาได้อย่างไร จะกลับขึ้นไปก็หมดเวลา เซ็งจริงๆ  ไม่ซื้อที่นี่อีกแล้ว  ทำการค้าไม่ตรงไป ตรงมา ไม่ซื่อสัตย์ เกลียดจริงๆ ส่วน k.gold ผมซื้อสะสมทรัพย์ นิดหน่อย ผมคิดว่าดีกว่าฝากประจำ ซื้อเก็บไปเรื่อย ไม่ขายไม่ขาดทุน แต่ถ้าราคามันเด้งขนาดนี้ 10%  มันแรงเกินไป พอจะบอกได้ผมได้ไหม มันอิงตลาดโลกตรงไหน? จากคุณ : CPOST เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 55 11:12:47

ความคิดเห็นที่ 48 คนที่ได้ส่วนต่างไปไม่ใช่บลจ.ครับ ผมเข้าใจว่าคนที่ได้ส่วนต่างไปคือผู้ลงทุนทุกคนในกองทุนนั้น ประเด็นนี้จึงยากว่าจะไปดึงเงินกลับมาจากผู้ลงทุนคนอื่นๆได้อย่างไร คงทำไม่ได้ เพราะฉะนั้นก็เลยกลายเป็นบลจ.คงต้องรับกรรมไป ในความเห็นผมบลจ.ต้องร่วมรับผิดชอบด้วย มากน้อยเท่าไหร่ก็แล้วแต่ เพื่อดึงความเชื่อมั่นกลับมา แต่ถ้าไม่ ก็แล้วแต่ เพราะผู้ลงทุนคงตัดสินใจ ได้เองว่าควรลงทุนกงอทุนทองลักษณะแบบนี้ต่อไปหรือไม่ ในเอตลาดมันไม่ efficiency แบบนี้ ส่วนตัวไม่เคยลงทุนกับกองทุนทองใดๆเลย แม้แต่ทองจริงก็ไม่ชอบ ยิ่งได้ยินเรื่องราวแบบนี้แทบจะปิดประตูคามสนใจกองทุนทองไปเลย จากคุณ : Tamจัง เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 55 12:27:53

ความคิดเห็นที่ 49 อืม คนที่ได้ส่วนต่างไปไม่ใช่บลจ.ครับ ผมเข้าใจว่าคนที่ได้ส่วนต่างไปคือผู้ลงทุนทุกคนในกองทุนนั้น ไม่ใช่ตามที่คิดครับ คนที่ได้คือคนที่ขายในวันนั้นครับ ที่จะได้ค่าNAVตามวันนั้น เหมือนกับคนที่ซื้อก็จะได้ค่าNAVตรงนั้นเหมือนกัน แต่คนที่ขายวันนั้นไม่น่าจะมีมากครับ เพราะราคาทองลงมาอยู่ นอกจากคนที่ถือมานานมากก่อนที่ราคาจะพุ่งเกิน 1500ดอลล์ ไม่งั้นคนขายก็น่าจะขายขาดทุนซึ่งมีน้อยรายมากสำหรับคนที่ลงทุนในกองทุนทองคำ เพราะส่วนมากจะถือว่าไม่กำไรไม่ขาย ยอมถือยาวกันทั้งนั้น ส่วนคนที่ถือไว้ พอถึงวันที่เปิด ราคาก็กลับมาที่ใกล้เคียงกับวันที่ 29 แต่บวกมากกว่า 29 หน่อยเพราะทองกลับมาขาขึ้น ส่วนต่างวันนั้นจึงถือว่าใครที่ซื้อได้ ได้ราคาที่สุดแสนจะพิศดารจริงๆ นานๆทีมีหน  แต่จากนี้ไป อาจจะถี่ขึ้นหรือนานๆทีก็ได้นะถ้าไม่มีการทำอะไร เคยอ่านไหมเรื่องที่ทองแท่งยัดไส้ทังสเตน จีนตอกเสียหน้าหงายเลย พวกต่างชาติที่ขี้โกงมีเยอะ ลองอ่านนี่ดูครับ http://www.gold-prices.biz/home/2011/6/2/the-us-has-no-gold.html จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 55 12:08:22

ความคิดเห็นที่ 50 ทาง บลจ กองทุน K8888 น่าจะแบออกมาเลยดีกว่า ว่าวันนั้น ยอดซื้อ ยอดขาย ของกอง K-Gold มีอย่างละเท่าไหร่ จะได้หมดข้อกังขาไปเลย ว่าทาง กองทุนไม่ได้กินส่วนต่างที่เหลือ ถ้าคุณบริสุทธิ์ใจจริง จากคุณ : sonique เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 55 22:05:16

ความคิดเห็นที่ 51 http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/topic/I11557951/I11557951.html ดูอันนี้ความเห็นที่ 22 และ 23 มีคำตอบครับ จากคุณ : Fun_Manager เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 55 17:54:46

ความคิดเห็นที่ 52 ปัญหาของวันที่ 30 ที่สิงคโปร์ มันผิดปกติครับ  ถ้าเป็นศพก็ถือว่า "ตายผิดธรรมชาติ" ซึ่งต้องได้รับการชัณสูตรพลิกศพ และ ชดเชยให้ ญาติ ใช่เลยคำนี้!!!!! บลจ KBank ทำไมทำงาน 2 มาตรฐาน 18 มีนา.ชดเชยให้ กรณี 30 ธค. ทำเงียบ ไม่เป็นไปตามโฆษณาไว้ก็ต้องรับผิดชอบ ชดเชย แก้ไขให้............... จากคุณ : Mr Thai Find เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 55 07:38:44

ความคิดเห็นที่ 53 อย่าปล่อยให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีกเลยค่ะ ผิดครั้งแรกพอให้อภัย แต่ผิดซ้ำสอง บลจ. ไม่ควรได้รับการอภัย ช่วยกันส่งเรื่องร้องเรียนไป กลต. กันเถอะค่ะ ถ้าไม่อยากให้มีครั้งที่ 3 4 5 จากคุณ : yoongying เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 55 09:23:52

ความคิดเห็นที่ 54 ลองหาอ่าน รายงานของกองทุนรวม งบดุล งบกำไรขาดทุนดูว่ากองไหน บลจ. ไหน มีค่าธรรมเนียมที่ บลจ. เรียกเก็บจากกองทุนไม่แพงเกินไป จากคุณ : Spetsnaz เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 55 13:06:31

ความคิดเห็นที่ 55 เข้ามาเก็บ จากคุณ : Leslie_Devil เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 55 14:30:27

ความคิดเห็นที่ 56 ก็ยังไม่เห็นมีใครมาชี้แจงเพิ่มเติมเลย จะชดเชยหรือไม่ก็ว่ามาตรงๆพร้อมเหตุผลแบบเนื้อๆ น้ำๆไม่ต้อง เพราะผมซึ่งเป็นหนึ่งในผู้เสียหายก็ทำใจได้ แต่อยากขอคำอธิบายที่ชัดเจน เพราะมันเป็นเหตุการณ์ที่ไม่ปกติ แล้วต่อไปจะป้องกันยังไง มันจะมีอีกหรือไม่ ขอแค่นั้นแหละครับ ปล.ผมกลัวว่าตอนที่ผมสั่งขายไอ้กองนี้แล้วจะโดนกดราคาอีก 10% เหมือนที่มันขึ้นมาคราวนี้ อย่างนี้ยิ่งทำใจลำบากขึ้นนะครับ จากคุณ : เด็กผี2522 เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 55 17:06:15

ความคิดเห็นที่ 57 บลจ KBank ทำไมทำงาน 2 มาตรฐาน 18 มีนา.ชดเชยให้ กรณี 30 ธค. ทำเงียบกรณีเดียวกันชัดๆ ไม่เป็นไปตามโฆษณาไว้ก็ต้องรับผิดชอบ ชดเชย แก้ไขให้............... อย่างนี้จะเชื่อใจบลจ กสิกร K-Gold ได้หรือต่อจากนี้ จากคุณ : Mr Thai Find เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 55 00:21:13

ความคิดเห็นที่ 58 จริงๆเรื่องชดเชยหรือไม่ผมก็ไม่ได้จะว่าอะไรหรอกครับ  เพราะทำใจแล้ว แต่อยากจะให้ออกประกาศออกมาเลยว่าจะชดเชยหรือไม่ก็แค่นั้น อย่าทำเงียบแบบนี้ หรือถ้าผลประชุมสรุปยังไม่ออก ก็แค่บอกว่าจะรู้เรื่องเมื่อไหร่ก็แค่นั้น ผมแค่ต้องการความชัดเจนครับ.. จากคุณ : เด็กผี2522 เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 55 13:38:37

ความคิดเห็นที่ 59 Excerpted some from the link below:- http://www.kasikornasset.com/TH/MarketUpdate/Pages/K-Gold_Conversation.aspx ญาญ่า โอเคๆ เข้าใจหล่ะ ว่าแต่เราจะสามารถป้องกันเหตุการณ์แบบนี้อีกได้ไหม ณเดชน์ ถ้าในแง่ของโอกาสที่จะเกิดขึ้นได้อีกไหม เราก็คงบอกว่า มีโอกาสเกิดขึ้นได้ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้น มันเป็นไปตามกลไกตลาดที่มีการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ แล้วมันก็เป็นความเสี่ยงโดยทั่วไปของกองทุน ETF ตามที่ระบุไว้ในหนังสือชี้ชวนด้วยว่า มันมีโอกาสที่ราคาซื้อขายในตลาดกับราคาหน่วยลงทุน SPDR GOLD TRUST มันจะแตกต่างกัน โดยเฉพาะปริมาณซื้อขายกองทุน SPDR GOLD TRUST ในตลาดสิงคโปร์ มันอาจจะไม่มากนักเมื่อเทียบกับตลาดสหรัฐฯ ก็มีโอกาสที่จะมีผลแตกต่างระหว่างราคา กับ NAV มากกว่าที่ตลาดสหรัฐฯ <----- แล้ว เคยแจ้งเอาไว้ครบถ้วนไหม ------> โฆษณาแล้วทำไม่ได้ ถึงจะมีหมายเหตุไว้ bla bla bla ก็ควรต้องรับผิดชอบ คราวก่อน ดำเนินการชดเชยให้ แล้ว คราวนี้หละ !!!!!!! แก้ไขเมื่อ 13 ม.ค. 55 16:06:17 จากคุณ : Mr Thai Find เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 55 16:05:18

ความคิดเห็นที่ 60 ณเดชน์ เราก็รับรู้ถึงปัญหาที่เกิดขึ้นนะ เราได้ยินมาว่า บลจ.ต่างๆกำลังจะประชุมร่วมกันกับ กลต. เพื่อพิจารณาว่าในกรณีที่เกิดปัญหาดังกล่าวขึ้นอีกในอนาคต จะมีแนวทางอย่างไร เพื่อจะได้เป็นมาตรฐานเดียวกันทุก บลจ. ญาญ่า แล้วตอนนี้ที่เราซื้อไปน่ะ มันก็แพงไปแล้ว เราควรจะทำอย่างไรดีหล่ะ ณเดชน์ จริงอยู่ที่ระดับราคาที่ญาญ่าซื้อ อาจจะแพงกว่าวันก่อนหน้าไปเยอะ แต่ถ้าดูในแง่ระยะยาวแล้วโดยส่วนตัวคิดว่า ราคาทองคำก็ยังมีแนวโน้มที่จะไปต่อได้นะ เนื่องจากปัจจัยหลักที่สำคัญที่ผลักดันราคาทองคำคือ ความกังวลในปัญหาเศรษฐกิจ เพราะทองคำมักจะจัดเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย เวลาที่เกิดเหตุการณ์ความไม่แน่นอนในภาวะเศรษฐกิจ อย่างที่เห็นตอนนี้ เศรษฐกิจสหรัฐฯอาจจะเริ่มดูดีขึ้น แต่ก็ยังมีปัจจัยเสี่ยงมากมาย ในขณะที่ทางยุโรปเอง เศรษฐกิจน่าจะยังคงอยู่ในภาวะถดถอยอีกพักใหญ่ๆเลย แล้วตอนนี้ ในกลุ่มของทางตะวันออกกลาง ก็เริ่มมีความกังวลจากการที่อิหร่านทดลองอาวุธนิวเคลียร์ แล้วก็จะตอบโต้ชาติตะวันตกที่จะคว่ำบาตรด้วย นี่ก็เป็นปัจจัยหลักๆที่ทำให้ทองในช่วงต้นปีนี้ปรับตัวดีขึ้นล่ะ เราเชื่อว่า ระยะยาว ปัจจัยเหล่านี้ยังคงสนับสนุนราคาทองคำได้ต่อไปนะ แต่ระยะสั้น ก็คงจะผันผวนไปบ้าง ดังนั้น ถ้าราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวลงมา เราว่าญาญ่าอาจจะหาโอกาสทยอยลงทุนเพิ่ม เพื่อเฉลี่ยต้นทุนลงไปได้ด้วยนะ <------- จะอธิบายมาทำไม ------->  ว่าราคามันจะดีขึ้นเรื่อยๆๆๆๆๆๆๆๆ สิทธ์ของเราควรได้ราคาอิงหรือใกล้เคียงตลาดโลก ณ วันนั้น ตอนนี้มันก็เป็นผลกำไรของเราแล้ว และ ดีขึ้นเรื่อยๆๆๆๆ ก็ควรจะ ontop จากราคา ณ วันนั้น จากคุณ : Mr Thai Find เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 55 16:08:36

ความคิดเห็นที่ 61 บลจ.กสิกรไทย เปิดตัวแผนปี 2555 ภายใต้การนำทัพของ “อำพล โพธิ์โลหะกุล” ตั้งเป้า 3 ธุรกิจกองทุนโต 22% พร้อมตอบโจทย์ลูกค้าแบบตรงใจในคอนเซปท์ “กองทุนสำหรับคนคิดบวก” http://www.thaipr.net/finance/382509 จากคุณ : Spetsnaz เขียนเมื่อ : 28 ม.ค. 55 18:10:07