Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ออมไว้ในหุ้น; นรินทร์ โอฬารกิจอนันต์ ติดต่อทีมงาน

(ผมเห็นว่าเป็นบทความที่ดีมาก ที่ชี้ให้เราเห็นว่าการลงทุนในหุ้น หากลงทุนยิ่งยาวเท่าใด ความเสี่ยงที่จะขาดทุนจะยิ่งลดลงไปเท่านั้น  และผลตอบแทนที่ได้จะเพิ่มสูงมากตามไปค้วยครับ จึงนำมาเผยแพร่ให้ผู้ที่อยากลงทุนในหุ้น มีกำลังใจที่จะลงทุนหุ้นระยะยาวนะครับ)

Posted by admin in Investment on ส.ค. 15th, 2009

ข้อแนะนำของนักการเงินที่ขัดแย้งกับความรู้สึกของคนทั่วไปมากที่สุดเห็นจะได้แก่ข้อแนะนำที่บอกว่า วิธีออมเงินเพื่อวัยเกษียณที่ดีที่สุดคือการออมไว้ในตลาดหุ้น แต่คนทั่วไปมักมีความรู้สึกว่า ตลาดหุ้นมีความเสี่ยงสูง เงินสำหรับไว้ใช้จ่ายในยามแก่เฒ่า น่าจะเก็บไว้ในที่ซึ่งปลอดภัย อาทิเช่น เงินฝากธนาคาร พันธบัตรรัฐบาล หรือตราสารหนี้ มากกว่า

สาเหตุที่นักการเงินแนะนำเช่นนี้ เป็นเพราะแม้ว่าหุ้นจะมีความเสี่ยงมากกว่าเงินฝาก หรือตราสารหนี้มาก อาทิเช่น ในระยะเวลาไม่ถึง 1 ปี หุ้นอาจทำให้คุณขาดทุนได้มากถึง 30-40 เปอร์เซ็นต์ หรือมากกว่านั้นอีก ในขณะที่ตราสารหนี้จะให้ผลตอบแทนที่ค่อนข้างแน่นอน อาทิเช่น 3-5 เปอร์เซ็นต์ เป็นต้น แต่ก็เพราะหุ้นมีความเสี่ยงสูงกว่านี่แหละที่ทำให้ในระยะยาวแล้ว หุ้นจะต้องให้ผลตอบแทนที่สูงกว่า เพราะชดเชยความเสี่ยงที่สูงกว่านั่นเอง

การออมเงินเพื่อเกษียณเป็นการออมที่มีระยะเวลาออมที่นานมาก ดังนั้น มันจึงเหมาะกับการออมไว้ในหุ้นมากที่สุด

เราพบว่า การออมเงินไว้ในหุ้นนั้น ยิ่งมีระยะเวลาออมนานเท่าไร ผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีจะยิ่งมีความผันผวนน้อยลง และมีค่าเป็นบวกด้วย ที่สำคัญ มันสูงกว่าการออมไว้ในหลักทรัพย์ชนิดอื่นๆ ทั้งหมดแบบเทียบกันไม่ได้ แต่คำว่าระยะยาวที่ว่านี้ จะต้องยาวเกิน 15 ปีขึ้นไปนะครับ

มีหลายคนระแวงสงสัยว่า การออมเงินไว้เฉยๆ ในตลาดหุ้นนานๆ จะดีจริงหรือ หลายคนมีความเชื่อว่า ตลาดหุ้นไทยถือยาวไม่ได้ เพราะอย่างเมื่อปีที่แล้ว ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ที่อยู่แถวๆ 900 จุด ก็เพิ่งจะร่วงลงมาอย่างแรงจนเหลือเพียงแค่ 380 จุดเท่านั้น แล้วอย่างนี้การออมเงินเกษียณด้วยการซื้อหุ้นทิ้งไว้เฉยๆ โดยไม่มีการขายออกมาเลยจนกว่าจะใกล้เกษียณ จะเป็นวิธีการที่ดีจริงหรือ

เกี่ยวกับเรื่องนี้ ผมมีหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่า การออมเงินไว้ในตลาดหุ้นไทยเป็นเวลานานมากๆ โดยไม่มีการซื้อๆ ขายๆ ระหว่างทาง สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีได้จริงๆ เพราะบ้านเรามีกองทุนรวมชนิดหนึ่งที่เรียกว่า กองทุนรวมหุ้นที่เลียนแบบดัชนี (Index Fund) อยู่ กองทุนประเภทนี้มีนโยบายการลงทุนง่ายๆ ด้วยการกระจายเงินลงทุนทั้งหมดไว้ในหุ้นทุกตัวที่เป็นองค์ประกอบของดัชนีหุ้น เพื่อให้มูลค่าหน่วยลงทุนของกองทุนเปลี่ยนแปลงไปตามดัชนีตลาดหุ้นที่เปลี่ยนไปด้วย กองทุนรวมทหารไทย SET50 ของ บลจ.ทหารไทย ลงทุนในหุ้น 50 ตัวที่เป็นองค์ประกอบของดัชนี SET50 กองทุนนี้จัดตั้งขึ้นมานานแล้วพอสมควร คือ ตั้งแต่ปี 2544 เราจึงสามารถศึกษาอะไรจากผลการดำเนินงานของกองทุนนี้ได้ ปรากฏว่า ผลการดำเนินงานของกองทุนนี้เมื่อเร็วๆ นี้เป็นดังนี้ครับ

ผลการดำเนินงาน คำนวณ ณ วันที่ 17 เมษายน 2552

ระยะเวลา       ผลตอบแทน

ย้อนหลัง 1 ปี     -45.01%

ย้อนหลัง 3 ปี     -31.17%

ตั้งแต่จัดตั้ง (23/3/44  รวม 8 ปี)  =   123.68%

( ทหารไทย SET50 จัดตั้งเมื่อวันที่  29/03/44
ผลประกอบการนับตั้งแต่เริ่มตั้งกองทุนถึง 05/01/55 รวม 12 ปี  =  459.44%
หากคิดต่อปี  38.28%ไต่อปี ซึ่งนับว่าสูงมากนะครับ )


ช่วงเดือนเมษายน 2552 เป็นช่วงที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยกำลังย่ำแย่เต็มที่เพราะปัญหาซับไพร์ม จะเห็นได้ว่าผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปีของกองทุนนี้ ติดลบมากถึง 45 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งก็พอๆ กับความเลวร้ายของตลาดหุ้นไทยในเวลานั้นเลยทีเดียว หรือถ้าคิดให้เป็นผลตอบแทนย้อนหลัง 3 ปี ผลตอบแทนก็ยังคงแย่อยู่ดี เพราะยังติดลบมากถึง 31 เปอร์เซ็นต์ แต่ถ้าหากดูผลตอบแทนตั้งแต่เริ่มจัดตั้งกองทุนเลย คือ เมื่อ 8 ปีที่แล้วมาจนถึงปัจจุบันนี้ จะพบว่ากองทุนยังให้ผลตอบแทนที่สูงถึง 123.68 เปอร์เซ็นต์ เลยทีเดียว ซึ่งสูงกว่าการลงทุนในตราสารหนี้รูปแบบอื่นใดในช่วงเวลาเดียวกันอย่างแน่นอน ทั้งที่เราวัดผลหลังจากที่เพิ่งเจอวิกฤติไปหมาดๆ

ดังนั้น ถึงแม้ว่าตลาดหุ้นบ้านเราจะเป็นตลาดหุ้นที่ผันผวนมาก แต่ถ้าระยะเวลาที่ออมเป็นช่วงเวลาที่ยาวมากจริงๆ การออมไว้ในหุ้นจึงยังคงเป็นทางเลือกที่ให้ผลตอบแทนมากที่สุดอยู่ดี

เคล็ดลับที่สำคัญของการออมเงินเกษียณไว้ในหุ้น คือ ต้องเป็นการออมแบบซื้อสะสมไปเรื่อยๆ ไม่ใช่การซื้อๆ ขายๆ เพื่อทำกำไรส่วนต่างไปตลอดทาง เราอาจคิดว่า การซื้อๆ ขายๆ ไปด้วย จะทำให้ได้ผลตอบแทนดีขึ้นอีก แต่ที่จริงแล้ว คนส่วนใหญ่เจ๊งหุ้นก็เพราะซื้อๆ ขายๆ บ่อยๆ นี่แหละ

ในระยะยาวมากๆ ผลตอบแทนของหุ้นจะวิ่งเข้าหาอัตราการเติบโตของกำไรสุทธิของบริษัทที่เราลงทุนเองโดยอัตโนมัติ แต่ถ้าเราไปซื้อๆ ขายๆ ระหว่างทางเพื่อหวังทำกำไรระยะสั้น เราอาจซื้อขายผิดจังหวะ ทำให้ผลตอบแทนมีความไม่แน่นอน อาทิเช่น พอดัชนีหุ้นหล่นจาก 900 จุด มาเหลือแค่ 700 จุด เราไม่ยอมขาย แต่พอมันร่วงลงต่อไปอีกจนเหลือเพียงแค่ 380 จุด คราวนี้เรากลับถอดใจ เทขายออกมา เพราะกลัวว่ามันจะลงต่อไปอีกเหลือแค่ 200 จุด พอเราขายทิ้งเสร็จ ตลาดหุ้นก็ขึ้นพอดี จากที่ขาดทุนแค่ชั่วคราว ก็เลยกลายเป็นขาดทุนถาวรไป เป็นต้น

เรื่องสำคัญอีกประการหนึ่งของการออมเงินเกษียณไว้ในหุ้น คือ พอร์ตที่ลงทุนจะต้องมีการกระจายความเสี่ยงที่มากพอด้วย เพราะถ้าหากเราออมเงินได้นานจริง แต่เราลงทุนไว้ในหุ้นแค่ตัวเดียว แล้วบังเอิญหุ้นตัวนั้นเป็นหุ้นของบริษัทที่มีผลประกอบการที่ล้มเหลวในระยะยาว เงินลงทุนของเราก็คงหายไปหมด

ที่จริงแล้ว วิธีที่ดีที่สุดในการออมเงินเพื่อเกษียณ คือ การออมด้วยการซื้อกองทุนรวมที่เลียนแบบดัชนี เพราะตราบใดที่ประเทศไทยยังอยู่ โอกาสที่หุ้นส่วนใหญ่ที่เป็นส่วนประกอบของดัชนีตลาดหุ้นไทย จะล้มหายตายจากไปพร้อมๆ กันนั้น แทบจะไม่มีเลย

นอกจากนี้ คุณต้องมีเวลาเหลือที่จะออมก่อนถึงวัยเกษียณไม่ต่ำกว่า 15 ปีด้วย ถึงจะสามารถออมไว้ในหุ้น เพื่อสร้างผลตอบแทนที่เหนือกว่าแต่มีความแน่นอนสูงได้ครับ

โดยคุณ นรินทร์ โอฬารกิจอนันต์
จากเว็ป http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/Ipost.php?

Link กองทุนทหารไทย
http://www.tmbam.com/v2/th/pricesPerformances02.php?accept=1

แก้ไขเมื่อ 07 ม.ค. 55 23:22:50

แก้ไขเมื่อ 07 ม.ค. 55 23:20:38

แก้ไขเมื่อ 06 ม.ค. 55 08:46:16

จากคุณ : Wild Rabbit
เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 55 23:00:05




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com