ความคิดเห็นที่ 1 Krungsri เขาว่า   http://www.krungsriasset.com/AYFUpdateDetail.aspx?id=2739&lang=T แต่พอ INTUCH ขาย ADVANC ให้ S'pore กลับขายในราคาต่ำกว่ากระดาน  พอเราซื้อกองทุนทองที่อิงราคา S'pore เรากลับจ่ายแพงกว่า แก้ไขเมื่อ 07 ม.ค. 55 23:49:46 จากคุณ : polymerman เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 55 23:48:30

ความคิดเห็นที่ 2 กรุงศรีโกลด์ (KF-GOLD)     ชื่อเดิม: กองทุนเปิดอยุธยาโกลด์ (AYFGOLD) ข้อมูล ณ วันที่ 30 ธ.ค. 2554 Download หนังสือชี้ชวนส่วนสรุปข้อมูลสำคัญ (สำหรับรอบระยะเวลาบัญชี ปีที่ 3 สิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค. 2555)   สรุปสาระสำึคัญของกองทุน   รายงานประจำครึ่งปีแรก   รายงานประจำปี   ตารางแสดงวันหยุดของ KF-GOLD   ประเภทของกองทุน กองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศและกองทุนรวมทองคำแบบทั่วไป (Simple Gold Fund) และเป็นกองทุนรวมหน่วยลงทุนที่ลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งหน่วยลงทุนของกองทุนรวมเพียงกองทุนเดียว (Feeder Fund) สำหรับผู้ลงทุนทั่วไป (retail fund) และรับซื้อคืนหน่วยลงทุน จุดประสงค์การลงทุน เพื่อระดมทุนจากผู้ลงทุนทั่วไปและนำเงินไปลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศเพื่อโอกาสได้รับผลตอบแทนเทียบเคียงกับการลงทุนในทองคำ นโยบายการลงทุน กองทุนจะลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศ ชื่อ SPDR Gold Trust (http://www.spdrgoldshares.com) ซึ่งมีนโยบายที่มุ่งเน้นลงทุนในทองคำแท่ง เพื่อสร้างผลตอบแทนของกองทุนหลังหักค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการจัดการทั้งหมดของกองทุนให้ไกล้เคียงกับผลตอบแทนของราคาทองคำ (http://www.spdrgoldshares.com/sites/sg/charts) นโยบายเงินปันผล ไม่มีการจ่ายเงินปันผล วันจดทะเบียนกองทุน 17 มีนาคม 2552 ชื่อผู้จัดการกองทุน สุภาพร ลีนะบรรจง, วิพุธ เอื้ออานันท์, ฑลิต โชคทิพย์พัฒนา, ปวีณ นพคุณทอง, สาวิณี สุขศรีวงศ์, จาตุรันต์ สอนไว กราฟแสดงมูลค่าหน่วยลงทุน มูลค่าหน่วยลงทุน (NAV) ต่อหน่วย รายละเอียดการซื้อขาย การซื้อขั้นต่ำ (บาท) 2,000 การขายคืนขั้นต่ำ (หน่วย) 2,000 บาท หรือ 200 หน่วย การชำระเงินค่าขายคืนหน่วยลงทุน ภายในวันทำการที่ 3 ถัดจากวันที่คำนวณราคากองทุน การเสนอขายหน่วยลงทุนภายหลังการเสนอขายครั้งแรก ทุกวันทำการภายใน 15.30 น. (สามารถสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนเข้าจาก KFCASH, KFCASHPLUS, KFCASH2, KFMONEY และ KFSPLUS เท่านั้น) *ทำรายการได้เฉพาะวันทำการของกองทุน เท่านั้น การรับซื้อคืนหน่วยลงทุน ทุกวันทำการภายใน 13.00 น. (ในกรณีสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนออก ต้องทำภายใน 13.00 น.) *ทำรายการได้เฉพาะวันทำการของกองทุน เท่านั้น ช่องทางการทำรายการ บลจ.กรุงศรี,Online Service,ATM,ตัวแทนสนับสนุนการขาย การกระจายการลงทุน (ณ วันที่ 30 ธ.ค. 2554) เงินฝาก หรือตราสารหนี้ที่สถาบันการเงินเป็นผู้ออก 0.00% SPDR Gold Trust 99.92% ทรัพย์สินอื่น 5.35% หนี้สินอื่น -5.27% ระดับความเสี่ยง - --> ดูภาพขนาดจริง จากคุณ : vi.member เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 55 00:18:11

ความคิดเห็นที่ 3 ผู้จัดการกองทุนโปรดไปอ่านหนังสือชี้ชวนฉบับยาวหน้า46 โดยเฉพาะข้อ(ฌ) คุณไม่เพียงไม่ทำหน้าที่ตามที่คุณเขียนไว้ คุณกับทำเหมือนพวกเราที่เดือดร้อนนี่ "มาร้องเรียกทำไม พวกคุณต้องยอมรับที่ราคปิดสิ" น่าเห็นใจคุณK8888เค้าให้มาพูดยังไงก็พูดตามนั้น ให้ผู้ดูแลกองทุนมาช่วยคุณตอบบ้างจะดีกว่าค่ะ จากคุณ : ซำเม่า เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 55 00:18:43

ความคิดเห็นที่ 4 ผู้เสียประโยชน์ = ผู้ที่ซื้อวันที่ 30 ผู้ได้ประโยชน์ = ผู้ที่ขายวันที่ 30 ผู้ที่อยู่เฉย ๆ ในวันที่ 30 ไม่ได้ทำรายการอะไร ก็ไม่มีความเสียหายเกิดขึ้นคับ จากคุณ : corner_newc เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 55 00:25:29

ความคิดเห็นที่ 5 ไม่จบ จากคุณ : บางแสน คลาสสิค เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 55 00:31:55

ความคิดเห็นที่ 6 มานั่งรอดู อย่าให้เรื่องเงียบไป เหมือนกรณี อื่นๆ ถ้าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ก็ให้รู้ไว้ว่า คราวหน้า อย่าโวย หรือเรียกร้องอะไร ผมเอาใจช่วยครับ จากคุณ : phon77 เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 55 00:46:49

ความคิดเห็นที่ 7 เงียบกริบ ผมฟันธง ยังดีที่ได้บ่นให้สบายใจขึ้นอีกนิด จากคุณ : กุ้งเต้นชามะนาว เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 55 01:08:22

ความคิดเห็นที่ 8 ผมก็โดนไป 1 พันบาท ดูวันที่ 29 กับ 30  เงิน 1000 บาทเท่ากัน แต่จำนวนต่างกันประมาณ 10 หน่วย  เหมือนวันนั้นซื้อ 1 พัน แ่ต่พอเทียบกับวันที่ 29 เหมือนขาดทุนทันที 100 บาท จากคุณ : polymerman เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 55 01:59:58

ความคิดเห็นที่ 9 เอาจริงๆ ผมคิดว่าการกระทำครั้งนี้ คล้ายๆ โต๊ะบอล อ่ัะคับ ต้องมีเจ้ามือมาปั่นราคาอยู่แล้ว เจ้ามือรู้ปริมาณการซื้อขายก่อน 1 ชม. เมื่อมีคนซื้อมากๆๆ กว่าคนขาย .. ราคาก็ไหลเป็นธรรมดา แต่นี่ปั่นซะไหลมากเกินไป ไหลไปคร่าวๆก็ 10% .. โหดไปมั้ยคับลูกพี่! ** ผมไม่ได้ซื้อขายในวันนั้น แต่ผมก็กลัวว่าถ้าไม่มีความเป็นธรรม ไม่มีความน่าเชื่อถือ แล้วเงินเราที่ลงทุนไปหล่ะ ค่าธรรมเนียมก็ยอมจ่ายให้แล้ว ยังไม่พออีกเหรอคับ ลูกพี่ที่ปั่นกันในสิงคโปร์ คนที่ซื้อไปเค้าคงเสียใจไม่น้อย กว่าจะหาเงินมาได้ แต่ละบาท .. เฮ้อ เอาใจช่วยคับ สู้ๆ จากคุณ : tuppee เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 55 02:06:11

ความคิดเห็นที่ 10 เห็นใจผู้เสียหายครับ เห็นใจ บลจ.ด้วย ผู้เสียหายน่าจะมาก จนไม่รู้จะควักเนื้อมาช่วยยังไงดี แต่ส่วนตัวแล้ว ผมว่า บลจ.ไม่ได้โกงครับ และควรมีมาตรการให้ความเชื่อมั่นแก่ผู้ลงทุนว่า จะทำอย่างไรไม่ให้ราคากระโดดแบบนี้ ไม่งั้นคนหนีออกจากกองแบบนี้หมด จากคุณ : กฤษณะ เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 55 05:51:46

ความคิดเห็นที่ 11 หนีแน่ๆครับ เค้าอาจจะคืดว่าไม่เป็นไร แต่เม่าอย่างเราก็มีวิธีการครับ 1.เช่นเตือนผู้ที่จะเข้าซื้อกองทุนให้รับรู้ถึงความเสี่ยงที่จะเกิดเหตุการเช่นนี้ได้อีกในอนาคต  เพราะไม่มีการจัดการป้องกันที่จะเกิดเหตุการคล้ายกันนี้ 2.บอยคอต  แม้จะไม่มีแรงมากนักเพราะเราเป็นรายย่อย แต่ทำให้จำนวนที่ควรจะเพิ่มลดลง  ทำให้การเติบโตไม่มากขึ้น 3.จดชื่อผู้บริหารกองทุนทั้งหมดมาดูหน้าตากันหน่อย และคอยคัดค้านหากได้เข้าไปบริหารและต้องคิดต่อกับธุรกิจเราที่อาจจะเกิดการติดต่อกันในอนาคต เพราะขนาดบริหารตรงจุดนี้ยังไม่จริงใจ   การทำธุรกิจด้วยคงมีปัญหาหรืออาจโดนทิ้งให้รับปัญหาได้ 4.การเข้าหาหน่วยงานที่ควรมีหน้าที่จัดการ อย่าง กลต.ซึ่งมีหน้าที่ควบคุมการลงทุน แต่ประเด็นนี้เกิดกับกลุ่มกองทุนที่มีธนาคารหนุนอยู่ คงอาจไม่ได้ผล  แต่ผู้ลงทุนที่ลดลง ก็น่าจะฟ้องถึงการทำงานของผู้มีหน้าที่ในช่วงเวลานี้ได้ (ผมคนนึงละที่จะไม่ลงทุนกับกองทุนอีกแล้ว) 5.การยื่นหนังสือถึงรัฐมนตรีที่คุมด้านนี้และรัฐมนตรีเงาไปในทีเดียว เพราะถ้าทางฝ่ายรัฐบาลไม่เล่นก็จะโดนฝ่ายค้านใช้เป็นเรื่องถล่มได้ เพราะเป็นกรณีที่เกิดขึ้นจริงแต่ไม่มีการจัดการป้องกันต่อไป 6.การตั้งกลุ่มขึ้นมาเพื่อบอยคอตและต่อต้านกองทุน วิธีนี้น่าจะเป็นวิธีท้ายๆ  เพราะเหลืออดแล้ว เช่นการแจกใบปลิวหน้าธนาคารทุกแห่ง เพื่อชี้ชวนให้ผู้ลงทุนระวังการลงทุนในลักษณะนี้ 7.รวมกลุ่มกันเข้าซื้อหุ้นธนาคารใดธนาคารหนึ่ง แล้วเข้าไปชี้ชวนให้ผู้ถือหุ้นรายอื่นเห็นพ้อง และทำการจัดการกับกลุ่มผู้บริหารที่จ้างมาทำงานแต่ผิดพลาด และไม่ยอมป้องกันการเกิดเหตุการขึ้นอีกในอนาคต 8.หากใครได้นายธนาคารแห่งปีก็ฝากถามถึงธรรมาภิบาลที่ชอบอ้างกันนักว่้าในกรณีเช่นนี้จัดการอะไรได้บ้าง อยากรู้คำตอบตรงนี้จัง 9.การขอร่วมกันจัดตั้งกองทุนซื้อขายกันเอง(งานนี้เวอร์ไปหน่อยอิอิ) หาบ.มาเทคโอเวอร์แล้วขอทำงานด้านกองทุนโดยครง ตั้งมาทำแข่งกับกลุ่มอำนาจเดิม จ้างผู้บริหารมาทำงาน สมควรจ้างพวกที่บริหารอยู่ตอนนี้เพราะรักษาผลประโยชน์ดีแต่ต้องระวังเพราะพวกนี้ดูแล้วค่อนข้างจะใจ...... เอาละผมฝันไปแค่นี้ก่อน ใครจะฝันและเพิ่มเติมต่อเชิญครับ ตื่นมายังไม่ทันทำไรก็เข้ามาฝันต่อในกระทู้นี้ก่อนละ จริงๆผมเสียหายแค่ลงทุนไป10000ในวันนั้นพอดีเท่านั้น งานนี้ไม่คุ้มเลย55555 ต้องมาตามหลายกระทู้ละ แต่ที่ไม่คุ้มกว่าคือธนาคาร เพราะตั้งแต่นี้ผมจะไม่หยวนๆปล่อยธนาคารฯเจ้าของกองทุนท่านต่อไปละ แย่นะ  ผมนี่แค้นฝังหุ่นเลยไปเอาตุ๊กตามาตั้งชื่อผู้บริหารแล้วเอาเข็มมาทิ่มเล่นแบบพวกวูดูดีกว่า  เย๊............... เอ้างานนี้มีใครทำขายไหมจะซื้อมาระบายหน่อย นึกได้อีกข้อพอดี 10.ใครทำเกมเอาการ์ตูนหน้าคล้ายพวกนี้มาแจกเล่นคลายเครียดกันดีไหม   ยิ่งกองทุนไหนใหญ่ก็เอาหน้าคนนั้นมาทำให้เพื่อนๆระบายเพื่อที่จะป้องกันไม่ให้ใครไประบายของจริงกับตัวจริงเข้า เลิกฝันละ ไปอาบน้ำแปรงฟันก่อนครับ แก้ไขเมื่อ 08 ม.ค. 55 07:04:13 จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 55 06:56:26

ความคิดเห็นที่ 12 ย้อนกลับไปอ่านดูว่าอ่านผ่านมา เจอละ  ผลงานที่มีแค่ 23 กองทุนทำได้ อืม   มิน่าละถึงบริหารได้แบบนี้ ความคิดเห็นที่ 4    5. ถ้าคุณเป็นคนที่พอร์ตโดยรวม ขาดทุน ในปี 2011 อย่าโทษตลาด เพราะคนที่กำไร ก็มีเหมือนกัน ผมคงไม่สามารถถามนักลงทุนทีละคนได้ว่า ปี 2011 ได้กำไร หรือขาดทุนกันเท่าไหร่ สำหรับผู้ที่ขาดทุน หากดูจากข่าวทั้งปีที่พวกเราเจอกันมา หลายคนอาจปลอบใจตัวเองว่า ไม่เป็นไร ตลาดมันห่วย เล่นยาก เราจะขาดทุนบ้างก็ไม่แปลก แต่เชื่อหรือไม่ มีคนอีกกลุ่มหนึ่งที่เขาก็อยู่ในตลาดหุ้นเหมือนพวกคุณ แต่กลับได้กำไรอย่างงดงามในปี 2011 ปีเดียวกับที่พวกคุณขาดทุนนั้นหล่ะ ขอยกตัวอย่าง ผลตอบแทนจากกองทุนรวมหุ้นที่ลงทุนในไทยก็แล้วกันครับ ปี 2011 ที่ผ่านมา มีกองทุนหุ้นไทยเฉพาะที่จัดตั้งขึ้นมาก่อนปี 2011 ทั้งหมด 163 กองทุนด้วยกัน ผลตอบแทนของ SET Index ปี 2011 อยู่ที่ 0.72% แต่มีกองทุนที่ชนะ SET Index ได้เพียงแค่ 43 กองทุน หรือคิดเป็น 26% จากกองทุนทุกกอง ถ้ารวมผลตอบแทนจากเงินปันผลและสิทธิอื่นๆเข้าไปใน SET Index ก็เท่ากับผลตอบแทนปีนี้ของ SET Index อยู่ที่ 3.6% นั้นทำให้กองทุนหุ้นไทยที่ชนะดัชนีเหลือเพียงแค่ 23 กองทุน หรือคิดเป็น 14% ของกองทุนหุ้นไทยทั้งหมดที่มีอยู่ในตลาดเท่านั้น ถ้ามองในแง่สัดส่วน แน่นอนครับ เราคงรู้สึกว่า ทำไมมันน้อยจัง แต่ถ้ามองที่จำนวนกองทุนจริงๆ มันไม่น้อยนะ และผู้ชนะ 23 กองทุนเหล่านี้ ก็เป็นผู้ชนะอยู่วันยังค่ำ ส่วนผู้แพ้ก็แพ้ต่อไปแทบจะตลอด ผู้ที่สามารถทำกำไรได้ในภาวะตลาดแบบนี้ หากมองจากตัวอย่างในธุรกิจกองทุนรวม ผมก็เชื่อว่านักลงทุนรายย่อยที่กำไร มีน้อยกว่าผู้ที่ขาดทุน แต่อย่างที่บอกครับ มีน้อย ใช่ว่าไม่มี ตลาดในปี 2011 จึงสอนให้เรารู้ว่า หากขาดทุน อย่าโทษตลาด เพราะมันปิดโอกาสในการสร้างทัศนคติเพื่อพัฒนาตัวเอง ถ้ามีคนกำไร เราก็สามารถเป็นคนกลุ่มนั้นได้ จากคุณ : Mr.Messenger    เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 00:38:10  ถูกใจ : มิ่งกลิ้ง, EngiN_Duck, dcapar, jinpin, หมอก้อนหิน, เบิกได้จ่ายตรง, สติสตางค์, มั่วไปเรื่อย, cashewnuss, asker2008, lightfellow, PET3R.Pan, Nong-KiD, bhO_bhE, อยากจะกินน้ำแข็งไส, aey_omu, murmur, Minesweeper, rui, ekgapoomj, จริงใจ นิสัยดี จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 55 07:51:41

ความคิดเห็นที่ 13 ระวัง ข้อความที่หัวข้อกระทู้ จะถูกฟ้องร้องได้นะครับ คำว่าถูกโกงราคาไป 10% จากคุณ : CP_Card เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 55 07:53:58

ความคิดเห็นที่ 14 ฟ้องเลยครับ อยากได้ความจริงครับ ว่าแต่ฟ้องข้อหาอะไรครับ อยากรู้ครับ ในเมื่อมีคนรู้สึกแบบนี้และขอความจริงแต่ไม่ชี้แจงให้ชัด คนที่สงสัยไม่สามารถถามได้หรือ ลองอ่านบทความนี้ดูสิ แล้วคุณคิดอย่างไรบ้างละครับ ถ้าหากอยากค้นความจริงบ้าง จริงๆเรื่องบางเรื่องเล็กๆแต่หากอยากให้เป็นเรื่องใหย่ ให้ปิดไว้ครับ  เพราะคนจะยิ่งขุดคุ้ย จากญี่ปุ่น นกุล ว่องฐิติวงศ์ โตชิฮิโกะ ฟูคุอิ อีกคนหนึ่งที่บกพร่องโดยสุจริต อนุสนธิจากการจับกุมตัว นายโยชิอากิ มูราคามิ ผู้จัดการกองทุน "Murakami Fund" กองทุนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศญี่ปุ่นในข้อหาซื้อขายหุ้นโดยอาศัยข้อมูลภายในเมื่อต้นเดือนมิถุนายนนี้ได้ก่อให้เกิดผลกระทบต่อภาคธุรกิจการเงินและตลาดทุนของญี่ปุ่นอยู่ไม่น้อย เฉพาะอย่างยิ่งต่อบรรดาผู้ลงทุนในกลุ่มหุ้นที่กองทุนของนายมูราคามิถือครองอยู่ซึ่งล้วนแต่มีราคาตกต่ำลงกันอย่างถ้วนหน้า ผู้ลงทุนในกองทุนของมูราคามิที่น่าจะถูกมรสุมครั้งนี้กระหน่ำอย่างหนักที่สุดเห็นทีจะไม่พ้น นายโตชิฮิโกะ ฟูคุอิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งชาติญี่ปุ่นคนปัจจุบันนั่นเอง นายโตชิฮิโกะ ฟูคุอิ ผู้ว่าการธนาคารกลางหรือธนาคารแห่งชาติญี่ปุ่นคนที่ 29 ผู้นี้ปัจจุบันมีอายุ 71 ปี ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้การธนาคารกลางญี่ปุ่นเมื่อเดือนมีนาคม 2003 ถือว่าเป็นผู้มีอำนาจสูงสุดในการกำหนดและดูแลนโยบายการเงิน การธนาคารซึ่งหมายรวมถึงการกำหนดอัตราดอกเบี้ยของประเทศอีกด้วย เขามีผลงานโดดเด่นจนได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในผู้ที่มีส่วนช่วยทำให้เศรษฐกิจของประเทศที่ตกต่ำซบเซากลับฟื้นคืนตัวขึ้นอีกครั้ง หนึ่งปีภายหลังเข้ารับตำแหน่ง ชื่อของเขาได้ปรากฏในนิตยสารไทม์ในปี 2004 พร้อมคำสดุดีว่า "เป็นผู้ว่าการธนาคารกลางที่ดีที่สุดของโลก" มีอยู่บ่อยครั้งที่เขาได้รับการเปรียบเทียบกับ นายอลัน กรีนสแปน ผู้ว่าการธนาคารกลางแห่งอเมริกาในฐานะที่มีวัยและประสิทธิภาพการทำงานใกล้เคียงกันว่าเป็น "กรีนสแปนแห่งประเทศญี่ปุ่น" เมื่อวันอังคารที่ 15 มิถุนายนนี้เอง นายโตชิฮิโกะ ฟูคุอิ ต้องกล่าวคำขออภัยและยอมรับต่อสภาที่ปรึกษาของคณะกรรมาธิการกิจการการเงินของสภาสูงญี่ปุ่นว่า เขามีเงินลงทุนจำนวน 10 ล้านเยนอยู่ในกองทุนอื้อฉาวของนายมูราคามิ มีผลทำให้เกิดคำถามขึ้นในทันทีถึงความน่าเชื่อถือของธนาคารกลางแห่งชาติญี่ปุ่นว่า การที่ผู้ว่าการธนาคารแห่งชาติซึ่งมีหน้าที่และอำนาจในการกำหนดนโยบายการเงินของประเทศมีเงินลงทุนในกองทุนที่กำลังมีเรื่องอื้อฉาวเพราะทำผิดกฎหมายตลาดหลักทรัพย์ของประเทศนั้นเป็นเรื่องเหมาะสมหรือไม่ ผู้ว่าการธนาคารแห่งชาติผู้นี้แจ้งต่อสภาผู้แทนราษฎรเมื่อถูกเชิญตัวมาให้การในวันต่อมาว่า เขาได้ลงทุนเงินจำนวน 10 ล้านเยนในในกองทุนของมูราคามิตั้งแต่ปี 1999 ขณะที่เขายังดำรงตำแหน่งประธานของสถาบันวิจัยฟูจิสึ ขณะนั้น นายโยชิอากิ มูราคามิ เป็นข้าราชการสังกัดกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าและได้ตัดสินใจลาออกจากราชการมาตั้งตัวเป็นผู้จัดการกองทุน "ข้าพเจ้าและเพื่อนร่วมงานอีกหลายคนต้องการให้กำลังใจและสนับสนุนคนหนุ่มที่ยอมทิ้งความก้าวหน้าในราชการมาเพื่อต่อสู้ในตลาดทุน" นายฟูคุอิแถลง ยิ่งไปกว่านั้น เขายังยอมรับอีกด้วยว่าเขายังเป็นผู้ถือครองหุ้นในกิจการอีกหลายบริษัทซึ่งล้วนเป็นหุ้นที่เขาได้รับในฐานะกรรมการบริษัทที่เป็นบุคคลภายนอกจากครั้งดำรงตำแหน่งประธานสถาบันวิจัยฟูจิสึอีกด้วยและเขายังคงเก็บหุ้นเหล่านั้นไว้กับตัว กฎหมายของญี่ปุ่นกำหนดให้รัฐมนตรีและผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองต้องนำหุ้นใดๆ ที่ตนถือครองไปฝาก "แช่แข็ง" ไว้กับธนาคารหรือสถาบันการเงินโดยห้ามมีการเคลื่อนไหวในระหว่างดำรงตำแหน่งทั้งยังต้องเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินของตนเอง คู่สมรสและบุตรในอุปการะเป็นประจำทุกปี แต่กฎหมายมิได้กำหนดให้ผู้ว่าการธนาคารแห่งชาติต้องปฏิบัติเช่นเดียวกันนี้ คำถามที่ถูกหยิบยกขึ้นมาก็คือ "ความถูกต้องเหมาะสม" ที่ผู้มีอำนาจในการกำหนดและดูแลนโยบายการเงินของชาติไปลงทุนในตลาดหุ้นเสียเอง สมาชิกรัฐสภาหลายคนโดยเฉพาะจากฝ่ายค้านและตัวแทนสื่อมวลชนพากันตั้งคำถามว่าเหตุใด นายฟูคุอิผู้ได้ชื่อว่าเป็นเกจิด้านการเงินของประเทศจึงได้ละเลยไม่จัดการถอนเงินออกจากกองทุนและนำหุ้นในนามของตนไปฝากแช่แข็งไว้กับสถาบันการเงินอย่างที่ควรกระทำ แต่เขากลับยื่นคำขอไถ่ถอนเงินออกจากกองทุนของมูราคามิเมื่อเดือนกุมภาพันธ์นี้เองซึ่งเป็นช่วงที่ นายทาคาฟูมิ โฮริเอะ เจ้าของบริษัทไลฟ์ดอร์อินเตอร์เน็ตถูกจับกุมในข้อหาปั่นหุ้นและตกแต่งตัวเลขทางบัญชีและมีข่าวในวงในออกมาด้วยว่านายมูราคินั้นก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับการปั่นหุ้นของไลฟ์ดอร์ด้วย ทำให้มีการตั้งข้อสงสัยเพิ่มขึ้นว่า นายฟูคุอิได้อาศัยข้อมูลของทางการเพื่อประโยชน์ของตนเองหรือไม่ "เขาควรจะต้องถอนเงินออกจากกองทุนตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งผู้ว่าการธนาคารแห่งชาติเมื่อสามปีก่อนแล้ว ไม่ใช่เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้" ผู้สันทัดกรณีให้ความเห็น นายฟูคุอิยังได้ปฏิเสธที่จะเปิดเผยตัวเลขของกำไรที่เขาได้รับจากกองทุนอื้อฉาวดังกล่าวในช่วงหลายปีที่ผ่านมา "ข้าพเจ้าจดจำตัวเลขที่แน่นอนไม่ได้เพราะผลกำไรในแต่ละปีจะไม่เท่ากัน มีตั้งแต่หลายแสนถึงหลายล้านเยน" เขาเสริมว่าผลกำไรที่ได้ทั้งหมดถูกทิ้งให้ทบต้นอยู่ในกองทุนมาตลอด มีการประเมินอย่างคร่าวๆ ว่าผลกำไรจากกองทุนที่เขาได้ในแต่ละปีจะมีจำนวนหลายล้านเยนเนื่องจากผลตอบแทนของกองทุนมูราคินั้นจะสูงถึง 20-30% เขาเปิดเผยต่อไปว่าเขาจะได้รับเงินลงทุนในกองทุนมูราคามิคืนครบถ้วนในสิ้นเดือนนี้ และมีความคิดที่จะนำเงินที่เป็นผลกำไรจากกองทุนนี้ไปทำประโยชน์เพื่อสาธารณะที่เหมาะสมต่อไป ต่อข้อเรียกร้องของพรรคฝ่ายค้านและสื่อหลายสำนักที่ขอให้เขาพิจารณาตัวเองและลาออกจากตำแหน่ง นายฟูคุอิตอบแต่เพียงว่า เขาเสียใจที่ก่อให้เกิดความยุ่งยากแต่ยืนยันที่จะทำหน้าที่ต่อไปจนครบวาระห้าปีตามกำหนด ฝ่ายนายกรัฐมนตรี จุนอิจิโระ โคอิซูมิ ตอบข้อเรียกร้องให้ปลดผู้ว่าการธนาคารแห่งชาติแต่เพียงสั้นๆ ว่า "ตราบเท่าที่การกระทำของนายฟูคุอิยังไม่ผิดต่อระเบียบข้อบังคับของกฎหมาย ข้าพเจ้าก็ไม่มีความคิดที่จะเปลี่ยนตัวผู้ว่าการแบงก์ชาติแต่อย่างไร" เรื่องอื้อฉาวดังกล่าวทำให้มีการเสนอจากหลายฝ่ายให้มีการแก้ไขกฎระเบียบภายในของธนาคารแห่งชาติเสียใหม่โดยกำหนดให้ผู้ว่าการธนาคารและเจ้าหน้าที่ระดับสูงต้องเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินและแช่แข็งหุ้นที่ตนถือครองแบบเดียวกับผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งนายฟูคุอิได้ตอบรับในประเด็นดังกล่าว แต่ก็ได้ย้ำถึงการเคารพสิทธิในทรัพย์สินและข้อมูลส่วนบุคคลเพราะมีกรรมการของธนาคารแห่งชาติจำนวนหนึ่งที่เป็นบุคคลภายนอกด้วย จริงอยู่ แม้ว่าเงินลงทุนจำนวน 10 ล้านเยนนั้นจะดูเล็กน้อยเมื่อเปรียบเทียบกับขนาดมหึมาของกองทุนมูราคามิซึ่งมีถึง 400,000 ล้านเยนอีกทั้งผู้ลงทุนในกองทุนก็ไม่มีสิทธิไม่มีเสียงต่อการจัดการกองทุนหรือวิธีการลงทุนแต่อย่างไร แต่ก็มีการมองลึกไปถึงว่าการยืนยันที่จะกำหนดนโยบายอัตราดอกเบี้ยเงินฝากอยู่ที่ 0% ของธนาคารแห่งชาติญี่ปุ่นทั้งๆ ที่สภาวะทางเศรษฐกิจน่าจะทำให้ปรับเปลี่ยนได้แล้วนั้น จะเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับการลงทุนในตลาดหุ้นแทนการเก็บออมหรือไม่ และสถานะของผู้ว่าการธนาคารแห่งชาติอย่างนายฟูคุอิอาจจะถูกผู้จัดการกองทุนนำไปใช้ให้เป็นประโยชน์ในทางใดทางหนึ่งก็ได้ ตัวแทนพรรคฝ่ายค้านและสื่อมวลชนญี่ปุ่นกล่าวถึงกรณีนี้ว่า "ข้อเท็จจริงก็คือ ความบกพร่องของผู้ว่าการธนาคารแห่งชาติได้สร้างปัญหาให้กับความน่าเชื่อถือของธนาคารกลางของประเทศ หากว่าเขาไม่ต้องการสร้างความมัวหมองให้กับธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่น หนทางเดียวของเขาคือการลาออก" แบบนี้เรียกว่า แม้บกพร่องโดยสุจริตก็ให้อภัยกันไม่ได้ จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 55 07:57:26

ความคิดเห็นที่ 15 ถ้าจะให้กองทุนรับผิดชอบในเรื่องนี้ คนที่ไม่ได้ซื้อ ไม่ได้ขาย ก็จะซวยไปด้วยสินะครับ เพราะ navigation จะโดนลดถ้วนหน้า คราวที่แล้วผมก็โดนมาทีนึงแล้ว ผมว่ามันก็ไม่ค่อยแฟร์เท่าไหร่นะครับ ถ้าจะให้แฟร์ที่สุด ผมว่ากองทุนต้องไปซื้อทองแท่งจริงๆที่ราคาเมืองไทยแล้วหละครับ จะได้ไม่เกิดปัญหานี้อีก เพราะจริงๆ ปัญหานี้ ผมว่าไม่ได้อยู่ที่กองทุน แต่น่าจะอยู่ที่ spdr มากกว่าไม่ใช่หรอครับ จากคุณ : LP. E. no SAINT เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 55 09:07:07

ความคิดเห็นที่ 16 nav นะครับ ไม่ใช่ navigation จากคุณ : LP. E. no SAINT เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 55 09:07:58

ความคิดเห็นที่ 17 ปั่นชัดๆ  แต่คงทำไรเขายากหนะ จากคุณ : H-vichaiyut เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 55 09:25:31

ความคิดเห็นที่ 18 ไหนๆจะถล่มละ นำอีกเรื่องไม่นานนี้มาด้วย ลองไปอ่านรายละเอียดเอา แล้วตัดสินใจกับกองทุนเท่าที่รับความเสี่ยงไหวละกัน รายละเอียดไปติดตามเอาละกันครับ http://www.eng56.com/main/index.php?option=com_content&task=view&id=577&Itemid=37 เรื่องอื้อฉาวของกองทุน Written by Administrator   Contributed by Arun Chirachavala ปิดกันให้แซดในวงการ บลจ. (บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน) เรื่องทีมบริหารกองทุนของ บลจ. ยักษ์ใหญ่แห่งหนึ่งถูกจับได้ว่าใช้เงินของผู้ลงทุนไล่ราคาหุ้นเพื่อให้บัญชีส่วนตัวมีกำไร ผมขอไม่เปิดเผยชื่อ บลจ. เพราะไม่อยากถูกกล่าวหาว่าจงใจทำลายชื่อเสียงกัน แต่ที่เขียนเรื่องนี้เพราะอยากเตือนสติผู้ลงทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มที่อยู่นอกวงการตลาดทุน แต่ต้องซื้อกองทุนแอลทีเอฟกับอาร์เอ็มเอฟเพื่อลดหย่อนภาษีเงินได้ จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 55 09:29:56

ความคิดเห็นที่ 19 หรือข่าวนี้อีกข่าว หัวข่าวตีไว้น่าอ่านนะครับ ‘แกะดำ’ ทำวงการ บลจ.เสียหาย 6 เล่ห์เหลี่ยมกองทุนรวม บิ๊กบลจ.- นายทุนรวมหัวงาบ! http://www.manager.co.th/mgrweekly/viewnews.aspx?newsID=9540000093056 ยังไม่รู้ว่ามีเหลือในวงการอีกไหม แต่ที่รู้เคสนี้เกิดโดยหากไม่มีการทำอะไร ก็ทำให้ผมสงสัยได้จริงไหมครับ จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 55 09:52:14

ความคิดเห็นที่ 20 ยิ่งเฉยก็ยิ่งสนุก ไว้หาแนวร่วมเดือนมีนาฯมาสมทบดีไหมนะ 10สิ่งมหัศจรรย์ 10 amazing facts about SPDR Gold Shares! AHMEDABAD (Commodity Online): SPDR Gold Shares or GLD is the largest ETF in the planet managed by US based State Street Global Markets, LLC. Originally listed on the NYSE in November 2004, SPDR Gold Shares now trade on the Singapore Stock Exchange as well as the Tokyo Stock Exchange and the Stock Exchange of Hong Kong. Listed below are 10 amazing facts about SPDR Gold Shares: 1. SPDR Gold Shares was created by none other than World Gold Council, an association funded by world’s leading gold miners. 2. The Bank of New York is the trustee of the fund and HSBC is the custodian. 3. The fund is currently having $60 billion in assets. 4. The fund added $5 billion or 10% in assets in last month alone. 5. In January-March 2009, holdings of the SPDR Gold Trust climbed 45% to 1,127.44 tons. 6. SPDR Gold Shares ranks in the top-ten list of gold holders; the other nine being central banks. 7. SPDR Gold Shares, like Central Banks, deal in 400-ounce bars. 8. George Soros and John Paulson hold shares of GLD for their elite investors. 9. SPDR Gold Shares carries out third-party audits by Inspectorate of its physical gold. 10. SPDR Gold Shares is not redeemable for physical gold. The fund is traded on NYSE Arca since December 13, 2007. จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 55 10:03:06

ความคิดเห็นที่ 21 Last Updated : 05 September 2011 at 18:05 What you might lose when buying the SPDR GLD ETF? Gold itself !! NEW YORK (Commodity Online): The SPDR Gold Trust or GLD is the world’s most heavily traded Exchange Trade Fund (ETF), and has the sixth largest stash of the metal at over 1230 tonnes. But then does big size really means bigger trust? Let’s take a look at some of the company rules or clauses- -Many people might not know this, but you will not be allowed to see the vault that stores the gold. No matter how many shares you own. Period! -When you own a GLD share theoretically you can redeem it but practically you cannot. Confused? If you want to redeem gold in physical form, you have to be approved to do so (generally meaning, you're either a broker or a market maker), and then you have to redeem a minimum of 100,000 shares! -Now, let’s assume you meet the qualifications to redeem physical gold. But then there is another clause - a provision stating that the company has the option of redeeming such shares in cash equivalent rather than bullion. Meaning, suddenly if there is a huge demand for the metal, GLD is not obligated to give you Gold in physical form! So, the next time you invest in a GLD share, just think the purpose of your investment. If your aim is to take stock of the metal in physical form, maybe traditional methods would be more suitable for you since if you invest in GLD, you may lose out on your ultimate objective-to own gold physically. Source: www.bullionvault.com จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 55 10:27:42

ความคิดเห็นที่ 22 วงการเงินอย่านึกว่าไม่มีการทำผิด เพียงแต่เวลาที่อยู่ในยุครั้รอาจมองไม่เห็น ต้องรอจนแผลบานเบอะก่อนถึงรู้ก็มี ดังนั้นหากไม่มีการป้องกันหรือคอยบอกกล่าว หรือเตือนกัน  ภัยร้ายทางการเงินก็อาจเกิดขึ้นได้อีก ลองแบ่งดูก็น่าจะผ่านยุคใหญ่ๆมาดังนี้นะ 1.ยุครัชกาลที่ 6 -ช.ยุ่งเส็ง ใช้อำนาจหน้าที่หมุนเงินมาช่วยแบงก์จีนสยามทุน 2.ยุคทรัสต์  4 เมษายน 2527 -การทำสัญญาเงินกู้ปลอมเพื่อผ่องถ่ายเงินจากบริษัท -การปล่อยกู้ให้กิจการในเครือ 3.ยุค 56 ไฟแนนซ์ 2542 -ผู้บริหารปล่อยสินเชื่อ โดยขาดการบริหารความเสี่ยง สินเชื่อกระจุกตัว ในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และให้กู้ในกิจการในกลุ่มในสัดส่วนสูง อภิสิทธ์ในเครือข่ายการเมือง และความอ่อนแอในความกำกับของธนาคาร แห่งประเทศไทย จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 55 11:28:42

ความคิดเห็นที่ 23 ไอ้พวกเรื่องอื้อฉาวแบบนี้ ทำไมเขาไม่ระบุให้รู้ไปเลยว่า "ใคร" จาก "บลจ.ไหน" ทำ "อะไร" ขี้เกียจต้องมานั่งเดา จากคุณ : kab เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 55 15:07:56

ความคิดเห็นที่ 24 อย่านึกว่าตลาดจะมีแต่คนดี ซีเอ็นเอ็น เปิดเผย 4 อันดับเทรดเดอร์ที่ยักยอกเงินของธนาคารมากที่สุด ดังนี้     1. เจอร์โรม แคร์วีล ยักยอกเงิน 6 พันล้านดอลลาร์ จากธนาคาร โซซิเอเต เจเนราล     โดยแคร์วีลถูกจับที่ปารีสด้วยข้อหายักยอกเงินในเดือนมกราคมปี 2551 หลังเขานำเงินของธนาคารไปลงทุนโดยมิชอบ ขณะนี้แคร์วีลกำลังรับโทษจำคุก 3 ปี อย่างไรก็ตาม เขายืนยันว่าผู้บริหารระดับที่สูงกว่ารับรู้การกระทำของเขา และยินยอมให้เกิดการกระทำดังกล่าว     2. ยาสุโอ ฮามานากา ยักยอกเงิน 2.6 พันล้านดอลลาร์ จากธนาคาร สุมิโตโม คอร์เปอร์เรชัน     ฮามานาการับโทษจำคุก 8 ปีในปี 2540 ด้วยคดียักยอกและฟอกเงิน หลังเขาถ่ายโอนเงินของบริษัทสูญหายไป 2.6 พันล้านดอลลาร์ ทั้งนี้ ฮามานากาเป็นผู้บริหารระดับสูงซึ่งทำให้สุมิโตโมประสบความสำเร็จจนครองส่วนแบ่งตลาดทองแดง 5%     3. นิค ลีสัน ยักยอกเงิน 1.3 พันล้านดอลลาร์ จากธนาคาร แบริงส์ แบงค์ จนเป็นเหตุให้ธนาคารอายุกว่าร้อยปีของอังกฤษต้องล้มละลาย     โดยลีสัน ซึ่งเป็นเทรดเดอร์ดาวรุ่งที่ธนาคารสาขาสิงคโปร์ สร้างบัญชีลูกค้าปลอมและนำเงินของธนาคารมาลงทุนในบัญชีนั้น ต่อมา เรื่องราวทั้งหมดถูกเปิดโปงขึ้นในเดือนมกราคม ปี 2538 เมื่อเขานำเงินของธนาคารไปลงทุนเก็งกำไรในตลาดหุ้นนิคเคอิ แต่โชคไม่เข้าข้างเพราะเกิดเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่เมืองโกเบเสียก่อน ทำให้หุ้นของญี่ปุ่นร่วงอย่างมหาศาล     4. จอห์น รุสแนค ยักยอกเงิน 700 ล้านดอลลาร์ จากธนาคาร แอลลายด์ ไอริช แบงค์     ในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2545 ผู้บริหารของธนาคารแจ้งเอฟบีไอว่า รุสแนคหายตัวไปพร้อมกับเงินร่วม 700 ล้านดอลลาร์ โดยก่อนหน้านั้น เขาทำการซื้อขายในวงเงินที่สูงกว่าที่ธนาคารกำหนดนับหลายพันเท่า จนทำให้ธนาคารต้องสูญเงินครั้งใหญ่ อืม  ยังไม่ได้รวมคนนี้ด้วยนะ นายคะเวกู อะโดโบลี เทรดเดอร์ผู้ทำให้ยูบีเอส ธนาคารใหญ่สัญชาติสวิตเซอร์แลนด์ ต้องขาดทุนกว่า 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 55 08:03:10

ความคิดเห็นที่ 25 บริหารงานก็มี 2 มาตรฐาน แก้ไข ชดเชยให้ ครั้ง 18 มีนาคม แต่ พอ 30 ธค. เคสเดียวกันทุกกรณี กลับเงียบ... มาตรฐาน การแก้ปัญหาการดำเนินงานอยู่ที่ไหน ทั้งที่เป็นความผิด ของ บลจ กสิกรไทย KBank K-Gold ที่ไม่สามารถบริหารให้เป็นไปตาม หนังสือ ชี้ชวนและคำโฆษณาที่สวยหรูของคุณ ว่า ราคา อิง หรือ ใกล้เคียงตลาดโลก แล้ว จะเชื่อถือ บลจ กสิกร กองทุน K-Gold อีกต่อไปได้อย่างไร จากคุณ : Mr Thai Find เขียนเมื่อ : 16 ม.ค. 55 17:21:01

ความคิดเห็นที่ 26 มารายงานตัวว่า วันนี้สั่งขายหมดเกลี้ยงเลย ไม่ใช่เพราะถูกใจราคาตลาดโลกหรอก แต่ฟามเบื่อมันสุกงอมพอดี เลยขายๆ ซะ จะได้จบ เลิกพะวงกะมัน อิอิ จากคุณ : รูปเงาะเดินสบาย เขียนเมื่อ : 16 ม.ค. 55 19:33:24

ความคิดเห็นที่ 27 เยอะ จากคุณ : บางแสน คลาสสิค เขียนเมื่อ : 16 ม.ค. 55 19:51:27

ความคิดเห็นที่ 28 ผมว่าแต่ละ บลจ.ก็เขียนเคลียร์นี่ครับ ว่าความเสี่ยงมีอะไรบ้าง อยู่ที่คุณจะเปิดใจรับฟังหรือเปล่า เพราะคนส่วนใหญ่ มักจะยึดสิ่งที่ตัวเองต้องการเป็นหลัก เมื่อไม่ได้อย่างที่ต้องการ ใครจะชักแม่น้ำทั้งห้ามาอย่างไร หรือมีเหตุผลมากมายแค่ไหน ก็ไม่มีประโยชน์ ถ้าเชื่อว่าเป็นความผิด บลจ.จริงๆ แล้วต้องให้เค้าชดใช้ ผมแนะนำว่า ร้องเรียนผ่านคนที่กำกับดูแล บลจ.ต่างๆคือ กลต. ผ่าน http://capital.sec.or.th/webapp/complaint/entryOutside.php?lang=th น่าจะได้ประโยชน์กว่าครับ ซึ่งถ้า กลต.ชี้ว่า บลจ.ผิดจริง แต่ละที่เค้าคงวิ่งเต้นออกมาแก้ไขอะไรกันแล้วหล่ะครับ ไม่ปล่อยให้เงียบแบบนี้หรอก จากคุณ : ^Sleepless Society^ เขียนเมื่อ : 16 ม.ค. 55 21:04:56

ความคิดเห็นที่ 29 ผมว่า KF ทำถูกแล้ว อยู่ๆคุณจะให้มาเปิดเผยรายชื่อผู้ที่ขายกองทุนได้อย่างไร อย่าเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางของจักรวาลครับ ความเสี่ยงเรื่องราคาปิด ไม่ตรงกับ ราคาทองคำ ก็ชัดเจนอยู่ กองทุนทุกกองทุน ทำตามข้อกำหนดของกองทุนแล้ว คือใช้ราคาปิด เป็นราคาซื้อขาย ถ้าเขาไม่ใช้นั่นน่ะสิ ถึงจะมีปัญหา โดนฟ้องอานแน่ ที่กสิกร ชดใช้ครั้งแรก ผมว่า ครั้งนั้นน่าจะเป็นสัญญาณเตือนให้ทุกท่านแล้ว ว่าความเสี่ยงตรงนี้มีจริง ผิดครั้งแรก เพราะ ไม่รู้ ผิดครั้งที่สอง เพราะ เราโง่เอง ตรงนี้ไม่ได้หมายถึงกองทุนนะครับ เพราะ เขาทำตามข้อกำหนดของเขาแล้ว จากคุณ : อวิรุืทธ์ เขียนเมื่อ : 16 ม.ค. 55 21:22:33

ความคิดเห็นที่ 30 ผิด หรือ ถูก อยู่ที่วิธีคิดของแต่ละคน คนซื้อ บอกผิด ต้องรับผิดชอบ คนขาย บอกถูก เป็นไปตามกลไกตลาด คนไม่ซื้อไม่ขาย แต่ถือหน่วยลงทุน บอก ทำอะไรก็ได้อย่ามากระทบชั้น คนไม่มีหน่วยลงทุน บอก เมื่อไหร่เรื่องนี้จะจบ จากคุณ : เขียนบน PC (mahnoitammada) เขียนเมื่อ : 16 ม.ค. 55 21:26:01

ความคิดเห็นที่ 31 เอารถไปจอดในห้าง บัตรจอดของห้างบอกละเอียดมาก ไม่รับผิดชอบหากสูญหาย ทั้ง _ _ _  C, Lot_ _, Cent_ _ _ และ ที่อื่นๆอีกหลายที่ รถหาย ศาลตัดสิน ให้จ่ายชดเชย.... จากคุณ : Mr Thai Find เขียนเมื่อ : 16 ม.ค. 55 21:43:13

ความคิดเห็นที่ 32 #30 คนไม่ซื้อไม่ขาย แต่ถือหน่วยลงทุน บอก ทำอะไรก็ได้อย่ามากระทบชั้น ไม่จริงครับ ผมถืออยู่ถ้าคนซื้อซื้อแพงแล้วบอกว่าโกง ผมก็จะบอกว่าโกงผมเหมือนกัน เพราะถ้ากองทุนจะย้อนเวลากลับไปรับผิดชอบ ผมรู้แบบนี้ผมก็ขายครับ อิอิ ไอ้คนที่ขายไปวันนั้นก็โกงเพราะขายได้แพง อิจฉามัน สรุป โกงกันหมด ทำยังไงก็ได้ให้ได้ข้างตรู จากคุณ : ohlalla เขียนเมื่อ : 16 ม.ค. 55 22:43:42

ความคิดเห็นที่ 33 เขาไม่น่าจะรับผิดชอบอะ จากคุณ : mochay เขียนเมื่อ : 16 ม.ค. 55 23:42:22

ความคิดเห็นที่ 34 กองทุน  มันอันตรายอะครับ  ราคามันไม่ได้ตรง แล้วยังมาเจอ หวยล็อคอีก เซง จากคุณ : mochay เขียนเมื่อ : 16 ม.ค. 55 23:43:12

ความคิดเห็นที่ 35 K-Gold ก็เล่นยากเหมือนกัน ตั้งแต่เริ่มลงทุนไม่เคยกำไรเลย มีแต่ขาดทุนเพาะราคาไม่ Real Time ต้องรอสองวันทัดไปถึงจะรู้ราคาจริงที่ซื้อหรือขาย โดนกินไปหลายหมื่นแล้วครับ ตอนนี้เลยไม่เทรดอีกเลยปล่อยเฉยๆดีกว่า จากคุณ : boobie เขียนเมื่อ : 17 ม.ค. 55 15:23:04

ความคิดเห็นที่ 36 มี GOLD 30/12/11 นอนอยู่บนดอยอินทนนท์อยู่ดีๆ ถูกแตะกระโดนขึ้นไปยอดเขาเอเวอเรสต์โน้นเลยนะขนาดอยู่เฉย ๆ เข้าใจว่าถ้าซื้อวันนั้น โดนแตะกระโดนไปหนักกว่าแน่ เข้าใจว่าเหตุการณ์วันนั้นถ้าขายได้กำไรดอยเตี้ยลง แต่ใครจะไปขายเพราะแนวโน้มมันดิ่งขึ้นดอยมากกว่านะ อยากลงดอย เก็บซื้อนิดเดียวเอง GOLD อีกตัว โน้นไปอยู่บนยอดเขาเอเวอเรสต์ เข้าใจว่าโดนกันหมดที่ GOLD ลงทุนที่สิงคโปร์ กำลังหา GOLD ที่ลงทุนนอกสิงคโปร์ แต่ว่ามันจะมีเหตุการณ์แบบนั้นได้อีกหรือไม่ กองทุนมีความเสี่ยงแถมกองทุนทองเสี่ยงสูงด้วย ชอบทองทำไงดี... ลงชื่อด้วยคน อยากรู้ อยากลองหาประสบการณ์การลงทุนทอง กำไร-ดีใจ ขาดทุน-นอนไม่หลับ-พอยอมรับความเสี่ยงได้บ้าง จากคุณ : เด็กอ่อนกองทุนทอง (PASSENGERS ON BOARD) เขียนเมื่อ : 17 ม.ค. 55 15:27:37

ความคิดเห็นที่ 37 การที่คนไม่สามารถเชื่อในราคาสุดท้ายได้ว่าจะก้าวกระโดดหรือไม่ เป็นความเสี่ยงเกินระดับคนที่คิดจะลงทุนในกองทุน และ กองทุน บลจ มีคนที่ได้รับค่าตอบแทนสูงๆในการบริหาร ส่วนมากก็เชี่ยวชาญและมักจะมีดีกรีสูงๆ แต่ทำให้เกิดเคสไม่ปรกติแบบนี้ และ เกิดขึ้นมาแล้ว 2 ครั้ง และไม่สามารถจัดการป้องกันอะไรได้ อีกทั้งบริหารงานก็มี 2 มาตรฐาน แก้ไข ชดเชยให้ ครั้ง 18 มีนาคม แต่ พอ 30 ธค. เคสเดียวกันทุกกรณี กลับเงียบ... มาตรฐาน การแก้ปัญหาการดำเนินงานอยู่ที่ไหน ไม่ออกมาชดเชยอะไรให้ ทั้งที่เป็นความผิด ของ บลจ กสิกรไทย KBank K-Gold ที่ไม่สามารถบริหารให้เป็นไปตาม หนังสือ ชี้ชวนและคำโฆษณาที่สวยหรูของคุณ ว่า ราคา อิง หรือ ใกล้เคียงตลาดโลก แล้ว จะเชื่อถือ บลจ กสิกร กองทุน K-Gold อีกต่อไปได้อย่างไร และการไม่รู้ว่าจะแจ๊คพอทวันไหนคนที่จะลงทุนจะยอมกล้าเสี่ยงกันหรือครับ คราวนี้ ทางกองทุนฯต้องหาทางจัดการกับปัญหาเรื่องนี้และออกมาแก้ไข ดำเนินกาให้ผู้ซื้อวันที่ 30 ธค. เพราะมันเป็นช่องโหว่มากๆ กรณีนี้ มันจะมาอีกแน่นอน และ ช่องโหว่ที่ กสิกร หรือ บลจ อื่นๆก็ตามที่ลงทุนใน SPDR ไม่ดูแล นี้ ทำให้ผู้ซื้อ วันที่ 18 มีนาคม และ 30 ธันวาคม เสียหายอย่างใหญ่หลวง จากคุณ : Mr Thai Find เขียนเมื่อ : 17 ม.ค. 55 19:06:14

ความคิดเห็นที่ 38 SPDR = ทองเก๊ มันซื้อทองคำมาตุนจริงหรือเปล่าก้ไม่รู้ ราคาไหลไปตามอุปโลก ยิ่งตอนนี้ทองคำติดต้าน $1660 บ่อยๆ มันค่อนข้างชัดเจนว่า มีขาใหญ่สั่งให้ลากไป $1700   เพื่อให้ตัวเองหลุดดอย จากคุณ : everandever เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 55 06:05:06

ความคิดเห็นที่ 39 เราเข้ามาเอาใจช่วยคนที่ซื้อวันที่ 30 ธค ถ้าเป็นเราเราก็คงไม่ยอมเช่นกัน จากคุณ : เอสเพรสโซ่ไม่หวาน เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 55 10:50:02

ความคิดเห็นที่ 40 ของ KF เราโดนนิดหน่อย วันนั้นเราซื้อไปห้าพัน จากคุณ : Cuddle เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 55 11:18:09

ความคิดเห็นที่ 41 มาลงชื่อผู้เสียหายด้วยคน 18มีค. ยังไม่ได้เข้าวงการ แต่30ธค.นี่โดนเต็มๆ จากคุณ : demoney เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 55 12:03:35

ความคิดเห็นที่ 42 ว่าจะเข้าไปเล่นซะหน่อย กำลังศึกษาข้อมูล เลยไม่กล้าเล่นเลย หุหุ จากคุณ : thaiMBA เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 55 21:36:56

ความคิดเห็นที่ 43 คำถามว่ากองทุนเสียหายหรือเปล่าสำหรับการที่ราคาขึ้นไปขนาดนั้น เค้าคิดราคาปิดให้คนซื้อหน่วยลงทุนก็จริง แต่ตัวกองทุนเองที่ซื้อ spdr เป็น etf เค้าไม่จำเป็นต้องได้ราคาตอนปิดนี่ครับ ถามแค่ว่าถ้าราคา spdr มันเกิน nav ไปมาก ผู้จัดการกองทุนไหนไล่ซื้อ ผมว่ามันผิดปกตินะครับ  เรื่องเข้าเนื้อผมว่ายากกกกกก โชคดีผมไม่ได้ซื้อขายวันนั้น ขาดทุนมันเกิดขึ้นได้ครับ ตามกลไกตลาด แต่กรณีนี้ ผมว่ามันไม่ชอบมาพากลครับ ปล. คุณ คห.13 ถ้าจะหมายถึงเรื่องหมิ่นประมาท คนที่มีส่วนได้เสียเค้ามีสิทธิพูดหรือเขียนไปตามที่เข้าใจครับ กรณีนี้เค้าเสียหาย เค้ามีสิทธิเขียนครับ จากคุณ : tonmai08 เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 55 05:46:42

ความคิดเห็นที่ 44 ผมคิดว่าตอนนี้ลูกค้า KGOLD เริ่มทยอยลาขาดกันแล้ว ผมได้เปิดบัญชีที่ธนชาติเรียบร้อย รอยอดคลื่นลูกนี้ก็ขายปิดบัญชีเลย                  จำนวนหน่วย 12/29/2011 1,617,632,747 12/30/2011 1,650,444,428 01/04/2012 1,676,436,522 01/05/2012 1,669,735,484 01/06/2012 1,673,128,159 01/09/2012 1,674,745,209 01/10/2012 1,675,112,605 01/11/2012 1,673,031,889 01/12/2012 1,670,905,503 01/13/2012 1,667,767,658 01/17/2012 1,668,196,693 01/18/2012 1,663,943,227 01/19/2012 1,660,359,998 จากคุณ : เฟยหลง (Shotaro) เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 55 23:01:50

ความคิดเห็นที่ 45 มันจะยิ่งเลวร้าย เรื่องไม่จบง่ายๆหรอกครับ หากไม่ออกมาทำอะไร ทำเพิกเฉยอยู่แบบนี้ จากคุณ : Mr Thai Find เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 55 00:34:14

ความคิดเห็นที่ 46 สงสัยต้องรีบหนีกอง K gold กสิกรก่อน ท่าไม่ดีทั้งการบริหาร ความน่าเชื่อถือ เผลอๆกองทุนเจ๊ง ต้องปิดกองหรือเปล่าเนี่ย จากคุณ : yoongying เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 55 10:01:36

ความคิดเห็นที่ 47 สงสัยบางท่านจะลงทุนไปเยอะในวันนั้น ถึงตามเรื่องตามราวแบบนี้ แต่สุดท้ายคิดว่าหลายๆบลจ.ไม่น่าออกมารับผิดอะไร ทางบลจ.ต่างๆชี้แจ้งไว้อย่างชัดเจนแถมยังมีตัวเลขประกอบที่แท้จริง เราก้อเข้าใจคะ เราโดนไปนิดเดียวคะ สำหรับ K gold คิดว่าหลายท่านที่ซื้อวันนั้นเพราะอยากได้เงินปันผล แต่ดันไม่มีเงินปันผลด้วยรอบนี้ โดนหนักเลย ยังไงเอาใจช่วยคะ จากคุณ : naseros เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 55 10:15:24

ความคิดเห็นที่ 48 ลูกค้าKGOLDไปที่ไหนกัน เลือดไหลไม่หยุดแล้ว                จำนวนหน่วย 12/29/2011 1,617,632,747 12/30/2011 1,650,444,428 01/04/2012 1,676,436,522 01/05/2012 1,669,735,484 01/06/2012 1,673,128,159 01/09/2012 1,674,745,209 01/10/2012 1,675,112,605 01/11/2012 1,673,031,889 01/12/2012 1,670,905,503 01/13/2012 1,667,767,658 01/17/2012 1,668,196,693 01/18/2012 1,663,943,227 01/19/2012 1,660,359,998 01/20/2012 1,647,845,931 จากคุณ : เฟยหลง (Shotaro) เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 55 20:21:38

ความคิดเห็นที่ 49 จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้เบียดเบียนบวก10%ซึ่งกันและกันเลย... (สำหรับลุ้นตอนซื้อ) จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้เบียดเบียนลบ10%ซึ่งกันและกันเลย... (สำหรับลุ้นตอนขาย) วันดีคืนดีถ้ามีคนทุบราคาที่สิงคโปร์ ราคาNAVมันจะเป็นยังไงกันนะ อยากรู้จริง จากคุณ : เด็กผี2522 เขียนเมื่อ : 22 ม.ค. 55 02:32:15

ความคิดเห็นที่ 50 ถ้าวันนั้น จขกท ขาย จะมาโวยวายไหม แล้วจะเอาเงินส่วนที่เกินมาคืนไหม อย่าเอาแต่ได้ครับ อ่านหนังสือชี้ชวนให้ชัด การลงทุนในหน่วยลงทุนมิใช่การฝากเงิน และมีความเสี่ยงของการลงทุน จากคุณ : ZERO LOSS1 เขียนเมื่อ : 22 ม.ค. 55 06:38:18

ความคิดเห็นที่ 51 รอขายทิ้งอย่างเดียว จากคุณ : ทะลเรียบถึงมีคลื่นเล็กน้อย เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 55 11:04:22

ความคิดเห็นที่ 52 เข้าใจคำว่า โฆษณาไม่เป็นตามที่โฆษณาไว้ไหมครับ คุณ คห 50 เรามีสิทธิ์เรียกร้อง มีสิทธิ์ของเรา คุณจะเที่ยวเอาคำด่าของคุณ ไปด่าใครต่อใคร ตัดสิน ใครต่อใครไม่ได้หรอกครับ คิดให้ดีก่อนโพสนิดนึง จากคุณ : Mr Thai Find เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 11:42:58

ความคิดเห็นที่ 53 คนที่เอากฎที่ฝ่ายขายเขียนขึ้นมา สงสัยจะไม่เข้าใจคำว่า คุณธรรมและจริยธรรม คนสมัยนี้เป็นเอามากนะ ที่จะยึดติดกับตัวหนังสือโดยไม่คำนึงถึงความถูกต้อง และความเสียงที่ว่านี้ เป็นความเสีี่ยงที่นักบริหารกองทุน สมควรมอบให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนเหล่านี้หรือครับ ที่อยากเห็นคือ การผิดพลาดคราวนี้ เขาแก้ไขอย่างไร จะเห็นได้ว่าเค้าแค่เขียนว่าเขาไม่ผิด ผู้ลงทุนต้องรับความเสี่ยงเอง แล้วจะลงทุนกับกองทุนทำไม ให้เสียค่าบริการในความเสี่ยงที่สูงกว่าปรกติขนาดนั้นละครับ สู้ไปเลือกกองทุนที่รับได้กับความเสี่ยง ที่ไม่มีเหตุการผิดปรกติไม่ดีกว่าหรือ คนมีเงินเยอะจะรู้จักการลงทุน และรับควงามเสี่ยงได้มาก แต่คนที่เก็บเล็กผสมน้อย แล้วมาซื้อในวันนั้น (คนเก็บเล็กผสมน้อยส่วนมากไม่ยอมขายขาดทุนหรอกจ๊ะ) สมควรที่จะโดนเอาเปรียบเช้นนี้เรื่อยไปหรือ จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 55 07:24:33

ความคิดเห็นที่ 54 ราคาวันนั้นมันเกินไปไง ใครที่ทำให้เกิดเหตุการณ์นี้ เลวมาก จากคุณ : mochay เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 55 07:57:02

ความคิดเห็นที่ 55 เห็นด้วยกับ คห.54 ทุกประการ จากคุณ : เด็กผี2522 เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 55 13:02:34

ความคิดเห็นที่ 56 หากทองคำไม่ไปแตะ $1700 อีกเลย แถมลงไปแตะ $1300 ก่อน ผมว่าเค้าโครงเรื่องความขี้โกงจะดูชัดเจนมากขึ้น อย่างที่ผมบอกไปว่ามีขาใหญ่ติดดอยที่ $1660 จำนวนมาก แก้ไขเมื่อ 25 ม.ค. 55 19:40:47 จากคุณ : everandever เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 55 19:37:08

ความคิดเห็นที่ 57 บลจ.กสิกรไทย เปิดตัวแผนปี 2555 ภายใต้การนำทัพของ “อำพล โพธิ์โลหะกุล” ตั้งเป้า 3 ธุรกิจกองทุนโต 22% พร้อมตอบโจทย์ลูกค้าแบบตรงใจในคอนเซปท์ “กองทุนสำหรับคนคิดบวก” http://www.thaipr.net/finance/382509 http://www.corehoononline.com/index.php/บลจ.กสิกรไทย-เปิดตัวแผนปี-2555-ภายใต้การนำทัพของ-อำพล-โพธิ์โลหะกุล-ตั้งเป้า-3-ธุรกิจกองทุนโต-22.html แก้ไขเมื่อ 28 ม.ค. 55 18:12:21 จากคุณ : Spetsnaz เขียนเมื่อ : 28 ม.ค. 55 18:11:29