เคราะห์ซ้ำกรรมซัด ตั้งแต่ออกหุ้นเพิ่มทุนที่สิงคโปร์ ราคาก็ลดต่อเนื่องไปจนภึง 14 บาท
การเพิ่มทุนแบบนี้ เค้าเรียกว่าอะไรนะ PP หรือเปล่า เป็นการเพิ่มทุนที่ไม่ได้ระดมทุนในตลาด
เหมือนจะดี เพราะ พวกเราเหล่าแมงเม่า ไม่ต้องเพิ่มเงินเข้าไป แต่ มันก็ทำให้ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของใครบางคน สัดส่วนหรือเปอร์เซ็นต์ผู้ถือหุ้นลดลง
อย่างนี้มันต้องทุบ กดหุ้นลงจะได้สะสมหุ้นพวกคงสัดส่วนจำนวนหุ้นให้เท่าเดิมหรือมากกว่า หุ้นก็ร่วงลงไปเล่นแถว 27-29 บาท
และแล้ว สึนามิถล่มญี่ปุ่น อ้าวกรรม ทั้งเม่าทั้งจ้าวต่างเทขาย หุ้นก็ร่วงไปเกือบแตะ 23 จากนั้นทุกคนก็เชื่อในความสามาถของญี่ปุ่น ว่ามีผลแค่ระยะสั้น ญี่ปุ่นฟื้นตัวเร็ว เดี๋ยวกำลังผลิตก็กลับคืนมา ราคาก็วิ่งขึ้นไปเล่นแถว 28-29 ในเวลาอันสั้น ผลประกอบการ ไตรมาสต 1 ไตรมาส 2 ได้กำไรมากขึ้นกว่าช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาเสียด้วยซ้ำ ราคาก็สามารถไปแตะที่ 31 ได้ในช่วงสั้นๆ
แต่ราคายางพาราก็ร่วงลงมาเรื่อยๆ อนิจา STA สต๊อคยางไว้เยอะ ในช่วงยางแพง กรรมซ้ำด้วยมหาอุทกภัย กำลังผลิตรถยนลดลงกว่า 70% ของปีที่ผ่านมา ผลงาน ไตรมาส 3 ขาดทุนย่อยยับ ผลจากการที่สต๊อคยางในราคาแพง
ราคาก็เลยวิ่งลงมาแตะ 14.xx บาท ให้เห็นกันจะจะ เม่าร้องระงมรวมทั้งผม
ผู้บริหารต้องแก้เกมเพื่อฟื้นบริษัท ออกหุ้นกู้ถึง 2000 ล้าน เพื่อสต๊อกยางในช่วงราคาถูกๆอีกครั้ง เพื่อเอายางไปปล่อยในไตรมาส 1-2 ของปี 55 บวกกับ ไร่ยาง STA เริ่มกรีดเองได้แล้วบางส่วน
ให้สังเกตดูว่า STA กำไรลดแต่รายได้ไม่ลด รายได้ทั้งปีของปี 53 อยู่ที่ 85,599 ล้านบาทกำไร 3,852 ล้านบาท แต่ รายได้ 9 เดือนของปี 54 อยู่ที่ 106,548 ล้านบาท กำไร 1,953ล้านบาท จะเห็นว่า กำไรลดแต่รายได้ไม่ลด ลูกค้า STA ไม่ได้หายไปไหน มีแต่ขยายตัวเพิ่มขึ้นๆ
ใครที่คิดว่าอนาคตยางสังเคราะห์จะมาแทนยางจริงให้คิดไหม่ มีแต่ยางจริงจะไปแทนยางสังเคราะห์ เพราะยางพาราปลูกบนดิน ไม่มีวันหมด แต่วัสดุสังเคราะห์ มีน้ำมันเป็นส่วนประกอบ มีวันหมดได้
และใครบางคน ที่สัดส่วนการถือหุ้นลดลงจากการออกหุ้นให้สิงคโปร์ ก็สะสมหุ้นได้มากพอแล้วสินะ ข่าวยางขึ้นราคาก็กลับเข้ามา
ถึงเวลาเห็น STA ที่ 40 บาท แล้วสินะ
แก้ไขเมื่อ 23 ม.ค. 55 07:53:47
จากคุณ |
:
หมอคานู
|
เขียนเมื่อ |
:
23 ม.ค. 55 07:47:15
|
|
|
|