|
ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
- บุคคลธรรมดามีเงินได้หลายทาง เงินเดือน รับเหมาทำงาน ดอกเบี้ยเงินฝาก เงินกู้ ค่าเช่า ฯลฯ โดยเงินเดือนเป็นรายได้ที่เสียภาษีสูงที่สุด เพราะติดเรื่องเพดานค่าใช้จ่าย 60,000 บาท ตามที่ คห.ข้างบนพูดมา ซึ่งถ้าใครรู้ความจริงข้อนี้ ก็จะพยายามหารายได้ที่ไม่ใช่เงินเดือน แต่คนที่ไม่รู้สัจจธรรมข้อนี้ก็จะพยายามทำเงินเดือนสูง ๆ คือฝากชีวิตไว้กับเงินเดือน หรือบางคนเพิ่งรู้แต่เดินทางมาไกลแล้ว ไม่อาจย้อนกลับไปเริ่มใหม่ได้
- การที่เงินเดือนต้องเสียภาษีสูง เป็นเหตุจูงใจให้เกิดการคอรัปชั่น ทั้งในภาครัฐและเอกชน เพราะรับในระบบเสียภาษี 30% แต่รับนอกระบบไม่ต้องเสียภาษี สังเกตุว่าการคอรัปชั่นส่วนใหญ่เกิดกับผู้ที่ทำงานกินเงินเดือนแต่ใช้อำนาจหน้าที่ในทางที่ผิด ทุกคนอยากเป็นคนดี แต่การเป็นคนดีมีต้นทุนสูงเกินไป
- บุคคลธรรมดาเสียภาษีสองต่อ ต่อที่หนึ่งคือภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ต่อที่สองคือภาษีมูลค่าเพิ่มซึ่งภาคประชาชนไม่สามารถเคลมภาษีคืนได้ เช่น ถ้าซื้อรถยนต์สักคันราคา 1 ล้านบาท ต้องจ่ายเงิน 1,070,000 (ราคารวม VAT 7%) ดังนั้นต้องหาเงิน 1,470,000 (โดยประมาณ) เพื่อเสียภาษี 400,000เหลือเงิน 1,070,000 จึงจะซื้อรถยนต์ได้ แต่ถ้าภาคธุรกิจหรือนิติบุคคล สามารถซื้อได้ด้วยเงิน 1 ล้านบาทเท่านั้น เพราะนอกจากจะเคลม VAT ได้แล้วยังสามารถหักภาษีได้ด้วย ดังนั้นถ้าเพื่อความเท่าเทียมกัน น่าจะยอมให้บุคคลธรรมดานำ VAT มาลดหย่อนภาษีได้ด้วย เช่น ทั้งปีซื้อของไป 1 ล้านบาท จ่าย VAT 70,000 บาท ถ้าต้องเสียภาษี 100,000 บาท ก็เสียแค่ 100,000 - 70,000 เหลือ 30,000 เพราะเงิน 70,000 ได้จ่ายไปแล้วตอนซื้อของเสีย VAT และวิธีนี้จะช่วยสรรพากรเรื่องการค้านอกระบบ เพราะประชาชนจะเห็นประโยชน์ว่า VAT มีประโยชน์อย่างไรจึงพยายามจะซื้อของในระบบให้มากที่สุด หรืออย่างน้อยเคลม VAT คืนได้สัก 50% ก็ยังดี
- ประชาชนยังไม่ค่อยมีความรู้เรื่องภาษี บางครั้งหากพูดเรื่องการวางแผนภาษีจะถูกตำหนิว่าเป็นคนโกงบ้าง ไม่รักชาติบ้าง พูดได้แค่หาค่าลดหย่อนประกันชีวิต LTF/RMF เลี้ยงดูพ่อแม่ เลี้ยงดูบุตร ฯลฯ แต่หากพูดทางเทคนิคที่ลึกกว่านั้น เช่น เปลี่ยนการรับรายได้จากเงินเดือนเป็นค่าวิชาชีพจะทำให้เสียภาษีน้อยลง ก็จะถูกตำหนิว่าเป็นคนไม่ดี (บางวิชาชีพทำกันเป็นล่ำเป็นสันอยู่แล้ว เช่น แพทย์ ที่จะไม่รับเงินเดือนแต่รับเป็นค่าวิชาชีพแทน และมีการจดคณะบุคคลขึ้นมาอีก) ทั้งที่ความจริงภาษีเป็นค่าใช้จ่ายที่สูงที่สุดในชีวิต แต่กลับเป็นสิ่งที่ต้องห้ามที่จะพูดถึง การประหยัดค่าใช้จ่ายของครอบครัวก็คือการประหยัดภาษีนี่แหละ แต่ทุกวันนี้ทำได้แค่กินน้อย ใช้น้อย แต่จ่ายภาษีเต็ม
- เพราะประชาชนไม่ค่อยรู้เรื่องภาษี เวลาถูกเจ้าหน้าที่สรรพากรเรียกคุยจึงไม่ค่อยมีปากเสียง เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ใช้ตำแหน่งหน้าที่ในทางที่ผิดในการรีดภาษีจากประชาชนผู้ไม่รู้ บางคนบอกสรรพากรจะเอาเท่าไหร่ก็ต้องจ่ายเท่านั้น แต่ความจริงสรรพากรเถียงได้ และไม่ต้องไปกลัว แต่หากประชาชนไม่มีความรู้จะกลายเป็นเบี้ยล่างตลอด
- เพราะประชาชนไม่ค่อยรู้เรื่องภาษี จึงมักจะทำอะไรโดยที่ไม่รู้ว่ามีกฏระเบียบเรื่องภาษีซ่อนอยู่ และมักจะรู้ตัวเมื่อเกิดปัญหาขึ้น เช่น ถ้าเงินเดือนสูง หรือรับเงินพิเศษมา ต้องจ่ายภาษีสูง พอครบปีคำนวณภาษีออกมาเพิ่งรู้ว่าต้องจ่ายสองแสนเป็นต้น จะย้อนกลับไปหาค่าลดหย่อน เช่น กองทุน ประกัน ฯลฯ ก็ทำไม่ได้แล้ว เพราะข้ามปีภาษีมาแล้วและเพิ่งรู้ว่าต้องเสียมากขนาดนี้ ถ้าจะอนุโลมให้หาค่าลดหย่อนย้อนหลับได้จะดีมาก เช่น ซื้อประกันหรือกองทุนปีนี้แล้วขอใช้สิทธิ์ลดหย่อนของปีที่แล้ว เพราะปีที่แล้วไม่รู้ว่าจะโดนหนักขนาดนี้ แต่ตอนนี้อ้อยเข้าปากช้างแล้ว
- กฏหมายภาษีหลายข้อยังมีความคลุมเคลือ จึงใช้วิจารณญาณของเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในขณะนั้น จึงเป็นสาเหตุของปัญหาหลายประการ และหากเจ้าหน้าที่ใช้วิจารณญาณไม่เหมาะสม จะเสียภาพพจน์ของกรมสรรพากร ตัวอย่างที่เคยเกิดขึ้นเช่น กรณีผู้ค้าหวยบนดินถูกรีดภาษีย้อนหลัง ได้มีเจ้าหน้าที่ในระดับรองอธิบดีพูดออกทีวีว่าให้จ่ายมาก่อน และหากมีการเปลี่ยนแปลงจะคืนให้ ไม่ทราบว่าคนพูดมานั่งในตำแหน่งรองอธิบดีได้อย่างไร ระบบการคัดเลือกบุคคลากรหรือการพิจารณาแต่งตั้งมีปัญหาหรือไม่ ยังมีกรณีเช่นนี้อีกหลายอย่าง แต่ไม่ได้ออกทีวี และจะเห็นว่าในกรณีเดียวกัน เจ้าหน้าที่สรรพากรก็พูดไม่เหมือนกัน นั่นเพราะกฏหมายคลุมเคลือ เจ้าหน้าที่จึงพยายามพูดให้รีดภาษีได้มากที่สุด
- ในอดีตประกันสามารถลดหย่อนได้ ทั้งประกันชีวิตและประกันสุขภาพ แต่ปัจจุบันให้ลดหย่อนเฉพาะประกันชีวิตอย่างเดียว กลายเป็นว่าประชาชนไม่มีสวัสดิการเรื่องค่ารักษาพยาบาล ต้องตายหรือพิการก่อนถึงจะได้สิทธิ์นั้นจากประกันชีวิต ดังนั้นถ้าจะมีนโยบายว่าประกันสุขภาพลดหย่อนภาษีไม่ได้ ก็ควรแลกด้วยการให้ประชาชนนำใบเสร็จค่ารักษาพยาบาลมาลดหย่อนได้โดยตรงเลย โดยที่ไม่ต้องผ่านการทำประกันสุขภาพ เช่น ถ้าไปหาหมอที่โรงพยาบาล จ่ายไป 20,000 บาท ก็เอาใบเสร็จนี้มาลดหย่อนเลย เป็นการให้สวัสดิการกับประชาชนโดยตรง ไม่ต้องผ่านบริษัทประกัน
- ประชาชนบางคนเสียภาษีในจำนวนเงินที่สูง โดยที่รัฐไม่สามารถบอกได้ว่าถ้าจ่ายภาษีสูงแล้วจะได้อะไรคืนในรูปธรรม หรืออย่างน้อยเวลาเลือกตั้งให้มีสิทธิ์มากกว่าคนอื่น เช่น ทุก 20,000 บาทที่คุณเสียภาษีเข้ามาคุณมีสิทธิ์เพิ่มขึ้นอีก 1 เสียง เป็นต้น เพราะปัจจุบันชนชั้นกลาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งมนุษย์เงินเดือนเสียภาษีในอัตราสูงที่สุด ทั้งภาษีเงินได้และ VAT ซึ่งเคลมไม่ได้ แต่ก็มี 1 เสียงเท่ากัน ซึ่งกระทบภาพรวมว่าที่มาของรัฐบาลซึ่งเป็นผู้บริหารเงินภาษีประชาชน ไม่สอดคล้องกับที่มาของเงินภาษี จึงกลายเป็นปัญหา "คนต่างจังหวัดตั้งรัฐบาล คนกรุงเทพล้มรัฐบาล" เพราะรัฐบาลมีนโยบายรีดภาษีชนชั้นกลางไปซื้อเสียงชนชั้นล่างนั่นเอง เพราะเป็นวิธีรักษาฐานเสียงที่ง่ายที่สุด (หรืออาจจะมีการชดเชยให้กับผู้เสียภาษีสูง ๆ ในรูปแบบอื่นก็แล้วแต่ แต่ปัจจุบันเสียภาษีน้อยหรือมากก็ไม่ได้อะไร)
(หวังว่าคงเป็นประโยชน์กับ จขกท. บ้างนะครับ)
จากคุณ |
:
TLL01
|
เขียนเมื่อ |
:
25 ม.ค. 55 13:38:40
|
|
|
|
|