สำหรับนักลงทุนที่ดู money talk คืนนี้และคืนพรุ่งนี้ครับ
|
|
สืบเนื่อง จากรายการ moneytalk ทาง tnn2
ที่ออกอากาศไปแล้ว และจะฉายซ้ำ วันพรุ่งนี้ เวลา 23.00 น.ครับ
เนื่องจากผมเข้าใจผิด นึกว่ารายการจะมีอีกตอนนึง
เลยเก็บส่วนอธิบายการจัดการความเสี่ยงไว้ตอนท้าย
จึงขออนุญาตมาอธิบายเพิ่มเติมตรงนี้ครับ
นอกจากการเลือกหุ้นที่สามารถผ่านมรสุมได้แน่
ผมมีการจักการ บริหารความเสี่ยง port ดังนี้
ช่วงที่ผมลงทุน มี 4 ช่วงครับ
****************************************************************
ช่วงแรก ช่วงตั้งไข่
ผมเริ่มลงทุนใน psl เงินลงทุนยังไม่มาก จึงซื้อด้วยเงินทั้งหมดและยืมเงินเดือนในอนาคต มาซื้อหุ้นก่อน
ประมาณว่ามีปัญญาจ่ายหนี้ และเป็นการกู้เงินมาลงทุนจากคุณแม่ 200000
เบ็ดเสร็จ มีหุ้น psl ประมาณ 30000 หุ้น ที่ต้นทุน 17 บาท
คือซื้อตอนขึ้นตลอดทาง ตั้งแต่ 10 ถึง 25 บาท
เท่าที่เงินเดือนจะออก ในตอนนั้น
จึงไม่มีความเสี่ยงจากการกู้
***********************************************************
ช่วงที่สอง เป็นช่วงเร่ง port
ช่วงนี้เป็นช่วงที่อันตรายที่สุดในชีวิต
ผมซื้อหุ้น acl ที่ราคา 4 บาท ประมาณ 2 ล้านหุ้น โดยเป็นเงินกู้ประมาณ 3ล้านบาท
แล้ววางแผนในการบริหาร margin ว่าหากหุ้นเริ่มลง เราจะทยอยขาย ช่องละ 20000 หุ้น (ใช้แนวคิดบริหารแบบ dsm)
และหลังจากนั้น ราคาหุ้นได้เริ่มลง เราก็ทำตาม แต่เราลืมนึกถึงสภาพคล่อง จึงทำให้ผิดแผน
แต่ก็ทยอยขายไปเรื่อยๆ จน 2 บาท และได้ทำบัญชีไว้ หลังจากนั้น ต้องหาเงินกู้มาโปะหนี้สิน ประมาณ 1.5 ล้านบาท
เมื่อเครียเสร็จ เราก็วางแผน ซื้อกลับ ทุก lot ที่ขายไป ช่องละ 20000 หุ้น ในตอนที่หุ้นขึ้น จนถึง5บาท
และเผื่อเหตุการณ์ว่าขึ้นและลงไว้แล้ว ว่าอย่างไรก็สามารถรักษาสภาพ port ได้อย่างแน่นอน ไม่มีโอกาสโดน call margin
จึงเท่ากับเรากำไรทุก lot ที่ขาย เป็นเหตุการณ์เดียวที่จัดการ margin อย่างอันตรายที่สุด
เพราะได้ซื้อในปริมาณมากตั้งแต่เริ่มต้น เนื่องจากไม่ได้คิดถึง สภาพคล่อง
*********************************************************
ช่วงที่ 3 ลงทุน jas
ณ จุดเริ่มต้น ผมเข้าซื้อ jas ที่ราคา ไม่เกิน 0.45
โดยกู้ margin โดยคำนวนว่าหากหุ้นราคาตกลงไป
เราสามารถถอนเงินจาก od ด้วยการเอาบ้านทุกหลัง ของครอบครัวไปค้ำเพิ่ม
ทำให้ปลอดภัยจากการโดน call margin หากราคา jas ไม่ต่ำกว่า 0.25
และได้วางแผน ทยอยซื้อ ตั้งแต่ 0.5 0.55 0.6 ไปจนถึง 1 บาท
ในปริมาณที่ปลอดภัย คือมีการวางแผนอย่างรัดกุม จึงไม่มีโอกาสโดน call margin
และหากราคาเกิดเปลี่ยนทาง ผมจะดึง หุ้นออกบางส่วนทันที
โดยมี step ขายตลอดทางลงเช่นกัน (หากเกิดขึ้น)
การลงทุนใน dtac ภายหลังก็ใช้วิธีนี้เช่นกันครับ
*********************************************
ช่วงที่ 4 ช่วง play safe
ผมเริ่มลงทุน หุ้นตัวหนึ่ง โดยเป็นตัวหลัก จะใช้เงินสดทั้งหมด
แต่จะเริ่มกระจาย margin ไปยังหุ้นที่ เรามองว่าดี แต่อาจจะยังไม่ถึงเวลาขึ้น
เพื่อ หลังจากที่เราได้ขายหุ้นตัวหลัก เราก็จะใช้หนี้ได้ และซื้อหุ้นเพิ่มในภายหลัง
ซึ่งวิธีนี้ คือ ที่ผมใช้อยู่จึงบอกได้ว่าปลอดภัยมาก เพราะ ได้กันราคาไว้ลึกมาก
หากคิดเป็นสัดส่วน ได้ว่า เงินทุน 85 เงินกู้ 15
ดังนั้นหากมีการผิดพลาด ผมเพียงขายหุ้นบางส่วนก็ไม่เหลือหนี้แล้วครับ
และผลคือ ผมได้ผลตอบแทนที่ดีกว่าใช้เงินสด 17% ในขณะที่ความเสี่ยงเท่าเดิมครับ
*****************************************************
ในด้านการวิเคราะห์พื้นฐานหุ้น ผมไม่เคยวิเคราะห์พลาดครับ ไม่ใช่เพราะผมเก่งนะครับ
แต่เพราะผมลงทุนแต่สิ่งที่ผมเข้าใจทั้งหมดครับ สังเกตุจะเห็นว่าเป็นธุรกิจง่ายๆ ทั้งหมดครับ
******************************************
ผมค่อนข้างกังวลหลังจาก บันทึกเทปว่า จะทำให้ผู้ชมรายการเข้าใจผิดไปหมดในเรื่องของการใช้ margin
จึงขออนุญาต อธิบายตามนี้ครับ
อยากย้ำอีกครั้งครับ ว่า ผมเป็นคนขี้กลัวมากๆ
ดั้งนั้นผมทำอะไรจะวางแผนมาละเอียดมากครับ
นั่งคำนวน แผนการณ์ซ้ำแล้วซ้ำอีกตลอดเวลาครับ
และเวลาเกิดความผันผวน
ผมจะกลับมาดูexcel และทำตามแผนที่วางไว้ตลอดครับ
ไม่ให้อารมณ์ ควบคุมการ ซื้อขายเลยแม้แต่น้อยครับ
จากคุณ |
:
chinn
|
เขียนเมื่อ |
:
26 ม.ค. 55 00:13:21
|
|
|
|