ความคิดเห็นที่ 1 ที่เปิดพอร์ตกับธนาคารเพราะ 1. มีบัญชีอยู่แล้วทั้งเงินฝากและกองทุน นั่นคือมีประวัติในธนาคารและมีเงินอยู่ให้เขาเห็น    ไม่ต้องเตรียมเอกสารอะไรให้ยุ่งยาก หยิบบัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน สมุดเงินฝากยื่นให้เลย    แล้วนั่งรอเซ็นอย่างเดียว. ขอบอกว่ามาร์บริการดีมากจริงๆ ตรงจุดนี้ 2. ใกล้บ้านสะดวกเดินทาง. เรื่องเดินทางเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะทำให้เสียเวลามาก    หาโบรกใกล้ที่บ้านดีที่สุด. แต่ปัจจุบันเขาก็มีบริการนำส่งเอกสารถึงบ้านนะคะ       ปัจจุบันนี้ ดิฉันย้ายจากโบรกเดิม ก็ยังเลือกโบรกที่เป็นธนาคารอีก เพราะอยู่ใกล้บ้านและไม่มีขั้นต่ำค่ะ 3. การโอนเงินสะดวกปลอดภัย   รวดเร็ว โดยเฉพาะการโอนผ่านมือถือหรืออินเตอร์เนต หรือแม้แต่จะไป    ธนาคารด้วยตัวเอง ทุกช่องทางสะดวกหมด  เพราะใกล้บ้านไง. ขับรถไปถอนเงินสดในทันทีก็ได้เวลาต้อง    ใช้เงินเร่งด่วน จากคุณ : สุภาพสตรี เขียนเมื่อ : 29 ม.ค. 55 04:07:42

ความคิดเห็นที่ 2 เล่นหุ้นต้องมีเงินเย็นเจี๊ยบ ทำใจพร้อมจะสูญเสียได้ตลอดเวลา คือคนส่วนใหญ่ ซึ่งรวมดิฉันด้วย จะคิดว่าเล่นหุ้นได้เงินง่าย ยอมรับว่าง่ายจริง ได้เร็วและเยอะกว่าดอกเบี้ยแบงก์ทุกประเภท ก่อนหน้านี้ดิฉันได้แต่ฝากออมทรัพย์พิเศษ สลากออมสิน กองทุนทอง น้ำมัน กองทุนเปิดต่างๆ แต่การมาลงทุนกับหุ้น. ได้ผลมากกว่าจริง. วันละ 500 ขึ้นไปแน่ๆ หมายถึงหักค่าคอมมิชชั่นและภาษีแล้วนะคะ จริงๆได้เป็นหลักพันค่ะ นั่นคืิอดิฉันลองเล่นแบบเดย์เทรด เอาไวเข้าว่า. ซื้อเช้าขายบ่าย ได้สองช่องก็เอาล่ะ แต่ต้องอัดเงินทุนเยอะหน่อยจะได้ส่วนต่างเพิ่มขึ้น ต้องแล้วแต่จังหวะเข้าออกค่ะ ไม่ได้ทุกวันอย่างใจหวัง จากคุณ : สุภาพสตรี เขียนเมื่อ : 29 ม.ค. 55 04:19:11

ความคิดเห็นที่ 3 อย่าเชื่อมาร์ค่ะ ในช่วงแรกที่ดิฉันเล่นไม่เป็น จะโทรถามมาร์ตลอด ซึ่งน้องเขาแนะนำดีนะคะ. แต่ทีไม่ให้เชื่อนั่นคือไม่ให้เชื่อทั้งหมด การที่เราจะซื้อหุ้นตัวไหนในใจ มองหุ้นไว้  ศึกษา+สัญชาติญาณของตัวบางส่วน แล้วค่อยตัดสินใจซื้อด้วยตัวเอง เชื่อมั่นว่าไม่ผิดหวังแน่นอน มาร์มักจะเบรกดิฉันไม่ให้ซื้อหุ้นบางตัว หรือเชียร์อีกตัว ที่ทำให้ดิฉันเก็บเป็นประสบการณ์จนถึงทุกวันนี้ หุ้นที่ไม่ได้ซื้อเป็นหุ้นพื้นฐานดีอย่างบ้านปูที่ลงไปต่ำสุดที่566 อันนี้แสนเสียดายมาก ส่วนหุ้นที่เชียร์จะเป็นหุ้นเก็งกำไรที่วิ่งไปถึงไหนแล้ว แต่บอกว่าลองเล่นดู โดนไปสองตัว ขาดทุนและตัดสินใจขายทิ้งไปแล้ว ตรงนี้ได้วิธีทำใจว่า ขายทิ้งไปเถอะหาตัวใหม่เล่นดีกว่าเสียเวลารอ ตรงนี้เชื่อว่าเป็นการให้วัคซีนในการเล่นหุ้นเบื้องต้น  ซึ่งในอนาคตอาจจะเจอยิ่งกว่านี้จะได้ไม่ไหวหวั่น สรุปฟังมาร์แต่อย่าเชื่อและอย่าโทษมาร์. เพราะทุกอย่างอยู่ที่เราตัดสินใจซื้อขายเอง จากคุณ : สุภาพสตรี เขียนเมื่อ : 29 ม.ค. 55 04:35:20

ความคิดเห็นที่ 4 เล่นหุ้นมีเวลาให้กับหุ้น แต่เวลาชีวิตตรงอื่นหายไป. หาจุดเหมาะสมค่ะ ช่วงแรกที่เล่นหุ้น สนุกมาก. นั่งเฝ้าไอแพดทั้งวัน ตั้งแต่สิบโมงถึงเที่ยงครึ่ง แล้วเริ่มอีกทีเวลาบ่ายสองโมงครึ่งถึงสี่โมงครึ่ง ชีวิตตรงอื่นหายไป. เวลาให้พ่อแม่พี่น้องน้อยลง ที่สำคัญคือน้องแมวทั้งหลายชะเง้อมองจากในห้องว่าเมื่อไหร่จะเข้ามาเล่นด้วย ให้เวลาเขาเฉพาะตอนให้อาหารและทำความสะอาดเท่านั้น รู้สึกแย่และเริ่มเครียดเพิ่มขึ้นทุกวัน เล่นหุ้นเนี่ยสะสมความเครียดนะคะ. เพราะว่าเราเริ่มไปคาดหวังกับผลตอบแทน เรียกง่ายๆว่าโลภนั่นแหละค่ะ ขายไปแล้ว พอหุ้นขึ้นไปอีกก็มานั่งเสียดายว่ารออีกนิดก็ดี ซื้อแล้วหุ้นลง ก็คิดอีกว่ารออีกหน่อยค่อยเข้าซื้อจะได้ราคาถูกกว่า เป็นกันทุกคนค่ะ. พอเสาร์อาทิตย์ที่ตลาดปิดดิฉันมาพิจารณาว่า ตัวเองเป็นอะไรเนี่ย เริ่มได้สติค่ะ ประกอบกับมาร์แนะนำให้จัดพอร์ตใหม่ ตัวเล็กตัวน้อยที่ได้กำไรให้กำจัดทิ้งไป เดี๋ยวไม่คุ้มค่าคอม. พอได้ยินตรงนี้ก็ล้างบางเลยค่ะ เบื่อคำว่าไม่คุ้มค่าคอมขั้นต่ำมาก. ขายทิ้งหมดทั้งกำไรขาดทุนรวมกัน เอาส่วนกำไรมาโปะขาดทุนก็ยังกำไรอยู่ แล้วจัดการตัวเองย้ายโบรก เพราะได้รับคำแนะนำจากสมาชิกในห้องนี้ค่ะ ตอนนี้รอไปที่ใหม่ต้นเดือนกุมภา ช่วงนี้ขอมีเวลาให้พ่อแม่พี่น้องแมวก่อนดีกว่า จากคุณ : สุภาพสตรี เขียนเมื่อ : 29 ม.ค. 55 04:53:54

ความคิดเห็นที่ 5 อ่านแล้วตรงกันเลยโดยเฉพาะเรื่องคุณภาพชีวิตที่เปลี่ยนไป ขนาดโบรกเลือกแบบไม่มีขั้นต่ำ ไม่มีอะไรให้ต้องคิดจุกจิก ยังเล่นแล้วอึดอัด ผมพึ่งเปิดพอทระยะเวลาใกล้ๆคุณ พยายามใช้ technical >fundamental เพราะเชื่อสัญญาณมากกว่าข่าวที่ปั่นได้ แต่ที่กำไรนั้นเต็มปากว่าเหมือนเดามา รู้ครึ่งๆ คิดว่าต้องหาคอสอบรมหรือไม่ก้อถามเกจิ และที่สังเกตคือ ไม่ว่าหุ้นจะขึ้นหรือลง จะมีคำอธิบายได้เสมอ ตอนนี้รู้แล้วว่าอยากลงทุนระยะกลาง-ยาว มากกว่า daytrade ขอบคุณที่แชร์กันครับ จากคุณ : เขียนบน iPhone (กังป๋วย) เขียนเมื่อ : 29 ม.ค. 55 07:02:19

ความคิดเห็นที่ 6 ลงทุนมาเกือบสองปี สรุปว่าระยะกลางถึงยาว สำหรับผมทำกำไรได้ดีที่สุดครับ และต้องใจหนักแน่น หาจังหวะดีๆเลือกหุ้นพื้นฐาน เทรดปีละสองสามครั้ง ทำกำไรดีกว่าเทรดตามกระแสครับ  เรื่องเวลาที่หาย มาตรฐานชีวิตที่เปลี่ยนอันนั้นจริง แต่แง่มุมที่มีประโยชน์ของการลงทุนก็มีมากเช่นกันครับ เราต้องจัดตารางชีวิตและวางแผนการเงินให้สมดุลจะทำให้โครงสร้างชีวิตของเราเข้มแข็งครับ หากเรามองการลงทุนคือการออม โดยใช้เงินออมมาต่อยอดในตลาดทุนและไม่ปะปนกับเงินค่าใช้จ่าย ไม่เล่นเก็งกำไรระยะสั้น ไม่เฝ้าสตรีมมิ่ง จะพบครับว่าหนึ่งปีผ่านไปเงินที่งอกงามขึ้นมาจะดูดีกว่าผลตอบแทนจากการออมแบบเดิมๆเยอะครับ   แก้ไขเมื่อ 29 ม.ค. 55 07:31:51 จากคุณ : ทองเนื้อเก้า เขียนเมื่อ : 29 ม.ค. 55 07:24:51

ความคิดเห็นที่ 7 ผมก็เข้ามา ระยะ เวลา ใกล้เคียงกว่า จขกท. ครับ ผมเข้ามาเมื่อปลายปี 54 ครับ ตั้งแต่เริ่มต้นกับการ เทรด ผมก็รู้สึกว่าไม่มีการลงทุนใดได้คุ้มค่ากว่านี้อีกเเล้วละครับ แต่ความเสี่ยงเยอะมาก ผมกำลังพยายามหา กราฟเทคนิคเข้่่าช่วยครับ เพราะว่าผมจะมักใจเร็ว ตัดสินใจเร็ว การซื้อการขาย เกิืดจากอารมณ์ ล้วนๆ ครับ ตอนได้เงินกำไร รู้สึกดีใจว่าเราเลือกถูกตัว..แต่พอตอนขาดทุน โลกใบนี้ช่างโหดร้ายกับผมเหลือเกิน..ตั้งแต่ผม เทรดมาได้เกือบ สามเดือน ตอนนี้ port ผมก็ัยังไม่โต เำพลอๆๆ ติดลบเอาด้วยซ้ำครับ..ผมก็หาข้อมูล เรื่อยๆๆ อ่านหนังสือ เอาอ่ะครับ เเล้วก็หาเก็บข้อมูลตามเว็บ blog ต่างๆ..ที่เข้ามาในตลาด ก็แค่อยาก "รวย" เเต่ ก็นะ ครับ..ไงก็เป็นกำลังใจ ให้ จขกท.นะครับ สู้ๆๆ  ครับ..สักวัน..ผมจะเป็นเม่าปีกทอง ให้ได้ ฮาๆๆๆๆๆๆ...^^ จากคุณ : MedicPusher เขียนเมื่อ : 29 ม.ค. 55 07:34:32

ความคิดเห็นที่ 8 ปกติทุกคนทำงานกันว้นละ 8 ชม.ทั้งนั้นครับ นี่ยังไม่รวมโอทีนะครับ ส่วนหุ้นใช้เวลาดูแค่ประมาณ 5 ชม.เองครับ..... ผมว่าได้เวลาชีวิตเพิ่มขึ้นมากกว่า มีเวลาทำสิ่งอื่นเพิ่มขึ้นด้วยครับ ขออภัยนะครับ  ที่ความเห็นเรื่องเวลาไม่ตรงกับ คุณ จขกท. อ้อ  ลืมไป 8 ชม. นี่ยังไม่รวมเวลาเดินทางไปทำงานนะครับ  ส่วนหุ้นดูกับบ้าน... แก้ไขเมื่อ 29 ม.ค. 55 08:15:07 แก้ไขเมื่อ 29 ม.ค. 55 08:13:57 จากคุณ : รูปหล่อหมาไม่กัด เขียนเมื่อ : 29 ม.ค. 55 08:06:57

ความคิดเห็นที่ 9 ตอนลงน้อยๆมักจะได้กำไร พอย่ามใจลงเยอะ นั่นและทั้งต้นทั้งกำไร หายวับ จากคุณ : หมอคานู เขียนเมื่อ : 29 ม.ค. 55 08:25:22

ความคิดเห็นที่ 10 ผมก็ครบสามเดือนพอดี เย๊ๆๆ. มีเพื่อนร่วมรุ่นแล้ว ตอนแรกผมก็ใช้โบรคเกอร์คล้ายๆ จขกท ครับ กำลังจะเพิ่มอีกโบรคเกอร์ที่ไม่คิดค่าขั้นต่ำ เพราะบางครั้งเราจะค่อยๆสะสมหุ้น ค่าขั้นต่ำจะบังคับให้เราเทรดตามขั้น ซึ่งบางครั้ง ทำให้เราได้ราคาสูงไปหน่อย และเจ้ามืออาจระแวง :)) พอร์ทผมเล็กๆครับ ซื้อเยอะๆก็ไม่ไหว กำลังพยายยามลด day trade ลงครับ รู้สึกใช้เวลามากเกินไป ทำงานด้วยแอบเทรดด้วย รู้สึกไม่ค่อยดี :) แก้ไขเมื่อ 30 ม.ค. 55 06:57:02 จากคุณ : กลิเอเซ่581อี เขียนเมื่อ : 29 ม.ค. 55 08:30:24

ความคิดเห็นที่ 11 ตอนนี้ไม่มีเวลาดูหุ้นเลยครับ  หมายถึง (นั่งดูตลอดวัน) อาศียพักเที่ยงเปิดไอโฟนดูหน่อย  แล้วหลังลิกงานกลับมาดูปิดตลาดอีกที ใครซื้อ ใครขายเท่าไหร่ จากคุณ : THE FINAL 2 เขียนเมื่อ : 29 ม.ค. 55 08:46:24

ความคิดเห็นที่ 12 พึ่งเริ่มมาได้ก่อนคุณสุภาพสตรีหน่ยนึงค่ะ เปิดตอนกลางปีที่แล้ว เลือกเปิดกะโบรกนี้เพราะใกล้บ้านเหมือนกัน เล่นแล้วต้องนั่งเฝ้า- อันนี้ต่อไปคิดว่าอยู่ที่แนวทางการเล่นค่ะ ถ้ากินปันผล รอการเติบโตก็ไม่ต้องเฝ้ามากก็ได้มั้ง แต่โดยส่วนตัวสนุก ตื่นเต้นกับการเฝ้าค่ะ บางทีก็ซื้อไม่ถึงขั้นตํ่า ก็เสียให้โบรกไป ( แอบสงสัย โบรกที่ใช้อยู่คิดจากมูลค่าการซื้อขายรวม30000 ฿ จากการซื้อและขายรวมกันนะคะ ยังไงลองสอบถามดูอีกทีไหมคะ ไม่งั้นเท่ากับต้องเทรดอย่ลงตํ่าซื้อ 30000+ขาย30000= 60000฿ /วัน??? ) ยังไงก็สู้ๆนะคะ ผลตอบแทนทุกอย่างอยู่นมือเราจัดสรรจริงๆ จากคุณ : iris at panad เขียนเมื่อ : 29 ม.ค. 55 09:08:44

ความคิดเห็นที่ 13 ชอบความเห็นที่6 ที่ว่า ไม่เฝ้าสตรีมมิ่ง  ซึ่งตรงกับผมเลยครับ ระยะเวลาที่ผมเล่นมาประมาณ 3เดือน ละสายตาจากหน่าจออย่างมาก ก็ 20 นาที จนปัจจุบันทั้งปวดตาและหัวมาก 3เดือนกับกำไร แต่สุขภาพดูไม่สู้ดีนัก จากคุณ : สมัครบนดอย เขียนเมื่อ : 29 ม.ค. 55 09:15:09

ความคิดเห็นที่ 14 เล่นหุ้นต้องอาศัยจังหวะ จังหวะในการเข้าซื้อ จังหวะในการเข้าขาย หุ้นพื้นฐาน ถ้าถึงระดับที่แพงต้องขาย แล้วรอซื้อ ไม่ต้องรีบ หุ้นจะมีวงจรในตัวของมันเอง ประมาทไม่ได้ครับแม้กระทั่งหุ้นพื้นฐาน จากคุณ : คนกับงาน เขียนเมื่อ : 29 ม.ค. 55 09:46:33

ความคิดเห็นที่ 15 เริ่มลงทุนหุ้นครบเดือนพอดีค่ะ หลังจากลงกองทุนมาหลายปี รู้สึกถึงความต่างกันตรงที่รู้ราคาขึ้นลงได้เลยไม่ต้องรอเหมือนกองทุน แต่ต้องเอาใจใส่มากขึ้น ส่วนตัวชอบเดย์เทรดแต่เวลางานรัดตัว ทำให้เปิดดูได้เฉพาะช่วงเที่ยงและตอนเย็น จึงกำลังมองหาหุ้นที่เก็บยาวได้และค่อยๆทยอยสะสม มาเป็นมือใหม่ด้วยกันค่ะ ส่วนตัวคิดว่าในระยะยาวผลตอบแทนน่าจะสู้กับเงินเฟ้อได้ดีกว่าวิธีอื่นๆ จากคุณ : jdar เขียนเมื่อ : 29 ม.ค. 55 10:00:26

ความคิดเห็นที่ 16 น่าแปลกใจที่หลายคน (โดยเฉพาะมือใหม่) ชอบเล่น daytrade  ทั้งๆที่มันยากที่สุด   ลองหาซ้ือ คัมภีร์หุ้น เล่ม2 สีแดง มาอ่าน จะรู้ว่าวิธีเล่นหุ้นมีหลายแบบ หรือ อยาก daytrade ในหนังสือก็แนะนำได้ดี (เล่มนี้หาซ้ือยากแต่ se-ed มี) จากคุณ : เบื่อวันศุกร์ เขียนเมื่อ : 29 ม.ค. 55 10:10:13

ความคิดเห็นที่ 17 แรกๆถือประมาณ1-2อาทิตย์มั้ง มีถือยาวแบบซื้อแล้วไม่ขายด้วย ถ้าขายก็ไม่ขายหมดพอร์ท หลังๆซ่าเดย์เทรด ไอ้นี่ทำขาดทุนไปเยอะ ข้อดีมันมีข้อเดียว ทำให้เราพยายามหาข้อมูลเพราะปัญหาเหมือนเกิดตลอดเวลา ตอนนี้คิดว่าข้อมูลมีพอสมควรแล้ว ที่เหลือก็คือพัฒนาประสิทธิภาพแล้วล่ะ ตอนนี้เริ่มถือนานขึ้น ถ้าเป็นไปได้อยากถือครึ่งเดือนเหมือนเดิม หรือนานกว่านั้นก็ได้ค่ะ คือดูกราฟวันน่ะ ไม่อยากเฝ้าจอแล้ว เพิ่งเริ่มไม่กี่วันเอง ขาดทุนน้อยกว่าเดย์เทรดซื้อเช้า ขายบ่ายหรือเย็นซะอีก เวลาก็เยอะขึ้น คือดูจอแค่20นาทีต่อวันเอง ทำการบ้านหลังตลาดปิดเอา(ตรงนี้ใช้เวลาเป็นชั่วโมง แต่หูฟังอย่างอื่นไปด้วย) หาหุ้นที่จะถือยาวเพิ่ม เรามี3ตัวที่ถือยาว พวกนี้ไม่ทำเราขาดทุน ขายได้กำไรตลอด ไม่ต้องเฝ้าจอ แทบไม่ต้องดูข้อมูลอะไรมาก ทั้งๆที่ตอนเลือกไม่ได้ดูกราฟ ไม่ได้ดูพื้นฐาน ถ้าพัฒนาไปอีกน่าจะดี คนทำงานวันละ8ชั่วโมง เดินทางไปกลับบางคนต้องใช้เวลาตั้ง3-4ชั่วโมง แต่ที่เรามาหาเงินกับตลาดก็เพราะอยากประหยัดเวลาด้วยส่วนหนึ่ง มองว่าไม่คุ้ม บ้านเรามีทำการค้า ต้องเฝ้าร้านกันเป็นปกติ แต่ถ้าไม่มีลูกค้าเราสามารถทำอะไรอย่างอื่นที่อิสระบริเวณหน้าร้านได้อย่างสบายใจ แต่หุ้นนี่มันไม่ใช่ ถ้าเฝ้าเดี๋ยวต้องมีคิดแน่ๆละ ราคาไปถึงไหนแล้ว ใครเอารถถังมาวางไว้ไหม ทำไมมันไม่ขึ้น พอเขียวๆหน่อยก็อยากให้มันขึ้น ลุ้นอีก ฯลฯ หนักๆเข้าก็ดูมันอยู่นั่นเป็นชั่วโมงๆ เวลาที่แสนมีค่าผ่านไปอย่างรวดเร็ว รู้สึกว่าลำบากกว่าเฝ้าร้านเยอะเลย อีกอย่างเฝ้าร้านมีคนผลัดกัน เราจะไปกินข้าว เข้าห้องน้ำ ไปซื้อของ นอนกลางวัน ฯลฯ ได้ทั้งนั้น เฝ้าจอนั้นฉายเดี่ยวค่ะ อยู่คนเดียวเงียบๆ อย่างเครียดๆ ถ้าจะให้เล่นสั้นสุดๆอีก ต้องฝีมือประมาณคุณม่อนนั่นแหละเราว่า ถึงจะคุ้ม ตอนนี้รู้แล้วว่าทำไมตอนนั้นคุณม่อนถึงบอก ถ้าเป็นมือใหม่ให้ไปเล่นหุ้นวีไอก่อน ฮ่าๆ จากคุณ : นางสาวคานทอง เขียนเมื่อ : 29 ม.ค. 55 10:21:10

ความคิดเห็นที่ 18 แนะนำให้ศึกษาการดูกราฟให้เป็นครับ ผมเป็นนักสถิติ แรก ๆ ก็งงเหมือนกัน แต่ก็พยายามดูจนเข้าใจและก็เริ่มปรับให้เข้ากับสิ่งที่เราชอบ ซื้อขายแรก ๆ ก็อึดอัดครับ เพราะขายแล้วขึ้นต่อเสียดาย หรือซื้อแล้วลงต่ออีก ตอนนี้เลยใช้วิธี ซื้อขายเป็นส่วน ๆ เพราะหุ้นจะขึ้นหรือลงก็สามารถซื้อขายได้กำไรมากแต่ไม่มากสุด และต้นทุนค่อนข้างต่ำ ค่าคอมพ์คิดจากซื้อ+ขายในวันครับ ถ้าเกิน 50 ก็คิดตามจริง ผมไม่ค่อยสนใจค่าคอมพ์ เท่าไร บางทีซ์้อแค่หมื่นสองหมื่นก็มี แต่ตอนขายต้องหักค่าคอมแล้วได้กำไร แต่ถ้าเห็นว่า ลงเยอะขาดทุนก็ต้องขายครับ ผมดูหุ้นวันละครั้งตอนเย็นหลังเลิกงาน เวลาอื่นก็เล่นเกมส์ ฟังเพลง จากคุณ : wildfire เขียนเมื่อ : 29 ม.ค. 55 10:36:10

ความคิดเห็นที่ 19 ฟังจากวิธีคิดที่คุณเีขียน คุณจะสามารถอยู่รอดไปภาวะตลาดขาขึ้น นะครับ ลองคิดถ้าภาวะตลาดขาลงสุดๆ จะทำอย่างไร เพราะเท่าที่อ่านคุณยังไม่ได้บอกวิธีเลือกหุ้นที่ถูกต้อง ซึ่งให้ผลตอบแทนได้ทั้งสภาวะตลาดขาขึ้นและขาลง ไม่อยากจะัขัด แต่อยากรู้วิธีการเลือกหุ้น ว่าตัวใดที่คุณซื้อ ดูอย่างไร เพราะเป็นตัวชี้วัดว่าคุณจะอยู่ในตลาดนี้ รอดปลอดภัย ตลอด จากคุณ : ไก่อลาสก้า เขียนเมื่อ : 29 ม.ค. 55 10:36:56

ความคิดเห็นที่ 20 มาคุยต่อค่ะ การเฝ้าหน้าจอเป็นอะไรที่สุดระทึก  ตื่นเต้นเร้าใจ  เลือดลมฉีดแรงดีมาก หัวใจเต้นจนแทบจะทะลุอกออกมา เมื่อก่อนดิฉันทำงานด้านการประมูลกับราชการ  พอออกจากงานก็ไม่ได้รับความตื่นเต้นแบบนี้อีก หัวใจมันเหี่ยวเฉา  พอมาเจอการเล่นหุ้นกลับคึกคักมีชีวิตชีวา   อาจจะเหมือนกับการนั่งรถไฟเหาะ  ตีลังกา  หรือเล่นบันจี้จั๊มพ์ ตอนที่ดูหุ้นแล้วเห็นไฟว๊าบ ๆ  โห...หฤหรรษ์จริง ๆ แต่สายตาเริ่มแย่ค่ะ  สมองก็มึน  เพราะเรานั่งดูมันตลอดเวลา  เสียสุขภาพจริงค่ะ ถ้าละสายตาปุ๊บ  หุ้นมันจะโดดได้   ขนาดหันไปรับโทรศัพท์คุยไม่ถึงนาที  หุ้นวิ่งลงจนพิมพ์ขายแทบไม่ทัน อีกอย่างห้ามเล่นเกมระหว่างเทรดหุ้น   เพราะทำให้จิ้มผิด  จากซื้อหุ้นกลายเป็นขายหุ้นในราคาต่ำสุด เคยมาแล้วหนึ่งครั้ง  เข็ดไปเลย โบรกที่ใช้อยู่คิดขายและซื้อ  เสียสองขาค่ะ ดังนั้นวันนึงถ้าซื้อขายพร้อมกัน  ดิฉันต้องทำเป้าให้ได้เกินหกหมื่นแน่นอน ซื้อสาม  ขายสาม บางทีก็เป็นแสนนะ  เล่นเองยังใจหายเลยว่าทำไมถึงใจกล้าเยี่ยงนี้ จากคุณ : สุภาพสตรี เขียนเมื่อ : 29 ม.ค. 55 10:53:42

ความคิดเห็นที่ 21 ตั้งใจว่าเดือนแรกเล่นหุ้นแบบแม่ค้า  แม่บ้าน   เอาแบบได้กำไรก็ขาย  ไม่ต้องคิดอะไรมาก  หักค่าคอมภาษีทุกอย่างเบ็ดเสร็จ ขอให้มีกำไร  เป็นค่าอาหารแมวสองกระสอบก็พอ กราฟดูไม่รู้เรื่อง  ช่างมัน   อาศัยหุ้นตกได้ราคาในใจก็ซื้อไว้ ซึ่งบางทีก็ตกลงไปอีกแต่ก็รอค่ะ แต่ศึกษาจากราคาหุ้นย้อนหลัง  และเอาไวเข้าว่า  ไฮสปีด อ่านข่าวทุกอย่าง  จากที่ไม่ชอบข่าวเศรษฐกิจ  การเมือง  ก็ขอให้ผ่านตาบ้าง ตื่นตีสี่ปุ๊บดูราคาทอง  น้ำมัน ก่อนทุกวัน  เพราะเล่นกองทุนไว้ได้ราคาที่คิดไว้ก็ขาย เพราะพี่สาวมักเตือนเสมอว่าอย่าโลภ  บางทีก็แอบเสียดายค่ะ แต่ปฎิบัติตามอย่างเคร่งครัด  ความโลภทำให้เราพลาด  อันนี้เรื่องจริง การเลือกซื้อหุ้นจะเป็นตัวที่ดิฉันเฝ้าตามมาตลอด   อยู่ในขอบเขตของ set50   ส่วนหุ้นเก็งกำไร  เห็นตัวไหนวิ่งจะโทรถามมาร์  ถ้ามาร์บอกว่าได้ก็วิ่งสู้ฟัดค่ะ จากคุณ : สุภาพสตรี เขียนเมื่อ : 29 ม.ค. 55 11:04:39

ความคิดเห็นที่ 22 เวลาที่หายไปสำคัญกับดิฉันมากค่ะ เพราะเงินที่ได้มาไม่สามารถชดเชยตรงนี้ได้ เลยตัดสินใจล้างพอร์ตเริ่มใหม่  คิดว่าเล่นระยะกลางและยาว อาจจะมีน้ำจิ้มแซ่บ ๆ บ้างในบางวัน  ที่อยากเล่นซื้อเข้าขายบ่าย แต่คงจะไม่มานั่งเฝ้าเหมือนเดือนมกราคม อาจเป็นเพราะดิฉันอายุมากแล้ว  ผ่านร้อนหนาวมาหลายรอบ เวลาปัจจุบันจึงเป็นของขวัญที่มีค่ามากที่สุดที่จะได้อยู่ร่วมกับครอบครัว ดิฉันอยู่บ้านตลอดค่ะ   อาจพาพ่อไปทานอาหารกลางวันอร่อย ๆ นอกบ้านบ้าง หรือพาพี่สาวไปชอปปิ้งหลังจากเสร็จงาน ระหว่างวัน ได้มีเวลากอดแมว   สำรวจเนื้อตัวเวลาอาบน้ำหมา  วิ่งเล่นกัน   ความสุขตรงนี้มีมากกว่าการได้รับเงินกำไรจากหุ้นค่ะ เห็นแววตาหมาแมวที่รอคอยเรา  แล้วถึงสำนึกผิดค่ะ จากคุณ : สุภาพสตรี เขียนเมื่อ : 29 ม.ค. 55 11:15:07

ความคิดเห็นที่ 23 ง่ายนิดเดียวครับ แต่ยากเยอะ จขกท.ต้องหาหุ้นประเภทที่มีส่วนต่างเยอะๆ ส่วนตกน้อยๆ ระหว่างทางยังมีปันผลให้ชุ่มใจ หากเจอรับรองว่า อาการมือคันจะหายเป็นปลิดทิ้ง ไปธุระได้อย่างสบายใจไม่ต้องนั่งดูสตรีมมิ่งบ่อยๆ หุ้นที่ว่า จขกท.ต้องกล้าซื้อในขณะตลาด Panic นะครับ และอย่าลงทุนกระจาย ลงแค่ไม่เกินสองหรือสาม ส่วนเพิ่มในพอร์ทจะทำให้ไฟในใจกลายเป็นน้ำแข็งครับ ซึ่งตอนนี้ผมเป็นอยู่ อิอิ จากคุณ : ทองเนื้อเก้า เขียนเมื่อ : 29 ม.ค. 55 11:25:20

ความคิดเห็นที่ 24 ขอบคุณที่มาแชร์ประสบการณ์ค่ะ แต่ขอแย้งเรื่องค่าคอมค่ะ จริงๆแล้วซื้อหรือขายให้เกิน 30000-32000 ค่ะแล้วแต่โบรคเค้าคิดค่าธรรมเนียมกี่เปอร์เซ็นต์ แต่ถ้าซื้อผ่านมาร์ 20000 บาทก็เกิน 50 บาทแล้วค่ะ ไม่จำเป็นต้องถึง 60000 บาท ถ้าคอมเกิน 50 บาท+vat แล้วก็คิดตามความจริงค่ะ แก้ไขเมื่อ 29 ม.ค. 55 15:48:37 จากคุณ : yuisan เขียนเมื่อ : 29 ม.ค. 55 15:48:01

ความคิดเห็นที่ 25  ชอบความเห็นที่  22  ครับ  เวลาที่เสียไปกับความสุขของครอบครัว เป็นกำลังใจครับ จากคุณ : THE FINAL 2 เขียนเมื่อ : 29 ม.ค. 55 15:58:27

ความคิดเห็นที่ 26 แรกๆผมก็เล่น day trade นะ แต่ยืนระยะไม่ไหว หัวใจมันจะวายเอา ลองผิดลองถูกไปเรื่อย ค่อยๆศึกษาเพิ่มขึ้นวันละนิดวันละหน่อย หาแนวทางการเล่นที่เหมาะกับตัวเอง สุดท้ายเลยมาจบที่เป็น VI  อาทิตย์หนึ่งจะดูคอมพ์สักครั้งไม่ต้องเร่งรีบ สบายใจกว่าเยอะเลย ^^ จากคุณ : hoshikung1 เขียนเมื่อ : 29 ม.ค. 55 16:24:35

ความคิดเห็นที่ 27 ผมได้ 2 อย่าง...ครับ..ตอนนี้ 1.ได้เล่น...(กำไรหรือขาดทุน ยังไม่รู้เพราะ เพิ่งเริ่มเล่น) 2.ได้รู้จัก โลกธุรกิจมากขึ้น (ผมทำธุรกิจ ส่วนตัว แต่ไม่เคยมองคนอื่นเลย) ได้เห็น ได้รับรู้ถึง ปัญหา วิธีการจัดการ ของบริษัทชั้นนำ เพราะเซียนเขาบอกให้ศึกษาข้อมูลก่อนลงทุน...ตอนนี้ก็เลยคิดว่าได้ 2 อย่างครับ.... จากคุณ : เริ่มต้นบอกรัก เขียนเมื่อ : 29 ม.ค. 55 21:43:05

ความคิดเห็นที่ 28 โลกนี้ เป็น โลกของ     ของคู่  คือ มีมืด สว่าง                มีดำ ชาว                มียาก ง่าย ดู โลโก้ ตลาดหลักทรัพย์สิ งานทุกงานมีความยากในตัวของมัน  หากรักที่จะทำต้องหาความง่ายของมันให้พบ มุมมองต่อโลก และคติในการทำงาน ดำเนินชีวิตของผม นี่มันแค่เริ่มต้น........ จากคุณ : Wingsrapter เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 55 19:21:09

ความคิดเห็นที่ 29  ขอบคุณที่มาแชร์ประสบการณ์นะคะ ไล่อ่านแต่ละเม้นท์ แจกกีบกระจาย หลังจากไม่ได้แจก และไม่ได้เข้ามาเม้นท์นานกว่าสองปี...เจอกระทู้นี้ของคุณสุภาพสตรี โดนใจค่ะ เพราะกำลังคิดจะกลับเข้ามาในตลาดอีกครั้ง หลังจากทิ้งร้างไปปีครึ่งและเล่นแต่กองทุนแนว VI เกือบ 7 ปี  มาคราวนี้สนใจจะเริ่มลงในหุ้นเอง มีใจเอนเอียงจะเดย์เทรดซะด้วย :)   ขอให้คุณสุภาพสตรีประสบความสำเร็จกับการลงทุนนะคะ แก้ไขเมื่อ 07 ก.พ. 55 10:28:09 จากคุณ : PlayGirL_K เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 55 10:26:14