ความคิดเห็นที่ 1 รูปไม่ขึ้น คือข้อ 13 ให้ใส่มูลค่าอสังหาริมทรัพย์.... (ถ้าถามผิดห้อง ขออภัยด้วยนะ) จากคุณ : eyen (eyen) เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 55 01:34:02

ความคิดเห็นที่ 2 มารอฟังด้วยคนครับ จากคุณ : wirun.thailand เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 55 08:26:24

ความคิดเห็นที่ 3 ถ้าเป็นดอกเบี้ยที่เกิดจากการกู้เพื่อซื้อบ้าน ให้ใส่ดอกเบี้ยจ่าย ในส่วนของค่าลดหย่อนด้านขวามือ ที่ #11 ดอกเบี้ยเงินกู้ยืม จากคุณ : good fortune เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 55 08:43:48

ความคิดเห็นที่ 4 ถามเพิ่มเติมครับ ตกลงใส่เฉพาะดอกเบี้ยที่ข้อ 11 ด้านขวามือ ส่วนข้อ 13 ด้านซ้ายมือไม่ต้องใส่อะไรใช่ไหมครับ (แต่ก็สงสัยว่าข้อ 13 นี้ เข้าเอาไว้ใส่กรณีไหน เพราะถ้าใส่ไปมันก็มีผลให้ค่าต่างๆ เปลี่ยนตามไปด้วยครับ) ขอบคุณครับ จากคุณ : eyen เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 55 10:09:51

ความคิดเห็นที่ 5 ขอสิบสามใส่กรณีได้รับสิทธินโยบายบ้านหลังแรกของรัฐบาลค่ะ รายละเอียดตาม http://www.rd.go.th/publish/45799.0.html ถ้าเข้าข่ายได้รับสิทธิ์ก็ใส่ราคาบ้านลงไปได้เลยค่ะ จากคุณ : Zunma (Zunma) เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 55 11:08:32

ความคิดเห็นที่ 6 จาก link ที่คุณ zunma ส่งมานั้น ผมสงสัยข้อ 5 ว่าที่ต้องมีชื่อเป็นกรรมสิทธิ์ในอสังหานั้น จำเป็นต้องมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านหรือเปล่า คือซื้อคอนโดไว้ (ดูแล้วเข้าข่ายโครงการบ้านหลังแรก) แต่ไม่ได้โอนชื่อเข้ามาในทะเบียนบ้าน (ชื่อยังอยู่ทะเบียนบ้านที่ต่างจังหวัด) จากคุณ : eyen (eyen) เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 55 11:32:55

ความคิดเห็นที่ 7 เอกสารหลักฐาน ·      หนังสือรับรองจากผู้ขายที่พิสูจน์ได้ว่า มีการจ่ายค่าซื้ออสังหาริมทรัพย์ ·      หนังสือรับรองตนเองว่าเป็นที่อยู่อาศัยแห่งแรก ·      สำเนาสัญญาซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ ·      สำเนาสัญญากู้ยืมเงิน (กรณีกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงิน) **ไม่จำเป็นต้องมีทะเบียนบ้านนะคะ จากคุณ : Zunma เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 55 12:12:29

ความคิดเห็นที่ 8 ไม่จำเป็นต้องมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน (สมัยก่อนน่ะใช่ แต่เดี๋ยวนี้ดูตามกรรมสิทธิ์)  ใช้หลักฐานที่ว่าเราเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ ตามความเห็นที่ 5  (ให้ดูตามเงืือนไขใน Link ตามความเห็นที่ 5 ว่าเข้าตามเงื่อนไขที่เค้าให้หรือเปล่า) จากคุณ : good fortune เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 55 12:19:04

ความคิดเห็นที่ 9 การมีชื่อในทะเบียนบ้าน ไม่ได้หมายความว่าเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ค่ะ การเป็นเจ้าของดูจากหลักฐานการซื้อขาย หรือสัญญากู้เงินซื้ออสังฯจากธนาคารเป็นต้น ตามเอกสารหลักฐานที่สรรพากรต้องการตรวจสอบ อย่างของดิฉัน เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์แต่ไม่ได้เป็นเจ้าบ้านค่ะ ก็สามารถนำมาลดหย่อนได้ค่ะ เพิ่มเติม**ถ้ากรรมสิทธิ์ร่วกันหลายคนก็ต้องคำนวณกันตามสัดส่วนด้วยค่ะ จากคุณ : Zunma เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 55 12:19:13

ความคิดเห็นที่ 10 เพิ่มเติม **จะต้องถือครองอสังหาฯนั้นต่อไป เกิน5ปี ด้วยค่ะ ถ้าลดหย่อนแล้วเกิดขายอสังหาฯนั้นไป เงินที่เราได้คืนจากสรรพากรจะถูกเรียกคืนค่ะ จากคุณ : Zunma (Zunma) เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 55 12:34:15

ความคิดเห็นที่ 11 ขอบคุณทุกท่านครับ เดี๋ยวจะลองยื่นผ่านอินเตอร์เน็ตครับ จะลองใส่ทั้งข้อ 13 และ 11 และคงต้องเตรียมเอกสารไว้เผื่อสรรพากรเรียกดู จากคุณ : eyen เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 55 13:26:10

ความคิดเห็นที่ 12 ถามเพิ่มเติมนะครับ หากผมทำสัญญาซื้อขายกับเจ้าของเดิมในหนังสือสัญญาซื้อขายห้องชุดที่ราคา 1 ล้าน แต่ในหนังสือสัญญาจดจำนองกับธนาคารทำไว้ที่ 1.2 ล้าน แต่สัญญาเงินกู้กับธนาคารทำไว้ที่ 1.1 ล้าน แล้วทำสัญญากู้เงินเอนกประสงค์เพิ่มเติมอีก 1 แสนบาท ดังนั้นผมต้องใช้ตัวเลข 1 ล้าน (ตามสัญญาซื้อขาย) ไปใส่ในช่องข้อ 13 ถูกหรือเปล่าครับ จากคุณ : eyen เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 55 00:27:17