ความคิดเห็นที่ 1 ซื้อทรัพย์สินแบบนี้(แบบเจ้าของยังอยู่) เป็นผมไม่เอาหรอกถ้ารู้ก่อน มันรู้สึกบาปอย่างไงไม่รู้ เราต้องมาปวดหัวตามมาทีหลังอีกต่างหากถ้าเค้าไม่ออกไป จากคุณ : ลุยดะ เขียนเมื่อ : 19 ก.พ. 55 20:09:03

ความคิดเห็นที่ 2 คนบาป คือคนที่ไม่ยอมย้ายไป เป็นหนี้ ก็ต้องโดนยึดทรัพย์ คนแย่คือ จนท ของธนาคาร เอาทรัพย์มาขาย แล้วไม่รีบเร่งทำงาน กฏหมายของบ้านเมือง บอกว่า อำนวยความสะดวกให้ผู้ที่ประมูลได้ จากกรมบังคับคดี แต่ว่า ที่จริง ไม่รีบเร่งดำเนินการ จากคุณ : phon77 เขียนเมื่อ : 19 ก.พ. 55 20:41:31

ความคิดเห็นที่ 3 เคยมีคนตั้งกระทู้บ่นแนวๆนี้มาแล้ว เราเคยเห็น เฮ้อ ว่าจะซื้อของถูกจากธนาคารซักหน่อย แต่คงต้องมีลุ้นนะ ดูท่า จากคุณ : นางสาวคานทอง เขียนเมื่อ : 19 ก.พ. 55 20:49:40

ความคิดเห็นที่ 4 ขั้นตอนของการขายทอดตลาด 1.เมื่อซื้อทรัพย์ได้จากการขายทอดตลาด เมื่อเจ้าของหรือจำเลยไม่ออกสามารถ ดำเนินการยื่นคำร้องต่อศาลโดยทำเป็นคำขอฝ้ายเดียว ขอให้ศาลออกคำบังคับ ให้จำเลยและบริวารออกจากอสังริมทรัพย์ที่มีผู้ซื้อทรัพย์ได้จากการขายทอดตลาด ดังนั้น ไม่ต้องไปฟ้องขับไล่ใหม่ 2.เมื่อจำเลยไม่ออกหลังจากศาลมีคำบังคับแล้ว ต้องยื่นคำร้องต่อศาลขอให้ศาลออกหมายบังคับขับไล่จำเลยและบริวาร 3.เมื่อหมายบังคับคดีขับไล่ไปถึงเจ้าพนักงานบังคับคดีแล้ว ให้ไปตั้งเรื่องบังคับคดีขับไล่จำเลยและบริวาร โดยผู้ซื้อทรัพย์จะกลายเป็นโจทก์ในคดีขับไล่ทันที โดยวางค่าใช้จ่ายในการบังคับคดี 1,500 บาท และนำเจ้าพนักงานบังคับคดีออกไปทำการปิดประกาศขับไล่จำเลยและบริวาร 4.เมื่อนำเจ้าพนักงานบังคับคดีออกไปปิดประกาศขับไล่แล้ว จำเลยและบริวารไม่ยอมออก ต้องมารายงานต่อเจ้าพนักงานบังคับคดีว่าจำเลยและบริวารไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาลที่ให้จำเลยและบริวารออกจาก...... และขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดีรายงานศาลเพื่อออกหมายจับจำเลยและบริวาร  โดยผู้ซื้อทรัพย์ต้องไปคัดทะเบียนราษฎร์บุคคลที่จะขอให้เจ้าพนักงานฯออกหมายจับ 5.ไปตรวจสอบดูที่ศาลว่า ศาลออกหมายจับให้แล้วหรือไม่ หากออกหมายแล้ว ให้รับหมายและนำเจ้าพนักงานตำรวจ ไปจับจำเลยและบริวาร เพื่อไปศาล ให้ศาลไต่สวนว่า ทำไมจำเลยไม่ออก ((ศาลจะสอบถามจำเลยเอง ถ้าจำเลยดื้อ ศาลจะสั่งขัง แต่ส่วนใหญ่ไม่ดื้อ ศาลจะให้โอกาส ออกภายในกำหนด)) 6.หากจำเลยออกจากบ้านแล้ว ให้มาแจ้งเจ้าพนักงานบังคับคดีว่า จำเลยออกแล้ว เจ้าพนักงานบังคับคดีจะได้ส่งมอบการครอบครองให้ จนท ของ SCB ไม่ทำงานเต็มที่ ทำให้ผมรอ นานเกิน 1ปี 6 เดือน ห่วย มาก จากคุณ : phon77 เขียนเมื่อ : 19 ก.พ. 55 20:51:38

ความคิดเห็นที่ 5 ก่อนซื้อไม่รู้หรือครับว่า ยังมีคนอยู่หรือเปล่า ปกติ จะตกลงกันก่อนน่ะครับว่าเป็นหน้าที่ของใคร เพราะทรัพย์ที่มีคนบุกรุก กับไม่มี ราคามันก็ต่างกันอยู่แล้วนี่ครับ จากคุณ : philly เขียนเมื่อ : 19 ก.พ. 55 20:58:53

ความคิดเห็นที่ 6 ก่อนซื้อตกลงแล้ว ว่า ทาง SCB เป็นคนดำเนินการฟ้องขับไล่ เพราะว่า กฏหมายเอื้อให้ คนที่ประมูลมาจากกรมบังคับคดี ทรัพย์ของธนาคาร SCB ไม่ควร ซื้อ เพราะว่า ซื้อไปแล้ว ไม่เร่งรีบดำเนินการ โอนทรัพย์สิน ให้แล้ว เสร็จ โดยด่วน จากคุณ : phon77 เขียนเมื่อ : 19 ก.พ. 55 21:07:32

ความคิดเห็นที่ 7 เจอเหมือนกันครับท่าน ครั้งแรก โทรขอซื้อที่ดินธนาคาร พนักงานบอก พี่จะซื้อทำไม ผมไม่แนะนำ ราคาถูกแต่เป็นที่ตาบอด (ผมจะซื้อมาห้ามผมซื้ออีก) ครั้งที่สอง โทรขอซื้อเหมือนเดิม เปลี่ยนที่ใหม่ พนักงานก็บอกผมอีก จะยังไม่ขายให้ จนกว่าผมจะไปดูที่ ให้เรียบร้อย พอไปถึง เป็นที่ดินงอกออกมาจากฝั่งแม่น้ำ และมีชาวบ้านไปปลูกบ้าน ทำไร่เรียบร้อย โทรไปถาม พนักงานก็บอก นี้ คือ เหตุ ที่ขายให้ราคาถูก ที่เหลือ พี่ไปไล่ที กันเอาเอง ธนาคารไม่รับผิดชอบ (ผมก็นึกในใจแล้วจะประกาศขายทำไม ให้คนซื้อต้องไปขึ้นศาลไล่ชาวบ้านที่ปลูกบ้านแล้วออกจากที่ดิน) ครั้งอื่นๆ ก็เป็นแบบนี้ จนไม่ได้ซื้อสักครั้ง ด้วยความหวังดีของพนักงานธนาคาร ผมจึงไม่ถูกหลอกขายที่จากทางธนาคาร ... จากคุณ : mail2napat เขียนเมื่อ : 19 ก.พ. 55 21:19:20

ความคิดเห็นที่ 8 คนทั่วไปก็รู้ครับว่าตามความถูกต้องก็เป็นตามที่คุณว่านั่นแหล่ะ ธนาคารต้องเป็นคนดำเนินการทุกอย่างจัดการให้ แต่โดยสถิติที่ผ่านมาการซื้อทรัพย์สินแบบนี้ คนทั่วไปก็รับรู้อยู่แล้วว่าปัญกามันเยอะ เพราะเกี่ยวกับเรื่องคนอยู่อาศัยเดิม จึงเหมาะกับพวก ที่ไม่เร่งรีบ หรือมีพรรคพวก มือตีนหนัก หรือเป็นเจ้าพ่อ ก็ตามแต่ ราคาทรัพย์พวกนี้มันเลยไม่ค่อยแพง เพราะมีความด้อยค่าในตัวมันเอง คุณในฐานะนักลงทุนทั่วไป ก่อนตัสินใจลงทุนทรัพย์สินประเภทนี้ก็ควรต้องบวกปัจจัยพวกนี้ไว้อยู่แล้ว อย่าบอกนะว่าก่อนซื้อคุณไม่ได้ศึกษาเลย มาบ่นในนี้ ก็คงไม่มีใครช่วยคุณได้ หรอกครับ จากคุณ : กุ๊ยช่ายมั๊ย เขียนเมื่อ : 19 ก.พ. 55 21:21:20

ความคิดเห็นที่ 9 ไม่ได้มาบ่น มาบอกว่า การทำงาน ของ จนท SCB ห่วย ไม่เร่งรีบดำเนินการ จะบอกให้คนรับรู้ มากๆ ผมไม่เร่งรีบ ถึงรอมาได้นานกว่า 1ปี 6 เดือน และก็คงต้องรอต่อไป ดูว่า ใคร จะแย่กว่า กัน SCB กับ คนที่จะซื้อทรัพย์ธนาคาร จากคุณ : phon77 เขียนเมื่อ : 19 ก.พ. 55 21:33:37

ความคิดเห็นที่ 10 ปัญหาอยู่ที่ ธนาคาร เจ้าของเรื่อง นะ ท่าน ไม่ใช่ จนท SCB  เจ้าหน้าที่ตำแหน่งเล็กๆ จะมีอำนาจ อะไรมาก ผมจึงชี้เป้าปัญหา คือ ธนาคาร นะ ท่าน จากคุณ : mail2napat เขียนเมื่อ : 19 ก.พ. 55 22:12:41

ความคิดเห็นที่ 11 คห 10 แสดงว่า ปัญหา คือ ผู้บริหารของธนาคาร ใช่ไหม จากคุณ : phon77 เขียนเมื่อ : 19 ก.พ. 55 22:39:24

ความคิดเห็นที่ 12 คห. 11 ไม่ทราบสิท่าน ไม่อาจจะกล่าวถึงได้ เอาเป็นว่ารู้ๆ กัน จากคุณ : mail2napat เขียนเมื่อ : 19 ก.พ. 55 22:45:39

ความคิดเห็นที่ 13 ดำเนินคดียาวมากๆ กลัวว่าตกลงออกเสร็จ มันกลับมาใหม่หุหุ จากคุณ : biki เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 55 00:26:58

ความคิดเห็นที่ 14 นี่คือปัญหาของคน ของผู้มีหน้าที่รับผิดชอบ ซึ่งส่วนใหญ่พยายามหลีกเลี่ยงปัญหา ไม่รับผิดชอบต่อหน้าที่ของตนเอง สุดท้ายแล้วก็กลายเป็นปัญหาต่อสังคม  ต่อสาธารณะชน เพราะทุกผู้คนก็จะคิดเอาแต่ได้ ไม่สนใจว่ามันจะถูกหรือผิด เมื่อมี่สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นบ่อยๆ รวมกันมากมายหลายแห่งหน กลายเป็นผู้คนส่วนใหญ่ก็จะเห็นแก่ตัวแก่ตน  แล้วประเทศชาติจะเจริญไปได้อย่างไร จากคุณ : นายไทยไฝ่รู้ เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 55 07:59:02

ความคิดเห็นที่ 15 เคยมีประสบการณ์ซื้อทรัพย์ธนาคารผ่านกรมบังคับคดี ที่ดินในโครงการจัดสรรที่ดิน ปรากฏว่าโครงการนี้ไม่ได้จดจัดสรร ถนนหนทางยังเป็นชื่อเจ้าของเดิมอยู่ เจ้าของเดิมเลยมาปิดทางเข้าออก - ผมไปแจ้งความ ตำรวจบอกว่าเนื่องจากเป็นโฉนดชื่อเขา ดังนั้นเขายังมีสิทธิ์ - ผมติดต่อธนาคารถึงปัญหาที่เกิดขึ้น ธนาคารเฉย ไม่สนใจ - ผมติดต่อ ธปท. ถึงปัญหาดังกล่าว ธปท. ทำหนังสือแจ้งไปยังธนาคารถึงปัญหาที่เกิดขึ้น พร้อมสั่งให้ธนาคารทำหนังสือชี้แจง - ธนาคารทำหนังสือชี้แจงว่า โครงการดังกล่าวเป็นการจัดสรรที่ดินผิดกฏหมาย ให้ผมไปฟ้องร้องเปิดทางเอาเอง - ผมเอาจดหมายมาเปิดเผยที่ pantip.com นี่ พร้อมทั้งตั้งคำถามว่า - เมื่อโครงการทำผิดกฏหมาย เหตุใดธนาคารจึงปล่อยกู้ให้โครงการที่ทำผิดกฏหมาย - จากหนังสือธนาคาร สรุปว่าที่ดินตาบอด ทำไมเวลาผมทำเรื่องกู้ธนาคารและมีการประเมินหลักทรัพย์ เหตุใดจึงรับที่ดินตาบอดเป็นหลักประกันเงินกู้ - ผู้บริหารระดับสูงของธนาคารติดต่อมาที่ผม บอกว่าเพิ่งทราบเรื่องจากอินเตอร์เน็ต - ได้มีการเจรจากับธนาคารระยะหนึ่ง ผมขอให้ธนาคารซื้อที่ดินคืน แต่ธนาคารอ้างว่าด้วยข้อกฏหมายแล้ว ธนาคารไม่สามารถซื้อที่ดินได้ - ผมเสนอขอโอนทรัพย์ชำระหนี้ เพราะทีดินยังติดภาระจำนองอยู่ แต่ขอให้ธนาคารชดเชยค่าเสียหายกลับมาให้ ซึ่งก็เหมือนกับการซื้อที่ดินคืนนั่นเอง แต่เปลี่ยนจากรูปแบบการซื้อขายเป็นการโอนทรัพย์ชำระหนี้และชดเชยค่าเสียหาย ธนาคารยอมรับในเงื่อนไขดังกล่าว ตอนนั้นกระทู้ผมขึ้นเป็นกระทู้แนะนำที่ห้องศาลานี่แหละ เหตุการณ์ผ่านมาเกือบ 2 ปีแล้ว ธนาคารนี้ไม่ใช่ SCB วันสุดท้ายที่คุยกับผู้บริหาร ตกลงกันว่าผมจะไม่มาโพสต่อ ดังนั้นจึงไม่ขอบอกว่าเป็นธนาคารไหน แต่ถ้าใครที่อ่าน pantip มานานอาจจะจำเหตุการณ์ตอนนั้นได้ จากคุณ : TLL01 เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 55 10:19:02

ความคิดเห็นที่ 16 เดี๋ยว ประชุม ผู้ ถือหุ้นของ SCB ผม จะหาโอกาส ถาม ในที่ประชุม ผู้ถือหุ้นดู จะลองดูครับ จากคุณ : phon77 เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 55 15:05:06