ความคิดเห็นที่ 1 อืม  ถ้าเป็น จริง ตามที่เล่ามา  แสดงว่า ธนาคาร  เข้าใจหากิน นะครับ  อิ ๆๆๆ  ฉลาดกว่าเราอีก  / โชคดีที่เข้ามาอ่าน  ไม่งั้นผมอาจ โดนแบบคุณ จากคุณ : SILAWAYU เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 55 22:10:11

ความคิดเห็นที่ 2 บัตรเครดิต หรือเดบิต อ่ะครับเอาเงินสดใส่ได้ด้วย .... จากคุณ : aonk55 เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 55 22:10:37

ความคิดเห็นที่ 3 แต่สำหรับเรามันแตกต่างเพราะเราไม่ได้เป็นเงินฝากค้ำอ่ะค่ะ เค้าก็กันวงเงินไว้ถ้าเราผ่อนจ่ายอะไร แต่เราไม่ต้องออกเงินก่อนน่ะค่ะ อย่างที่คุณว่าก็เสียเปรียบธนาคารจริงแหล่ะ แต่คิดซะว่าซื้อสดไม่ได้พอยต์นะคะ จากคุณ : ชาตอง เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 55 22:11:03

ความคิดเห็นที่ 4 เคสนี้น่าเกลียดจริง ๆ จากคุณ : beyond happiness เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 55 22:11:23

ความคิดเห็นที่ 5 ผมอ่าน ผมก็งงครับ มันต่างกับเอาเงินสดวื้อตรงไหน จากคุณ : พญางูใหญ่ไร้รูปรัก เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 55 22:17:03

ความคิดเห็นที่ 6 วงเงินบัตรคงเหลือ ก่อนเติมเงิน .... เท่าไหร่ครับ เติมเงินเข้าบัตร ให้เพียงพอราคากล้องแบบเต็มจำนวน น่าจะเท่ากับการจ่ายเงินสดบางส่วนซื้อกล้อง ไม่ได้จ่ายทันทีทั้งหมดเท่าราคากล้อง เติมเงินแล้ว .... บัตรถูกกันวงเงินทั้งหมดเท่ากับราคากล้อง และเช่นกัน .... เติมเงินเพิ่มได้ ถ้าทราบว่าต้องตัดจ่ายชำระค่าเรียน เท่าไหร่ ก็ใส่เพิ่มเพื่อให้ตัดวงเงินได้ครับ เพราะวงเงินบัตรไม่เพียงพอ ที่จะซื้อของราคาที่มากกว่า คำถามคือเพิ่มวงเงินบัตรอย่างไร คำตอบคือ นำเงินใส่บัตรให้เพียงพอ .... น่าจะเป็นคำตอบที่ตรงกับคำถามครับ จากคุณ : pjuk เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 55 22:20:10

ความคิดเห็นที่ 7 อ่านดูก็ถูกต้องแล้วนี่ครับ common sense เลยสมมติกล้องราคา 10000 วงเงินไม่พอก็เอาเงินเข้าไปใส่ 10000 ซื้อกล้องไปแล้วก็ถือว่าใช้วงเงิน 10000 บาทไปแล้ว ว่าก็เหมือนกับซื้อเงินสดครับการซื้อผ่อนแบบ 0% 10 เดือนก็ไม่เหมาะสำหรับวิธีนี้ จริงๆแล้วบัตรเครดิตแบบใช้เงินฝากค้ำมันจะเรียกว่าบัตรเครดิตก็ไม่ถูกนัก เพราะถ้ามีเครดิตแล้วทำไมต้องเอาเงินสดเข้าไปค้ำ มันจะเป็นบัตรเดบิตเสียมากกว่า จากคุณ : นายกว้าง เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 55 22:41:41

ความคิดเห็นที่ 8 ขออธิบายเพิ่ม มันเป็นบัตรเครดิต scb family ธรรมด๊าธรรมดานี่แหละค่ะ แต่ตอนที่เราทำ เราเพิ่งเรียนจบ ไม่มีเงินเดือนมาประมาณปีกว่า ก็จะทำบัตรเครดิตไม่ได้ จนท.เลยแนะนำว่าให้เอาเงินฝากค้ำไว้ รู้สึกเค้าบอกว่าขั้นต่ำ 16000 บาท ก็ใส่ไว้เท่านั้น วงเงินน้อยๆก็ดี จะได้ไม่ใช้มาก ล่วงเลยมาหลายปี ก็ยังไม่ได้เอาสลิปเงินเดือนไปโชว์เค้าซะที ก็ยังแฮปปี้กะวงเงินน้อยๆอยู่ คคห.1 - ใช่แล้วค่ะ จุดประสงค์ที่มาเล่าเพื่อจะมาบอกคนอื่นว่าอย่าเมาหมัดเหมือนเรานี่แหละค่ะ คคห. 2 คือเราเข้าใจว่าบัตรเดบิตมันตัดบัญชีเลยนะคะ อย่างน้อย บัตรเครดิตมันก็มาเรียกเก็บเงินเราตามรอบ คคห.3 จริงๆค่ะ ก็เลยต้องคิดว่าซื้อสดไม่ได้พอยต์ (แต่เงินมันก็ติดอยู่หลายหมื่นเลยนะคะ T-T) คคห.4-6-7 ใช่ค่ะ จริงๆถ้าเป็นบัตรเครดิตแบบมีวงเงิน เค้าก็คิดแบบเดียวกันนี่แหละ แต่อันนั้นเค้าได้ "วงเงินเครดิต" ไปแบบไม่ต้องมีเงินค้ำไงคะ แต่ก็ถูกต้องตามที่ทุกคนบอกว่า มัน common sense แหละค่ะ แต่ตอนซื้อมันมีลูกติดพัน นึกไม่ได้ไง มานึกได้เอาสองเดือนผ่านไปเนี่ยแหละ 555 กลับมาคิดอีกรอบ ธนาคารฉลาดกว่านั้นได้อีก เพราะว่าเจ้า 0% นี่จริงๆแล้วทางบริษัทที่เราไปซื้อกล้องเป็นคนจ่ายให้ตะหาก มันก็ไม่ได้ 0% จริงๆหรอก สรุปว่าได้เงินเราไปดอง ได้ดอกจากบริษัทกล้อง ไม่รวมค่าธรรมเนียมรูดจากบริษัทกล้องนะเนี่ย มีแต่ได้กับได้กับได้ (สุดยอด!) จากคุณ : booklovers เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 55 23:07:12

ความคิดเห็นที่ 9 เป็นแบบนี้ทุกบัตรเครดิต ไม่ใช่เฉพาะ scb  บัตร ที่ได้รับอนุมัติตามปกติ ถ้าอยากเพิ่มวงเงินก็ต้่งเอาเงินใส่เข้าเหมือนกัน จากคุณ : แบงค์ Sound station เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 55 23:09:02

ความคิดเห็นที่ 10 ถึงแม้ มีบัตร เครดิต ถ้าวงเงินไม่มากพอ ซื้อสินค้า ผ่อน 0% 10 เดือน ไม่คุ้ม ครับ เสียเครดิตหมด ผมโดนมาแล้ว ต้องทำบัตร เครดิต ที่อื่น อีก 5 แห่ง จากคุณ : phon77 เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 55 23:12:14

ความคิดเห็นที่ 11 ถ้าบัตรเครดิตที่วงเงินเยอะ และไม่ได้ใช้เงินฝากค้ำ ก็จะไม่เจอปัญหานี้ จากคุณ : ฉลาดหน้าตาดีมีเงินใช้ เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 55 23:36:21

ความคิดเห็นที่ 12 เค้าก็บอกให้เอาเงินสดใส่เข้าไปตามจำนวนค่ากล้อง แบบนี้เขาเรียกว่า ผ่อน  ตรงไหน เนี่ย จากคุณ : otto เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 55 23:44:47

ความคิดเห็นที่ 13 การทำบัตรเครดิต โดยการเอาเงินฝากค้ำ เท่ากับวงเงินที่อยากได้ ผมว่ามันไม่มีประโยชน์เลย ก็เหมือนกับเราเอาเงินเราซื้อนั้นแหละ แถม ธ. ยังเอาเงินเราไปหมุ่นได้อีก ประโยชน์ ที่เห็นมีอยากเดียวคือ พวกที่จัดโปร แบบ คืนเงิน กี่เปอร์ อะไรแบบนั้น นอกนั้นผมว่าไม่ได้มีประโยชน์เลย จากคุณ : Miracle Boy เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 55 23:49:24

ความคิดเห็นที่ 14 ธนาคารจ่ายเต็มให้ร้านค้าก่อนเลยครับ ..... แล้วค่อยทยอยเรียกเก็บคืนจากผู้ซื้อภายหลัง บัตรเครดิตใช้เงินฝากค้ำประกัน ........ ถ้ามีบัตรแล้วใช้เพียงรอบบิลเดียว แล้วไม่ใช้อีกเลย ก็เหมือนใช้เงินสดงตนเองซื้อของนั่นเองครับ แต่ถ้าใช้วนอยู่เรื่อยๆ หลายๆ รอบบิล ..... และจ่ายชำระเต็มได้ตามที่เรียกเก็บ จะหมายถึง เงินก้อนเดียวที่ฝากไว้ สามารถใช้จ่ายได้หลายรอบ โดยแต่ ละรอบค่อยหาเงินมาเติมคืนเมื่อถึงวันเรียกเก็บ และยังหมายถึง .... ใช้เงินซื้อของไม่เสียดอกเบี้ย แถมยังคงได้ดอกเบี้ยกลับคืนไว้อีกด้วยครับ เพราะเงินฝากที่ใช้ค้ำประกัน ยังคงได้รับดอกเบี้ยสะสมไว้ได้ตามปกติด้วยครับ จากคุณ : pjuk เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 55 00:11:49

ความคิดเห็นที่ 15 ผมว่ามันก็ปกตินี่ครับ  เพราะจขกท.วงเงินบัตรตั้งต้นไม่พอค่ากล้องทั้งหมด  ทำให้ต้องใส่เงินเข้าไปบัญชีเพิ่ม  และก็ต้องเติมอยู่อย่างนี้จนกว่าจะผ่อนหมด ปัญหาคือ วงเงินบัตรเครดิตของจขกท.มันน้อยไปครับ  เอาแบบตรงๆถ้ายอดที่จะซื้อของคุณเกินกว่าบัตรเครดิตคุณจขกท.ก็ไม่มีสิทธิ์ซื้อตั้งแต่แรกแล้วครับ  แต่นี่ธ.เค้าก็แนะนำวิธีที่จะทำให้ใช้บัตรได้   แก้ไขเมื่อ 21 ก.พ. 55 00:18:22 จากคุณ : vacuum_car เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 55 00:14:04

ความคิดเห็นที่ 16 เอาเงินสดของตัวเอง ผ่อนกล้อง10เดือน เพื่อต้องการ1% คืนเข้าบัญชี ที่เสียไปคือ เอาดองไว้10 เดือน ไหนๆก็พลาดไปแล้ว ฝากเงินเข้าบัตรไปแล้ว แทนที่รูดสดเลย เพื่อรอบบิลเดือนถัดไปจะได้คืน1%ทั้งหมดเลย แล้ววงเงินก็จะกลับมาใช้ปกติไม่ต้อง ทยอยรอจนครบ10เดือน แต่อย่าไปกดเงินสดคืนล๊ะ  จะเท่ากับกู้เงินตัวเอง แต่จะต้องเสียดอกเบี้ยให้แบงก์ฟรีๆเพิ่มอีก ดีแล้วล๊ะ ที่มาตั้งกระทู้ มีหลายคนที่โดนแบบนี้ กว่าจะคิดได้ กุศโลบายคล้ายๆแก็งค์ Call center อ่ะเปล่าเนี๊ย!! จากคุณ : pisutv เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 55 00:25:17

ความคิดเห็นที่ 17 บัตรเครดิตไม่ว่าแบบไหนด็ตามถ้ารู้จักใช้อย่างฉลาดก็จะมีประโยชน์มาก ส่วนตัวผมว่ามัน winwin ทั้งธนาคารผู้ขายผู้ซื้อแหล่ะครับมันเอื้อประโยชน์กันและกันอยู่ ถ้าฝ่ายใดได้เปรียบเกินก็ต้องมีอีกฝ่ายเสียเปรียบแต่ที่ผ่านมามันผลประโยชน์มันคงลงตัวกันไมข้ามเส้นกันมากจนเกินไป วงจรธุรกิจบัตรเครดิตมันถึงได้เติบโตขึ้นทุกวัน พวกเราในที่นี้ส่วนใหญ่ก็เป็นผู้ซื้อหรือผู้บริโภคกัน ถามว่าเมื่อไหร่คุณจะถูกเริ่มเอาเปรียบแล้ว ตอบได้ก็คือเมื่อคุณเริ่มจ่ายผ่อนขั้นต่ำ เริ่มกดเงินสดจากวงเงินบัตรเครดิต นั่นคือเริ่มใช้บัตรเครดิตแบบไม่ฉลาดแล้ว และส่วนใหญ่ก็เอาตัวเองเข้าไปอยู่ในสภาพนั้นเองไม่ได้มีใครบังคับ ซึ่งถ้าเป็นกรณีฉุกเฉินจริงๆก็พอเข้าใจได้ แต่ถ้าเกิดจากการใช้จ่ายเกินตัวซื้อของที่ไม่จำเป็น(จากเงินที่ไม่มี)ก็คงต้องรับสภาพไปครับ #16 ไม่ได้ดองเต็มจำนวนตลอด 10 เดือนครับ เดือนไหนจ่ายไปแล้วเงินที่กันไว้ก็จดลดลงไป เช่นเดือนแรกจ่าย 1000 เงินที่กันไว้ก็จะลดลงเหลือ 9000 ครับ แก้ไขเมื่อ 21 ก.พ. 55 00:44:39 จากคุณ : นายกว้าง เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 55 00:38:55

ความคิดเห็นที่ 18 บัตรเครดิตแบบวงเงินค้ำก็อย่างนี้แหละครับ บัตรเครดิตแบบนี้ไม่น่าใช้อย่างยิ่ง เพราะมันเป็นเครดิตเงินของเองทั้งก้อน จากคุณ : MAX เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 55 00:45:08

ความคิดเห็นที่ 19 เรียนแจ้งคุณ booklovers ดังนี้นะคะ กรณีการเพิ่มวงเงินสำหรับบัตรเครดิตที่สมัครบัตรโดยใช้ Fix ค้ำนั้น  สำหรับการเพิ่มวงเงินหากทำรายการผ่านทาง Call Center 02-777-7777 กรณีลูกค้าจำเป็นต้องใช้บัตรในขณะนั้น จะทำได้ในกรณีต้องเสนอกันวงเงินฝากเพิ่มเติมค่ะ ซึ่งก็จะเป็นลักษณะเหมือนการนำเงินสดที่กันไปผ่อนสินค้าตามโปรฯของทางร้านค้าค่ะ  หรือหากประสงค์ขอเพิ่มวงเงินถาวรแนะนำติดต่อสาขาเพื่อทำเรื่องกันวงเงินฝากเพิ่มเติมในบัตรได้นะคะ จากคุณ : SCB Thailand เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 55 00:52:02

ความคิดเห็นที่ 20 เราเป็นคนนึงที่ต้องใช้วิธีนี้ เพราะทำงานอิสระ ไม่มีสลิปเงินเดือนให้แบ็งค์ แต่ต้องใช้บัตรซื้อของทุกเดือน เราเลยต้องฝาก 200,000.- บัตรแบบนี้ดีตรงที่ได้เงินคืน 1% เรารูดเต็ม...จ่ายเต็ม ไม่ค้าง มีเงินคืนทุกเดือน...สบายเลย จากคุณ : เขียนบน iPhone (hallotum) เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 55 04:42:00

ความคิดเห็นที่ 21 คห. 18 ผมว่าแล้วแต่คนจะใช้ให้เกิดประโยชน์มากกว่านะครับ ผมคนนึงล่ะที่เห็นประโยชน์จากการทำบัตรเครดิตจากการใช้เงินฝากค้ำ อย่างที่ pjuk บอกครับ เงินที่เอาไปค้ำได้ดอกเบี้ยด้วย คนที่ทำบัตรด้วยวิธีนี้ ต้องใช้เงินเย็นทำอยู่แล้ว ยังไงซะเงินเย็นเราก็ต้องให้มันนอนแช่อยู่ในธนาคารอยู่แล้ว ผมก็ทำแบบใช้เงินฝากค้ำเหมือนกันครับ พอดีมีค่าใช้จ่ายประจำทุกเดือนๆละประมาณ 4-5 แสนบาททุกเดือน ผมเต็มใจเอาเงิน 6 แสนไปค้ำเพื่อทำบัตรเครดิต ค้ำมา 2 ปีกับอีก 1 เดือนแล้ว ได้เงิน+ของจากบัตรเครดิตรวมแล้วประมาณ 3 แสนกว่าครับ ถ้าจ่ายเงินสด ผมคงไม่ได้อะไรคืนมาเลยซักบาท และถ้าไม่มีการทำบัตรเครดิตแบบเงินฝากค้ำ ผมก็คงได้วงเงินไม่ถึง 6 แสนบาท ซึ่งไม่พอใช้ในแต่ละเดือนอย่างแน่นอนครับ สำหรับผมแล้วมันมีประโยชน์มากจริงๆครับ จากคุณ : ปาปารัสซี่ เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 55 04:55:24

ความคิดเห็นที่ 22 ต่างกันตรงได้แต้ม จากคุณ : SIAMESS? เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 55 07:13:26

ความคิดเห็นที่ 23 สรุปว่าเงินที่เอาไปค้ำ ได้ดอกเบี้ยไหม? ถ้าได้ ก็ไม่ต่างกับคนที่เอาเงินไปฝากประจำ แล้วทำบัตรเครดิตโดยวิธีปรกติ เพราะเงินก็นอนเอ้งเม้งอยู่ในบัญชีอยู่ดี จากคุณ : รูปเงาะเดินสบาย เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 55 08:29:00

ความคิดเห็นที่ 24 แวะมาก่อนทำงาน คคห.ล้นหลาม ขอเข้ามาสรุปตอนเย็นนะคะ คุณ scb call center คะ ขอรบกวนแนะนำวิธีส่งสลิปเงินเดือนเพื่อปลดเงินฝากด้วยค่ะ ขอบคุณค่ะ จากคุณ : booklovers เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 55 08:59:08

ความคิดเห็นที่ 25 1 ปีหลังจากได้สมัครบัตรแบบใช้เงินฝากค้ำประกัน สามารถติดต่อสาขาที่สมัครบัตรเครดิตที่ใช้เงินฝากค้ำประกัน เพื่อแจ้งการเปลี่ยแปลงวิธีการพิจารณาบัตรเครดิตโดย ใช้สลิบเงินเดือน พร้อม Statement ย้อนหลัง 3 เดือน และบัตรประชาชน พร้อมกรอกแบบฟอร์มขอเปลี่ยนแปลงครับ จากคุณ : pjuk เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 55 09:33:17

ความคิดเห็นที่ 26 คคห.23 คะ เงินที่ค้ำไว้ ได้ดอกเบี้ยค่ะ แต่เงินที่เอาไปใส่ตอนจะซื้อกล้อง เราใส่เข้าไปในบัญชีบัตรเครดิตเฉยๆ เลยไม่ได้ดอกเบี้ยค่ะ pjuk คะ สาขาที่เปิดมันไกล ไม่สามารถไปวันธรรมดาได้ และเค้าไม่เปิดวันเสาร์อาทิตย์ค่ะ (สาขานานา) ก็เลยทำให้เป็นสาเหตุหนึ่งที่ยังไม่ได้ไปเอาเงินออกมา คนที่เคยรับเรื่องที่สาขานั้น เคยติดต่อไป เค้าก็ยุ่ง เลยไม่ได้ตอบกลับ แถมตอนนี้ทำงานตจว.ด้วยค่ะ ไม่สะดวกจริงๆ เราลองไปถามที่สาขาอื่น (พารากอน) เค้าบอกว่าติดต่อ call center และทำเรื่องส่งเอกสารทางนั้นได้เลย แต่เราก็ไม่ได้โทรติดต่อ call center ซักที (เหะ เหะ) ยังไงรบกวนคอนเฟิร์มว่า จะทำวิธีใดจึงสะดวกที่สุดด้วยค่ะ ขอบคุณมากค่ะ ขอย้ำอีกรอบว่า เจตนาของกระทู้นี้คือมาเล่าความมึนของตัวเอง และไม่อยากให้เพื่อนๆมึนตามน่ะค่ะ เพราะจริงๆแล้ว การใช้เงินสดค้ำบัตรเครดิต ก็มีประโยชน์ของมัน อย่างที่หลายๆท่านกล่าวไว้ด้านบน ถ้าใช้ให้ถูกจุดประสงค์ และคิดให้ดีก่อนใช้ ก็เป็นสิ่งที่มีประโยชน์ค่ะ แต่อย่าใช้แบบไร้สติอย่างเรา เท่านั้นเอง ส่วนสิ่งที่ได้แถมมาจากกระทู้นี้คือ ได้มี call center มาช่วยบริการ เผื่อว่าจะได้ไปปลดล็อคเงินฝากกับเค้าบ้าง ขอบคุณ call center และ pjuk ค่ะ จากคุณ : booklovers เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 55 10:30:19

ความคิดเห็นที่ 27 เอ่อ...คุณ scb thailand & pjuk ไม่มีคำตอบนี่แสดงว่าเราต้องกลับไปที่สาขาที่เปิดบัญชีเท่านั้นใช่ไหมคะ รบกวนคอนเฟิร์มด้วยค่ะ ขอบคุณค่ะ จากคุณ : booklovers เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 55 09:06:29

ความคิดเห็นที่ 28 แวะมาเยี่ยมบุคจัง ^.^ จากคุณ : mountainfox เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 55 17:04:02

ความคิดเห็นที่ 29 T'ara เอ๊ย mountainfox หวัดดีจ้ะ จากคุณ : booklovers เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 55 21:13:31