ความคิดเห็นที่ 1 ปิดมากเกินไป ไม่บอกอะไรเลย บอกเป้าหมาย หรือ โรดแมป ก็น่าจะช่วยให้ดีขึ้น จากคุณ : Goldenpig เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 20:49:26

ความคิดเห็นที่ 2 ดีครับ วัดกันไปเลย ชอบคนหรือชอบเงิน จากคุณ : K.raywind เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 20:50:56

ความคิดเห็นที่ 3 ผมเชื่อว่าต่อให้พอร์ทของคุณเป็น 9 - 10 หลัก ชีวิตคุณจะไม่เปลี่ยนไปจากเดิมครับ เพราะคนที่ลงทุนหุ้นอย่างแท้จริง จะมีความสุขกับตัวเงินที่เพิ่มขึ้น มากกว่าการได้ใช้เงินส่วนที่เพิ่มขึ้นครับ ตัวอย่างเช่น ดร.นิเวศ ทุกวันนี้ยังใช้ คัมรี่เก่าๆ หรือแม้แต่ผมแค่ระดับ 7 หลักกลางๆ ยังมีความคิดแบบนั้นเลยครับ   ดังนั้นเรื่องนี้ควรอธิบายให้คู่ชีวิตได้เข้าใจว่าเราทำอะไร คิดอย่างไรและเรามีความมั่นคงมากแค่ไหนด้วยครับ แก้ไขเมื่อ 27 ก.พ. 55 20:54:54 จากคุณ : ทองเนื้อเก้า เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 20:53:11

ความคิดเห็นที่ 4 ผมมีแฟนเป็นคุณผมคงรู้สึกแย่ที่เรามีความลับระหว่างกัน ... แน่นอนว่าคนเรามีความลับ แต่บางครั้งบางเรื่องเช่นเรื่องเงินเรื่องทอง เรารู้ว่ามันมี มันก็ดีกว่าไม่มี ถ้าเรารู้ว่ามันไม่มี เราก็จะยิ่งเครียดเมื่อไหร่เราจะมี ทางที่ดีน่าจะลองคุยกับแฟน คุณเองก็มีทรัพย์สินนะ แต่อยากเก็บไว้ต่อยอดอนาคต ทุกวันนี้ลำบากหน่อยดีกว่า อดเปรี้ยวไว้กินหวาน แก่เฒ่าเราจะได้สบาย ไม่ใช่ให้เขาเห็นว่าเราเป็นคนสิ้นไร้ไม้ตอกไม่มีอะไรในตัว แล้วก็ทำให้เขาเองรู้สึกเครียด มันไม่ใช่วิธีการพิสูจน์รักแท้ว่าเขารักที่ตัวไม่ได้รักที่สมบัติ เพราะในยุคสมัยปัจจุบัน มันปฏิเสธไม่ได้ว่าเงินเองก็เป็นสิ่งจำเป็น ยิ่งกับความเครียดของคนเมืองด้วยแล้วเรื่องเงิน เป็นเรื่องแรกที่คนเมืองจะคิดและเครียด และเป็นกังวล มากกว่าเรื่องอื่นๆ ผู้หญิงเวลาคิดและเครียด มันคนละแบบกับผู้ชายนะจะบอกให้ ... จากคนที่มีชายครึ่งหญิงครึ่งในตัวเอง จากคุณ : venezier เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 20:55:13

ความคิดเห็นที่ 5 ไม่เอาพอร์ตมาโชว์เลยล่ะครับ จากคุณ : หมอก้อนหิน เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 20:55:15

ความคิดเห็นที่ 6 บอกความจริงเลยครับ เปรียบเทียบให้เห็นว่าถ้าออกแคมรี่จะมีผลต่อเป้าหมายในอนาคตอย่างไร ถ้าไม่ออกรถจะสามารถเป็นอิสระทางการเงินอย่างไร คนส่วนใหญ่มักเข้าใจได้ครับ จากคุณ : thepthaiza เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 20:56:10

ความคิดเห็นที่ 7 อ่านแล้วรู้สึกว่า ตัวเองโชคดีที่ไม่มีแฟนให้กวนใจ อยากจะทำ อยากจะกิน อยากจะเที่ยว อยากจะทำอะไรเพื่อใคร ก็ได้ ทุกวันนี้มีความสุขดี ไม่ต้องคอยให้ใครมากำหนดชะตาชีวิต จากคุณ : สรกฤช เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 20:58:00

ความคิดเห็นที่ 8 เห็นด้วยกับความเห็นที่ 2 นะครับ บอก long tern plan ก็ได้ครับ เพื่อความสบายใจ จากคุณ : WEME เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 21:00:22

ความคิดเห็นที่ 9 หาแฟนใหม่ -_-'  ไม่ได้พูดเล่นค่ะ  พูดจริงนะ   ผู้หญิงแบบนี้  ต่อให้คุณมีรถหรูกว่าเพื่อนกว่า  เธอก็ไม่พอใจอีกถ้าเห็นคนอื่นมีรถรุ่นใหม่กว่า  ถ้าคุณซื้อแหวนให้  ก็บ่นอีกทำไมคนอื่นมีเพชร  ถ้าคุณหาเพชรให้ก็บ่นอีก  คนนั้นได้เพชรใหญ่กว่า  คนนั้นมีเครื่องเพชรหลายชุด  ไปแบบนี้เรื่อยๆไม่มีวันจบวันสิ้นค่ะ คนขี้อิจฉาน่ะ  เท่าไหร่ก็ไม่ีมีวันพอหรอกเจ้า จากคุณ : กุนซือเอกแห่งรัฐวุ่ย เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 21:02:10

ความคิดเห็นที่ 10 ผมกับคิดต่างนะ ไม่บอกนะดีแล้ว จะได้รู้นิสัยคน ไม่ใช่ว่าบอกไปแล้วต้องมากังวล ว่าที่คบกัน เพราะรักคนหรือรักเงิน เงิน ณ ปัจจุบันเป็นสิ่งจำเป็น คิดแบบนี้ก็ไม่ผิด แต่ถ้าจะมาตัดสินคนที่จะใช้ชีวิตด้วยเพราะเรื่องเงิน ผมก็มองว่าไม่ถูกเหมือนกัน ................ อย่างเรื่องแต่งงาน ผมเห็น ญ หลายคนเร่งฝ่ายชายตลอดว่าเมื่อไรจะมาขอ เมื่อไรจะแต่ง คอยอะไร พอฝ่ายชายบอกขอเก็บเงินก่อน อะไรก่อน ก็หงุดหงิดใส่ ในขณะเดียวกัน ก็มี ญ บ้างคนกับช่วยฝ่ายชายเก็บเงิน เก็บเงินแต่งงานด้วยกัน ไม่ใช่สักแต่เร่งๆ แต่กลับไม่ช่วยอะไรเลย แบบนี้ก็ไม่ไหว ................... ถ้าไม่มีเงินซื้อรถดีๆให้เธอขับ แล้วเธอจะทิ้ง ก็ปล่อยไปเหอะ แทนที่จะเอาเงินไปซื้อรถให้ ญ แฟนใช้ ผมเลือกที่จะเอาไปซื้อรถดีๆพาพ่อ พาแม่ ไปเทียวก่อนดีกว่า จากคุณ : Miracle Boy เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 21:05:03

ความคิดเห็นที่ 11 ถ้ารักเค้า อยากให้เค้าภูมิใจในตัวเรา บอกความจริงเค้าไปว่าเราทำอะไรได้บ้าง หาเงินได้แปดหลัก เอาบางส่วนมาซื้อสิ่งที่เธออยากได้ มันไม่มากเกินไปหรอกครับ อย่าไปคิดว่าคนเรารักกันเงินไม่สำคัญ เงินสามารถทำให้คนเรารักกันมากขึ้นได้ครับ ใช้อย่างเหมาะสม ชีวิตรักคุณจะดีขึ้นแน่นอนครับ จากคุณ : somsaktee เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 21:05:24

ความคิดเห็นที่ 12 ถ้ายังเป็นแค่แฟนยังไม่ต้องให้รู้เรื่องพอร์ต  จะได้รู้ว่ารักเราหรือรักเรื่องฐานะของเรา แต่ถ้าเป็นภรรยาที่แต่งงานกันแล้วต้องให้รู้ทุกอย่างทั้งเรื่องความผิดพลาดและเรื่องความสำเร็จ จากคุณ : เผ่นพันลี้ เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 21:07:06

ความคิดเห็นที่ 13 เงินทองมันเรื่องกิเลสครับ บางคนก็มีความสุขกับตัวเลขที่มันงอกขึ้นเรื่อยๆ แต่กับบางคนจะคิดว่า ถ้าไม่ให้รางวัลกับชีวิตตัวเองบ้างเลย แล้วจะหาเงินไปทำไม   ผมว่าคุณกับแฟนคือตัวอย่างของคนสองกลุ่มนี้ ที่มาอยู่ด้วยกันรึเปล่าครับ? ถ้าใช่ ผมก็อยากจะขอฝากอะไรไว้นิดหน่อย ว่าอย่าตัดสินใครจากตัวเรา หรือสิ่งที่เราเป็นเลยครับ   การหาความสุขในชีวิตคนเรามันไม่เหมือนกันหรอก ยิ่งกับชีวิตคู่ด้วยแล้ว มันไม่ใช่การเดินตามใครคนใดคนหนึ่ง แต่มันคือการเดินไปด้วยกันครับ  :] .-_-. จากคุณ : Jun Asawa เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 21:08:50

ความคิดเห็นที่ 14 หาเงินได้ต้องใช้เงินเป็น เอารถเก่าไปขายแล้วจ่ายเพิ่มอีกล้านเดียวก็ได้รถใหม่ เงินล้านกว่าบาทที่จ่ายไปก็ไม่กระทบกระเทือนพอร์ตเท่าไรหรอก (ไม่ทำให้พอร์ตเหลือ 7 หลัก) วันดีคืนร้าย เกิดสงครามอิหร่าน หุ้นตกทั่วโลกแล้วจะบอกตัวเองว่ายังไง จากคุณ : สติสตางค์ เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 21:09:32

ความคิดเห็นที่ 15 เออ....ผมว่ารถมันเป็นของใช้งานนะครับ อย่างผมทุกวันนี้ใช้ฮุนไดH1คันเดียว เพราะจำเป็นต้องพาพ่อไปโรงพยาบาลได้แค่นั้น ธุรกิจผมก็อยู่ที่บ้านผมเลยใช้จักรยานซะส่วนใหญ่ สมัยก่อนผมเคยนั่งรถที่เกือบดีที่สุดไปไหนมีแต่คนมอง บอกตรงๆมันไม่รู้สึกดีหรือภูมิใจอะไรหรอกครับ คิดๆแล้วก็งงกับมนุษย์บางครั้งเรื่องวัตถุนิยม มันคงเป็นเรื่องที่ผมไม่มีวันเข้าถึงจริงๆ จากคุณ : everandever เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 21:10:04

ความคิดเห็นที่ 16 ....การมีรถ  บ้าน  งานที่ดี...ก็เป็นสิ่งที่บอกฐานะ ทางสังคมอย่างหนึ่ง.... ธรรมดา....ของผู้หญิง....ก็ต้องการความมั่นคง...จากสิ่งเหล่านั้น...เพื่อเป็นหลักประกันของอนาคตได้.... ...ถ้าคุณเชื่อมั่น....และรักเธอ...ไม่ได้คิดจะลองใจเธอ...คุณก็ลองบอกเรื่องเงินในพอร์ต......พร้อมให้เหตุผลของคุณ....ถ้าเธอ...เข้าใจ....และเห็นด้วยกับคุณ.....ชีวิตของคุณสองคน...ก็น่าจะมีความสุขกว่านี้.... ส่วนตัว....เพิ่งถอยรถ... ฟอร์จูนเนอร์ป้ายแดง....ทั้งที่จริง ๆ จะซื้อสดก็ได้ตั้งนานแล้ว......มัวแต่...งกอยู่... พอได้รถมา....ก็รู้สึกดีขึ้น...ทั้งที่...มันก็คือวัตถุนิยมอย่างนึง...แต่ก็คือความสุขทางใจ...เหมือนให้รางวัลกับชีวิต...เพิ่งคิดได้ว่าน่าจะออกตั้งนานแล้ว.....เอิ๊กกกกก..... จากคุณ : จากผู้หญิงคนนึง... (เสาร์สีแสด) เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 21:19:53

ความคิดเห็นที่ 17 คิดเหมือนคห.9ค่ะ คนที่จะเป็นแฟนนักลงทุนได้ คุณสมบัติต้องคล้ายๆนักลงทุนคือเป็นคนประหยัด ไม่งั้นคุณหามาได้เท่าไหร่เจ๊ใช้หมด แล้วคุณจะเอาเงิน เอาทุนที่ไหนไปทำให้งอกเงยสู้เงินเฟ้อได้ละเนี่ย เราไม่แนะนำจขกท.เอาพอร์ทไปให้แฟนดูนะคะ อย่าเด็ดขาด เพราะเดี๋ยวเขาจะคิดว่า เออ ตอนนี้มีเงินแล้ว ใช้เงินได้แล้ว จากนั้นอาจจะอ้อนคุณให้ซื้ออะไรบางอย่างให้ เผลอๆ ทะเลาะกัน งานเข้ายิ่งกว่าเดิม ขอเตือน พวกที่ไม่ประหยัด บ่นว่าเก็บเงินไม่อยู่ก็เพราะงี้แหละ เห็นตัวเลขในบัญชีไม่ได้ เป็นต้องถอนมาใช้ เหมือนเห็นเงินในบัญชีเป็นน้ำมันกระทะทองแดงหรือไงก็ไม่ทราบ ต้องวิดออกให้หมดอย่างเร็วที่สุด แม่เคยสอนว่า อย่ายุให้แฟนหรือสามีภรรยาแยกกัน แต่เห็นข้างบนมีพวก เลยลองซักตั้ง ถามว่ากล่อมได้ไหม ไม่รู้ดิ กล่อมเพื่อนเก็บเงินทีไร ไม่เคยมีใครทำตาม คิดว่ายากพอสมควร จากคุณ : นางสาวคานทอง เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 21:23:04

ความคิดเห็นที่ 18 อยู่กันมานานแล้ว ควรจะพูดความจริงนะ ก็บอกเป้าหมายของคุณว่ากำลังจะเติบโตทางการเงินที่ดี แต่ต้องมีวินัยการใช้เงินไปก่อน อย่าลืมว่าบางที ชีวิตคนเราก็สั้นนัก  เกิดเป็นอะไรกันขึ้นมาคุณก็จะได้แต่คำว่า เสียใจ  นำเงินมาสร้างความสุขให้ครอบครัวบ้างแต่ไม่มากเกินไป อย่ามีความลับมากเกินไปจนทำให้ผู้หญิงเขาเกิดความน้อยเนื้อต่ำใจ ว่าทำไมมีความลับกับเขาเมื่อ ร่วมชีวิตกับเขาแล้วน่ะ มันไม่ใช่เวลา ลองใจแล้วเพราะอยู่กันฉันท์สามีภรรยาแล้ว  การลองใจวัดใจนั่นควร ทำตอนที่เริ่มเลือกคู่เลือกศรีภรรยาต่างหาก จากคุณ : DojiDoji เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 21:23:32

ความคิดเห็นที่ 19 เราว่าตึงเกินไป เรามองว่าที่แฟนคุณถอนใจและไม่พอใจไม่ได้มาจากเรื่องรถถูกหรือแพงหรอก แฟนคุณน่าจะไม่สบายใจว่าตัวคุณไม่ยอมทำงานเป็นหลักเป็นฐาน ดังนั้นเมื่อคุณอยู่ในฐานะหัวหน้าครอบครัวจะนำพาครอบครัวไปตลอดรอดฝั่งได้ยังไงกัน ดูอย่างข้างบ้านเค้ายังทำงานทำการขยันอดออมจนซื้อรถซื้อราเป็นเรื่องเป็นราว ควรจะบอกความจริงไปค่ะ แฟนคุณจะได้สบายใจว่ามีสามีที่มีการมีงานทำ มีความมั่นคงเหมือนคนอื่นๆเค้า เชื่อเถอะค่ะว่าพอแฟนคุณรู้นะ เค้าก้อคงไม่ได้อยากให้คุณซื้อแคมรี่หรอกค่ะ แค่สบายใจเท่านั้นเอง จากคุณ : ความปลอดภัยเริ่มต้นที่ตัวเรา เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 21:23:35

ความคิดเห็นที่ 20 ^ เป็นไปได้เลย จากคุณ : everandever เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 21:25:58

ความคิดเห็นที่ 21 มี 8 หลักยังงกขนาดนี้ ตายไปเอาไปได้ไหม สงสารเมียจิง ๆ จากคุณ : por_sas_a เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 21:30:03

ความคิดเห็นที่ 22 ขอแสดงความเห็นอีกนิด ในฐานะที่เป็นทั้งสามีและพ่อของลูกนะครับ เรื่องแบบนี้ใจเขาใจเราครับ ชีวิตคู่ที่ดีควรมีธรรมาภิบาลครับ สิ่งที่ต้องปกปิดมีสองอย่างคือ สิ่งนั้นชั่ว กับสิ่งที่จะรู้นั้นไม่มีค่าคู่ควร หากเป็นตัวเราถามว่า เราจะอยากได้ข้อไหนครับ คำตอบคือไม่อยากได้สักข้อ ดังนั้นหากคนที่เรานอนอยู่ด้วยคือสิ่งที่เราคิดว่าเราจะอยู่กับสิ่งนั้นไปตลอดชีวิต เราควรเปิดเผยทุกสิ่งทั้งตัวเขาและตัวเรา พร้อมทั้งหาจุดกึ่งกลางสมดุลของชีวิต แต่ถ้าไม่กล้าขอให้ตั้งข้อสังเกตุไว้เลยครับ คุณยังไม่มั่นใจในคนที่คุณกำลังกล่าวถึง กับอีกอย่างเราให้ความสำคัญกับหัวใจของเรามากเกินไปครับ เงินทองจะเก็บไว้ให้ทับตายกับรู้จักแบ่งปันเติมความสุขให้กับครอบครัว ลองทำแบบหลังดูครับชิวิตเราและชีวิตคู่จะอยู่ยืนยาวครับ จากคุณ : ทองเนื้อเก้า เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 21:33:29

ความคิดเห็นที่ 23 แฟนหรือเมียไม่รู้นี่ไม่จริงครับ มีอะไรที่ปิดเมียหรือแฟนได้บ้างครับ ยิ่งเรื่องเงินนี่จบ ไม่ผ่านครับ จากคุณ : ฉันมันตัวเปล่า เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 21:37:01

ความคิดเห็นที่ 24 ขอบคุณ จขกท นึกถึงตัวเอง จากติดลบ เป็นล้านค่อยๆ งอกเงย แต่ผมเป็นเจ้าของกิจการ ต้องบอกว่ากิจการเพราะทำเอง แม้มีลูกน้องช่วยก้อ ห้ามหยุด ห้ามลา ห้ามป่วย ไม่งั้น ลูกน้องจะกินอะไร จนมา 2-3 ปีหลัง เริ่มมีกำไร และคืนเงินจนหนี้เหลือน้อยแต่อยู่ในระดับที่มีหนี้ (ส่วนใหญ่จะยืม พ่อ+แม่ มากกว่าซึ่งไม่คิดดอก และทยอยคืนทุกเดือนอยู่แล้ว) จึงนำเงินบ้างส่วนมาลงทุน แบบค่อยเป็นค่อยไป แต่เนื่องจาก เมียใช้เงินเก่งคำว่าเก่งคือ ซื้อเครื่องสำอาน 2หมื่นต่อครั้งได้อย่างสบายๆ ทำให้ผมเครียดจะบอกว่ามีเงินเยอะเด๋วใช้เงินอีก สรุปตอนนี้ ผมแอบเมียเล่นกองทุน เงิน 8แสน แบ่ง 3แสนในกองทุนหุ้น 5 แสนตราสารเงิน+เงินสดหมุนเวียร 4 แสน และทำมา 6 เดือนได้กำไร 4 หมื่น ผมกำลังคิด+เครียดว่าจะบอกดีหรือไม่ดี ที่จริงก้อยากบอก นะครับ จากคุณ : benz1 เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 21:38:11

ความคิดเห็นที่ 25 คำว่า "อดเปรี้ยวไว้กินหวาน" สิ่งทึ่คุณต้องสูญเสียเพื่อแลกมันมา คือ "เวลา (ที่ไม่สามารถหาเพิ่มได้) และความสุข (ที่ไม่รู้จะคงอยู่ได้นานแค่ไหน)" หากมีโอกาสทำสิ่งใดให้คนที่เรารักได้ ก็อยากขอให้ทำทันทีเลยนะครับ ก่อนที่จะไม่มีเวลา และโอกาส จากคุณ : ไม่ได้แช่ง เจอกับตัวเองเลยรู้ (mspaint) เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 21:39:36

ความคิดเห็นที่ 26 อย่าตระหนี่จนเกินไป...แต่ก็อย่าใช้เงินเกินฐานะ  เดินสายกลางดีที่สุด  มีเงินก็ใช้บ้างครับ  คุณก็เหมือนแบบผมคือ  ลงทุนไปนานๆแล้วเห็นตัวเลขในพอร์ตมันขยับขึ้นไป  แค่นั้นก็มีความสุข  แต่เราเป็นสุขคนเดียว  คนร่วมชีวิตกับเราเค้าอาจไม่ได้มีความสุขกับเราด้วย  คนเราชอบไม่เหมือนกันรู้สึกไม่เหมือนกัน  นึกถึงใจเขาใจเรา  แต่ก็อย่าทำอะไรให้มันสุดโต่งเกินพอดี^^ จากคุณ : satan@เต้ย เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 21:49:43

ความคิดเห็นที่ 27 ตึงเกินไป ก็บอกไปสิ ว่าทำอะไรอยู่ เหตุการณ์มีอยู่ว่า คุณแฟนผมเห็นคุณเธอแอบมองรถ  แล้วถอนหายใจ สงสัยคงคิดว่าชาตินี้อยู่กับผมคงไม่มีวันได้ขับรถอย่างเพื่อนแน่ๆ  เธอพูดกับผมว่าคันต่อไปคงเป็น BM แน่ๆ ผมก็ไม่ได้พูดอะไรมาก ได้แต่คุยแย่ๆ ว่าเลขทะเบียนอะไร "แต่เธอนิ่ง ไม่พูดอะไร" <-- นี่ก็คิดเองว่าแฟนจะคิดยังไง คิดแทนแฟน ทำไมไม่ถามไปตรง ๆ เลยว่าอยากได้เหรอ อิจฉาเหรอ หรือก็แค่ทักเฉย ๆ ว่าเห็นเพื่อนบ้านออกรถใหม่ มีอะไรก็ต้องคุยกัน คนที่ไม่เข้าใจกัน คือคนที่ไม่คุยกัน ทำไมต้องปล่อยให้แฟนคุณเข้าใจเอาเองว่าคุณเป็นยังไง แล้วจริง ๆ แล้วคุณเป็นยังไง คุณก็คิดว่าแฟนคงคิดอย่างงี้ เป็นอย่างงี้ แฟนก็คิดว่าคุณคงคิดอย่างงี้ เป็นอย่างงู้น หาเวลาคุยกันให้เข้าใจจะดีกว่านะ :) จากคุณ : PIMMIE เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 22:04:31

ความคิดเห็นที่ 28 เคยปิดบังสามีเรื่องเงินทอง  เราต้องประหยัดแอบให้น้องๆยืม คอยช่วยเหลือน้องๆเวลาเดือดร้อนหรือทางบ้านเดือดร้อน(ยืมแล้วก็คืน) เพราะสามี กินเหล้า สูบบุหรี่ ไม่เคยประหยัด พอเล่าปัญหาที่เก็บไว้คนเดียวมานาน  กลายเป็นว่าช่วยเราประหยัดขึ้นและจุนเจือครอบครัวเรา  เรื่องเล่นหุ้นทีแรกไม่กล้า บอก พอพอร์ทเขียวๆ เราก็เริ่ม...เปิดโปงตัวเอง...กลายเป็นว่า"ดีแฮะ" เพราะแฟนชอบอ่านหนังสือ ติดตามข่าว แล้วบอกว่าช่วงนี้หุ้นไหน ดี น่าเข้า  !!!!!!รูงี้ ตรู บอกตั้งนานแล้ว 55555           บอกเถอะค่ะ ขอร้องงงงงงง จากคุณ : แสนรัตน์ เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 22:05:37

ความคิดเห็นที่ 29 ผม  งง ครับ เรื่องนิยาม  แฟนของคุณนี่  เรียกว่า ภรรยา รึเปล่าครับ แบบมาอยู่ร่วมบ้านกันแล้ว หรือแค่แฟน เฉยๆ ยังอยู่ในระดับคบหากัน แต่เรื่องรถสำหรับผมผมว่าโคตรไร้สาระเลยนะครับ มีรถก็เหมือนมีภาระ เปล่า แต่ผมมีรถนะครับ  ขับมาจะขึ้นปีที่ 6 แล้ว ยังไม่ 3 หมื่นกิโลเลย แต่เรื่องรถ มันเป็นเรื่องใหญ่อะไรในชีวิตครับ  ผมกลัว ผู้หญิงแบบนี้จังครับ ต่อไป camry  แล้วไป BMW  ต่อไปไม่รถสปอร์ตเหรอครับ คันละ 20 ล้าน  เค้าต้องการขนาดไหนเหรอครับ แก้ไขเมื่อ 27 ก.พ. 55 22:16:38 จากคุณ : STOCK_BABY เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 22:12:26

ความคิดเห็นที่ 30 เดี๋ยวจะมาคิดได้ทีหลังว่า วันที่เรามีเงินมากมายกลับไม่มีคนรู้ใจข้างกาย จากคุณ : ขอบคุณที่ตอบ เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 22:18:00

ความคิดเห็นที่ 31 city car มันก็เหมาะกับชีวิตในเมืองอยู่แล้ว   เดาว่า น่าจะเกี่ยวกับเรื่องานมากกว่า  ว่าทำไม ? ไม่ทำการ ทำงาน จะได้มีเหมือนคนอื่นเขา  (มองโลกในแง่ดี) แก้ไขเมื่อ 27 ก.พ. 55 22:54:22 จากคุณ : THE FINAL 2 เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 22:28:56

ความคิดเห็นที่ 32 เห็นด้วยกับ คห. 19 จากคุณ : plamorsri เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 22:31:58

ความคิดเห็นที่ 33 ขอตอบตามความคิดของผู้หญิงที่คุณแฟนเล่นหุ้นนะคะ ^ ^ ถ้าบ้านข้างๆ ออกรถใหม่ป้ายแดง (อีกแล้ว) ก็คงมองแบบอิจฉา 555+     โห..รวยอะ ออกรถใหม่อีกแล้ว ก็คงคุยกะคุณแฟน เทอ..บ้านโน้นเค้าออกรถใหม่อีกคันแล้ว ส่วนคุณแฟน ก็คงตอบเหมือนเดิม ..ว่า.. จริงๆ รถบ้านเราน่าขายไปซะคันนึง (แว๊กกก!!) จะไปเที่ยวไหน ก็ไปเช่าเค้าใช้เอา ไม่ต้องดูแล สบาย.. ชินซะแล้วคร่า.. ใครจะไม่อยากได้บ้านสวยๆ รถใหญ่ๆ แต่ก็นะ รถยี่ห้อไหน ใหญ่แค่ไหน ก็ไปถึงจุดหมายเหมือนกัน เราว่า..เจ้าของกระทู้บอกกะคุณแฟนว่า.. งานที่คุณทำเป็นแค่การยังชีพเท่านั้น ไม่ใช่เนื้อแท้อะไร มันเลยทำให้ผู้หญิงรู้สึก..เหมือนลอยๆ ไม่มั่นคง มังคะ เลยคะยั้นคะยอให้คุณไปทำงานประจำ คุณน่าจะคุยกับคุณแฟนให้เห็นภาพข้างหน้านิดนึง บางทีมองไม่เห็นทางข้างหน้าเลย มันก็อดกลัวไม่ได้ค่ะ จากคุณ : Mocha เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 22:50:02

ความคิดเห็นที่ 34 ถ้าเป็นภรรยาคู่ชีวิตจะปิดบังทำไม จริงอยู่ที่ว่าใครๆก็อยากหาเงินได้เยอะๆ ส่วนตัวเราคิดว่าความสุขของทุกคนในครอบครัวมีค่ามากกว่าเงินเยอะเลยค่ะ มีเงินมากมายแต่ถ้าต้องอยู่คนเดียวเงินมันจะดูไร้ค่าขึ้นมาเลยค่ะ คุณมีแปดหลักแล้วเจียดเงินบางส่วนให้โบนัสภรรยาบ้างก็ได้ค่ะ แต่ถ้าเป็นแค่แฟนเราก็จะเล่าๆเฉยๆไม่เปิดเผยตัวเลขให้รู้หรอกค่ะ ความเห็นส่วนตัวล้วนๆเลยนะเออ จากคุณ : mymindtotto เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 23:10:00

ความคิดเห็นที่ 35 ถ้าเป็นผม มีพอร์ต 8 หลัก เมียบอกอยากได้แคมรี่ (พูดแบบอิจฉาข้างบ้าน) ผมก็ไปซื้อให้ก็แค่นั้น เงิน ล้าน2 กับความสุขเมีย จัดไป หรือคุณจะบอกว่า พี่ว่า พริอุส ดีกว่ามั้ย ประหยัดน้ำมันดี เงียบด้วย ตอนกลางคืนพี่แอบหนีเที่ยวน้องก็ไม่ตื่นเพราะเสียงรถด้วย เราไม่รู้หรอกว่าจะตายเมื่อไร ทำให้คนรอบข้างมีความสุขไว้ โดยเฉพาะคนในครอบครัว อะไรที่ไม่เกินไป ก็ทำซะเถอะครับ จากคน พอร์ต 6หลัก รถเก่าติดแก๊ส จากคุณ : กฤษณะ เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 23:22:47

ความคิดเห็นที่ 36 ตาม #19 จากคุณ : หมึกสด เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 23:30:22

ความคิดเห็นที่ 37 เห็นด้วยกับความเห็นที่ 19 ค่ะ ในฐานะที่เราเป็นผู้หญิงคนหนึ่งนะ  เราไม่ได้ต้องการอะไร  เพียงแต่อาจจะมองไปในอนาคตว่า  ถ้าไม่มีงานอะไรที่เป็นหลักแหล่งแล้วในอนาคตจะดูแลครอบครัว  ดูแลลูกได้อย่างไร  เราว่าถ้าคุณคิดจะใช้ชีวิตอยู่กับเขาแล้ว  ก็บอกความจริงเถอะ  พยายามคุยกันเยอะ ๆ ค่ะ จากคุณ : pukajung1 (pukajung1) เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 23:44:22

ความคิดเห็นที่ 38 ลองซื้อซิครับ ก็จะได้คำตอบ พอมี Camry ก็คงอยากได้ BM แน่ๆ ดังนั้น ซื้อ BM เลยดีกว่า  อิอิ.. จากคุณ : Unsign เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 23:47:25

ความคิดเห็นที่ 39 ช่างไม่เหมือนแฟนเสียนี่กระไร ผมเพิ่งหัดเล่นมาได้ 6 เดือนเอง แฟน(เมีย) ช่างใจดีเสียนี่ เปิดพอร์ทให้ผม3 พอร์ทแล้ว 7 หลักหน่อย คงอยากทำให้ผม ทำให้มันเป้น8 หลักมั้งครับ จากคุณ : หนุ่มธนู เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 55 00:25:09

ความคิดเห็นที่ 40 ง่ายๆเอาปันผลไปซื้อ ทุกคนมีความอยากได้ อยากมี ผมเล่นหุ้นก็อยากจะหาเงินไปไถ่ที่ของพ่อตาที่โดน บ.ส.ท. ยึด  ภรรยาผูกพันธ์กับที่ดินผืนนั้น ตอนนี้ได้ 25% ของที่ดินแล้ว ฝากไว้สุดท้ายก็เอาอะไรไปไม่ได้ มีก็ใช้ตามฐานะครับ อย่าทรมานจิตใจเลยครับ คนจนมีเงิน 1 แสนก็ถือว่ามากสำหรับชีวิตเขาแล้ว คนรวยมี 100 ล้านยังบอกว่าตัวเองจนเลยครับ จากคุณ : แจ้ห่ม47 เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 55 00:26:34

ความคิดเห็นที่ 41 ซื้อความสุขให้ตัวเองบ้าง ไม่ใช่ว่าไม่ซื้อเลย เงินมีไว้ใช้ครับ ถ้าไม่เดือดร้อน จากคุณ : yacht7 เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 55 00:33:22

ความคิดเห็นที่ 42 แบ่งกำไรไปให้เแฟนใช้บ้างเถอะครับ อยากเอากำไรมาลงทุนหมด เดี๋ยวจะหาความสุขไม่มีนะครับ เงินในพอร์ตโตไปเรื่อยๆ แฟนคุณไม่รู้หรอกครับ เป็าหมายคุณแค่ไหน ตอนนี้ไปไกลเท่าไหร่แล้ว ถ้าคุณไม่เล่าให้แฟนฟัง เขาก็ไม่รู้หรอกครับ ถ้าเห็นว่าแฟนตัวเอง ย่ำอยู่กับที่ งานก็เดิมๆ เงินได้หรือเปล่าก็ไม่เห็น เป็นผม ผมก็หงุดหงิดนะ ว่าคู่ชีวิตเราจะดูแลเราได้หรือเปล่า ลองหาวิธีที่ทำให้แฟนรู้ว่า สิ่งที่เราทำอยู่ สามารถหาเลี้ยงเขาและครอบครัวได้ ก็ดีนะครับ จากคุณ : LP. E. no SAINT เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 55 00:43:35

ความคิดเห็นที่ 43 คนรวยแต่ทำตัวไม่รวยก็มีเยอะ คนไม่รวยแต่ทำตัวรวยก็มีเยอะเช่นกัน บางทีเงินมันหามาเหนื่อยก็เสียดาย ผมก็เป็น ทุกวันนี้ก็ทำตัวบ้านๆ ขับกะบะ ไม่เท่ห์เลย อยากซื้อรถหรู จะกลายเป็นดาบสองคมซะเปล่า ต่อการงาน ชีวิตคู่ถ้าไม่ได้ลำบากมาด้วย หามาด้วยกัน ก็พูดยาก เงินล้านเราทำงานเก็บออมมา ไม่ได้มีไว้ใช้สุรุสสุร่าย บางคนกลับคิดถ้าตรูมีเงินล้านตรูจะซื้อไรบ้าง ใช้อะไรบ้าง แต่ทั้งนี้อย่าให้ตึงมากครับถ้ารักกัน เป็นผมถ้ามีคนรักในเวลานี้ก็คงสบายๆ ใช้ชีวิตที่เหลือ หาเวลาไปเที่ยวไกลๆ ซื้อรถที่พอสมควรแก่เงินที่มี กลัวจุจู่ตาย    เซ็งตาย(ตายไปแบบไม่ได้ใช้เงินที่หามาเหนื่อยๆ) จากคุณ : อมยิ้มไม่หวาน เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 55 01:05:28

ความคิดเห็นที่ 44 ไม่รู้จะแนะนำไง หาเงินได้เท่าไหร่ เมียใช้ครึ่ง ลูก 1/4 อีก 1/4 เมียเอาไปให้แม่เค้า เวรของกรูแท้ๆ จากคุณ : ชีวิตไม่เคยง่าย เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 55 02:26:30

ความคิดเห็นที่ 45 คุณนี่โคตรแปลก ... เอาแต่อดเปรี้ยวไว้กินหวาน มีเป้าหมายที่วางไว้ แต่กลายเป็นว่าคุณทำให้ชีวิตขม แล้วเอาแต่ฝันหวานไปคนเดียวว่าวันที่รวยล้นฟ้า จะตึงโป๊ะให้ชีวิตมีความสุขได้ ไม่เคยฟังเหรอครับ ที่เซียน ๆ หลายคนบอกไว้ว่า เป้าหมายไม่ได้มีความหมายอะไรเลย ถ้าคุณขาดประสบการณ์ระหว่างทางน่ะ ... มีเงินตั้ง 8 หลัก แต่ชีวิตครอบครัวกลับมีความสุขอยู่คนเดียว เห็นแฟนเป็นขนาดนี้ ยืนมองรถเพื่อนบ้านตาละห้อย หันกลับมามองคุณด้วยความเข้าใจที่ว่าผู้ชายคนนี้ต่อหน้าฉันจะพึ่งพิงได้มากแค่ไหน แต่คุณกลับไม่พยายามสนใจที่จะทำให้เธอเข้าใจได้ว่าสิ่งที่คุณกำลังทำคืออะไร เก็บเงียบไว้คนเดียว มีความสุขกับเงิน 8 หลักอยู่คนเดียว .. แปลกคน แทนที่ชีวิตคู่จะมีความสุขกับทุก ๆ วันของชีวิต จะมีความสุขอยู่กับสิ่งที่มี แต่กลายเป็นว่าคุณมีความสุขอยู่คนเดียว กับตัวเลขแค่ 8 ตัว คอมม่าอีก 2 ใน Portfolio. ถามจริงเหอะ คุณเคยรู้บ้างหรือเปล่า ว่าความสุขในชีวิตคู่ของคุณทั้ง 2 คน อยู่ตรงไหน บางคนอย่างตัวคุณอาจมีความสุขกับเป้าหมายในอนาคต (จนลืมปัจจุบัน) บางคนอย่างข้างบ้านอาจมีความสุขกับรถใหม่ ๆ บางคนอาจจะเป็นบ้านใหม่ ของใช้ใหม่ ๆ แล้วความสุขของแฟนคุณล่ะ อยู่ตรงไหน ? ... บางคนอาจบอกว่า คุณไม่จำเป็นต้องบอกแฟนหรอกว่าคุณมีเงินเท่าไหร่ มีอะไรบ้าง อย่าเอาผู้หญิงที่เห็นแก่เงินเป็นที่ตั้ง แต่ผมไม่เห็นด้วย เพราะคุณทั้ง 2 คนอยู่บ้านเดียวกัน น่าจะแต่งงานกันแล้ว ไม่ใช่เพิ่งจะคบ ทดลองใจกันใหม่ ๆ ซะที่ไหน ... มันคนละกรณี อย่างคุณ คุณเป็นผู้ชาย เป็นผู้นำครอบครัวแล้ว (หรือเปล่า) คุณต้องมีทางเดินที่ชัดเจน มีการอธิบายที่ชัดเจน ให้แฟนคุณที่เดินข้าง ๆ คุณได้รู้ว่าปัจจุบันบ้านนี้มีสถานะเป็นอย่างไร มีแนวทางในอนาคตเป็นอย่างไร เพื่อให้เธอได้สบายใจ อีกอย่างที่คุณมองข้ามไปก็คือ ชีวิตนี้อย่าเอาแต่ความรับผิดชอบ ความมั่นคงเป็นที่ตั้ง ... รากฐานของชีวิตคู่มันไม่ได้อยู่ที่จำนวณเงินในพอร์ตซะหน่อย ยกตัวอย่างเคสผม ผมคบกับแฟนตั้งแต่พอร์ตผมยังเป็นหลักแสน ขับรถญี่ปุ่นรุ่นถูกสุด แน่นอนกว่าก่อนเป็นแฟนกัน เค้าก็รู้ว่าผมมีเท่าที่เค้าเห็น นอกเหนือจากนั้นผมไม่ได้บอก พอตกลงเป็นแฟนกันแล้วจนมั่นใจว่าจะอยู่กันไปยาว ๆ ... สิ่งที่ผมมีผมไม่เคยปิดแฟน และบอกแฟนด้วยว่า เค้าก็ไม่จำเป็นต้องปิดผมในสิ่งที่เค้ามี แต่อยากจะปิดก็ตามใจ สมัยนั้นแฟนผมก็เหมือนแฟนคุณ ที่ไม่เข้าใจว่าผมกำลังทำอะไร ยังเข้าใจว่าการเล่นหุ้นเหมือนเป็นการพนัน เสี่ยง ฯลฯ ตามประสาคนทั่วไป แต่สิ่งที่ผมทำ ไม่ได้เหมือนคุณ เพราะผมมักจะบอกแฟนเสมอว่าผมกำลังลงทุนสร้างสินทรัพย์ เหมือนฝากเงินเข้าหลักทรัพย์ที่มีดอกเบี้ยมากกว่าเงินฝาก ทุก ๆ ครึ่งปีที่ได้เงินปันผลออกมา ผมก็จะเอาเช็คปันผลไปให้แฟนดู แล้วบอกว่า ถ้าอยากได้ดอกเบี้ยปีละ 8-10% รวมถึงเครดิตภาษีคืนได้ ก็เอามาลงทุน แต่ถ้ายังมีความสุขกับการฝากเงินในบัญชีธนาคาร แล้วกินดอกเบี้ยปีละ 0.75% (สมัยนั้น) ไปเรื่อย ๆ ก็ตามใจ มีการเกทับกันบ้างให้ได้คิดนิดหน่อย ทั้งเช็คคืนภาษีช่วงเดือนกุมภาพันธ์ เช็คปันผลช่วงเดือนเมษายน และเช็คปันผลช่วงเดือนกันยายน ... พาไปประชุมผู้ถือหุ้น สุดท้ายแฟนก็เข้าใจในสิ่งที่ผมกำลังทำ และยอมเปิดพอร์ตของตัวเองบ้าง เอาเงินที่ซุกไว้ในฝากประจำมาถือหุ้นปันผล แต่ผมกับแฟนก็ไม่ได้บ้าระห่ำตั้งหน้าตั้งตาปั้นตัวเลขพอร์ตนะ อดเปรี้ยวไว้กินหวานบ้างเหมือนกัน แต่ไม่ได้ทำให้อดอยากปากแห้ง ช่วงสองสามปีที่ผ่านมา ที่พอร์ตผมทะลุ 8 หลักแล้ว ผมก็ไปเที่ยวต่างประเทศกับแฟน ก็ไปเดินดูโน่นดูนี่ แฟนก็ดู brand name ตามประสาผู้หญิง มองสายตาแฟนตอนนั้น คำพูดที่หลุดออกมาเวลาดูโน่นดูนี่ น้ำเสียง ท่าทาง ทำให้ผมได้รู้ว่า จริง ๆ แล้วหากเรามีเงิน ก็ใช้ ๆ มันไปบ้างเหอะ จะเก็บไว้หาพระแสงอะไร ตายไปก็เอาไปไม่ได้ เอามาซื้อความสุขในปัจจุบันดีกว่า เอาเงินไปซื้อสิ่งที่สร้างความสุขให้กับตัวเองบ้าง สำหรับผู้หญิงก็เช่น กระเป๋า รองเท้า เครื่องประดับ ... เท่าที่กำลังทรัพย์อำนวย ซื้อได้ไม่ลำบาก ผมก็เลยตัดสินใจเลยว่า 5% ของสินทรัพย์ที่มี คือโควต้าสำหรับซื้ออะไรก็ได้ที่อยากได้ หรือไปเที่ยวที่ไหนก็ได้ ที่ต้องการ ไปด้วยกัน คือรางวัลของชีวิต นี่คือสิ่งที่ผมตั้งใจทำตลอดมาหลังจากกลับมาจากต่างประเทศครั้งนั้น หลังจากนั้นทุกปีจะต้องมีไปเที่ยวกัน อยากได้อะไรก็จัดไป อย่างแฟนนี่ทุกครั้งที่ไปต่างประเทศ ก็จะต้องได้ของที่ชอบมา 1-2 ชิ้น ล่าสุดก็เล่นไปเฉียดแสนเหมือนกัน .... แต่ไม่ใช่ว่าของผมไม่มี เพราะของเล่นอันล่าสุดของผมที่นาน ๆ มาที ใบพัดสีฟ้าคันล่าสุดก็ล่อไปหลายล้านเหมือนกัน เลยไม่มีปากมีเสียงไปว่าอะไรแฟนได้เวลาซื้อของแพง ตราบใดที่ทุกอย่างอยู่ในงบที่ตั้งไว้ และเป็นเงินที่เหลือจากทุก ๆ อย่าง คือมันไม่ใช่เรื่องความฟุ้งเฟ้อ ความไม่พอเพียงอะไรหรอกนะคุณ ... แค่มีเงินก็ใช้ไป ทำงานมาหนัก ไม่ต้องกินข้าวคลุกน้ำปลาก็ได้ ชีวิตมีแค่นี้ อนาคตคือผลของปัจจุบัน ทำชีวิตในวันนี้ให้มีความสุขตามฐานะ (จะรวยหรือจนก็ตาม) อนาคตคุณก็จะดีตามเองแหละ ... วันที่คุณไม่มีเงิน คุณอาจจะทุ่มเทหลาย ๆ อย่างในชีวิต เพื่อสร้างหลักประกันในชีวิต เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ และถูกต้องแล้ว แต่วันที่คุณมีมากพอแล้ว คุณจะรู้เลยว่า เงินที่เพิ่มขึ้นมาจาก 8 เป็น 9 เป็น 10 หลักในพอร์ต ... มันไม่ได้ให้ความสุขอะไรเลย ถ้าคนข้าง ๆ ไม่มีรอยยิ้มให้คุณ วันนี้ผมมีมากพอแล้วสำหรับ 8 หลักของผม .. แต่ถามหน่อยเหอะ ... 8 หลักของคุณเนี่ย มากพอแล้วยัง ? แก้ไขเมื่อ 28 ก.พ. 55 03:53:26 จากคุณ : Morning Star เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 55 03:48:55

ความคิดเห็นที่ 46 อืม..ได้ความคิดเห็นที่หลากหลายเลยครับ   เพิ่มเติมอีกนิดครับ... ความจริงผมไม่ได้เคยคิดจะปิดบังอะไรกับคุณแฟนหรอกครับ ตอนที่ผมมีล้านแรกเคยเอาพอร์ตไปโชว์ให้ดูครับ ด้วยความดีใจในช่วงเวลานั้นว่าผมทำได้แล้วมาถูกทางแล้ว มาซักพักว่าที่คุณพ่อตาทำธุรกิจขาดสภาพคล่อง ด้วยความที่เห็นคุณแฟนเครียดผมก็เลยให้เงินยืมไป 2 แสน แต่ได้คืนมา 1 แสน ไม่รู้ว่าจะได้คืนหมดหรือป่าว พอไปถามคุณแฟนก็ไม่พอใจก็เลยหยุด (ทำใจแล้วครับ) จึงเป็นเหตุทำให้ผมไม่อยากโชว์พอร์ตของผมให้ใครๆ ด้วยครับ บางคนอาจจะคิดว่าทำไมไม่เลิกกับคุณแฟนไปเลย ยอมรับครับว่าเคยคิดครับ แต่ด้วยความที่เคยยากลำบากมาด้วยกันครับ   ตอนที่ผมยากลำบาก   ก็คุณแฟนคนนี้แหละครับที่อยู่เคียงข้างช่วยเหลือกันตลอดมา และเป็นเหตุว่าทำไม "ต้องอดเปรียวไว้กันหวาน เพราะว่าความยากลำบากนี่แหละครับ"   เราวางแผนจะแต่งกันปลายปีนี้ครับ ถ้าแต่งแล้วคงต้องโชว์พอร์ตการลงทุนให้ดู   งานที่ผมทำอยู่ผมสามารถทำรายรับมากกว่างานประจำที่เคยทำหลายเท่าตัวครับเพียงแต่อาจไม่คงที่ทุกเดือน ผมมองเป็นรายปี แต่สิ่งที่ผมได้คือเวลาครับ ผมเคยเป็นลูกจ้างเขาบอกตามตรงว่าไม่มีเวลาเป็นของตัวเองเลย   ผมมาทบทวนว่าชีวิตนักลงทุนหากคนรอบข้างไม่เข้าใจจะลำบาก อาจมองไปอีกด้านหนึ่งว่ามีเงินแล้วทำไมไม่ใช้หาความสุข เป็นคนขี้เหนียว เดี๋ยวตายไปก็ไม่ได้ใช้  ถ้าหากเป้าหมายไม่ชัดเจน ไม่ตั้งมั่นจริงๆ คงต้องอยู่คนเดียวเป็นแน่ ความจริงๆผมก็ใช้นะ เช่น นักเครื่องบินชั้นประหยัดอยู่ อิอิ อยากไปเที่ยวไหนก็ไปตามสมควรครับ แก้ไขเมื่อ 28 ก.พ. 55 04:45:22 จากคุณ : หนุ่มกันย์ เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 55 04:19:15

ความคิดเห็นที่ 47  คุณ Morning Star ยอดเยี่ยมครับ   สำหรับ จขกท. ผมก็มานึกๆดู ในอีกมุมหนึ่งก็ต้องให้ความยุติธรรมกับความคิดของคุณด้วยส่วนหนึ่ง เพราะตัวแปรทางครอบครับแต่ละคนนั้นต่างกันครับ ผมและอีกหลายคนอาจจะโชคดีที่ได้พบคู้สร้าง กินอยู่ใช้จ่ายบนความพอดีตามฐานะ และแยกแยะพร้อมยอมรับได้เกี่ยวกับการแบ่งส่วนค่าใช้จ่ายสำหรับครอบครัวของแต่ละฝ่าย ตรงนี้เป็นจุดสำคัญด้วยเช่นกัน บางครอบครัวล้มเหลวเพราะไม่สมดุลระหว่าง ครอบครัวเราและครอบครัวญาติ จะว่าไปแล้วบางครอบครัวเมื่อเลิกกันไปก็คือคนแปลกหน้า แต่บนความเป็นจริงปฏิเสธไม่ได้ว่า การรวมกันของครอบครัวนั้นลงตัวด้วยผลประโยชน์ เช่นความรัก ความพึงพอใจ ทรัพย์สิน แต่เมื่อทุกอย่างพังลง บางครั้งสายเลือดอาจข้นกว่าสายน้ำ ก็เป็นสิ่งที่ตัดสินใจยาก แต่อีกด้านหนึ่งหากเรามั่นใจว่าสายน้ำบัดนี้เข้มข้นไม่แพ้สายเลือด ซึ่งผมไม่รู้ว่ามันเป็นแบบไหน จขกท.รู้ดีกว่าใคร ก็ใช้ตรงนั้นครับ เป็นสิ่งชี้ทางหาสมดุลครับ จากคุณ : ทองเนื้อเก้า เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 55 07:28:13

ความคิดเห็นที่ 48 คุณแฟนน่าจะต้องการความมั่นคงมั้งครับ ตาม คห19 เลย ผมว่าอันนี้มีส่วน จากคุณ : iteerath0n เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 55 08:26:20

ความคิดเห็นที่ 49 แคมรี่...ไม่ใช่ดัชนีตัววัดความสำเร็จในชีวิต เดี๋ยวนี้มองไปทางไหนก็เห็นมีแต่แคมรี่เต็มบ้านเต็มเมือง... บางคันก็ผ่อน...บางคันก็สด...บางคันก็เป็นแค่รถที่ใช้ในบริษัท เห็นแฟนบอก อีกหน่อยข้างบ้านคงออก BM งั้นก็ขยับไปออกBM เป็นสินสอด คุณแฟนเลยครับ ผมเอียนแคมรี่จะแย่อยู่แล้ว(555...ยุ่งอะไรกับเขาฟะเนี่ย) จากคุณ : พิงค์วู เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 55 08:32:50

ความคิดเห็นที่ 50 margin  of satisfaction  ของคุณกับคนใกล้ตัว กำลังแยกทางกันเดินอย่างทำลายล้างครับ โดยผมอ่านจากประโยคนี้ บางคนอาจจะคิดว่าทำไมไม่เลิกกับคุณแฟนไปเลย ยอมรับครับว่าเคยคิดครับ แต่ด้วยความที่เคยยากลำบากมาด้วยกันครับ   ตอนที่ผมยากลำบาก   ก็คุณแฟนคนนี้แหละครับที่อยู่เคียงข้างช่วยเหลือกันตลอดมา และเป็นเหตุว่าทำไม "ต้องอดเปรียวไว้กันหวาน เพราะว่าความยากลำบากนี่แหละครับ"   เอาใจช่วยให้กลับมาร่วมทางกันเดินอย่างสร้างสรรค์อีกครั้งครับ เช่น เธอได้ขับรถคันใหม่  ส่วนคุณก็ได้ความรู้สึกที่เคยดีๆกลับมา ไม่รู้จะออกความเห็นอะไร เพราะแต่ละคนมีปัจจัยพื็นฐานสะสมต่างกัน ร้อยคนก็ร้อยปัญหา  ร้อยทางแก้ไขแตกต่างกันไป แต่ผมอ่านข้อความข้างต้นแล้่ว นึกเสียใจแทนแฟน  คนที่คุณบอกว่า เคยร่วมลำบากมากด้วยกัน ถ้าเขาเห็นแก่เงิน แก่วัตถุ   ก็คงไม่อยู่กันมาจนถึงวันที่ คุณกำลังตัดสินใจเลือก ชีวิตคู่  หรือเลือกเดินทางแสวงหาเงินในตลาดหุ้นต่อไปตามลำพัง จากคุณ : endophine เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 55 08:40:55

ความคิดเห็นที่ 51 แฟนคุณหนุ่มกันย์คงต้องการความมั่นคง ความสะดวกสบายบ้างในชีวิตค่ะ ผู้หญิงส่วนใหญ่เป็นอย่างนี้แหละ คือต้องการความมั่นอกมั่นใจว่าแฟนเราหาเลี้ยงเราได้นะ มีหลักมีฐาน มีเงินทองดูแลเราได้ตลอดรอดฝั่ง เท่าที่อ่านดู เค้าก็คงไม่ได้คิดหวังว่าคุณจะต้องรวยมาก ๆ หรือฟุ้งเฟ้ออะไรมากเกินไปค่ะ เค้ามองว่าการที่เพื่อนบ้านออกรถคันใหม่ มันแสดงให้เห็นถึงความเจริญก้าวหน้า ชีวิตดีขึ้น อะไรทำนองนี้ แล้วพอเค้าหันมาดูตัวเอง เอ๊ะ ทำไมเรายังย่ำ ๆ อยูตรงนี้ ยังไม่ก้าวหน้าไปไหนเหมือนคนอื่นบ้าง เค้าคงรู้สึกอย่างนี้แน่ ๆ เลย ดูแล้วเค้าเครียดเพราะลำบากมามาก อยากมีชีวิตที่ดีขึ้น สบายขึ้น แต่ไม่มั่นใจว่าสถานภาพของครอบครัวจะเป็นอย่างไรต่อไปในอนาคต ความฝันจะเป็นจริงหรือเปล่า คุณต้องพยายามอย่าตึงเครียดเกินไปในการหาเงินและการใช้เงิน และอธิบายให้เค้าเข้าใจมากกว่านี้ค่ะ เรื่องหลักฐานที่มั่นคงของครอบครัว เพื่อให้แฟนเกิดความสบายใจค่ะ เรื่องรถ ดิฉันคิดว่า Camry ไม่แพงนะคะ ขับสบาย นั่งสบายดีออก มันเป็นของที่เสื่อมค่าไปเรื่อย ๆ ก็จริง แต่ถ้าใช้นาน ๆ ดูแลบำรุงรักษาดี ๆ ก็น่าจะคุ้มนะ จากคุณ : หวานใจกัปตัน เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 55 09:10:47

ความคิดเห็นที่ 52 ต้องดูไลฟสไตล์ การใช้เงินของแฟนคุณประกอบด้วยว่าเป็นคนมือเติบใช้เงินเก่งหรือเปล่า ถ้าใช้เงินเก่งก็ไม่น่าบอก แต่จะให้รางวัลเธอทุกเดือนแทน  อันนี้ความคิดเรานะ 8 หลักนี่ปันผลน่าจะเยอะอยู่  น่าจะให้รางวัลชีวิตตัวเองระหว่างทางด้วย พาเธอไปเที่ยว ตปท บ้าง ใช้เงินไม่เท่าไหร่หรอก เอาเงินในบัญชีแบ๊งค์ให้ดูแทนดีไหม เวลาปันผลเข้า ทางสายกลางดีที่สุดนะ จากคุณ : atmind เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 55 09:22:32

ความคิดเห็นที่ 53 ถ้าเปนเรา เราคงเครียดนะคะหากว่าแฟนของเราไม่มีงานทำอันมั่นคง   วันๆ เหนนั่งอยู่แต่หน้าคอม ไม่เปนอันทำอะไร คงดูไม่ต่างจากเด็กติดเกมส์   และคงเครียดหนักต่อไปอีกว่าจะให้มาเปนผู้นำครอบครัวได้อย่างไร อาจไม่จำเปนต้องให้เหนพอร์ตทั้งหมด แต่ต้องทำความเข้าใจ และแสดงให้เหนว่าสิ่งที่ทำอยู่ทุกวันนี้คืออะไร มั่นคงแค่ไหน เพื่อให้อีกฝ่ายสบายใจว่าไม่ได้อยู่เฉยๆ เล่นเกมส์ไปวันวัน สามีภรรยาบางคู่ เค้าก้อไม่ได้ยุ่งเกี่ยวเรื่องการเงินกันนะค่ะ   ต่างฝ่ายต่างหา ต่างฝ่ายต่างแยกกันใช้  และมีส่วนกลางไว้สำหรับใช้จ่ายในบ้าน แต่มันต้องมีส่วนที่เก็บออมสำหรับวันข้างหน้า หรือ เหตุฉุกเฉินยามจำเปน เพื่อเปนมั่นคงและอุ่นใจสำหรับยามแก่เฒ่า คุณกำลังวางแผนจะแต่งงาน ได้วางแผนทางการเงินไว้ไหม ว่าหลังแต่งคุณจะจัดการเรื่องการเงินกันอย่างไร  ทางที่ดีควรคุยกันไว้ก่อน จะได้ไม่ปัญหาภายหลัง   เพราะการลงทุนนะ เวลาได้มันก้อดีใครๆก้อเข้าใจ  แต่เวลาที่เสียมักไม่มีใครเข้าใจ แม้กระทั่งภรรยา จากคุณ : Laikuiy เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 55 09:23:00

ความคิดเห็นที่ 54 ผมบริหารเงินได้ไม่ดีเลย  แต่บริหารความรักได้ดีครับ ถ้าแฟนหรือเมียก็ช่าง  เขาดีกับเรา รักเรา เอาใจเรา  เป็นเพื่อนทั้งสุขทุกข์  คือคู่แท้แล้ว  ทุกอย่างไม่มีของเธอของฉันครับ  มีแต่ของเรา ผมว่าถ้าคิดว่าคนนี้ใช่ทุกอย่างแล้ว  อย่ารอวันแต่งเลย  เกิดสายเกินไปจะเสียใจนะครับ จากคุณ : 1002 (1002) เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 55 09:47:56

ความคิดเห็นที่ 55 การบริหารเงินต้องเป็นการสร้างความมั่นคงให้ชีวิตเช่นทำประกันไว้ ลงทุนให้งอกเงย  และต้องคืนความสุขให้กับชีวิตด้วยเดี๋ยวนี้โรคร้ายก็เป็นกันตอนอายุไม่ค่อยมากด้วยอย่ามาหวังว่าเอาไว้สบายตอนแก่จะอยู่ถึงแก่ไหมนั่น  เงินที่มีก็อาจไม่ได้ใช้  เอาเป็นว่าถ้ามีเงินก็ใช้ตามอัตภาพไม่เกินตัวดีกว่า จากคุณ : style me เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 55 10:02:51

ความคิดเห็นที่ 56 ได้คัมรี่&บีเอ็มแล้วเดี๋ยวเห็นคันนี้ก็ถอนหายใจอีก... จากคุณ : tonjung เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 55 10:55:19

ความคิดเห็นที่ 57 ถามแฟนว่าทำไมต้องซื้อรถ...ถ้าแฟนมีเหตุผลที่ดีก็ควรซื้อครับ...การตัดสินใจซื้อของแพงๆคุณควรต้องตัดสินใจร่วมกัน ควรบอกแฟนด้วยว่าคุณกำลังลงทุนอย่างไรในหุ้น...เรื่องตัวเลขพอร์ตถ้ายังไม่พร้อมก็ยังไม่ต้องบอก...แต่ถึงอย่างไรในอนาคตคุณก็ควรให้แฟนรู้บ้างอยู่ดี อย่างไรก็ตามผมมีความคิดว่าผู้หญิงไม่ควรจะพึ่งผู้ชายฝ่ายเดียว...อย่างน้อยต้องสามารถเลี้ยงตัวเองได้โดยไม่ใช้จ่ายเกินตัว...ถ้าแฟนคุณเป็นอย่างนั้นอยู่แล้วหรือเก่งกว่าคุณ...คุณควรจะให้เธอเรียนรู้เรื่องหุ้นและยกพอร์ตให้เธอดูแล...แต่ถ้าเธอไม่ถนัดก็ให้เธอรับผิดชอบสิ่งที่เธอถนัดแล้วหาเงินให้มากกว่าใช้เงิน...เรื่องนี้สำคัญมากเนื่องจากชีวิตคนเราไม่แน่นอน...จะเกิดอะไรขึ้นถ้าคุณมีลูกและคุณจากครอบครัวไป...จะต้องมั่นใจว่าแฟนและลูกอยู่รอดในสังคมที่แข่งขันกันสูงนี้ได้ จากคุณ : kraikria เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 55 11:13:25

ความคิดเห็นที่ 58 คุณหนุ่มกันย์ คงต้องนั่งคุยกันอย่างจริงจัง  บอกเรื่องการลงทุน บอกถึงเหตุผลในสิ่งที่ตั้งใจไว้ ผมว่าแฟนคุณคงจะต้องการ ความมั่นคงในชีวิตคู่ ถ้าแฟนคุณรักคุณจริง  ก็น่าจะช่วยกันสร้างความมั่นคงไปด้วยกัน อะไรที่ต้องซื้อ ต้องมี มีแล้วไม่ลำบากจนเกินไป เพื่อให้ชีวิตคู่ของคุณดีขี้น คุณก็ควรทำครับ แต่ถ้าแฟนคุณรู้แล้ว ก็ยังมีความต้องการที่จะเหมือนเพื่อนบ้านอีก ตัวคุณใกล้ชิด และรู้จักนิสัยแฟนคุณดีที่สุดครับ... จากคุณ : Pupinyo เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 55 21:34:13