ความคิดเห็นที่ 1 มาปูเสื่อรอ จากคุณ : เพราะโลกนี้กลม เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 55 20:28:53

ความคิดเห็นที่ 2 มารอด้วยคนนน จากคุณ : PuAyA เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 55 20:36:47

ความคิดเห็นที่ 3 Pjuk น่าจะคนละสายงานครับ หุหุ จากคุณ : biki เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 55 20:46:43

ความคิดเห็นที่ 4 ความรู้ จาก กลต. http://www.sec.or.th/webedu/content.html;jsessionid=313376130A1C966C149D432384300433?menu_id=101 อ่านแล้วเข้าใจง่ายดีครับ ... ลองดูนะครับ จากคุณ : pjuk เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 55 20:58:00

ความคิดเห็นที่ 5 1. ความเสี่ยงสูงสุดของกองทุนเหล่านี้คืออะไรครับ  มีโอกาสที่ราคามันจะกลายเป็น 0 บาทมั๊ยครับ Leasehold มีโอกาสครับ Freehold ก็น่าจะมีบ้าง แต่คงไม่ศูนย์ สมมติว่าซวยจริงๆ อาคารดังกล่าวพังลงมา จากแผ่นดินไหว และไม่มีประกัน คงต้องปิดกองแล้วเอาที่ดินไปขายมาแบ่งกัน 2. แล้วเมื่อกองทุนหมดอายุ จะมีโอกาสต่ออายุหรือไม่ มีโอกาสครับ กรณี CPNRF (leasehold) มีสัญญา 30 ปี ต่อ 3 ครั้ง รวมกัน 90 ปี (นานเกินกว่าจะไปคิดนะ ผมว่า) 3. ช่วยอธิบายง่ายๆให้เข้าใจถึงความเสี่ยงของ leasehold และ freehold หน่อยครับ อ่านของ pjuk ดีกว่าครับ 4. ขอความเห็นส่วนตัว  สำหรับผู้ที่มองว่ากองทุนลักษณะนี้มีความเสี่ยง  ผมควรขายทิ้งตอนนี้มั๊ยเนี่ย ไม่จำเป็นครับ ผมว่า อีกนั่นแหละ มันไม่ได้เสี่ยงขนาดนั้น ระยะเวลามันนานเกินกว่าจะไปคิดครับ ส่วนตัวผมว่า ถ้าอีก 5 ปีจะหมดสัญญาเช่า อันนี้คงมีผลต่อราคาแล้ว 5. ความเสี่ยงของ TGLF มีมากหรือน้อยกว่ากองทุนสามกองนี้อย่างไร ไม่ทราบครับ (ไม่ได้ศึกษา) จากคุณ : T-N-K (T-N-K) เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 55 21:33:29

ความคิดเห็นที่ 6 ความเสี่ยงสูงสุดก็คือตอนใกล้จะหมดอายุสัญญาเช้านั้นแหละ ราคาคงต้องลงแน่ๆเพราะพวกนี้มันจะนับถอยหลังไปเรื่อยๆ ถึงแม้ว่าต่อสัญญาได้แต่ก็จะต้องเพิ่มทุนครับ สัดส่วนในการถือหุ้นเราก็จะลดลง Cpnrf สาขาที่จะหมดอายุเร็วที่สุดจะอีกประมาณ 12 ปีครับแต่ก็ยังมีสาขาอื่นอีกคิดว่าในระยะ 5 ปีนี้คงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงมาก แต่ถ้าใกล้ๆจะหมดสัญญาเช่าคงต้องประเมินสถานการณ์ใหม่อีกครั้ง ความเสี่ยงทั้งสองแบบมีคล้ายกันครับแต่ผลตอบแทนที่ได้ก็จะต่างกัน lease hold จะให้ผลตอบแทนดีกว่าเพราะตรงนี้จะต้องมีการหักอายุสัญญาที่หมดลงไปแต่ละปีๆ ส่วนตัวถือ Cpnrf อยู่ครับชอบกองนี้เพราะมันกระจายความเสี่ยงไปถึง 4สาขาดีกว่า บางกองที่เช่าอสังหาที่เดียวโดดๆ ถ้ามีเหตุไม่คาดฝันเกิดขึ้นเช่น แผ่นดินไหวตึกถล่ม กองที่เช่าอสังหาที่เดียวช๊อตแน่นอน แก้ไขเมื่อ 02 มี.ค. 55 22:19:01 จากคุณ : G_Great เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 55 22:17:37

ความคิดเห็นที่ 7 กองทุนอสังหาฯ มี 3 แบบ 1. เซ้งมาแล้วให้เช่าต่อ Lease Hold เช่น SPF, CPNRF, FUTUREPF, QHPF 2. ซื้อมาแล้วให้เช่าต่อ Free Hold เช่น TFUND, TLOGIS, BKKCP 3. ผสมกัน อย่าง TLGF กรณีเซ้ง สัญญาเช่าจะต่อได้ไม่ได้ แทบไม่มีผล เพราะถึงเวลาต่อสัญญาต้องจ่ายเงินเซ้งใหม่อยู่  (คนถือหน่วยก็ต้องควักตังค์มาลงทุนใหม่ ผมว่า จุดนี้จริงๆ มองข้่ามไปเลยก็ได้) กรณีเซ้ง สิ้นสุดสัญญาเช่า เหลือ  ศูนย์ กรณีเซ้ง ในเงินปันผล มีเงินต้นของเราด้วย (แต่ทำไมเราต้อง ถูกหักภาษี 10% จากส่วนของเงินต้นของเราด้วย!!!) เงินปันผล ถูกหัก ณ ที่จ่าย 10%  ไม่มีเครดิตภาษี เพราะกองทุนอสังหาฯ ไม่ต้องเสียภาษีเงินได้  เงินปันผลเป็ํนจำพวก 40(8) ไม่ต้องนำมารวม กับ เงินปันผลจากบริษัทฯ 40(4)  ทำให้คนที่ฐานภาษี >= 10% ไม่ต้อง นำมารวมเป็นรายได้ (พวก 10% เท่าทุน พวก 20% กำำไร) อย่างอื่นๆ ศึกษาเองบ้างนะครับ  หาอ่านเอาได้ใน internet นี่แหละครับ search เอาเดี๋ยวก็เจอ จากคุณ : SuperY เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 55 12:40:12