ความไม่รับผิดชอบและเลือกปฏิบัติในการให้สินเชื่อของกสิกร
|
 |
วันที่ 17/08/2554 บริษัทฯดิฉัน ได้รับการอนุมัติสินเชื่อของ KF ตามเอกสารเลขที่ KFE-11080123 เป็นการซื้อรถเครนขนาด 100 ตัน ปีผลิต 1990 จำนวน 1 คัน มูลค่าประมาณ 14 ล้านบาท แต่เนื่องจากประโยชน์ใช้สอยของรถเครนดังกล่าวไม่เหมาะสมกับการใช้งานของบริษัทเท่าที่ควรจึงไม่ได้ทำสินเชื่อในครั้งนั้น
วันนี้ 12/03/2555 บริษัทฯดิฉัน ได้รับการปฏิเสธจากการขอสินเชื่อรถเครนอีกคัน โดยบริษัทฯได้ขอสินเชื่อเพื่อซื้อรถเครนขนาด 50 ตัน ปีผลิต 1983 มูลค่า 3 ล้านบาท ซึ่งรถเครนคันดังกล่าวอยู่ในสภาพใช้งานอยู่ภายในหน่วยงานแห่งหนึ่ง ทางบริษัทฯขอสินเชื่อโดยผ่านวิธีการแบบเดิมตามขั้นตอนของธนาคาร แต่การยื่นขอสินเชื่อในครั้งนี้ต่างจากครั้งที่แล้วคือ ต้องมีการประเมินราคาเครื่องจักรเพื่อประกอบการขออนุมัติสินเชื่อ ซึ่งกสิกรไทยได้แนะนำบริษัทแห่งหนึ่งเพื่อประเมินราคา โดยทางบริษัทฯดิฉันต้องรับภาระจ่ายค่าประเมินโดยไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะได้รับการพิจารณาสินเชื่อหรือไม่ เป็นจำนวนเงินถึง 12,840 บาท โดยทางบริษัทประเมินได้แจ้งราคาประเมินของเครื่องจักรดังกล่าวมีมูลค่า 2.8 ล้านบาท
ทางหัวหน้าดิฉันจึงสอบถามไปยังผู้ที่แจ้งผลการอนุมัติสินเชื่อ (ทราบภายหลังว่าชื่อ คุณน้ำ ประจำที่สำนักพหลโยธิน) คำถามมีดังนี้
1. รถเครนอายุเกิน 20 ปี คุณแจ้งว่าไม่มีมูลค่าได้อย่างไร เพราะอย่างน้อยวันที่รถเครนเสียหายจนซ่อมแซมไม่ได้ ยังมีมูลค่าซากซึ่งคิดเป็นเศษเหล็กในราคาประมาณ 15 บาท/กก. รวม 50 ตัน เป็นเงิน 750,000 บาท
2. ในวันที่ยื่นขอสินเชื่อแล้วทาง KF ให้ไปประเมินราคาเครื่องจักร หากทราบถึงว่ามีเงื่อนไขไม่อนุมัติสินเชื่อเครื่องจักรอายุเกิน 20 ปี แล้วทำไมไม่แจ้งลูกค้า ให้ลูกค้าเสียเงิน เสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์
คุณน้ำตอบปฏิเสธว่าไม่รู้และอ้างว่า เครื่องจักรไม่มีมูลค่าแล้ว คุณน้ำไม่มีอำนาจ ทางหัวหน้าบอกว่าไม่อนุมัติ
ดิฉันจึงอยากเรียนถามถึงและแจ้งแก่ผู้มีอำนาจของ KF หรือ เครือกสิกรที่เกี่ยวข้องดังนี้
1. เป็นการเลือกปฏิบัติหรืออย่างไร กรณี เครื่องจักร 2 คัน อายุเกิน 20 ปี คันนึงมีมูลค่าสูงมาก แต่ได้รับการอนุมัติสินเชื่อ อีกคันกลับไม่ได้รับการอนุมัติ
2. เหตุผลที่นำมาตอบลูกค้า ว่าไม่รู้ รับฟังไม่ขึ้น ขาดความรับผิดชอบอย่างมาก
| จากคุณ |
:
Nu_nectar 
|
| เขียนเมื่อ |
:
12 มี.ค. 55 18:00:31
|
|
|
|
