ความคิดเห็นที่ 1 เห็นด้วยกับคุณ halogen ถ้าขายไม่เนียนยังไงก็ขาดทุน จากคุณ : Mr. Prodigy เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 07:37:31

ความคิดเห็นที่ 2 ฝรั่งบอกหุ้นไทยเล่นง่ายมาก หรั่งซื้อเช้า ===> ยอดครึ่งเช้าซื้อ บ่ายวาง offer ===> เม่าซื้อตาม ก่อนปิด ===> เม่าขาย เพราะมันไม่ขึ้น ปิด หรั่งซื้อกลับ ไว้พรุ่งนี้ลากตอนเช้าใหม่ จากคุณ : ohlalla เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 07:40:02

ความคิดเห็นที่ 3 แล้วเม่าอย่างเราจะทำไงดีอะครับ จากคุณ : เขียนบน iPhone (กังป๋วย) เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 07:42:31

ความคิดเห็นที่ 4 ขายไปรอบที่แล้วไม่รู้ได้กำไรเท่าไร ทุบเองเลยกลับมารับต่ำได้ แล้วลากซะ ยังไม่นับแบล็คอัพที่ลองไว้อีก - -" ถ้าผมอยู่ในสถานะนี้นะ...โึคดจะชิล จากคุณ : คิดไปเอง (Fsmoothdood) เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 07:44:33

ความคิดเห็นที่ 5 2 ฟลอร์ไม่น่าจะได้ แต่ถ้าพูดให้น่ากลัวฟลอร์เดียวไม่แน่ ^ ^ จากคุณ : กลัวกันมั้ยอ่ะ..แบร่ (Fsmoothdood) เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 07:58:01

ความคิดเห็นที่ 6 บางทีไม่กำไรตอนขายนัก แต่อาจกำไรหลังจากซื้อคืน ทำเหมือนซ๊อตเซล จากคุณ : dib2000 เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 08:01:37

ความคิดเห็นที่ 7 เห็นมันปรับปอดช้อตเซล ตกเย็นเนตบายดลอด เสียวอยู่ว่ามันจะเนตเซลเมื่อไหร่ จากคุณ : tabag เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 08:10:26

ความคิดเห็นที่ 8 เห็นด้วย..ล่ะก๊าาาาาา   ฝรั่งขายเท่าไหร่ก็ได้กำไร   ก็คงเห็นๆเค้าคุยกัน ก็เก็บเอามาโพสนั่นแหละ..ท่าน เพราะก่อนหน้าตอน 1100 ก็ยังโพสกันสนุก "ไอ้หรั่งตกรถ"  เหอ..เหอ สวัสดีตอนเช้าครับ..ท่าน ฮาโล จากคุณ : เขียนบน เตียงนอน (me-ci-tan) เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 08:13:06

ความคิดเห็นที่ 9 + ผมว่าต่างชาติหน้าตักใหญ่ กลยุทธ์การลงทุนหลากหลายมากยากที่เรา จะคาดเดาได้หมด...บางจังหวะการอ่อนหรือแข็งค่าของค่าเงินที่เกิดขึ้นเขา ก็กำไรแล้ว + หรั่งลงทุนบ้านเรา...ยังไงก็กำไรครับ จากคุณ : Toey_Goragot เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 08:22:43

ความคิดเห็นที่ 10 ท่าน คห 2 ต่างชาติ ซื้อมา 4 วันแล้วครับ ภาคเช้าซื้อ ภาคบ่ายซื้อเพิ่มขึ้น 3 วันก่อนหน้า ดัชนี ปิดเขียวแก่ เพิ่งจะมีเมื่อวาน ปิดออกแดงนิดเดียว เมื่อวานนี้ ภาคเช้า ต่างชาติซื้อ 2,500 ล้านบาท ภาคบ่ายซื้อเพิ่ม รวมทั้งวัน ซื้อ 3,267 ล้านบาท คงไม่ใช่ เช้าขาย บ่ายซื้อกลับ จากคุณ : สาระขัน เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 08:26:54

ความคิดเห็นที่ 11 จากคุณ : สาระขัน เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 08:27:55

ความคิดเห็นที่ 12 คนที่เติมเงินเข้ามาหมุนเวียน  เอาหุ้นขึ้น ไม่ได้่หมายความว่า   จะต้องเป็นคนได้กำไรเสมอไปครับ ถ้าเติมเงินแสนล้านบาท เข้ามาตอนดัชนี ห้าร้อยจุด จะต้องขายสุทธิตอนดัชนีหนึ่งพันจุด สองแสนล้านบาท  หุ้นในมือถึงจะหมด ในที่สุด ใครจะได้กำไรส่วนเกินทุน ต้องย้อนกลับไปดุว่า   "ตอนดัชนีถูกๆ ใครเป็นคนซื้อสุทธิต่างหาก" งงกับพวกนักวิเคราะห์   ที่เล่นจับยอดซื้อสุทธิ กับยอดขายสุทธิต่างชาติ มาหักลบกัน  แล้วก็บอกว่า   ต่างชาติเหลือหุ้นที่จะขายอีก  เท่านั้นเท่านี้บาท คุณจะรู้ได้ไง  ในเมื่อคุณไม่รู้อำนาจซื้อของเเงิน ในแต่ละราคาหุ้นที่เขาซื้อ  ???? จะเปรียบเทียบของจริงให้ดุซักหนึ่งตัวอย่าง ratch   ซื้อสุทธิ หนึ่งแสนหกหมื่นบาท   ได้หุ้นมา หนึ่งหมื่นหุ้น ที่ราคา ๑๖ บาท พอราคามันขึ้นไป  ๓๒ บาท ก็ขายทิ้ง ห้าพันหุ้น  เอาเงินต้นคืนมา ยอดขายสุทธิที่โชว์ออกมาคือ   ขายสุทธิ หนึ่งแสนหกหมื่นบาท จับเอายอดขายสุทธิ กับยอดซื้อสุทธิมาหักกัน แล้วก็บอกว่า  ผมไม่เหลือหุ้นในมืออีกแล้ว ? แต่ที่จริง  หุ้นจะหมดมือ ก็ต่อเมื่อ  ยอดขายสุทธิเท่ากับ   สามแสนหกหมื่นแปดพันบาท  !!!!!!!! เอามาหักกับซื้อสุทธิ ส่วนต่างก็คือ  กำไรส่วนเกินทุนครับ จะรู้ว่าใครกำไร ขาดทุน ต้องรู้ให้หมดว่า  เขาได้หุ้นไปจำนวนเท่าไร ราคาเท่าไร  ตอนซื้อสุทธิ และขายหุ้นไปจำนวนเท่าไร ราคาเท่าไร  ตอนขายสุทธิ ! แก้ไขเมื่อ 20 มี.ค. 55 08:59:15 จากคุณ : endophine เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 08:34:54

ความคิดเห็นที่ 13 ข้อมูลครับ...สิ้นปี 54 ฝรั่งขายสุทธิ 5 พันล้าน จากคุณ : halogen เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 08:36:51

ความคิดเห็นที่ 14 ผมคิดว่าส่วนนึงเป็นเพราะเม่าชอบสอยหุ้นแดงๆตอนตลาดกระทิงครับ หรั่งสามารถลากตลาดไปไกลแล้วรินให้ย่อยรับ Sentiment ของตลาดทำให้รายยย่อยยอมรับของแพง ยกตัวอย่าง Banpu สมัย 550 ไม่มีใครสนใจเลย มาตอนนี้ 600 บอกว่าถูกเกินพื้นฐานกันใหญ่ ^ ^" จากคุณ : everandever เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 08:37:15

ความคิดเห็นที่ 15 หาก SET คือหุ้น 1 ตัว ตอน 950 มีแต่กระแสบอกให้รอๆๆ แต่มาตอนนี้หรั่งมันสามารถขายจนเกือบหมดตัวได้ถึง 1010 จุดเลยทีเดียวนะครับ จากคุณ : everandever เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 08:38:47

ความคิดเห็นที่ 16 ว๊า คุยเชิงสาระแบบนี้ไม่ใช่แนวเรา ไปแระ.. จากคุณ : มอนิ่งคร๊าบบบบบบ (จุ๊กกุ๊กจัง) เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 08:42:50

ความคิดเห็นที่ 17 ^ อยากไปไหนล่ะ  เอื้อยจุ้กกุ้ก จากคุณ : กู่ด..กู่ด..กู่ด..ม้อนิ่งจร้า (sakvi) เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 09:01:37

ความคิดเห็นที่ 18 ขาย 500 ล้าน ซื้อ 700 ล้าน ไม่ได้แปลว่า เหลือหุ้น 200 ล้านนะครับ วัดกันแบบนั้นไม่ได้ จากคุณ : Laganus เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 09:02:57

ความคิดเห็นที่ 19 ต้มกบไงครับ ไล่ราคาขึ้นมาเรื่อยๆจนเม่าคิดว่าพื้นฐานของหุ้นราคาจะเท่านั้นเท่านี้ จากคุณ : กองทหารทาโม เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 09:09:38

ความคิดเห็นที่ 20 เห็นด้วยกับ จขกท ครับ บางคนพูดว่าหรั่งขายได้ทุกราคา ดันมาตั้งแต่ 800 จุด ผมก็งง เพราะหรั่งมีทั้งช่วงซื้อและช่วงขาย จนดัชนีค่อยๆไต่ขึ้นมาและมาซื้อหนักเอาช่วงหลังๆนี้เอง ดังนั้นเค้าคงจะต้องทยอยขาย ตรงนี้แหละที่น่าสนใจว่าหรั่งจะเลี้ยงดัชนียังไง แก้ไขเมื่อ 20 มี.ค. 55 09:17:49 จากคุณ : Mea Culpa เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 09:16:50

ความคิดเห็นที่ 21 ก้อเพราะมีเม่าอย่างผมอยู่ไงครับ อยู่ดอยให้ จากคุณ : non815 เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 09:20:36

ความคิดเห็นที่ 23 ถ้ามีข่าวแบบตอนหม่อมร้อยจุดอีก ก็จะรู้ได้ว่าหรั่งเค้ามีอยู่เท่าไหร่ จากคุณ : เสือ_กลิ่นหอม เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 09:36:42

ความคิดเห็นที่ 24 ผมไม่รู้หรั่ง แต่ผมรู้ว่าพี่ฮัลโหลนะขายยังไงก็กำไร อิอิอิ จากคุณ : เม่าลัลล้า เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 09:38:29

ความคิดเห็นที่ 25 แจ่มครับเฮียคลายเครียด จากคุณ : หมึกสด เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 09:43:48

ความคิดเห็นที่ 26 ก็พูดกันไปเรื่อย คิดว่าฟังดูเท่ก็พูดตามๆกันไป จากคุณ : joeymydear เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 10:05:03

ความคิดเห็นที่ 27 ดัชนี 843.69 มา 1200 PE 10.20 มา 16.10 เท่า จากจังหวะการเทรดของต่างชาิติ สำหรับผมไม่ต้องสืบครับ ว่าต้นทุนหรั่งเท่าไร จากคุณ : ด้วยความเคารพ (Fsmoothdood) เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 10:16:43

ความคิดเห็นที่ 28 ดูปี 2008 เทกระจาด ขายทุนราคา ปี 2009 เริ่มเข้ามาซื้อ ดูกราฟกันเอาเองว่ามันเริ่มซื้อเมื่อไหร่ หุ้นกระดานหลักราคาเท่าไหร่ ปี 2010 ซื้อเพิ่ม รวมกับ 2009 ก็ได้หุ้นไปเยอะอยู่ด้วยเม็ดเงิน 97368ล้าน ปี 2011 ขายทำกไรออกมาบ้าง ที่ขายไปหุ้นมันตกลงไปถึงที่ซื้อไหม ปี 2012 เก็บเพิ่ม รวมประมาณ 162197 ล้าน จากคุณ : Experts เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 11:54:54

ความคิดเห็นที่ 29 อย่างกอนทุนก็เหมือนกัน เห็นส่วนใหญ่จะ net sell มาตลอดนานมากๆ แล้ว เอาจริงๆ ผมว่า เค้าไม่ได้มีหุ้นมาขายที่ราคาเดิม ตลอด ที่ออกมาเป็น net sell น่าจะเพราะว่า เค้าขายได้กำไรมากๆ เลยขายมากกว่าซื้อที่จำนวนหุ้นเดิม แล้วเหมือนกับเค้าจะ realize profit แทบทุกวัน น่ากลัวมากๆ เค้าโปรฯจริง อะไรจริงนะ จากคุณ : simmer เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 12:43:24

ความคิดเห็นที่ 30 ถ้าเค้าอยากขาย แล้วมั่นใจว่าขายมากๆ แล้วหุ้นจะตกแน่ ก้อ tfex สิคับกำไรแหง จากคุณ : tooo (boonnarkc) เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 12:44:02

ความคิดเห็นที่ 31 ^ ^ เล่นหุ้นคือเล่นรอบ....ถามว่าฝรั่งที่ซื้อๆขายๆรอบ 2008, 2009, 2010, 2011 คือคนเดียวกันหรือไม่ ...แม้จะเป็นต่างชาติ ก็มีหลายคนหลายกลุ่ม และหลายรอบการเล่น เปลี่ยนมือกันไม่รู้เท่าไหร่แล้วครับ แก้ไขเมื่อ 20 มี.ค. 55 13:34:51 แก้ไขเมื่อ 20 มี.ค. 55 13:34:48 จากคุณ : halogen เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 12:57:17

ความคิดเห็นที่ 32 ขายทุกราคาไม่กำไรหรอกครับ ถ้าขายราคา 0.01 บาทคงขาดทุนแน่ อยู่ที่ว่า ตอนไล่ๆ ขายลงมานั้น ขายออกมา เท่าไร ขายแล้วยังเหลือหุ้นในมืออีกแค่ไหน อาจจะขายออกมา จนราคาลดลงเท่ากับทุน ค่อยเอาเงินสด (ซึ่งมีกำไร)​ที่ถืออยู่มาลากต่อ ก็ได้อีก ส่วนเรื่อง tfex ถ้าไม่อยากให้หรั่งมันทำ แบบนั้น ก็อย่าไปแทงสวนกะมัน ปล่อยหรั่ง ติดดอยไป อยากขายให้หุ้นตก ก็บังคับไม่ให้ มันได้กำไรจาก tfex ด้วย จากคุณ : มือเก่าหัดขับ เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 13:00:23

ความคิดเห็นที่ 33 ผมก็เคยพูดแบบนี้เหมือนกัน แต่ความจริงมันอาจ ... ยิ่งกว่านี้ O_o!! ---------------- จุดแข็งของหรั่ง กลุ่มที่ควบคุมตลาดทุน คือมีระบบจัดการ กับกำหนดภาพรวมไว้หมดแล้ว ยากที่เม่าจะตามทัน ... ---------------- เม่าส่วนใหญ่อยู่กันแค่ตลาดหุ้น ซึ่งเป็นแค่ "ส่วนหนึ่ง" ของตลาดทั้งหมดที่สามารถนำเงินเข้าไปเล่นได้ เทียบให้เห็นจากกระดานโกะ จุดดาว(จุดดำๆที่อยู่บนกระดาน)เปรียบเล่นๆแทนแต่ละตลาด เม่าๆอย่างเรา โรมรันหรั่งกันแค่ส่วนเดียวของกระดาน ซึ่งจุดอื่นๆบนกระดานหละ กว่าจะรู้ตัวก็โดนหรั่งล้อมหน้าล้อมหลัง ประชิดถึงทุกตลาดแล้ว โดยที่ตลาดหุ้น ทำตัวเหมือนกับว่า คู่คี่สูสีกับเม่าและกองทุนหรือเปล่า เพื่อซ่อนสายตาคนอื่นๆจากกระดานหลัก...  ลองคิดดู ---------------- สุดท้าย มุมนึงของกระดานคือตลาดหุ้นถ้าเรายังไม่ชนะได้ เราอาจแพ้ทั้งกระดานแบบไม่น่าเชื่อเลยก็ได้... จากคุณ : เม่าซันเดย์ (SundayroyaL) เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 13:04:33

ความคิดเห็นที่ 34 ยอดสุทธิดูได้แค่เผินๆเอาเข้าจริงใช้ไรมากไม่ได้เพราะ 1. ยอดซื้อสุทธิจริงๆควรเป็นอย่างที่เฮียเอนโดว่าไว้ คือควรเป็นจำนวนหุ้น หุ้นไหนจำนวนเท่าไหร่ราคาเท่าไหร่ เพราะซื้อสุทธิตอนปี 2009 กับซื้อสุทธิปี 2012 จำนวนหุ้นที่ได้ซื้อขาย มีจำนวนแตกต่างกัน ซื้อสุทธิปี 2009 ด้วยจำนวนเงิน 1 พันล้านอาจจะได้ 100 ล้านหุ้น (สมมติ) และในปีนี้ 1 พันล้าน อาจจะได้แค่ 30 ล้านหุ้น ดังนั้นยอดซื้อสุทธิควรจะดูเป็นวอลุ่มมากกว่า ไม่ใช่มูลค่าซื้อขายสุทธิ 2. ยอดซื้อสุทธิเอาเข้าจริงๆ ซื้อเท่าไหร่กันแน่? เพราะการไล่ซื้อขึ้นไปไม่ได้แปลว่าเขาซื้อแล้วซื้อเลย มิได้มีการประกันความเสี่ยงหรือวางแผนปู้ยี่ปู้ยำตลาดหุ้น เพราะการซื้อขึ้นไปอาจจะเป็นการไล่ซื้อหุ้นที่ตัวเองวางไว้ สำหรับทำ Short Sell ก็ได้ และการทำชอตเซล ไม่จำเป็นต้องใช้หุ้นที่มาจากโบรคไทย แต่อาจจะมาจาก Custodian ข้างนอกด้วยก็ได้ ซึ่งส่วนนี้ไม่มีการรายงานว่ายืมมาชอตหรือทำอะไรยังไงเท่าไหร่ แตกต่างจากยอดที่ชอตหุ้นจากโบรคอันนั้นต้องรายงานอยู่แล้ว ดังนั้นเขาซื้อๆไล่ๆขึ้นไป อาจจะยืมหุ้นโบรคฝรั่งมา วนๆซื้อๆขายๆก็ได้ ดูยอดซื้อขาย "สุทธิ" อย่าลืมดูยอด "ซื้อ" กับ "ขาย" ด้วย บางทียอดซื้อขายโคตรเยอะ เหลือสุทธิแค่นิดเดียว ... บางทีมันก็มีนัยยะแอบแฝง 3. ตราสารอนุพันธ์ หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า TFEX เขาเองก็สามารถเปิดสัญญา Short ได้เช่นกัน นอกจากสัญญาประเภท SET50 Index Futures ก็ยังมี Single Stock Futures ด้วย ดังนั้นเขาสามารถเอากำไรนอกจากขายหุ้นในเวลาปกติที่เม่าชอบรับหุ้นโดยตั้ง Bid โดยไปชอตเซล หรือการถือสถานะชอต ตราสารอนุพันธ์เพื่อทำกำไรได้อีกทางหนึ่งด้วย ตัวอย่าง 1. หุ้น ABC ปี 2009 อยู่ที่หุ้นละ 10 บาท มาถึงปี 2012 อยู่ที่ 40 บาท ดังนั้นยอดซื้อสุทธิ จำนวนเงิน 1 หมื่นล้านบาทปี 2009 จะซื้อได้ถึง 1,000 ล้านหุ้น จากนั้นปี 2012 ขายออก 1 หมื่นล้านบาทที่ราคา 40 บาทต่อหุ้น เท่ากับเขาขายแค่ 250 ล้านหุ้น ยังเหลืออีก 750 ล้านหุ้น ที่เป็นหุ้นไร้ต้นทุนไปแล้ว ส่วนนี้เองเขาก็สามารถขายทำกำไรได้ทุกราคา ทุกราคา "คือกำไร" 2. เมื่อหุ้น ABC ขึ้นไปอีกถึง 50 บาท เพื่อความมันส์และสะใจ อาจจะชอตเซลด้วย โดยยืมหุ้นโบรค มาชอต 10 ล้านหุ้น ยืมหุ้น Custodian มาอีก 30 ล้านหุ้น รวมเป็นยืมมาชอต 40 ล้านหุ้น การชอตเซลบ้านเราต้องตั้ง Offer เอาไว้เท่านั้น โยน Bid ไม่ได้ ดังนั้นยอดนี้ฝรั่งอาจจะเอาหุ้นวาง แล้วตัวเองก็ซื้อ ถ้าสมมติว่ายืมโบรคฝรั่งมา แล้วตั้งวางไว้ที่หุ้นละ 50 บาท ทั้งหมดเลย 40 ล้านหุ้น จากนั้นตัวเองก็เคาะขวาซื้อไป 40 ล้านหุ้น เท่ากับยอดนี้จะเป็นยอดซื้อขายต่างชาติ = 0 เพราะซื้อ เท่ากับขาย ไม่เกิดยอดสุทธิ หลังจากนั้นหุ้นอยู่ในมือฝรั่งแล้ว ไม่จำเป็นต้องสนใจแล้วหละ ว่าจะโยน Bid ได้หรือไม่ได้ ดังนั้นจึงขายออกไปได้เลย ถอน Bid ออกแล้วโยนซ้ายไปเลย ร่วมกับอีกวิธีโดยการเทขายแบบครั้งเดียวรวดเดียวก็อาจจะ Short S50 เอาไว้ด้วยและ Short Single Stock Futures ของหุ้น ABC ไปด้วย จากนั้นก็เทขายออกไป เมื่อขายออกไป ณ จุดจุดหนึ่ง สัญญาณทางเทคนิคหลุดเส้นหลุดอะไรว่าไป ก็จะเป็นขั้นตอนที่ระบบ System Trade จะร่วมเทขาย (บอท) หลังจากนั้นหุ้นจะลงไวขึ้น เพราะ System Trade ขาย คนจะเริ่มหมดหวัง คนที่หนีได้ก่อนก็คัทออกไปก่อน ราคาก็ค่อยๆร่วง เหมือนหินจมลงไปในน้ำ สุดท้ายคนที่กำไรก็คือเจ้ามือ เจ้ามือไม่จำเป็นต้องเป็นฝรั่ง อาจจะเป็นใครก็ได้ ไม่ว่าจะไทยจีนฝรั่งหัวทองหัวทำก็เป็นไปได้หมด มันไม่มีวันที่หุ้นจะขึ้นตลอดไป และไม่มีวันที่หุ้นจะลงตลอดไป ไม่มีวันที่ฝรั่งจะซื้อทุกวัน และเช่นกันฝรั่งก็ขายทุกวันไม่ได้ ... Money Game ... จากคุณ : venezier เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 13:45:32

ความคิดเห็นที่ 35 อูย  สรุปว่าเจ้ามีของฟรีเอาไว้ทุบเล่นตรึมเลยหรือครับ ชักเสียวแล้วสิ จากคุณ : ประภาคารเก่า เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 14:14:34

ความคิดเห็นที่ 36 คุณ endophine พูดได้ใจค่ะ ดิฉันก็เคยบอกไม่รู้ตั้งกี่ครั้ง   คนที่เล่นหุ้นมานานๆ หลายสิบปี ยิ่งมีทุนหนาๆ ซื้อนำ ขายนำ แล้วซื้อคืน ขายอีก  ทำไป ทำมา ต้นทุนไม่เหลือแล้ว จะขาดทุน ก็เพียงแค่กำไรที่ได้ลดลง เท่านั้นเอง วันๆบอกแต่ว่า ต่างชาติขายหมด กองทุนขายหมด รายย่อยขายหมด เ่อ่อ แล้วใครซื้อล่ะท่าน ในเมื่อในรายงานผู้ถือหุ้น ก็ยังมีคนถือหุ้น ทั้ง 3 กลุ่ม   จำนวนหุ้นและจำนวนรายย่อยที่ถือหุ้น จะเพิ่มขึ้นตามราคาหุ้น และ peak ที่ยอดดอยพอดี จากคุณ : คุณแม่ลูกสอง (P.Stone) เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 14:57:19

ความคิดเห็นที่ 37 ความคิดเห็นที่ 31     ^ ^ เล่นหุ้นคือเล่นรอบ....ถามว่าฝรั่งที่ซื้อๆขายๆรอบ 2008, 2009, 2010, 2011 คือคนเดียวกันหรือไม่ ...แม้จะเป็นต่างชาติ ก็มีหลายคนหลายกลุ่ม และหลายรอบการเล่น เปลี่ยนมือกันไม่รู้เท่าไหร่แล้วครับ   แก้ไขเมื่อ 20 มี.ค. 55 13:34:51 ก็พี่ตั้งกระทู้มาพี่ถามว่าพี่หรั่ง ผมก็เอาข้อมูลมีหรั่งมาลงให้ แล้วถ้าพี่จะให้แยกว่าพี่หรั่งหัวดำหรือหัวแดง อันนี้ผมก็ไม่ทราบได้ แต่ที่ผมรู้มา พี่หรั่งเค้าเข้ามามันก็มีเป็นระบบกองทุนบ้างอะไรบ้าง กองทุนก็มีแบบลงทุนระยะยาว 5ปี 10ปี พวกนี้ก็คงกลุ่มเดิมๆ เก็บเพื่อลงทุนก็คงเก็บมาเลื่อยๆอย่างที่เห็น ต้นทุนคงไม่ต้องถาม แต่ที่พี่เห็นเข้าๆออกอะ ก็พวกเกรงกำไรเล่นรอบไปคล้ายๆพี่กับผมนี่ล่ะ ยิ่งพวกนี้หน้าตักเยอะ มันคงเอาเงินมาทิ้งเล่นๆ ให้เม่าไทยนะ อันนี้น่าคิด จากคุณ : Experts เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 17:24:43

ความคิดเห็นที่ 38 ขายหุ้นขาดทุน แต่ได้กำไร TFEX จากคุณ : อย่ามาห้ามผม เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 21:56:44

ความคิดเห็นที่ 39 ตาม คห 38 ครับ ฝรั่งหอบเงินมาซื้อ ดันตลาด  เขาต้องทำการ Long tfex แล้วครับ  เพราะเวลาขาย จะขายไม่ได้   เขาจะได้กำไร จาก tfex และ forex ค่าเงินครับผม ผมจะเอาเงิน ดอลล่าร์หอบเข้ามาที่ไทย 1 แสนล้านล้าน   จะทำให้เงินบาทแข็งขึ้นมาทันที   ซึ่งประเทศไทย ส่งออก ต้องการค่าเงินที่อ่อน  คนที่จะมาจับคู่คือ ธปท  นี่คือเหตุผลว่าทำไม  ธปท  บริหารเงินขาดทุนครับ  เพราะต้องแทรกแซงค่าเงิน   ตย  ประเทศที่จำกัดเงินไม่ให้เข้าคือ จีนครับ  เพราะเขาเน้นการส่งออก  ของเราเคยจะลองแล้ว ตอนนั้นกันสำรอง   ผลที่ตามมาคือ แทนที่จะให้เงินเข้าน้อย  เงินกลับออกไปอย่างรวดเร็วเลยครับ จากคุณ : ลิงฮาวาย เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 22:17:37