กลุ่มธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดตัวกองทุน โกลบอล เวลท์ กระจายพอร์ตลงทุนสินทรัพย์ทั่วโลก นายสมิทธ์ พนมยงค์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ สายเงินฝากและการลงทุน ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)
ในฐานะ กรรมการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมการลงทุนในประเทศไทยยังคงมีแนวโน้มที่ดี แม้ได้รับผลกระทบจากวิกฤตหนี้ภาครัฐของยุโรปในช่วงที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลงทุนในกองทุนรวมประเภทต่างๆ ที่ยังคงได้รับความสนใจจากนักลงทุนไทย และคาดว่าจะเติบโตขึ้นอีกกว่า 10 % ในปี 2555
โดยธนาคารวางแผนเพิ่มทางเลือกการลงทุนในต่างประเทศเพื่อนำเสนอนักลงทุนไทยที่มีความต้องการโอกาสใหม่ๆ ในการลงทุน อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มข้อได้เปรียบในการถือครองสกุลเงินต่างประเทศ และการปรับตัวลดลงของราคาสินทรัพย์น่าจะเป็นโอกาสอันดีที่นักลงทุนเข้าไปซื้อสินค้าที่มีราคาถูกในตลาดโลก ดังนั้น ธนาคารจึงได้ร่วมกับบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม ไทยพาณิชย์ จำกัด ในการออกกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ โกลบอล เวลท์ และสรรหาผู้เชี่ยวชาญในด้านการจัดสรรเงินลงทุนและกองทุนชั้นนำระดับโลก มาดูแลการลงทุนผ่านกองทุนดังกล่าว ซึ่งเชื่อมั่นว่าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี นางโชติกา สวนานนท์ กรรมการผู้อำนวยการ บลจ.ไทยพาณิชย์ กล่าวว่า จากสถานการณ์ทางการเงินที่มีความผันผวนสูง บริษัทฯ จึงได้การปรับกลยุทธ์การลงทุนใหม่ โดยเฉพาะการลงทุนในต่างประเทศ เพื่อกระจายความเสี่ยงและลดความผันผวน อีกทั้งยังเพิ่มโอกาสผลตอบแทนให้แก่นักลงทุน โดยรูปแบบกองทุนต่างประเทศที่จะออกในขณะนี้จะมีความแตกต่างจากการลงทุนรูปแบบเดิมๆอย่างสิ้นเชิง ทั้งนี้ บริษัทฯได้ว่าจ้างบริษัทเมอร์เซอร์ ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาการลงทุนระดับโลกให้กับผู้ลงทุนสถาบัน มาทำหน้าเป็น
ที่ปรึกษาในการคัดเลือกกองทุนที่ลงทุนในสินทรัพย์ประเภทต่างๆทั่วโลก (Asset Allocation) ที่มีผลงานดีที่สุด พร้อมทั้งให้คำแนะนำในการจัดสรรน้ำหนักแบบนักลงทุนสถาบันมืออาชีพ โดยกองทุนที่จะเสนอขาย ได้แก่ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ โกลบอล เวลท์ (SCB Global Wealth Open End Fund : SCBGLOW) มีมูลค่าโครงการ 10,000 ล้านบาท เน้นกระจายการลงทุนในสินทรัพย์ 5 ประเภท โดยจะเริ่มเสนอขายครั้งแรกระหว่างวันที่ 8 -21 ธันวาคม 2554 นี้ ด้วยเงินลงทุนครั้งแรกขั้นต่ำเพียง 5,000 บาท กองทุน SCBGLOW มีนโยบายการลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศ ในช่วงเริ่มต้นจำนวน 8 กองทุน
ซึ่งบริหารโดยบลจ.ชั้นนำระดับโลกที่ผ่านการคัดเลือกจากบริษัทเมอร์เซอร์แล้ว ซึ่งแต่ละกองทุนมีนโยบายการลงทุนในตราสารที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน ประกอบด้วย ตราสารหนี้โลก ซึ่งจะลงทุนในพันธบัตรของรัฐบาลและเอกชนทั่วโลก
ส่วนใหญ่เป็นพันธบัตรของประเทศที่พัฒนาแล้วประเทศยุโรปและเอเชีย, ตราสารหนี้ตลาดเกิดใหม่ ลงทุนในพันธบัตรของรัฐบาลและเอกชนของประเทศที่กำลังพัฒนา นอกจากนี้ยังลงทุนในตราสารทุนโลก ซึ่งจะลงทุนในหุ้นทั่วโลก ส่วนใหญ่เป็นหุ้นของประเทศที่พัฒนาแล้วในโซนประเทศอเมริกาและยุโรป , ตราสารทุนตลาดเกิดใหม่ ลงทุนในหุ้นของประเทศกำลังพัฒนา และดัชนีสินค้าโภคภัณฑ์ ซึ่งลงทุนในดัชนีซึ่งประกอบไปด้วยสินทรัพย์ เช่น น้ำมันดิบ ทอง ก๊าซธรรมชาติ ข้าวโพด ถั่วเหลือง กาแฟ โกโก้ ทองแดง อลูนิเมียม เงิน ข้าวสาลี น้ำตาล เป็นต้น ด้านนายณรงค์ศักดิ์ ปลอดมีชัย รองกรรมการผู้อำนวยการ กลุ่มกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์การลงทุน บลจ.ไทยพาณิชย์ กล่าวว่า หลักเกณฑ์การคัดเลือกกองทุนสำหรับสินทรัพย์ทุกประเภทนั้นคือ ต้องได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือระดับ A จากบริษัทเมอร์เซอร์ โดยเป็นกองทุนที่ยังไม่มีการเสนอขายในประเทศไทย ตลอดจนมีการบริหารจัดการโดยบริษัทจัดการลงทุนที่มีความน่าเชื่อถือในผลงานการลงทุนและขนาดสินทรัพย์ของกองทุน ทั้งนี้จุดเด่นของกองทุนเปิดไทยพาณิชย์โกลบอล เวลท์ คือ นักลงทุนสามารถลงทุนครั้งเดียวเสมือนได้ลงทุนในตราสารหลากหลายชนิดทั่วโลก โดยเป็นการกระจายความเสี่ยงเมื่อเปรียบกับการลงทุนในตราสารในประเทศเพียงอย่างเดียว ขณะเดียวกันบลจ.ไทยพาณิชย์และเมอร์เซอร์ยังคอยดูแลเรื่องการปรับเปลี่ยนอัตราส่วนการลงทุนในตราสารต่างๆ
ตามสถานการณ์ตลาดให้ผู้ลงทุนอย่างสม่ำเสมอ อีกทั้งกองทุนหลักทุกกองที่ได้รับการคัดเลือกจะถูกติดตามตรวจสอบโดยบริษัทเมอร์เซอร์ และบลจ.ไทยพาณิชย์จะคอยปรับเปลี่ยนอัตราส่วนการลงทุนของกองทุนในสินทรัพย์ประเภทต่างๆหรือคอยสรรหาสินทรัพย์ชนิดอื่นที่น่าลงทุน อาทิเช่นอสังหาริมทรัพย์ รวมทั้งผู้จัดการกองทุนต่างประเทศอื่นๆ ที่มีความสามารถมาเพื่อเพิ่มผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับของกองทุน นอกจากนี้กองทุนจะทำการปิดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนของสกุลเงินของหลักทรัพย์ที่กองทุนไปลงทุนเมื่อเทียบกับสกุลเงินบาท "กองทุนนี้เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการนำเงินไปลงทุนต่างประเทศ เพื่อกระจายความเสี่ยงและสามารถยอมรับความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องจากกับการลงทุนในสินทรัพย์ที่กองทุนไปลงทุนในต่างประเทศได้ โดยบริษัทฯได้ตั้งเป้าหมายผลตอบแทนกองทุนดังกล่าวเฉลี่ยประมาณ 7 % จากสัดส่วนการลงทุนในสินทรัพย์ที่กำหนดในปีแรก" นายณรงค์ศักดิ์กล่าว
จากคุณ |
:
tickkcit
|
เขียนเมื่อ |
:
10 เม.ย. 55 22:09:51
|
|
|
|