ความคิดเห็นที่ 1 ส่วนใหญ่ไม่ได้ถือเงินสด  แต่ไปซื้อบ้านซื้อรถ  ลงทุนหมด  เลยไม่มีเงินสดเป็นล้าน แบบนี้ได้ป่าว จากคุณ : ยาม (pifa1) เขียนเมื่อ : วันเนา 55 17:45:20

ความคิดเห็นที่ 2 ผมว่าไม่ยากมากนะ แต่ต้องประหยัดพอสมควรเป็นนิสัย กินใช้ของราคากลางๆ   ไม่แพง แต่ก็อยู่ที่สายงานด้วยมั้งครับ อย่างหมอฟันรายได้เดือนละเฉียดแสน ทำงานคลีนิคเอกชน   เค้าเก็บไม่กี่ปีก็ได้ล้านเเล้ว ถ้าๆไม่มีภาระอย่างอื่นมากนัก จากคุณ : onginthailand เขียนเมื่อ : วันเนา 55 17:47:46

ความคิดเห็นที่ 3 . แก้ไขเมื่อ 14 เม.ย. 55 18:12:51 แก้ไขเมื่อ 14 เม.ย. 55 18:12:32 จากคุณ : รูปหล่อหมาไม่กัด เขียนเมื่อ : วันเนา 55 17:55:29

ความคิดเห็นที่ 4 เอ่อ ไม่ต้องเถียงกันค่ะ ถามผู้ี่ที่เข้ามาตอบ ผู้ที่เข้ามาตอบก็ตอบเรื่องตัวเองว่าทำได้หรือไม่ แค่นี้พอแล้วค่า ^^ แก้ไขเมื่อ 14 เม.ย. 55 18:01:22 จากคุณ : cinta เขียนเมื่อ : วันเนา 55 18:00:20

ความคิดเห็นที่ 5 ผมว่าใช้คำว่า ทรัพย์สิน ดีกว่า.. เพราะน้อยคนที่จะถือเป็นเงินสดสะสมรวม 1 ล้านบาท ตามเงื่อนไขข้างต้นครับ จากคุณ : ชิตวรนันต์ เขียนเมื่อ : วันเนา 55 18:04:13

ความคิดเห็นที่ 6 อายุ 40 เงินสด 10ล้าน สินทรัพย์อื่นไม่นับ มีเงิน 1 ล้านแรก ตอนอายุ37 ได้มาจากธุรกิจส่วนตัว (ทำคนเดียว ไม่เคยคิดที่จะร่วมกับเพื่อนหรือแฟน) จากคุณ : LRF (หัวใจห้องที่5) เขียนเมื่อ : วันเนา 55 18:09:27

ความคิดเห็นที่ 7 ล้านแรกขอกล่าวถึงในรูปแบบเงินสด ผมคิดว่ายากมากๆครับ โดยเฉพาะคนที่มีต้นทุนต่ำเช่นผม การรวบรวมเงินสดขนาดนั้นหมายถึง เราต้องมีความพอ ต้องสามารถหล่อเลี้ยงครอบครัว และต้องมีความมั่นคงทางด้านรายได้ หากสามอย่างหลักๆนี้ผ่านที่เหลือคือเวลาในการสะสมตามกำลังเม็ดเงินครับ สำหรับผมที่ถึงล้านแรกได้ มีน้ำหนักมาจากความมั่นคงทางด้านรายได้เป็นตัวนำครับ ซึ่งสำหรับแต่ละคน อาจมาจากแหล่งที่ไม่เหมือนกัน เช่นเงินเดือนหรือธุรกิจ ซึ่งเป็นไปได้ทั้งนั้นหากพยายามมากพอครับ ปล.จบวิศวะแท้ๆ แต่มีล้านแรกตอน 38 เพราะผ่านการลองผิดถูกมาเยอะก่อนพบช่องทางในธุรกิจครับ  และในตลาดทุนการพัฒนาเพื่อก้าวสู่เงินล้านก็เป็นอีกช่องทางที่น่าสนใจด้วยเช่นกันครับ จากคุณ : ทองเนื้อเก้า เขียนเมื่อ : วันเนา 55 18:16:27

ความคิดเห็นที่ 8 โห คุณทองเนื้อเก้า วิเคราะห์แล้วแบบผู้มีประสบการณ์เห็นถึงแก่นของเนื้อเรื่องได้อย่างชัดเจน ทีแรกจะมาตอบก็ไม่รู้จะตอบอย่างไร มาอ่านเม้นนี้แหละชัดมากๆ ขอจำไปใช้เลยนะครับ มีล้านได้ ต้อง พอดี เลี้ยงครอบครัวได้ และ มีความมั่นคงทางรายได้ จากคุณ : Vancin เขียนเมื่อ : วันเนา 55 18:20:53

ความคิดเห็นที่ 9 ยากครับ ผมอายุ33 มีเงินสด 1แสน พอร์ต 3 แสน สลาก 1 แสน  ฐานะดั้งเดิมของครอบครัว ค่อนข้างไม่สู้ดี การศึกษาก็ไม่เอาอ่าว สมัครงานก็ไม่ได้ เลยลงทุนค้าขายเล็กน้อย  ล็อตเตอรี่ก็เคยขาย ถ้าบริบทอย่างผม ผมตอบเลยว่ายากถึงยากมากครับ จากคุณ : นายเชน เขียนเมื่อ : วันเนา 55 18:28:27

ความคิดเห็นที่ 10 มีประมาณ10ล้านแต่เป็นหนี้นะครับ จากคุณ : ซาสิ้ว เขียนเมื่อ : วันเนา 55 18:28:50

ความคิดเห็นที่ 11 31 และ ยังมีเงินสดไม่ถึงแสน บ้านจน จบสถาบันไม่ดี เป็นแค่ช่างกระจอกๆ อยากทำธุรกิจคิดได้เยอะว่าจะทำไรแต่ก็ไม่มีทุน ตอนนี้รอ แสนแรกก่อน เพื่อไต้เต้าไปเป็นล้าน ไม่รู้จะถึงวันนั้นเมื่อไหร่  อายุขึ้นเลข 3 นี่กดดันน่าดู .....เฮ้อออ จากคุณ : HABU HABU เขียนเมื่อ : วันเนา 55 18:32:36

ความคิดเห็นที่ 12 อย่าถามอายุได้มั้ย มัน.....36  %_&%&__%**_***+*_+_"" เอาเริ่มจากเงิน2-3หมื่นนะตอน25 บอกตัวเองว่า เราจะค้าขายโว้ย พอกันทีชีวิตลูกจ้าง (ไฟแรงมาก ดูมันสิ มีเงินแค่นั้น 55 ) หลังจากนั้น3-4ปีมั้งครับ น่าจะได้ล้านแระ แต่ส่วนใหญ่อยู่ในรูปของกิจการ ตามด้วยรถยนต์ ปืน กล้่องฯ บ้าน... นับๆตอนนี้น่าจะ7-8ละครับ ถ้ารวมๆนะ จากน้ำมือตัวเองล้วนๆ ไม่มีแบ๊ค ไม่มีมรดกซักเก๊เดียวครับ แต่เล่นหุ้นไม่เก่งซะที ได้ไำม่กี่แสนเอง ตั้งหลายปี ฝีมือห่วยมากครับ ปอลิง....เติมนิดนึง ตอนเริ่มนี่แปลก เพราะเราต้นทุนต่ำรึเปล่าก็ไม่รู้ ใช้เวลาเกือบปี กว่าจะนับรวมๆได้แสนแรก ปีสองนับรวมๆได้ซัก2-3แสน(รวมทั้งหมดนะ สินค้าที่เราขาย) พอปีสามเริ่มเห็นหลัก5-7แสน ปีสี่นี่ล้านนี่หว่า ถึงกล้าดาวน์รถ 55 ขำกลิ้งลิงกะหมา.. แนวผมน่าคุยห้องสีลม พวกดิ้นรนทำธุรกิจเล็กๆ แถวนี้เค้าแนวเด้งอีกแล้ว ปีนี้กำไร5เด้ง เซ็งเป็ด กะเอา10เ้ด้่ง ผมมันพวกโง่ แต่ขยัน แค่นั้นเอง 55 แก้ไขเมื่อ 15 เม.ย. 55 00:05:40 จากคุณ : อมยิ้มไม่หวาน เขียนเมื่อ : วันเนา 55 18:43:30

ความคิดเห็นที่ 13 หามาได้ว่ายากแล้วนะครับ รักษามันไว้และต่อยอดออกไปยิ่งยากกว่าครับ จากคุณ : เขียนบน iPad (กระดาษเช็ดหน้าสีขาว) เขียนเมื่อ : วันเนา 55 19:05:18

ความคิดเห็นที่ 14 ตอนมีเงินหลักร้อย ก็อยากเก็บให้ได้หลักหมื่น พอมีหลักหมื่น ก็อยากเก็บให้ได้หลักแสน พอมีหลักแสน ก็อยากเก็บให้ได้หลักล้าน ตอนยังไม่มีเงินล้าน ขอบอกว่าจะเก็บได้๑ล้านบาทมันยากมากๆ เพราะต้องใช้ความพยายามอย่างสูงที่จะหักห้ามกิเลสในใจตัวเอง ลดความอยากมีอยากได้ อยากใช้จ่ายเงินที่มี ถ้าเอาชนะใจตัวเองไม่ได้ ก็คงเก็บไม่ได้ถึงล้านหรอกค่ะ กินอยู่ต่ำกว่าฐานะ ก็จะมีเงินเหลือเก็บ ตอนที่มีเงินเหลือเก็บแล้วรักษาให้เงินคงอยู่กับเรานานๆนี่ยากมากเหมือนกันนะคะ จากคุณ : OKANEMOCHI เขียนเมื่อ : วันเนา 55 19:12:56

ความคิดเห็นที่ 15 ทำได้ครับ ก่อน 30 กำ ผมนึกว่า ในสินธร มีพอร์ตเป็นล้าน ถือเงินสดคนละหลายล้านสะอีก จากคุณ : สยามธรณี เขียนเมื่อ : วันเนา 55 19:23:37

ความคิดเห็นที่ 16 ตอบตามที่ถามก็แล้วกันนะครับ คือไม่ตอบอายุ และไม่ตอบว่าตอนนี้มีเท่าไร ผมออกแนวคล้ายๆ คุณทองเนื้อก้าว นะครับ เรียนจบวิศวฯ มาแท้ๆ กว่าจะ เห็นเงินล้านได้ใช้เวลานานมาก จากการทำงานล้วนๆ และเก็บออม จนเริ่ม ลงทุน ทบต้นไปเรื่อยเปื่อย หันมาดูอีกทีอ้าว มีเกินล้านไปมากมายไม่รู้เท่าไร จากนั้นก็เริ่มทำธุรกิจ ทำไป เจ๊งบ้าง ดีบ้าง (อย่าบอกว่าเก่ง ถ้าไม่เคยเจ๊ง อยากขับรถเก่ง อยากรู้เรื่องเครื่องยนต์ ต้องซื้อรถเก่ามาขับ ขับไป ซ่อมไป สุดท้ายจะเก่งเองเพราะเจ๊งๆ ซ่อมๆ จนเป็น) จนสุดท้าย ได้ธุรกิจของตัวเอง (ร่วมหุ้น ร่วมทุนกับเพื่อน 50/50 สองหัวดี กว่าหัวเดียวตามประสาคนบ้าทำนองเดียวกัน) เป็นธุรกิจกึ่งบริการกึ่งผลิต ตอนนี้เราไม่ได้มองที่ล้าน สองล้าน หรือสิบล้านแล้ว เรามองที่ 50-100 ล้านบาทไปแล้ว กลับมาตอบคำถามอีกที - เงินล้านหายาก แต่ก็ไม่ยากมากเท่ากับการจะรักษาและทำให้งอกเงย - ถ้าเรารู้วิธีหา เราขยัน เรารักในสิ่งที่เราทำและถ้าโชคดีคือ สิ่งที่เรารักนั้น ส่งเสริมกับการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับลูกค้า สร้างเงินให้กับตังเอง ก็ถือว่าเป็น โชค การจะเพิ่มพูนเงินล้านจากนั้นไป ไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลย ก.ล. (กระทู้ลงท้าย) มีบทความใหม่ในบล็อก เรื่องความสำคัญของการวิเคราะห์พื้นฐานเชิงคุณภาพ ลองอ่าน/ฟัง เล่นดูนะครับ กดอมยิ้มเพื่อดูชื่อบล็อกในโปรไฟล์นะครับ จากคุณ : มือเก่าหัดขับ เขียนเมื่อ : วันเนา 55 19:26:45

ความคิดเห็นที่ 17 รู้จักเก็บ รู้จักออม รู้จักยับยั้งชั่งใจตัวเอง อย่าหลงสินค้าฟุ้มเฟือย พอใจในสิ่งที่ตนเองมีอยู่ ไม่ต้องอวด อยู่อย่างจน แล้วจะไม่จน อย่างว่าเงิน1 ล้านเลย ถ้าทำได้จะมีมากกว่านี้ เชื่อสิ ทุกวันนี้ เรามีบ้าน มีรถ มีเงินใช้ไม่เดือดร้อนใคร มีให้พ่อแม่ มีใช้จ่ายเที่ยว กิน เหลือเก็บไว้เวลาป่วย และคงพอใช้ถึงตอนแก่  แต่เชื่อไหมเราใช้มือถือเครื่องละ 1000 กว่าบาทเอง ไม่อายด้วย เวลาหยิบมาคุย แก้ไขเมื่อ 14 เม.ย. 55 22:13:55 จากคุณ : kritw เขียนเมื่อ : วันเนา 55 19:27:13

ความคิดเห็นที่ 18 1 ล้านแรก...ยากเสมอ!!!^^ จากคุณ : เขียนบน iPhone (satan@เต้ย) เขียนเมื่อ : วันเนา 55 19:30:11

ความคิดเห็นที่ 19 ผมเคยอ่านหนังสือ หรือ ฟังสัมภาษณ์ ของคุณตันโออิชิ  บอกว่าหาเงินล้านแรกยากที่สุด. ล้านถัดไปจะง่ายขึ้น. ซึ่งผมเหนว่าจริง. และ เชื่ออย่างนั้น. ส่วนตัวเปนพนักงานบริษัท เริ่มรับเงินเดือน ตั้งแต่8,500 บาท. ไม่มีแบค ไม่มีตัวช่วย  เก็บบ้างใช้บ้าง. ใช้ส่งตัวเองเรียนโทบ้าง.  ให้เงินพ่อแม่  ซื้อรถ. ซื้อที่ดิน. ปัจจุบัน มีพอร์ทหุ้น ล้านกว่าบาท.  คุณเองก้ทำได้. ความมั่งคั่ง เริ่มต้น จากการออม. และนำไปลงทุน.  ตลาดหลักทรัพย์เปนที่สร้างรายได้ในการออมให้คุณได้ดี. แต่ต้องศึกษา. ผมเองก้ยังศึกษา ยังคงฟังและศึกษาอยู่เรื่อยๆ. ที่เขียนมาซะยาวเพื่ออยากให้กำลังใจ คุณเองก้ทำได้. และ ขอชมเพื่อนๆที่ทำธุรกิจและประสบความสำเร็จเพราะมันไม่ใช่เรื่องง่ายเปนกำลังใจให้เจ้าของกะทู้และทุกคนครับ จากคุณ : อ้วนสุด (ak2518) เขียนเมื่อ : วันเนา 55 19:35:47

ความคิดเห็นที่ 20 มีแต่เงินสด อย่างเดียวเลย  กระจายไปฝากธนาคาร  หุ้นกู้  พันธบัตร  ประกันชีวิต  ทองคำ ยังไม่มีบ้าน ไม่มีรถ   เพราะที่ทำงานอยู่ตึกข้างๆ กับคอนโดฯ ที่เช่าอยู่   ล้านแรกไม่ยาก   แต่อยากได้ร้อยล้าน นี่ ยากจริงๆ  อดทนต่อไป   ครึ่งทางละ เข้ามาเพิ่ม ว่า ทำธุรกิจส่วนตัว ของตัวเอง  น้ำพักน้ำแรงตัวเอง  ทั้งหมด โอกาส กับ จังหวะ  เป็นสิ่งสำคัญจริงๆ แก้ไขเมื่อ 14 เม.ย. 55 20:07:06 จากคุณ : ไจโรสโคป เขียนเมื่อ : วันเนา 55 20:05:19

ความคิดเห็นที่ 21 ตอนนี้อายุ 29 บาท มีประมาณ 5 แสนบาทครับ ในส่วนที่หามาได้เองด้วยน้ำพักน้ำแรงล้วนๆ เพิ่งเริ่มเก็บมา 3 ปี ตั้งแต่เริ่มเล่นหุ้น ก่อนหน้านั้นไม่เคยเก็บเลย มีเท่าไหร่เที่ยว กิน ใช้หมด แต่พอเริ่มลงทุนทำให้ไม่ค่อยอยากใช้เงินอะครับ มีเท่าไหร่ก็เก็บ คาดว่าปีนี้น่าจะได้แล้วล่ะ 1 ล้าน เงินที่ได้มาช่วงแรกๆ ก็มาจากการทำงานเก็บหอมรอมริบแบบประหยัดเลยนะครับ แล้วพอเป็นก้อนใหญ่หลังๆ เริ่มลงทุนเข้าที่เข้าทางระยะหลังก็ได้มาจากการลงทุนในตลาดหุ้นซะเป็นหลัก แก้ไขเมื่อ 14 เม.ย. 55 20:09:35 จากคุณ : ออสระโอ เขียนเมื่อ : วันเนา 55 20:07:27

ความคิดเห็นที่ 22 ล้านแรกยากครับ ผมเริ่มทำงานเป็นลูกจ้างตั้งแต่อายุ 24 เบื่อก็ออกมาหาอะไรทำเอง มีล้านแรกตอนอายุ 29 พอได้ล้านแรกปุ๊ป แค่ปีเดียวล้านที่สองก็ตามมา แต่ยอมรับล้านแรกยากจริงๆ สำหรับคนอย่างผมที่ฐานะทางบ้านไม่ดี มรดกไม่ต้องพูดถึงมีแต่มรดกหนี้ละมั้ง มีดีที่มีความรู้หน่อย แต่ก็ยัง เล่นหุ้นไม่ได้เรื่องอยู่ดี จากคุณ : tetae56 เขียนเมื่อ : วันเนา 55 20:18:04

ความคิดเห็นที่ 23 สำหรับผมไม่ยากมากครับ ทำงานประจำก็หาได้ เพราะคนโสดไม่มีภาระ เก็บไปเรื่อยๆก็ถึงครับ ผมว่าการใช้งินล้านอย่างมีคุณค่าและเกิดประโยชน์ยากกว่าเยอะ ย้ำครับว่าการใช้เงินที่หามาอย่างยากลำบากยากกว่าเยอะ จากคุณ : Mr. Prodigy เขียนเมื่อ : วันเนา 55 20:19:39

ความคิดเห็นที่ 24 ถ้าเป็นงินสดมีไม่ถึง แต่ผ่อนบ้านในที่ทำเลดีของจังหวัดใหญ่มาได้ค่อนทางแล้ว มีรถ ทอง หุ้น สลากออมสินและเงินเก็บไม่มากไม่น้อย ทั้งหมดหามาด้วยตัวเองค่ะ โชคดีที่จบภาษาที่เป็นที่ต้องการของตลาด ไม่ใช่สิ วางแผนการศึกษามาดีมากกว่า เลือกเรียนก่อนที่ชาวบ้านจะไหวตัว จบก่อนโอกาสมาก่อน เลือกได้ ทำทั้งงานประจำและจ็อบจนถึงอายุ35 จากนั้นค่อยๆลดงานลง เพิ่งตัดสินใจเป็นฟรีแลนซ์เต็มตัวได้ประมาณ3ปีมาแล้ว ใช้ชีวิตคุ้ม ไม่ขี้เหนียว ไม่บ้าแบรนด์ กิน ท่องเที่ยวและช่วยพี่น้องบ้างตามสมควร ไม่อยากรวยเวอร์ อยากได้ความมั่นคงและใช้ชีวิตตามชื่อล็อกอินค่ะ ภายในปีนี้จะได้เงินพิเศษเข้ามาคงได้จับเงินล้านของตัวเองเป็นครั้งแรกแต่ก็คงไม่ถือเป็นเงินสดนานค่ะ มีแพลนต่อยอดไว้แระ แชร์ๆกันนะคะ หวังว่าคงเป็นประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อย แก้ไขเมื่อ 14 เม.ย. 55 20:31:05 จากคุณ : EcoSlowLife เขียนเมื่อ : วันเนา 55 20:26:08

ความคิดเห็นที่ 25 ขอถามเพิ่มเติม      มีใครที่เป็น พนักงานบริษัท ธรรมดา ๆ ที่ไม่ใช่ หมอ วิศวะ ทำในบริษัทพวกที่รายได้ต่อเดือนสูงมากๆ เช่นน้ำมัน ไม่มีงานพิเศษ        อาศัยแต่การอดออม +  แอบเล่นหุ้นในเวลางานนิดหน่อย  ใช้เวลากันกี่ปีครับ ถึงจะได้เงินล้าน    ผมทำงานมาประมาณ 5 ปี  รายรับทั้งหมด ยังไม่หักค่าใช้จ่าย เพิ่งเกินล้านไปนิดหน่อยเอง จากคุณ : ห้าแต้ม เขียนเมื่อ : วันเนา 55 20:48:09

ความคิดเห็นที่ 26 ตอนนี้ 25 ค่ะ ยังไม่ถึงล้านแต่ใกล้แล้ว จากน้ำพักน้ำแรงล้วนๆ ภูมิใจมากๆ ตอนแรกก็ไม่คิดไม่หวังอะไร เก็บเข้าออมทรัพย์ไปเรื่อยๆ จะใช้ก็กดATM แล้วเหลือเท่าไหร่ก็เท่านั้น จนวันนึงมีในบัญชีประมาณสองแสน พนักงานธนาคารก็แนะนำให้เปลี่ยนเป็นฝากประจำ เลยลองมาหาข้อมูลทั้งจากในห้องนี้ และจากหนังสือ ช่วงนั้นเราบ้าอ่านเรื่องเก็บเงินออมเิงินมากๆๆ และได้แรงบันดาลใจมาเยอะมาก รู้แล้วว่าวิธีใช้เงินเก็บเงินที่ผ่านมาของเราไม่ถูกต้อง เลยเริ่มจากการทำบัญชีรายรับรายจ่าย สิ้นเดือนก็สรุปยอดว่าแต่ละเดือนหมดเงินไปกับหมวดไหนบ้าง แล้วก็เริ่มกำหนดค่าใช้จ่ายตัวเองว่าใช้ได้เดือนละเท่าไหร่ๆ พอเริ่มออมเป็น ก็เริ่มสนเรื่องลงทุน จริงๆตอนนี้ก็ยังไปไม่เท่าไหร่นะคะ ได้แค่พวกฝากประจำ ตั๋วแลกเงิน กองทุน ทองคำ ยังไม่มีเวลาและความกล้าพอสำหรับหุ้น กำไรดอกเบี้ยที่ได้จากการลงทุนพวกนี้ก็ยังได้มาไม่มากเท่าไหร่ แต่ที่ภูมิใจกับตัวเองคือมีการจัดการการเงินที่เป็นระบบมากขึ้น มีเป้าหมายชีวิต รู้สึกว่าความฝันที่อยากซื้อบ้านดูจะเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น ยังจำได้ว่าตอนเด็กๆ เวลาอ่านหนังสือพิมพ์จะชอบเปิดไปดูหน้าหลังสุดที่เป็นโฆษณาบ้าน ฝันว่าอยากซื้อบ้านหลังเล็กๆ(ตอนนั้นราคาประมาณล้านห้า)อยู่กับพ่อแม่ซักหลัง แต่พอเริ่มโตขึ้นก็รู้สึกว่ามันคงยากมากๆ เพราะลองคำนวณฐานเงินเดือนคนจบปริญญาตรีแล้วก็แอบคิดว่ากว่าจะได้ซักล้านนี่ไม่รู้จะปาไปอายุเท่าไหร่ แต่ตอนนี้รู้แล้วว่าถึงแม้การมีเิงินล้านมันอาจจะไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับคนทำงานกินเงินเดือนก็จริง แต่ถ้าเราสามารถควบคุมตัวเองได้ รู้จักใช้ รู้จักเก็บ และสามารถตั้งเป้าให้ตัวเองได้อย่างชัดเจน เราว่าสิ่งนั้นสำคัญกว่าเมื่อไหร่ถึงจะมีเงินล้านนะ ยากไม่ยากไม่เป็นไร แค่รู้ว่าวันนึงจะไปได้ถึงก็พอแ้ล้ว จากคุณ : ทาสผู้ซื่อสัตย์ของท่านซิเรียส เขียนเมื่อ : วันเนา 55 21:13:20

ความคิดเห็นที่ 27 อายุ 31 ไม่มีเงินเก็บสักบาท แต่มี รถ 4 คัน บ้าน 2 หลัง คอนโด 1 ห้อง เลยหวังว่าปีนี้จะตั้งใจเก็บเงินสดให้ได้เพราะเพิ่งซื้อคอนโด ความตั้งใจ อายุ 40 อยากใช้ชีวิตแบบ ศก พอเพียงตามแนวนโยบายในหลวง จากคุณ : หนูอยากรวยด้วยคนคะ เขียนเมื่อ : วันเนา 55 21:21:29

ความคิดเห็นที่ 28 ปีที่แล้ว มีวันนึง short ไว้ตอนเช้า แล้วเดินไปเข้าห้องน้ำ ปวดฉี่ ฉี่เสร็จหุ้นลงไป 32 จุด ปิดทำกำไร ได้กำไรเกือบล้าน ปกติเล่น daytrade กำไรนิดเดียวเท่านั้น เงินหาง่ายมาก จากคุณ : simonyens เขียนเมื่อ : วันเนา 55 21:25:50

ความคิดเห็นที่ 29 หาได้มากเท่าไร ไม่สำคัญเท่าเหลือเก็บเท่าใด ในแง่มุมของคุณไซม่อนมองในด้านดีคือเป็นคนเก่งมีความสามารถครับ ยอดเยี่ยมครับ จากคุณ : ทองเนื้อเก้า เขียนเมื่อ : วันเนา 55 21:32:11

ความคิดเห็นที่ 30 - แก้ไขเมื่อ 14 เม.ย. 55 21:55:04 แก้ไขเมื่อ 14 เม.ย. 55 21:48:32 จากคุณ : superman2007 เขียนเมื่อ : วันเนา 55 21:42:14

ความคิดเห็นที่ 31 - แก้ไขเมื่อ 14 เม.ย. 55 21:55:18 จากคุณ : superman2007 เขียนเมื่อ : วันเนา 55 21:46:33

ความคิดเห็นที่ 32 เงินล้านก้อยากกว่าเงินโล้นนิโหน่ยนะ เหอะๆ. ล้อเล่นน่ะก้าบบบบบ จากคุณ : Fro_N เขียนเมื่อ : วันเนา 55 21:59:48

ความคิดเห็นที่ 33 ยากค่ะ ตอนโสดก็เก็บยาก ตอนมีลูกก็เก็บยาก จากคุณ : Hana* เขียนเมื่อ : วันเนา 55 22:02:07

ความคิดเห็นที่ 34 ล้านแรก ผมเพิ่งได้ตอนปีนี้เองอ่ะครับ ยังไม่ได้มรดก  เก็บ + ลงทุนมาเรื่อยๆ  ลงทุนมา 6 ปีครับ จากคุณ : counsellor เขียนเมื่อ : วันเนา 55 22:17:21

ความคิดเห็นที่ 35 เคยไปผ่อนดาวน์ทาวน์โฮมไว้หลังนึง ไม่ได้ตั้งใจไปอยู่ ผ่านไป 2ปี คนแถวบ้านขายทฮ. หลังนั้นไปได้กำไร 1 ล้าน แบบว่าสนใจจะขายบ้าง แต่กลัวพอมีเงินแล้วใช้หมด หรือเอาไปเล่นหุ้นขาดทุนหมดอีก ถ้าเป็นพวกที่ดินหรือสินทรัพย์บ้าน 3หลัง รถ 2 คัน ที่ดินต่างจังหวัดคงหลายล้าน แต่ก็ขายไม่ได้ บ้านมีความจำเป็นต้องใช้อยู่อาศัย รถก็ต้องใช้ทำงาน จากคุณ : ค่าบำรุงรักษาสูงมากหมุนติ้วเลย (เด็กเกาะสมุย) เขียนเมื่อ : วันเนา 55 22:18:18

ความคิดเห็นที่ 36 คนที่หาเงินล้านได้ โดยเริ่มจากศูนย์แบบไม่ได้ต่อยอดเงินพ่อแม่ หรือมี backup ผมคิดว่าเก่งทุกคน เพราะมันยากมาก ๆ ที่การที่เด็กจบใหม่คนหนึ่งจะเริ่มหางานทำ มีรายได้ และวางแผนการเงินตั้งแต่อายุน้อย ๆ คำพูดที่ว่าผู้ชายยากแล้ว ผู้หญิงยากกว่า น่าจะจริงในส่วนที่ผู้หญิงจะมีรายจ่ายจิปาถะมากกว่าผู้ชาย ถ้าไม่มองเรื่องเที่ยวเตร่ ตอบคำถามเลยละกัน 1. อายุ 32 มีเงินที่เป็นเงินจริง ๆ ประมาณ 1 ล้านบาท เป็นหุ้นอีก 25-30 ล้านบาทแล้วแต่อารมณ์ตลาด 2. เงินล้านก้อนแรกได้ตอนอายุ 28 เกิดจากเงินเก็บตอนทำงานประจำ นำเงินเก็บไปลงทุน และกิจการส่วนตัวตอนเริ่มต้น 2.1 อย่างที่ว่า เงินล้านที่ได้ ไม่ได้มาจากเงินเก็บตอนเป็นลูกจ้างล้วน ๆ แต่เกิดจากการนำเงินเก็บจากหลาย ๆ ทางไปต่อยอด 2.2 เงินเก็บมาจาก เงินที่เก็บได้ตอนทำงานประจำ และธุรกิจที่เริ่มต้นตอนกลาง ๆ 20 ลงทุนในบริษัทหุ้นปันผล แล้วผลตอบแทนก็หมุนทบไปเรื่อย ๆ จากคุณ : Morning Star เขียนเมื่อ : วันเนา 55 22:41:12

ความคิดเห็นที่ 37 อยากรู้ด้วยคน ตอนนี้พอร์ทครึ่งล้านอีกนานมั้ยกว่าจะได้ล้านแรก ปล อยู่เกาะคะ เงินลงทุนของสามีล้วนๆ จากคุณ : amel91 เขียนเมื่อ : วันเนา 55 22:49:13

ความคิดเห็นที่ 38 อายุ 29 ค่อนๆ เกือบ 30 เหลืออีกหลายเดือน ทำงานมา 6 ปีแล้ว เงินเผื่อเรียก/ออมทรัพย์ มีแค่ 5 หมื่น เงินในบัญชี cash balance + หุ้น + กองทุน รวมประมาณ 3.7 แสน ผ่อนบ้านอยู่ แต่กะว่าจะขายไปในอีก 1-2 เดือน หักลบหนี้แล้ว ก็น่าจะมีเงินเหลือ 1 ล้าน ค่อนๆ นะ โดยรวมทรัพย์สินที่สะสมมาได้ ประมาณ 2 ล้าน  มาจากงานประจำนี่แหละครับ ยังไม่ค่อยได้กำไรจากหุ้น จากคุณ : ผลึกความคิด เขียนเมื่อ : วันเนา 55 23:06:44

ความคิดเห็นที่ 39 อายุ31 มีเงินสด3ล้าน มีรถ มีcondo ทุกอย่างหาเองเลยคับไม่มีที่บ้านมาเกี่ยว ก็หาจากเปิกร้านขายยาเก็บออมทุกวันแยกออกมาวันละ4พันบาทสมำ่เสมอ ทุกวันเท่านั้นแป๊บเดียวก็หลายว้านแล้ว ทั้งๆที่ผมเปิดร้านมาแค่3ปีครึ่งเอง สู้ๆเป็นกำลังใจให้ทุกคนนะคับ "หาได้เท่าไรไม่สำคัญ สำคัญว่าเก็บเท่าไรมากกว่าา" จากคุณ : เขียนบน iPhone (thamrongrx1) เขียนเมื่อ : วันเนา 55 23:08:12

ความคิดเห็นที่ 40 เงินล้านหายาก แต่ทำได้ครับ 1 ปัจจุบัน ทุกท่านอายุเท่าไหร่ มีเงินเก็บประมาณไหน - ตอนนี้อายุ 29 มีเงินเก็บ(เทียบเท่าเงินสด และทองคำ) 1Xล้าน เงินหมุนในธุรกิจ Xล้าน(ไม่ได้กูเงินมาทำนะครับ เพราะไม่อะไรเอาไปค้ำแบงค์ได้ 555) 2 และมีเงินล้านก้อนแรก เท่าไหร่ ก่อนอายุสามสิบหรือไม่ และได้มาจากทางใด - เงินล้านแรก ผมได้มาตอนอายุ 25ปี กับอีก 2เดือน  จำได้ดีเพราะว่าผมเคยตั้งเป้าไว้ว่า อายุ25จะมีเงินล้าน แต่มันมาช้าไปสองเดือน 2.1 จากน้ำพักน้ำแรงตัวเองจากการทำงาน(เป็นลูกจ้าง)ล้วนๆหรือไม่   - ผมเริ่มจากเงิน 0 บาท เงินเริ่มต้นธุรกิจ มาจากเงินที่ทำงานตอนจบใหม่ แล้วเก็บเงินได้มา 20000กว่าบาท ผมแชร์ชีวิตผมให้ฟังครับ เพื่อที่จะเป็นกำลังใจให้คนอีกหลายๆคน คนที่คิดว่าเงินล้านหายาก จะเริ่มธุรกิจตอนนี้ก็ยาก ผมบอกเลยครับ ต้องเริ่มจากคำว่า "เริ่ม" คุณต้องเริ่มทำ เริ่มเก็บเงิน ต้นทุนชีวิตผมเป็นศูนย์ พ่อแม่ไม่มีเงินให้ผมสักบาท นอกจากค่าเทอมถึงระดับมหาลัย  บ้านผมมีกิน ไม่มีเที่ยว ไม่ขัดสนเรื่องอาหาร แต่ไม่มีเงินไปเที่ยวเล่น ซื้อของเล่น ไปเที่ยว ตจว. ผมเริ่มจากซื้อของจากคลองถม มาขายในเว็บ กำไร20-40บาทต่อชิ้น เดือนๆนึงกำไร พันกว่าบาท แค่นี้ก็ดีใจมากแล้ว ทำไปทำมาก็มีโอกาสขายของชิ้นใหญ่ขึ้น กำไรมากขึ้น จากเดือนนึงกำไรหลักพัน ก็เป็นหลักหมื่น จากหลักหมื่นก็เป็นหลักแสน ผมว่าเราต้องตามหาโอกาสให้เจอ และเมื่อเจอ ก็จับมันให้อยู่ ถ้าปล่อยให้วันๆผ่านไป โอกาสที่จะมาหาเราเองมันยาก หรือถ้ามา เราก็ไม่พร้อมที่จะจับมันไว้ ผมคือเด็กธรรมดาคนนึง ที่พิสูจน์แล้วว่า สมัยนี้ก็สร้างธุรกิจเองได้ ไม่จำเป็นต้องมีเงินพ่อแม่  ที่สำคัญ ผมจบวิทยาศาสตร์ ไม่ได้มีความรู้เกี่ยวกับธุรกิจเลยครับ ใจรักล้วนๆ ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนครับ ปล.มีน้อยใช้น้อย มีมากใช้น้อยครับ ผมมีเงินเก็บเดือนละหลายแสน แต่ผมใช้เงินไม่เกิน15,000บาทครับ รอวันที่มีอิสภาพทางการเงินอย่างเข้มแข็งครับ  ^^ แก้ไขเมื่อ 14 เม.ย. 55 23:51:37 จากคุณ : protid เขียนเมื่อ : วันเนา 55 23:29:39

ความคิดเห็นที่ 41 เริ่มงาน มา จริงๆ สามปีหลังเรียนจบ ตอนนี้อายุ 33 สองปีแรกเก็บไม่ได้เลย ปีนี้มาลงทุนในหุ้น เก็บได้ แสนกว่า ก็ภูมิใจ กว่าจะได้ แสนแทบตาย มีเงินจากการไปเรียนจบมาส่วนหนึ่ีงไม่นับ เพราะเป็นเงินที่ได้จากการให้กลับมาทำงานในไทย จากคุณ : สิงโตทะเลทราย เขียนเมื่อ : วันเนา 55 23:29:46

ความคิดเห็นที่ 42 เท่าที่อ่านมาจากความเห็นข้างบน และกระทู้อื่นในทำนองเดียวกัน ส่วนใหญ่ จะเป็นคนที่ประกอบกิจการส่วนตัว หรือไม่ก็พวกมีเงินเดือนแพงมากๆ  เช่นหมอ พวกบริษัท น้ำมัน   โอกาสที่พนักงานธรรมดาๆ คงจะยาก เพราะแค่รายรับทั้งปี ยังไม่ถึงครึ่งทางเลย สำหรับผม คำนวนดูแล้ว คงเกินเลข 4  เล่นหุ้น (ลงทุน) คงจะช่วยได้ไม่มาก อาจจะเป็นตัวถ่วงด้วยซ้ำไป อยากมีเงินล้าน ตั้งแต่อายุน้อย คงต้องเสี่ยงหน่อยใช่หรือเปล่าครับ จากคุณ : ห้าแต้ม เขียนเมื่อ : วันเนา 55 23:32:37

ความคิดเห็นที่ 43 ทำงานมา 10 กว่าปียังไม่ถึงสักทีครับ รอบแรกขาดไปหมื่นกว่า อดใจไม่ได้ ไปตัดสดบ้าน แล้วซื้อเพิ่มอีกหลัง รอบสองซื้อรถและที่ดินเงินสด หมดไปไม่ถึงสักที แต่ได้ทรัพย์สินมาแทนครับ ตอนนี้ตั้งต้อนรอบใหม่ แยกเงินลงทุนลูก เงินสำหรับใช้เมื่อเกษียณ ไม่รู้ลูกหรือเราจะครบก่อน น่าลุ้นดีเหมือนกัน   ยินดีกับคนทีผ่านล้านแรกแล้วนะครับ  ส่วนผมค่อนข้างพอใจกับที่มีแล้วครับ... จากคุณ : N8080N เขียนเมื่อ : วันเนา 55 23:48:57

ความคิดเห็นที่ 44 คุณห้าแต้ม #42 ถ้าอยากมีเงิน มีรายได้เยอะ ๆ ไม่จำเป็นต้องเสี่ยงครับ สิ่งที่ต้องทำคือ ทำงานให้มากขึ้น และใช้สมองให้มากขึ้น ต่างหาก ทุกคนมี 24 ชั่วโมงเท่ากัน แตกต่างกันแค่ใครมีสุขภาพดี ใครมีสุขภาพไม่ดีเท่านั้น เราไม่ควรไปมองว่า พนักงานธรรมดา ๆ คงไม่มีวันได้แตะเงินล้านกับใครเขา ไม่เหมือน นักธุรกิจ หมอ ทำงานบริษัทน้ำมัน หรืออื่น ๆ เพราะพนักงานธรรมดา ๆ ก็สามารถเป็นเจ้าของธุรกิจได้ คนเป็นหมอมีรายได้ดี ก็เพราะเค้าลงทุนลงแรงในการศึกษาเป็นอย่างมาก หรือคนที่ทำงานบริษัทที่ให้ผลตอบแทนดี เค้าก็ต้องใช้แรงใช้สมอง และเสียอะไรหลาย ๆ อย่างเช่น เวลา ไปเยอะเหมือนกัน อย่าไปมองครับว่า เรามีแค่นี้คงทำไม่ได้ คนอื่นมีดีกว่า แต่ให้มองว่า ถ้าอยากเป็นได้แบบนี้บ้าง จะต้องทำอย่างไร จะต้อง "เริ่มต้น" อย่างไร เหมือนอย่าง #40 ว่าไว้ คนไม่เริ่ม คนไม่กล้า ไม่มีทางมีได้หรอกครับ ได้ก็แค่ฝันไปวัน ๆ เท่านั้น จากคุณ : Morning Star เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 00:01:19

ความคิดเห็นที่ 45 มุมมองหนึ่ง เรื่องจริง บางเรื่องในสังคม เรืองที่ 1 มีคนจบ ปริญญาเอก ด้านวิทยาศาสตร์ เป็นหญิง รับราชการ 38 ปี จนเกษียณ อายุ 60ปี ไม่โกงกิน ไม่มีปัญญาซื้อบ้านอยู่อาศัย มีลูกชาย จบปริญญาตรี วิศวะ บังเอิญ ทำงานเอกชน มีตัวอย่างจากแม่ ไม่ยอม ทำงานราชการ แล้ว ซื้อบ้านให้แม่อยู่ จากเงินเดือนของตนเอง เรืองที่ 2 มีคนจบ ปริญญาเอก ด้านวิทยาศาสตร์ เป็นชาย รับราชการ 35 ปี จนเกษียณ อายุ 60ปี ไม่โกงกิน ไม่มีปัญญาซื้อบ้านอยู่อาศัย มี ลูกชาย และลูกสาว ทั้งคู่ไม่ยอมเรียนสูง แต่ว่า มาทำงานหาเงินดีกว่า มีเงินซื้อบ้าน ซื้อรถ คันเป็นล้าน ให้ พ่อขับ ทั้ง 2ท่าน ไม่มีปัญญา ซื้อบ้านอยู๋อาศัย ของตนเอง เป็นคนมีปัญญาในสังคม แต่ว่า รายได้ไม่พอเพียง เรืองที่ 3 มีคนจบ ปริญญาเอก ด้านวิศวะ ปัจจุบันเงินเดือน เดือนละ 39,900 บาท(ไม่รวมเงินประจำตำแหน่ง) ไม่โกงกิน มีลูกชาย จบใหม่ วิศวะ ปีนี้ อย่างไรก็ไม่ยอมทำงานราชการ เงินเดือนครั้งแรก เดือนละ 40,000 บาท แซงเงินเดือน ของพ่อซึ่ง จบ ปริญญาเอก แล้ว ทำงาน มา 28 ปี ถ้าไม่วางแผนให้ ดี ก็จะอด ยามแก่ ดังนั้น ย่อมไม่ยอมให้ประวัติศาสตร์ ซ้ำรอยเดิม ต้องทำงานพิเศษ เพื่อที่จะมีปัญญาซื้อบ้าน ซื้อรถยนต์ รายที่ 4 เป็นนายตำรวจ ตอนเกษียณอายุเป็นนายพล ไม่โกงกิน เมื่อเกษียณอายุ ตัวเองมาแล้ว ไม่มีบ้าน อยู่อาศัย ต้องให้ โจร หรือว่า ผู้มีอิทธิพล ซื้อบ้านให้อยู่ รายที่ 5 บางคนทำงานด้วยความสุจริต มีความภาคภูมิใจ กับตนเอง ที่ไม่โกงกิน ไม่ฉ้อราษฏร์ บังหลวง พูดถึงประวัติ ตนเองอย่างภาคภูมิใจ ว่า มีอำนาจสั่งซื้อของจำนวนเงินเป็นหลักหมื่นล้านต่อปี แต่ว่า ไม่เคยแม้แต่จะโกงกิน บาทเดียวก็ไม่เอา แต่ว่า โดนผู้มีอิทธิพล ด่าว่า โง่ บังเอิญ ผมอยู่ในเหตุการณ์รายนี้ ด้วย เห็นแล้ว สงสารท่านจัง แต่ว่า ท่านก็ภาคภูมิใจ กับการทำงานของท่าน ปัจจุบันท่านเสียชีวิตแล้ว เงินเป็นเพียงส่วนประกอบที่จำเป็น แต่ว่า ไม่สำคัญที่สุด ยังมีอย่างอื่นอีกหลายๆอย่าง จากคุณ : phon77 เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 00:49:34

ความคิดเห็นที่ 46 คนมีเงินเดือน2หมื่นขึ้นไป +เป็นคนมัธยัสถ์  ไม่ยาก คนฟุ่มเฟือยไม่เหลือเก็บ  และคนรายได้น้อย  ยากมาก ผมเริ่มทำงานอายุ22 เงินเดือน4พัน ผ่านไปปี2ปี เศรฐกิจบูมเงินเดือน ปรับฐานขึ้นไปหมื่นกว่า 2หมื่น  ตามประสาคนไม่เคยศึกษาสนใจ เรื่องการเงิน  เริ่มมองหาบ้าน หารถมือ2  กู้ธนาคาร1.5ล้าน ดอกหยังโหด รีบโป๊ะจนหมดภายใน3ปี  จากนั้นก็ได้เวลาเปลี่ยนรถเป็นป้ายแดงกู้อีก5แสน จากนั้นถึงเริ่มเก็บเงินได้บ้าง ส่งรถบ้าง อายุ28แต่งงาน เริ่มรวม2กระเป๋า อายุ31-32น่ามีเกิน1ล้าน ไม่ได้เรคคอร์ดไว้ครับ   แต่ที่จำได้แน่คือตอนออกจากงานอายุ36 มีเงินเก็บ+ เงินสะสม6แสน มาเล่นหุ้นรวม2ล้านกว่าบาท ปล   2คนปั๋วเมีย มี2ล้านตอนอายุ36  หาร2แสดงว่าผมเริ่มมีเงินล้านตอนนั้นครับ แก้ไขเมื่อ 15 เม.ย. 55 01:15:06 จากคุณ : อมหุ้นแล้วยิ้ม เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 01:12:21

ความคิดเห็นที่ 47 ^ ^ ^ มีคนอีกมาก ที่ปิดทองหลังพระอย่างท่านว่า ไม่ว่าครู อาจารย์ ทหาร ตำรวจ(ที่นอนอยู่ในป่าตอนนี้กับยุงและัสัตว์มีพิษ เพื่อปกป้องประเทศชาติ โดยไม่แคร์ว่าวันนี้ พรุ่งนี้จะมีชีวิตกลับบ้านรึเปล่าหรือต้องคลุมด้วยธงชาติกลับไป ...ด้วยนับถือทุกท่านเหล่านั้น จากคุณ : อมยิ้มไม่หวาน เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 01:13:19

ความคิดเห็นที่ 48 ผมโชคดีหรือว่าจังหวะดี เงินสดสะสมด้วยตัวเองล้านแรก ในสองปี กว่าๆ เรียนจบ ทำงาน ทำงานบริษัท เงินเดือน เดือนแรก หักทุกอย่างเกือบ 20,000 ไม่กี่เดือนผ่านไป ได้ขึ้นมาแค่ 1000 บาทแต่ โอกาสเข้ามา  ผ่านไป 1 ปี มีเงินเก็บเองไม่ถึงแสน บริษัทเสนอเงินเดือนเพิ่มให้ 50% จาก 20K เป็น 30K เด็กจบใหม่แค่ปีถือว่าเยอะ ไม่กี่เดือนถัดมา บริษัทส่งไปบริษัทแม่ที่ต่างประเทศ ทำใหได้เงินเยอะขึ้นมาก ในไม่กี่เดือนมีเงินเก็บ หลายแสนบาท กลางคืนว่างเลยตัดสินใจเข้ามาในตลาดหุ้นไทยหลังจากดูจังหวะมานาน ภายในเดือนแรกทำกำไรได้ นับแสนบาท  ทำให้ล้านแรกได้มาก่อนอายุ 25   ขึ้นอยู่กับจังหวะและโอกาส หากเราพร้อมไว้เสมอ เมื่อโอกาสเข้ามาเราทำเงินล้านได้สบายๆเลยครับ  มีคนที่ผมรู้จักหลายคนทำเงินล้านถึงหลายล้านได้ ก่อนเรียนจบมหาวิทยาลัยเสียอีก แต่ล้านถัดไปไม่ยากครับ ตอบ คำถาม 1. อายุ 30 เต็ม เก็บ ก็หลักล้าน 2. ล้านแรก ประมาณ 23-24กว่าๆไม่แน่ใจ 2.1 หากมาจากน้ำพักน้ำแรงตัวเองล้วนๆก็เกือบล้านก่อน 24 ปี 2.2 ผมลงทุนหุ้นและอสังหา เริ่มจากหุ้นก่อนเลย ปัจจุบัน ไม่ขอบอกว่ามีอะไรเท่าไหร่ แต่ยังคงทำงานประจำ และลงทุนไปด้วยครับ ไม่ยากเชื่อว่าทุกคนทำได้หากพวกเขาเห็นโอกาส แต่ตอนนี้การจะมีหนี้ 1 ล้าน(กู้) ง่ายกว่าเยอะเลยครับ แก้คำผิด แก้ไขเมื่อ 15 เม.ย. 55 07:27:20 จากคุณ : หน้ามหิดล เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 07:21:22

ความคิดเห็นที่ 49 อ่านดูแล้วเก็บเงินเก่งทุกคน. จากคุณ : amnuaysilpa 63 เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 08:51:45

ความคิดเห็นที่ 50 ... แก้ไขเมื่อ 11 พ.ค. 55 19:41:45 แก้ไขเมื่อ 15 เม.ย. 55 12:12:25 จากคุณ : cinta เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 12:06:07

ความคิดเห็นที่ 51 คห.45 ครับ งานทุกๆ งานสุจริต มีความสำคัญทั้งสิ้นครับ ถ้าไม่มีใครทำงานบางอย่างแล้ว ด้วยการเกี่ยงว่ามีค่าตอบแทนน้อย รายได้ต่ำ สังคมคงต้องมีปัญหาแน่ ครูบา อาจารย์ต่างๆ ร่ำเรียนมามากมายเพื่อสอนหนังสือเด็ก นักศึกษา รับเงินเดือนไม่ กี่บาท แต่ก็เป็นงานสำคัญ ไล่ลงไปถึงงานบางอย่างที่อาจจะไม่ได้ต้องการความ รู้ระดับสูงอะไรเลยเช่น คนเก็บขยะ แม่บ้านทำความสะอาดออฟฟิศ ถนน ต่างๆ เหล่านี้ ลองคิดดูว่าหากไม่มีคนทำแล้ว คงวุ่นวายเป็นแน่ อย่างไรก็ตาม ความฉลาดทางการเงินก็เป็นสิ่งสำคัญ การรู้จักเก็บออม และการ ทำให้เงินงอกเงย เป็นสิ่งที่ทุกคนควรจะมีติดตัวไว้ แต่ปัญหาหนึ่งก็คือ ไม่รู้จะหา ใครมาสอนได้ ลองนึกภาพดูว่า ในโรงเรียนนั้นจะมีใครมาสอนเรื่องความฉลาด ทางการเงินได้ ในเมื่อไม่มีผู้ที่มีความฉลาดทางการเงินที่พร้อมที่จะสอน (พูดกัน แบบไม่เกรงใจก็คือ ครูเองยังเอาตัวไม่รอดเรื่องเงินเลย จะเอาอะไรไปสอนลูกศิษย์ ซึ่งเรื่องนี้เป็นปัญหากับหลายๆ ประเทศรวมทั้งประเทศที่ได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่ พัฒนาแล้วอีกหลายประเทศด้วย) ผมเองไม่ได้คาบช้อนเงินช้อนทองมาเกิด คุณพ่อคุณแม่เป็นข้าราชการชั้นสูง แต่ไม่เคยใช้เส้นสายทำมาหากินใดๆ พ่อเป็นนักลงทุน (อ่านได้ในบทความต่างๆ เรื่อง "พ่อสอนผม" ในบล็อก) จนพอกพูนกลายเป็นความมั่งคั่ง ตรงกันข้ามกับ คุณแม่ที่เป็นคนอนุรักษ์นิยมแบบสุดๆ ผมเองเลยได้ความผสมระหว่างคนสอง คนออกมา และแปลงเป็นรูปแบบในการทำงาน, การลงทุน, การทำธุรกิจ ในแบบ ของตัวเอง ผมเพียงแต่อยากบอกว่า - งานทุกงานสำคัญทั้งสิ้น และต้องมีใครสักคนไปทำมัน - เงินเป็นสิ่งสำคัญ ไม่จำเป็นต้องโกงกินก็รวยหรือมั่งคั่งได้ แต่โดยพื้นฐานแล้วต้อง รู้จักเก็บออมและทำให้งอกเงยครับ - ทุกอย่างอยู่ที่ทัศนะคติ ถ้าเราคิดว่าทำได้ เราก็ทำได้ - เงินจำเป็นและสำคัญต่อการใช้ชีวิตในทุกวันนี้ แต่ก็ไม่สำคัญเท่ากับการที่เราได้ทำ ประโยชน์ให้กับสังคม เงินที่ได้มาจากการเอารัดเอาเปรียบคนอื่นนั้น ถือว่าเป็นเงิน ไม่งาม เงินที่ได้จากการสร้างคุณค่าให้กับลูกค้า ได้จาก Surplus หรือส่วนเกินจาก การว่าจ้างลูกน้องลูกจ้างตามสมควร ย่อมเป็นเงินที่เป็นสุขกว่า - เหนือสื่งอื่นใด "คุณวางแผนที่จะรวย หรือวางแผนที่จะจน?" ล่ะ ถ้าหาเงินได้ ใช้หมด ไม่ขวนขวาย ไม่เก็บออม ไม่ลงทุนให้งอกเงย ไม่รู้จักใช้เงินของคนอื่นมาช่วยทำงาน มาช่วยร่นเวลาเติบโตของธุรกิจ แบบนี้ก็รวยยาก ช่วงเวลานี้ อย่าลืมทำบุญกันบ้างนะครับ ผมเองฝากเพื่อนไปช่วยทำบุญเรียบร้อย แล้วครับ เพราะอยากอยู่บ้านมากกว่าในช่วงคนไปเที่ยวกันมากๆ แบบนี้ จากคุณ : มือเก่าหัดขับ เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 12:07:35

ความคิดเห็นที่ 52 จากประสบการณ์คนใกล้ตัว ผู้หญิงจะเก็บเงินเก่งกว่าผู้ชายค่ะ เรามีเงินล้านแรกน่าจะตอน 32 ปีค่ะ ได้มาจากเงินเดือนของตัวเองทั้งหมดค่ะ เงินล้านแรกซื้อที่ดินที่ต่างจังหวัดเก็งกำไรจนได้เงินล้านที่สองกับสามใช้ซื้อบ้านไป กับแบ่งลงทุนในหุ้นค่ะ จากคุณ : Sinan เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 12:10:21

ความคิดเห็นที่ 53 ทำงานเก็บเงินเดือนละ 10,000 เอาไปลงทุน 6%ต่อปี แค่ 7 ปีก็ได้เงินล้านแล้วครับ อยู่ที่วินัยทางการเงินล้วนๆ จากคุณ : หมึกสด เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 16:36:22

ความคิดเห็นที่ 54 เงินล้าน.....มันแปลกดี คนไม่เคยมี ก็อยากมีบ้าง...ทำทุกอย่างเพื่อให้มี...เราก็เป็นเช่นนั้น พอหาได้แล้ว ทำไงล่ะ...ได้ 1ล้านแรกมาแล้ว มีบ้าน มีรถ..สำเร็จ ...พรุ่งนี้ ตายเลยดีไม๊ หมดภาระแล้ว...555  เราเคยถามตัวเอง ปีผ่านๆๆไป 1ล้านแรก เฉยเสียแล้ว ทำต่อไป 2ล้าน..3ล้าน... อ้าว ไหนบอก จับเงินล้านได้ ..จะมีสุขชั่วกัลป์ แล้วไง มี 2-3-4-5-6 ล้านแล้ว ก็ ยังหายใจเหมือนเดิม...ห่างปีไป ก็ อ้วนขึ้น..55 สังขารเริ่มเสื่อม..555 ...เงินช่วยซื้อ ชีวิตอมะตะไม่ได้ ว่ะ หยุดทำงานไป 6ปี เที่ยวและกิน อย่างเดียว จนรู้สึกว่า ชีวิตมันจะไร้สาระไปแล้ว กลับมาทำงานใหม่ เริ่มต้นจากทุน แสนกว่าบาทในตลาดหุ้น เพราะมันเล่นแค่นั้น จากการลองดี ไปเจ๊ง FOREX ไปล้านกว่าบาท ทำงานในตลาดหุ้นไป จะ10ปีแล้ว  คุมเงินวิ่งเล่นในตลาดลักทรัพย์เกือบ 100ล้านบาท  ไม่เห็นจะเป็นไร ..ทุกเช้าก็ยังหายใจเหมือนเดิม...ไม่ต่างจาก 10ปีก่อน แต่สมองและความคิด ห่างจาก 10ปีก่อนอย่างชัดเจน ...การทำงาน มันดีอย่างนี้เอง ...งานที่ชอบ ดีกว่า งานที่เร่งหาเงินมากนัก เด็กรุ่นใหม่ ใจร้อน จะเอาเงินล้านเร็วๆๆ...555...ได้แล้ว จะเอาไปทำอะไร ...ที่อยากได้เพราะ...อยาก...อยากไปหมด จะซื้อโน่นซื้อนี่ ควรจะเริ่มต้นจากความรู้ความสามารถซะก่อน ที่ อยาก..อยากไปซะหมด ความรู้ ความสามารถ...มันจะสร้างเงินล้านได้แน่นอน เราก็ทำมาแล้ว...สำเร็จด้วย กับชีวิตคนที่ ไม่มีพ่อแม่ มาควักทุนให้ มีบ้านที่เป็นของคนอื่นซุกหัวนอนแค่มุมเล็กๆๆ ...ที่เป็นจุดเริ่มต้นของ บริษัทเล็กๆๆ ที่อยู่ข้างหลังเรื่องใหญ่มาหลายเรื่อง วิถีธุรกิจรุ่นใหม่ ขยันไม่พอ...ใช้สมองซะด้วย..จึงจะได้สัมผัส...เงินล้านนนS จากคุณ : Juj เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 19:44:24

ความคิดเห็นที่ 55 เคยคิดว่าอยากเกษียณตัวเองตอนอายุ 30 เหมือนกันครับ แต่บางทีจังหวะชีวิตมันไม่ได้จริงๆ มามีเงิน +ทรัพย์สินหลักล้าน (แบบปลอดหนี้ 100%) ตอนอายุ 33 ปี เงินที่หามาได้เกิดจากการเป็นเจ้าของกิจการ อยู่ในฐานะหุ้นส่วน + ลูกจ้าง ตอนนี้เริ่มลงทุนในหุ้นบ้างครับ เพิ่งจะศึกษา เป็นลูกจ้างจะมีเงินเก็บเป็นล้านได้เนี่ย ผมว่า ถ้าไม่ใช่อาชีพทำเงินจริงๆ ยากมากที่จะมีก่อนอายุ 30 ปี คนมากกว่าร้อยละ 90 เริ่มก่อหนี้สินหลักล้าน เริ่มจะซื้อบ้านซื้อรถกัน ในช่วงอายุ 25-35 ปี สิ่งสำคัญคือต้องจัดสรรเงินให้เป็นครับ ต้องเอามาลงทุนบ้าง เก็บอย่างเดียวไม่มีทางงอกเงยเป็นล้าน จากคุณ : Gethsemane เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 19:45:26

ความคิดเห็นที่ 56 คนเรามักสร้างหนี้ครับ เงินเดือนเยอะหน่อย ก็ต้องมีรถ แล้วเมื่อไหร่จะมีเงินล้าน โบนัสออกก็ต้องเที่ยวยุโรป แล้วเมื่อไหร่จะมีเงินล้าน เลื่อนตำแหน่ง เงินเดือนขึ้นกระโดด ก็เปลี่ยนรถใหม่ คันใหญ่กว่าเดิม  แล้วเมื่อไหร่จะมีเงินล้าน จากคุณ : protid เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 21:32:38

ความคิดเห็นที่ 57 ไม่เคยเชคตัวเองเหมือนกัน แต่ตอนนี้สามสาม มีเกินไปแล้ว จากงานที่ทำ บังเอิญงานที่ทำเงินเดือนสูง เลยเก็บไม่ยาก แต่อย่างที่หลายคนบอก หาว่ายาก รักษาหรือทำมันงอกเงย ยากกว่า สำคัญต้องมีวินัย จากคุณ : Agent Molder เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 23:32:24

ความคิดเห็นที่ 58 มาตอบช้าไปรึเปล่าคะ อายุ 32 เป็นพนักงานบริษัทเอกชน เรามีเงินล้านก่อน 30 ค่ะ น่าจะประมาณ 26-27 จำไม่ได้แล้ว ไม่มีภาระผ่อนอะไรเลย บ้าน รถ เงินที่หาได้มาเก็บอย่างเดียวค่ะ เราลงทุนบ้างตามโอกาสที่มี (LTF, RMF, ทองคำ, คอนโด, ฝากประจำปลอดภาษี, หุ้นปันผลตัวนึง) แต่เงินล้านที่ได้มา มาจากการทำงานประจำนะคะ (งานเราค่อนข้างสบาย ไม่ได้ตรากตรำอะไรมาก ถือว่าโชคดีมากค่ะ)  ไม่เกี่ยวกับที่เอาไปลงทุนแล้วงอกเงยมา เป้าหมายเราอยากมี 50 ล้าน ไม่รู้จะทำได้รึเปล่า จากคุณ : U&ME 6566 เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 00:11:03

ความคิดเห็นที่ 59 หลังจากไปเยี่ยมญาติ และตอบคำถามเพื่อนๆ ไปเด้วย กลับมา กทม. ไปซ้อมกอล์ฟ ก่อนนอน แวะเข้ามาอีกนิด แถมอีกหน่อยว่า - เงินนั้น จำเป็น แต่ไม่ได้สำคัญที่สุด (จริงดังเพื่อนๆ หลายๆ ท่านว่าไว้) - การมีเงินล้าน หรือ หลายๆ ล้าน และสามารถทำให้งอกเงยด้วยได้ สิ่งที่ตามมาก็คือ "ความมีอิสระภาพทางการเงิน" ไม่มีใครมาสั่งงานสั่งการ อะไรเราได้ ไม่มีนายอย่างแท้จริง (ทำงานส่วนตัว ก็ต้องเอาใจลูกค้าใน ระดับหนึ่ง) - แต่ สิ่งที่ดีที่สุดคือ นอกจากความมีอิสระภาพทางการเงินแล้ว ยังควรใช้ ความรู้ความสามารถ สร้างงาน สร้างเงิน สร้างมูลค่าเพิ่มขึ้นมาได้ มูลค่า เพิ่มนี้เองเป็นที่มาของ "ภาษี" ที่ใช้พัฒนาชาติต่อไปครับ หมายเหตุ แล้วผมขอคืนภาษีไป แค่ไม่กี่แสนบาท (แม้คืนแล้ว ยังเสียอีกหลายแสน จากปันผลของหุ้น ทำไม่ได้สักที งึ่ม...) จากคุณ : มือเก่าหัดขับ เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 00:32:21

ความคิดเห็นที่ 60 ชื่นชมอ่ะ จากคุณ : angelzpuu เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 21:04:47

ความคิดเห็นที่ 61 ก้มหน้าก้มตาทำงานไปเรื่อยๆ แบ่งเงินเก็บซื้อกองทุนสะสมทุกเดือนไปเรื่อยๆ จนวันหนึ่ง มันมาของมันเองครับ อาจจะเริ่มหลังจากเริ่มทำ exel sheet ควบคุมรายรับรายจ่ายประจำเดือนด้วยครับ น่าจะตอน 30 กว่าครับ จากคุณ : kriengchai เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 11:47:09

ความคิดเห็นที่ 62 อายุ 25 มีแสนเดียวเอง ฮือๆ ... อยากมีเงินล้านตอน 28-29 อ่ะครับ T^T จากคุณ : มือใหม่สุดๆ เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 14:27:52