|
สวัสดีครับทุกท่าน
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (19 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังต่อข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐ รวมถึงยอดขายบ้านมือสองที่ร่วงลง และจำนวนคนว่างงานรายสัปดาห์ที่ลดลงน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวลง 68.65 จุด หรือ 0.53% ปิดที่ 12,964.10 จุด ดัชนี S&P 500 ลดลง 8.22 จุด หรือ 0.59% แตะที่ 1,376.92 จุด และดัชนี Nasdaq ร่วงลง 23.89 จุด หรือ 0.79% แตะที่ 3,007.56 จุด
ในช่วงแรกนั้น ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นขานรับความสำเร็จในการประมูลขายพันธบัตรของรัฐบาลสเปน โดยเมื่อช่วงเย็นวานนี้ตามเวลาไทย รัฐบาลสเปนสามารถระดมทุนด้วยการขายพันธบัตรอายุ 10 ปี และ 2 ปี เป็นวงเงินทั้งสิ้น 2.54 พันล้านยูโร (3.33 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของกรอบเป้าหมายที่วางไว้ที่ 1.5 - 2.5 พันล้านยูโร เนื่องจากนักลงทุนให้การตอบรับอย่างท่วมท้วน
ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ย หรือ อัตราผลตอบแทน สำหรับพันธบัตรอายุ 10 ปี อยู่ที่ 5.743% เพิ่มขึ้นจากระดับ 5.403% ในการประมูลครั้งก่อน ขณะที่ความต้องการซื้อพันธบัตรมากกว่าจำนวนที่นำออกประมูล หรือ bid-to-cover ratio อยู่ 2.4 เท่า สำหรับพันธบัตรอายุ 2 ปีนั้น อัตราผลตอบแทนลดลงมาอยู่ที่ 3.463% จาก 3.495% ในการประมูลเมื่อเดือนต.ค.ปีที่แล้ว ขณะที่สัดส่วน bid-to-cover ratio อยู่ที่ 3.3 เท่า
อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงในเวลาต่อมา เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลต่อข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐ หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 14 เม.ย. ลดลง 2,000 ราย มาอยู่ที่ 386,000 ราย ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ว่าจะลดลงมาอยู่ที่ 370,000 ราย
ขณะที่สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองเดือนมี.ค.ร่วงลง 2.6% มาอยู่ที่ระดับ 4.48 ล้านยูนิต ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่ายอดขายบ้านมือสองจะเพิ่มขึ้นแตะที่ 4.62 ล้านยูนิตในเดือนมี.ค. จากเดือนก.พ.ที่ 4.59 ล้านยูนิต
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากผลประกอบการที่อ่อนแอของแบงก์ ออฟ อเมริกา ธนาคารรายใหญ่อันดับ 2 ของสหรัฐ ซึ่งเปิดเผยว่าผลกำไรสุทธิในไตรมาสแรกอยู่ที่ 653 ล้านดอลลาร์ หรือ 3 เซนต์ต่อหุ้น ลดลงจาก 2.05 พันล้านดอลลาร์ หรือ 17 เซนต์ต่อหุ้นในปีที่แล้ว ซึ่งเป็นผลมาจากค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับหนี้
หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ พุ่งขึ้น 2.3% หลังจากมอร์แกน สแตนลีย์ ซึ่งเป็นวาณิชธนกิจรายใหญ่ของสหรัฐ เปิดเผยตัวเลขขาดทุน 119 ล้านดอลลาร์ หรือ 6 เซนต์ต่อหุ้น ในไตรมาสแรก เทียบกับที่ทำกำไรได้ 736 ล้านดอลลาร์ หรือ 50 เซนต์ต่อหุ้นในปีที่แล้ว ซึ่งเป็นผลมาจากค่าใช้จ่าย 2 พันล้านดอลลาร์ที่เกี่ยวกับหนี้ อย่างไรก็ดี ตัวเลขดังกล่าวยังดีกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ในวอลล์สตรีท
หุ้นแอปเปิล อิงค์ ร่วงลง 3.4% ขณะที่หุ้นอัลโค อิงค์ และหุ้นดูปองท์ ร่วงลงอย่างน้อย 1.2%
อย่างไรก็ตาม หุ้นอีเบย์ดีดตัวขึ้น 13% หุ้นไมโครซอฟท์พุ่งขึ้น 2.9% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาด
สัญญาน้ำมันดิบที่ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (19 เม.ย.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยว่ายอดขายบ้านมือสองเดือนมี.ค.ร่วงลงอย่างเหนือความคาดหมาย และจำนวนคนว่างงานรายสัปดาห์ที่ลดลงน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวทำให้เกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับทิศทางเศรษฐกิจสหรัฐ
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ที่ตลาด NYMEX ส่งมอบเดือนพ.ค.ลดลง 40 เซนต์ หรือ 0.39% ปิดที่ 102.27 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 103.21 - 101.67 ดอลลาร์
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอนส่งมอบเดือนมิ.ย.ขยับขึ้น 3 เซนต์ ปิดที่ 118.00 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 117.68 - 119.15 ดอลลาร์
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลงหลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 14 เม.ย. ลดลง 2,000 ราย มาอยู่ที่ 386,000 ราย ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ว่าจะลดลงมาอยู่ที่ 370,000 ราย และยอดขายบ้านมือสองเดือนมี.ค.ร่วงลง 2.6% มาอยู่ที่ระดับ 4.48 ล้านยูนิต ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่ายอดขายบ้านมือสองจะเพิ่มขึ้นแตะที่ 4.62 ล้านยูนิตในเดือนมี.ค. จากเดือนก.พ.ที่ 4.59 ล้านยูนิต
ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐได้บดบังปัจจัยบวกจากความสำเร็จในการประมูลพันธบัตรของรัฐบาลสเปนและฝรั่งเศส โดยเมื่อช่วงเย็นวานนี้ตามเวลาไทย รัฐบาลสเปนสามารถระดมทุนด้วยการขายพันธบัตรอายุ 10 ปี และ 2 ปี เป็นวงเงินทั้งสิ้น 2.54 พันล้านยูโร (3.33 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของกรอบเป้าหมายที่วางไว้ที่ 1.5 - 2.5 พันล้านยูโร
อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบ WTI ขยับลงเพียงเล็กน้อย เพราะในระหว่างวันตลาดได้รับแรงหนุนจากข่าวที่ว่า อิหร่านเตือนว่าอาจจะระงับการขายน้ำมันดิบให้กับกลุ่มประเทศสหภาพยุโรป (อียู) หากอียูไม่แสดงท่าทียืดหยุ่นต่ออิหร่าน ก่อนที่การประชุมว่าด้วยประเด็นนิวเคลียร์รอบที่ 2 จะมีขึ้นที่กรุงแบกแดดในวันที่ 23 พ.ค.นี้
นักวิเคราะห์หลายคนมองว่า การพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันดิบจะทำให้อิหร่านใช้เป็นข้ออ้างในการต่อรองเรื่องการคว่ำบาตร เพราะมาตรการคว่ำบาตรจะส่งผลให้อุปทานน้ำมันในตลาดโลกลดลงและจะยิ่งหนุนราคาน้ำมันให้สูงขึ้นอีก
ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐ ได้ประกาศแผนฉบับใหม่ในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งด้านการกำกับดูแลและกวาดล้างพฤติกรรมการปั่นราคาในตลาดน้ำมัน ซึ่งนับเป็นความเคลื่อนไหวครั้งล่าสุดของทำเนียบขาว เพื่อสกัดกั้นการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันเบนซิน
ภายใต้แผนการดังกล่าว ประธานาธิบดีโอบามาได้เสนอให้มีการเพิ่มบทลงโทษแก่ผู้ที่มีพฤติกรรมการปั่นราคาในตลาดน้ำมันล่วงหน้าเป็น 10 เท่า พร้อมกับเรียกร้องให้สภาคองเกรสผ่านร่างกฎหมายการเพิ่มงบประมาณการสนับสนุนคณะกรรมการกำกับดูแลการซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ล่วงหน้าของสหรัฐ (CFTC)
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (19 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนคาดการณ์ว่า ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนซึ่งทางการสหรัฐเปิดเผยครั้งล่าสุดเมื่อค่ำวานนี้ตามเวลา รวมถึงยอดขายบ้านมือสองที่ร่วงลงอย่างเหนือความคาดหมายนั้น อาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบที่ 3 (QE3)
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 1.8 ดอลลาร์ หรือ 0.1% ปิดที่ 1,641.4 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1650.5 - 1641.4 ดอลลาร์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค.ปิดที่ 31.779 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 29.20 เซนต์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนพ.ค.ลดลง 0.35 เซนต์ ปิดที่ 3.6275 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค.ร่วงลง 1.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,578 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย.พุ่งขึ้น 6.05 ดอลลาร์ ปิดที่ 663.30 ดอลลาร์/ออนซ์
ไมค์ ดาลีย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการาซื้อขายทองคำจากบริษัท PFGBEST ในเมืองชิคาโกกล่าวว่า สัญญาทองคำดีดตัวขึ้นเพราะได้แรงหนุนจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐอาจจะทำให้คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (เอฟโอเอ็มซี) ประกาศใช้มาตรการ QE3 เพื่อกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ สหรัฐเปิดเผยว่าจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 14 เม.ย. ลดลง 2,000 ราย มาอยู่ที่ 386,000 ราย ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ว่าจะลดลงมาอยู่ที่ 370,000 ราย ขณะที่ยอดขายบ้านมือสองเดือนมี.ค.ร่วงลง 2.6% มาอยู่ที่ระดับ 4.48 ล้านยูนิต ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่ายอดขายบ้านมือสองจะเพิ่มขึ้นแตะที่ 4.62 ล้านยูนิตในเดือนมี.ค. จากเดือนก.พ.ที่ 4.59 ล้านยูนิต
อย่างไรก็ตาม สัญญาทองคำขยับขึ้นเพียงเล็กน้อย เพราะตลาดได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ และจากข่าวลือที่สร้างความวิตกกังวลว่า ฝรั่งเศสอาจจะถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือ สำนักข่าวซินหัวรายงาน
สกุลเงินยูโรดีดตัวขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (19 เม.ย.) เพราะได้แรงหนุนจากข่าวความสำเร็จในการประมูลขายพันธบัตรของรัฐบาลสเปนและฝรั่งเศส และจากข่าวที่ว่ากองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) สามารถระดมทุนจากประเทศสมาชิกได้ทั้งสิ้น 3.20 แสนล้านดอลลาร์ เพื่อรับมืองกับวิกฤตหนี้สาธารณะในยุโรป
ค่าเงินยูโรดีดตัวขึ้น 0.10% แตะที่ 1.3133 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพุธที่ 1.3120 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์พุ่งขึ้น 0.20% แตะที่ 1.6052 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6020 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐดีดขึ้น 0.31% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 81.530 เยน จากระดับ 81.280 เยน และขยับลงเล็กน้อย 0.04% เมื่อเทีบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9153 ฟรังค์ จากระดับ 0.9157 ฟรังค์
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลง 0.25% แตะที่ 1.0330 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0356 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ร่วงลง 0.33% แตะที่ 0.8131 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8158 ดอลลาร์สหรัฐ
สกุลเงินยูโรดีดตัวขึ้น ขานรับข่าวที่ว่ารัฐบาลสเปนสามารถระดมทุนด้วยการขายพันธบัตรอายุ 10 ปี และ 2 ปี รวมกันได้ทั้งสิ้น 2.54 พันล้านยูโร (3.33 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของกรอบเป้าหมายที่วางไว้ที่ 1.5 - 2.5 พันล้านยูโร
ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ย หรือ อัตราผลตอบแทน สำหรับพันธบัตรอายุ 10 ปี อยู่ที่ 5.743% เพิ่มขึ้นจากระดับ 5.403% ในการประมูลครั้งก่อน ขณะที่ความต้องการซื้อพันธบัตรมากกว่าจำนวนที่นำออกประมูล หรือ bid-to-cover ratio อยู่ 2.4 เท่า สำหรับพันธบัตรอายุ 2 ปีนั้น อัตราผลตอบแทนลดลงมาอยู่ที่ 3.463% จาก 3.495% ในการประมูลเมื่อเดือนต.ค.ปีที่แล้ว ขณะที่สัดส่วน bid-to-cover ratio อยู่ที่ 3.3 เท่า
ส่วนรัฐบาลฝรั่งเศสสามารถขายพันธบัตรระยะกลางรวมกันได้ทั้งสิ้น 7.97 พันล้านยูโร ใกล้เคียงกับเป้าหมายสูงสุดที่วางไว้ที่ 7.0 - 8.0 พันล้านยูโร
ทั้งนี้ ฝรั่งเศสขายพันธบัตรอายุ 5 ปีซึ่งจะครบกำหนดไถ่ถอนในเดือนก.พ.2560 ได้ 2.7 พันล้านยูโร ที่อัตราผลตอบแทนเฉลี่ย 1.83% เพิ่มขึ้นจาก 1.78% ในการประมูลเมื่อวันที่ 15 มี.ค. และขายพันธบัตรอายุ 2 ปีซึ่งครบกำหนดไถ่ถอนในเดือนก.ย. 2557 ได้ 3.55 พันล้านยูโร และพันธบัตรอายุ 3 ปีที่จะครบกำหนดไถ่ถอนในเดือนเม.ย.2558 ได้ 1.73 พันล้านยูโร
นอกจากนี้ สกุลเงินยูโรยังได้แรงหนุนหลังจากไอเอ็มเอฟเปิดเผยว่า ยอดการจ่ายเงินสมทบจากประเทศสมาชิกที่สนับสนุนการเพิ่มศักยภาพด้านการปล่อยเงินกู้ของไอเอ็มเอฟ เพื่อรับมือกับวิกฤตหนี้สาธารณะในยุโรปนั้น มีอยู่ทั้งสิ้น 3.20 แสนล้านดอลลาร์
คริสติน ลาการ์ด ผู้อำนวยการไอเอ็มเอฟกล่าวว่า แม้ตัวเลขดังกล่าวอยู่ในระดับต่ำกว่าเป้าหมายที่วางไว้ที่ 4 แสนล้านดอลลาร์ แต่มีอีกหลายประเทศที่ประกาศว่าจะจ่ายเงินสมทบทุนให้กับไอเอ็มเอฟในการประชุมรอบครึ่งปีของไอเอ็มเอฟที่จะมีขึ้นในเร็วๆนี้ที่กรุงวอชิงตัน ซึ่งการประชุมครั้งนี้จะมุ่งเน้นเรื่องวิกฤตหนี้ยุโรปและผลกระทบที่จะมีต่อเศรษฐกิจทั่วโลก
สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน เงินปอนด์ และฟรังค์สวิส หลังจากทางการสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 14 เม.ย. ลดลง 2,000 ราย มาอยู่ที่ 386,000 ราย ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ว่าจะลดลงมาอยู่ที่ 370,000 ราย ขณะที่ยอดขายบ้านมือสองเดือนมี.ค.ร่วงลง 2.6% มาอยู่ที่ระดับ 4.48 ล้านยูนิต ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่ายอดขายบ้านมือสองจะเพิ่มขึ้นแตะที่ 4.62 ล้านยูนิตในเดือนมี.ค. จากเดือนก.พ.ที่ 4.59 ล้านยูนิต
จากคุณ |
:
ฮะ ว่าไงนะ
|
เขียนเมื่อ |
:
20 เม.ย. 55 08:12:37
|
|
|
|
|