ความคิดเห็นที่ 1 ผมดู PE และ โอกาสการทำกำไร ระยะยาว ความได้เปรียบทางการค้า ตัวไหนมั่นใจ ก็ลงเยอะ ตัวไหนความได้เปรียบทางการค้าน้อย ก็ใส่น้อยครับ ดูหนีสินด้วย แต่ผมก็ไม่รู้ว่าวิธีทำโอเคหรือเปล่า เล่นมาได้ ปี เดียว แต่ที่แน่ๆ คือ ตอนก่อน ดู PE อย่างเดียว ไม่ได้ซื้อซักตัว แถมซื้อผิดอีก ตัวไหนห่วย PE ก็น้อย จากคุณ : สิงโตทะเลทราย เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 23:52:22

ความคิดเห็นที่ 2 ผมไม่เคยดู P/BV เลย   เพราะผมไม่ได้อยากรู้ว่าผมลงทุนน้อยกว่าต้นทุนทำธุรกิจเดิมเท่าไหร่  เป็นเรื่องของอดีตมากกว่า แต่ผมอยากรู้อยากรู้ว่าผมจะได้กำไรเท่าไหร่มากกว่าต่างหาก ซึ่งถ้าธุรกิจทำกำไรได้ดี  และมีการเติบโต P/BV มักจะสูง  (แต่ต้องระวังว่าราคาก็อาจจะแพงด้วย)   ในความเป็นจริง P/BV น้อยกว่า 1 มักจะเป็นธุรกิจที่ทำกำไรได้น้อย  ตลาดถึงยอมรับราคาซื้อขายที่ต่ำกว่า bookvalue สรุปก็คือ ถ้า P/BV สูง  ผมจะตีความว่า  ธุรกิจนั้นมีการเติบโต ทำกำไรได้ดี หรือไม่ก็มีราคาแพงเกินไป ถ้า P/BV ต่ำ ผมก็จะต้องระวังว่าธุรกิจนั้นอาจจะทำกำไรได้ไม่ดีเท่าที่ควรหรือเปล่า อีกอย่าง P/BV ก็ขึ้นกับประเภทของธุรกิจด้วย ถ้าธุรกิจอยู่ในประเภท ขายบริการ   BV มักจะต่ำ  ดังนั้น P/BV มักจะค่อนข้างสูง ถ้าธุรกิจนั้นเป็นธุรกิจผลิตสินค้า  ซึ่งมีการสร้างโรงงาน BV มักจะมาก   ดังนั้น P/BV ก็จะค่อนข้างต่ำ แก้ไขเมื่อ 25 เม.ย. 55 00:06:28 แก้ไขเมื่อ 25 เม.ย. 55 00:01:26 จากคุณ : counsellor เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 23:54:23

ความคิดเห็นที่ 3 ความถูกต้อง มองที่คุณสมบัติแล้วจึงมองผลตอบแทน ความจริง มองที่ผลตอบแทนแล้วจึงมองคุณสมบัติ ความฝันซึ่งบางครั้งอาจเป็นจริง เราพบว่าหุ้นที่เราถือ มีทั้งคุณสมบัติและผลตอบแทนเข้าข่ายหุ้นมูลค่า จากคุณ : ทองเนื้อเก้า เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 23:57:54

ความคิดเห็นที่ 4 1 book value 2 par 3 กำไรต่อปี (งบปี   10  11) 4 RSI 5 พฤติกรรมหุ้น (ดูตัววิ่ง สะดุดตาตัวไหน เปิดดู 1-4) 6 ข่าวลือด้วย พี่ข้างๆ ให้ข่าวแม่น จะเป็นคนไม่ดูว่าต่างชาติซื้อหรือขาย ดูแรงตลาดอะค่ะ ซื้อไปเลย แก้ไขเมื่อ 25 เม.ย. 55 00:05:39 แก้ไขเมื่อ 25 เม.ย. 55 00:00:19 จากคุณ : มากี้จัง เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 23:58:55

ความคิดเห็นที่ 5 1. กำหนดอุตสาหกรรมหรือสายงานที่พอเข้าใจหรือศึกษาเองได้ง่ายๆ ก่อน ถ้าอันไหนที่สนใจแต่ยังไม่แน่ใจก็หยอดน้อยๆ เพื่อเป็นกรณีศึกษา 2. ต้องมีกำไรและปันผลทุกปี และถ้ากำไรโตทุกปีได้ก็ยิ่งดี 3. ดูราคาและสัดส่วน Marget share และนโยบายการปันผล 4. ดูข่าวหรือ story ย้อนหลังเท่าที่หาได้ และแนวทางในอนาคต 5. P/E, P/BV น้อยๆ 6. RoE, RoA เยอะๆ ที่คิดวางแผนไว้ก็ตามข้างบน แต่ตอนนี้ผมพึ่งเริ่มเล่นได้เดือนกว่าๆ ก็ยังค่อนข้างมั่วซั่วอยู่ ซื้อนู่นขายนี่ทดลองไปเรื่อย ไม่มีเข้าเนื้อ แต่ก็ไม่มีกำไรเช่นกัน XD จากคุณ : paee เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 55 00:08:33

ความคิดเห็นที่ 6 อ้อๆ ลืม share ของผม  แบบมีเงื่อนไข ปรับตามลักษณะของหุ้น P/E < 15 ถ้าเป็นหุ้นที่มี DCA  หรือ P/E < 10 ในกรณีหุ้นทั่วไป  หรือ P/E < 7 ถ้าเป็นหุ้น commodity %Div >5 ถ้าเป็นหุ้น growth หรือมี DCA หรือ >10 ถ้าเป็นหุ้นทั่วไปที่ไม่ได้โดดเด่นด้านใดด้านหนึ่ง   ROE > 15 ทุกกรณี  หรือ ROE > 12 ในกรณีที่เป็นหุ้นที่มีความน่าสนใจบางอย่าง P/BV ดูประกอบ  ไม่ได้ให้น้ำหนักมาก  ดูเป็นข้อควรระวัง      ถ้า P/BV ต่ำ  แปลว่า ธุรกิจทำกำไรได้น้อย  หรือ มีราคาถูก    ถ้า P/BV สูง แปลว่า แพง หรือ ทำกำไรได้ดีมีการเติบโตที่ดี สินทรัพย์หมุนเวียน / หนี้สินหมุนเวียน  อยู่ที่ประมาณ 1.5-2.5 หนี้สินหมุเวียน /ส่วนของผู้ถือหุ้น  < 1 จากคุณ : counsellor เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 55 00:36:38

ความคิดเห็นที่ 7 :D ได้รับความรู้เพิ่มเติมเยอะ เลย ขอบคุณครับ ที่แน่ๆ ผมอาจต้องปรับมุมมองในแง่ P/BV เสียใหม่ แต่เดิมมองว่าถ้าสูงของแพงตลอด (เพิ่งรู้ว่าแพง แสดงว่า กำไรดีก็เป็นได้) ...:D จากคุณ : Bnooky เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 55 09:36:16

ความคิดเห็นที่ 8 ดู SET100 เปล่า ดู  Volume ดู RSI ดู STO %K %D   สูง ต่ำ ต่ำ ๆ  ก็เข้าละ ครับ จากคุณ : ตาคนนั้น เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 55 10:26:29

ความคิดเห็นที่ 9 1. ปันผลย้อนหลัง ต่อเนื่องหรือไม่? 2. Revenue เติบโต หรือ ยอดสม่ำเสมอหรือไม่ 3. Revenue - EBIT = Expenses ดูว่า Expenses มีการควบคุมที่ดีหรือไม่? กิจการที่ดี ต้องมีกำไร คุมค่าใช้จ่ายได้ และปันผลดี .. ราคาหุ้น ไว้ดูกราฟเทียบกับกราฟตลาด และ Sector อีกทีครับ จากคุณ : กิ่งกัลปพฤกษ์ เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 55 12:53:51