เอาแนวไหนล่ะครับ จขกท
ผมออกแนวพื้นฐานนะครับ
ตัวนี้ปีนี้น่าจะ turn around ครับ ไทยคม 5 เต็มความจุแล้วรายได้คงประมาณเดิมที่ 80 ล้านเหรียญต่อปี(อาจจะบวกลบนิดหน่อย) ส่วน ipstar มีงานอยู่ 100 ล้านเหรียญต่อปีที่ความจุราวๆ 25% และจะ break even ที่ 28% ซึ่งก็ไม่น่าพลาด
ส่วนต้นทุน ถ้า ipstar มีรายได้มากขึ้น ส่วนที่เกินก็ต้องมาเสียสัมปทานเพิ่ม ถ้าไม่เพิ่มก็คงเท่าๆเดิม ค่าขายอุปกรณ์อาจจะเท่าเดิมหรือลดลง
ส่วนธุรกิจมือถือคงขาดทุนอีกตามเคย รอ write off ราวๆไตรมาส 3
ซึ่งงบครึ่งปีอาจจะกำไรแต่ไม่มากหรือขาดทุนเล็กน้อย แต่หลังจาก write off มือถือน่าจะ turn around เต็มตัว
ส่วนความจุที่เหลือของ ipstar จะขายได้หรือเปล่าก็ต้องขึ้นอยู่กับฝีมือคุณศุภจีซึ่งผมว่าแกเก่ง น่าจะหาได้เพิ่มขึ้น และถ้ายิ่ง deal กับจีนได้ราคาตรงนี้ถูกไปทุกราคา
อนาคตคือ ไทยคม 6 และ 7 ไม่รู้ pre-sale ไปถึงไหนแล้ว อายุสัมปทานก็เหลือไม่กี่ปี ถ้าpre-sale ไม่ดีขาดทุนบานล่ะครับ(ขออย่าให้เป็นอย่าง ipstar เลย)
ส่วน digital tv ไม่น่าจะมีผลในระยะสั้น เพราะคนคงไม่เปลี่ยนมาได้เร็วขนาดนั้น และหลายๆเจ้าลงทุนไปเยอะแล้ว ถึงแม้จะบีบให้ free tv มาทำได้ แต่พวก pay tv อาจจะยังไม่ลงมาเล่นจนกว่าจะเห็นทางคุ้มทุน ซึ่งประเทศไทยผมว่า 2-3 ปีอัพ
สรุปว่าปีนี้กำไรค่อนข้างแน่ แต่ถ้าหาลูกค้าเพิ่มไม่ได้ราคาตรงนี้ดูจะแพงไปนิด เพราะเราต้องให้ premium เผื่อในส่วนของไทยคม 6 กับ 7 ที่ไม่รู้อนาคตแน่นอนด้วย
ที่ผมเข้าใจประมาณนี้นะ
จากคุณ |
:
เขียนบน iPad (nasunap)
|
เขียนเมื่อ |
:
25 เม.ย. 55 19:59:50
|
|
|
|