ความคิดเห็นที่ 1 ก็ซื้อตอนราคามันต่ำๆเช่นตอนเกิดวิกฤติ จากนั้นก็ถือยิงยาวไป 3 เดือน 6 เดือน 1 ปี ว่ากัน port สวยๆแบบนั้นเค้าไม่ได้สร้างกันวันสองวันนะครับ ต้องใช้เวลา อดทน จากคุณ : Omkoy เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 55 14:33:42

ความคิดเห็นที่ 2 คนที่โชว์พอร์ตราคาหุ้นต่ำกว่าตลาดมากๆ  เกือบทุกคน คือ ซื้อตอนที่ราคาต่ำมากๆ  แล้วถือยาวๆ   ไม่ใช่  คนที่ทำให้ต้นทุนที่ซื้อต่ำลงแต่อย่างใด   และไม่ใช่คนที่ซื้อเฉลี่ยตอนขาลงด้วย เพราะคนที่มีต้นทุนต่ำมากๆจริงๆ  จนถึงไม่มีต้นทุนเลย จะไม่มีทางที่จะมีพอร์ตราคาต่ำๆมาโชว์ให้ดู  อย่างเด็ดขาด เพราะคนกลุ่มนี้ จะมีการปรับพอร์ตเอา realized gain ออกมา   จากนั้น ก็จะมีการซื้อคืนในราคาที่ต่ำกว่าที่ขายไป ซึ่งเป็นไปได้ว่า จะสูงกว่าในการซื้อครั้งแรก  ผ่านไปหลายสิบปี ราคาซื้อก็ยิ่งสูงขึ้น เช่น  ซื้อ BBL พาร์ 10 บาท ขาย 220  (กำไร 200) ซื้อคืน 25 บาท  ขาย 75  (กำไร 250) ซื้อคืน 50 บาท  ขาย 100 (กำไร 300) ซื้อคืน 70 บาท  ขาย 140  (กำไร 370) ซื้อคืน 100 บาท ขาย 160  (กำไร 430) ซื้อคืน 130 บาท ขาย 180  (กำไร 480)   สมมุติว่า ซื้อคืนอีกครั้ง ที่ราคา 160 บาท และยังไม่ขาย แต่จริงๆแล้ว เขามีกำไรจริง ตั้ง 480 + cash 20 = 500 แต่อีกคนที่ซื้อที่ราคา 10 บาท และยังไม่ขาย โชว์พอร์ตราคาต่ำสุดๆได้  แต่จริงๆเป็นแค่ unrealized gain 170 จากคุณ : คุณแม่ลูกสอง (P.Stone) เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 55 15:10:06

ความคิดเห็นที่ 3 ตัวอย่างที่ยกมาให้ดู เป็นราคาที่มีการซื้อขายกันได้จริงในอดีต และซื้อหุ้นคืนในจำนวนหุ้นเท่ากับการลงทุนครั้งแรก หากซื้อด้วยจำนวนเงินทุน + กำไร จะซื้อหุ้นได้มากขึ้นหลายเท่า ตัวอย่าง... tcap เคยขายหมดที่ 480 จำนวน 300 หุ้น   และเคยซื้อคืนที่ 3 บาท  แต่ค่าคอมขั้นต่ำต้องซื้อ 25000 เลยซื้อตัวเลขกลมๆ 10000 หุ้น จากคุณ : คุณแม่ลูกสอง (P.Stone) เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 55 15:19:44

ความคิดเห็นที่ 4 อ้าว ลืมไป  หลานเขาถามวิธีที่จะทำให้ต้นทุนลดต่ำ ก็มี 2 วิธี ที่เด่นๆ  แต่ต้องมีความชำนาญพอ 1  เล่นรอบ. กำไรก็ขายซะ แล้วรอซื้อคืนที่ราคาต่ำกว่าที่ขายไป สมมุติซื้อ 30 บาท ขาย 60 บาท ซื้อคืน 50  ต้นทุนก็เหลือ 20 มีหุ้นมากมาย พวกเจ้ามือกินรวบ หมุนรอบเดียวต้นทุนไม่เหลือแล้ว 2  หากซื้อติดดอย short against port ซะ ลงมาซื้อคืน จากคุณ : คุณแม่ลูกสอง (P.Stone) เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 55 15:29:52

ความคิดเห็นที่ 5 การที่จะให้ราคาทุนต่ำกว่าราคาตลาด ก็ต้องรอจังหวะ ซื้อหุ้นพื้นฐานดี มีจ่ายเงินปันผล จะทะยอยซื้อ ก็ได้ แต่ที่สำคัญ ต้องเลือกถูกตัว และถือยาว หุ้นส่วนใหญ่ ที่พื้นฐานดี ราคาจะขึ้นไปเกิน +30 % จะต้องถือไว้ อย่างน้อย 6 เดือนขึ้นไป เว้นแต่ไปซื้อหุ้นปั่นแปะ ที่มีขาใหญ่หรือเจ้ามือเข้ามาลาก หรือซื้อหุ้นที่กำลังจะมีผลประกอบการเพิ่มขึ้นมาก ถ้าซื้อถูกจังหวะ ก็อาจจะบวกได้มากกว่า 30% ในเวลา 2-3 เดือน ตัวอย่าง CSL ผมซื้อมาครบ 2 ปีพอดี คิดจากราคาทุน +86.09 % คิดจากราคาทุน รวมเงินปันผล +114.48 % ถ้าดูในพอร์ตโบรกเกอร์ +49.38 % เพราะหลังสุด มีซื้อเพิ่ม แล้วออกขายไปในราคาสูงกว่า คิดจากราคาทุน รวมเงินปันผล 2.40 บาท ถ้ายังจ่ายเงินปันผลเท่าเดิม คือ ปีละ 0.54 บาท (จ่ายปีละ 2 ครั้ง) จะเป็นอัตราเงินปันผล ปีละ 22.50 % ก่อนหน้านี้ ราคาเคยขึ้นไปถึง  6.80 บาท ผมก็ไม่ขายนะครับ จากคุณ : สาระขัน เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 55 16:04:59

ความคิดเห็นที่ 6 ตามที่คุณแม่ลูกสองว่าเลยครับ (ขอโทษนะครับกิ๊ฟหมด) ต้นทุนที่โชว์ในพอร์ตบางทีก็ไม่สะท้อนต้นทุนจริงครับ เพิ่มอีกนิดนะครับ หุ้นบางตัวที่เราต้องการถือจำนวนนึง ถ้าสามารถซื้อได้ที่ราคาต่ำ อาจซื้อมากกว่าจำนวนที่ต้องการถือจริง แล้วรอขายจำนวนส่วนเกินออกไปเมื่อราคาขึ้นมาระดับนึงครับ จำนวนที่ต้องการถือก็จะมีต้นทุนต่ำลงครับ ซึ่งกรณีนี้ควรแบ่งซื้อขายหลายๆไม้ครับ เช่น ต้องการ ถือ บ้านปู 1000 หุ้น ที่ราคา 550 บาท ซื้อจริง 1500-2000 หุ้น เมื่อราคา ขึ้นไประดับนึง สมมุติ 600 บาทก็ขาย ส่วนเกิน 500-1000 หุ้น ออกไป ก็จะลดต้นทุนจำนวนที่ถือไปอีกหุ้นละ 25-50 บาทครับ จากคุณ : tonmai08 เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 55 16:12:57

ความคิดเห็นที่ 7 PRANDA ผมเริ่มซื้อมา เมื่อ 8 เดือนที่แล้ว ราคาที่แสดงในพอร์ตเท่ากับ ราคาทุนรวมเงินปันผล ที่มีอยู่ ก็จะไม่ขายครับ ถือรับเงินปันผล ช่วงต่อไป คาดว่า ราคาคงขึ้นไปได้อีกครับ แต่ผมเน้นถือรับเงินปันผล แม้ราคาจะขึ้นไป ก็แสดงผลกำไร ถือว่า เป็นแค่ตัวเลข จะได้กำไรจริง ก็ต่อเมื่อขายหุ้นออกไป เพราะถ้าขายไป จะหาหุ้นที่มีอัตราเงินปันผลสูง ไม่ง่ายนักครับ อีกอย่างหนึ่ง ผลประกอบการล่าสุด มีกำไรเพิ่มขึ้นมาก จากคุณ : สาระขัน เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 55 16:24:07

ความคิดเห็นที่ 8 ทำได้....ถ้าแม่น.....ก้เหมือน  ลงทุน  1  บาท  ถ้าแทงหวย  ถูก 20  ครั้ง ล้านหนึ่ง เจ้ามือไม่พอจ่าย.....แต่ถ้าผิดล่ะ.......  มันก็ตรงกันข้ามน่ะซี.........   ใครเล่นหุ้นแล้วคิดว่าตัวเองจะเสีย......ไม่มีหรอก.....   คิดว่าตัวเองเก่งทั้งน้าน......ไม่งั้นคงไม่เล่นหรอก....ใช่ไหม ?  เอาเป็นว่า....มีอีกวิธีหนึ่ง.....สำหรับ  vi  (ไว  ไว) เล่นตรงกันข้ามไปเลย.......สมมติติดหุ้น  ptt  ........  ก็ไปเล่น dw  ของ  ptt  ฝั่งตรงข้าม...... พออีกข้างหนึ่งขึ้น.........อีกข้างหนึ่งก็ลง เล่นให้บาลานซ์กัน......พอเจ๊า.....แล้วขายทั้งคู่........    เป็นอันว่าไม่ติดหุ้น.........(คิดได้ไง  555)   ภาษามวยเขาว่า  ออกตัว  ประมาณนี้........   บอกเคล็ดให้น่ะเนี่ย.....สำหรับคนที่ชอบติด.......  ต่อไปตะโกนได้เลยว่า......ตรูไม่ติดหุ้นแล้วเว๊ย....เฮ๊ย....... จากคุณ : notsugar เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 55 16:42:56

ความคิดเห็นที่ 9 เขาซื้อตอน 400 จุดครับ ไม่ใช่ว่ามาซื้อตอน 1,200 แล้วมาซื้อถัวลง จากคุณ : หมึกสด เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 55 17:15:56

ความคิดเห็นที่ 10 จับมาเล่นรอบ  หรือ sap  แต่เทคนิคต้องแม่นพอสมควร จากคุณ : THE FINAL 2 เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 55 18:03:21

ความคิดเห็นที่ 11 photoshop ครับ ถ้าต้องการตัวเลขต่ำๆ เวลาเอาพอร์ตมาโชว์ ช่วยได้มาก แต่ถ้าจะเอาต้นทุนต่ำ ก็ต้องซื้อตอนต่ำๆครับ ต้องรอ วิกฤติเลยครับถึงจะต่ำจริง เมื่อก่อนผมเคยคิดรอให้มันต่ำๆค่อยซื้อ แต่ก็เลยไม่ได้ซื้อ ตอนนี้ไม่สนครับ ว่าได้ต้นทุนเท่าไร กำไรกี่เด้ง ดูแค่เงินกำไรจริงๆเวลาขาย คุ้มกับที่(เสี่ยง)ซื้อก็พอ ถ้าถึง 10% ก็พอใจแล้ว รอขายขายถ้าทำท่าจะลงมาต่ำกว่านั้น ถ้าไม่ต่ำก็รอดูมันไปเรื่อยๆ จากคุณ : กฤษณะ เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 55 21:45:38