ความคิดเห็นที่ 1 สถานะปัจจุบันของกรีซย่ำแย่มาก คำว่าย่ำแย่ในที่นี้หากเราลองย้อนไปถึงช่วงต้มยำกุ้งที่ว่าเราลำบากมากแล้ว เจอกรีซเจอสเปนเข้าให้ คงจะพูดกันไม่ออกบอกกันไม่ถูก เพราะที่นั่นแย่กว่าเรามาก คำว่าเมืองที่แสนสุดจะอลังการ และดูประหนึ่งไฮโซมาตลอด บัดนี้กลับกลายเป็นเมืองที่หมองคล้ำดำทะมึน เพราะในบางเมืองถึงกับเป็นอัมพาตไปแล้ว คนไม่มีปัญญาจะเติมน้ำมันรถ คนว่างงานจำนวนมาก เงินที่ได้ไม่พอยาไส้ แถมยังต้องเจอรัดเข็มขัดและภาษีขูดเลือดเข้าไปอีก ผมได้แต่ขอให้ทุกท่านเข้าใจปัญหาของยุโรปบ้าง บางคนก็เที่ยวด่าเขาว่าประเทศจะเจ๊งอยู่แล้วยังไม่เจียมตัว หรือประเทศย่ำแย่ไม่ยอมสำนึก ... ปัญหาดังกล่าวมันถูกแอบแฝงมาด้วยการกู้เงินลับๆตั้งแต่ปี 2544 และไม่มีการเปิดเผย หลังจากนั้นภาคการเงินจึงประสบปัญหา รวมถึงการใช้จ่ายที่รัฐบาลทำอย่างเกินตัวเกินไป หนี้สินต่อ GDP สูง และการขาดดุลงบประมาณ รวมถึงเจอพิษซัพไพรม์ช่วงปี 2008 ไปด้วยแล้วปัญหาทั้งหมดจึงพุพองและพังพินาศ คนกรีซเองก็ต้องรับชะตากรรมเป็นผู้ชดใช้กรรมเหล่านั้นไป งานหายาก เงินเดือนได้น้อยลง โดนเก็บภาษีเพิ่มขึ้นอีก แล้วจะเอาอะไรกิน? ท้ายที่สุดก็เป็นปัญหาการประท้วงที่รุนแรง แน่นอนกับบางประเทศที่ไม่อยากช่วยเหลือยูโร ประชาชนต้องรัดเข็มขัด แล้วเอาเงินภาษีของชาวฝรั่งเศส ชาวเยอรมันไปช่วยเหลือประเทศเหล่านั้น ถ้าคุณเป็นพวกเขาบ้างจะรู้สึกอยากช่วยหรือเปล่า? รัฐบาลเอาเงินในกระเป๋าคุณไปแล้วบอกว่าขอยืมไปก่อนนะ ให้เพื่อนยืมแป๊บนึง แล้วยิ่งเฉพาะกับการที่หนี้เหล่านั้น จะต้องถูก haircut ออกไป หรือยืดระยะเวลาชำระ ท้ายที่สุดคุณอยากให้เขายืมเงินหรือเปล่า? ใจเขาใจเรา ถ้าเราไปตกอยู่ในสภาพนั้นเราคงจะมีความรู้สึกเป็นอีกฟีลลิ่งนึง ... จากคุณ : venezier เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 01:51:09

ความคิดเห็นที่ 2 หลังจากบ่นไปเรียบร้อย ... มาเข้าเรื่องของเรากันบ้างดีกว่า กับสถานการณ์ล่าสุดของกรีซตามข่าวในบลูมเบิร์กระบุว่า ดัชนีกรีซกำลังลงไปสู่ระดับต่ำสุดในรอบกว่า 20 ปี ซึ่งก็คือตั้งแต่ปี 1992 เลยทีเดียว ดัชนีกรีซอย่างที่เห็นตามภาพคือ ณ วันนี้ก็ยังคงลงมาทำ New Low อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดอยู่ที่ 555.42 จุด ต่ำที่สุดของวันอยู่ที่ 552.58 จุด และเช่นกันในรอบ 52 สัปดาห์ก็ต่ำที่สุดอยู่ที่ 552.58 จุดคือวันนี้นั่นแหละ ในขณะที่จุดบูมสุดๆในรอบ 5 ปีสุดท้ายดัชนีอยู่ที่ระดับ 5,334.50 จุด เมื่อวันที่ 31 ตุลาคมปี 2007 สิริระยะเวลาจากจุดนั้นมาวันนี้ประมาณ 4 ปี 6 เดือน ดัชนีร่วงลงมาแล้วกว่า 89.58% อารมณ์คล้ายๆไทยช่วง 1,700 จุด ลงมา 200 กว่าจุดในเวลาประมาณ 3 ปีกว่าๆ อารมณ์คล้ายๆกัน แต่ความสิ้นหวังและความหวังแตกต่างกัน ถ้าจะใช้ไทยเป็นตัวเปรียบเทียบ ช่วงยำกุ้ง IMF เสนอความช่วยเหลือให้เรามาทั้งหมด 14.5 พันล้านเหรียญ หรือราวๆ 6 แสนล้านบาทเมื่อเทียบกับค่าเงินบาท/ดอลลาร์ในช่วงนั้นแถวๆ 40 บาท (แต่เราใช้จริงๆไม่ถึง) ส่วนกรีซ ได้รับการอนุมัติโครงการช่วยเหลือระยะเวลา 3 ปี ในวันที่ 2 พฤษภาคม 2010 รวมเป็นจำนวนเงินช่วยเหลือทั้งสิ้น กว่า 110 พันล้านยูโร (140 พันล้านเหรียญ) หรือราวๆ 4.2 ล้านล้านบาท (มากกว่าไทยถึง 7 เท่า) ปัจจุบันความช่วยเหลือของกรีซที่ได้รับเงินรวมทั้งหมด 6 งวดที่ผ่านมาได้เงินมาแล้ว 73 พันล้านยูโร แต่ก็ยังไร้ผลในการกระตุ้นเศรษฐกิจให้ดีขึ้น (อันที่จริงมันแย่ลงและแย่ลงเรื่อยๆมากกว่า) สัดส่วนหนี้สาธารณะของกรีซปัจจุบันอยู่ที่ 165% ของ GDP (ถ้า ณ วันนี้ก็ 170%+) และงบประมาณขาดดุลในปีที่แล้วสูงถึง 19.5 พันล้านยูโร (9.1% ของ GDP) ข้อมูลเพิ่มเติม - http://www.bbc.co.uk/news/business-13798000 - http://ec.europa.eu/economy_finance/eu_borrower/greek_loan_facility/index_en.htm - http://sinthornvista.com/wp-content/uploads/2012/05/Greece1.pdf - http://sinthornvista.com/wp-content/uploads/2012/05/Greece2.pdf จากคุณ : venezier เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 01:52:13

ความคิดเห็นที่ 3 มาดูสิ่งที่น่าสนใจและกำลังเป็นประเด็นการพูดคุยของสังคมชาวโลกในเวลานี้กันบ้างกับสิ่งที่ทุกๆคนกลัวกันว่า ธนาคารในกรีซกำลังจะล้มเนื่องจากคนแห่ถอนเงินและอาจกระทบกับสภาพคล่อง ณ วันนี้กลุ่มธนาคารก็ร่วงกระจุยกระจายจากที่มันร่วงอยู่แล้ววันนี้ก็ร่วงหนักกันต่อไป ซึ่งลดลงอย่างรุนแรงมากถึง 7% แล้วจะเป็นยังไงต่อไป? ธนาคารกรีซจะรอดหรือไม่? คำถามชวนปวดหัวเพราะผมเองก็ไม่รู้ว่าจะรอดหรือเปล่า แน่นอนถ้าดูจากสิ่งที่กำลังเห็นในปัจจุบันบอกตรงๆครับ “ไม่รอด” แต่สิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตเราคาดเดาไม่ได้ และภาครัฐหรือ ECB EFSF ก็คงจะพยายามช่วยเหลือไม่ให้มีธนาคารล้มได้  ดังนั้นส่วนนี้มันเดายาก เพราะมันมีวิธีการแก้ไขตามระบบของมันอยู่ เว้นเสียแต่ว่าจะไม่มีการช่วยเหลือก็คงต้อง “Say A” (เอ – วัง) สำหรับมาตรการแก้ไขปัญหาในภาคธนาคารที่ได้ผลมากที่สุดและนิยมใช้กันทุกๆครั้งคือมาตรการ “Capital Injection” หรือการอัดฉีดสภาพคล่องโดยตรงให้กับสถาบันการเงินหรือตลาดเงิน ถ้าถามว่ากรีซจะทำได้มั้ย? ลองคิดดูว่าทุกวันนี้เงินเดือนจ่ายข้าราชการยังต้องเป็นเงินช่วยเหลือจาก ECB EFSF IMF นับประสาอะไรจะเอาเงินไปใช้มาตรการเจ๊กชง เจ๊กชั่นอะไรนั่น มาตรการดังกล่าวก็คล้ายๆ QE แต่เป็นการอัดฉีดให้กับสถาบันการเงิน เพราะฉะนั้นเงินจำนวนดังกล่าวก็แค่เอาไว้ยื้ออายุ เพื่อไม่ให้แบงค์เน่าตาย แต่ยกเว้นซะว่าไม่มีการช่วยเหลือใดๆอีกแล้ว และกรีซออกจากยูโร ผมขอไม่อธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการ Capital Injection ก็แล้วกัน เพราะอธิบายไปก็คงจะ งง เอาเป็นว่ามันคือการเอาเงินของรัฐบาลหรือธนาคารไปยัดเอาไว้ในธนาคารที่มีปัญหา เพื่อให้ธนาคารเหล่านั้นมีเงินสดเพียงพอจะแก้ไขปัญหาได้ ว่ากันง่ายๆแค่นั้นแหละ จากคุณ : venezier เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 01:53:36

ความคิดเห็นที่ 4 เริ่มดูกันที่ธนาคารแรกธนาคารที่วันนี้ราคาร่วงหนักที่สุดกว่า -13.48% ราคาหุ้นปัจจุบันอยู่ที่ 1.22 ยูโร จากอดีตที่เคยขึ้นไปถึง 35 ยูโร นั่นก็คือ National Bank of Greece SA เป็นธนาคารที่มีสินทรัพย์มากที่สุดในกรีซ คือราว 106,869 ล้านยูโร หรือราว 4.2 ล้านล้านบาท เยอะมิใช่เล่น ... แต่เดี๋ยวก่อน เรามีโปรโมชั่นลดราคาให้คุณ ด้วยหนี้สินสุดอลังการของ National Bank of Greece SA ที่สูงถึง 107,123 ล้านยูโร ก็เอาเป็นว่า ถ้าอยู่ในตลาดหุ้นไทยคงโดนแปะเครื่องหมาย SP ไปเรียบร้อยแล้วเพราะส่วนของผู้ถือหุ้นต่ำกว่าศูนย์และติดลบ แต่พอดีที่นั่นคือกรีซไม่ใช่ไทยอ่ะนะ ในด้านของจำนวนเงินรับฝากมีจำนวนเงินทั้งสิ้น 59,518 ล้านยูโร ซึ่งเป็นส่วนที่อยู่ในหนี้สิน แต่เงินสดหรือรายการเทียบเท่าเงินสด (ก็พวกอะไรที่แปลงเป็นเงินสดได้ไวๆ) มีอยู่แค่ 4,082 ล้านยูโร ... โถ จะพอไหมเนี่ย นี่ยังไม่นับว่าจะต้องเจอผลประกอบการที่ขาดทุนต่ออีก การแห่ถอนเงินออกจากธนาคาร และธนาคารจะเอาสินทรัพย์ไปเร่ขายง่ายๆก็ไม่ได้ โดยเฉพาะสินทรัพย์ประเภทตราสารหนี้โดยเฉพาะพันธบัตรกรีซ (ใครจะไปอยากซื้อ) ดังนั้นไม่ว่าจะอย่างไรก็ตามว่ากันง่ายๆตามฐานะทางการเงินในปัจจุบันก็คือกำลังจะเจ๊งนั่นแหละ แค่รอมาตรการเจ๊กชั่นมาช่วยเท่านั้นเอง จากคุณ : venezier เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 01:54:32

ความคิดเห็นที่ 5 มาดูกันธนาคารที่มีสินทรัพย์มากที่สุดอันดับสองคือ EFG Eurobank Ergasias SA แบงค์นี้มีสินทรัพย์75,947 ล้านยูโร ในขณะที่หนี้สิน 75,947 ล้านยูโร เงินรับฝาก 32,459 ล้านยูโร และเงินสดหรือรายการเทียบเท่ามีแค่ 3,286 ล้านยูโร ดูแล้วเหมือนจะดีที่ยังพอมีเงินและมีสินทรัพย์มากกว่าหนี้สิน ... แต่พอไปดูเอาเข้าจริงๆผลประกอบการและงบก็เน่าอยู่ดี จากคุณ : venezier เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 01:55:07

ความคิดเห็นที่ 6 Alpha Bank AE ราคาหุ้นวันนี้ร่วงลงกว่า -4.31% มีสินทรัพย์อยู่ที่ 59,148 ล้านยูโร ส่วนหนี้สิน 57,181 ล้านยูโร เงินรับฝาก 28,292 ล้านยูโร ขณะที่เงินสดมีแค่ 2,103 ล้านยูโร ก็ต้องดูกันต่อไปว่าจะอะไรยังไง ที่แน่ๆคือราคาหุ้นกลุ่มธนาคารในกรีซราคาอยู่ที่หลักศูนย์กันซะส่วนใหญ่ ถ้าบ้านเราเรียกหุ้นไม่เต็มบาทว่างั้น อย่าลืมว่าส่วนของหนี้สินที่ดูเยอะมันมาจากเงินรับฝากรวมอยู่ในส่วนของหนี้สิน แต่สภาพคล่องต่างหากที่ทำให้ธนาคารในเวลานี้เป็นปัญหาเพราะการที่ธนาคารมันเกิดอาการ Run-out of cash ย่อมทำให้เกิดปัญหาตามมาหลายประการ ไม่ว่าจะให้ทำธุรกรรมถอนเงินไม่ได้ เพราะไม่มีเงินจะให้ และพวกค่าใช้จ่าย รวมถึงเงินเดือนพนักงาน ค่าปรับปรุง ดูแลรักษา และค่าใช้จ่ายอื่นๆที่ต้องจ่ายกันแบบรายวันรายเดือน สิ่งเหล่านี้ที่ยิ่งทำให้ปัญหามันหนักหนาสาหัส สภาพคล่องไม่มี ก็เหมือนกับต้นไม้ขาดน้ำ สุดท้ายก็ตาย (หรือไม่ก็รอเจ๊กชั่น) จากคุณ : venezier เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 01:55:52

ความคิดเห็นที่ 7 ธนาคาร Piraeus Bank SA สินทรัพย์ 49,352 ล้านยูโร หนี้สิน 51,292 ล้านยูโร เงินรับฝาก 21,605 ล้านยูโร และเงินสด 2,552 ล้านยูโร ก็ไม่ได้แตกต่างจากธนาคารที่ใกล้ตาย สภาพปัจจุบันคือย่ำแย่มาก งบก็เละ เห้ออออ ... จากคุณ : venezier เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 01:56:59

ความคิดเห็นที่ 8 ธนาคารสุดท้ายในหมวด Commercial Bank ก็คือ Bank of Cyprus มีสินทรัพย์ 37,475 ล้านยูโร หนี้สิน 35,046 ล้านยูโร และเงินรับฝาก 29,654 ล้านยูโร ส่วนเงินสดมีแค่ 1,375 ล้านยูโร จากคุณ : venezier เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 01:57:29

ความคิดเห็นที่ 9 การแห่ถอนเงินออกจากธนาคาร เป็นผลมาจากอะไร? สิ่งแรกที่คนต้องถอนเงินออกมาจากธนาคารไม่เห็นจะยาก “ไม่มีจะกิน” ก็ต้องเอาเงินเก็บนี่แหละออกมากินมาใช้ อีกประการที่สำคัญคือความกังวลว่าหากกรีซออกจากยูโรจะต้องกลับไปใช้ค่าเงินตัวเอง ซึ่งนั่นจะทำให้กรีซเกิดอัตราเงินเฟ้อที่รุนแรงตามมา อีกทั้งเงินสกุลของกรีซด้อยค่า ดังนั้นทางรอดอีกทางที่คนกรีซพึงจะทำได้ คือถือเงินยูโรเอาไว้ (หรือไม่ก็ดอลลาร์) เพื่อรักษาความมั่งคั่งของตนเองเอาไว้หากประกาศออกจากยูโรเมื่อไหร่ ความวุ่นวายคงตามมา ล่าสุดข่าวเมื่อสักครู่ทางนายกรัฐมนตรีกรีซได้ระบุว่ามีการแห่ถอนเงินในกรีซแล้วมากกว่า 700 ล้านยูโร และสภาพธนาคารของกรีซ กำลังอยู่ในภาวะน่าเป็นห่วงซึ่งก็ทำให้ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงทันที เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ทองคำก็ราคาอ่อนตัวลงไป ถ้าใครเทรดทองเมื่อช่วงสามสี่ทุ่มที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าราคาทองคำมีการวิ่งขึ้นไปอย่างรวดเร็วแล้วก็ถูกทุบลงมาอย่างรุนแรง ก็ด้วยประการฉะนี้เอง ไปซื้อหุ้นกรีซดีมั้ย? คำถามแบบนี้เจอบ่อยมาก แต่พวกท่านที่จะซื้อรู้กันแล้วหรือยังว่าจะซื้ออะไรดี? ซื้อไปแล้วมันไปเจ๊งจะทำยังไง? แบบปี 40 เราเจอปิด 56 สถาบันการเงิน แล้วบริษัทต่างๆเจ๊งเพียบบบบ จะทำกันยังไง? ในวิกฤตย่อมมีโอกาส แต่ในโอกาสเหล่านั้นมันก็แฝงด้วยวิกฤตเหมือนกัน ถ้าจะซื้อก็แนะนำแค่ว่าลองดูบริษัทที่มีทรัพย์สินเยอะๆ หนี้น้อยๆ ยิ่งมีทรัพย์สินในต่างประเทศเยอะๆยิ่งดี และถ้ามีหนี้นอกประเทศก็ต้องดูกันว่าสกุลอะไรยังไง จะได้รับผลกระทบไหมหากกรีซออกจากยูโร เพราะถ้าเขาถือหนี้ต่างประเทศแต่ไม่มีเงินต่างประเทศรองรับการใช้หนี้ ย่อมมีผลทำให้หนี้สูงขึ้นได้จากภัยอัตราแลกเปลี่ยน มีลักษณะการดำเนินงานที่ไม่กระทบต่อสภาวะเศรษฐกิจมากนัก (ไม่ได้โดน Impact พิษเศรษฐกิจอย่างจังๆว่างั้น) มีแนวโน้มฟื้นตัวได้ และมีพื้นฐานธุรกิจที่ดี ก็น่าสนใจมิใช่น้อย แต่ส่วนตัวกลับคิดว่าหุ้นดีๆไม่จำเป็นต้องมีที่กรีซ แต่อสังหาริมทรัพย์สวยๆแบบที่ซานโตรินีมีแค่ไม่กี่ที่ที่มีแบบนี้ เพราะงั้นส่วนตัวเชียร์ซื้อบ้านบนเกาะซานโตรินีมากกว่า :P สุดท้ายก็ขอให้ท่านทั้งหลายครองสติอยู่กับเนื้อกับตัว อะไรมันจะเกิดมันก็ต้องเกิด ถึงเวลาของมันมันก็มาเอง ถ้ายังไม่ถึงเวลาเดี๋ยวเค้าก็จะยื้อกันต่อไป กรีซ ยุโรป อเมริกาไม่ต้องไปเป็นห่วงมันหรอก ห่วงตัวเอง ห่วงพอร์ท ห่วงเงินตัวเอง กันดีกว่าจ้า ... ปล. อย่าลืมๆ http://www.facebook.com/SinthornVista จากคุณ : venezier เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 01:58:43

ความคิดเห็นที่ 10 แปะไว้ก่อน พรุ่งนี้เช้ามาอ่านครับ .. จากคุณ : :::GANTZ::: เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 02:15:28

ความคิดเห็นที่ 11 ขอบคุณค่ะ จากคุณ : tech_gal เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 02:18:06

ความคิดเห็นที่ 12 Thank you very much kub Jai d jung heeheeee จากคุณ : via iPhone (newlooks) เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 02:33:06

ความคิดเห็นที่ 13 คงไม่พ้น โหวต !! จากคุณ : kloomjai เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 02:43:36

ความคิดเห็นที่ 14 อ่านจนจบ(ประมาณ 85%)    ขอขอบคุณมากครับ  เป็นเรื่องที่น่ารู้ และน่ากังวลมากๆ จากคุณ : HODEมั๊กๆ เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 02:44:07

ความคิดเห็นที่ 15 กระทู้ที่รอคอย ขอบคุณมากค่ะ จากคุณ : vertical limit เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 02:49:58

ความคิดเห็นที่ 16 สวดยอด อ่านแล้วเข้าหน้าหนาวเลย... จากคุณ : เม่าซันเดย์ (SundayroyaL) เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 03:43:47

ความคิดเห็นที่ 17 ขอบคุณมากค่า จากคุณ : พัดใบใหม่ เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 04:58:49

ความคิดเห็นที่ 18 ขอบคุณมากสำหรับกระทู้ดีๆ โหวตเรียบร้อย... จากคุณ : เจ้าปูน้อย เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 06:14:58

ความคิดเห็นที่ 19 ขอบคุณครับ จากคุณ : Occult เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 06:37:20

ความคิดเห็นที่ 20 เชียร์เจ้าของกระทู้ซื้อNational Bank of Greece ไปเลย เอามาวางข้างapple เท่ห์มาก จากคุณ : เหลืองwarbird เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 06:37:54

ความคิดเห็นที่ 21 Thx จากคุณ : MounTrader เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 06:38:50

ความคิดเห็นที่ 22 ขอบคุณครับ จากคุณ : tonmai08 เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 06:55:19

ความคิดเห็นที่ 23 ขอบคุณมากครับ สำหรับความเอื้อเฟื้อและความพยายาม เพื่อเม่าทั้งหลายจะมีข้อมูลเพิ่มเติม สำหรับตัดสินใจ จากคุณ : จิ้งจกเขียว เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 06:55:29

ความคิดเห็นที่ 24   เช่นเคย จากคุณ : THE FINAL 2 เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 07:01:36

ความคิดเห็นที่ 25 ทำไมกระทู้ดีๆแบบนี้ เพิ่งจะมาช่วงนี้น้า. เมื่อก่อนหน้ามีแต่กระทู้ Gooddddddddd... จากคุณ : แสบสนิทศิษย์พี่จืด เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 07:04:26

ความคิดเห็นที่ 26 ขอบคุณมากครับ admin vista จากคุณ : iamdos เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 07:14:24

ความคิดเห็นที่ 27 ส่วนตัว กรีซเป็นแค่กระแส หนี้ทั้งหมดของกรีซ เพียงแค่เยอรมันตกปากรัคำจะช่วย เงินที่เยอรมันมีก็สามารถอุ้มกรีซได้ทั้งประเทศ แต่ช่วยแล้ว กรีซจะมีนโยบายแก้ไขยังไงต่อ อันนี้สำคัญกว่า ทำไงจะมีเงินใช้หนี้ ทำไงให้ gdp โต ทำไง ให้ ??? แต่ปัญหาที่รอซุกอยู่กลับเป็นสเปน โปรตุเกส และตัวการสำคัญคืออิตาลี ทั้งสามประเทศนี้ใกล้จะต้องใช้หนี้ก้อนโตแล้ว และอย่าไปหวังว่า ecb จะอัดเงินมาช่วย เพราะไม่รู้จะหาเงินจากไหนแล้ว จะอัดเงินเข้าระบบ พิมพ์แบงค์ เด๋ว EUR อ่อนค่า เยอรมันตัวตั้งต้นก็มีปัญหาเพราะ ถือหนี้ eur เยอะ แต่ถ้ามันแข็งมา ประเทศในกลุ่ม euro ที่กำลังเน่า ก็หารายได้เข้าประเทศไม่ได้ จะใช้มุข เอาดอกเบี้ยแพง มาแลกของถูก แบบเดิม ก็ไม่ได้ช่วยอะไรมาก แค่ยึดเวลาตายออกไป....... คิดแล้ว euro แตก ก็เจ็บ ไม่แตกก็เจ็บ จากคุณ : sai_zelda เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 07:20:24

ความคิดเห็นที่ 28 ขอบคุณครับ ดีมากๆ เนื้อหา เน้นๆ ไม่ใช่เอาแต่แปะ พาดหัว มั่วซํ่ว เยืี่ยมๆ จากคุณ : palm_ins เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 07:31:39

ความคิดเห็นที่ 29 จากคุณ : ทองเนื้อเก้า เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 07:32:27

ความคิดเห็นที่ 30 ขอบคุณอาจารย์มากๆงับ! จากคุณ : พีทีดี เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 07:49:45

ความคิดเห็นที่ 31 ขอบคุณค่ะ สำหรับข้อมูลดีๆ   แต่อย่าให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยปีที่แล้วเลย จากคุณ : แอปเปิ้ลน้อยสีชมพู เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 07:51:31

ความคิดเห็นที่ 32 มีประโยชน์มาก  ขอบคุณครับ จากคุณ : คนปากช่อง (super yellow bird) เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 07:53:14

ความคิดเห็นที่ 33 ดูจากผลการเลือกตั้ง และการชุมนุมประท้วงนโยบายรัดเข็มขัด กรีซจะเจ๊ง  ก็เพราะสันดานของคนในประเทศกรีซครับ สำหรับไทย  รอดจากวิกฤตฟองสบู่แตกมาได้ เพราะตอนนั้น  ไทยมีหนี้สาธารณะน้อย เครดิตปรเะเทศยังจะมีคนกล้าให้กู้ แบบไม่กลัวโดนเบี้ยวหนี้ ปัญหาตอนนั้น มาจากหนี้สินของภาคเอกชน  ที่ไม่ใช่ระดับรากหญ้า ก็เลยแก้ปัญหาได้ง่ายกว่ากรีซ ถ้าไทยเกิดวิกฤตอีกรอบ น่าจะร้ายแรงกว่าช่วงต้มยำกุ้ง แก้ไขเมื่อ 17 พ.ค. 55 07:58:24 จากคุณ : endophine เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 07:57:01

ความคิดเห็นที่ 34 ขอบคุณครับ จากคุณ : ไม่รักไม่ได้แล้ว เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 08:00:04

ความคิดเห็นที่ 35 ขอบคุณแอดมินคะ น่าจะเจอแบบต้มยำกุ้งคะ อยากรู้ว่ายุโรปจะปรับตัวเก่งเหมือนพี่ไทยปะคะ ต้มยำกุ้งดิฉันเพิ่งเริ่มเรียนปริญญาตรีพอดีเลยไม่ค่อยรู้สึกเท่าไหร่แต่ธุรกิจที่บ้านแย่มากๆคะไม่มีงานทำมา 2 ปีแต่ต้องเลี้ยงลูกน้อง กินเงินบุญเก่าที่สะสมมา เหอๆเอาอีกละ ดิฉันเคยคิดว่าทำไมต้องใช้เงินเป็นปัจจัยสำคัญด้วยทำไมไม่เอาของแลกกัน ประเทศไทยมีสินค้าเกษตรเยอะก็เอาไปแลกกัน ดีกว่านะ คหสต. จากคุณ : หนูอยากรวยด้วยคนคะ เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 08:03:11

ความคิดเห็นที่ 36 กลัวกรีซจะเป็นแค่ยอดภูเขาน้ำแข็งดิครับ ยังมีเสปน โปรตุเกส อีกมั้ย T T จากคุณ : อยากเป็นโปร เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 08:06:07

ความคิดเห็นที่ 37 สนใจมุมมองอื่นนอกจากผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในตลาดทุนโลกแล้ว อยากให้เจ้าของกระทู้ช่วยแชร์มุมมองต่อตลาดทุนไทยด้วยน่ะครับ นอกจากในแง่ความตระหนกตกใจอาจเห็นๆกันอยู่แล้วต่อตลาดทุนและตลาดเงิน แต่อยากได้มุมมองในแง่ของผลกระทบต่อเศรษฐกิจจริงๆด้วยครับ ว่าระยะสั้นแล้วกระทบไหม ระยะยาวจะเป็นอย่างไร สนใจมุมมองคุณ Venezier มากเลยครับ จากคุณ : อัศวินสีเงิน เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 08:20:41

ความคิดเห็นที่ 38 ขอบคุณมากคับ จากคุณ : เขียนบน iPhone (xion) เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 08:34:42

ความคิดเห็นที่ 39 Thankssss kra. จากคุณ : EastBerlin เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 08:50:32

ความคิดเห็นที่ 40 Greece แค่ออเดริฟใหมครับ Main course อิตาลี สเปน โปรตุเกส เอ้า เตรียมทัวร์ยุโรปแบบราชา ราคามิตรภาพ ปล.ส่วนตัวไม่ชอบการรวมกลุ่มเลย ยังสยอง AEC อยู่ ความต่างทางประชากรและ วัฒนธรรมการเมือง มันน่ากลัว จากคุณ : เขียนบน iPhone (กังป๋วย) เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 08:52:29

ความคิดเห็นที่ 41 เห็นบ้านแบบนั้น เคยคิดว่าอยากได้ซักหลัง เราสามารถซื้อได้เปล่าครับ จากคุณ : kanstk เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 09:08:16

ความคิดเห็นที่ 42 ขอบคุณสำหรับข้อมูลค่ะ ส่วนตัวเห็นว่า หมดจาก EU ก็ต้องเกิดที่อื่นๆ อีก ไหลเวียนเป็นรอบๆ  ด้งนั้นการพยายามสร้างภูมิ คุ้มกันตัวเอง น่าจะเป็นการดีที่สุด จากคุณ : แมวเหนือ เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 09:23:52

ความคิดเห็นที่ 43 คนไทยที่ฝากเงินบางคน ถึงกลัวเรื่องคุ้มครองเงินฝากแค่1ล้านบาทไทย วันก่อนข่าวคนกรีซแห่ถอนเงินจากธนาคารกัน วันนี้ก็มาข่าวนี้อีก  ท่าทางอาการหนัก ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ได้ยุติการให้เงินกู้แก่ธนาคารกรีซบางแห่งเพื่อจำกัดความเสี่ยง ซึ่งเป็นการดำเนินการล่าสุดในการรับมือกับความไม่แน่นอนเกี่ยวกับอนาคตของกรีซในยูโรโซน อีซีบีระบุว่าจะให้ธนาคารกลางกรีซทำหน้าที่รับผิดชอบเกี่ยวกับการจัดสรรเงินกู้แก่สถาบันการเงินของกรีซจนกว่าสถาบันเหล่านั้นจะมีเงินทุนเพียงพอ การยุติการปล่อยเงินกู้ของอีซีบีครั้งนี้หมายความว่าธนาคารบางแห่งของกรีซจะไม่สามารถเสนอสินทรัพย์เพื่อเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันเงินกู้จากอีซีบีได้อีกต่อไป และจะต้องหันไปพึ่งพาเงินกู้จากวงเงินกู้ฉุกเฉินของธนาคารกลางกรีซที่มีต้นทุนสูงกว่า ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวเป็นการเพิ่มแรงกดดันต่อกรีซให้ปฏิบัติตามเงื่อนไขของมาตรการช่วยเหลือระหว่างประเทศ ขณะที่ชาวกรีซได้ถอนเงินฝากจำนวน 700 ล้านยูโร (898 ล้านดอลลาร์) จากธนาคารของประเทศเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา จากความวิตกที่เพิ่มมากขึ้นว่ากรีซอาจจะต้องพ้นจากการเป็นสมาชิกยูโรโซน ซึ่งทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับสภาพคล่องของภาคการธนาคาร จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 09:29:44

ความคิดเห็นที่ 44 ขอบคุณสำหรับข้อมูลและคำวิเคราะห์ดีดีค่ะ จากคุณ : Disneyland (sweet_moda) เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 09:34:19

ความคิดเห็นที่ 45 thx kub จากคุณ : พออยู่พอกิน เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 10:08:40

ความคิดเห็นที่ 46 ขอบคุณมากค่ะ มีประโยชน์มากเลยค่ะ จากคุณ : amakin เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 11:06:29

ความคิดเห็นที่ 47 ใครอยากมีบ้านพักตากอากาศที่กรีซ โอกาสนี้เหมาะครับ จากคุณ : นายฉิม เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 11:10:40

ความคิดเห็นที่ 48 ควรจะแก้ไขแบบ ไทย คือ ปิดกิจการสถาบันการเงินที่ไม่แข็งแรง ควบรวมกิจการครับ แต่ไม่ยอมตัดเนื้อทิ้งก็เลยยิ่งลุกลามใหญ่ ต้องขายกิจการบางอย่างทิ้ง จากคุณ : Paul คลุกฝุ่น เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 11:41:00

ความคิดเห็นที่ 49 ขอบคุณครับ จากคุณ : 821 (บัตรผ่าน 821) เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 11:50:43

ความคิดเห็นที่ 50 ขอบคุณมากครับ สุดยอด ติดตามทุกตอนเลย ตอนนี้ผมว่าทุกคนเริ่มเห็นภาพชัดเจนว่า กรีซ กำลังหลังชนฝา และ หาทางออกให้ตัวเองไม่ได้ ไม่ได้กู้ ก้อต้องออกจากกลุ่มไป ตอนหน้า ผมอยากเสนอให้คุณ Venezier ช่วยวิเคราะห์ภาพต่อจากนี้ว่า จะเกิดอะไรขึ้นต่้อเจ้าหนี้ทั้งหลาย เยอรมัน จะสามารถพยุง อิตาลี โปรตุเกส ฝรั่งเศส ต่อไปได้รึไม่ ถ้าเจอกรีซเบี้ยวหนี้ไปซะราย จะเกิดอะไรขึ้นกับกรีซถ้าต้องออกจากกลุ่ม จากคุณ : Superbot เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 12:04:02

ความคิดเห็นที่ 51 ใกล้ถึงเวลาเที่ยวยุโรปแบบสบายกระเป๋าแล้วสิ :D จากคุณ : K.raywind เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 12:09:07

ความคิดเห็นที่ 52 ส่วนตัวแล้วผมว่าเค้าน่าจะเอาอยู่ ไม่ปล่อยหรอก แต่ต้องยอมขายสินทรัพย์ออก เพราะ รัฐบาล Greece เองก็เขี้ยวไม่ยอมขายอะไรเลย ไม่ยอมเจ็บ ถ้ายอมเจ็บปวดโดยขายสินทรัพย์ของรัฐบาลเหมือนประเทศไทย ถ้าไม่ขายวิกฤติก็จะไม่คลี่คลาย ปัญหาคือ Greece ไม่สามารถลดค่าเงินเพื่่อส่งออกเหมือนประเทศไทย ก็ต้องหาแนวทางโดยลดราคาสินค้าลงเอง ทาง EU ปล่อยให้ออกไม่ได้จะทำให้วิกฤติลามไปใหญ่ ถ้า Greece ออกจะไม่เป็นผลดีทั้งสองฝ่ายคือ EU และ Greece ยังไงก็ต้องประคับประคองไปให้ได้ แล้วค่อยไปออกตอนวิกฤติดีขึ้นบ้าง การแก้ปัญหาในตอนแรกโดยฉีดเงินเข้าไป ทำให้ขนาดของการ Cut ยิ่งใหญ่ ถ้ายิ่งไม่แก้ปัญหาโดยการ ขาย Asset และควบรวมจะยิ่งไปกันใหญ่ แก้ไขเมื่อ 17 พ.ค. 55 12:22:54 จากคุณ : Paul คลุกฝุ่น เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 12:21:26

ความคิดเห็นที่ 53 ขอบคุณครับ จากคุณ : lord of the ลิง เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 13:23:46

ความคิดเห็นที่ 54 ขอบคุณมากๆๆครับ ^^ จากคุณ : Mardosi เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 13:43:38

ความคิดเห็นที่ 55 ขอบคุณมากๆครับ ลงชื่อ คืนนี้กลับมาอ่าน จากคุณ : Naruno เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 13:47:53

ความคิดเห็นที่ 56 มีประโยชน์มากครับ อ่านแล้วเข้าใจปัญหาได้ดีขึ้นเลยครับ จากคุณ : IBaim เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 14:48:52

ความคิดเห็นที่ 57 ขอบคุณมากที่ให้ความรู้ และผู้บริหารประเทศไทยควรมีจิตสำนึกบ้าง จากคุณ : ร่ำรวยยิ่งขึ้น เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 15:09:46

ความคิดเห็นที่ 58 ขอบคุณค่ะ   จากคุณ : Plakud04 เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 15:20:53

ความคิดเห็นที่ 59 ขอบคุณครับ จากคุณ : tomiko เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 15:40:33

ความคิดเห็นที่ 60 ถ้าไม่มีใครช่วยพยุงได้ มันก็ต้องเจ๊งเป็นโดมิโน่ ถ้ากระจายความสูญเสียกันไปทั้งกลุ่มประเทศยูโร ให้กรีซได้พอหายใจต่อ เก็บไว้ในกลุ่มให้ได้ใช้หนี้ จะเจ็บน้อยกว่าปล่อยให้จบเร็ว แต่เจ๊งกันเป็นลูกโซ่ รึป่าว... จากคุณ : Panjasila เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 16:27:26

ความคิดเห็นที่ 61 ไปซื้อหุ้นกรีซดีมั้ย? คำถามแบบนี้เจอบ่อยมาก >>>>>>>คนถามเค้ามีพอร์ตแบบ Off Shore Trade เร๊อะ? ไปเปิดกับโบรกไหนล่ะนั้น แก้ไขเมื่อ 17 พ.ค. 55 16:37:15 จากคุณ : กำเนิดจากน้ำที่หน้าห้องน้ำ เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 16:36:42

ความคิดเห็นที่ 62 สุดยอดเหมือนเคยครับพี่ ^^ จากคุณ : Nat_YFS2011 เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 16:58:23

ความคิดเห็นที่ 63 ขอบคุณครับ จากคุณ : กะฮา เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 17:13:24

ความคิดเห็นที่ 64 มาให้ความรู้บ่อยๆนะครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : Stockholder เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 19:01:25

ความคิดเห็นที่ 65 ส่วนตัวมีความเชื่อเลยว่า กรีซจะไม่มีทางออกจากยูโรโซนแน่ ๆ เพราะ 1. เยอรมันกับฝรั่งเศส ในฐานะเจ้าหนี้และเจ้าของหนี้ก้อนใหม่ที่จะให้แก่กรีซ จะไม่ยอมให้ลูกหนี้ตายหรือชักดาบไปต่อหน้าต่อตา มาตรการที่ออกมาคงจะเป็นการ haircut หนี้บางส่วนให้ แลกกับการที่ต้องรัดเข็มขัด+ขายสินทรัพย์ที่ยังมีคุณค่าเพื่อมาชำระหนี้ให้ได้มากที่สุด กำขี้ดีกว่ากำตดละเนอะ 2. กรีซเอง ออกจากยูโรไม่ได้หรอก ถึงคนในชาติจะไม่ยอมยังไง ก็ไม่สามารถจะปิดประเทศแบบพม่าได้หรอก เพราะยังต้องการความช่วยเหลือจะกลุ่มอีกมากเหลือเกิน ทั้งในรูปของเงินหรือความช่วยเหลือในการฟื้นความสามารถให้กิจการภายในประเทศ แค่ความเห็นส่วนตัว ไม่แน่ใจว่าจะปล่อยไก่รึเปล่านะ ปล. ชื่อจขกท อ่านว่ายังไง มีที่มาอย่างไรหรือจ๊ะ จากคุณ : icute123 เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 20:54:56

ความคิดเห็นที่ 66 สุดยอดครับ ปัญหาที่ว่า กรีซ มีจุดเด่นอะไรในเรื่องการค้าขาย ไทยเจอวิกฤต เรายังผลิตอาหารได้ จากคุณ : คุณชายเฉิน เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 21:32:59

ความคิดเห็นที่ 67 ชอบมาก ขอบคุณ จากคุณ : พรุ่งนี้สีเขียว เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 21:57:06

ความคิดเห็นที่ 68 กรีซ จากคุณ : AKB-SKE เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 23:16:59

ความคิดเห็นที่ 69 ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว พรุ่งนี้ขอ  เซอร์กิตเบรคเกอร์ อีกรอบละกัน จากคุณ : LarukuLarc เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 23:20:05

ความคิดเห็นที่ 70 เคยคุยกะคนเยอรมัน. เขาบอกว่าสินค้าขึ้นชื่อของกรีซคือมะเขือเทศ. - -a จากคุณ : ตอกะจอ เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 23:35:53

ความคิดเห็นที่ 71 ขอบคุณครัฟ :D จากคุณ : por-puay เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 23:54:15

ความคิดเห็นที่ 72 ตอนที่อ่านบทความที่เกี่ยวกับกรีซครั้งแรกในพันทิพ ยอมรับว่ากลัวมากขายห้นไปหมดเลยตอนนั้น เซตประมาณ 800-900 ใครก็บอกว่ามันจะลงไป 300 บ้าง 500 บ้าง 700บ้าง และแล้วหุ้นมันก็ขึ้นไปเกิน1000 จุด ช่วยอธิบายให้เข้าใจทีว่าทำไม เกิดอะไรขึ้น ภายหลังไม่ได้ติดตาม เพราะขาดทุนไปเยอะเหมือนกัน จากคุณ : จ๋า (ศิธา) เขียนเมื่อ : 18 พ.ค. 55 00:26:43

ความคิดเห็นที่ 73 Re#72 ช่วงนั้นมันมืดมนจริงๆ แม้แต่ผมก็ยังขายครับ = =' แน่นอนว่าไม่ว่าจะสื่อที่ไหนและโบรคอะไรต่างก็ลดเป้า SET กันเพียบ ท้ายที่สุดคือก็เป็นการเล่นข่าวกันกลับมาใหม่ว่าคาดหวังว่ากรีซจะได้ช่วยกันต่อไป ก็ได้รับการช่วยเหลือ แต่ที่สำคัญคือสภาพเศรษฐกิจโดยทั่วโลกก็ไม่สู้ดี การเติบโตไม่ว่าจะยุโรป จีน หรือญี่ปุ่น ต่างก็เริ่มชะลอตัวเลง ส่วนไทยเรามีการเก็งกันได้สองส่วนคือการฟื้นกลับมาจากน้ำท่วมและอีกส่วนคือการลดภาษีนิติบุคคลเหลือ 23% แต่ตั้งแต่ช่วงนั้นเป็นต้นมาจนถึงช่วงนี้ผมก็ไม่ได้ซื้อหุ้นกลับ และพยายามลดสัดส่วนความเครียดลง โดยการขายหุ้นทำกำไรและลดความเสี่ยงแทบทุกตัว (เช่นขายเพื่อเอาทุนคืนแล้วหุ้นที่เหลือเป็นหุ้นฟรี) ส่วนกรีซจะเป็นชนวนวิกฤตสำคัญที่ทำให้ลุกลามไปทั่วโลกหรือไม่อันนั้นคงต้องดูกันต่อไปครับ แต่ที่แน่ๆคือเศรษฐกิจที่หดตัวในยุโรปกำลังเริ่มต้นขึ้นแล้วนี่สิของจริง และเศรษฐกิจยุโรปเองก็มีขนาดที่ใหญ่มาก โลกของเรามันถูกเชื่อมกันเอาไว้ทั้งหมด ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตามเศรษฐกิจที่พังในส่วนหนึ่งจะค่อยๆทำให้ส่วนอื่นๆ หดตัวตามลงไป ดังที่เราเคยเห็นมาแล้วเมื่อปี 2008 หลายคนว่าชนวนสำคัญอยู่ที่ลีห์แมน บราเธอร์ส แต่ลองไปดูกราฟดีๆ ตลาดหุ้นไทยทำจุดสูงสุดในปี 2008 ในเดือน พฤษภาคม และจากนั้นก็ร่วงลงมาเรื่อยๆ ไป panic sell ทำเซอร์กิตกันตั้งนู้น เดือนตุลาคม ดังนั้นตลาดหุ้นมันตอบสนองต่อตัวเลขเศรษฐกิจก่อน ส่วนลีห์แมนนั่นของแถมที่เป็นแรงเบ่งขั้นสุดท้าย ... จากคุณ : venezier เขียนเมื่อ : 18 พ.ค. 55 00:37:21

ความคิดเห็นที่ 74 ภาพเต็มของแผนภาพการเป็นหนี้ของแต่ละประเทศ ใน #1 http://graphics8.nytimes.com/images/2011/10/22/opinion/20111023_DATAPOINTS/20111023_DATAPOINTS-popup.jpg บทความต้นฉบับวิกิดยุโรป http://www.nytimes.com/interactive/2011/10/23/sunday-review/an-overview-of-the-euro-crisis.html โดยส่วนตัวแล้วผมคิดเหมือน #27 ผมคิดว่าทุนต่างชาติ บงการให้หนังสือพิมพ์เขียนข่าวให้แย่เกินจริง ให้ดูเลวร้ายมากๆ แล้วทุบจะได้เข้าช้อนในราคาถูก แล้วก็ลาก SET ไป 1,300 เพราะผมจำได้ว่าเคยโดนปล่อยหมูไป ตอนนี้วิกิดกรีซแก้ได้ในวันเดียว งงมาก ตอนนั้นทั่วโลกเมื่อวานยังกังวลเรื่องกรีซ แดงกระจาย วันต่อมาเขียวกระจุย ไม่กี่วันก็ลากไป 1,200 กันหน้าตาเฉย เหมือนที่ #72 บอก จากคุณ : นักวิทยาศาสตร์ฝ่ายอธรรม เขียนเมื่อ : 18 พ.ค. 55 04:33:55

ความคิดเห็นที่ 75 คำถามสำคัญตอนนี้คือกรีซจะต้องออกจากยูโรโซนหรือไม่โดยภาคธุรกิจเตรียมแผนรับมือไม่ว่าบทสรุปจะออกมาอย่างไร โลกยังคงจับจ้อง "กรีซ" ที่ต้องจัดเลือกตั้งครั้งใหม่ หลังคว้าน้ำเหลวในการจัดตั้งรัฐบาลผสม เพราะล็อกทางการเมืองที่ยังปลดไม่ออก ส่งผลให้แนวทางแก้ปัญหาของกรีซไม่ชัดเจน พลอยปลุกกระแสกังวลตามมาว่า ที่สุดแล้วเอเธนส์อาจ "ไม่ได้ไปต่อ" กับยูโรโซน แม้การเดินจากไปไม่ใช่จะทำได้ง่ายๆ ก็ตาม แต่สำหรับโลกธุรกิจ ผู้บริหารบริษัทใหญ่ๆ ในยูโรโซนบางแห่งฟันธงแล้วว่า บริษัทไม่อาจแบกรับสิ่งที่อาจเกิดขึ้นอย่างไม่คาดฝัน โดยไม่ตระเตรียมอะไรไว้รับมือ อย่างกรณีของยักษ์น้ำมัน "เชลล์" ที่มีพนักงานกว่า 90,000 คน และดำเนินงานในกว่า 80 ประเทศ ซีอีโอ "ปีเตอร์ โวเซอร์" ยอมรับกับซีเอ็นเอ็นว่า เขาต้องเตรียมแผนรับมือกับสิ่งที่ตลาดเรียกว่า ผลลัพธ์ที่อาจจะลงเอยด้วยโศกนาฏกรรม และสิ่งที่ชัดเจนในขั้นนี้ คือ การเตรียมการสำหรับความเป็นไปได้ดังกล่าว บลูมเบิร์กระบุว่า อีกบริษัทที่ไม่นิ่งนอนใจกับลางร้ายที่เริ่มปรากฏ คือ บริษัทท่องเที่ยวชั้นนำของอังกฤษ "โทมัส คุก กรุ๊ป" ซึ่งแม้กรีซจะยังเป็นแหล่งทำเงินจากการท่องเที่ยวที่สำคัญ แต่บริษัทก็กำลังเตรียมงานอย่างใกล้ชิดกับบรรดาโรงแรมและซัพพลายเออร์ เพื่อหาหนทางไว้สำหรับความเป็นไปได้ที่กรีซจะต้องออกจากยูโร โทมัส คุก กรุ๊ป ประเมินว่า น่าจะมีผลทั้งในเชิงบวกและเชิงลบต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยว จากการที่กรีซต้องออกจากยูโรโซน น่าสนใจว่า ความวุ่นวายทางเศรษฐกิจและการเมืองในกรีซ ได้ส่งผลกระทบทางการเงินต่อประเทศนี้ เห็นได้จากตัวเลขความต้องการท่องเที่ยวในกรีซลดลง โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากเยอรมนี ประเทศที่มีเศรษฐกิจแข็งแกร่งที่สุดในยุโรป และเรียกร้องให้กรีซปฏิรูปเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ซึ่งรวมถึงการตัดลดบริการจากภาครัฐที่อาจสร้างความเจ็บปวดให้ประชาชน ปีที่แล้ว อุตสาหกรรมท่องเที่ยวมีสัดส่วนราว 15.7% ของจีดีพีกรีซ สร้างรายได้ประมาณ 1.05 หมื่นล้านยูโร หรือ 1.35 หมื่นล้านดอลลาร์ อีกด้านของเหรียญ การโบกมือลายูโรโซนของเอเธนส์อาจทำให้ค่าเงินแดรกมาลดลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งจะทำให้การท่องเที่ยวมีราคาถูกลง และกลับมีความน่าสนใจอีกครั้ง บริษัทท่องเที่ยวจึงพยายามเจรจากับคู่สัญญา เพื่อให้เกิดประโยชน์มากสุดหากเงินใหม่ของกรีซลดค่าลงอย่างมาก "ปีเตอร์ รอธเวลล์" ประธานบริหารของบริษัททัวร์ "คูโอนี" กล่าวว่า ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เราต้องการจ่ายให้โรงแรมในกรีซอย่างเป็นธรรม แต่เราก็ไม่ยอมที่จะต้องจ่ายตามสัญญาที่ตกลงเป็นเงินยูโร หากชาวกรีกใช้จ่ายกันเป็นสกุลเงินที่มีค่าต่ำกว่า ขณะที่ภาคการเงินก็ไม่อาจละเลย "เอียน นาเรฟ" ประธานบริหารธนาคารคอมมอนเวลธ์ แบงก์ ของออสเตรเลีย ระบุถึงความเป็นไปได้ที่กรีซจะผิดนัดชำระหนี้ และไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขการขอรับเงินช่วยเหลือ ซึ่งอาจผลักให้กรีซออกจากยูโร แต่ภายใต้ความเป็นไปได้นี้ สถาบันการเงินและบริษัทต่างๆ ยังมีเวลาพอจะเตรียมตัว ในฐานะบริษัทยักษ์ใหญ่ของโลก บริษัทเหล่านี้มีเดิมพันสูง แต่เดิมพันของผู้นำประเทศอย่าง "แองเกลา แมร์เคิล" กลับสูงยิ่งกว่า เพราะจำนวนผู้ใช้เงินสกุลยูโรราว 320 ล้านคนต่อวัน การรวมตัวเป็นหนึ่งเดียวมีความสำคัญมากต่อความมั่นใจทางเศรษฐกิจของยูโรโซน แต่ใช่ว่าการแยกทางของกรีซจะเกิดขึ้นได้ง่าย เพราะกรอบกฎหมายของยูโรโซน ไม่ได้กำหนดการแยกตัวจากระบบการเงินของสมาชิกไว้อย่างเป็นทางการ และผลพวงที่จะตามมาจากกรณีนี้จะอยู่ไปนานหลายปี จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ เขียนเมื่อ : 18 พ.ค. 55 07:22:30

ความคิดเห็นที่ 76 "ไปซื้อหุ้นกรีซดีมั๊ย?" ถึงแม้ตัวกิจการกำไรดี แต่ถ้ากรีซต้องกลับมาใช้เงินดรักมาจริง ทางรอดของเขาก็คือการลดค่าเงิน มูลค่าหุ้นเมื่อแปลงกลับเป็นเงินบาทก็คงขาดทุนระยับ ...ความเห็นส่วนตัวนะครับ จากคุณ : Antonio at MonkeyFreeTime เขียนเมื่อ : 18 พ.ค. 55 11:08:36

ความคิดเห็นที่ 77 ในขณะที่กรีซจะมีการเลือกตั้งในเดือนหน้า และมีความวิตกเพิ่มขึ้นเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่กรีซจะออกจากยูโรโซนนั้น นักวิเคราะห์คาดว่าหากกรีซออกจากยูโรโซนโดยเกิดความยุ่งเหยิงจะทำให้เกิดความสูญเสียเป็นมูลค่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ นักวิเคราะห์รายหนึ่งกล่าวว่า หากกรีซแยกตัวจากยูโรโซนจะส่งผลกระทบคิดเป็น 2% ของจีดีพียูโรโซน (3 แสนล้านดอลลาร์) แต่หากเกิดการล่มสลายอย่างผันผวนก็จะส่งผลให้ผลผลิตลดลง 5% คิดเป็นความเสียหาย 1 ล้านล้านดอลลาร์ หลังจากที่กรีซไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้นั้น ได้มีการแห่ถอนเงินในประเทศ 3 พันล้านยูโรในช่วงเวลากว่า 1 สัปดาห์เล็กน้อยหลังการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 6 พ.ค. และธนาคารกลางเปิดเผยว่าเมื่อต้นสัปดาห์นี้มีการถอนเงินสูงถึง 800 ล้านยูโรในวันเดียว ส่วนในอังกฤษนั้น กระทรวงการคลังกำลังอยู่ในระหว่างร่างแผนรับมือในกรณีที่กรีซออกจากยูโรโซน ซึ่งอาจจะสร้างความเสียหายให้กับเศรษฐกิจโลกเช่นเดียวกับการล่มสลายของเลห์แมน บราเธอร์สในเดือนก.ย.2551 ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีบารัค โอบามาระบุถึงวิกฤติหนี้ยุโรปว่า เป็นปัจจัยเสี่ยงที่จะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของสหรัฐและต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ เขียนเมื่อ : 18 พ.ค. 55 11:17:47

ความคิดเห็นที่ 78 Re#76 เราก็ค่อยเข้าตอนเขาลดค่าเงินแล้วสิครับ ซึ่งเราจะเป็นฝ่ายได้เปรียบ ในขณะตอนนี้ก็ยังต้องรอกันต่อไปถึงความแน่นอน ... สำคัญกว่านั้นคือตลาดหุ้นกรีซเองก็ยังลงไม่สุดครับ จากคุณ : venezier เขียนเมื่อ : 18 พ.ค. 55 12:14:18

ความคิดเห็นที่ 79 เห็นด้วยค่ะ ว่าอสังหาริมทรัพย์ริมเกาะ Santorini น่าซื้อที่สุด เห็นด้วยกับ คห 73 ที่สุด ตอนนั้นก็ panic sell แล้วไม่กล้ากลับไปซื้ออีก โชคดีที่เก็บ  blue chip ไว้หมด สุดท้ายราคามันก็กลับมา   การลงทุน สติสำคัญที่สุด พิจารณาผลกระทบของกรีซว่ามีกับไทย หรือ Asia มากน้อยแค่ไหน  แล้วเราจะรู้ว่าควรลงทุนอย่างไร   วิกฤตกรีซ กับ เลห์แมน น่าจะเป็นคำตอบ แก้ไขเมื่อ 18 พ.ค. 55 13:09:01 จากคุณ : Raspberry Truffle เขียนเมื่อ : 18 พ.ค. 55 13:08:36

ความคิดเห็นที่ 80 บทความน่าสนใจอีกหนึ่งมุมมองครับ คอลัมน์ ไขปัญหาเศรษฐกิจกับดร.กอบ ปัญหาที่เป็นข้อข้องใจของหลายคนในช่วงนี้ ก็คือ “วิกฤตกรีซจะจบกันอย่างไร” ที่คำถามนี้กลับมาเป็นประเด็นขึ้นมาอีกครั้ง ส่วนหนึ่งก็เพราะว่า หลังจากเลือกตั้งล่าสุด ไม่มีพรรคการเมืองไหนที่ได้เสียงข้างมาก และเมื่อผ่านไปแล้วเกือบ 2 สัปดาห์ก็ยังตกลงกันไม่ได้ว่า ใครจะเป็นรัฐบาล โดยหนึ่งในพรรคที่เป็นตัวเก็งเข้าร่วมรัฐบาลและอาจได้เสียงมากขึ้น หากมีการเลือกตั้งรอบใหม่ ก็ออกมาบอกว่า ไม่เห็นด้วยกับมาตรการรัดเข็มขัดและแก้ไขวิกฤตที่รัฐบาลชุดก่อนหน้าตกลงกันไว้กับทางกองทุนการเงินระหว่างประเทศและสหภาพยุโรป ยิ่งไปกว่านั้น ทางการของยุโรปและทางธนาคารกลางของยุโรป ได้ออกมาให้สัมภาษณ์เป็นครั้งแรกเกี่ยวกับผลกระทบ หากกรีซตัดสินใจออกจากเงินยูโร ว่าจะมีผลอย่างไร จึงไม่น่าแปลกใจว่า ทำไมตลาดการเงินโลกจึงมีความปั่นป่วน วุ่นวายเพิ่มขึ้น ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา และส่งผลกระทบมาถึงไทย ตอนจบของกรีซจะเป็นอย่างไร ณ ปัจจุบัน กรีซมีทางเลือกแค่ 2 ทาง ทางแรก คือกัดฟันอยู่กับกลุ่มสหภาพยุโรปต่อไป ซึ่งหมายความว่า จะต้องตัดสินใจทำตามที่ทางสหภาพยุโรปและกองทุนการเงินระหว่างประเทศกำหนดไว้ รัดเข็มขัดต่อไป ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เพื่อให้ได้เงินมาคืนหนี้ ที่ตนเองไปกู้มาใช้อย่างเกินตัว และปฏิรูปโครงสร้างของเศรษฐกิจให้สามารถแข่งขันได้อีกครั้ง ทางที่สอง คือ ประกาศออกจากการใช้เงินยูโร (ตามที่หลายคนออกมาให้คำแนะนำ) ซึ่งหมายความว่า หลังจากนี้ กรีซก็จะมีค่าเงินเป็นของตนเอง และจะสามารถลดค่าเงินของตนได้ ทำให้สามารถกระตุ้นภาคการส่งออกและท่องเที่ยว ทำให้คนมีงานทำ และสามารถออกจากวิกฤตได้ในที่สุด ทั้งสองทางเลือก เป็นทางเลือกที่แย่ทั้งคู่ ไม่ว่าจะเดินไปตามทางไหน ก็จะมีความยากลำบากเกิดขึ้น และจะต้องอาศัยความอดทนอย่างสูง ในการที่จะเดินไปให้ตลอดรอดฝั่ง โดยเฉพาะทางที่สอง (ที่ตลาดกำลังกลัวกันว่า กรีซจะตัดสินใจเลือกทางนี้) ก็ไม่ได้ง่ายอย่างที่คนออกมาชวนเชื่อกัน เพราะถ้าเดินไปตามทางที่สอง กรีซจะต้องขอมติประชาชนที่จะออกจากยูโร และนำไปสู่การใช้เงินของตนเอง ซึ่งในกระบวนการดังกล่าว ต้องตอบคำถามสำคัญว่า ในสัญญาต่างๆ ที่เขียนกันไว้ (1) เงินฝากในธนาคารของประชาชน จะเป็นเงินอะไร ถ้าเป็นยูโรเช่นเดิม แบงก์ก็จะล้มได้ แต่ถ้าจะเป็นเงินสกุลใหม่ ประชาชนก็คงไม่รอให้มีการประชามติ คงมีการแห่ถอนเงิน เพื่อเดินทางนำไปฝากไว้ที่แบงก์ในประเทศเพื่อนบ้านแทน แบงก์กรีซก็จะล้มเช่นกัน (2) เงินกู้จะคิดเป็นเงินสกุลอะไร ถ้าให้คิดเป็นเงินยูโร บริษัทที่ทำธุรกิจภายในประเทศ ก็จะล้มลงเป็นจำนวนมาก แบงก์ก็อยู่ไม่ได้ (และดูเหมือนกับว่าจะไม่ยุติธรรม) แต่ถ้าเป็นเงินสกุลใหม่ ก็จะมีบางบริษัทได้ประโยชน์ โดยเฉพาะคนที่กู้ออกไปใช้ลงทุนในต่างประเทศ ท้ายสุด (3) เงินที่ธนาคารกรีซปล่อยกู้ให้ธนาคาร/บริษัทในต่างประเทศจะเป็นเงินสกุลไหน คำถามเหล่านี้ มีนัย ได้เสียกับทุกคน ยากที่จะตอบง่ายๆ ยิ่งไปกว่านั้น หลังจากที่กรีซออกจากยูโรมาแล้ว กรีซจะอยู่อย่างไร โดยที่ไม่มีคนช่วยเหลือ ซึ่งหมายความว่า รัฐบาลกรีซก็จะต้องรัดเข็มขัดอยู่ดี เพราะหลังจากนั้น จะไม่มีใครมาให้รัฐบาลกู้ยืมเงินไปใช้เกินกว่าภาษีที่เก็บมาได้อีกต่อไป (กระทั่งกองทุนการเงินระหว่างประเทศก็คงไม่ให้กู้) ทั้งยังต้องเข้าไปอุ้มแบงก์ และบริษัทที่ล้มลงด้วยกำลังของตนเองเท่านั้น จึงกล่าวได้ว่า ทางออกนี้ ไม่ง่ายอย่างที่คิด และโฆษณากันไว้ ด้วยเหตุนี้ ไม่ว่าใครที่จะเข้ามาเป็นรัฐบาลของกรีซ แม้ตอนแรกจะอิดออดแค่ไหน เมื่อมองลงไปที่หุบเหวของความหายนะ ที่ไม่รู้ว่าจะจบอย่างไร ท้ายสุด ก็จะต้องพยายามกลับไปเดินทางเลือกที่ 1 จนถึงที่สุด และทางสหภาพยุโรปก็คงต้องช่วย โดยการยอมโอนอ่อนให้อีกบางส่วน กอดหัวร่วมท้ายกันไป ฝ่าความลำบากของทางเลือกที่ 1 ไปด้วยกัน ก็ได้แต่หวังว่ากรีซจะมีปัญญาพอที่จะเลือกทางที่เสียหายน้อยที่สุดกับตนเอง ขอเอาใจช่วยเขาครับ ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ประจำวันที่ 17 พ.ค. 55 คอลัมน์ ไขปัญหาเศรษฐกิจกับดร.กอบ จากคุณ : อัศวินสีเงิน เขียนเมื่อ : 18 พ.ค. 55 13:52:31

ความคิดเห็นที่ 81 ถ้ากรีซออกจริง ประเทศเน่าแน่นอน ใครก็ไม่อยากเก็บเงินกรีซ เงินก็เป็นเหมือนเศษกระดาษ ประเทศเกิดจลาจล แบงค์ล้ม เงินไม่มีจ่ายให้บริหารประเทศ หนี้ต่างๆ ผิดชำระหมด ผลก็คงทำให้ เจ้าหนี้เน่า ตามๆไป สรุปว่า ความเห็นส่วนตัวว่า ยังไงกรีซต้องอยู่ต่อ แต่ต้องขายสินทรัพย์ และยอมรัดเข็มขัดเอง มากกว่า ประเทศอื่นๆ ก็คงเช่นกัน จากคุณ : ble_swu เขียนเมื่อ : 18 พ.ค. 55 18:18:40

ความคิดเห็นที่ 82 ภาวะสุญญากาศทางการเมืองและเศรษฐกิจในกรีซทำเอาตลาดหุ้นทั่วโลกระส่ำระสาย ทุกฝ่ายจ้องตาไม่กะพริบพร้อมกับตั้งคำถามอีกหลายคำถามตามมาว่า กรีซจะจัดตั้งรัฐบาลผสมชุดใหม่ได้หรือไม่ หรือว่า กรีซจะต้องจัดการเลือกตั้งใหม่อีกครั้ง  มีการวิเคราะห์ถึงขั้นที่ว่า กรีซอาจจะไม่สามารถดำเนินการตามคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้เรื่องการลดงบประมาณ จนท้ายที่สุด กรีซต้องถอนตัวจากการเป็นสมาชิกในกลุ่มยูโรโซนหรือไม่ แม้ว่า กรีซจะไม่ได้เป็นประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจในยุโรป แต่หากสมาชิกประเทศใดประเทศหนึ่งต้องมีอันต้องถอนตัวจากกลุ่ม แน่นอนว่า ความเชื่อมั่นที่มีต่อกลุ่มย่อมสั่นคลอน ล่าสุด ข่าวกรีซต้องจัดการเลือกตั้งขึ้นอีกครั้งในเดือนมิ.ย.ทำเอาตลาดหุ้นทั่วโลกร่วงกันถ้วนหน้า หลังจากที่ร่วงกันไปหลายรอบแล้ว การที่กรีซต้องเลือกตั้งกันอีกครั้งนี้ ไม่ใช่เรื่องที่นอกเหนือไปจากการคาดการณ์ เนื่องจากพรรคการเมืองแต่ละพรรคล้วนมีนโยบายที่สวนทางกันแทบจะฝ่ายละครึ่ง ประธานาธิบดีคาโรลอส ปาปูลิอัส ของกรีซ จึงไม่สามารถเกลี้ยกล่อมให้หัวหน้าพรรคการเมืองต่างๆจัดตั้งรัฐบาลขึ้นมาได้ กรีซจึงต้องจำใจตั้งรัฐบาลรักษาการขึ้นมาทำหน้าที่บริหารประเทศ โดยจะมีการประชุมเรื่องหน้าตาของรัฐบาลรักษาการกันในวันนี้ ศึกเลือกตั้งกรีซและมหากาพย์การเจรจาจัดตั้งรัฐบาล กรีซจัดการเลือกตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 6 พ.ค.ที่ผ่านมา หลังจากที่รัฐบาลชุดเฉพาะกาลได้ทำหน้าที่นำพาประเทศผ่านช่วงหน้าสิ่วหน้าขวานจนได้รับความช่วยเหลือทางการเงินมาได้ แต่แทนที่กรีซจะได้รัฐบาลชุดใหม่ เพื่อทำหน้าที่บริหารประเทศให้ก้าวต่อไปได้ตลอดรอดฝั่งนั้น การเลือกตั้งครั้งล่าสุดกลับทำให้กรีซต้องเผชิญสถานการณ์ที่หนักหนาสาหัสไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน เนื่องจากไม่มีพรรคการเมืองใดได้คะแนนสนับสนุนแบบขาดลอยหรือครองเสียงข้างมากพอที่จะจัดตั้งรัฐบาลได้แบบสบายๆ พรรคปาสก ซึ่งเป็นพรรคแกนนำของรัฐบาลชุดเฉพาะกาลนั้น ได้คะแนนมาเป็นอันดับ 3 แต่พรรคการเมืองที่มีนโยบายต่อต้านการใช้มาตรการรัดเข็มขัดอย่างพรรคนิว เดโมเครซี และพรรคฝ่ายซ้าย หรือ SYRIZA กลับได้รับคะแนนเสียงสนับสนุนส่วนใหญ่จากประชาชนจนทำให้พรรคนิว เดโมเครซี ได้คะแนนเสียงสูงสุด และได้รับสิทธิในการจัดตั้งรัฐบาลเป็นพรรคแรก แต่ด้วยความคิดเห็นที่แตกต่างกันในเรื่องมาตรการรัดเข็มขัดส่งผลให้พรรคนิว เดโมเครซี ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลผสมขึ้นมาได้ ส่งผลให้พรรค SYRIZA ซึ่งได้คะแนนเสียงเป็นอันดับ 2 รับไม้ต่อในการเจรจาจัดตั้งรัฐบาล แต่การเจรจาไม่ประสบผลสำเร็จเช่นกัน พรรคสังคมนิยม หรือ PASOK ของกรีซ ซึ่งได้คะแนนเสียงมาเป็นอันดับ 3 จึงรับไม้ต่อจากพรรค SYRIZA เพื่อหาทางตั้งรัฐบาล แต่ก็ประสบความล้มเหลว ร้อนถึงประธานาธิบดี คาโรลอส ปาปูลิอัส ของกรีซ ที่ออกมาขอให้ทุกพรรคการเมืองร่วมมือกับพรรคอนุรักษ์นิยม หรือพรรคนิว เดโมเครซี ซึ่งชนะการเลือกตั้งเมื่อวันอาทิตย์ที่แล้ว เพื่อจัดตั้งคณะรัฐมนตรีขึ้นมาชุดหนึ่ง แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับ ล่าสุด นายปาปูลิอัส ได้พยายามที่เกลี้ยกล่อมให้พรรคการเมืองยอมรับข้อเสนอในการจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติที่ปลอดนักการเมืองขึ้นมาบริหารประเทศ จนถึงวันนี้ (16 พ.ค.) ภายหลังการเลือกตั้งผ่านไปกว่า 1 สัปดาห์ ก็มีความชัดเจนแล้วว่า กรีซจะจัดตั้งรัฐบาลรักษาการขึ้นมา หลายฝ่ายมองว่า เป็นเรื่องยากที่กรีซจะสามารถจัดตั้งรัฐบาลผสมได้ เนื่องจากความคิดเห็นที่แตกต่างของแต่ละพรรคการเมืองเกี่ยวกับมาตรการรัดเข็มขัดที่กรีซได้ดำเนินการตามที่รับปากกับสหภาพยุโรป (อียู) เพื่อแลกกับการรับความช่วยเหลือทางการเงินจากอียู หากการจัดตั้งรัฐบาลผสมล้มเหลวจนนำไปสู่การเลือกตั้งครั้งใหม่ในช่วงกลางเดือนมิ.ย. นักวิเคราะห์ชี้ว่า มีโอกาสมากขึ้นที่พรรค SYRIZA ซึ่งได้คะแนนมาเป็นอันดับ 2 ในการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว จะคว้าชัยในการเลือกตั้งคราวนี้ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น ก็มีสิทธิที่อียูจะระงับการเบิกจ่ายเงินช่วยเหลือแก่กรีซ และจุดชนวนวิกฤตหนี้สาธารณะในยูโรโซนให้ปะทุขึ้นมาอีกครั้ง เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่า พรรค SYRIZA คัดค้านการใช้มาตรการรัดเข็มขัด ชะตากรรมของกรีซชวนให้ขนหัวลุกเมื่อมองจากระยะเวลาที่กระชั้นกระชิดเข้ามากับการเลือกตั้งที่จะจัดขึ้นในเดือนมิ.ย.  ขณะที่กรีซเองอาจจะถึงขั้นหมดเนื้อหมดตัวได้ในช่วงต้นเดือนก.ค. หากเจ้าหนี้ตัดสินใจที่จะระงับการจ่ายเงินช่วยเหลืองวดต่อไป โดยกองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF) ได้ยืนยันเมื่อวันที่ 9 พ.ค.ที่ผ่านมาว่า เงินช่วยเหลือวงเงิน 5.2 พันล้านยูโรนั้น จะมีการอนุมัติให้กรีซในช่วงสิ้นเดือนมิ.ย. หลังจากที่ได้อัดฉีดเงิน 4.2 พันล้านยูโรไปเมื่อวันที่ 10 พ.ค. ส่วนวงเงินที่เหลืออีก 1 พันล้านยูโรจะถูกอนุมัติออกมาเมื่อไรนั้น ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ทางการเงินของกรีซ ทั้งนี้ หากการประชุมเพื่อจัดตั้งรัฐบาลรักษาการไม่ประสบผลสำเร็จ ศาลสูงของกรีซจะรับหน้าที่ในการจัดตั้งรัฐบาลเฉพาะกาลขึ้นมา โดยรัฐธรรมนูญของกรีซให้อำนาจศาลสูงยุบสภาและจัดการเลือกตั้งขึ้น นอกจากนี้ เศรษฐกิจของกรีซเองก็หดตัวลงทุกปีมาตั้งแต่ปี 2551 และมีแนวโน้มว่าจะหดตัวลงถึง 4.7% ในปีหน้า ขณะที่อัตราว่างงานของกรีซก็อาจจะอยู่ที่ระดับสูงถึง 19.7% ในปีนี้ รองจากสเปน มุมมองชาวกรีซ ผลการสำรวจความคิดเห็นชาวกรีซที่จัดทำขึ้นเมื่อเร็วๆนี้ ชี้ว่า ชาวกรีซส่วนใหญ่ต้องการให้ประเทศยึดมั่นในแผนการให้ความช่วยเหลือด้านการเงิน และเป็นสมาชิกกลุ่มยูโรโซนต่อไป โพลล์ซึ่งจัดทำโดย Rass SA ระบุว่า ประชาชนที่ตอบรับการสำรวจความคิดเห็นเกือบ 54% มองว่า กรีซควรจะดำเนินมาตรการที่ได้มีการให้ความเห็นชอบกับไอเอ็มเอฟ สหภาพยุโรป และธนาคารกลางยุโรปต่อไป อีก 38% ไม่เห็นด้วยกับมาตรการดังกล่าว แม้ว่า การไม่ปฏิบัติตามมาตรการดังกล่าวจะหมายถึงการล้มละลาย นอกจากนี้ โพลล์ยังชี้ด้วยว่า พรรค SYRIZA จะเป็นผู้คว้าชัยในการเลือกตั้งครั้งใหม่ ตามมาด้วยพรรคนิว เดโมเครซี และพรรคปาสกที่คงจะได้คะแนนเสียงน้อยลง ประชาชน 2 ใน 3 ต้องการให้พรรคการเมืองกรีซจัดตั้งรัฐบาลผสมขึ้นมา แต่ที่เหลือต้องการให้จัดการเลือกตั้ง  และ 81.4% ต้องการให้กรีซอยู่ในกลุ่มยูโรโซนต่อไป ชาวกรีซมองว่า นายอเล็กซิส ซิปราส หัวหน้าพรรค SYRIZA ซึ่งปฏิเสธที่จะร่วมจัดตั้งรัฐบาลผสมนั้น ต้องเป็นผู้รับผิดชอบมากที่สุดในฐานะที่เป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดสูญญากาศทางการเมืองในประเทศ โพลล์ชี้ว่า ชาวกรีซ 37.1% คิดว่า จุดยืนของนายซิปราสในระหว่างการเจรจาเมื่อสัปดาห์ที่แล้วนั้นถือเป็นเรื่องที่เลวร้ายที่สุดในบรรดาหัวหน้าพรรคการเมืองทั้ง 7 พรรคที่ได้รับการเลือกตั้ง ชาวกรีซ 58.7% มองว่า นโยบายของนายซิปราสจะทำให้กรีซต้องออกจากกลุ่มยูโรโซนในที่สุด ภายหลังการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 6 พ.ค.เป็นต้นมา ชาวกรีซเองก็เริ่มไม่ไว้วางใจกับสถานการณ์ภายในประเทศ  ข้อมูลจากสื่อระบุว่า ชาวกรีซได้พากันถอนเงินฝากจำนวน 700 ล้านยูโร (898 ล้านดอลลาร์) จากธนาคารของประเทศเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้เกิดความวิตกเกี่ยวกับสภาพคล่องของภาคการธนาคาร ท่ามกลางสถานการณ์การเมืองกรีซที่อยู่ในภาวะยุ่งเหยิง ทั้งนี้ เมื่อเงินฝากลดลง ธนาคารของกรีซจะต้องพึ่งพาธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) มากขึ้นเพื่อรองรับความต้องการด้านการระดมทุน ซึ่งจะทำให้อีซีบีเสี่ยงที่จะขาดทุนอย่างมากหากกรีซออกจากยูโรโซน การถอนเงินฝากเมื่อวันจันทร์นับว่ามีความรุนแรงหลังจากที่ธนาคารของกรีซมียอดเงินฝากลดลงอย่างต่อเนื่องนับแต่ที่กรีซเริ่มเผชิญวิกฤติหนี้ในปี 2552 เนื่องจากผู้ฝากถอนเงินและโอนเงินไปยังต่างประเทศ ข้อมูลล่าสุดจากธนาคารกลางกรีซระบุว่า ยอดเงินฝากทั้งหมดของชาวกรีซและบริษัทในประเทศอยู่ที่ 1.6536 แสนล้านยูโรในเดือนมี.ค. มองต่างมุมจากหลากวงการ นายคอสทาส ซิมิทิส อดีตนายกรัฐมนตรีกรีซ มีความเห็นว่า กรีซจำเป็นต้องเป็นส่วนหนึ่งของยูโรโซนต่อไป และจะเกิดหายนะแน่ๆหากกรีซกลับมาใช้สกุลเงินของตนเอง ขณะที่นายฌอง คล้อด ยุงเกอร์ รัฐมนตรีคลังลักเซ็มเบิร์กและประธานยูโรกรุ๊ปยืนยันเมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา จะทำทุกวิถีทางเพื่อให้กรีซอยู่ในกลุ่มยูโรโซนต่อไป และหวังว่า จะมีการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ได้ในเร็ววัน พร้อมกับเตือนว่า กรีซจะต้องเดินหน้าต่อไปตามแนวทางเดิม เพื่อปรับโครงสร้างเศรษฐกิจประเทศ แม้ว่านโยบายรัดเข็มขัดจะถูกปฏิเสธจากประชาชนผู้มีสิทธิลงคะแนนเสียงส่วนใหญ่ก็ตาม ฟิทช์ เรทติ้งส์ ระบุในรายงานเมื่อวันที่ 11 พ.ค.ว่า ผลลัพธ์จากการเลือกตั้งครั้งใหม่จะออกมาในรูปแบบใดนั้น เป็นเรื่องที่ไม่สามารถคาดเดาได้ และยิ่งทำให้เกิดข้อกังขาตามมาว่า กรีซจะสามารถนำเสนอมาตรการรัดเข็มขัดในระยะกลางเพิ่มเติมตามเส้นตายของอียูและไอเอ็มเอฟที่กำหนดไว้ในช่วงสิ้นเดือนมิ.ย.ได้หรือไม่ นายฌอง-คล้อด ยุงเกอร์ รัฐมนตรีคลังลักเซ็มเบิร์กและประธานยูโรกรุ๊ป กล่าวภายหลังการประชุมรมว.คลังกลุ่มยูโรโซนเมื่อวานนี้ว่า ในที่ประชุมไม่มีใครระบุถึงเรื่องการออกจากกลุ่มยูโรโซนของกรีซ เรื่องนี้เป็นเรื่องไร้สาระและเป็นการโฆษณาชวนเชื่อเสียมากกว่า การที่นายยุงเกอร์ออกมาพูดเช่นนี้ สื่อต่างประเทศมองว่า เหมือนกับเป็นการส่งสัญญาณว่า กรีซอาจจะมีเวลาในการเดินเรื่องลดงบประมาณลงให้ได้ตามเป้าหมายมากขึ้น หลังจากที่กรีซไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลขึ้นมาได้ สรุป ถึงแม้การเจรจาเพื่อจัดตั้งรัฐบาลผสมกรีซจะล้มเหลวไม่เป็นท่าไปหลายรอบ แต่ในมุมหนึ่ง สถานการณ์การเมืองของกรีซก็สะท้อนให้เห็นถึงจุดยืนของนักการเมืองกรีซที่แตกต่างไปจากนักการเมืองบางประเทศที่ยอมทุกอย่างเพื่อให้ได้เป็นรัฐบาล พรรค SYRIZA ซึ่งเป็นพรรคที่ได้คะแนนเสียงเป็นอันดับ 2 และได้รับสิทธิในการเจรจาเพื่อจัดตั้งรัฐบาลนั้น ยังไงก็ไม่ยอมเปลี่ยนใจไปจับขั้วกับพรรคที่มีนโยบายแตกต่างไปจากนโยบายที่ได้มีการหาเสียงไว้กับประชาชน ต่างจากนักการเมืองในบางประเทศ ไม่ว่าตอนหาเสียงกับประชาชนจะให้คำสัญญาไว้อย่างไร สุดท้ายก็อัลไซเมอร์ กอดคอพรรคใหญ่เข้ามานั่งเป็นรัฐบาลซะงั้น จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ เขียนเมื่อ : 19 พ.ค. 55 07:06:31

ความคิดเห็นที่ 83 ขอแตกประเด็นครับ จากคุณ : The Hidden Dimension เขียนเมื่อ : 19 พ.ค. 55 08:22:18

ความคิดเห็นที่ 84 ผมว่าควรจะมองที่นิสัยของคนในชาติด้วย ซึ่งมีส่วนสำคัญมากๆต่อความเป็นไปในทางเศรษฐกิจ คนกรีซ หนักไม่เอา เบาไม่สู้ ให้เงินไป ก็ไม่ค่อยมีประโยชน์ เอาไปละลายน้ำเล่นเสียเปล่า ถึงจะลดค่าเงินได้ ก็ยังไม่มีประโยชน์ เพราะว่าไม่มีอะไรจะเอาไปส่งออก อุตสาหกรรมต่อเรือที่เคยทำได้บ้าง ก็มลายหายไปแล้ว !! ทางแก้ของยุโรป และอเมริกา อย่ามองโลกเป็นสีขาวตามตำรามากเลยครับ ยังมีอีกหลายทางที่พวกนี้ทำได้ และเคยทำอยู่เสมอ เพราะเศรษฐกิจเริ่มแย่ลงทุกที พวกนี้ลองไปศึกษาประวัติศาสตร์ ถ้าไม่ปล้นฆ่าคนทำสงคราม ผมว่าเจริญยากนะ, พวกนี้ พอหิวข้าว เดี๋ยวก็ออกไปฆ่าคนเอง ตามสัญชาติญาณ ทางแก้ของฝรั่งก็คือ 1) บีบให้ชาติเอเชียที่รวยๆ บริจาคเงินให้ฟรีๆ เช่นญี่ปุ่น อาหรับ สิงคโปร์ 2) ทำสงคราม ฆ่าคน ปล้นน้ำมัน โดยอ้างเหตุผลทางด้านศีลธรรมหรูหรา เดี๋ยวเศรษฐกิจก็ฟื้น ใข่มั้ยครับ ? ถ้าอยากเข้าใจปัจจุบัน ให้ดูที่ประวัติศาสตร์ ถ้าอยากรู้อนาคต ให้มองที่ปัจจุบัน จากคุณ : The Hidden Dimension เขียนเมื่อ : 19 พ.ค. 55 08:30:47