Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
รำลึึกถึงคุณ Teety (ุ้มีความรู้ในการลงทุนมากๆท่านหนึ่งที่ไม่เข้ามาให้ความรู้ในห้องสินธรแล้ว) ติดต่อทีมงาน

คิดถึงคุณTeety อยากให้กลับมา คิดถึงมากครับ

ขออนุญาต ณ ที่นี้ นำกระทู้เก่าที่คุณTeety ได้เคยโพสไว้ในห้องสินธรเมื่อปลายปี 2554 และผมได้เซฟเอาไว้ วันนี้ได้เปิดมาอ่านเห็นว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีมีประโยขน์จึงขอนำมาถ่ายทอดต่อ เป็นวิทยาทาน และขอมอบความดีทั้งหมดให้กับคุณ Teety เจ้าของกระทู้ นะครับ
(กระทู้ยาวสักนิดนะครับ ค่อยๆอ่านแล้วกัน มีประโยชน์กับมือใหม่มากแน่นอนครับ)


พี่น้องเอ๊ยยยย Teety จะสอนบทเรียนราคาแพงให้กับพี่น้องอีกสัก 1 บท ( คัดจากห้องสินธร คุณที่ใช้นามแฝงว่า Teety)
การลงทุนในตลาดหุ้น มันไม่เหมือนการล่ะเล่นในเกมส์อื่นๆ โดยทั่วไป การเล่นหุ้น คือ ศาสตร์+ศิลป์+กึ๋น อย่างแท้จริง !

วิทยา ศาสตร์มันใช้ไม่ได้กับตลาดหุ้นไทย เนื่องจากตลาดหุ้นมันไม่ใช่ตรรกะ 1+1 ที่จะต้องเท่ากับ 2 ผลลัพพ์ที่จะออกมาจาก 1+1 อาจจะเป็น 1 หรือ 1.5 หรือ 2 หรือ 3 ก็ได้ เนื่องจากตลาดหุ้น คือ เกมส์กินเงินซึ่งกันและกัน นั่นคือ การชิงไหวชิงพริบกันซึ่งและกันนั่นเอง โดยมีฝรั่ง (หัวดำหรือแดงก็ได้) เป็นเจ้ามือใหญ่ รายย่อยใหญ่ไม่จริง เนื่องจากรวมตัวกันไม่ได้ ต่างคนต่างคิด ดีใจก็ซื้อ ตกใจก็ขาย ความคิดของรายย่อยไม่มีระบบ การที่รายย่อยไม่มีระบบทางด้านจิตใจนี่ล่ะครับ จุดอ่อนตรงนี้ เขาใช้เป็นเครื่องมือเพื่อกอบโกยผลประโยชน์จากรายย่อยไทย เรียกว่า "สูบ" เงิน สูบเลือดสูบเนื้อจากรายย่อย ผ่านราคาหุ้น เขารู้ว่า ทุบแดงหนักๆ จัดๆ คุณต้องขาย ลากขึ้นไปเขียวๆ คุณต้องอยากซื้อชัวร์

รายย่อยไม่รู้จังหวะว่า ตรงไหนควรและไม่ควรที่จะเข้าไปซื้อ โอกาสไหน จังหวะไหน ควรขาย

ราย ย่อยส่วนใหญ่มี "ความโลภ" เป็นที่ตั้ง แต่มักไม่ค่อยใช้สติปัญญาที่ตนเองมีอยู่ (ทุกคนมีสติปัญญา) นำออกมาใช้เพื่อวิเคราะห์จุดซื้อหรือขายให้กับตนเอง ใช้ความกลัวและความโลภเป็นเครื่องมือนำหน้าความคิดในการตัดสินใจเพียงอย่าง เดียว รายย่อยไทยเราจึงมักจะ "เสียท่า" ให้กับเจ้ามือเสมอๆ อันที่ จริงแล้ว เงินจากตลาดหุ้นไทย หาง่ายมาก แต่คุณจะต้องไม่เล่นคร่อมจังหวะของตัวเอง คิดใหม่ ทำใหม่ซะนะครับ ไม่งั้นก็รุ่งยากสำหรับวิชาชีพนี้

การลงทุนในตลาดหุ้นเป็นวิชาชีพ ที่ดีที่สุดในโลก ! นั่งห้องแอร์สบายๆ ไม่ต้องทำงานหนัก ไม่ต้องมีหน้าร้าน ไม่ต้องมีลูกจ้าง-นายจ้าง ไม่ต้องปวดหัวกับคู่แข่งทางธุรกิจ ไม่ต้องกลัวโดนปล้นเนื่องจากคุณรวยจากการเล่นหุ้น หากคุณไม่ไปโพทนาว่าคุณกำไรเท่าไหร่ๆ ใครๆ ก็ไม่รู้ เสาร์-อาทิตย์ก็ได้หยุดพักผ่อนเต็มที่ ที่ตลาดหุ้น มีเงินให้หยิบออกไปจากตลาดหุ้นทุกวัน ยกเว้นวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ และวันวันนักขัตฤกษ์

จะเป็นนักลงทุนในตลาดหุ้น คุณจะต้องมีเครื่องมือครบชุด มีพอร์ตเล่นหุ้นเพียงอย่างเดียว ไม่พอ ! ครับ พอร์ต Tfex ก็สำคัญมาก สามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้หลายรูปแบบ

หากนัก ลงทุนไทย มีพอร์ตหุ้นอย่างเดียว ก็เท่ากับส่วนใหญ่รอความตาย แบบตายผ่อนส่ง เนื่องจากคุณจะต้องรอให้หุ้นที่คุณซื้อมันจะต้องวิ่งขึ้นอย่างเดียวคุณจึงจะ ได้ตังค์ แต่ชีวิตจริงๆ ของคน และตลาดหุ้น มันไม่ใช่อย่างนั้น เมื่อใดที่คุณเจอข่าวร้ายท่วมโลก สีแดงท่วมจอ ! นอกจากคุณจะพ่ายแพ้ให้กับตลาดหุ้นแล้ว คุณยังพ่ายแพ้ต่อชีวิตประจำวันด้วย นั่นก็คือ ในแต่วันที่คุณจะต้องรอคอยให้ราคาหุ้นมันดีดกลับขึ้นมาให้คุณเท่าทุนหรือมี กำไร คุณต้องกินต้องจ่ายต้องใช้เงินทุกวัน เท่ากับยังไงคุณก็แพ้ เว้นเสียแต่ คุณเป็นคนโชคดีมากๆ ที่ราคาหุ้นที่คุณติดอยู่หรือถืออยู่นั้นๆ มันมีกำไรให้คุณมากมายจนสามารถเอาชนะค่าใช้จ่ายเหมารวมทั้งหมดที่คุณเสีย เวลาไปกับหุ้นนั้นๆ ได้ ซึ่งเหตุการณ์แบบนี้จะมีสักคนที่จะโชคดีอย่างนั้น

การ ถือหุ้นเพื่อลงทุนระยะยาว เนื่องจากเห็นว่าดีกว่าฝากแบ็งค์ หรือตั้งใจมาซื้อหุ้นเพื่อถือกินปันผล ก็เป็นความคิดที่ผิดมาก ราคาหุ้นที่คุณสูญเสียไปจากการที่สภาวะตลาดหุ้นตกต่ำ โดยคุณไม่กล้าที่จะตัดสินใจขายทิ้ง มันคุ้มกันไหมกับเงินปันผลที่คุณได้มา (ลองคิดดู)

หากอยากจะเล่นหุ้นในลักษณะของการลงทุนดีกว่าฝาก แบ็งค์หรือคิดว่าจะกินปันผล สู้คุณ รอ รอ รอ และรอ ให้เซ็ตไทยตกต่ำมากๆ แล้วจึงเข้ามาซื้อ โดยถือรอสักระยะหนึ่ง เมื่อเซ็ตไทยผ่านพ้นข่าวร้ายกลายมาเป็นขาขึ้น หรือเทคนิเคิ้ลรีบาวน์ คุณจึงค่อยขาย จะเป็นวิธีที่ดีกว่า การพยายามที่จะคิดในแบบแรกกับคำว่า ดีกว่าฝากธนาคารหรือกินปันผล โดยเฉลี่ยแล้ว ปีหนึ่งๆ เซ็ตไทยจะตกต่ำ 100-200-300 จุดให้เห็นๆ เสมอ ปีล่ะประมาณ 2-3 ครั้งแทบทุกปี คุณรอจังหวะอย่างนี้ ตกหนักๆ มาซื้อ ขึ้นแรงๆ มาขาย จะดีกว่า

การ เล่นหุ้นนั้นง่าย ใครๆ ก็เล่นได้หากมีเงิน เปิดพอร์ตและเทรดน์ก็เท่ากับเล่นหุ้นแล้ว แต่การที่จะเป็นผู้ที่ประสบความสำเร็จในด้านการลงทุนที่ดีได้นั้นๆ ค่อนข้างจะยากหน่อย แต่ไม่ใช่ว่าจะทำไม่ได้

มือใหม่กับมือเก่า ต่างกันตรงที่ เวลาที่มือใหม่เห็นผี มือเก่าจะเห็นเป็นพระ เวลาที่มือใหม่เห็นพระ มือเก่าจะเริ่มเห็นเป็นผี !

นั่นหมายความว่า มือใหม่ส่วนใหญ่มักจะคิดในลักษณะตรงกันข้ามกับความร่ำรวย

ราคา หุ้นต่ำๆ ถูกๆ ไม่ซื้อ เพราะเชื่อว่า ถูกแล้วมีถูกอีก ฯลฯ ซึ่งการคิดอย่างนั้น ไม่จำเป็นจะต้องถูกหรือไม่จำเป็นจะต้องผิดเสมอไป มันอยู่ที่ดุลพินิจ สติปัญญา การอ่านเกมส์ + กึ๋น ของผู้ซื้อเอง ว่าสมควรซื้อได้หรือยัง

รายย่อยส่วนใหญ่มักนิยมซื้อเมื่อเขียว ยิ่งเขียวจัดๆ ยิ่งจะเพ้อฝันและบ้าระห่ำ ประมาณว่า "ชอบแสงสี" ที่นี่คือ ตลาดหุ้นนะครับ ไม่ใช่ดิสโก้เธค เห็นแสงไฟแว๊บๆ แล้วจะได้ยิ่งมัน ตลาดหุ้นยิ่งเขียวมากเท่าไหร่ โอกาสที่จะเจ็บตัวก็มีมากยิ่งๆ ขึ้นไปเท่านั้น เขียวมากก็ดอยสูงมาก มันคือ "สัจธรรม"

ร้อยล่ะ 95  ไม่มีกลุ่มเจ้ามือคนไหนหรอกครับ ที่จะหลอกล่อเชิญชวนให้คุณเข้ามาซื้อหุ้นต่อจากเขา ด้วยการทำให้แดง เขาจะหลอกล่อให้คุณเข้ามาซื้อหุ้นต่อจากเขา ด้วยการปั่นเขียว เขียว เขียวแล้วเขียวอีก เพื่อล่อให้คุณมือใหม่หรือรายย่อย หักห้ามใจตัวเองไม่ได้ ก็ผสมโรงเข้าไปร่วมเล่นกับเขา สุดท้าย คือ ติดหุ้น ราคาสูงลิบลิ่ว

และ วิธีการของหายนะ หรือภัยพิบัติที่รายย่อยนิยมชอบใช้เสมอๆ คือ กำไรรอบแรกด้วยจำนวนหุ้นน้อยๆ เมื่อหุ้นขึ้นก็ซื้อเพิ่มหนัก ยิ่งขึ้นเยอะก็ยิ่งจะเพิ่มปริมาณหุ้นมากขึ้น เหมือนปิระมิดกลับหัว หากคุณพยายามทำอย่างนี้ คุณรอ "เจ๊ง" หุ้นได้เลย เนื่องจากที่เมื่อใดที่คุณไปเจอหุ้นที่คุณผิดจังหวะสักตัวหนึ่ง กำไรที่เคยได้จากหุ้นนั้นๆ หรือจากหุ้นตัวอื่นๆ มาโดนหุ้นผิดจังหวะตัวเดียว ก็สามารถล้างกำไรจากหุ้นต่างๆ ที่คุณเคยได้หมดเกลี้ยงได้ง่ายๆ เผลอๆ บางคนก็ติดลบกำไรไปด้วยเลย "แสบ" ไปเลย

การลงทุนมีความเสี่ยง
แต่ในเมื่อความเสี่ยงนั้นๆ เป็นไปได้ทั้ง 2 ด้าน คือ เสี่ยงที่จะรวย กับเสี่ยงที่จะจนลง และคุณก็เลี่ยงมันไม่ได้ ที่จะต้องลงมือที่จะเสี่ยง เพื่อให้ได้มาซึ่งด้าน +

คุณก็จะต้องมีวิธีการจัดการบริหารความเสี่ยงนั้นๆ

เช่น ดูให้มั่นใจซะก่อน ก่อนที่จะลงมือกระทำการซื้อหรือขาย การซื้อหรือขายหุ้น คุณก็จะต้องรู้ถึงหลักการวิธีการทยอยซื้อและทยอยขาย ไม่จัดไม้เดียวแบบเต็มแม็กซ์ เนื่องจากคุณเองยังไม่ใช่มืออาชีพ หากคุณเป็นมืออาชีพหรือนั่งติดกับคนทำราคาหุ้น ก็ว่าไปอย่าง

เชื่อเถอะ ก่อนที่คุณจะเป็นมืออาชีพ คุณจะต้องเซฟตัวเองให้มากกว่านี้ครับ ไม่งั้นคนที่จะเดือดร้อน คือ ตัวคุณเอง ! สิ่งที่ผ่านไปแล้ว เราไม่สามารถที่จะย้อนอดีตวันเวลาที่จะกลับไปแก้ไขสิ่งที่ผิดพลาดไปแล้วนั้นๆ ได้

ปัจจุบัน เราจะทำอย่างไร กับสิ่งที่มันผิดพลาดไปแล้ว เช่น การติดหุ้นในราคาสูง ฯลฯ

การที่จะเป็นนักลงทุนที่ดีได้นั้น "จิตใจ" ก็สำคัญอย่างยิ่งครับ

การควบคุมอารมณ์หรือสติของตนเองได้กับสิ่งที่มันจะเกิดขึ้นเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก

เวลาที่สภาวะตลาดหุ้นตกต่ำ คนส่วนใหญ่มักจะ "จิตตก" ตามสภาวะตลาด

เรา จะจิตตกไปทำไมครับ ในเมื่อสิ่งนั้นๆ ที่มันเกิดขึ้นกับตลาดหุ้นไทย หรือทั่วโลก มันไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นกับเราเพียงลำพังคนเดียว (ซะเมื่อไหร่) มันเกิดกับคนทุกคนที่จะต้องรับสภาพเช่นนั้นร่วมกันทั้งตลาด


2 สัปดาห์ก่อน ทุกคน หมดแรงกายใจ บ้างก็ไม่อยากจะต่อสู้ชีวิตอีกต่อไปแล้ว

วันนี้ ตลาดหุ้นทั่วโลกพร้อมทั้งไทยก็ดีดเด้งรีบาวน์กลับมาเล่นเขียวๆ แทนที่จะเล่นแดงๆ ทุกคนเริ่มกลับมามีรอยยิ้มได้อีกครั้ง Teety ก็ยินดีด้วย


แต่ อยากจะบอกกับทุกคนว่า คุณและคุณและคุณ ไม่ใช่เจ้ามือหุ้นนั้นๆ ที่คุณติดอยู่ ฉะนั้นคุณจะไม่สามารถที่จะรู้ได้เลยว่า ราคาหุ้นมันจะเด้งดีดกลับมาให้คุณได้ออกตัวได้หรือเปล่า หรือกลับขึ้นมาให้คุณได้ขายเท่าทุนหรือกำไรได้หรือเปล่า

ในเมื่อไม่ รู้ ก็จงอย่าเกี่ยงงอนต่อรองราคามากนักนะครับ หากราคาหุ้นนั้นๆ พยายามที่จะวิ่งขึ้นมา เพราะว่า นี่อาจจะเป็นโอกาสเพียง 1 เดียวที่อยู่ในมือคุณที่จะได้ขายมันออกไปโดยไม่เจ็บตัวมากมายนัก ดีกว่าขายเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนเยอะเลย (จริงไหม)
จากคุณ : teety  

อีกเรื่องหนึ่งนะครับ ที่อยากจะ "เตือน" ด้วยความเป็นห่วง

การ เสพข้อมูลจากที่นี่ และจากเว็บไซต์ต่างๆ โดยมีกูรูคนนั้นคนนี้ พูดถึงหุ้นตัวนั้นตัวนี้ ให้ท่านรับทราบ หรือบอกว่าดีอย่างนี้อย่างนั้น ก่อนลงมือซื้อหุ้นนั้นๆ ให้ทำการบ้านให้ดีก่อนทุกครั้งครับ โดยเฉพาะพวกกลุ่มหุ้นตัวเล็กๆ หรือหุ้นปั่นต่างๆ อย่าไปตกเป็นเครื่องมือให้กับมิฉาชีพดังกล่าว

กูรูหลายคนนั้นๆ ที่จริงใจก็มี จริงโจ้ (หลอก) ก็เยอะ

การที่เขาเอาตัวหุ้นปั่นต่างๆ มาคุยบอกกับท่าน โดยมีลับลมคมในต่างๆ ต้องคุยกันในที่ลับๆ บ้าง หรือใดๆ ก็ตามที

เนื่องจากเขาต้องการสร้างระบบ "เม่าลูกโซ่" ครับ

สมมุติ เขาซื้อหุ้นตัวหนึ่งไว้ก่อนแล้ว ปรากฏว่าหุ้นตัวนั้นๆ ไม่วิ่งขึ้น หรือกำลังจะไหลลง เขาก็มาบอกต่อเพื่อให้คนอื่นๆ มาเป็นเม่าให้กับหุ้นดังกล่าวของเขา คิดดูครับ บอกคน 10-20-30 หรือ 50 คน มีคนเริ่มช่วยกันซื้อหุ้นตัวนั้นๆ ร่วมกัน ราคาหุ้นตัวนั้นๆ ก็สามารถเดินหน้าได้แล้วครับ คนที่บอกคนแรกก็สบโอกาสขาย ปล่อยให้คนที่เชื่อหรือศรัทธากูรูคนนั้นๆ ไปฟัดกันเองในกระดาน เป็นตายเท่ากัน ส่วนตัวเขากำไรไปเรียบร้อยแล้ว

กูรูจอมปลอมบางคน หลังจากที่บอกเสร็จ ตบหุ้นนั้นๆ ด้วยตนเองก็มีครับ เพื่อเป็นการจูงใจให้คนเห็นว่า หุ้นจะขึ้นจริงๆ ตามที่เขาบอก

กลุ่ม คนพวกนี้ มิตรรักแฟนเพลงทุกคน จงมีสติไว้ให้ดี อย่าไปเล่นเลยครับ หาหุ้นดีๆ หุ้นพื้นฐานเล่นดีกว่าครับ แพงแต่ชัวร์ ไม่เสียรู้คนหลอกคนด้วย สบายใจกว่ากันเยอะครับ
จากคุณ : teety  
นั่นคือหลักเบื้องต้นในการการเล่นหุ้นครับ

จริงๆ ยังมีอีกหลายอย่างมากครับ ผมเขียนเท่าไหร่ๆ ก็คงจะเขียนได้ไม่หมด

เช่น การจัดพอร์ต ก็มีความจำเป็นในการเล่นหุ้นครับ

แต่ก็ค่อยๆ ว่ากันไปทีล่ะอย่างครับ

เอาเรื่องการทยอยซื้อและขายก่อนครับ

หลักการทยอยซื้อ คือ การแบ่งจำนวนหุ้นที่คุณคิดจะซื้อจริงๆ ออกเป็นส่วนๆ

เช่น จะซื้อหุ้นตัวหนึ่งจำนวน 1 แสนหุ้น ไม้แรกลงไปแค่ 3-4 หมื่นหุ้นไปก่อนครับ หากซื้อแล้ววิ่งขึ้น จึงค่อยซื้อเพิ่ม หากซื้อไม้แรกแล้ว ราคาหุ้นไหลลง คุณต้องหยุดซื้อทันทีครับ ปล่อยไว้อย่างนั้น และรอดูไปเรื่อยๆ หากมันยังไหลลงอีกในระดับ 5-10% ต้องสับทิ้งแล้วครับ แสดงว่าจังหวะที่เขาเข้าไปนั้นๆ ไม่ใช่จังหวะที่ตัวหุ้นนั้นๆ จะวิ่งขึ้น หุ้นมันจะไหลลงต่างหาก เท่ากับเรามองหุ้นตัวนั้นๆ ผิดทางแล้ว การที่เราสับขายทิ้งในจำนวน 3-4 หุ้น เราจะขาดทุนไม่มาก เพราะเราไม่ได้ซื้อเต็มทั้งจำนวน หากซื้อเต็ม 1 แสนหุ้นเต็มจำนวนก็เท่ากับเจ็บมากกว่า

การทยอยขาย เมื่อราคาหุ้นที่เราซื้อไว้นั้นๆ วิ่งขึ้นโอเวอร์บอทแล้ว โอเวอร์บอทอีก หรือวิ่งขึ้นมาในระดับที่เราคิดว่าเหมาะสมดีแล้ว เราค่อยๆ ขาย อย่าขายไม้เดียวจนหมด เพื่อเป็นการป้องกันการขายหมูครับ แต่หากเหตุการณ์ผลิกผัน ราคาหุ้นกำลังจะดิ่งหนักๆ เราไม่ต้องทยอยขายครับ ให้เทขายไม้เดียวเต็มจำนวนไปเลยครับ
จากคุณ : teety  



อย่าเดินในทางนั้นกับเขา จงยับยั้งเท้าของเจ้าจากวิถีของเขา "

วันนี้มีเรื่องที่จะคุยกันหลายเรื่อง+หลายประเด็นมากๆ ครับ
เอาทีล่ะประเด็นนะครับ
1. เรื่องของการตอบคำถามหน้าไมค์ และหลังไมค์ครับ
ในปัจจุบัน มีการส่งคำถามเข้ามามากมายครับ และ Teety ก็ตอบทุกคำถามของทุกคนครับ
ปัจจุบัน ขอให้ คำถามที่จะถามนั้นๆ อย่าเป็นคำถามซ้ำไปซ้ำมานะครับ ควรจะมีการตรวจทานดูก่อนว่า คำถามนั้นๆ ได้เคยถูกถามแล้วหรือเปล่าในวันนั้นๆ โดยคนถามที่หน้าไมค์จะได้รับคำตอบก่อนคนที่ได้สอบถามที่หลังไมค์นะครับ เนื่องจากที่หน้าไมค์ในกระทู้คำถามเป็นคำถามที่เห็นชัดเจน (ตัวหนังสือใหญ่ดีครับ) อ่านง่าย ส่วนคำถามหลังไมค์ ระหว่างเทรดน์ Teety อาจจะไม่สามารถที่จะตอบคำถามได้ครับ ยกเว้นว่าว่าง+สะดวกอยู่พอดี เนื่องจาก Teety จะต้องเทรดน์หุ้นของตัวเองด้วยครับ ฉะนั้นท่านที่สอบถามที่หลังไมค์จะต้องทำใจไว้ก่อนว่า "ท่านอาจจะได้รับคำตอบที่ไม่ทันใจในทันที" ครับ เรื่องนี้ Teety จะต้องขออภัยไว้ ณ โอกาสนี้ด้วยครับ  
และขอบอกว่า "ยังยินดีตอบทุกๆ คำถาม" เพื่อเป็นส่วนๆ หนึ่งที่จะทำให้เจ้าของคำถามสามารถนำคำตอบที่ได้นั้นๆ ไปเป็นประโยชน์ต่อการลงทุนของตนเองครับ
ในข้อ 1. นี้ เห็นใจและเข้าใจน้อง Teety ด้วยนะเด้ออ้ายยยยยยย คริ คริ
2.วันนี้อยากจะบอกว่า "เม่าไทย" หากอยากจะประสบความสำเร็จด้านการลงทุน คุณจะต้องพร้อมครับ !
จะต้องเก่ง บุ๋น + บู๊ ครับ
เน้นซื้อหุ้นแล้วเดินจากไปอย่างเดียวไม่ได้ จะต้องเข้าใจว่า Tfex + DW คือ อะไร อะไรคือ S อะไรคือ L อะไรคือ Put อะไรคือ Call
ผิด ทางทำอย่างไร การล็อคพอร์ต Tfex ทำอย่างไร การตั้งจุดสต็อปล็อตไว้ล่วงหน้าทำอย่างไร ? เรื่องแบบนี้ สอบถามกับเพื่อนๆ ที่นี่ หรือสอบถามมาร์ฯ ได้ครับ
ทำไม การเล่นหุ้นที่ดี จะต้องเรียนรู้ให้หลากหลาย เนื่องจากปัจจุบัน สถานการณ์มันเปลี่ยนไปหมดแล้วครับ เมื่อก่อนการเล่นหุ้น ไม่มีอะไรมาก ซื้อแล้วหุ้นขึ้น ก็ได้ตังค์ ซื้อแล้วลง ก็ติดหุ้น
แต่ปัจจุบัน สร้างภาพตลาดหุ้นอย่างหนึ่ง จงใจได้กำไรจากอีกเส้นทางหนึ่ง ฯลฯ ฉะนั้นคนที่เล่นหุ้นอย่างเดียว "เสียเปรียบ" และเติบโตยากครับ เนื่องจากระยะเวลาที่คุณสูญเสียไป มันไม่คุ้มกับรายจ่ายในชีวิตประจำวันที่คุณจะต้องเผชิญในแต่ล่ะวัน
ลอง คิดถึงหลักความเป็นจริงครับ หากคุณมีรายจ่ายส่วนตัว สมมุติปีล่ะสัก 2 แสนบาท (เป็นตัวเลขสมมุติ) แต่คุณติดหุ้น 1-2 ปี จะได้ปันผลหรือไม่ได้ปันผลก็ตามที เท่ากับคุณแพ้แล้วครับ แพ้ค่าใช้จ่ายที่จะต้องจ่ายจริงออกไป แต่รายได้ไม่มี หรือมีน้อยกว่าเงินที่คุณลงทุนไป หากคุณขาดทุนตัวหุ้นนั้นๆ อีก ไปกันใหญ่ครับ = "ล้มเหลว"
3.การเล่นหุ้นจะให้ได้ดีนั้นๆ อย่าทำให้เงินของคุณจะต้อง "ตาย" นะครับ
เมื่อ คุณไม่รู้จักการพลิกแพลงหรือการคัดลอสเสียแต่เนิ่นๆ คุณติดหุ้น ขยับเขยื้อนอะไรไม่ได้เลย ต่อให้มีโอกาสสวยๆ ดีๆ ยังไง คุณก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี เนื่องจากคุณไม่สามารถที่จะฉกฉวยโอกาสที่ดีนั้นๆ ได้
4.อย่าเฉลี่ยขาลงกับหุ้นใดๆ ก็ตามที ที่คุณไม่รู้จริงๆ ว่า มันจะขึ้นไปได้อีกหรือเปล่า
ระหว่าง การเฉลี่ยขาลง คุณยอมคัดลอสไปดีกว่าครับ แล้วค่อยมาซื้อที่ต่ำกว่า อย่าปล่อยให้ "เสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่าย" อย่าใช้คำว่า "คิดว่า+น่าจะ" กับการลงทุนครับ "หมดตัวได้ง่ายดายมาก"
5.อย่าหวังกินปันผลลมแล้งๆ โดยราคาหุ้นไหลลงแทบตาย แต่ยังปลอบใจตัวเองว่า "ไม่เป็นไร .. เราหวังปันผล"
ปัน ผลมันไม่คุ้มกับราคาหุ้นที่เสียไปครับ จงอย่าพยายามหลอกตัวเองด้วยคำว่า "ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร" ยกเว้นคุณตั้งใจที่จะมาทำอย่างนั้นจริงๆ คือ ต้องการหวังการกินปันผลจริงๆ เรื่องนี้ก็ล่ะไว้ในฐานที่เข้าใจกันและกัน
6.จงอ่าน อ่าน อ่าน และฟัง อย่างมีสติ และจงอย่าเชื่อใครๆ ทั้งนั้น แม้นกระทั่ง Teety เองด้วย
อ่านและทำความเข้าใจกับทุกเนื้อหาจากทุกคน ด้วยการให้เกียรติ์ซึ่งกันและกัน
และก่อนที่จะมีการลงมือกระทำการใดๆ ก็ตามที จงมี "สติ" ครับ
7.จงอย่าเรียนรู้ที่จะเป็นผู้ตามเพียงอย่างเดียว จงเรียนรู้ที่จับปลาด้วยตนเองด้วยนะครับ
Teety และผู้ที่มีความจริงใจกับคุณทุกคน จะไม่สามารถจะอยู่กับคุณทุกๆ คนได้ตลอดเวลา+เสมอๆ ทุกอย่างอยู่ที่โชคชะตาชีวิตต่อกันด้วยจ้า สักวันหนึ่งก็จะต้องมีการ "พราก" จากกัน ตามหนทางและชะตาชีวิตของคนผู้นั้นเราอาจจะเรียกว่า "พรหมลิขิต"
8.จงกล้าที่จะซื้อหุ้นเมื่อมีโอกาสอำนวย และจงขายอย่างหนักหน่วงเมื่อมันถึงเวลาที่จำเป็น
Teety สอนให้คุณรู้จักการทยอยซื้อและทยอยขาย
เนื่องจากรู้ว่า "เม่าไทยมือใหม่" หลายๆ คนยังไม่แม่นไม่ชำนาญในการอ่านราคาหุ้น คุณจึงจำเป็นที่จะทำอย่างนั้นครับ
ส่วน ตัว Teety เอง จังหวะที่เข้าตา ไม้เดียวครับ จัดเต็มแม็กซ์ ไม่ค่อยเข้าตาก็กลับมาที่ทยอยซื้อเหมือนกันครับ ส่วนการขาย Teety มักไม่ทยอยขายครับ จัดหนักเต็มลำครับ โดยไม่สนใจว่า ขายไปแล้ว มันจะขึ้นไปอีกหรือเปล่า หรือจะขายหมูไหม ตราบใดที่เราไม่ใช่เจ้ามือปั่นหุ้น จงอย่าพยายามทำในสิ่งที่ไม่เคยมีใครทำได้ในโลกแห่งการลงทุน คือ "ซื้อที่โลว์สุด ได้ขายไฮน์" ทุกครั้ง! จงอย่าพยายามเอาเรื่องเพ้อฝัน มาทำให้เป็นเรื่องจริงเลยครับ "ประสาท"! เปล่าๆ    .... ฮ่า ฮ่า + คริ คริ + เด้อตะลาล้า (ด้วย)
9.บางอย่างมันสอนกันไม่ได้จริงๆ ทุกอย่างจะต้องผ่านคำว่า "เพาะบ่ม" !
มีหลายๆ คนมากมายเข้ามาสอบถามว่า Teety ใช้อินดี้อะไรในการดูเซ็ตไทยเนื่องจากเขาเห็นว่า Teety แม่นยำดี
Teety บอกตรงๆ ครับ ไม่เคยคิดจะอมภูมิเลยครับ แต่ไม่รู้จะอธิบายเป็นคำพูดได้ยังไง สถานการณ์ในตลาดหุ้นไม่เคย "ตายตัว" เปลี่ยนแปลงได้ตามสภาวะสิ่งแวดล้อมที่เป็นปัจจัยรุมเร้าเข้ามากระทบทั้งด้าน ดีและด้านที่ไม่ดี "ความคิดที่แตกฉาน" ไม่ใช่สูตรตายตัว มันเกิดจาก "สติ+ปัญญา+การอ่านเกมส์" ของคนผู้นั้นเอง จึงไม่ใช่หลักสูตรที่จะเอามาเขียนเป็นสูตรแบบท่องสูตรคูณให้อ่านกันฟังได้ ครับ
เปรียบได้ดัง "เหล้าดี" ทำไมจะต้องเพาะบ่มนาน จึงจะมีรสชาดดี
การ เล่นหุ้นก็ฉันใดฉันนั้น จะเร่งเก่งอย่างฮีโร่ในชั่วข้ามคืนก็เป็นเรื่องยาก ส่วนใหญ่ มักจะเป็น "เหล้าปลอม" ซะมากกว่าครับ (กินเข้าไปแล้ว ตาบอด)

10. ข้อนี้ สำคัญ ทำไม จึงยังให้ "รอ" ยังไม่ให้ซื้อหุ้น แต่เล่นพวก Tfex + Dw ไปพลางๆ ก่อนได้
เนื่องจาก "ใครๆ ก็ต้องการกำไรทั้งนั้น" ไม่ว่าจะเป็นคุณหรือผม หรือฝรั่งหรือกองทุยหรือปอบผีฟ้า
จะเข้าไปเล่นกับเขา "จะต้องดูต้นทุนของตัวเองก่อน" ด้วยครับ
ราคาที่สูงแล้วสูงอีกในสภาวะอย่างนี้ เข้าไปเสี่ยงเพื่ออะไร?
อยากได้กำไรเขา 3-5 ช่อง แต่อาจจะเสี่ยงโดนเป็นบาท หรือโดนระดับ 10-25% มันเป็นการเล่นหุ้นที่ช่าง "โง่เขลา" เสียนี่กระไรเลย
ไม่ ว่าเขาจะทำยังไง จะลากไปที่ 970-980 จุด หรือจะโดนทุบจนหลุด 950 จุด หรืออย่างไร คุณก็ไม่สมควรที่จะเข้าไป "ตุ๊ย" กันกับเขา เนื่องจากเขามีต้นทุนราคาหุ้นที่ต่ำกว่าคุณเยอะเลย
ลองคิดถึงหลัก ความจริงครับ Teety กำไรมา 3 ชุดแล้ว ยังห่วงใยในทหารหาญ(เงิน)ของตัวเองถึงเพียงนี้ แล้วคุณล่ะ กำไร! กันมากมายเพียงใดแล้ว จึงจะทุ่มสุดตัวกับหมากเกมส์นี้ โดยที่ฝรั่งก็เริ่มกลับมาขายบ้างแล้ว
เขาทุ่มทุนซื้อมาแล้ว 27,000 - 28,000 ล้านบาท เขาขายทำกำไรหรือปรับพอร์ตบ้างไม่แปลกครับ แต่คุณจะเสี่ยงได้ยังไง คุณรู้หรือครับว่า เขาจะขายออกเท่าไหร่? หากเขาจะเลิกไปเลย เนื่องจากเขาก็ปั่นราคาหุ้นมาไกลพอควรแล้ว สามารถเทขายได้แล้ว คุณก็ไปห้ามเขาไม่ได้ !  จริงไหม ?

และการที่ รายย่อยคิดว่า "ฝรั่งติดหุ้น" เรื่องนี้ไม่จริงเลยสักนิดเดียว "เอาศรีษะเป็นประกัน" แต่ขี้เกียจเขียนอธิบายนะครับ เนื่องจาก Teety จะเริ่มเหมื่อยนิ้วแล้วครับ คริ คริ
ฝรั่งขายปรับพอร์ต ดูกันไปก่อนครับ ขายมากน้อยเท่าไหร่ อย่างไร ต้องใช้ระยะเวลาดูครับ "อย่าเสี่ยง" แบบคนดีเดือดเพื่อที่จะได้ตังค์ แต่จงสุขุมแบบคนมีสติ เพื่อที่จะมีกำไรงามๆ จะดีกว่ามากเลย
คำว่า "ตกรถ" ไม่เคยมีในพจนานุกรมของ Teety และเพื่อนๆ ของ Teety เลยครับ (อยู่ที่ว่าเราไปเที่ยวพักผ่อนหรือเปล่าเท่านั้นเอง)
ไว้เมื่อถึงโอกาส จะมาสอนเรื่องการกันการตกรถให้นะครับ
วันนี้ คงจะสรุปไว้แต่เพียงนี้ก่อน เด้ออ้ายยยยยยยยยยย

ก่อนจากกันจริงๆ ขอเขียนจากใจจริงอีกเรื่องนี้
เนื้อหา ด้านบนนี้ หากไปกระทบกระเทือนความรู้สึกของใครไปบ้าง Teety ขออภัยครับ ไม่ได้มีเจตนาจะลบหลู่ดูหมิ่นใครเลย หรือคิดจะทำลายความรู้สึกด้านจิตใจใครใดๆ ทั้งสิ้นครับ
แต่มันจำเป็นที่จะต้องเขียนให้ "เม่ามือใหม่" ได้ตระหนักถึงความเป็นจริงต่อโลกแห่งการลงทุนครับ
Teety จะต้องขออภัยจากใจจริงนะครับ หากเนื้อหาด้านบนนั้นๆ มันไม่ค่อยสุภาพในบางหัวข้อครับ  

ส่วนบัญญัติทั้ง 10 ประการที่ Teety ได้เขียนให้อ่านกันนั้นๆ

มีข้อสรุปครับว่า "จงหันกลับ เพราะคำตักเตือนของเราดูเถิด และเราจะเทวิญญาณของเราให้เจ้า"

อ่านเนื้อหาพลางๆ คลิกฟังคลิปของ Teety กันบ้างนะครับ เพลงเพราะดีครับ

ค่อยเจอกันใหม่ครับ บะบาย จ้าาาาาาา + เด้อตะลาล้าาาาาาาา
อยากช่วยขยายความหรือแนะนำให้กับ แฟนคลับในนี้ด้วยอ่า :)

1.เห็น ใจงับว่าจะต้องบากหน้า ใช้เวลาตอบคำถามนานเท่าไหร่ เพราะแต่ละคำถามมักจะถามว่า "ซื้อหุ้นตัวไหนดี กลุ่มนี้ดีไม๊ ควรคัทจุดไหนดี ตกแนวแล้วหรือยัง แล้วจะรอรับที่เท่านั้นเท่านี่ดีไม๊" คำถามหนักๆหน่อยก็เป็น "หุ้นตัวไหนกำไรมากสุด" หรือแม้แต่คำถามเร่งด่วน "ตัวที่แนะนำซื้อทำไมเริ่มร่วงแล้วอ่ะ กรี๊ดๆ ควรคัทไม๊ๆ ตอบด่วน"

แต่ ยังไงก็เอาใจช่วยฮ๊าฟฟฟ แล้วอยากให้เข้าใจด้วยเหมือนกันครับว่า คุณ teety คงไม่สามารถคาดเดาอนาคตได้แม่นทั้งหมด อยากให้นักลงทุนได้เรียนรู้ที่จะทดลองสักนิดหน่อยกก็ดีฮับ

2.เรื่อง เม่าติดหุ้น ก็อาจจะเป็นตาม style นะผมว่า ถ้าเล่นแนว VI แล้วยังเชื่อว่าอนาคตไกลๆ น่าจะขึ้นได้อยู่ ก็ hold ไว้โดยไม่สนใจว่าจะตกลงแค่ไหน จนกว่าจะถึงจุด cut loss

แต่ผมก็ค้น พบอย่างนึง (สดๆ) ว่าก็เล่น Dw ไปด้วยเลยสิ ในเมื่อ VI ตัวนั้นยังหวังราคาสูงกว่านั้นแล้วหุ้นตัวนั้นผันผวนสูงด้วย การซื้อเข้า ขายออกบ่อยๆ อาจจะเป็นเรื่องไม่ดีนัก แต่การแบ่งเงินไปใช้ป้องกันความเสี่ยงด้วย Dw น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีเหมือนกันฮับ :) แต่การเล่น Dw น่าจะเล่นด้วยแนว TA นะ 555 (เพราะมีวันหยดอายุ ต้องเล่นสั้นๆ)

3.บางทีผมก็มองว่า การยังมองความผันผวนช่วงสั้นไม่ออก แต่ระยะยาวมองว่าต้องขึ้นแน่ ก็น่าจะถือ hold ไว้แล้วไปเล่น Dw หรือ TFEX ตามรอบ ขาลงสักหน่อยดีกว่าฮับ ฮิๆๆ

4.มอง ยากครับว่า ควรเฉลี่ยเมื่อไหร่ ตามหลักมันต้องควรเฉลี่ยเมื่อเป็นแนว VI และระยะยาวควรจะต้องมั่นใจว่าจะต้องขึ้นด้วย (มั่นใจด้วยเหตุผลนะไม่ใช่มั่นใจด้วยความหวัง) ถ้าไม่มั่นใจว่าจะลงก็ไม่ควรทำ SAP แต่ cut ไปเลย แล้วมามองใหม่อีกรอบ ทีหลัง

5.ผมว่าเหตุผลที่เม่าอ้างแบบนั้น เพราะติดดอยไปแล้ว cut ไม่ลง กินปันผลดีกว่า ทั้งที่ตัวเองผิดวินัยในการลงทุนไปเรียบร้อยแต่ก็ไม่ยอมรับความผิดพลาดของ ตัวเอง อันนั้นก็ต้องเตือนกันต่อไปฮับ หุ้นตก ไม่ขายไม่ขาดทุนเป็นตัวเงินก็จริง แต่.....เงินใน port มันลดลงชัดๆอยู่นะ >_<

สร้างวินัย Cut Loss และ Let Profit Run กันเยอะๆ ฮับ

6.ใน ห้อง pantip มีมายามากมาย ดังนั้นแล้วอยากให้ศึกษากันให้มากๆตามแนวตัวเองฮับ เช่น แนว VI ก็ไปหาหนังสือมาอ่านกันเยอะ อ่านแนวคิดจากกูรูต่างๆ แล้วมาประยุกต์ใช้ ถ้าเป็นแนว TA ก็ต้องมองกราฟบ่อยๆ ศึกษากระบวนการการวิเคราะห์กราฟบ้าง ศึกษาจากกูรูด้าน TA บ้างฮับ แต่ควรต้องอ่านให้หลากหลายไว้ครับ และที่สำคัญเลยคือการตั้งคำถาม ตั้งข้อสงสัยไว้เสมอครับ เพราะทุกข้อมูลใช่ว่าจะจริงเสมอไป การสงสัยจะช่วยให้เราไม่ประมาทฮับ

7.ข้อ นี้จริงแท้แน่นอน หุหุ โดยเฉพาะมายาในห้องสินธรนี้ด้วยอีก การตามโดยไม่ได้ฉุกคิดหรือไม่ได้หาข้อมูลเพิ่มเติม ผู้ลงทุนมักจะถูกหลอกให้เชื่อทันทีโดยไม่ไตร่ตรองฮับ อย่างผมเริ่มต้นก็ประสบแบบนั้นมาแล้วเหมือนกัน จนวันนี้ผมก็ยังจำคำพูดที่ทำให้แผนการลงทุนของผมเสียหายจนทำให้กำไร 7% เป็นขาดทุน 2% มาแล้วเลยฮับ แต่ถ้าใครยังไม่เคยก็ทดลองดูได้ฮับ ถือเป็นค่าเล่าเรียนที่ดีฮับ

8.เนื่องด้วยความไม่แน่นอน ความกลัวและความกล้าของนักลงทุน แต่ด้วยประสบการณ์ยังน้อยนิดนัก การจัดเต็มทีเดียวอาจเจ็บสาหัสได้ทันที การทยอยซื้อจะเป็นการบังคับตัวเองให้มาคอยตรวจ port การลงทุนไปในตัวครับ การไม่ได้ซื้อเก็บไว้บางทีก็ไม่ได้มองหรือสนใจเลยฮับ ซื้อเก็บตัวที่สนใจไว้นิดหน่อยก็ดีฮับ ตามกำลังความรู้และความเชื่อมั่นของตัวเอง

9.เรื่อง Sixsense บางที ก็อธิบายยากนะฮับ ซึ่งบางทีมันอาจจะไปตรงกับหลักการนึงๆเหมือนกัน แต่น้อยคนเหมือนกันที่จะรู้ชื่อทฤษฎีเหล่านั้นน่ะครับ เลยกลายเป็นว่า ก็เรียกเป็นประสบการณ์ไปมากกว่า การเรียกเป็นชื่อทฤษฎีอะไรก็ตาม

แต่การอ่านหลักการ แนวคิดเยอะๆ ไว้ก็เป็นเรื่องดีฮับ เอาไว้สนับสนุนประสบการณ์ ในการพัฒนาการลงทุนตัวเองได้เร็วมากขึ้นฮับ

10.ผม ว่าคุณ teety อาจจะยังมองขาลง ณ เวลาสั้นๆนี้อยู่ แต่การเล่น TFEX , Dw จะช่วยให้ซื้อขายช่วง ขึ้น หรือ ลง ได้สะดวกขึ้น จากนั้นเมื่อลงมาระดับนึงแล้ว การซื้อหุ้นคืนก็เป็นเรื่องต่อมาฮับ แต่ Dw ก็ทดหลายเท่าอยู่เหมือนกัน ดังนั้นแล้วควรตั้ง port ส่วนนี้ให้น้อยสักหน่อยฮับ หรือถ้าอยากลองลุ้นๆ ก็เล่นด้วย 100 หุ้น ก็ไม่ว่ากันฮับ ฮิๆๆ


ยาวเหมือนกันนะเนี่ย >_< คุณ teety จาว่าอะไรม่ะเนี่ยยยยยย

แต่ อยากฝากครับว่า ถ้าอยากได้ดีอะไรสักอย่างในอนาคตก็ต้องทุ่มเทใส่ใจกับมันครับ เดิมทีผมเล่นเกมค่อนข้างเยอะ มาเล่นเกมที่ใช้เงินจริงเล่นบ้าง ก็มันไปอีกแบบฮับ ฮิๆๆ
จากคุณ : RakRok12

จากคุณ : Wild Rabbit
เขียนเมื่อ : 19 พ.ค. 55 10:32:17




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com