ความคิดเห็นที่ 1 Benz s class ราคา 90ล้าน จะซืิ้อหรือเปล่า จากคุณ : krit587 เขียนเมื่อ : 20 พ.ค. 55 03:32:50

ความคิดเห็นที่ 2 หุ้นที่เขียนมา ราคาสูงมาก ให้ระวัง แต่มี PATO กะBANPU  เกือบใช้ได้ แต่ก็ยังสูงกว่า บุ๊ค 3 เท่า ถ้าเป็นผม จะรอซื้อ ทยอยสะสม BANPU ที่ 444 ส่วนตัวอื่นให้ระวังถล่ม จากคุณ : clever&son (Clever&son) เขียนเมื่อ : 20 พ.ค. 55 03:44:04

ความคิดเห็นที่ 3 ROE สูงๆนี่กู้เงินเเบ้งค์รึเปล่าครับ ? จากคุณ : ปลายธันวา เขียนเมื่อ : 20 พ.ค. 55 04:44:51

ความคิดเห็นที่ 4 พื้นฐานดี ดูด้วยว่ามีเจ้ารึป่าว เจ้าของเก็บหุ้นเยอะ  ๆ ทำราคาได้ น่ากลัวนะจ๊ะ ยกเว้นเข้าออกไว ก็โชคดีมีชัย จากคุณ : Panjasila เขียนเมื่อ : 20 พ.ค. 55 05:15:28

ความคิดเห็นที่ 5 ชอบแบบนี้ก็เลงไว้ตกลงมาแรงเข้าเข้า ทีละไม้ จากคุณ : Kitgreat เขียนเมื่อ : 20 พ.ค. 55 05:58:42

ความคิดเห็นที่ 6 ตัวเดียวในดวงใจ....advanc..... รอน้องอยู่...170.... จากคุณ : bam007 เขียนเมื่อ : 20 พ.ค. 55 07:14:48

ความคิดเห็นที่ 7 55555555555555 จากคุณ : แล้วแต่ดวง เขียนเมื่อ : 20 พ.ค. 55 08:24:08

ความคิดเห็นที่ 8 ระวังนะครับ ROE สูง ๆ เนี่ย ถ้ามันไม่ได้จ่ายเงินปันผลให้เราสมน้ำสมเนื้อ อาจจะถือไว้แล้วเสียเวลาฟรีๆ ก็ได้นะครับ หลายๆตัวข้างบน  ราคามันสะท้อนความคาดหวังในอนาคตไ้ว้หมดแล้ว บางตัวสะท้อนอนาคตไว้มากมายมหาศาล เกรงว่าพอไปถึงวันนั้นจริงๆ มันจะไม่ได้ดีอย่างที่คาดจิครับ จากคุณ : 2ndHand_Fanclub เขียนเมื่อ : 20 พ.ค. 55 08:26:04

ความคิดเห็นที่ 9 ท่านไม่สนใจราคาก็จริง แต่ท่านไม่พิจารณาค่า PE บ้างเลยหรือ ------------ ท่านอยากจะออมหุ้นเป็นรายเดือน ท่านก็ต้องเลือกว่าจะมาแนวปันผล หรือลงทุนแบบเน้นคุณค่า ตอนนี้ผมมีในดวงใจ 1 ตัว ราคาตกเอ๊า~า ตกเอา หลายคนไม่ชอบ แต่ผมชอบ เพราะจะได้ซื้อในราคาถูก ผมไม่กระจายความเสี่ยงเลย ทุ่มตัวเดียวเน้น ๆ จนกว่าพื้นฐานมันจะล่ม หรือมีตัวอื่นที่ดีกว่า ค่อยเปลี่ยนไปลงตัวอื่น จากคุณ : เฮียเลือด เขียนเมื่อ : 20 พ.ค. 55 08:30:00

ความคิดเห็นที่ 10 Advanc ไง ROE 69.94 สูงสุดในตลาดแล้วมั๊ง!!! ลืมได้ไง!!^^ จากคุณ : เขียนบน iPhone (satan@เต้ย) เขียนเมื่อ : 20 พ.ค. 55 08:53:03

ความคิดเห็นที่ 11 ROE สูงอย่างเดียวไม่พอนะฮะ เช่น 1.ถ้าใช้ Financial Leverage เยอะ ๆ ROE ก็สูงได้ แต่ก็จะเพิ่มความเสี่ยงให้กิจการ 2.ถ้า ROE สูงๆ แต่จ่ายปันผลออกหมด ก็ไม่มี Growth อยู่ดี หุ้นที่ ROE ไม่สูงมาก แต่สามารถ maintain ROE ได้ทุกปีโดยจ่ายปันผลน้อยๆ อาจจะน่าสนใจมากกว่า เป็นต้น จากคุณ : midship เขียนเมื่อ : 20 พ.ค. 55 08:57:55

ความคิดเห็นที่ 12 ROE ที่สูงแบบนี้ต้องระวังเพราะในอนาคตมันรักษาตัวเลขนี้ได้ยาก ถ้าตกจากระดับเดิมเมื่อไหร่หุ้นร่วงกระจาย สู้ไปซื้อตัวที่ roe คงที่หรือกำลังไต่ระดับขึ้นมาดีกว่า จากคุณ : โชคดีมีตังค์ เขียนเมื่อ : 20 พ.ค. 55 09:05:25

ความคิดเห็นที่ 13 หลักของ Dollar Cost Average ทำให้ง่ายก็ซื้อดัชนีครับซื้อ TDEX จะง่ายกว่า จากคุณ : รูปเงาะเดินสบาย เขียนเมื่อ : 20 พ.ค. 55 09:06:48

ความคิดเห็นที่ 14 หลังจากอ่านข้อ 2 ของคุณ Midship (ความคิดเห็นที่ 11) จึงนึกเรื่องนี้ขึ้นมาได้ "ถ้า ROE สูงๆ แต่จ่ายปันผลออกหมด ก็ไม่มี Growth อยู่ดี หุ้นที่ ROE ไม่สูงมาก แต่สามารถ maintain ROE ได้ทุกปีโดยจ่ายปันผลน้อยๆ อาจจะน่าสนใจมากกว่า" ท่านต้องเลือกเสียก่อนว่าจะลงทุนแบบไหน 1. ลงทุนแบบหุ้นห่านทองคำ (เน้นปันผล) หรือ 2. ลงทุนแบบเน้นคุณค่า (value investing ที่ชอบเรียกกันว่า VI นั่นแหละครับ) ลงทุนแบบเน้นคุณค่าคือการซื้อตอนราคาถูก แล้วไปขายตอนราคาแพง แต่อย่าสับสนกับการเก็งกำไรแบบเดย์เทรดนะครับ *การลงทุนแบบเน้นคุณค่านั้น ศึกษากิจการจนแน่ใจแล้วว่า ได้พบกิจการที่พื้นฐานดี แต่ราคายังไม่อัพเดตให้สูงตามความเป็นจริง *ส่วนแนวเดย์เทรดนั้นซื้อราคาถูกโดยไม่ได้สนใจกิจการ แต่ยึดกับวิ่งขึ้น วิ่งลงของราคาหุ้นเท่านั้น ------------ โดย"ความเห็นส่วนตัว" ผมมองว่าแบบนี้ 1. หุ้นปันผลนั้น ขอให้ปันผลเยอะ ๆ หน่อย โตช้า ๆ ก็ไม่เป็นไร (กิจการเน้นแบ่งเงิน จึงโตช้าเพราะเงินลงทุนเหลือน้อย) จึงเป็นกิจการที่โตแล้ว ใหญ่แล้ว ไม่ค่อยมีอะไรให้ลงทุนเพิ่ม เงินจึงเหลือมาก นำมาแบ่งให้ผู้ถือหุ้น 2. หุ้นแนวลงทุนแบบเน้นคุณค่านั้น ปันผลไม่ต้องมากก็ได้ แต่การเติบโตต้องดี (เนื่องจากนำเงินไปลงทุนเพิ่มในกิจการมากกว่าที่จะนำมาแบ่งให้ผู้ถือหุ้น กิจการจึงโตเร็ว แต่ทำให้เหลือเงินที่จะนำมาปันผลน้อย) ส่วนมากจึงเป็นกิจการที่ยังไม่ยิ่งใหญ่ หรือยังใหม่ การเติบโตจึงพุ่งแรงกว่ากิจการที่อิ่มตัวแล้ว เลือกเอานะครับว่าท่านมาแนวไหน สายไหน แต่ทั้งสองสายนี้เป็นสายระยะยาวนะครับ ในความเห็นส่วนตัวของผม เล่นอย่างสั้นสุดก็ 5-6 ปี แล้วล่ะครับ ส่วนผมมาแนวปันผล ถือไปตลอดกาล หวังผล 15-20 ปี ขอบคุณครับ จากคุณ : เฮียเลือด เขียนเมื่อ : 20 พ.ค. 55 09:12:00

ความคิดเห็นที่ 15 ดู ROE อย่างเดียวคงไม่ได้ กิจการบางอย่างมีหนี้สูงมาก ส่วนผู้ถือหุ้นน้อย เอากำไรหารส่วนผู้ถือหุ้นตัวเลขจึงออกมาสูง ต้องระวัง จากคุณ : go to the sea เขียนเมื่อ : 20 พ.ค. 55 09:48:00

ความคิดเห็นที่ 16 กระทู้ แนว vi ทมิฬ   หลอกได้แต่มือใหม่   เชิญท่านออมรายเดือนคนเดียวเถอะ จากคุณ : เกรซอยากรวย เขียนเมื่อ : 20 พ.ค. 55 10:58:56

ความคิดเห็นที่ 17 " ...โดยไม่สนใจว่าราคาตลาดปัจจุบัน แพงหรือถูก  " ถ้าจะซื้อหุ้นออมหุ้น ไม่สนใจราคาตลาดไม่ได้ฮะ จากคุณ : Duckcovery เขียนเมื่อ : 20 พ.ค. 55 11:10:27

ความคิดเห็นที่ 18 คห.16 ครับ กรุณาอย่าปรักปรำครับ ผมไม่เคยทำตัวเป็น VI ทมิฬ ผมแค่ถามว่าบริษัทไหนธุรกิจดีจริงๆ โดยไม่สนใจราคาปัจจุับัน ผมว่าคุณยังไม่เข้าใจข้อดีของการออมหุ้นด้วยซ้ำนะครับ ที่บอกว่าไม่สนใจราคาปัจจุบันเพราะ ระบบ DCA จะทำการเฉลี่ยราคาให้เอง ไม่ว่าในอนาคตจะขึ้นหรือลง เราก็ไม่ต้องคิด ซื้อทีละนิด แล้วราคาจะถูกกว่าตลาดแค่นั้น ผมบอกให้ทุกคนมาแชร์กัน ผมยกตัวอย่างของผมให้ดูเพื่อให้วิจารณ์ ไม่ใช่ให้ซื้อตาม... คห.13 น่าสนใจมากครับ ซื้อ TDEX ผมลืมไปเลยนะเนี่ย จากคุณ : NijDoi เขียนเมื่อ : 20 พ.ค. 55 12:19:45

ความคิดเห็นที่ 19 ปล. การออมหุ้นเป็นรายเดือนคือการทำ DCA ให้ธนาคารตัดเงินเราเท่าๆกันทุกเดือนไปซื้อหุ้นนะครับ ไม่ใช่ทุ่มซื้อที่ราคาปัจจุับัน จากคุณ : NijDoi เขียนเมื่อ : 20 พ.ค. 55 12:21:38

ความคิดเห็นที่ 20 ผมมีข้อคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ " ไม่สนใจราคาปัจจุบัน   " ผมก็เป็นคนไม่สนใจราคา ณ วันที่ต้องการซื้อเช่นกัน ถ้าถึงวันจะซื้อ ผมก็ซื้อราคาตอนนั้นเลย สมมติ หุ้นที่ผมต้องการราคาขึ้น ๆ ลง ๆ ตลอดสัปดาห์ เดี๋ยว 8บาท เดี๋ยว 10 บาท เดี๋ยว 12 บาท ถ้าถึงวันที่ผมจะซื้อ ผมซื้อเลย เอาราคาขณะนั้นเลย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น มันจะต้องถูกวิเคราะห์ในด้านอื่น ๆ ประกอบแล้ว เช่นคู่แข่ง การปันผล แนวโน้มและอื่น ๆ ไม่เคยซื้อโดยที่ไม่ศึกษากิจการก่อน จากคุณ : เฮียเลือด เขียนเมื่อ : 20 พ.ค. 55 13:01:22

ความคิดเห็นที่ 21 คห 18 ท่านต่างหากไม่เข้าใจ dca   ท่านบอกว่า " ไม่ว่าอนาคตหุ้นจะขึ้นหรือลง ท่านdca แล้วจะมีต้นทุนถูกกว่าตลาด"   ไม่รู้ว่าโดนโบรคไหนหลอกมา   หาก หุ้นราคา 43 ไหลลงมาเรื่อยๆ เหลือ 23 ใน 3 ปี  ทุน dca ท่านคงอยู่ที่ 30  แต่ราคาตลาดตอนนั้น 23   ตลาดหุ้นไม่ใช่ของเล่น โปรดศึกษาก่อนลงทุน จากคุณ : เกรซอยากรวย เขียนเมื่อ : 20 พ.ค. 55 15:25:05

ความคิดเห็นที่ 22 จริงๆ วิธีการนี้ ขัดกับความต้องการในจิตใจมนุษย์มากๆ เลย เพราะเรามักอยากซื้อหุ้นที่ราคาต่ำเสมอ พอตลาดอยู่ในช่วงขาขึ้น สมองเราอาจจะพาลสั่งการว่าให้รออีกหน่อย ค่อยซื้อก็ได้ รอให้ย่อตัวลงก่อน มันยากตรงนั้นแหละ DCA ที่เคร่งครัด (จริงๆ ก็ต้องเคร่ง ไม่เคร่งก็ไม่เป็น DCA) จะเป็นตัวช่วยเฉลี่ยความผันผวนของราคา ที่สำคัญคือต้องเป็นการลงทุนระยะยาว 5 ถึง 10 ปี เพื่อที่จะก้าวผ่านความเหวี่ยงของราคาไปได้   ผมกะจะเอาไปใช้กับทองคำเหมือนกัน เพราะการวิเคราะห์ราคาพื้นฐานทองคำทำได้ยาก อีกตัวที่สนใจคือ TDEX เพราะมันจะลดความเสี่ยงในการเลือกหุ้นผิดตัวลงได้ ต่อให้จิ้มหุ้นที่เทพที่สุด ก็ยังมีความเสี่ยงนะครับ ไม่มีกิจการใด ที่ไม่มีวันเจ๊ง ดังนั้น การเหมาทั้งตะกร้าจึงเป็นตัวกระจายความเสี่ยงให้อีกทีหนึ่ง เราจึงไม่ควรมองข้ามวิธีการของ DCA ไปซะทีเดียวนะครับ จากคุณ : รูปเงาะเดินสบาย เขียนเมื่อ : 20 พ.ค. 55 16:32:27

ความคิดเห็นที่ 23 รอน้าแอ้ดอยู่เหมือนกัน แต่ไม่ใช่รับปั๊บ 3G เลื่อนนี่ถึงกะเซ็งเลยทีเดียว จากคุณ : Aturn เขียนเมื่อ : 20 พ.ค. 55 19:44:21

ความคิดเห็นที่ 24 ผมว่า Point ของการทำ DCA  คือ เราไม่รู้ราคาต่ำสุดครับ เราจึงไล่ซื้อเท่ากันไปทุกเดือน ถ้าเรารู้ว่ามันจะลงๆไปเรื่อยจะซื้อไปทำแมวน้ำอะไรจริงไหมครับ แต่แค่ต้องมั่นใจว่า บริษัทที่เราจะทำ DCA ต้องมีปันผลดีสม่ำเสมอ มีพื้นฐานไม่แพงไปเมื่อเทียบกับราคาปัจจุบัน และมั่นใจได้ว่าราคาเฉลี่ยที่ทำ DCA ไปจะเอาชนะตลาดได้ในระยะยาว(10ปีขึ้นไป เป็นต้น) จากคุณ : Pogio เขียนเมื่อ : 20 พ.ค. 55 21:55:17

ความคิดเห็นที่ 25 ความคิดเห็นที่ 21 [ถูกใจ] [แจ้งลบ] ติดต่อทีมงาน คห 18 ท่านต่างหากไม่เข้าใจ dca   ท่านบอกว่า " ไม่ว่าอนาคตหุ้นจะขึ้นหรือลง ท่านdca แล้วจะมีต้นทุนถูกกว่าตลาด"   ไม่รู้ว่าโดนโบรคไหนหลอกมา   หาก หุ้นราคา 43 ไหลลงมาเรื่อยๆ เหลือ 23 ใน 3 ปี  ทุน dca ท่านคงอยู่ที่ 30  แต่ราคาตลาดตอนนั้น 23   ตลาดหุ้นไม่ใช่ของเล่น โปรดศึกษาก่อนลงทุน จากคุณ : เกรซอยากรวย เขียนเมื่อ : 20 พ.ค. 55 15:25:05 [แก้ไข] ----------------------------------------- ถ้าคุณมีความรู้ หรือคิดดีดีในคำพูดคนอื่นมากกว่านี้ซักหน่อยคงจะพอคิดได้ว่า "ต้นทุนถูกกว่าตลาด" คือ "ต้นทุนโดยเฉลี่ยถูกกว่าตลาดโดยเฉลี่ย" นะครับ... ถ้ามีความรู้จริงก็หัดใช้ไปในทางสร้างสรรค์มากกว่าจะมานั่งด่าคนอื่นว่าเป็น VI ทมิฬ แล้วผมก็ไม่เคยโดนโบรกไหนหลอกมา เพราะส่วนมากโบรกในไทยไม่มีบริการนี้ ถ้าเคยอ่านหนังสือคุณก็จะเจอหลักการของวิธีการนี้ ซึ่งผมว่ามันน่าสนใจหนังสือที่มีพูดถึงก็เช่น  The Intelligent Investor กับ One Up On Wall Street... แต่พอเถอะครับ คุยกับคุณไปผมก็ไม่เห็นจะมีประโยชน์อะไรเลย ความเห็นไม่สร้างสรรค์จ้องแต่จะต่อ ตำหนิ และจับผิด... แก้ไขเมื่อ 20 พ.ค. 55 23:06:10 แก้ไขเมื่อ 20 พ.ค. 55 23:02:01 จากคุณ : NijDoi เขียนเมื่อ : 20 พ.ค. 55 23:01:38

ความคิดเห็นที่ 26 จขกท เคยสงสัยไหมครับ ว่าทำไมนัการเงินเก่งๆ นักบัญชีเก่งๆ ดร.เก่งๆ หรือบางท่านเป็นCEOของบริษัทชื่อดังในไทย แต่กลับเล่นหุ้นไม่ประสบความสำเร็จ????? จขกท คิดว่าเพราะอะไรครับ? ลองหาคำตอบดูครับ^^ จากคุณ : picklife เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 55 14:14:28