 |
เคยมีพนักงานใหม่เข้าไปทำงานแบงค์ต่างจังหวัด มีอาเสี่ยคนหนึ่งที่เป็นที่รู้จักในจังหวักดีเอาเงินเข้ามาฝากจำนวน 100,000 บาท พนักงานเอาเงินเข้าเครื่องนับเงิน เครื่องบอกจำนวน 101,000 บาท พนักงานเดินออกมาแล้วบอกเสี่ยว่า เงินครบตามที่เสี่ยบอก 100,000 บาทค่ะ
อีกอาทิตย์ต่อมาเสี่ยมาอีกเอาเงินมาฝากจำนวนเท่าเดิม เงินเกินมาอีก 1,000 บาทเท่าเดิม เด็กคนเดิมบอก เงินถูกต้อง 100,000 บาทค่ะเสี่ย
อีกหนึ่งวันถัดมา เสี่ยเดินถือกระเป๋าเจมส์บอนด์เข้ามาเหมือนเดิม เอาเงินมาฝากเท่าเดิม เด็กก็บอกจำนวนเงิน 100,000 เท่าเดิม คราวนี้ เสี่ยขอพบผู้จัดการสาขา
"ลื้อรู้ไหมเด็กลื้อโกงเงินอั๊วไปสามรอบแล้ว"
ผู้จัดการยังแบ่งรับแบ่งสู้ หลังจากถามเหตุการณ์เด็ก จึงตอบไปว่า "เสี่ยนับผิดหรือเปล่า นี่เด็กเอาเข้าเครื่องนับนะครับ"
เสี่ยกางกระเป๋าเจมส์บอนด์ ข้างในมีปึกกระดาษถ่ายเอกสารแบงค์พันหลายใบวางหรา ผู้จัดการคิด "งานเข้าแล้ว เด็กผิดแน่คราวนี้"
เสี่ยขอให้ค้นตัว และเจอแบงค์พันเลขเดียวกับที่ถ่ายเอกสารไว้อยู่ในนั้นจริงๆ
เด็กโดนให้ออกจากงานทันทีในวันเดียวกัน และเสี่ยก็ยังมาใช้บริการต่อไป รอเด็กใหม่คนต่อไปมาประจำสาขา
เล่ามาตั้งนานไม่ใช่อะไร จะบอกว่าความเชื่อใจที่มีต่อพนักงานสำคัญที่สุด ถ้าพนักงานแบงค์ทำให้ลูกค้าเชื่อใจ ไม่หาประโยชน์เล็กน้อยจากเขา คนทำธุรกรรมด้วยกันบ่อยๆมันเชื่อใจกันง่ายอยู่แล้ว ถ้าพนักงานคนนั้นไม่โกง ทำงานไปเรื่อยๆ แล้วเดินมาบอกเสี่ยว่า เสี่ยคะ หนูมีเรื่องรบกวนว่าหนูต้องปิดยอด ไม่ทราบว่าเสี่ยพอจะสมัครบัตรเดบิตเพิ่มให้หนูสักใบได้ไหมคะ เปิดบัญชีใหม่ใส่เงินไว้สัก 500 แต่มีค่ารายปีๆละ 200 นะคะเสี่ย แต่ถ้าใช้จ่ายผ่านบัตรเกิน 12,000 บาทต่อไปไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม
คิดไหมว่าถึงไม่ใช่เสี่ย เป็นคนธรรมดาอย่างเราๆก็ยอมเปิดบัตรให้น้องเขาได้
ดีกว่ามาตอดเล็กตอดน้อยกันอย่างนี้
| จากคุณ |
:
กลมเป็นหมูแต่ก็ยังดูน่ารัก 
|
| เขียนเมื่อ |
:
23 พ.ค. 55 00:41:35
|
|
|
|
|
อยากเล่าให้ฟังเรื่องการยัดเยียดทำบัตรเดบิตของธนาคารกสิกรไทย
ดีอย่างที่เราเข้าใจไงว่ามันไม่จำเป็นต้องทำไง 
... เข้ามาดู