Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
เทพของกรีซต้องออกมาช่วยแล้ว ติดต่อทีมงาน

วันที่ 21 พฤษภาคม 2555 04:00
วิวรรณ ธาราหิรัญโชติ กรุงเทพธุรกิจออนไลน์


สมัยที่เรียนคณะอักษรศาสตร์ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มีวิชาหนึ่งที่ดิฉันชื่นชอบและจดจำได้มากที่สุดในบรรดาวิชาที่เกี่ยวกับวรรณกรรมทั้งหมด

วิชานี้เรียนเกี่ยวกับเทพเจ้าและเทพธิดาของกรีกและโรมัน เรียนถึงประวัติ ที่มาที่ไป เพื่อเป็นพื้นฐานให้อ่านวรรณคดี หรืองานประพันธ์ของโลกตะวันตกได้อย่างเข้าใจมากยิ่งขึ้น  รู้ว่าเทพองค์ไหนมีลักษณะนิสัยอย่างไร เมื่อมีผู้นำไปเปรียบเปรยจะได้เข้าใจ

ในวันนี้ วันที่ประเทศต้นตำนานของเทพนิยายต่างๆกำลังประสบปัญหาทางเศรษฐกิจและความเชื่อถือ ดิฉันจึงย้อนระลึกถึงคำพูดที่คิวปิด หรือ “กามเทพ” เทพแห่งความรัก ได้กล่าวกับนางไซคี (Psyche) ผู้เป็นภรรยา และพอจะอุปมาได้ว่า “เมื่อความเชื่อมั่นโบยบินออกไปจากหน้าต่างแล้ว ยากที่จะหวนกลับมาอีก” เรื่องราวเป็นอย่างนี้ค่ะ

คิวปิดหรือกามเทพ เป็นโอรสของเทพีวีนัส ถูกองค์เทพีให้มากำจัดเจ้าหญิงไซคีซึ่งเป็นพระธิดาของกษัตริย์ เพราะเจ้าหญิงไซคีทรงพระสิริโฉม จนชาวมนุษย์พากันชื่นชมและละเลยที่จะดูแลแท่นบูชาเทพีวีนัส  เทพีวีนัสจึงกริ้ว

แต่พอเทพคิวปิดมาพบนางไซคีเข้า กลับหลงรักนาง  แต่ด้วยความที่คิวปิดเป็นเทพเจ้า จึงมิอาจให้นางไซคีเห็นได้ คิวปิดจึงเสด็จมาหานางเฉพาะในเวลากลางคืน และนางก็ไม่เคยได้เห็นหน้าค่าตาของคิวปิด จนกระทั่งนางถูกแรงยุแหย่จากพี่สาวว่าสามีของนางน่าจะเป็นพญางูน่ากลัว จึงไม่ยอมให้นางเห็นหน้า  นางไซคีจึงพยายามที่จะแอบดูหน้าตาของคิวปิด และระหว่างที่จุดตะเกียงส่องดูพักตร์ของคิวปิดนั้นเอง น้ำมันตะเกียงก็หยดลงถูกคิวปิด ทำให้คิวปิดได้รับบาดเจ็บและหนีไปด้วยประโยคที่ว่า “ความรักไม่สามารถจะอยู่ได้หากปราศจากความไว้เนื้อเชื่อใจกัน”

นางไซคียิ่งได้ยลโฉมคิวปิดผู้เลอโฉม ก็ยิ่งทวีความรักที่มีต่อคิวปิด  จึงเดินทางติดตามหาคิวปิด ถูกเทพีวีนัส (พระมารดาของสวามี) กลั่นแกล้งต่างๆนานา จนในที่สุดก็ได้แต่งงานกัน ด้วยความช่วยเหลือของจูปิเตอร์ เทพเจ้าสูงสุด และทรงประทานอาหารทิพย์ให้นางไซคีเพื่อให้นางเป็นอมตะ

ตอนนี้ประเทศกรีซก็เป็นเช่นนั้นค่ะ ความไว้เนื้อเชื่อใจกันหายไปหมดแล้ว  เมื่อปลายเดือนมกราคมที่มีการตกลงให้ความช่วยเหลือกรีซรอบที่สอง และยอมลดหนี้ลงไปถึง 70-75% นั้น ประเทศกรีซได้สัญญาว่ารัฐบาลจะทำการรัดเข็มขัด และเร่งใช้มาตรการต่างๆ ที่สัญญาไว้ตั้งแต่ตอนขอความช่วยเหลือรอบแรกเมื่อหนึ่งปีเศษที่ผ่านมา แต่เกิดขึ้นอย่างเชื่องช้า เช่น การแปรรูปรัฐวิสาหกิจ ฯลฯ เพื่อให้เจ้าหนี้พอใจว่าจะมีเงินใช้หนี้ในส่วน 25%ที่เหลือคืนในช่วงเวลา 30 ปีต่อจากนี้ไป

ผ่านไปไม่กี่เดือน มีการเลือกตั้งใหม่ ฝ่ายค้านที่ชูนโยบายไม่ต้องการเข้มงวดเรื่องการใช้จ่ายภาครัฐมากนัก ก็สามารถจับอกจับใจประชาชน ทำให้ได้คะแนนตีตื้นขึ้นมาเป็นอันดับสอง และมีโอกาสฟอร์มรัฐบาล ทำให้ทั่วโลกหวั่นใจว่าชะรอยกรีซจะเบี้ยวหนี้ที่เหลือเสียแล้ว ความช่วยเหลือเพิ่มเติมจึงหยุดชะงัก

แม้ตอนนี้จะไม่มีกลุ่มใดสามารถฟอร์มรัฐบาลได้ จนต้องประกาศจัดการเลือกตั้งใหม่ในวันที่ 17 มิถุนายน แต่แนวโน้มว่าพรรคการเมืองกลุ่มที่ “ไม่เอา”มาตรการเข้มงวดของอีซีบีและไอเอ็มเอฟ จะมาแรงมีโอกาสฟอร์มรัฐบาลหลังการเลือกตั้งครั้งใหม่

ก็ต้องเข้าใจประชาชนกรีซเหมือนกัน  ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ประชาชนเคยชินกับนโยบายประชานิยม และนักการเมืองก็หาเสียงโดยการสัญญาว่าจะให้สวัสดิการและประโยชน์ต่างๆเพิ่มขึ้น  ประชาชนไม่ได้รับรู้ว่าเงินที่นำมาใช้ในการให้สวัสดิการต่างๆเหล่านี้เป็นเงินที่กู้ยืมมา โดยหวังว่าจะเก็บภาษีนำไปจ่ายคืนหนี้ในอนาคต  ไม่รู้ว่าสิ่งที่รัฐบาลทำไปเปรียบเสมือนยาพิษที่ให้กับประชาชนทีละน้อยละน้อย มาวันนี้ร่างกายรับไม่ไหว จึงออกอาการ โดยหนี้ภาครัฐเพิ่มขึ้นไปสูงถึง 160% ของจีดีพี เศรษฐกิจถดถอยต่อเนื่อง 5 ปี ขนาดเศรษฐกิจหดลงไปจากเดิมถึง 1 ใน 5  จำนวนคนว่างงานเพิ่มขึ้นจาก 16.2%เมื่อเดือนมีนาคมปี 2011 เป็น 21.7% ในเดือนกุมภาพันธ์ของปีนี้

การรัดเข็มขัด มีเป้าหมายลดหนี้ภาครัฐให้เหลือ 120% ของจีดีพี  มาตรการรัดเข็มขัดที่ใช่ไปแล้วคือ เพิ่มอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม จาก 19% เป็น 23% เก็บภาษีสินค้าฟุ่มเฟือย ลดบำนาญลง 15% ลดเงินเดือนข้าราชการขึ้นต่ำ 30% และกำลังดำเนินการแปรรูปรัฐวิสาหกิจเพื่อนำเงินมาชำระหนี้

ทั้งหมดที่ทำไปนี้ ยังถือว่ามีความคืบหน้าน้อยมากเมื่อเทียบกับสิ่งที่สัญญาเอาไว้ว่าจะต้องทำ  คนจึงไม่อยากจะทนอีกต่อไป  อยากจะได้รัฐบาลใหม่ที่ไม่ต้องยอมปฏิบัติตามเงื่อนไขในสัญญาเหล่านี้

ถ้ากรีซไม่ยอมปฏิบัติตามเงื่อนไขและต้องถอนตัวออกจากกลุ่มที่ใช้เงินสกุลยูโร หรือยูโรโซน ก็จะต้องกลับไปใช้เงินสกุลของตัวเอง คาดว่าค่าของเงินจะลดลงไป 50-70% เลยทีเดียว ตอนนี้จึงไม่มีใครไว้เนื้อเชื่อใจกันเลย

ประชาชนก็แห่ไปถอนเงินกับธนาคารพาณิชย์ เพราะถอนตอนนี้ได้เงินยูโร แต่ถอนภายหลังอาจจะได้เงินสกุลใหม่ การตื่นตระหนกของประชาชนนี้เท่ากับเป็นการเร่งให้เหตุการณ์สุกงอมเร็วขึ้น

ธนาคารพาณิชย์ของกรีซจะประสบปัญหาสภาพคล่อง เพราะตอนนี้ธนาคารกลางของยุโรปปิดประตูไม่ให้กู้แก่ธนาคารของกรีซที่นำเอาพันธบัตรรัฐบาลมาค้ำประกันการกู้ยืมแล้ว รัฐบาลกรีซก็คงจะต้องเข้าอุ้มและคงกลายเป็นธนาคารของรัฐต่อไป ทั้งนี้จะส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจอย่างไม่ต้องสงสัย ภาคธุรกิจจะขาดสภาพคล่อง หนี้ที่มีเป็นสกุลเงินยูโร หากสัญญาอยู่ภายใต้กฎหมายของประเทศอื่น จะต้องชำระเงินเป็นสกุลยูโรอยู่ ซึ่งจะทำให้หนี้เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล แต่หากเป็นกฎหมายของกรีซก็ชำระเป็นสกุลเงินท้องถิ่นได้

อย่างไรก็ดี ยังมีความพยายามไม่ให้กรีซต้องหลุดออกไปจากวงของยูโร เพราะคาดว่า หากกรีซแยกตัวออกไป ความเสียหายจะมีมูลค่ารวมประมาณ 1 ล้านล้านยูโร หรือประมาณ 40 ล้านล้านบาท ทั้งความเสียหายต่อธนาคารกลางยุโรปให้กู้กับกรีซและธนาคารของกรีซ  ธนาคารพาณิชย์ของประเทศต่างๆที่ให้กู้กับรัฐบาลกรีซ และความเสียหายของธนาคารพาณิชย์ รวมถึงภาคเอกชนของกรีซ ฯลฯ

ข้อเสนอของอดีตประธานธนาคารกลางยุโรป ฌอง โคลด ตริเชต์ เกี่ยวกับการให้อำนาจสหภาพยุโรปสามารถประกาศให้ชาติสมาชิกอียูเป็นชาติที่ล้มละลายได้ และเข้าควบคุมนโยบายการคลังของชาตินั้นๆ เพื่อป้องกันปัญหาไม่ให้ลุกลามจึงเสมือนการจุดประกายว่ายังมีความหวังที่กรีซจะรอด  เพราะตอนนี้ปัญหาของกรีซเป็นเรื่องของความเชื่อมั่น ต้องมีคนกลางมาทำให้เกิดความเชื่อมั่น เลือดจึงจะหยุดไหล เสมือนเทพเจ้าจูปิเตอร์ทรงช่วยนางไซคีให้ได้รับความไว้วางใจจากคิวปิดกลับมาค่ะ

อยากให้เทพนิยายเรื่องนี้จบลงด้วยดี และนี่อาจจะเป็นความหวังเดียว ระหว่างนี้ราคาสินทรัพย์ต่างๆก็จะผันผวนตามที่ดิฉันเขียนเอาไว้ในสัปดาห์ที่แล้วค่ะ

จากคุณ : Wild Rabbit
เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 55 22:46:40




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com