ความคิดเห็นที่ 1 การรวมภาคการเงิน  แต่ไม่ยอมรวมภาคการคลัง  ก็เท่ากับ ใช้เงินกระเป่าเดียวกัน  แต่ต่างคนต่างใช้ตามใจตัวเอง แล้วบางคนมือเติบ  ใช้จนจะเจ็ง มันก้จะฉุดให้เพือนเดือดร้อนไปด้วย    เรืองอย่างนี้มันต้องเกิด    อย่างไรก้ต้องเกิด และทุกคนก้รู้ดีว่าปัญหา มันอยู่ตรงนี้  จึงขาดความเชื่อมั่น    ถ้ารูรัวตรงนี้ถูกอุด     การคลังเป็นอันหนึงอันเดียวกัน ก็จะรับประกันได้ว่าจะไม่มีใครเปรี้ยวอีก       ความเชื่อมันก้จะกลับมา ปัญหาอย่างอื่นก้จะค่อยๆแก้ไปได้ วิกฤตินี้ถูกเรียกว่าวิกฤติ ความเชื่อมั่น   เพราะจริงมันก้เป้นเรืองความเชื่อมันเพียวๆ   ถ้าแก้ปัญหาเรืองความเชื่อมันได้ ปัยหาก้จะคลี่คลาย แต่ใครหละจะไปแตะตรงนี้ได้   ประชาชน ในประเทศต่างๆก้คุ้นเคยกับ การอุ้มชูจากรัฐโดยเท่าเทียม จำเป็นจริงๆ หรือไม่จำเป้นจรีงๆ ก้เป้นหน้าที่ของรัฐต้องไปกู้หนี้ยืมสิน มารีไฟแนนซ์ มาเลี้ยงดู ปัญหาจึงไม่สามารถแก้ได้  ใครๆที่เข้าใจ  ก้รู้เมื่อรู้ก้ไม่ยอมลงทุน มีเงินก้เก็บเอาไว้ หรือไปฝากที่ประเทศอื่นๆที่ไมมีปัญหา ไม่ยอมลงทุน ไมมีกิจกรรมทางเศรษฐกิจ   วงจร แห่งปัญหาก้หนักข้อ ลุกลามขึ้นเรือยๆ ดึกมากแล้วไม่พร่ามต่อหละครับ   สรุปปัญหาหลัก คือสวัสดิ์การคนตกงาน ของประเทศในยุโรป ปัญหาหนี้สิน เป้นปัญหารอง ทางแก้คือต้องมีการรวมการคลัง เพื่อรับประกันให้เห้นว่า จะไม่มีกรีซ1 กรีซ2  กรีซ3 ฯลฯ ความเชื่อมันก้จะมา   กิจกรรมการลงทุน การค้าการขาย   ก้จะกลับมาดำเนินต่อไปได้   แต่เสียดาย ไม่มีใครยอมหรอกครับ รวมกันทางด้านผลประโยชน์ แต่ละประเทศก้โอเค แต่รวมกันถูกกรอบ ความรับผิดชอบ บังคับ  ไม่มีใครยอมแน่นอน ปัญหาวิกฤติหนี้ยุโรป จึงไม่มีทางแก้ และมีแต่ลุกลาม รอเวลาบรรลัยวอดวายกันไป พอเจ็งกันหมดแล้ว ก้ค่อยไปวางกฎ วางระเบียบที่ถูกต้องกันใหม่  บนกองซาก ปรักหังพัง ช่วยกันสร้างขึ้นมาใหม่ จากคุณ : khonthai.tk. เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 01:03:22

ความคิดเห็นที่ 2 วิกฤติใหญ่ในอดีต ก็แบบนี้ แก้ไมได้ เพราะความเห็นแก่ตัวของคน  เห็นแก่ตัว เห็นแก่ได้มากๆ  จะเอาอย่างเดียวไม่ยอมเสียสุดท้ายก้พังทุกที ยุโรปพัง อเมริกา ก้จะถูกฉุดให้พัง  ไปด้วย  ของเราช่วงหลังค้าขายกับ ประเทศในอาเซียนมากขึ้น   ท่านคิดว่าจะไม่เป็นอะไรหรือ ปล่าวเลยครับ ที่ประเทศในกลุ่มอาเซียน มีกระตังมาจับจ่าย ใช้สอย ซึงกันและกัน  หลักๆก้ล้วนแต่ผลิดสินค้า ไปขาย อเมริกา และยุโรปเป็นส่วนใหญ่       อย่าลืมนะครับ  สองกลุ่มนี้ เป็นผู้บริโภค 2ใน3 ของโลก กำลังซื้อ กำลังบริโภค หายไป ก็ลูกค้าหายไปนันแหละครับ    แล้ว ประเทศ ผู้ผลิต สินค้า อย่างจีน  ไต้หวัน   ญี่ปุ่น ไทย อินโด    เวียดนาม ฯลฯ  จะไม่ทรุดตามได้อย่างไร    ทุกคน จนลงพรอ้มๆกันหมด แล้วใครจะมีกำลังมาซื้อของใคร ที่ว่าจะพี่งกำลังซื้อจากจีน หนะพึงไมได้หรอก จีน ขายของที่ผลิดไม่ออก  จีนก้น่ามืดเหมือนกัน   อย่างไรเราก้ หนีไม่พ้นหรอกครับ กับสภาวะเศรษฐกิจถดถอยอย่างรุนแรงครับ เขียนขึ้นจากความคิดเห็นส่วนตัวของนักลงทุน  ไมมีความรู้ทางเศรษฐศาสตร์ อาศัยอ่านข่าว แล้ววิเคราะห์เองตามใจขอบ ไม่รับรองความถูกต้อง แต่รับรองว่าถูกใจผู้เขียน^_^ วิกฤติใหญ๋  และความหายนะ รออยู่ข้างหน้า แต่กราฟลงมาถึงจุดรีบาวน์ ผมก้ยังคงหาหุ้นเล่นต่อไปในวันรุ่งขึ้น เล่นในจังหวะที่เล่นได้ และหนีทันทีในจังหวะที่ดูแล้วว่าจะเกิดอันตราย ผลของวิกฤติยังมาไม่ถึงก้หาหุ้นเล่นไปก่อนครับ อย่าเพิ่งเลิก   เวลาจะเลิกแล้วหยุดพักยาวๆรออยู่ไม่ไกลข้างหน้า จะรีบพักไปไหนกันหละครับ มีให้เล่นก้เล่นอ่ะ จากคุณ : khonthai.tk. เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 01:04:29

ความคิดเห็นที่ 3 แล้วทุกท่านคิดว่า กรีซเองจะมีแผนจัดหารายได้ เพื่อที่จะนำมาชำระหนี้ที่ก่อขึ้นได้อย่างไร จากคุณ : pawit1980 เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 01:30:51

ความคิดเห็นที่ 4 ขออนุญาตโยงไปกระทู้เก่าที่ผมคอมเมนต์เอาไว้ว่า เซ้ตทำจุดสูงสุดของรอบ ในวันที่3 ที่ 1247 จุดที่ผ่านมาครับ ในคคห.ที่84 http://topicstock.pantip.com/sinthorn/topicstock/2012/05/I12060597/I12060597.html#84 ตอนนั้นกราฟบอกว่าเซ็ตทำจุดสูงสุดแล้ว จะต้องมีการพักตัวยาวนานหลายเดือน  ก็เลยคิดว่าสักปลายปี  ถ้ามีข่าวดี น่าจะมีสิทธิ์ฟื้น แต่ตอนนี้ได้รับทราบข่าวของสเปนเพิ่มเข้ามาอีก เห็นภาพชัดเลยว่า อย่างไร ยูโรปก้เน่าแน่ อเมริกา ก็จะเน่าตาม และพวกเราในอาเชียน ก้เน่าตามไปติดๆ จึงเปลีย่นมุมมองครับ .............................................................................. ผมเป็นนักกราฟ และมีผลงานเป็นกระตั๊กมาตลอดหลายปีนี้    ผมเก่งกราฟและคิดว่าตัวเองเจ๋งมาก แต่มาปีนี้ยอมรับเลยครับว่า ผมคิดผิด กราฟแค่บอกจุดสูงสุด จุดต่ำสุดของห้น หรือเซ้ตได้ แต่มันบอกภายใน ไม่ได้ การดูแต่กราฟแล้วจิตนาการเอาฝ่ายเดียว โดยไม่ยืนอยู่บนพื้นฐาน ของเศรษฐกิจ  ของกิจการ เป้นเรืองโง่ที่สุด ดูกราฟอย่างเดียวไม่พอครับ  ต้องดูพื้นฐาน ดูแนวโน้ม ดูกิจการด้วย   แก้ไขเมื่อ 13 มิ.ย. 55 01:47:54 จากคุณ : khonthai.tk. เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 01:40:45

ความคิดเห็นที่ 5 มี นโยบาย ให้ คน ทำงานโดย จ่าย ค่า เงินเดือน สูง! จากคุณ : sillicon46 เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 01:46:40

ความคิดเห็นที่ 6 ตอนไทย เกิดวิกฤติ มีทางออกคือ ส่งออก ค่าเงินบาท ลดลง คนกู้หนี้ ตปท เจ๋ง กันกระจาย แต่คนไทย รุ่น พ่อแม่ ช่วยกัน สามัคคีกัน ไม่เห็นแก่ตัว เห็นผลประโยชน์ของชาติ เป็นหลัก เห็นได้ว่า มีกองทุน ทอง บริจาค เข้าประเทศ  (จำชื่อหลวงพ่อไม่ได้อะคับ > <) บริจาคกันเยอะมาก จนคน ตปท ตกใจว่า ทำไมว่าคนไทย มีทองเยอะขนาดนี้ ^^ ประเทศไทย จึงรอดได้ จนถึงทุกวันนี้ แม้หนี้ IMF ก้อนใหญ่มากก็ตามประมาณได้ว่า ใช้หนี้หมด คือตอนอีก40 ปีข้างหน้า กรีซ ปัจจุบัน ไม่ทำตาม เจ้าหนี้ คนในประเทศ ก็เห็นด้วย ว่าจะเบี้ยวหนี้ แล้วใครจะเชื่อถือละคับ สมมุติว่ามีคนยืมเงินไป 100 บอกว่าคืน 50 ก็คงรู้สึกดี แต่ถ้า ยืมไป 100 ไม่คืน ไม่หนี้ ไม่จ่าย และยืมเพิ่มอีก 100 จะถามว่าจะให้หรือเปล่า??? กรีซ คนในชาติ ทำตัวเอง แท้ๆ ทางออกมันมี เพียงแต่คนในชาติ จะยอมรับ และแก้ปัญหาหรือไม่ เท่านั้นเองคับ จากคุณ : yak2525 (yak2525) เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 01:57:40

ความคิดเห็นที่ 7 ขอบคุณครับคุณคนไทย จากคุณ : tonmai08 เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 02:27:08

ความคิดเห็นที่ 8 ขอบคุณครับ จากคุณ : DeNYClub2Me เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 02:43:48

ความคิดเห็นที่ 9 ขอบคุณคุณ khonthai.tk ค่ะ :) #6 หลวงตามหาบัวค่ะ จากคุณ : แกะน้อยนักเดินทาง เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 03:18:14

ความคิดเห็นที่ 10 ถ้าคนยุโรป คิดเหมือนกับ คนไทย คนญี่ปุ่น ก็คงค่อยๆแก้ปัญหาได้ครับ แต่เสียดายครับ เค้าคิดแต่ว่า ประเทศจะให้อะไรพวกเค้าบ้าง ต่างกับพวกเราคนเอเชีย ที่คิดว่าเราจะให้อะไร กับประเทศชาติบ้าง ประเทศที่ประชาชน เอาแต่แบมือขอเงินจากรัฐบาล ถือว่าประเทศนั้นมีกรรมจริงๆ ................................................................................ ขอบคุณเช่นกันครับ ผมมีความเห็นอย่างนี้นะครับ ต่อให้กรีซเลือกตั้งออกมาแล้วพรรครัฐบาลเดิม กลับเข้ามามีอำนาจ  และยึดมั่นในข้อตกลงเดิม    ยุโรปก้ไม่รอดอยู่ดีครับ ฉนั้นไม่ควรจะคาดหวังผลการเลือกตั้ง แต่เลือกเล่นในจังหวะที่ผลยังไม่ออก ที่ยังเล่นได้ ทั้งๆที่เรารู้ว่าผลมันจะเป้นอย่างไร เราก้ต้องยังเล่น ฝรั่งรู้ผลดีกว่าเราเค้ายังเล่นเลยครับ เค้าก้พยายามใช้เงินต่อเงินให้มากที่สุด ไม่มีใครกลัวจนหยุดเล่นหรอกครับ   แต่เค้าเล่นไประวังไป ........................................................................... ทางเดียวที่จะแก้ได้คือการยุติความเป็นรัฐสวัสดิ์การ รวมการคลังเข้าด้วยกัน คณะมนตรีเสียงส่วนมาก ตัดสินใจไปทางไหน ห้ามประขาชนในประเทศสมาชิก ประท้วง  ให้ร่วมมือร่วมใจกัน พากลุ่มยูโร ออกจากวิกฤติ แต่ที่ผมว่ามาเป็นไปไม่ได้ และไม่มีทางจะเกิดขึ้นแน่นอน เพราะพวกเค้าเห้นแก่ตัวเกินไป   เห็นแก่ได้เกินไป ปัญหานี้ถ้าไปเกิดที่ญี่ปุ่นแก้ได้ทันทีครับ เพราะคนญี่ปุ่นรักชาติ รักหน้าที่ และมีความรับผิดชอบ เจอซึนามี นิวเคลีย อย่างหนัก ไม่มีใครมาเรียกร้อง ขอค่าเสียหายจากรัฐบาล  แบบที่บางประเทศเป็น ผู้คนมันต่างกัน ทำให้ประเทศ มันต่างกัน คนยุโรปอาจจะดูเป็นประเทศพัฒนาแล้ว แต่จิตสำนึกต่อชาติของพวกเค้าล้าหลังเต็มที จากคุณ : khonthai.tk. เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 03:30:50

ความคิดเห็นที่ 11 อีก  15  ปีจากนี้ไป  ประเทศไทยก็ไม่น่าจะมีชะตากรรมที่รอดพ้นจากประเทศกรีซ  สเปนได้   ดูการใช้จ่ายทางการคลังของเราสิ   แทนทีจะพัฒนาการศึกษา  ลงทุนงบประมาณวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี   กลับ  "ประชานิยม"   เพราะ  นักการเมืองได้คะแนนเสียง  และนำคะแนนเสียงตรงนี้ไป  "โกงกิน"   ส่วนประชาชนไทย  ก็เสียนิสัย   เงินไม่พอเหรอ  เลือกตั้งครั้งหน้าของพรรคการเมืองที่มีนโยบายเงินเดือนขั้นต่ำปริญญาตรี  70,000 ค่าแรงต่อวัน  เอาวันละพันบาทไปเลย รถคันสอง  บ้านหลังที่สาม   เมีย/ผัว คนแรก มีแจกเงินให้ ประเทศที่ใช้นโยบายประชานิยมแบบนี้   มีหรือครับที่ฐานะทางการคลัง อย่างแข็งแกร่ง มีหรือครับที่ประชาชนในประเทศจะเข้มแข็ง  มีคุณภาพ   มันไม่มีเลยในประวัติศาสตร์ ละตินอเมริกาในอดีตและยุโรปในปัจจุบัน  คือตัวอย่าง จากคุณ : Pariyed เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 07:06:31

ความคิดเห็นที่ 12 แต่ ทุกปัญหามันมีทางออกนะ จากคุณ : เกรซอยากรวย เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 07:10:56

ความคิดเห็นที่ 13 พวกมหาอำนาจทั้งหลายก็คงมองออก ขนาดพวกเรายังมองออก วิธีแก้เมื่อไม่มีวิธีแก้ก็คือ "เลี้ยงมันเอาไว้ " หรือกลืนกินมันซะเลย ..... จากคุณ : ** ชายใหญ่ ** เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 07:29:47

ความคิดเห็นที่ 14 ในอเมริกาก็เหมือนกันครับ มีคนว่างงานเเล้วขอรับเงินเดือนไม่ได้ทำงานทำการอะไร ถึงเวลาต้องต่อต้านนโยบายประชานิยมเลิกเอาเงินภาษีมาถลุงเสียที ใครที่เเข็งเเรงเเต่ขี้เกียจทำงานก็ปล่อยให้อดตายไปเถอะ สองพรรคใหญ่นโยบายลดเเลกเเจกเเถมเหมือนกัน คนที่ซวยคือลูกหลานในอนาคตของเรา จากคุณ : ปลายธันวา เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 07:49:24

ความคิดเห็นที่ 15 ทุกปัญหามีทางแก้ แต่ใช้เวลายันหลานหรือเปล่าขึ้นอยู่กับ ความสำนึกในชาติ ความรับผิดชอบ ความเสียสละ ความมีวินัย ประสิทธิภาพของประชากรในชาติ และที่ขาดไม่ได้วิสัยทัศน์ของผู้นำ ซึ่งบอกตามตรงว่า ณ ตอนนี้ ยังไม่เห็นมีวี่แววว่ากรีซจะทำอะไรและมีอะไรที่พยายามทำแล้วบ้างนอกจากแบบมือขอเงินแต่ไม่ยอมลดรายจ่าย แค่รอเลือกตั้งแล้วชักดาบตามประชาธิปไตย "สุขนิยม" เสพติด "ของฟรี" ตอนนี้ก็ได้แต่หวังว่า ประเทศที่พัฒนาจะ "คิดได้" และแก้ปัญหาไปพร้อมๆกัน ผลกระทบก็คงจะไม่รุนแรงเหมือนการ"ชักดาบ" จากคุณ : PTT 238 เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 07:49:50

ความคิดเห็นที่ 16 เห็นด้วยครับ ผมก้ว่าประเทศใหญ่ๆใน EU มองออก แต่แก้ปัญหายากมาก จะตัดทิ้ง ก็กลัวลุกลามใหญ่โต จะเลี้ยงไว้ก็เตี้ยอุ้มค่อม ไม่รู้จะทำยังไง อย่างเยอรมัน เลี้ยงไว้ ก็มีปัญหากับคะแนนเสียงในประเทศ ถ้าไม่เลี้ยง คราวนี้ EU อาจมีสมาชิกหายไปหลายประเทศ ซึ่งทำให้อำนาจต่อรองของ EU ลดลง ค่าเงินลดลง ความมั่งคั่งของประเทศใหญ่ๆจะลดลง และเกิดวิกฤติเศรษฐกิจ ผมมอง EU แล้วเป็นห่วง แถบบ้านเราเหมือนกันที่จะเริ่มรวม ASEAN เป็นหนึ่งเดียว มันน่ากลัวเหมือน EU ตรงแต่ละประเทศมีการเมืองแยกกัน ฌศรษฐกิจแตกต่างกัน รวมถึงนโยบายต่างกัน ซึ่งกลัวมันจะล่มมากกว่าถ้าไม่จัดการดีๆ จากคุณ : LoginM2F เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 08:00:12

ความคิดเห็นที่ 17 The best way is only one... ตอนนี้ผมว่าเขามีchoiceแล้ว แค่กำลังเลือกอยู่... ในฐานะ Sense Analysis. (แต่งตั้งเอง..อิอิ) ต้องปล่อยกรีซ. ผมไม่เชื่อคนที่บอกว่าnon-sense แต่อุ้มยูโรต่อไป. เพราะเตรียมเงินกันไว้แล้วนิ ส่วนจะทำยังไงเม่าไม่รู้หรอกคับ ไม่ใช่ECBนะ จากคุณ : yvrhere เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 08:01:34

ความคิดเห็นที่ 18 ตอนนี้ กรีซ แก้นโยบายการคลัง ก็ไม่ทันแล้วครับ ไปแก้ประเทศอื่นๆ ใน Euro Zone เหอะ ส่วนกรีซ ปล่อยมันตายได้แล้วครับ ถ้าไม่ออกจาก Euro Zone ยังไงก็เจ๊ง เพราะติดกับดัก ค่าเงินอยู่ ตามทฤษฎีเศรษฐศาสตร์ GDP = Y = C + I + G + EX - IM C (การบริโภค) ลดลง รายได้ของคนในประเทศลดลง I (การลงทุน) ลดลง เพราะความเชื่อมั่นประเทศลดลง G (ใช้จ่ายของรัฐ) ลดลง รัฐหมดตูดแล้ว EX (ส่งออก) $26.64 billion (2011 est.) IM (นำเข้า) $65.79 billion (2011 est.) สรุป GDP ลดลง รัฐบาลรายได้ ลดลง ก็ไม่มีปัญญาจ่ายหนี้อยู่ดี จากคุณ : P-Piya เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 08:13:08

ความคิดเห็นที่ 19 แย่เลย ... ต้องทำมาหากินกับพวก EU ซะด้วย  ... จากคุณ : LoTTaE เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 08:25:08

ความคิดเห็นที่ 20 จังหวะนี้ ต้องออกข่าวดียื้อออกของครับ กรีกมันเน่าอยู่แล้ว กลุ่มยูโรไม่เสียเวลามาแก้หรอกครับ ที่ออกข่าวตอนนี้แค่ยื้อเวลา เพื่อหาทางรับมือปัญหาที่จะตามมา และประเทศต่อไปที่จะระเบิดต่อครับ ยังไงก็ไม่รอดหรอกครับยูโรอยู่ที่เวลาว่า จะยอมรับและเลิกโกงตายกันเมื่อไร จากคุณ : kanstk เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 08:38:46

ความคิดเห็นที่ 21 นั่นดิครับ โกงตายตั้งแต่ 600 มาจนถึง 1200 แล้วครับ ว่ากันไป จากคุณ : Triforce เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 08:56:55

ความคิดเห็นที่ 22 เคยได้คุยกันคนที่เป็นประชาชนทั่วไปของประเทศในสหภาพยุโรป และคนกรีซ (คุยที่เมืองไทยนะคะ - แบบว่าพวกนักท่องเที่ยว มาพักผ่อน มีตังค์) ถามความคิดเห็นส่วนตัวของเรา ถามมาหลายคน ตอบเหมือนๆกัน สาเหตุ คือ 1. รัฐบาลกร๊ซคอรัปชั่นกันเยอะ ให้เงินช่วยเหลือไปเท่าไร สุดท้ายอยู่ในกระเป๋าคนไม่กี่คน 2. ประชาชนกรีซเอง หลบเลี่ยง หนีภาษี คนมีเงินมีรายได้ ไม่อยากจ่ายภาษีให้รัฐ ฟังแล้วเหมือนประเทศไหนบ้างไหม จากคุณ : ดอกส้มสีทอง เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 09:06:02

ความคิดเห็นที่ 23 อเมริกาเองก็ใช่ย่อยครับ เพียงแต่เขาโชคดีกว่ากลุ่ม EU ที่เงิน US ของเขามันขายได้ ใช้เครดิตล้วน ๆ ในการเสกกระดาษให้เป็นเงิน อยากได้เท่าไหร่ก็พิมพ์ออกมา  มันก็เหมือนชักดาบเจ้าหนี้กลาย ๆ เหมือนกันเพราะพอถึงเวลาจ่ายก็ไปเสกกระดาษมาจ่ายหนี้ซะ ธุรกิจในไทยคงลงทุนในกรีซไม่เยอะหรอก หุ้นหลายตัวเลยที่ไม่ได้รับผลกระทบโดยตรง  แต่ที่น่ากลัวหรือพวกหรั่งถ้ามันจะถอนเงินออกเพราะต้องไปรักษา lost ที่เกิดจากทางโน้นมากกว่า อันเนี้ยกระทบเราอ้อม ๆ แน่ จากคุณ : silver seraph เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 09:18:58

ความคิดเห็นที่ 24 ความคิดเห็นที่ 11     อีก  15  ปีจากนี้ไป  ประเทศไทยก็ไม่น่าจะมีชะตากรรมที่รอดพ้นจากประเทศกรีซ  สเปนได้   ดูการใช้จ่ายทางการคลังของเราสิ   แทนทีจะพัฒนาการศึกษา  ลงทุนงบประมาณวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี   กลับ  "ประชานิยม"   เพราะ  นักการเมืองได้คะแนนเสียง  และนำคะแนนเสียงตรงนี้ไป  "โกงกิน"   ส่วนประชาชนไทย  ก็เสียนิสัย   เงินไม่พอเหรอ  เลือกตั้งครั้งหน้าของพรรคการเมืองที่มีนโยบายเงินเดือนขั้นต่ำปริญญาตรี  70,000 ค่าแรงต่อวัน  เอาวันละพันบาทไปเลย รถคันสอง  บ้านหลังที่สาม   เมีย/ผัว คนแรก มีแจกเงินให้ ประเทศที่ใช้นโยบายประชานิยมแบบนี้   มีหรือครับที่ฐานะทางการคลัง อย่างแข็งแกร่ง มีหรือครับที่ประชาชนในประเทศจะเข้มแข็ง  มีคุณภาพ   มันไม่มีเลยในประวัติศาสตร์ ละตินอเมริกาในอดีตและยุโรปในปัจจุบัน  คือตัวอย่าง จากคุณ : Pariyed     เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 07:06:31   ถูกใจ : bigwores, zealottan, Shankusu, janus2525, pdca, ซ้ำอีกแล้ว, ชาวดอยคอยเธอ _______________________________________________________ เห็นด้วยกับ #11 ประเทศไทยถ้าประชาชนยังชอบประชานิยม ไม่ทำมาหากิน คอยแต่แบมือขอรัฐบาล ไม่ได้อะไรก็ออกมาประท้วง ...................ผมทำนายไว้ได้เลยอีกไม่นาน ก็คงเป็นเหมือนกรีช..........! จากคุณ : ชาวดอยคอยเธอ เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 09:49:58

ความคิดเห็นที่ 25 สักวันเราก็โดนเหมือนกรีกครับ    คนไม่่มีคุณภาพ   เลือกตั้งมาก็ได้คนไม่มีคุณภาพมาบริหารประเทศ รัฐก่อหนี้สาธาะณะ  ใช้จ่ายเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ ในกรณีของกรีช สร้างสะพานแขวนหมดเิงินไปไม่รู้กี่หมื่นล้าน เป็นเจ้าภาพจัดบอลยูโรฯ  ขณะที่การหารายรับเช่นการเก็บภาษี หรือการประหยัดรายจ่าย เช่น ลดสวัสดิการ  นัการเมืองก็ไม่กล้าทำ  เพราะทำก็ไม่ได้รับเลือกตั้ง      มันก็เป็นแบบนี้แหละ จากคุณ : ริมน้ำคาน เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 10:17:27

ความคิดเห็นที่ 26 มั่นใจมากถ้ายังไม่หาทางแก้คิดแต่จะแจก ให้โดยใช้เงินกู้กันอยู่ จากคุณ : ร่ำรวยยิ่งขึ้น เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 10:17:31

ความคิดเห็นที่ 27 กรีซมีจำนำพืชผลในราคาสูงกว่าตลาดโลกไหมครับ? จากคุณ : collocalia เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 11:04:23

ความคิดเห็นที่ 28 รวมกันตายหมู่ แยกหมู่ตายทีละประเทศ แล้วกรีซจะรวมหรือจะแยกหละ อา... คิ ม่ายออก ==" จากคุณ : เม่าซันเดย์ (SundayroyaL) เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 11:17:26

ความคิดเห็นที่ 29 รัฐบาลประเทศไทยไม่มองคนไทยเป็นทรัพยากรบุคคล แต่มองเป็น( ^o^ )ทำงาน เลยไม่คิดพัฒนาความรู้ความสามารถให้คนไทย ประเทศอื่นใกล้ๆเราเขาพยายามส่งเสริมให้คนของเขามีทักษะและความชำนาญมากขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายนายจ้างก็ยอมจ่ายเงินค่าจ้างที่สูงขึ้นเพื่อได้คนที่สามารถทำงานได้ดีมาร่วมงาน คนของเขาเองก็พึ่งพาตัวเองได้มีรายได้และความเป็นอยู่ที่ดีไม่ต้องรอเศษเงินจากรัฐมาช่วยให้ชีวิตอยู่ได้ไปวันๆ อนาถกับนักเลือกตั้งแห่งประเทศไทย จากคุณ : netaddict เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 11:22:25

ความคิดเห็นที่ 30 ในเมื่อ "ยอม default ดีกว่ายอมรัดเข็มขัด" เห็นได้ชัดว่ากรีซหมดอายและกำลังเอายูโรมาเป็นตัวประกันเพื่อขอเงินกู้ก้อนต่อไป ผมมองว่าการซื้อเวลาอย่างที่เกิดขึ้นอยู่นี้จะนำไปสู่ปัญหาที่ใหญ่ขึ้นไปอีก ทั้งการเบี้ยวหนี้ของกรีซซึ่งจะก้อนใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ หรืออาจมีประเทศอื่นเข้ามาแจมเพิ่ม หากว่าไม่มีการปฏิรูปยูโรไปในแนวทางที่เหมาะสม ในความเห็นของผม "การซื้อเวลา" จึงเป็นทางออกที่แย่กว่าปล่อยให้กรีซล้มเสียอีก จากคุณ : Antonio at MonkeyFreeTime เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 11:36:32

ความคิดเห็นที่ 31 เข้ามาอ่านคห.ของแต่ละท่าน แต่ก็อดฮาไม่ได้กับคห.นี้จ๊า อีก  15  ปีจากนี้ไป  ประเทศไทยก็ไม่น่าจะมีชะตากรรมที่รอดพ้นจากประเทศกรีซ  สเปนได้   ดูการใช้จ่ายทางการคลังของเราสิ   แทนทีจะพัฒนาการศึกษา  ลงทุนงบประมาณวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี   กลับ  "ประชานิยม"   เพราะ  นักการเมืองได้คะแนนเสียง  และนำคะแนนเสียงตรงนี้ไป  "โกงกิน"   ส่วนประชาชนไทย  ก็เสียนิสัย   เงินไม่พอเหรอ  เลือกตั้งครั้งหน้าของพรรคการเมืองที่มีนโยบายเงินเดือนขั้นต่ำปริญญาตรี  70,000 ค่าแรงต่อวัน  เอาวันละพันบาทไปเลย รถคันสอง  บ้านหลังที่สาม   เมีย/ผัว คนแรก มีแจกเงินให้ ประเทศที่ใช้นโยบายประชานิยมแบบนี้   มีหรือครับที่ฐานะทางการคลัง อย่างแข็งแกร่ง มีหรือครับที่ประชาชนในประเทศจะเข้มแข็ง  มีคุณภาพ   มันไม่มีเลยในประวัติศาสตร์ ละตินอเมริกาในอดีตและยุโรปในปัจจุบัน  คือตัวอย่าง จากคุณ : Pariyed     เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 07:06:31   ................................................................................. ตอนนี้เงินเดือนเอาแค่ได้เดือนละ 17,000 บาทก่อนจะดีไหม เรียนฟรีทำอยู่ ทำถนนทำอยู่ แต่ตกงานรัฐยังไม่ได้ดูแล บอกนักการเมืองโกงกิน ต้องถามกลับไปว่ากลุ่มไหนที่ไม่มีเรื่องนี้บ้าง ทหาร หรือ หมอ หรือ ตุลาการ หรือ เอาเป็นว่าเริ่มจากตัวเราก่อนดีไหม อย่าพยายามอย่าหลีกเลี่ยงหรือหลบหลีกการจ่ายภาษีเข้ารัฐก่อนดีไหม ถึงจะไปต่อว่าคนอื่นๆแบบเหมารวมหรือโทษแต่นักการเมือง ทุกวันนี้ ประเทศไทยถ้ามองดีๆ กลุ่มไหนเป็นตัวถ่วงความเจริญมากที่สุดยังไม่รู้ กลุ่มเศรษฐี หรือ กลุ่มนักการเมือง หรือ กลุ่มทหาร หรือ กลุ่มอำมาตย์ หรือ กลุ่มคนรวย หรือ กลุ่มชนชั้นกลาง หรือ กลุ่มไพร่ เอาให้ชัดๆก่อน แล้วค่อยมาว่ากันว่าจะแก้ไขปัญหาอย่างไรจะดีกว่า  ยกตัวอย่างเช่น ถ้ากลุ่มเศรษฐีเป็นตัวถ่วงความเจริญ เราก็อาจจะแก้ไขกม.เช่น     การจัดเก็บภาษีที่ดิน     การจัดเก็บภาษีมรดก เป็นต้น จากคุณ : เด็กเอบวก เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 11:43:13

ความคิดเห็นที่ 32 ขอบคุณ พี่คนไทย มากค่ะ จากคุณ : กาหยู เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 11:52:34

ความคิดเห็นที่ 33 ความรู้และประวัติศาสตร์มีให้ศึกษา เป็นบทเรียนทำให้เกิดการเรียนรู้ เพื่อจะได้มีความรู้ เมื่อมีความรู้แล้ว ก็ต้องมีวิสัยทัศตามมา แต่วิสัยทัศที่ไม่มองอดีตมาคิด หรือมองแต่อดีตมาคิดมากเกินไป ก็อาจจะไม่ดี อะไรหลายๆอย่างมันต้องมีความพอดี มากไปน้อยไปมันก็ไม่ดี ความเสี่ยงหรือวิกฤษจำเป็นต้องรู้ก่อนว่ามันจะเกิด จะได้เตรียมตัวทัน ถ้าไม่รู้เลยมันจะเลวร้ายมากแน่นอน แก้ไขเมื่อ 28 พ.ค. 55 12:10:33 แก้ไขเมื่อ 28 พ.ค. 55 12:04:42 จากคุณ : แน่ข้างเดียว เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 12:01:37

ความคิดเห็นที่ 34 บ้านใครบ้านมัน ดูแลคนในบ้านให้ดีก่อน ถ้าเริ่มต้นที่บ้านได้ ก็ไปหมู่บ้าน ต่อตำบล อำเภอ จังหวัด เดี๋ยวประเทศจะดีเอง ง่ายหรือยาก...... จากคุณ : yvrhere เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 12:05:44

ความคิดเห็นที่ 35 อย่ามาว่าเมืองไทยนะ คนไทยต่างหากที่เป็นคนทำ .......... เริ่มไม่เกี่ยวกับยุโรปแล้ว เดี๋ยว จขกท งง จากคุณ : yvrhere เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 12:10:55

ความคิดเห็นที่ 36 ถึงพี่คห.31 ครับ ผมว่าพี่คห.11 เค้าพูดไปถึงเรื่องนโยบายการคลัง-ประชานิยมนะครับ จากคุณ : FangenZa เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 12:47:58

ความคิดเห็นที่ 37 สุดยอดนักเล่นหุ้นเลยครับ จขกท. รู้ว่าเวลาไหนควรใช้กราฟ เวลาไหนควรใช้พื้นฐาน จากคุณ : Securesoft เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 12:49:34

ความคิดเห็นที่ 38 ถึงน้อง #11 และ #36 พี่ว่า เราควรต้องทำความเข้าใจให้ชัดเจนกันก่อน ว่าอะไร คือ นโยบายประชานิยม และ อะไร คือ นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ตัวอย่าง เช่น การลดภาษีเงินได้นิติบุคคล ถือเป็น นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะมันมีผลต่อ GDP = C+I+G+(X-M) อันนี้น่าจะรู้ดีกันอยู่แล้ว ในฐานะของนักลงทุน 30 บาทรักษาทุกโรค ถือเป็น นโยบายประชานิยม เพราะ เป็นลักษณะของรัฐสวัสดิการ ไม่มีผลต่อ GDP แต่มีผลต่อ GNH ที่เค้าว่ากันว่า ดีกว่า GDP อันนี้ก็ต้องเอาให้ชัด ว่าจะเน้น GDP หรือ จะเน้น GNH เห็นคนต่อต้านกัน ทั้ง GDP และ ประชานิยม ดูสับสนๆ กับชีวิตอยู่ การแจกเช็ค 2 พันบาท ค่อนข้างคาบเกี่ยวว่าจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ หรือ ประชานิยม เพราะ ในเชิงเศรษฐศาสตร์ มันเป็นการใช้จ่ายโดยภาครัฐเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ประสิทธิภาพการหมุนเวียนของมันต่ำมาก เพราะ ไหลจากภาครัฐ ไปสู่ชนชั้นกลาง แล้วหมุนกลับเข้าผู้ประกอบการรายใหญ่ ไปตัด stock สินค้าคงค้าง ไม่ได้ก่อให้เกิด order ใหม่ คล้ายๆ เป็นการต่อลมหายใจให้ผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้า ค้าปลีกรายใหญ่ ไม่เกิดการผันเงินในระบบอย่างที่ควรจะเป็น ค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท ซื้อบ้านหลังแรก ซื้อรถคันแรก ทั้งหมด ล้วนเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ ในทางเศรษฐศาสตร์ หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ อาทิ การผ่อนตู้เย็น ผ่อนรถ ผ่อนบ้าน ถือเป็น การบริโภค จัดเป็นพฤติกรรมเสี่ยง แต่หนี้ที่คดว่าจะก่อให้เกิดรายได้ ด้วยการนำมาลงทุน หรือ ในบริบทนี้ ก็คือ การกระตุ้นเศรษฐกิจ ย่อมเป็นคนละอย่าง กับเรื่องของรัฐสวัสดิการ และ เป็นคนละเรื่อง ห่างไกลกับคำว่า ประชานิยม บ่อยครั้ง ที่เราใช้สรรพนาม ที่มีความหมายผิดเพี้ยน เพื่อให้เข้าใจง่าย อาทิ เต่า ที่หมายถึง หุ้นบางจาก ซึ่งไม่ได้มีสัญลักษณ์ใดๆ ทางการค้า ที่เกี่ยวข้องกับเต่า แต่อย่างใด แต่เราก็เข้าใจตามนั้น นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจตามสัญญาประชาคม และคำว่านโยบายประชานิยม ก็เช่นเดียวกัน เวลา ฟัง คนอื่นพูดถึง เต่า ควรจะเข้าใจได้ แต่เวลาที่จะวิพากษ์วิจารณ์ แล้วไปบอกว่า บางจาก ทำธุรกิจแบบเต่า มันจะไปกันใหญ่ ... จากคุณ : อรุโณทัย เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 13:51:12

ความคิดเห็นที่ 39 ผมเริ่มงงอ่ะพี่ อรุโณทัย ผมคิดแบบนี้ถูกแบบที่พี่กำลังจะอธิบายถูกมั้ย ช่วยชี้แนะด้วยครับ ตัวอย่างเช่น บ้านหลังแรก ถือเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะก่อให้เกิดการจ้างงานในการสร้างบ้าน บริษัทค้าวัสดุมีรายได้ มีการซื้อขายที่ดิน จากคุณ : FangenZa เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 14:22:48

ความคิดเห็นที่ 40 เท่าที่ผมจำได้ เวลากระตุ้น เค้าให้กระตุ้นที่ชั้นล่างๆครับ เช่นกระตุ้นบ้านหลังแรกไป ถ้าเป็นคนที่มีเงินอยู่แล้วก็ไม่แตกต่าง เพราะถึงไม่มีนโยบายนี้เค้าก็มีเงินสร้างบ้านอยู่ดี เพราะงั้นไม่เกิดการสร้างรายได้เพิ่มครับ (เกิดเล็กน้อย เช่น บ้านใหญ่ เฟอร์ดีขึ้น) ตามหลักต้องกระตุ้นคนจน เพราะคนจนจะต้องซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค สุดท้ายเงินก็จะไหลมาคนรวยที่เป็นเจ้าของกิจการอยู่ดี ทำให้ระบบโดยรวมเงินหมุนหลายรอบกว่าจ่ายคนรวยครับ ปัญหาอยู่ที่ถ้าเป็นการแจก อาจก่อให้เกิดนิสัยที่ไม่ดีได้ เช่น พักหนี้ จะทำให้ก่อหนี้แล้วคาดหวังว่าจะพักหนี้อีก หรือ แจกเงิน ก็จะเคยชินกับการแจกเงินอีก ทำให้การกระตุ้นเศรษฐกิจต้องกระทำอย่างระมัดระวังมากครับ จากคุณ : vermillion เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 16:07:42

ความคิดเห็นที่ 41 #39 ถูกต้องคับผม และยืนยันตาม #40 ว่า การกระตุ้นเศรษฐกิจ ต้องทำอย่างระมัดระวัง แต่อยากเสริมว่า นโยบายบ้านหลักแรก ค่อนข้างจะโน้มเอียง ใกล้เคียงกับการทำ Promotion มากกว่า เป็นการกระตุ้นให้คนจับจ่ายใช้สอย ประสิทธิผลของการกระตุ้นเศรษฐกิจ ไม่แน่ใจว่า มีการทำวิจัยเป็นชิ้นเป็นอันหรือไม่ อย่าง กรณีเช็คช่วยชาติ เรา ก็พิจารณาจากข่าวที่ออก ซึ่งส่วนใหญ่ เช็คเหล่านั้น จะไหลเข้าห้าง ขณะที่ ห้างเองก็มี stock สินค้าอยู่แล้ว คิดคร่าวๆ จึงไม่น่าจะก่อให้เกิด ตัวคูณทางเศรษฐกิจ มากนัก แต่ กรณี บ้านหลักแรก หรือ นโยบายพักชำระหนี้ ผลกระทบค่อนข้างจะเป็นวงกว้าง คนที่คิดว่าจะซื้อบ้านในปีหน้า อาจตัดสินใจซื้อบ้านในปีนี้ นั่นคือ ตัดสินใจเร็วขึ้น ปีหน้า ก็ค่อยว่ากันใหม่ ผู้ประกอบการ ก็เร่งส่งมอบบ้านให้ทันตามกำหนดนโยบาย แล้วปีหน้า ก็ว่ากันใหม่ ส่วนนโยบายพักชำระหนี้ เดิมที เขาพักชำระหนี้เสีย แล้วก็มี คนหวังดี ไปประณามเขา ว่าลูกหนี้ดี เสียประโยชน์ คราวนี้ เขาก็เลยพักชำระหนี้ดีให้ อันนี้ ก็ต้องขึ้นอยู่กับว่า เราศรัทธาในตัวคนแค่ไหน ถ้าคิดว่า คนมันสันดานไม่ดี พักชำระหนี้ ก็คงเสียนิสัย ผลลัพธ์ก็คงไม่ดี แต่ถ้าคิดว่า "คนส่วนใหญ่" อยากเป็นไท กันทั้งนั้น การพักชำระหนี้ ก็จะทำให้ผู้ประกอบการรายย่อยหลายๆ คน มีโอกาสโต ซึ่ง ผู้ประกอบการรายย่อย เนี่ยแหละ ที่เป็น กลไกสำคัญ ในการกระตุ้นเศรษฐกิจ เราจำไม่ได้แล้วว่า อ่านจากที่ไหน แต่การพักชำระหนี้ดี มีการวิเคราะห์ออกมาแล้วว่า ก่อให้เกิด ตัวคูณทางเศรษฐกิจ สูงมาก เพราะ ผู้ประกอบการ ที่มีผลประกอบการดีอยู่แล้ว ก็จะนำเงินส่วนที่เหลือ ไปขยายกิจการ ส่วนผู้ประกอบการที่มีผลประกอบการไม่ค่อยดี ก็จะช่วยประคองกิจการต่อไปได้ ถ้าดูให้ดี นโยบายต่างๆ มันจะสอดประสานเป็นเรื่องเดียวกัน อาทิ นโยบายค่าแรง 300 บาท => เกิดผลกระทบกับผู้ประกอบการรายย่อย => นโยบายพักชำระหนี้ดี => นโยบายบ้านหลังแรก, นโยบายรถคันแรก จากคุณ : อรุโณทัย เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 16:29:25

ความคิดเห็นที่ 42 .             เมืองไทย ก็เน่าหลายด้านน๊ะ ไม่เฉพาะ ระบบการเงิน - การธนาคาร ==>                นักการเมือง & พรรคการเมือง ... น้ำเน่า จากคุณ : ศิษย์ซุนวู เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 17:20:37

ความคิดเห็นที่ 43 ตาม คห.41 มันก็เท่ากับว่าเรื่องมันวนมาที่การศึกษาอีกใช่มั้ยคะ เหมือนตอนนี้ประชาชนส่วนใหญ่โดยเฉพาะชนชั้นแรงงาน ไม่มีความรู้ความเข้าใจในการจับจ่ายมากพอ ไม่รู้ว่าสิ่งไหนมีค่าไม่มีค่า  ถ้าสมมุตว่าเราให้หนังสือด้านการเงินซักเล่มเป็นหนังสืออ่านนอกเวลา อาจจะทำให้คนไทยจำนวนมากตื่นตัวทางด้านการเงินมากขึ้นก็ได้นะ จากคุณ : โยธิกาหน้าหนาว เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 17:33:18

ความคิดเห็นที่ 44 อ่านแล้วอึ้งนิดๆ ที่รถคันแรกถือเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ ไม่ใช่ประชานิยม ผมนี่ช่างโลกทัศน์แคบสั้นจริงๆ ว่าแต่มันกระตุ้นทิศทางเดียวกับการกระชากค่าครองชีพรึเปล่าครับ? จากคุณ : BonaPart เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 19:02:39

ความคิดเห็นที่ 45 เข้ามาถึงก้กดกิ๊ฟแหลกเลย กดไปกด เอ๊ ทำไมมันไม่ขึ้น พอย้อนขึ้นไปดู หมดตั้งแต่คคห.ที่8แล้วครับ เรืองการแสดงความคิดเห็น ก็เต็มที่เถอะครับ ถ้าเราจำกัดความคิด กระทู้ก็กลายเป็นกระทู้คับแคบ  จะหาความคิดดีดีได้อย่างไร แสดงความคิดเห็นเถอะครับ จะด้านใด ก็ตาม มีหลายความคิด ย่อมดีกว่าความคิดเดิม .................................................................................... ผมเข้าเรืองต่อนะครับ วันนี้ในทางกราฟจะเป็นจุดที่เหมาะที่จะรีบาวน์ การยิงข่าวดี เรืองกรีซ มาเป้นเรืองที่คาดหมายได้อยู่แล้ว  พรุ่งนี้ก้น่าจะมีข่าวดีชิ้นเล็กๆยิงออกมาหนุนตลาดอีก จะเห็นตลาดเขียวเถือก (ไม่ใข่แดงเถือก ต่อในวันรุ่งขึ้นแน่ๆ) มันเป้นเกมส์ครับ  ไมได้เป็นไปตามธรรมชาติ เป็นแผนการตลาดของพวกหัวแถว ของโลก ที่พยายามจะขี้นำตลาดให้เป็นไปตามที่ตัวเองต้องการ  แม้จะขี้นำไมได้ ตลอดทุกจังหวะ แต่แค่คุมกรอบให้เดินไปตามทางที่ต้องการ ก้พอหาประโยชน์ได้แล้ว เค้าหลอกก้ช่างเค้า เราก้เล่นครับ แต่พอเค้าจะหยุดเล่น เรากหยุดเล่นตาม  ก็เท่านั้นเอง ระยะใกล้สุด ก้เล่นได้ หาหุ้นเล็กๆปั่นๆเล่นครับ หากำไรสะสมไปเรือยๆ ตัวใหญ่ พื้นฐานดีทีฝรังถือเยอะ ก้ยังคงตอ้งระวังอยู่ดี  เสร็จข่าวดีเพือเล่นรีบาวน์ช่วงนี้  ข่าวร้ายจะมา  เราก้เล่นไปจนกว่าข่าวร้ายจะมา เราก้เลิก อาการมันจะออกที่หุ้นนี่หละครับ เห็นก้เผ่นก่อนเลย แค่เราเล่นไป ค่อยๆเงี่ยหูฟังข่าว่ไปด้วย  ถ้างานจะเข้าก้เผ่นครับ ............................................................................ ส่วนวิกฤติความเชื่อมั่น ยุโรป  หรือ วิกฤติรัฐสวัสดิการ  ของยุโรป  คงไม่มีการแก้ไข  เพราะถ้าเค้าจะแก้เค้าแก้ไปนานแล้ว ไม่ดึงซื้อเวลาจนป่านนี้ เราก้เตรียมการต้อนรับเอาไว้ดีดี  คงไม่นานจากนี้นัก ใครมีหนี้ ก้พยายามไปปิดไปเคลียเสียให้เหลือน้อยๆ พอเศรษฐกิจแย่ เราอาจจะตกงานขาดรายได้ ครอบครัว ลูกเมียจะได้ไม่เดือดร้อน วิกฤติมา เอาแต่กอดหุ้น  เชือถือในหุ้นพอดีหมดตัวกันพอดี เคลียอะไรได้ก้เคลียออกไปบ้าง เหลือเงินสดเอาไว้เยอะๆ เล่นก้อย่าเล่นหมดแม๊ก ถ้าพลาดยังเหลืออีกสักส่วนเอาไว้ทำทุน ผมติดว่าควรจะดึงเงินออกไปสัก1/5 ถ้าพลาดขาดทุนสี่ส่วนยังเหลืออีกส่วนเอาไว้ฟื้นฟู   มีทุนแป๊ปเดียวก้ตีคืนมาแล้ว   แต่ถ้าหมดทุน คุณเอ๊ย ลำบากยากแค้นเลยครับ ว่าจะปั่นเศษเงินให้งอกเป็นเงินก้อน   ปลอดภัยเอาไว้กอ่น เชือผม วิกฤติ อย่างไรก้ไม่มีการแก้แน่ๆ  ช้าเร็ว มันก้ต้องมา เราตอ้งเตรียมการ รอต้อนรับ มันอย่างภาคภูมิ แก้ไขเมื่อ 28 พ.ค. 55 20:53:56 จากคุณ : khonthai.tk. เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 20:37:11

ความคิดเห็นที่ 46 ทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด ก็พอแล้วครับ จากคุณ : Kman เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 21:08:34

ความคิดเห็นที่ 47 ขออนุญาต คุณ khonethai อีกนิดนะ #43 อันที่จริง เราพบว่า คนเมืองที่มีการศึกษา ใช้จ่ายเงินไม่เป็นมากที่สุด เสียเงินไปกับ อาหารแพงๆ smart phone ราคาแพงเกินจำเป็น บ้าน รถยนต์ พ่ายแพ้กับแรง Promotion จากผู้ประกอบการต่างๆ น้อยคน ที่จะมีสัดส่วนเงินออมและลงทุนเกิน 10% ของรายได้ ตรงกันข้าม คนที่มีการศึกษาน้อย กลับรู้คุณค่าของเงินมากกว่า เพราะรายได้ของเขาเหล่านั้น ไม่แน่นอน อย่าไปตีกรอบ ว่า คนที่อยู่ในสลัม เสพยา เช้ากินเหล้า เย็นกินเหล้า คือ กลุ่มคนกลุ่มใหญ่ ของ กลุ่มคนที่มีการศึกษาน้อย #44 ไม่แน่ใจว่าประชดมั้ย แต่เราตกใจมากกว่า ว่า ชนชั้นกลางส่วนใหญ่ แยกไม่ออกว่าอะไร คือ ประชานิยม อะไร คือ การกระตุ้นเศรษฐกิจ คล้ายๆ กับถูกสอนให้ท่องจำตามกันมา ไ่ม่ดูบริบท และ เหตุผล ... เจ้าสัว ซีพี ที่สร้างทฤษฎี 2 สูง เขาก็ไม่เคยไปร่ำเรียนตำรามาจากไหน มีแต่คนอยากทำ ปริญญาเอก ที่พยายาม นำสิ่งที่ จำสัวประสบความสำเร็จ มาสร้างเป็นทฤษฎี มาเป็นตำราเรียน ประเภทที่ท่องจำอย่างเดียวว่า การจ้างขุดถนน คือ การกระตุ้นเศรษฐกิจ การ ลด แลก แจก แถม คือ ประชานิยม โดยไม่ดู บริบท ต้นทุนภาษีที่ใช้ impact ของค่า multiplier ที่มีผลต่อ GDP ก็ไม่ต่างกับ การท่องจำตามๆ กันมา เหมือน ม้าเจ๊ก ตั้งค่าย บนที่สูง ตามพิชัยสงครามซุนวู ถ้า จะห่วง ว่าประเทศ จะล้มละลาย จงห่วงว่า นโยบายต่างๆ ที่ใช้ หากไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง หรือเปรียบเทียบ คล้ายๆ กับการกู้มาลงทุน แล้วผลตอบแทนไม่เป็นอย่างที่คิด อันนั้น จะมีปัญหา คนละเรื่อง กับ การกู้มาซื้อรถขับ แล้วอ้างว่า มันจำเป็นต่อการเิดินทาง แบบ การแจกเช็คช่วยชาติ คนละเรื่องเลย ... ปล. อันที่จริง ทฤษฎี 2 สูง ถูกสร้างขึ้นมา เพื่อสนับสนุน ธุรกิจอี ทั้งนั้น ถ้าเอามาใช้จริง เงินก็เฟ้อกระจาย แต่ไม่รู้อะไรบังตา พอ อี พูด เกียรตินิยม เศรษฐศาสตร์ Oxford ขานรับ คนก็หลับหูหลับตา ว่าดี เป็นเรื่องชวนให้สับสนกับชีวิต คล้ายๆ GDP กะ GNP ประชานิยม นั่นแหละ ... จากคุณ : อรุโณทัย เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 21:26:06

ความคิดเห็นที่ 48 ประชาธิปไตย ผสม การตลาด น่าจะยังใหม่สำหรับคนไทย เลยติดใจ promotion กันหมด แถมtarget groupก็กลุ่มใหญ่ด้วย ความจริงวิธีการเขาก็ไม่เลว แค่ไม่สอนคนให้จับปลา จากคุณ : yvrhere เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 21:48:16

ความคิดเห็นที่ 49 คนไทยหลายคนใช้เงินไม่เ่ป็น ชอบใช้หนี้ มากกว่า เป็นคนมีเครดิตก้อต้องเข้าใจ ผ่อนทุกอย่างเพื่อหน้าตา จากคุณ : yvrhere เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 21:55:52

ความคิดเห็นที่ 50 อ้างอิง #11, 36 ปัญหาเราเห็นแล้ว และมีบางท่านทำนายอนาคตว่าอีก 15 ปี ประเทศเราจะมีปัญหา ถามในฐานะคนที่มองเห็นหายนะในอนาคต เราควรทำยังไงครับ ไม่เอาภาพรวมนะ(เพราะคงแก้ไม่ได้และคนเหล่านี้ก็ไม่ได้มาอ่าน) ขอถามทางรอดรายคน เช่น อย่าถือเงินบาท ซื้อทองมาเก็บแทนเงิน? อะไรทำนองนี้รึเปล่าครับ จากคุณ : โลครึ่ง เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 22:34:00

ความคิดเห็นที่ 51 ผมสิครับ ต้องขอขอบคุณ คุณอรุโณทัย ที่ช่วยเปิดมุมมองอีกด้าน ที่ผมไม่ค่อยได้นึกถึง มองวิกฤติโลก ก้เพราะตัวเองเป้นนักลงทุน   ไมได้มองโครงสร้างเน่าๆที่ดำรงคงอยู๋เกินกึ่งศตวรรต  บอกตรงๆผมไม่ค่อยอยากจะมองครับ มันเน่าตั้งแต่ข้างบนสุด ลงมายันล่าง แต่ไม่มองอย่างไร ก็ต้องเห็น ต้องได้รับผลประทบครับ ตอนนี้ทั้งฝ่ายเหลือง ฝ่ายแดง ล้วนแต่งัดประชานิยม มาแข่งกัน ถ้าทุกคน เบือหน่าย ไม่อยากวิพากษ์ วิจารณ์ ไม่อยากแสดงความคิดเห็นแบบผมหมด สักวันไฟมันลามมาถึงบ้าน ก็อาจจะไม่รู้ตัวก้ได้ มองโลก มองหาโอกาสในการลงทุนอย่างเดียว โดยไม่มองปัญหาสังคมในบ้านตัวเอง ไม่ดีแน่นอนครับ ขอบคุณสำหรับการให้ความคิดเห็น ความรู้ ในอีกแง่มุม ซึงสำคัญเอามากๆ เพราะมันเป้นบ้านของเราเองครับ จากคุณ : khonthai.tk. เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 22:52:42

ความคิดเห็นที่ 52 ผมว่าอีกสิบห้าปี บ้านเราก้ไม่เป้นอย่างกรีซ หรอกครับ เพราะประชากร ชาวไทยของเรานิสัยดี มีความรับผิดชอบกว่ากันเยอะ อีกอย่างจุดบกพร่องของรัฐสวัสดิการรอบนี้   จะทำให้มีการคิดป้องกันเอาไว้ ความผิดพลาดเมือมันส่งผลเสียรุนแรง มันจะถูกเรียนรู้ และจะไม่ผิดพลาดในแนวทางเดิม แต่จะไปผิดพลาดในแนวทางใหม่แทน จากคุณ : khonthai.tk. เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 23:03:54

ความคิดเห็นที่ 53 ขอบคุณพี่ๆทุกท่านที่ช่วยแนะแนวทางใหม่ๆ ผมเองมิได้อยู่ข้างใด แต่อาจเพราะอายุยังน้อย ประสบการณ์ยังไม่เท่าพวกพี่ๆ มุมมองยังคงแคบอยู่ รบกวนช่วยชี้แนะด้วยครับ จากคุณ : FangenZa เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 23:30:20

ความคิดเห็นที่ 54 ต้องแยก นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ กับ นโยบายประชานิยม ด้วยหรอครับ ไม่ได้ประชดนะครับ แต่ผมไม่เข้าใจตรงนี้ ช่วยลองยกตัวอย่างนโยบายประชานิยมที่ไม่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้มั้ยครับ เผื่อจะผมจะมองภาพออกบ้าง จากคุณ : Teuton เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 55 05:14:43

ความคิดเห็นที่ 55 ตอบความเห็นที่ 50 จุดสังเกต คือจะต้องดูระดับหนี้สาธารณะของไทยว่า ถ้าเกินกรอบที่ 60 % ต่อรายได้ประชาชาติหรือจีดีพีเมื่อไหร่จะเป็นสัญญาณอันตรายระดับหนึ่ง และถ้ารัฐบาลไม่สามาถลดการใช้จ่ายหรือเพิ่มภาษีได้  อัตราแลกเปลี่ยนจะเป็นตัวปรับให้เงินบาทอ่อนค่า   ผลคือเงินเฟ้อในประเทศจะเร่งตัวขึ้นมา ตามต้นทุนพลังงาน ทีนี้  ถึงตอนนั้นทางเลือกในการลงทุนคือต้องลงทุนในสินทรัพย์ต่างประเทศที่มีสกุลเงินแข็ง(Hard Currency) และเศรษฐกิจยังขยายตัวอยู่ ตอนนี้  ที่ผมมองคือออสเตรเลีย  เพราะยุทธศาสตร์การบริหารประเทศชัดเจนคือผูกกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจจีน  สิงคโปร์ก็ดี  แม้ว่าราคาอสังหาจะแพงไปหน่อยแต่ยุทธศาสตร์ประเทศของเขาชัดเจน สินทรัพย์ที่น่าไปลงทุนเมื่อถึงตอนนั้น   มีตั้งแต่เงินฝากต่างประเทศโดยเน้นประเทศที่มีพื้นฐานทางเศรษฐกิจมหภาคที่แข็งแกร่งนะครับ  เช่นสหรัฐอเมริกา อังกฤษ ออสเตรเลีย  แคนาดา  สิงคโปร์ เป็นต้น ส่วยสินทรัพย์ในประเทศนั้นๆที่น่าสนใจก็มี   กองทุนอสังหาริมทรัพย์ต่างประเทศ   REITs   กองทุนหุ้นต่างประเทศ  เป็นต้น ในวิกฤติหนี้สาธารณะยุโรป  เศรษฐีกรีซ ได้เคลื่อนย้ายเงินตัวเองไปอยู่ที่ลอนดอนอังกฤษผ่านการซื้ออสังหาริมทรัพย์ที่ลอนดอน  ผลคือใน 2 ปีนี้ ราคาอสังหาฯ ลอนดอนปรับขึ้นมาอีกและกลายเป็นเมืองที่น่าลงทุนด้านอสังหาฯที่ดีที่สุดในโลกไปแทน ฮ่องกงและสิงคโปร์  นอกจากนี้   เศรษฐีกรีซลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลเยอรมัน พันธบัตรรัฐบาลเนเธอร์แลนด์  เงินฝากธนาคารเยอรมัน  เป็นต้น ส่วนการเคลื่อนย้ายเงินฝากใปสวิตเซอร์แลนด์  ลดลงมากตั้งแต่ เดือน ก.ย. ปีที่แล้วเมื่อ  SNB (ธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์) ได้ทำการลดค่าเงินฟรังค์สวิตเซอร์แลนด์ลงเพื่อกระตุ้นการแข่งขันของประเทศ  เพราะก่อนหน้านั้นด้วยความกลัววิกฤติยูโร  มีเงินฝากจำนวนมากเคลื่อนย้านจากประเทศยูโรโซนไปสวิตเซอร์แลนด์ส่งผลค่าเงินฟรังค์สวิตฯ แข็งค่าเกือบ 20 % ในเวลาไม่กี่เดือนกระทบส่งออก ของสวิตเซอร์แลนด์มาก ด้วยผลจากการลดค่าเงินของเงินฟรังค์สวิตฯ ทำให้การเคลื่อนย้ายเงินจากประเทศยูโรโซนไปสวิตเซอร์แลนด์ลดลงมาก ในขณะที่ พวกที่มีความรู้ด้านวิชาชีพในกรีซเช่น  หมอ  วิศวะกรจะต้องออพยพออกนอกประเทศไปทำงานที่อังกฤษ ส่วนพวกที่ไม่มีความรู้หรือทักษะที่ขายแรงงานวิชาชีพได้พวกนี้น่าสงสารมาก ต้องเป็นเหยื่อของนโยบายที่ผิดพลาดและทางเลือกที่มีในชีวิตคือการประท้วง  พวกที่เกษียณอยู่แล้วก็ลำบาก  เพราะเงินบำนาญและกองทุนสำรองเลี้ยงชีพนั้นไม่เพียงแต่ขาดทุนมหาศาลจากการที่สินทรัพย์ในกรีซปรับลดลงมาก ยังถูกรัฐบาลเบี้ยวไม่จ่ายเพราะฐานะการคลังของประเทศย่ำแย่ กลายเป็นว่าทำงานทั้งชีวิตในวัยหนุ่ม  ได้เห็นกรีซสร้างตำนานเป็นแชมป์บอลยูโร  และมาเกษียณในช่วงวิกฤติหนี้สาธารณะ  ศักดิ์ศรีประเทศชาติย่อยยับ  ถูกดูแคลน      ทางออกของคนพวกนี้คือ  ฆ่าตัวตายครับ  ยอดฆ่าตัวตายในกรีซสูงมากทีเดียวจากคนกลุ่มนี้ เวลาอ่าน Scoop เรื่องวิกฤติหนี้สาธารณะยุโรปโดยเฉพาะชะตากรรมของคนกรีซ   จาก Financial Tiems ,Wall Street Jorunal  ผมอดหดหู่กับชะตากรรมของคนกรีซไม่ได้ ใครเป็นคนรับผิดชอบและใครควรรับผิดชอบในสัดส่วนมากที่สุด ปล. 1.ผมมีหลักว่าผมจะแลกเปลี่ยนมุมมองและความรู้กับบุคคลที่ใช้ "ข้อมูลและความรู้" เป็นหลักในการถกเถียงกันไม่ใช่การเถียงกันโดย "ความรู้สึก"  เพราะ "เสียเวลา" ทั้ง 2 ฝ่าย   ดังนั้น ถ้าคู่สนทนามีแนวโน้มใช้ความรู้สึก  ไม่ใช่ข้อมูลและความรู้  ผมไม่แลกเปลี่ยนด้วยครับ  เพราะเสียเวลาทั้ง  2 ฝ่าย ข้อมูลเป็นภาษาไทยที่เขียนได้ดีเรื่องวิกฤติยุโรปสามารถอ่านได้จาก  Link  นี้ครับ http://www.bot.or.th/Thai/EconomicConditions/Publication/FAQ_documents/FAQ_68.pdf 2.ยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศที่ดีที่สุด ลองศึกษารูปแบบจากประเทศสิงคโปร์ครับ แนะนำหนังสือ 2 เล่ม ภาษาอังกฤษ  1 เล่ม  ภาษาไทย  1 เล่ม http://www.matichonbook.com/index.php/newbooks/-1029.html http://www.amazon.com/From-Third-World-First-Singapore/dp/0060197765 จากคุณ : Pariyed เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 55 10:15:20

ความคิดเห็นที่ 56 ไม่ต้อง 15 ปีหรอกครับ จำได้ตอนปี 44 ทักษินออกประชานิยม พูดกันว่า 15 ปีเจ๊งแน่ ตอนนี้ 55 แล้ว เหลือเวลาอีก 4 ปีเท่านั้นแหละ ถ้ายังไม่เจ๊ง เดี๋ยวก็ยืดเวลาออกไปอีกทีละ 15 ปี จนกว่าจะเจ๊งจริง แล้วก็จะโทษทักษินว่าทำประชานิยมจนเจ๊ง จากคุณ : เถ้าลอย เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 55 17:57:05

ความคิดเห็นที่ 57 อย่าลืมว่ามีการรัฐประหาร ทำให้นโยบายประชานิยม ขาดช่วงไประยะเวลาหนึ่ง หลายนโยบายมีการปรับปรุง หลายนโยบายก็ไม่ได้ทำต่อ ประชานิยมเริ่มกลับมาใหม่ เมื่อมีการเลือกตั้งอีกครั้ง ภายในสามปีมานี้ ค่าแรงขั้นต่ำมันถึงได้ขึ้นไปร้อยละห้าสิบจากรัฐบาลเก่าสิบก่อนเลือกตั้ง และรัฐบาลใหม่อีกสี่สิบหลังเลือกตั้ง เลือกตั้งครั้งต่อไปคงขึ้นให้อีกเจ็ดสิบ เกทับกันไปเรื่อย ๆ จากคุณ : ฟักแฟงแตงไทย เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 55 18:19:59

ความคิดเห็นที่ 58 #55 ออกตัวมาแบบนี้ ก็คงคุยอะไรกันไม่ได้ เพราะเราไม่มี ref. อุตส่าห์ อดใจไม่ซื้อหนังสือจากสนพ.ชุดนี้ เมื่องานสัปดาห์หนังสือที่ผ่านมา จากที่คุณเชียร์ ท่าทางคงไม่แคล้วต้องเสียตังค์จนได้ T.T อ่านจากที่คุณเขียน เรานึกถึงสมัย ปี 40 ที่คนโทษกันว่า เป็นเพราะหลักสูตร MBA ที่ทำให้เกิดวิกฤติเศรษฐกิจ แล้วก็เป็นจุดเริ่มต้น ของทฤษฎีพอเพียง ผ่านมา 15 ปี ทุกวันนี้ หากเราจะลงทุน เราก็นึกไม่ออก ว่าเราจะหนีให้พ้นจากการหา expected return ได้อย่างไร หากจะยึดหลักทฤษฎีพอเพียง ก็มองไม่ออกว่า การกู้อย่างพอเพียงเป็นอย่างไร ให้แตกต่างจากการใช้ Dept Ratio ตามหลักสูตร Finance หากไม่กู้แล้ว ระบบธนาคารที่ไว้ใช้ระดมเงินออม จะเอากันอย่างไร จะเอาชนะเงินเฟ้อ กันอย่างไร คุณพูดถูกแล้ว ว่าอย่าใช้ความรู้สึก 10 ปีก่อน 30 บาท รักษาทุกโรค ก็ถูกความรู้สึกบอกว่า มันจะเจ๊ง แต่กลายเป็นว่าก่อนเกิดการปฏิวัติ มีข้อมูลทางวิชาการ ยืนยันว่ามันไม่เป็นอย่างนั้น เค้าว่ากันว่า ความเจริญของมนุษยชาติ เริ่มต้นจากการเรียนรู้ที่จะใช้ไฟ บางคนบ้านไฟไหม้ จะโทษว่า ไฟไม่ดี หรือ คนใช้ไม่เป็น ? จำเป็นหรือไม่ ที่เราใช้ไฟแล้ว จะไหม้อย่างเขาด้วย อย่างที่บอก ที่สุด ต้องมาดูกันว่า expectation อยู่บนพื้นฐานหรือไม่ แต่คนคำนวณหรือจะสู้ฟ้าลิขิต สุดท้าย ก็ต้องมาดูต่อว่า ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น มันเป็นไปอย่าง expectation หรือเปล่า เทพ VI อย่าง บัฟเฟตต์ ก็หนีไม่พ้น expectation และ เทพ VI คนเดียวกัน ก็เคย expect พลาด หรือจะเอา อย่าง ลินซ์ ที่เน้นหาธุรกิจ turnaround expect ถูก 6 ตัว ใน 10 ตัว ก็ืเหมือนถูกหวย อย่างที่บอกข้างต้น เราไม่มี ref. แต่ช่วงที่กรีซ เป็นเจ้าภาพบอลยูโร จำได้ว่ามีการวิเคราะห์ถึงความไม่คุ้มค่าทางเศรษฐกิจของเงินทุนที่ลงไปเช่นกัน กรีซเป็นประเทศที่เน้นการท่องเที่ยว การลงทุนต่างๆ เหล่านั้น expect ว่าจะสามารถสร้างมูลค่าระยะยาวจากการท่องเที่ยวได้ แต่มันดันไม่เป็นอย่างนั้น ก็ไม่รู้ว่า นักการเมืองที่นั่น expect บนพื้นฐานไหน คิดง่ายๆ ว่าแจกเงินแล้วได้ความ Popular แล้วยกทฤษฎีมาปั้นตัวเลข หรือ มองเห็นปัญหา แล้วพยายามที่จะสร้าง growth เราก็ไม่รู้ว่า ในประเทศ จะมีการโทษว่า เป็นเพราะ การใช้สกุลเงินยูโร ทำให้ไม่สามารถใช้นโยบายการเงินได้ เหมือนๆ กับที่ ปี 40 ในประเทศไทย โทษกันเองว่า การเปิดเสรี BIBF น่ะดีแล้ว แต่เพราะ fix อัตราแลกเปลี่ยน หรือเพราะเปลี่ยนรัฐบาลก่อนจะได้ปล่อยเสรีอัตราแลกเปลี่ยน เป็นต้นเหตุของหายนะ หรือไม่ ถึงขนาดนี้แล้ว คงไม่ต้องมาพูดกันถึงทฤษฎีเคนส์ และข้อจำกัด ว่าเมื่อไหร่ควรกระตุ้น เมื่อไหร่ควรปล่อยให้เป็นเรื่องของ invisible hand คิดว่าคุณเองก็คงจะรู้ เอาเป็นว่า คุณหาทางลงทุน โดยหนีให้พ้นจากการหา expectated return ให้ได้เสียก่อน ไม่เช่นนั้น ก็จงยอมรับเสียเถิดว่า การลงทุนมีความเสี่ยง ทีนี้ ก็อยู่ที่ จะเลือกใครมาเป็นผู้บริหารจัดการการลงทุน ผู้บริหารที่ไม่เคยมีประสบการด้านการบริหาร ผู้บริหารที่มีประวัติไซฟ่อนเงิน หรือผู้บริหารที่มีประสบการณ์สร้างธุรกิจขนาดใหญ่ ปล. มีธุรกิจผูกขาดรายหนึ่งในตลาด ที่บริหารงานโดยผู้บริหารที่ว่ากันว่าเก่งที่สุดในประเทศ เราไม่รู้ว่า ตัวเลขรายได้เขาเป็นอย่างไร แต่สังเกตได้ว่า ลูกค้าต่อคิวชำระเงินที่บูทแน่นทุกวัน แน่นกว่า อีก 2 รายที่ได้สัมปทาน แต่ทุกวันนี้ มันก็ยังขาดทุน คงไม่ต้องบอกว่า จุดเริ่มต้นของการขาดทุน เกิดจากการแหกกฎข้อไหนในทางการตลาด ... ปล. 2 ตอบคำถาม #50 คำถามของคุณเป็นเรื่องตัวอย่างที่ดี เพราะ เป็นคำถามที่ไม่ได้หนีไปจาก expectation อยู่ที่ว่า คุณเลือก ที่จะ expect บน สินทรัพย์ ที่ก่อให้เกิด ผลตอบแทน จากการลงทุน หรือ ผลตอบแทน จากการ เก็งกำไร ... ถ้าคุณเลือกอย่างหลัง มันก็เป็น กิจกรรม ที่เสี่ยง พอๆ กับ นโยบายประชานิยม นั่นแหละ หึๆ ... แก้ไขเมื่อ 29 พ.ค. 55 19:51:34 แก้ไขเมื่อ 29 พ.ค. 55 19:49:05 จากคุณ : อรุโณทัย เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 55 19:36:45

ความคิดเห็นที่ 59 ถ้าเราเลิืกบ้าคลั่งลัทธิสารพัดสีได้ เราก็จะไม่ต้องเป็นแบบกรีซครับ อย่างที่ คุณอรุโรทัย บอกไว้ว่า สังคมเมืองพ่ายแพ้ต่อโปรโมชั่น เช่นมือถือ รถยนต์ ทีวี ตู้เย็น คือนิสัยคนไทย อยากอวดมั่งอวดมีครับ เริ่มกันตั้งแต่ โรงเรียนอนุบาล จนจบปริญญาตรี ต่อไปยันเอก ลองเดินเข้าไปมอง แล้วคิดครับ อะไรคือเหตุให้พ่อแม่ หรือแม้แต่ตัวนักเรียนนักศึกษาเหล่านั้น ดิ้นรนไปจ่ายแป๊ะเจี่ย ไปนั่งกวดวิชาสารพัด หรือแม้แต่ลงภาคพิเศษต่างๆ เพื่อให้ได้เรียนในสถานศึกษานิยม บางคนลงทุนไปต่อนอก เพื่อให้ได้ชื่อว่าจบนอก ทั้งๆที่ก็ไม่ได้เก่งกว่าคนที่จบรามฯ หรือสุโขทัย  แต่ได้ชื่อว่าจบนอก เลยได้โอกาสดีกว่า เพราะงั้นที่หลายคนดิ้นรน ก็เพื่อคำว่า "โอกาสที่ดีกว่า" ครับ คำๆนี้ไม่วนเวียนอยู่ในชีวิตในทุกการดำเนินชีวิต ทั้งการลงทุน หรือการใช้ชีวิต  หลายคนดิ้นรนส่งลูกเรียนโรงเรียนดีๆ เพื่อหวังว่าจะมีโอกาสที่ดีกว่าในการดำเนินชีวิตต่อไป เพราะจะอยู่ในสังคมที่ "เชื่อกันว่าดี" แต่มันจะดีจริงไหมไม่มีใครรู้ แต่เราถือว่าเราพยายามให้ดีที่สุดแล้ว ในขณะที่นโยบาย ทักษิณ ที่มันขายได้ จนคนเลือกกันเยอะแยะ เพราะทักษิณมอบคำว่า โอกาส ให้กับปชช ที่ต้องการโอกาสมากๆครับ  อย่างสมัย ทรท. เข้ามาในยุคที่เศรษฐกิจแย่กว่าต้อนนี้  ตอนนั้นมีโฆษณา "เงินกำลังจะหมุนไป" หลายคนคงจำกันได้  อันนั้นคือการกระตุ้นอย่างหนึ่ง   แต่ที่ผมชื่นชมคือ โอท๊อป ซึ่งจริงๆ มันคือนโยบาย สหกรณ์รีเนม และทำให้มันเป็น สหกรณ์อย่างที่ควรจะเป็น ไม่ใช่้ สหกรณ์แบบไทยโบราณ อย่างที่เห็นในพิพิธพันธ์การค้าบางจุด   นโยบาย บ้านหลังแรก มันก็มาจาก บ้านเอื้ออาทร ที่พอโดน รัฐประหารแล้วก็เละ และโดนทอดทิ้งไม่สานต่อ  อันนี้หลายคนอาจจะิิจิกด่าว่า มันคือแฟลชคนจน มันคือสลัม  ก็ต้องถามกลับว่าเคยเฉียดเข้าไปใกล้หรือยัง  ใช่มันไม่ใช่โครงการที่สวยงามเหมือนคอนโดฯสุขุมวิท มันไม่ได้เลิศหรูเหมือนบ้านจัดสรรดีๆ  แต่มันคือโครงการที่หลายคนรู้สึกว่าเขาได้มี "โอกาส" เป็นเจ้าของที่อยู่ของเขาเองสักที หลังจากต้องจ่ายเิงินค่าเช่้าให้ เถ้าแก่หลายๆคนมานาน นโยบาย 30บ หลังรัฐประหาร กลับไม่ยกเลิก แถมรีเนมเป็น บัตรทองรักษาทุกโรค(ไม่ต้องจ่ายค่าเอกสาร 30บ.ด้วยซ้ำ) แต่ต้มยำนโยบายด้วยการปรับบัญชียาลงจากเดิม  ซึ่งจริงๆ นโยบาย30บ. มันคือการให้โอกาสคนจน เข้าถึงการรักษาพื้นฐาน แต่ภายหลังยิ่งทำก็ยิ่งต่อยอดไปหลายโรค แต่ว่าก็ไม่ใช่ทุกโรค หากพรรคอื่นๆ จะเข้ามาตีตลาดได้ ไม่ใช่ต้องทำโปรโมชั่นประชานิยมครับ แต่ต้องหาโปรโมชั่น คำว่าสร้างโอกาส ให้ปชช ได้เห็นว่าเขาจะได้ โอกาสอะไรจากนโยบายรัฐครับ เพราะงั้นเช็คช่วยชาติ จึงไม่ได้ครองใจปชชส่วนใหญ่ เพราะมันไม่ได้ให้โอกาสพวกเขา อีกนโยบายที่รัฐประหารแล้วมันก็หายไป คือเกษตรแลกอาวุธ อันนี้คงไม่ต้องบอกนะครับว่าทำไมถึงไม่ทำต่อ และรัฐบาลชุดนี้ก็ยังไม่กล้าเอากลับมาทำ จากคุณ : แมวน้ำขี้เซา เขียนเมื่อ : 30 พ.ค. 55 01:04:54

ความคิดเห็นที่ 60 คนไทยทุกคนต้องติดตามอย่างไกลชิด  เป็นตัวอย่างที่ให้เห็นก่อนที่ประเทศไทยจะตายตาม จากคุณ : ร่ำรวยยิ่งขึ้น เขียนเมื่อ : 30 พ.ค. 55 08:13:15

ความคิดเห็นที่ 61 ^_^ คั่นเรืองสังคม การเมือง  มาว่าเรืองข่าวนิดนะครับ^_^ ประมูลพันธบัตร สเปน ดอก6.41% เป็นข่าวร้ายขย่มตลาดมารอบนึงแล้ว ระวังดอกเบี้ยพันธบัตร อิตาลี ที่จะขึ้นตาม จะเป้นข่าวร้ายมาขย่มตลาดอีกดอกนึง เล่นอย่าเพลินนะครับ เช้านี้กำไร แล้ว ก้ขาย  ถือเงินสดบ้างอย่าอมหุ้นเต็มครับ จากคุณ : khonthai.tk. เขียนเมื่อ : 30 พ.ค. 55 09:14:51

ความคิดเห็นที่ 62 ตัวอย่าง มี 2 หมู่บ้าน(หมู่บ้านA และหมู่บ้านB ,จำนวนคนใกล้เคียงกัน)บริหารจัดการการเงินกันเอง หมู่บ้าน A มีปริมาณเงิน 10,000 บาท หมู่บ้าน B มีปริมาณเงิน 100,000 บาท หมู่บ้าน A มีการใช้จ่ายเงินกันแบบกระจัดกระจายทั่วถึงทุกบ้าน แต่ละบ้านสามารถผลิตและขายสินค้าของตนได้ หมู่บ้าน B มีการกระจุกตัวของเงิน อยู่ในกลุ่มผู้มีฐานะ  การค้าและกิจการส่วนใหญ่เป็นของผู้มีฐานะเพียงไม่กี่คน การซื้อขายผลผลิตแทบทุกอย่างกระทำผ่านกิจการค้าของผู้มีฐานะ ความแตกต่างของ 2 หมู๋บ้านนี้ ไม่ใช่อยู๋ที่ปริมาณเงินเท่านั้นแต่อยู่ที่การบริหารจัดการด้วย หมู๋บ้าน A ถึงแม้ปริมาณเงินโดยรวมจะน้อยกว่า แต่ส่งเสริมให้มีกิจกรรมกระตุ้นการซื้อ-ขายจากครัวเรือนถึงครัวเรือนสูง เงินผ่านมืออย่างรวดเร็วทั่วถึงทุกครัวเรือน หมู่บ้านนี้ สามารถสร้างรายได้ต่อหัว หรือ สามารถสร้างผลผลิตมวลรวมได้สูงมาก (มีการซื้อ-ขาย มากการหมุนเวียนผ่านมือรวดเร็ว ก็เก็บภาษีได้มาก) หมู่บ้าน B เนื่องจากเงินส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มผู้มีฐานะเพียงไม่กี่ราย ผู้บริหารหมู่บ้านสนับสนุนให้มีการค้าขายโดยผ่านกิจการของผู้มีฐานะเพียงไม่กี่คน ประชาชนในหมู่บ้านนี้ส่วนใหญ่จึงอยู่ในสภาพลูกจ้าง (รับจ้างผลิต-รับจ้างทั่วไป) ................ สำหรับแนวคิด..เรื่อง 2 สูง ป้า...เห็นว่าเป็นแนวคิดที่เอื้อให้ ...ปลาใหญ่ กินปลาเล็กง่ายขึ้นไปอีก ************************** แก้ไข:- อ้าว!...หัวข้อเรื่องวิกฤติกรีช ก็เช่นกัน การจำกัดการใช้จ่าย ตัดลดงบประมาณ ลดการจ้างงาน ยิ่งทำให้ประชาชนเดือดร้อน สถานการณ์ยิ่งจะวิกฤติ...จนอาจไปถึง...การจลาจลและปล้นสดมภ์ การกระตุ้นให้แต่ละครัวเรือนหรือประชาชนส่วนใหญ่สามารถค้าขายผลผลิตรวมถึงเพิ่มมูลค่าเพิ่มของผลผลิต เพิ่มช่องทางการตลาด ส่งเสริมการท่องเทียว รวมถึงภาครัฐต้องมีการลงทุนเพื่อสนับสนุน นโยบายเหล่านี้ด้วย แก้ไขเมื่อ 30 พ.ค. 55 10:07:28 จากคุณ : ป้าModi (modi) เขียนเมื่อ : 30 พ.ค. 55 09:51:43

ความคิดเห็นที่ 63 เมืองไทยกำลังถูกเลี้ยงให้เป็นพวกแบมือขอรัฐเหมือนกัน ประชาชน นิยม ประชานิยมกันอย่างล้นหลาม เสพติดงอมแงม ก็หวังพึ่งพลังของคนที่ยังไม่เสพติดประชานิยม ซึ่งเป็นเสียงส่วนน้อยของประเทศไปซะแล้ว อีกหน่อยคนพวกนี้ก็จะน้อยลง ลงทุน ลงแรง ตรากตรำทำงานมา หาเงินเข้ารัฐ ให้รัฐไปแจกพวกประชานิยม ที่พูดแบบนี้ไม่ใช่ว่าช่วยเหลือกันไม่ได้ คนไทยมีน้ำใจให้กันได้เสมอ แต่รัฐต้องสอนเค้าจับปลาด้วย ให้ข้าวกินไป ก็สอนเค้าหากินเองด้วย ให้แหล่งทำกินไปด้วย ช่วยเหลือคนมีพยายามทำไมจะช่วยไม่ได้ แต่แจกฟรีให้ได้หน้านี่ จุดจบจะเป็นยังไงยังมองกันไม่ออกอีกรึ นโยบายเศรษฐกิจพอเพียง พึ่งพาตนเองให้มากที่สุด ใช้จ่ายอยู่กินตามกำลัง เมื่อไหร่รัฐไทยจะชูเรื่องนี้อย่างเป็นจริงเป็นจัง เมื่อไหร่คนไทยจะทำเรื่องนี้อย่างเป็นจริงเป็นจัง ลงมือทำ ไม่ใช่เอาแต่คิดว่าฮิต เอาแต่คิดว่าพอเพียงคือทำสวน เฮ้อ จากคุณ : เช้าฟาดฝักฟัก เย็นฟากฟักฝัด เขียนเมื่อ : 30 พ.ค. 55 10:41:06

ความคิดเห็นที่ 64 เศรษฐกิจพอเพียง ...คำว่าพอเพียงของแต่ละคน มันจะไม่เท่ากันนะครับ และมันดีสำหรับการดำรงชีวิตของเราในยุคทุนนิยมนี้มากๆครับ เพราะพ่อค้า แม่ค้าทุกๆคนก็พยายามสร้างค่านิยมต่างๆเพื่อดึงเงินออกจากกระเป๋าของเราตลอดเวลา ตั้งแต่เด็กจนแก่ :-) จริงๆแล้วประชานิยม มันก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียอ่ะครับ ถ้านำมาใช้แบบระมัดระวัง อย่างเหมาะสม รวมทั้งมีการตรวจสอบที่ดี ก็จะดีกับคนทั้งระดับกลางและล่างครับ แต่ในหลายๆครั้งมันถูกนำมาใช้มากเกินไป โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการคอรัปชั่นแอบแฝงมาด้วย ซึ่งเป็นเรื่องปกติ(ที่เลว)ของนักการเมืองทุกพรรคทุกฝ่าย โดยประชาชนหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ได้ตรวจสอบหรือตรวจสอบไม่ได้ แต่ไม่คิดว่าประเทศไทยจะเป็นเหมือนกรีซครับ เพราะคนไทยจำนวนมากยังมีเงิน(รวยเงียบๆ) และคนเหล่านี้ยังมีแนวคิดอนุรักษ์นิยมอยู่ครับ :-) จากคุณ : sakano เขียนเมื่อ : 30 พ.ค. 55 22:10:15

ความคิดเห็นที่ 65 พูดถึงเรื่องสองสูง ใครมีความคิดเห็นเหมือนผมบ้างว่า หลายคนกลัวและเกลียดทักษิณ แต่จริงๆแล้วน่าจะเกลียดและกลัวธนินทร์มากกว่า เพราะครอบครองปัจจัยสำคัญในประเทศไว้ได้เยอะมากแล้ว ทั้งอาหาร พาณิชย์ สื่อสาร นี่ว่าจะะไปมอเตอร์ไซค์อีก ต่อไปคนๆนี้ จะสามารถบงการประเทศเราได้ขนาดไหนก็ไม่รุ้ ถึงเวลานั้นเราอาจเป็นเหมือนพนักงานประจำ ของตาแกไปเลยก็ได้ เหมือนลูกไก่ในกำมือ แถมด้วยนโยบายสองสูงที่จะทำให้แกรวยขึ้นไปอีก ดูเหมือน เห็นแก่ตัวและไม่รู้จักพอ น่าจะออกไปกอบโกยชาติอื่นมั่งได้แล้ว อย่ามาขูดรีดกับคนชาติเดียวกันแบบนี้เลย จากคุณ : ยืมล็อกอินเค้ามา (จอมยุทธ์น้อยเฉาเฉ่า) เขียนเมื่อ : 31 พ.ค. 55 01:03:48

ความคิดเห็นที่ 66 เห็นด่ากันมาเยอะแล้วว่าเมืองไทยมันไม่ดีอย่างนั้นอย่างนี้ นักการเมืองมันเลว แต่ไปดูจริงๆสิครับ การเติบโตทางเศรษฐกิจมีทุกปี เงินสำรองเท่าไหร่แล้ว ลองไปดูงบประเทศของ ธ แห่งประเทศไทยบ้างครับ จะเห็นเองว่า สถานะเราดีขึ้นมากแค่ไหน นักการเมืองก็มีดีมีเลวครับ แต่ที่ผ่านมา เป็นแพะ และถูกเหมาว่าเลวทั้งหมด เพราะแต่ละฝ่าย ใช้การโจมตีว่าเลวมาหาเสียง ก็เลยสรุปเอาว่ามันเลว  เพราะเรื่องดีไม่เคยเอามาพูดกัน จากคุณ : ป้อม (Bgate) เขียนเมื่อ : 31 พ.ค. 55 01:53:34

ความคิดเห็นที่ 67 ผมเห็นด่านักการเมืองเลว อะไรก้ลงการเมืองทำ หรือด่าการเมืองทำให้บ้านเมืองแย่ลง มันก็เหมือนกับคุณขับรถติดมากๆ อยู่ในเมืองกรุงแหละ แล้วก็ด่า ว่าทำไมมันออกรถมากันมากมาย ทำให้รถติด พูดเหมือนการจราจรติดขัดเพราะคนมันออกรถมาขับกัน โดยหลงลิมไปว่าตัวเองก็เป็นหนึ่งในคนที่อยู่บนถนน นักการเมืองดี หรือ เลว สะท้อนคุณภาพประชากรของประเทศนั้นๆนั่นแหละ สื่อสารมวลชน มีคุณภาพอย่างไร ก้สะท้อนคุณภาพประชาชนของประเทศนั้น เช่นกัน จากคุณ : Fastcat4100 เขียนเมื่อ : 31 พ.ค. 55 22:52:30

ความคิดเห็นที่ 68 อาหา ถึงตาผมมั่งนะ เรื่องการเมืองนะผมไม่คล่องเท่าไหร่แต่เรื่องประชานิยมนี้ผมว่ามันต้องทำเพื่อเอาใจประขาชนครับเป็นเรื่องปกติ อันนี้แล้วแต่คนคิดครับโอกาสเป้นเรื่องสำคัญของคนครับในเรื่องที่เค้าจะมีบ้านมีรถอันนี้น่าส่งเสริมครับเพราะเป็นการกระตุ้นในหลายๆอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องครับ มาถึงเรื่องวิกฤษติกรีชครับอันนี้ผมก้ว่าเหมือนพี่คนไทยเค้านะครับ อันนี้ที่พี่ว่าต้องลด port นะสมควรครับเพราะรายการในหุ้น คอมมูนิตี้ส่วนใหญลงครับตามภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวครับทำให้การบริโภคลดลงครับ ผมก็แนะนำลดport สำหรับหุ้น คอมมูนิตี้นะครับ ส่วนหุ้นที่ผมให้แนะนำทยอยเก็บก็เป็นหุ้น อุปโภคภายในประเทศครับ ซึ่งจะได้ผลกระทบน้อยกว่าครับ การทำasian นี้แหละจะเป้นการกระตุ้นอย่างหนึ่งครับ จะเกิดการลงทุน ทำรถไฟความเร็วสูง สร้างท่า สร้างที่เก็บของ เราจะเห็นได้ว่าเรามีห้างใหม่ผูดขึ้นทุกปี มือถือรุ่นใหม่ออกเป้นว่าเล่น รถยนต์ก็ยังขายดีมาตลอดจากการกระตุ้นจากภาครัฐ อันนี้ถ้าวิกฤษติยุโรปมาจริงเราต้องสร้าง port ที่แข็งแรงครับ คุณอาจย้าย การลงทุนในกองทุนรวมอสังหาก็ได้ปันผลสูงนะครับ ในวิกฤษติย่อมมีโอกาส แต่ใครจะคว้าละครับ จากคุณ : value invester (value invester) เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 55 00:28:52

ความคิดเห็นที่ 69 เห็นมีคนโจมตีทฤษฎีสองสูง แถมพ่วงด้วยบริษัทที่ได้สัมปทานที่ขาดทุนตลอดอีก มาเจออีกความเห็น บอกว่าคนที่เป็นเจ้าของธุรกิจหลากหลาย ร่ำรวย เพราะขูดรีึดประชาชน ก็รู้สึกหดหู่ใจเหมือนกัน ขอประเด็นแรกก่อนเลย ทฤษฎีสองสูงคืออะไร คุณเข้าใจแค่ไหน? จริงๆสองสูงที่คุณธนินท์พูดถึงก็มีหลาย version แต่มีทีชัดๆสอง versions คือ 1. รายได้สูง ราคาผลผลิตการเกษตรสูง 2. รายได้สูง ประสิทธิภาพสูง version แรก คือการปล่อยให้ราคาสินค้าเกษตรเป็นไปตามกลไกตลาด ไม่ใช่ให้กระทรวงพาณิชน์ กรมการค้ามาคอยกำหนดเพดานราคา และต้องสนับสนุนให้เกิดค่าแรงที่สูง version สอง จริงๆ ต่อจาก version แรกคือ แรงงานที่มีฝีมือมากขึ้น ทำให้ค่าแรงสูง ผมก็ไม่รู้ว่ามันผิดหลักเศรษฐศาสตร์ตรงไหน ทำให้เงินเฟ้อกระจายตรงไหน ประเด็นต่อมาคือเรื่องบริษัทที่ได้สัมปทานที่ขาดทุนตลอด ก็ไม่รู้้ว่าคุณหมายความว่าอย่างไร แต่ถ้าหมายถึง true ผมตอบแบบนักลงทุนที่หาข้อมูลของบริษัทได้คือ 1. ต้องมีภาระจ่ายค่าสัมปทานแพงกว่าอีกสองเจ้า 2. มีคลื่น น้อยกว่าอีกสองเจ้า 3. เข้ามาทีหลัง แต่ก็เข้ามาเป็นรายที่ 3 ทำให้เกิดสงครามราคามือถือ จนเป็นประโยชน์แก่ผู้บริโภค 4. พกธุรกิจ land line ที่ทำธุรกิจเหมือนบริษัท TT&T ที่เจ๊งไป และ TOT ที่นอนกินกับสัมปทาน 5. โดนวิกฤติต้มยำกุ้งเล่นงานเข้าเต็มๆ เพราะกู้เงินมาจากต่างชาติ ตอนนี้ ก็ยังพยายามใช้หนี้อยู่ ประเด็นสุดท้ายคือ คนรวยที่ทำธุรกิจหลากหลายคือคนที่ขูดรีดประชาชน ผมว่า คุณต้องไปหามุมมองชีวิตและความรู้อีกมากเลยครับ ไม่รู้จะพูดยังไง เอาเป็นว่า ระบบเศรษฐกิจไม่ใช่ zero-sum เกม และ พื้นฐานความเข้าใจของเศรษฐศาสตร์ที่ว่า ทุก transaction ที่เกิดจากความเต็มใจ เป็น win-win จากคุณ : อวิรุืทธ์ เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 55 22:42:02

ความคิดเห็นที่ 70 เรื่องสังคม การเมือง ผมไม่อยากจะออกความคิดเห็น ไม่มีความรู้เพียงพอ  ขอข้ามนะครับ รับฟังท่านอื่นที่มีความรู้จริงดีกว่า  คงทิ้งท้ายว่าผมไม่เห็นด้วยกับทฤษฎีสองสูง พูดให้สวยหรู อย่างไรก้ได้  แต่ถ้าบ้าทำจริง เงินเฟ้อกระจายแน่ จะมีสักกี่คนครับที่ สามารถอัพ ความสามารถอัพเงินเดือน ให้สูงๆ   และจะมีคนที่ด้อยโอกาสส่วนใหญ๋ ขนาดไหน ที่ต้องซื้อหมู ซือไก่ ของเสียแก ในราคาสูงๆ     แม้ผมจะไม่มีความรู้ ทางเศรษฐศาสตร์ โดยตรง  แต่มองด้วยสามัญสำนึกก้รู้แล้วว่า เป็นไปไม่ได้ คนมักจะเชื่อคนดัง  คนดังที่ทำและคิดอะไร ไม่เข้าท่าก้เยอะครับ  แม้เสียจะมีความสามารถ ผลงานเป้นประจักษ์ แต่แนวความคิดนี้ มันหาประโยชน์เข้าตัวเกินกว่าเหตุครับ คนจนที่เป็นคนส่วนใหญ๋ ของประเทศ ตายหยังเขียดครับ อยากจะพูดเรือง วิกฤติ และทอง สักหน่อย    แต่เอาไว้วันพรุงนี้ดีกว่า หยุดสามวัน  คงมีเวลาคิดและเขียน     เรืองทอง ผมพยายามหลีกเลี่ยงที่จะเขียนนานแล้ว หลังจากผมบอกว่าทองหมดรอบแล้ว ถูกด่ายับเยิน ตอนนี้กำลังจะรีบาวน์  ซึงน่าจะเป้นโอกาสให้อาซิ้ม อาเจ็ก อาแป๊ะ  ที่ดื้อไม่ฟังผมในครั้งนั้น   จะได้ออกตัวขายทองทิ้งไปถือสินทรัพย์อย่างอื่นแทน รู้ว่าพูดแล้วตัวเองจะเดือดร้อน  แต่ถ้ามีส่วนช่วยคนได้บ้าง เดือดร้อน ก้ยอมครับ จริงๆว่าจะเข้ามาเขียนตั้งแต่เมือวานแล้วว่าทองจะรีบาวน์แรง   แต่เข้ามาเขียนช้าไป มันรีบาวน์แล้ว  แต่ก้ยังไม่สาย เพราะมันจะยังคงรีบาวน์ต่อ   อย่างไรก้ขายทันครับ คืนนี้ไปเร่งงานก่อน เดียววันหยุดจะมาเขียน ขอทราบว่ามีคนจะฟัง บ้างไหมครับ ผมไม่อยากเป็นตัวตลก เขียนแล้วไม่มีคนอ่าน   กอ่นจะเขียนก้ต้องไปเสียเวลาทำการบ้านมา  ถ้าคนอ่านไม่มี ก้จะได้ไม่ต้องทำการบ้าน เอาแค่หยาบๆพอ   เขียนตามกำลังคนอ่าน   เสียเวลาให้เหมาะกับ สภาพแวดล้อมครับ จากคุณ : khonthai.tk. เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 55 23:22:57

ความคิดเห็นที่ 71 # 70 อ่านๆ...เขียนเถอะนะ Pleaseeee จากคุณ : RiverNoReturn เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 55 00:14:43

ความคิดเห็นที่ 72 เขียนเลยครับ จากคุณ : value invester (value invester) เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 55 00:49:24

ความคิดเห็นที่ 73 เขียนเลยครับ ตามอ่านเสมอ จากคุณ : Samith เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 55 00:57:12

ความคิดเห็นที่ 74 ผมรออ่านต่อครับ อ่าน  73 ความเห็นกับการทำความเข้าใจ. ภาษาคนไม่ได้จบเศรษฐศาสตร์มันยากแต้.  ทฤษฎีมาเพียบ. แต่สนุกครับ เขียนต่อนะ จากคุณ : Ben_jo 99 เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 55 01:10:55

ความคิดเห็นที่ 75 ขอบคุณมากครับที่พี่คนไทย กลับมาเขียนเรื่องทองอีกครั้งนึง อย่างน้อยก็มีผมคนนึงที่ตามอ่านบทความของพี่มาตลอด จากคุณ : เฮฮา (lek006) เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 55 06:31:19

ความคิดเห็นที่ 76 รอครับพี่ จากคุณ : ก็นะ เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 55 07:27:22

ความคิดเห็นที่ 77 รออ่านเรื่องทองด้วยคนค่า  และก็ขอขอบคุณนะคะที่มีน้ำใจช่วยเขียนแสดงแง่คิดและการวิเคราะห์ให้อ่านกันค่ะ จากคุณ : ยิปโซสีขาว เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 55 07:29:40

ความคิดเห็นที่ 78 คุณ value investor หุ้นคอมมูนิตี้ อ่านแล้วนึกถึงหุ้น sf 55  น่าจะหมายถึงหุ้นคอมโมดิตี้รึเปล่า ส่วนตัวมองว่าตลาดก็ผ่านวิกฤติมาหลายครั้งสุดท้ายแล้วก็ผ่านมาได้ทุกครั้ง  ถ้าเกิดก็เป็นโอกาสในการซื้อหุ้นดีราคาถูก. เพราะภาพรวมแนวโน้มเศรษฐกิจไทยยังเติบโตดีอยู่ค่ะ แต่ช่วงนี้ต้องลงทุนด้วยความระมัดระวังสูง   รออ่านต่อนะคะ จากคุณ : hungry jack เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 55 09:14:17

ความคิดเห็นที่ 79 รออ่านเช่นเดียวกันครับ จากคุณ : ชอบเที่ยวกับครอบครัว เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 55 16:29:15

ความคิดเห็นที่ 80 รออ่านค่ะ เขียนนะคะ จากคุณ : รวยรุ่งเรือง เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 01:00:17

ความคิดเห็นที่ 81 มีคอมเม้นต์นิดหน่อย เกียวกับ ทอง ครับ    แต่เห็นบรรยากาศ กระทู้ล่าง ก็นึกได้ว่าผมกำลังหาเรืองอีกแล้ว คราวที่แล้วก้หวังดี ออกมาเตือนว่าทองหมดรอบที่1900 ให้คัท โดนรุมด่าเปิง   คราวนี้จะมาบอกให้ถือทองรอไปคัทสูงกว่านี้   ก็คงโดนรุมด่าเปิงอีก เหมือนเดิม    โดยเนื้อแท้ ผมหวังดี จะเตือน อาซิ้ม อาเจ๊ก อาแป๊ะ  ให้รู้ถึงอันตราย ของดอยทอง ดอยสุงที่ไม่มี่ปันผล ไม่มีการเจริญเติบโต  และไม่มีดอกเบี้ย แถมมูลค่าตกต่ำ    ขาดทุนเงินเฟ้ออีกต่างหาก แต่คราวที่แล้ว ก้เห็นว่าไม่เป้นผม ผมคงถูกคนที่เตือน รุมด่า  บางคนตามจิกด่า ผมเป็นเดือนๆ ที่ไปว่าทองไม่ดี ทองจะลง คราวนี้แม้จะเห็น่วา ทองลงไป1500 จริงๆ แต่ให้ตาย คนที่อยากจะเตือน ก้คงไม่เชื่อ  แล้วผมจะเตือนให้ตัวเองเดือดร้อน ทำไม   ก็ในเมือช่วยอะไร ใครไมได้ ก้ควรอยู่เฉยๆ     ยิ่งโพสมากก้จะถูก พวกเซียนๆน้อยใหญ่ในเวปหมั่นใส้เอา  แล้วเรืองเดือดร้อน ก็จะมาถึงผมอีก ผมเลือกคอมเม้นต์ส่งไปทางหลังไม  ดีกว่า   เตือนได้ตรงตัวคนที่อยากฟัง ไม่โพส กลางเวป จนเกิดปัญหา ให้ตัวเองเดือดร้อนอีก เดียวคืนนี้ ขอหาอ่านข่าวต่างประเทศเพิ่มเติมเพือยืนยัน สิ่งที่ผมคิดอีกนิด แล้วพรุ่งนี้ผมจะเขียนส่งไปทางหลังไม ถึง คูณ RiverNoReturn     คุณ Samith   คุณBen_jo 99  คุณเฮฮา (lek006)    คูณก็นะ   คูณยิบโซสีขาว   คุณhungry jack    คุณชอบเทียวกับ  ครอบครัว คุณรวยรุ่งเรือง จากคุณ : khonthai.tk. เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 13:42:44

ความคิดเห็นที่ 82 ขอคอมเม้นต์ ด้วยคนค่ะ ขอบคุณมากค่ะ จากคุณ : มั่นใจ ใช้ได้เลย เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 17:50:06

ความคิดเห็นที่ 83 รบกวนส่งให้ผมอีกคน นะครับคุณคนไทย ผมห่างหายจากวงการไปนาน จากคุณ : ของฟรีไม่มีในโลก เขียนเมื่อ : วันวิสาขบูชา 55 01:37:44

ความคิดเห็นที่ 84 ถึงคุณ คนไทย ขอบคุณสำหรับสิ่งที่คุณทำอยู่ครับ เป็นประโยชน์และได้ความรุ้มากๆครับ อย่างไรเสีย ขอความคิดเห็น เรื่องทองอีกสักนิดนะครับ ผม มือใหม่ กลัวตามอะไรๆ ไม่ทัน ขอบคุณครับ จากคุณ : โทคิ เขียนเมื่อ : วันวิสาขบูชา 55 09:06:29

ความคิดเห็นที่ 85 ผมส่งข้อความหลังไมค์ไปให้พี่คนไทยแล้วนะครับ ถ้าพี่ไม่สะดวกก็ส่งมาทางหลังไมล์แล้วกันครับ ขอบคุณในความมีน้ำใจของพี่ครับ แก้ไขเมื่อ 04 มิ.ย. 55 14:38:14 จากคุณ : เฮฮา (lek006) เขียนเมื่อ : วันวิสาขบูชา 55 12:46:01

ความคิดเห็นที่ 86 สวัสดีครับ เพื่อนๆทุกท่าน    กำลังจะเขียนไปหละครับ   ขอโทษที่ช้าสักนิด  ผมไม่อยากให้คอมเม้นต์ ผิด  จึงพยายามดูให้รอบด้านให้รอบด้านที่สุด เท่าที่จะรอบด้านได้ มันใจแล้วค่อยเขียนครับ เดียวเขียนคอมเม้นต์ไปทางหลังไม นะครับ ........................................................... สะดวกครับ คูณเฮฮา ผมไม่อยากจะใช้เมล์ หลังไมนี่สะดวกครับ จากคุณ : khonthai.tk. เขียนเมื่อ : วันวิสาขบูชา 55 23:55:45

ความคิดเห็นที่ 87 สรุป อีกทีว่า วิกฤติหนี้ยุโร มีปัญหาหลัก อยู่สองส่วน ไม่ใช่ส่วนเดียวตามที่เค้าพยายามให้ข่าวมา 1.ปัญหารายจ่ายหลักของรัฐ ด้านสวัสดิ์การสังคม ที่มีแต่มากขึ้น มากขึ้น โดยการเก็บรายได้จากภาษีน้อยลง น้อยลง (หนี้ภาครัฐ) 2.ปัญหาหนี้สิ้น ภาคธนาคาร จากการแตกของฟองสบู่อสังหาริมทรัพย์ (หนี้ภาคเอกชน) และไม่เพียงแต่ กรีซ โปรตุเกส สเปน อิตาลี ยังมีประเทศอื่นอีกแน่นอน หรือแม้แต่ประเทศที่แข็งแกร่งที่สุด ในกลุ่มยูโร อย่างเยอรมัน ผรั่งเศส ก็ใช่ว่าใส้ในจะดีนัก เงินมันวิ่งจากที่ที่เน่า ไปหาที่ๆคิดว่าดีกว่า แน่นอน เงินจากประเทศทีมีปัญหาสันคลอน ถอนแล้วหนีไปฝากแบงค์ในเยอรมัน แล้วถามว่าในเยอรมัน จะไม่มีปัญหาหรือ ช่วงหลังที่ว่าอเมริกาฟื้น ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว เป็นความจิรงหละหรือ คำตอบคือไม่ใช่แน่ๆ หนี้เน่ายังอยู่ไหม ตอบได้เลยว่ายังอยุ่ รายจ่ายของรัฐลดลง หรือพอเลี้ยงตัวหรือไม่ คำตอบคือไม่ใช่ ทุกวันนี้งบประมาณของอเมริกา ยังขาดดุลหัวโตอยู่เหมือนเดิม ไม่มีการลด มีแต่เพิ่ม หนี้ภาครัฐยังคงทวีคูณเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆตลอดเวลา อเมริกาไมได้ดีกว่ายุโรปเลย แค่เน่าน้อยกว่าโดยเปรียบเทียบแค่นั้นเอง เงินและการลงทุน จึงหนีจากที่แย่กว่า ไปหาที่ๆแย่น้อยกว่าเท่านั้นเอง ปัญหาเรื้องหนี้ ทั้งของภาครัฐ และเอกชน ยังคงอยู่ และทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นเรือยๆ อเมริกาไมได้ดีกว่ายุโรปนัก เพียงแต่อเมริกา มีเอกภาพในการกำหนดนโยบาย จากคุณ : khonthai.tk. เขียนเมื่อ : 5 มิ.ย. 55 02:03:21

ความคิดเห็นที่ 88 สำหรับยุโรป เชื่อว่าจะหาเรื่องยื้อต่อไปได้อีกนิดโดยอ้างว่า รอผลเลือกตั้ง กรีซ   ทั้งที่มันไม่เป็นผลอะไรเลย เพราะปัญหาไมได้แก้ เลือกตั้งมาแม้ว่าจะได้กลุ่มเดิมมา ยืนยันว่าจะรักษาคำมั่นสัญญาเดิม แต่ในทางปฎิบัติ กรีซ ก้ไม่มีทางทำได้   ปัญหาของสเปนใหญ๋กว่ากรีซมาก  ซึงแน่นอนแก้ไมได้ และไม่ยอมแก้เช่นกัน อีกเดียว จะมีอิตาลี โผล่มาอีก ตอนนี้ก้ซื้อเวลากันไป อ้างโน่น อ้างนี่ มาประวิงเวลา ขอเลือนจุดจบไปให้นานที่สุด  ซึ่งผมเชือว่ายังยื้อไปได้อีก วิกฤติคราวนี้ จะไม่พังลง ณ จุดนี้ เจ้าของ เจ้ามือ  เจ้าภาพ รายใหญ่  อย่าเพิ่งกลัว อย่าเพิ่งเผ่นกันหมด   ตอนนี้ยังเล่นได้ครับ เอาไว้ยุโรปหมดมุข  ยื้อปัญหาต่อไปไม่ได้จริงๆ   ผมจะบอก ตอนนี้อย่าเพิ่งตัดช่องน้อย เลิกเล่นไปกอ่น กำไรจะดีที่สุด ก้ตอนผันผวนแรงๆนี่หละ ถ้าท่านทิ้งกันไปหมดแล้ว ผมจะเล่นกะใครหละครับ จากคุณ : khonthai.tk. เขียนเมื่อ : 5 มิ.ย. 55 02:12:17

ความคิดเห็นที่ 89 อย่ารอให้หมดรอบ  ถึงตอนนั้น คนที่เล่นๆอยู่นี่จะเจ็งกันหมด ต่อให้ท่านลากให้ตาย ก้ไม่มีเหยื่อ  ไม่ได้ลูกค้า ตลาดไม่มีกำลังซื้อครับ จากคุณ : khonthai.tk. เขียนเมื่อ : 5 มิ.ย. 55 02:26:18

ความคิดเห็นที่ 90 ทองเดินหน้าขึ้นต่อตามคาดนะครับ ผมคิดว่ารอบนี้ต่ำสุดก้ต้องถึง1700 เราค่อยไปคัทบริเวณนั้น ก็ยังทันนะครับ     ผมยังคงไม่สนับสนุนการเล่นทอง  แต่สนับสนุนให้คัทลอสได้ราคาดีกว่าเดิมครับ จากคุณ : khonthai.tk. เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 55 20:18:15

ความคิดเห็นที่ 91 ทอง ในทางเทคนิด จะไม่หลุด1580 ฉนั้น ตรงนี้จึงน่าจะเป็นจุดรับครับ จากคุณ : khonthai.tk. เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 55 22:50:54