เทคนิคควบคุมเงินในกระเป๋าอย่างง่าย ๆ
|
|
ทุกวันนี้มีปัจจัยรอบข้างหลายอย่างที่ทำให้คนใช้จ่ายเงินกันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นค่าครองชีพที่สูงขึ้น หรือเป็นเพราะหมดเงินไปกับข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ ที่อยู่นอกเหนือความจำเป็นต่อการดำรงชีวิต ซึ่งปัญหาหลักอาจอยู่ที่เราไม่รู้จักจัดสรรปันส่วนเงินตามรายได้ให้เหมาะสม ส่งผลให้ถังแตกหรือเกิดภาวะใช้เงินเดือนชนเดือน แต่ถ้าหากคุณไม่อยากตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ งั้นลองมาดูเทคนิคการควบคุมเงินที่เรานำมาฝากกันดีกว่าครับ
แยกรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายแล้วดูว่ามีเงินคงเหลือเท่าไหร่ สาเหตุที่ต้องคำนวนเงินคงเหลือหลังหักค่าใช้จ่ายที่จำเป็นออกไปก่อนหลังรับเงินเดือนมา นั่นก็เพราะว่าคุณจะได้ทราบตัวเลขที่แน่นอนว่ามีเงินคงเหลืออีกจำนวนเท่าไหร่ เพื่อจะได้นำไปจัดสรรปันส่วนระหว่างเงินที่ต้องเก็บ และเงินที่สามารถใช้ได้อีกครั้งหนึ่ง
พิจารณาดูว่าควรออมเงินแบบไหน คุณควรหันมาสังเกตการใช้เงินในแต่ละเดือนดูบ้าง ว่ามีการใช้จ่ายมากขนาดไหน และในอนาคตมีแผนนำเงินไปลงทุนอย่างไรบ้าง เพื่อที่จะได้เลือกฝากเงินกับทางธนาคารตามประเภทบัญชีที่เหมาะสมกับตัวเอง เช่น ผู้ที่มีความคิดจะเก็บเงินซื้อบ้าน อาจต้องเลือกฝากเงินแบบฝากประจำ ทั้งนี้ก็เพื่อบังคับตัวเองให้นำเงินไปฝากตามข้อตกลงที่ได้ทำไว้
แบ่งเงินใช้จ่ายตามความเหมาะสม เมื่อไหร่ที่ได้รับเงินเดือนมาแล้ว ขอให้คุณแบ่งเงินเอาไว้เลยสำหรับเงินเก็บส่วนหนึ่ง และเงินสำหรับใช้จ่ายต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นค่าอาหาร ค่าน้ำ ค่าไฟ เป็นต้น เพื่อให้คุณรู้สัดส่วนจำนวนเงินที่สามารถใช้ได้จริง โดยไม่ต้องไปแตะต้องกับเงินส่วนที่ออมไว้
ทำบัญชีรายรับ - รายจ่าย แม้ว่าจะเป็นวิธีที่ดูจุกจิกและอาจทำให้หลาย ๆ คน เบื่อกับการต้องมานั่งจดบันทึกว่ามีรายรับ - รายจ่ายมากน้อยขนาดไหน แต่มันจะทำให้เห็นภาพได้ชัดเจนว่า ในแต่ละวันคุณหมดเงินไปกับอะไรบ้าง หากพบว่าเงินที่ใช้ดันหมดไปกับสิ่งของที่ไม่จำเป็น คราวหน้าจะได้ไม่ซื้ออีกไงล่ะ
เอาล่ะ เมื่อได้ทราบขั้นตอนการเซฟเงินในกระเป๋าแบบง่าย ๆ กันไปแล้ว เราก็หวังว่าคงช่วยให้เพื่อน ๆ ออมเงินในบัญชีได้ดีขึ้นไม่มากก็น้อย ยังไงก็ลองนำไปปฏิบัติดูก่อนนะ หรือถ้าหากใครมีเทคนิคดีดีอื่น ๆ เพิ่มเติม ก็สามารถมาแชร์ไอเดียกันได้นะครับ
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
จากคุณ |
:
Svenfast
|
เขียนเมื่อ |
:
28 พ.ค. 55 15:23:05
|
|
|
|