ความคิดเห็นที่ 1 อยากเล่นหุ้นต้องรู้จัก Cut loss ครับ...ถ้างั้นคราวนี้ผมจะนำกราฟมาให้ดูสัญญาณกันนะครับว่า “หลักการที่มีระบบ Cut loss “ กับ “หลักการไม่ขายไม่ขาดทุน”....ใครจะมีโอกาสอยู่รอดในตลาดหุ้นได้มากกว่ากัน ณ จุดที่ 1: ผมกับเพื่อนเข้าซื้อผิดจังหวะ เพราะคิดไปเองว่าราคาจะขึ้นไปต่อ (ซื้อโดยไม่ดูสัญญาณ) โดยเข้าซื้อไปคนละ 1000 หุ้น เป็นเงินลงทุนคนละ 20,800บ. (1,000หุ้น x 20.80บ.) ณ จุดที่ 2: เวลาผ่านไปซักระยะ...เราทั้ง 2คน เริ่มรู้ว่าเรามากันผิดทาง...จากนั้นก็มีสัญญาณขายเกิดขึ้น คือ MACD ตัดเส้นศูนย์ลง...ผมยอม Cut loss ไปที่ราคา 18.80บ. ได้เงินคืนมา 18,800บ. (1,000หุ้น X 18.80บ.) ขาดทุนไป 2,000บ.(T^T)...แต่เพื่อนผมยึดคติว่า “ไม่ขาย ไม่ขาดทุน” ซักวันหุ้นมันต้องขึ้น นี่มันเทพชัดๆ ณ จุดที่ 3: มีสัญญาณซื้อเกิดขึ้นเมื่อ MACD ตัดขึ้นเส้น Signal...ผมนำเงิน 18,800บ. เข้าลงทุนอีกครั้งโดยเข้าซื้อหุ้นในราคา 17.40บ. ได้หุ้นมา 1,000หุ้น (เหลือเงินเศษอีก 1,400บ. เพราะการซื้อขายหุ้นขั้นต่ำสุด 100หุ้น จึงไม่สามารถซื้อ 1,080.46หุ้นได้) ส่วนเพื่อนผมเริ่มเห็นสัญญาณซื้อ เริ่มใจชื้นขึ้น “บอกแล้ว...หุ้นมีcycleของมัน มีขึ้นก็ต้องมีลง” ณ จุดที่ 4: เกิดสัญญาณขายเมื่อ MACD ตัดเส้น Signal ลง..เตือนว่าหุ้นเริ่มเปลี่ยนทิศเป็นขาลง...ผมตัดสินใจขายไปที่ราคา 20.20บ. ได้เงินมา 20,200บ.(1,000หุ้น x 20.20บ.) บวกเงินเศษที่เหลืออีก 1,400บ. = 21,600บ. สรุปผมสามารถพลิกกลับจากขาดทุน 2,000บ.(-9.62%) มาเป็นกำไรได้ 800บ.(+3.85%)          ส่วนเพื่อนเทพของผม เจ้าของคติพจน์ “ไม่ขายไม่ขาดทุน” จนถึงวันที่ผมได้กำไรเขาก็ยังขายไม่ได้  เพราะ ณจุดที่ 4 ถ้าเขาขายหุ้นทั้งหมดไป จะได้เงินมา 20,200บ. ซึ่งยังขาดทุนอยู่ 600บ.(-2.89%)  ดังนั้น  “ไม่ขาย...ไม่ขาดทุน”จึงทำให้เขายังคงต้องกอดหุ้นของเขาต่อไป ซึ่งจะสังเกตุได้ว่าจากกราฟราคาก็ยังคงวิ่งลงต่ำลงเรื่อยๆ เรื่อยๆ......          “นี่ล่ะครับ...นักเล่นหุ้นแนว Doy Trade นักเล่นหุ้นที่ได้ชื่อว่า ถูกสภาพแวดล้อมบีบบังคับให้เป็นคนที่ใจแข็งที่สุด  ei ei” จากคุณ : bestable เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 14:11:10

ความคิดเห็นที่ 2 ติดตามอ่านบทความแนะนำการเล่นหุ้นที่มีเนื้อหากระชับ,เข้าใจง่าย  ต่อได้ที่ http://www.stockmanday.com นะครับ   ขอให้ทุกท่านประสบความสำเร็จในการลงทุน(^^) จากคุณ : bestable เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 14:17:30

ความคิดเห็นที่ 3 อะไร ก็ไม่แน่นอนหรอกครับ แม้แต่จะใช้กราฟก็ตาม เมื่อตัดสินใจ cut loss มันอาจจะเด้งกลับ แล้วไม่ลงมาต่ำกว่า ราคาที่ขาย เรียกว่า จำหน่ายสุกร   ๆ จากคุณ : สาระขัน เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 14:22:48

ความคิดเห็นที่ 4 ครับ มันไม่มีอะไรแน่นอน(^^)....แต่ที่ผมพยายามอธิบายคือ การCut Loss คือการวางจุดตัดเพื่อหยุดการขาดทุน แล้วรอการเด้งกลับนี่ล่ะครับ เพราะเราไม่รู้ว่าราคามันจะลงไปลึกแค่ไหน (><,) ยังไงก็ขอบคุณนะครับ ยินดีแชร์แลกเปลี่ยนความเห็นครับ (ไม่ได้มีเจตนาโต้แย้งใดๆ^^) จากคุณ : bestable เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 14:42:33

ความคิดเห็นที่ 5 สำหรับผมจะตั้งมั่นไว้ก่อนเลยว่า ถ้าเราเข้าจุดนี้ อีกซักพักมันต้องขึ้นไปจำนวนหนึ่ง แต่เมื่อไรก็ตามที่คาดการณ์ผิด สุดท้ายมันกลับไม่ขึ้น และลงไปซะงั้น จุดนั้นผมจะรีบ cut loss ครับ ผมซื้อเพราะว่าคิดว่ามันจะขึ้นในจังหวะต่อมา แต่มันกลับไม่ขึ้น ผมไม่ถือต่อหรอกครับ ซื้อเพราะอะไร ขายเพราะอย่างที่คิด ถึงจะรู้ตัวว่าขายหมู ในจังหวะต่อมาก็ไม่เป็นไร แต่จังหวะนั้นมันไม่เป็นไปตามที่เราคิดแล้ว ก็ควรจะขายในที่สุด รอบคอบไว้ก่อนที่จะเสียเยอะกว่านี้ ไม่มีใครคาดเดาถูก 100% หรอกครับ มีแต่เฉลี่ยแล้วถูก คนนั้นก็ได้กำไรไป กับเฉลี่ยแล้วผิด คนนั้นก็ขาดทุนไป จากคุณ : maxnaza44 เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 14:47:26

ความคิดเห็นที่ 6 คนเรามักจะเห็นสิ่งแต่สิ่งที่เราอยากเห็น จากคุณ : ลงหลักปักฐาน เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 14:48:38

ความคิดเห็นที่ 7 เอาไปเทียบอย่างนี้ ก็ไม่ถูก... ถ้าหากไปคัทแล้ว เด้งคืนล่ะ.. ก็ขายหมูตามระเบียบ แถมขายหมูแบบขาดทุนด้วย ถ้าขาดทุนมากกว่า 50% แล้ว ไม่มีใครเข้าคัทกันหรอกครับ.. (ถ้าพื้นฐานหุ้นไม่เปลี่ยนแปลงแบบร้ายแรงจริงๆ) เค้าถือ หรือเฉลี่ยดอยกันทั้งนั้น.. จากคุณ : หมอก้อนหิน เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 14:51:36

ความคิดเห็นที่ 8 กลัวจะเข้าใจผิด ขอเสริมว่า ผมเห็นด้วยกับทุกความคิดนะครับ ทั้งการ cut loss หรือ let profit run หรือการถือหุ้นยาวๆโดยอาศัยหลักVI ครับผม จากคุณ : ลงหลักปักฐาน เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 14:52:28

ความคิดเห็นที่ 9 นานาจิตตังครับ(^^) ก็แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันไป......ผมก็เจตนาเพียงแค่ตั้งใจนำเสนออีกหนึ่งมุมมองเท่านั้นเองครับ แต่ละคนมีวิถีของตนเอง ผมก็ไม่กล้าฟันธงว่าเทคนิคจะถูกต้องเสมอไป เพราะก็เห็นนักเล่นหุ้นระดับเซียนหลายท่านเล่นโดยไม่ต้องมองกราฟเลยแถมทำกำไรเป็นกอบเป็นกำ เพราะประสบการณ์ท่านเหล่านั้นแก่กล้ามาก....แต่สำหรับมือใหม่ที่ยังไม่มีประสบการณ์ก็คงต้องหาบางอย่างมาเพื่ออุดจุดอ่อนตัวเอง ซึ่งกราฟด้านเทคนิคก็อาจจะเป็นอีกหนึ่งตัวเลือก ก็เท่านั้นเองครับ(><,) จากคุณ : bestable เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 15:37:58

ความคิดเห็นที่ 10 ก็ดีครับ สำหรับเล่นเเนวเดย์เทรด จริงๆเเนวเดย์เทรด 5% ก็คัทได้เเล้วครับ สำหรับผมถ้าขาดทุนตั้ง 50% คัทไม่ลงเเล้วครับ   เพราะงั้นใจเย็นๆจะซื้อหุ้นซักตัว มันไม่หนีไปไหนหรอกครับ ดูดีๆให้ถี่ถ้วน ติดดอยเรื่องธรรมดา ฮิฮิ จากคุณ : ปลายธันวา เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 15:50:11

ความคิดเห็นที่ 11 เจ็บแต่จบ ^ ^ จากคุณ : มะลิ บาน บาน เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 15:56:21

ความคิดเห็นที่ 12 เพราะเจ้ามือจะได้มีของราคาถูกๆไงครับ จากคุณ : เคาะแล้วร่วง เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 15:58:18

ความคิดเห็นที่ 13 ถ้าเงินเย็นพอ  การคัทลอตอาจจะไม่จำเป็นนะ  เราว่า อย่างมาก ถ้าลดไปสัก 10%  ถ้ามั่นใจในตัวหุ้นที่ซื้อแล้วว่าพื้นฐานดี  แต่ลงเพราะแค่ตลาดมันเป็นขาลง  ก็ทิ้งไว้อย่างนั้นคะ  เพราะ ตลาด มีลง มีขึ้นตลอดๆ  ไม่เคยลง ลง ลง อย่างเดียวซะหน่อย   เพียงแต่ กว่าจะขึ้น บางคนอาจทนไม่ไหว  แนะนำว่า ปิดจอ  แล้วไปเที่ยวซะ  พร้อมทำใจเมื่อไหร่ ค่อยเปิดคะ  ตอนนี้ อาจจะเขียวแล้ว  หรือแดงกว่าเดิมจ้า  อิอิ จากคุณ : nongnew2000 เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 16:08:41

ความคิดเห็นที่ 15 พวกที่คัทตอนน้ำท่วม แทบหมดตัวทุกราย  พวกที่อยู่เฉยๆไม่คัท ตอนน้ำท่วม ได้กำไรทุกคน จากคุณ : H-vichaiyut เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 16:48:52

ความคิดเห็นที่ 16 เคล็ดลับของการคัทลอสให้ประสบความสำเร็จ 1. คัทแล้วอย่าปิดจอให้หาจุดรับใหม่ที่ถูกกว่าเดิมอย่างน้อย 5% 2. คัทแล้วอย่ายึดติดกับหุ้นตัวเดิมหากตกรถต้องพร้อมมีแผนสองกับหุ้นตัวใหม่ๆที่พื้นฐานใกล้เคียงกัน แก้ไขเมื่อ 03 มิ.ย. 55 16:53:51 จากคุณ : everandever เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 16:53:22

ความคิดเห็นที่ 17 ลงทุนหุ้นหรือเล่นหุ้น ไม่ง่ายครับ Timing สำคัญที่สุดครับ ไม่ว่ารอบเล็ก หรือ รอบใหญ่ การเล่นรอบใหญ่ชัวร์กว่า ลดความผิดพลาดได้น้อยกว่า เมื่อผิดพลาดน้อยกว่า เราก็จะไปไม่ถึง Step cutloss ผมคิดว่าเราหาทางป้องกันการเกิด cutloss ดีกว่าครับ ด้วยการศึกษา วงรอบของตลาด และวงรอบหุ้นตัวที่เล่น โฟกัสวงแคบแต่ใช้ความละเอียด แต่ก็ว่าไปครับ ไม่ง่ายเลย จากคุณ : ทองเนื้อเก้า เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 16:54:11

ความคิดเห็นที่ 18 วิธีการTrade มีหลายแบบครับ ผมใช้ตามสถานการณ์ ช่วงตลาดผันผวนมากใช้แบบหนึ่ง ช่วงขาขึ้นใช้อีกแบบ ช่วงลงอีกแบบ ตั้งเป้าหมายขอให้ผลงานเขียวมากกว่าแดง ไม่ต้องมากน้อยๆก็ได้ โดยรักษาต้นทุนให้ดีที่สุด จากคุณ : หงบิน เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 17:21:34

ความคิดเห็นที่ 19 มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอกคุณ แก้ไขเมื่อ 03 มิ.ย. 55 17:22:53 จากคุณ : ต้องมีวินัย เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 17:22:43

ความคิดเห็นที่ 20 stop loss เป็นการสร้างโอกาสให้กลับตัวเองเสมอ จากคุณ : kanstk เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 17:23:44

ความคิดเห็นที่ 21 ไม่รู้เหมือนกันนะ ผมไม่เคยเห็นคนเจ๊งหุ้นเพราะเค้ายอมขายขาดทุนบ่อยๆ แต่คนที่เจ๊งหุ้นเพราะไม่เคยยอมขายขาดทุนเลยหน่ะมีเพียบ จากคุณ : P^eZ!M เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 17:27:41

ความคิดเห็นที่ 22 ถ้าคุณเข้าถึงหัวใจของเทคนิค พวกคุณจะไม่มานั่งเถียงกันเลย จะซื้อจะขายตอนไหน หลับตายังรู้ จากคุณ : asforwealthy เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 17:42:04

ความคิดเห็นที่ 23 การคัทลอทของผมคือการซื้อความสบายใจครับ ผมไม่ชอบรอดูต้นทุนตัวเองจมกับอะไรซ้ำซาก ผมยอมรับความพ่ายแพ้ แล้วยอมถอยออกมาตั้งหลักเพื่อที่จะรอเล่นเกมรอบใหม่ ส่วนคัทแล้วหุ้นขึ้นไป ผมก็ยอมรับได้ ปล่อยวาง (เราแพ้แล้ว) แต่ส่วนใหญ่คัทแล้วมันชอบลงต่อมากกว่าขึ้นนี่สิ หุ้นขึ้นเร็วเหมือนขึ้นบันได หุ้นลง ลงเร็วเหมือนลงลิพท์ครับทุกท่าน ฝากไว้เท่านี้ความคิดส่วนตัวล้วนๆ จากคุณ : Locke เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 17:44:01

ความคิดเห็นที่ 24 จากกราฟ คุณต้องตัดสินใจถูกถึง3ครั้งเชียวนะครับ 1.cut loss 2.ซื้อคืนในาคาต่ำกว่า1. 3. ขายในราคาที่สูงกว่า1.และ2. ไม่ง่ายแน่ๆ จากคุณ : เหลือง (เหลืองwarbird) เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 17:44:03

ความคิดเห็นที่ 25 ความเห็นไม่ตรงกัน การพนันจึงเกิด ถ้าคิดเหมือนกัน แล้วจะไปเอากำไรจากใคร มีคนได้ ก็ต้องมีคนเสีย แต่ละคนมีวิธีเล่นต่างกันได้ ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละคน หรือหุ้นแต่ละตัว จากคุณ : BEGUN2006 เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 17:45:43

ความคิดเห็นที่ 26 ขอแสดงความเห็นแบบเม่านะคะ ส่วนตัวไม่ชอบคัทเพราะว่าคัทไปแล้วไม่มีความสามารถที่จะประมาณราคาที่จะรับมาใหม่แล้วจะไม่ลงอีก ได้แต่หาความรู้ไป และ อ่านตามที่พี่ๆวิเคราะห์. ขอบคุณทุกท่านที่ชี้แนะ จากคุณ : คนสวยที่สุด เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 17:50:26

ความคิดเห็นที่ 27 หลายครั้งรั้งราคา..........ตกอยู่ ราคาลาไปสู่.................ก้นเหว จำต้องป้องกันตัด..........คัทลอส   ปล่อยเอย ดันดื้อถือเหมือนปล่อย...ไหลรถ   ตกเนิน ปล. เวลาเล่นหุ้นผิดทางแล้วขาดทุน ยังมีหลายคนที่ไม่ชอบ CUT LOSS กอดหุ้นไว้เพราะหวังว่ามันจะเด้งกลับขึ้นมาในเวลาอันสั้น....ถ้าเปรียบก็เหมือนรถเบรคไม่อยู่และกำลังไหลลงเหวแต่ก็ไม่ยอมทิ้งรถ เพราะหวังว่าถ้าย้ำเบรคไปเรื่อยๆ ก็อาจมีลุ้นให้เบรคมันทำงานก่อนที่จะตกเหว “อืมม..อันนี้ก็นานาจิตตัง” http://www.soontornhoon.com จากคุณ : สุนทรหุ้น (bestable) เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 17:59:51

ความคิดเห็นที่ 28 cut แล้วเจ๊งบ่อย ๆ มันไม่ดีนะครับเดี๋ยวความมั่นใจหดหายไม่กล้าซื้อตัวใหม่กลัวต้องมา cut แล้วเจ๊งอีกรอบ ทางที่ดีคือคอยหาซื้อหุ้นราคาถูกเท่าที่เป็นไปได้ไม่ต้องซื้อขายบ่อย ๆ เพียงแต่ใน 1 ปี ขอโอกาสแค่ครั้งเดียวถ้าเป็นไปได้เท่านี้ก็รวยแล้ว ไม่เห็นคนซื้อ ๆ ขาย ๆ คนใหนรวยซักคนเห็นมีแต่พูดว่า cut loss แล้วก็ ไม่ขายไม่ขาดทุน จากคุณ : alien1200 เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 18:25:40

ความคิดเห็นที่ 29 ผมเคย  cut loss แล้วปวดหัวต้องมาเฝ้าหุ้น สุดท้ายยังไม่ได้ทุนคืนเลย ตอนนี้เลยมองไปที่พื้นฐานก่อนเลย ถ้าตอนซื้อ 5บาท กำไร .50บาท ต่อปี บริษัทปันผล 70%ของผลกำไร เกินราคาวิ่งไป ผมก็จะถือไว้จนมันวิ่งมาเกินมากๆ อย่าง7บาทก็ยังถือ แต่พอเริ่มดูไม่ดีละ ก็ตีเส้นแนวรับแบบทฤษฎีดาว หลุดแนวรับก็ cut ไปครึ่งนึงเพื่อเอาผลกำไรที่ได้มาก่อนเกิดไม่ลงมาก็ไม่เป็นไร ถือเงินสด ดูตัวอื่นที่ ทำกำไรได้ 10% ต่อปี จากราคาหุ้น เช่น กำไรต่อหุ้น 5บาท ราคาที่ผมยอมรับซื้อได้คือ 50บาท แล้วถือไปเลย 2ปี อย่างน้อย ปันผลที่ได้รับทำให้ต้นทุนเราลดลงแน่นอน ถึงแม้ราคาหุ้นจะไม่ไปไหน หมายเหตุ กำไรบริษัทนั้นในอดีตต้องสม่ำเสมอ ผมก็กล้าจะเสี่ยงดูครับ จากคุณ : noteshock เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 18:43:58

ความคิดเห็นที่ 30 ฝากกราฟรายเดือนไว้ประกอบการพิจารณาแล้วกันครับ ไม่ขายไม่ขาดทุนจริงๆครับ ใกล้จะกลับไป 1700 แล้ว ^ ^ จากคุณ : มะลิ บาน บาน เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 18:59:58

ความคิดเห็นที่ 31 คัทลอสถ้าทำได้เร็วก็ดีครับ แต่บางครั้งการถือต่อก็ได้ประโยชน์มากกว่าเหมือนกัน อยู่ที่การอ่านเกมด้วยครับ ส่วนมากคนซื้อหุ้นแล้วราคามักจะลงก่อนเสมอ ถ้าขี้ตกใจคัทลอสตลอด แบบนี้ก็เอาเงินไปฝากแบงคฺ์ดีกว่า แต่ในบางสถานการณ์ การคัทลอสก็มีประโยชน์มากเช่นกัน จากคุณ : gload เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 19:03:36

ความคิดเห็นที่ 32 ผมว่าภาพที่เจ้าของกระทู้แสดงมันเข้าข้างตัวเองนะครับ เพราะตอนซื้อตอนขาย ใช้หลักไม่เหมือนกัน ขายครั้งแรกใช้ macd ตัด0  ขายครั้งที่ 2 ดันไปใช้macd ตัดสั้นตัดยาวลง ตามภาพประสิทธิภาพมันอยู่ระบบ  ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับการcut Loss จากคุณ : P Phod เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 20:31:36

ความคิดเห็นที่ 33 + ถ้าเป็นนักลงทุน VI ที่วิเคราะห์พื้นฐานมาอย่างดี การ Stop loss อาจไม่จำ เป็นหรือไม่สำคัญเท่ากับปัจจัยพื้นฐานเปลี่ยน + แต่สำหรับชาวเทคนิคอล การ Stop loss ช่วยให้สามารถอยู่รอดในตลาด ได้ยาวนานและมีโอกาสนำเงินไป Invest กับหุ้นตัวอื่นแทนที่จะเอาเงินไป ติดอยู่กับหุ้นที่กำลังลง(โดยที่ไม่รู้ว่าจะเด้ง ลงต่อหรือ sideway) จากคุณ : Toey_Goragot เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 20:42:11

ความคิดเห็นที่ 34 sap  ถ้ากลัวมันเด้ง  ขายครึ่งหนึ่งก่อน ย่อรับกลับ  ในแนวโน้มขาขึ้น รู้อะไร >> ไม่เท่า  ทันเจ้ามือ  ผิดทางคัท รอ float รอบใหม่ จากคุณ : THE FINAL 2 เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 21:31:43

ความคิดเห็นที่ 35 Cutloss น่าจะเหมาะกับตลาดอนุพันธ์มากกว่าครับ เพราะสถานการณ์บังคับให้คัทไม่งั้นโดนคอล และกราฟมันจะเร็วมากครับ วิ่งขึ้นลงเป็นธรรมชาติมาก ในส่วนของหุ้นรายตัว ผมเคยลองมาแล้วทั้งแบบคัทและแบบจำใจถือฯ คัทเจ็บตัวกว่าครับ ส่วนใหญ่โดนสองเด้ง คือคัทแล้วเด้ง พอตามดันลงต่อ โดนกินค่าคอมบวกไปกลับบวกขาดทุนไปอีกหลายช่อง ยิ่งถ้าในพอร์ทมีหุ้นต้องตามหลายตัว ปวดหัวมาก อ่อไทม์เฟรมในกราฟสำคัญมาก หุ้นแต่ละตัว ไทม์เฟรมและอินดิเคเตอร์ที่เลือกใช้ก้อแต่งต่างกัน ส่วนตัวผม ซื้อเฉลี่ยช่วงกลับจากขาลงเป็นขาขึ้นน่า work กว่า เพราะจะไม่โดนค่าคอม แถวได้จำนวนหุ้นเพิ่มมากขึ้นด้วย ยังไงก้อพูดตาม theory มันง่ายหมดหละคับ อย่าง macd มองย้อนหลังนี่มันแปะๆหมดหละคับ แต่ถ้าดูปัจจุบันนี่มันตัดหรือไม่ตัดเพื่อตัดสินใจนี่ มองยากมาก อย่าลืมนะคับเจ้ามือคนทำตลาดเข้าก้อดูกราฟเป็น นับถือเลยครับใครที่อยู่รอดและได้ผลตอบแทนสม่ำเสมอในช่วงตลาดแบบนี้ โครตเซียนเลยคับ แก้ไขเมื่อ 03 มิ.ย. 55 22:06:08 แก้ไขเมื่อ 03 มิ.ย. 55 21:39:47 แก้ไขเมื่อ 03 มิ.ย. 55 21:35:53 จากคุณ : เงินทองเรื่องสมมุติ (hotnan) เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 21:32:04

ความคิดเห็นที่ 36 ขอบคุณทุกๆความเห็นครับ(^^,) จากคุณ : bestable เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 21:53:32

ความคิดเห็นที่ 37 ความเห็น 35  จ๊าบ.....(อย่าลืมนะคับเจ้ามือคนทำตลาดเข้าก้อดูกราฟเป็น ) ก็ไอ้กราฟนั่น จ้าวมันปั้นมา..กะมือ ทั้งเอาขึ้น ทั้งสัญญานขาย คัทลอส แล้วเด้ง ไปซื้อแพง ก็เสียดาย   ...ซื้อแล้ว มันลงทันใจ 10ช่อง 20ช่อง... ..เถียง ซี่ ว่าไม่เคยโดน ...คัทไว 5ช่อง โดน 2ครั้ง เค้าก็เปลี่ยนหุ้น แล้วมันก็วิ่งให้น้ำลายไหล..ไป 1-2ซิลลิ่ง .....ชิมิ...ชิมิ   สุดท้ายไปกอดบลูชิพ....260วัน รอ 3%..มันขยับวันละกระดึ๊บ....ฮี่ฮี่ จากคุณ : Juj เขียนเมื่อ : วันวิสาขบูชา 55 20:27:54