Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
'เซียนป๋อง' วัชระ แก้วสว่าง..ส่อง 'เทคนิคัล' เอ็กซ์เรย์ 'หุ้นไทย' ติดต่อทีมงาน

วันที่ 4 มิถุนายน 2555 01:00
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์


เปิดคำพยากรณ์ตลาดหุ้น 'ครึ่งปีหลัง' จากเซียนเทคนิค 'เสี่ยป๋อง' วัชระ แก้วสว่าง ฟันธง!!! SET 'เขียว' ชัวร์! เชื่อปีนี้ หุ้นมีปรับใหญ่ 3 ครั้ง แนะนักลงทุนหาจังหวะ 'ช้อนของถูก'


ตลาดหุ้นทั่วโลกกำลังเข้าสู่ช่วง "พักฐาน" รวมถึงตลาดหุ้นไทยที่ทะยานขึ้นมาไกลจาก 843 จุด วิ่งแรลลี่ขึ้นไปถึง 1,247 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น 404 จุด ภายในระยะเวลาเพียงแค่ 7 เดือน ล่าสุดมีการปรับฐานลงมาต่ำสุด 1,101 จุด ปรับตัวลดลง 146 จุด ก่อนจะมีเทคนิคัลรีบาวด์ (เด้ง) ขึ้นมา ประเด็นสำคัญมาจากวิกฤติหนี้ยุโรปที่กลับมาคุกรุ่น ขณะที่ปัญหาการเมืองในประเทศเริ่มกลับมาร้อนแรง จากการผลักดัน พ.ร.บ.ปรองดองแห่งชาติ ของ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ร่วมกับพรรคเพื่อไทย ที่อาจจุดประเด็นสร้างความขัดแย้งครั้งใหม่

จากการวิเคราะห์เส้นกราฟทางเทคนิคร่วมกับการประเมินทิศทางเศรษฐกิจครึ่งปีหลัง "เสี่ยป๋อง" วัชระ แก้วสว่าง เซียนหุ้นรายใหญ่ที่พอร์ตลงทุนระดับ "พันล้านบาท" แสดงความเห็นผ่าน กรุงเทพธุรกิจ BizWeek ว่า จากการดูกราฟ SET Index ย้อนหลัง 30 ปี ส่วนตัวเชื่อมั่นว่าตลาดหุ้นไทยในครึ่งปีหลังยังมีทิศทาง "เป็นบวก" เพราะถึงที่สุดแล้วปัญหาหนี้ยุโรปที่ดูน่ากังวลก็ย่อมมีทางออกคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น

"ผมมองว่าตลาดหุ้นครึ่งปีหลังจะ "เด้งดึ๋ง" แต่ก่อนจะปรับขึ้นได้ต้องมี "ปรับลง" ก่อน เท่าที่ดูกราฟย้อนหลัง (วิเคราะห์ทฤษฎีคลื่น) ยังเชื่อว่าเร็วๆ นี้ดัชนีตลาดหุ้นไทยจะมีการปรับตัว 3 ครั้งใหญ่ ประกอบด้วย "ระดับ A" คาดว่า SET Index จะลงมาอยู่ระดับ 1,100 จุด ประมาณ "ต้นเดือนมิถุนายน" นี้ หากสถานการณ์เลวร้ายสุดๆ อาจลงไปลึกถึง 1,020-1,030 จุด"

จากนั้นตลาดหุ้นจะเข้าสู่ "ระดับ B" อาจเด้งมาอยู่ระดับ 1,150 จุด (รีบาวด์เพื่อลงใหม่) โดยนักลงทุนจะอาศัยข่าวดีที่มาจากรัฐบาล ส่วนตัวเชื่อว่ารัฐบาลจะออกแพ็คเกจต่างๆ เพื่อมากระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยของประชาชน "ผมไม่ได้อินไซด์อะไรมานะ แต่คิดว่าน่าจะเป็นอย่างนั้น" สุดท้ายคือ "ระดับ C" คาดว่าจะเกิดขึ้นภายในเดือน "สิงหาคม-ตุลาคม" (3 เดือนนี้) ดัชนีจะค่อยๆลงอีกครั้งลงไปสู่ระดับ 1,000-1,050 จุด ก่อนจะทะยานขึ้นในช่วง "ปลายปี"

“ต้องยอมรับว่าพรรคเพื่อไทยเขาเป็น "นักธุรกิจ" เขารู้ว่าภาคเอกชนและประชาชนต้องการอะไร ฉะนั้นอะไรที่เคยแย่น่าจะกลับมาดี...วันนี้ผมเปลี่ยนความคิดใหม่ เดิมทีเชื่อว่ารอบนี้หุ้นไทยจะ "ปรับฐานใหญ่" ลงลึกไปถึง 800-900 จุด แต่ผลจากมาตรการลดภาษีนิติบุคคลจาก 30% เหลือ 23% เชื่อว่าไม่น่าจะลงลึกถึงขนาดนั้น"

เซียนเทคนิครายใหญ่ ชี้แนะว่า หากตลาดหุ้นไทยมีการปรับฐานลงอย่างที่ประเมิน (1,000-1,050 จุด) ให้นักลงทุนหาโอกาสช้อนซื้อหุ้น "บิ๊กแคป" เก็บเอาไว้ เพราะราคาคง "ถูกมาก" (ลากเสียงยาว) โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่ม "สถาบันการเงิน" (ธนาคารพาณิชย์) เพราะปีนี้ ผลงานจะดีมาก แต่ส่วนตัวชอบหุ้น "ก่อสร้าง" มองว่าถ้า "พม่า" เปิดประเทศอย่างจริงจังต้องมีการลงทุนจำนวนมาก เขาต้องมาจ้างบริษัทก่อสร้างของไทยเพราะฉะนั้นบริษัทก่อสร้างยักษ์ใหญ่ 3 แห่ง ได้ผลประโยชน์แน่นอน "กลุ่มสื่อสาร" ก็น่าสนใจ ทั้งหมดที่พูดเป็นความคิดเห็นส่วนตัวไม่ได้มีข่าวอินไซด์ใดๆ ทั้งสิ้น

สำหรับการลงทุนในช่วงนี้ เสี่ยป๋อง กล่าวว่า แนะนำให้นักลงทุน "ถือเงินสด" รอไว้ก่อน ให้ดัชนีลงมาระดับ 1,100 จุด ค่อยเข้าไปเก็บหุ้น "เล่นรอบ" ส่วนตัววันนี้ขายหุ้นออกไปแล้ว 70% ได้ผลตอบแทนจากการลงทุนมาประมาณ 10% ยอมรับ "เดี๋ยวนี้! เล่นหุ้นไม่ค่อยเก่งเหมือนก่อน" จากการอัพเดทข้อมูลล่าสุด เสี่ยป๋อง บอกว่า มีพอร์ตลงทุนแตะระดับ "พันล้านบาท" แล้ว การที่พอร์ตลงทุนใหญ่ขึ้นทำให้ไม่อยากคาดหวังว่าจะมีกำไรจากการลงทุนต่อปีมากมาย ถ้าทำได้ปีละ 20% ก็โอเคแล้ว

ส่วนการลงทุนใน "ทองคำ" เซียนหุ้นรายใหญ่ บอกว่า "ไม่อยากแนะนำ" ดูจากรูปทรงกราฟราคาทองคำย้อนหลังดูแล้ว "ไม่ค่อยโอเค" ตอนนี้ราคาทองคำอยู่แถวๆ 1,580 เหรียญต่อออนซ์ โอกาสจะขึ้นไปถึง 1,700 เหรียญ "ค่อนข้างยาก" (เคยทำจุดสูงสุด 1,920 เหรียญ เมื่อเดือนกันยายน 2554) แต่โอกาสลงไปแตะ 1,300 เหรียญมี "สูงมาก" ฉะนั้นใครลงทุนอยู่ต้องระมัดระวังให้มาก

เซียนเทคนิควัย 38 ปี พยากรณ์ตลาดหุ้นไทยภายในระยะ 3-5 ปีข้างหน้าว่า จากการวิเคราะห์ด้วย "ทฤษฎีดาว" (The Dow Theory) และดูกราฟหุ้น 30 ปีย้อนหลัง เชื่อว่าหุ้นไทยจะขึ้นไปสัมผัสระดับ 2,500 จุด ได้แน่!!

"ผมยังยืนยันคำทำนายเดิมๆ ใครฟังอาจไม่เชื่อ..อย่าลืม! หากประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) เกิดขึ้นในปี 2558 เมืองไทยจะมีแต่เรื่องดีๆ แน่นอน"

ก่อนหน้านี้ เสี่ยป๋อง เคยวิเคราะห์ทฤษฎีดาวให้ฟังว่า จะมีทั้งหมด 5 คลื่น โดยคลื่นแรกเกิดขึ้นตอนดัชนีขึ้นไปแตะจุดพีค 1,753 จุด (ต้นปี 2537) หากนับจากวันที่ตลาดหลักทรัพย์เปิดทำการถือว่าผ่านมาแล้ว 19 ปี จากจุดสูงสุดใช้เวลา 4 ปี ลงมาทำจุดต่ำสุด 204 จุด จากนั้นก็ขึ้นๆ ลงๆ จนขึ้นมาแตะระดับ 1,114 จุด ในเดือนสิงหาม 2554 ใช้เวลาทั้งหมด 14 ปี ถือเป็นคลื่นที่ 2

ส่วนคลื่นที่ 3 อาจเกิดขึ้นเร็วๆ นี้ หากต่างประเทศมีปัญหาหนัก จนทำให้ตลาดหุ้นไทยลงไปแตะ 950 จุด จากนั้นก็จะทะยานขึ้นมาอีกครั้ง ส่วนคลื่นที่ 4 และ 5 จะมาตามลำดับ "มันเกิดขึ้นแน่นอน"

เสี่ยป๋อง กล่าวถึงหลักการลงทุนส่วนตัวว่า ทุกวันนี้การซื้อขายหุ้นยังดู "กราฟ" เป็นหลัก ถ้ากราฟสวย "ผมไม่รีรอ" ปัจจุบันจะเน้นดูสัญญาณทางเทคนิคหลายตัวประกอบกัน เช่น กราฟแท่งเทียน, MACD, RSI และเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ เป็นต้น

"การวิเคราะห์หุ้นทางเทคนิคให้แม่นยำ ต้องดูราคาหุ้นย้อนหลังหลายๆ ปี จะให้ความแม่นยำมากถึง 70% เว้นแต่ว่ามีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นแบบนั้นเส้นกราฟก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้"

 
 

จากคุณ : Wild Rabbit
เขียนเมื่อ : วันวิสาขบูชา 55 21:08:27




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com