เกาะติด 'เสี่ยปู่' วันนี้ลงทุนหุ้นอะไร..?
|
|
การเงิน - การลงทุน : ถนนนักลงทุน วันที่ 18 มิถุนายน 2555 01:00 โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
วันนี้ 'เสี่ยปู่' มีมูลค่าทรัพย์สิน 'หลายพันล้านบาท' อยู่ในหุ้น 40%อีก60%ฝังตัวอยู่ในที่ดินผืนงามหลายแปลง เจ้าตัวเผยหุ้นในดวงใจ SATและPS
ในวงการนักเลงหุ้นรายใหญ่ไม่มีใครไม่รู้จักเซียนหุ้นรุ่นใหญ่ “เสี่ยปู่” สมพงษ์ ชลคดีดำรงกุล เจ้าของพอร์ตลงทุนหลัก "พันล้านบาท" ที่ในระยะหลังเปลี่ยนสไตล์การลงทุนมาเล่นหุ้นแนว "วีไอ" และเข้าร่วมก๊วนกับกลุ่มแวลูอินเวสเตอร์อยู่บ่อยครั้ง แต่เสี่ยปู่ก็มีวิถีการลงทุนที่ค่อนข้างเป็นตัวของตัวเอง เป็นนักลงทุนรายใหญ่ที่ "จ้างทีมงาน" คอยหาข้อมูลให้
จากการตรวจสอบพอร์ตลงทุนพบว่า เสี่ยปู่ถือหุ้น 15 บริษัท มูลค่าประมาณ 1,740 ล้านบาท (ณ วันที่ 13 มิถุนายน 2555) โดยมี "ตัวเต็ง" (พระเอก) คือ สมบูรณ์ แอ๊ดวานซ์ เทคโนโลยี (SAT) ของตระกูล "กิตะพาณิชย์" ถือหุ้นใหญ่อันดับ 2 มูลค่ากว่า 727 ล้านบาท และมี "พระรอง" ที่ถือเกิน 100 ล้านบาท อีก 4 ตัว ได้แก่ RML, MFEC, TK และ APCS โดยเจ้าตัวบอกว่า ในพอร์ตมีหุ้นทั้งหมดประมาณ 20 บริษัท ยังมีหุ้น GRAMMY และ PS ที่ไม่ปรากฏอยู่ในโครงสร้างผู้ถือหุ้น
เสี่ยปู่ เล่าให้กรุงเทพธุรกิจ BizWeek ฟังว่า ช่วงนี้ชื่นชอบหุ้นกลุ่ม "รถยนต์" มากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะหุ้นสมบูรณ์ แอ๊ดวานซ์ เทคโนโลยี (SAT) ซื้อสะสมมาเรื่อยๆ ราคาต้นทุนต้นๆ 20 บาท เมื่อ 2-3 เดือนก่อน มีโอกาสได้เข้าไปเยี่ยมชมกิจการของบริษัท "เจ้าของ" เขาเล่าให้ฟังว่า ในช่วง 3-5 ปีข้างหน้า บริษัทจะมีผลประกอบการเติบโตประมาณปีละ 25-27% ซึ่งสูงกว่าการเติบโตของอุตสาหกรรมรถยนต์ที่ขยายตัวปีละประมาณ 10%
นอกจากนี้ ยังรู้มาว่าโรงงานหล่อเหล็กเหนียวของเขาสามารถทำให้มาร์จินและอัตรากำไรสุทธิดีขึ้น ขณะเดียวกันในช่วงไตรมาส 3 ปีนี้ สมบูรณ์ แอ๊ดวานซ์ จะเพิ่มกำลังการผลิตคอยล์สปริงมากขึ้น และที่สำคัญรถยนต์อีโคคาร์หลายๆ ยี่ห้อเป็นลูกค้าของ SAT เกือบทั้งหมด
"ผมลองบวกลบคูณหารคำนวณผลประกอบการของ SAT ปีนี้ คูณอัตราการเติบโตต่อปีประมาณ 25-27% พบว่าบริษัทอาจมีกำไรขยายตัว 120-130% ซึ่งถือว่าสูงมาก ผมตั้งใจจะถือหุ้น SAT ระยะยาว ถ้ามีโอกาสก็จะทยอยเก็บเพิ่มเรื่อยๆ"
เซียนหุ้นรายใหญ่ บอกต่อว่า หุ้นกลุ่มที่ดินเป็นอีกกลุ่มที่ "ชอบมาก" เมื่อ 2 เดือนก่อนตัดสินใจขายหุ้น LPN ในราคาประมาณ 15 บาท เพื่อนำเงินมาซื้อหุ้น พฤกษา เรียลเอสเตท (PS) ตอนนี้มีอยู่ 4-5 ล้านหุ้น ต้นทุนประมาณ 13 บาท สาเหตุที่เปลี่ยนใจทั้งๆ ที่เก็บหุ้น LPN มาตั้งแต่ราคา 2 บาท ต้นทุน "ถูกมาก"
ข้อแรก ราคาหุ้น LPN แข็งเกินไป “ขึ้นเร็วแต่ลงช้า” ทำให้ไม่สามารถเก็บหุ้นเพิ่มเติมได้ จริงๆ แล้วส่วนตัวชอบพื้นฐานหุ้น LPN มาก เชื่อว่าภายใน 5 ปีนี้ ยังโตได้ปีละ 15-20% ถ้ามีโอกาสจะกลับไปซื้อใหม่ ข้อสอง มีโอกาสได้เข้าไปคุยกับคุณทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ กับคุณประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต ซึ่ง บล.เอเซีย พลัส นัดให้ เขาแสดงความมั่นใจว่า ปีนี้ รายได้และกำไรของพฤกษาจะเติบโตมาก เพราะมียอดขายที่ยังไม่รับรู้รายได้ค่อนข้างมาก
"ผู้บริหารเขามั่นใจว่า 9 โครงการย่านถนนพัฒนาการ บนที่ดิน 400 ไร่ มูลค่าโครงการ 12,000 ล้านบาท ที่จะเปิดขายในช่วงเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม นี้ จะประสบความสำเร็จ เขาบอกว่าซื้อที่ดินตรงนั้นมาถูกมาก ตกไร่ละประมาณ 5 ล้านบาทเท่านั้น ที่สำคัญคุณทองมาย้ำชัดเจนว่า!! ปีนี้ เขาจะกลับมาแซงหน้าแบรนด์ LPN กับแบรนด์ ศุภาลัย ได้อย่างแน่นอน"
เสี่ยปู่ กล่าวว่า ตอนนี้รอจังหวะให้ SET Index ปรับตัวลดลง จะหาโอกาสเข้าไปเก็บหุ้น PS เพิ่มเติม แต่ไม่ได้ตั้งเป้าหมายว่าจะเข้าไปซื้อจำนวนเท่าไร ส่วนตัวคิดว่าราคาหุ้นยังถูก และผู้บริหารเป็นคนเก่ง ถามว่าตอนนี้เล็งหุ้นตัวไหนเพิ่มเติมหรือไม่!! เจ้าตัวตอบว่า กำลังศึกษาข้อมูลหุ้น เอเชีย เอวิเอชั่น (AAV) หุ้นตัวนี้จะเน้นดูอัตรากำไรสุทธิ และ ROE “ยิ่งสูงยิ่งดี” อย่าง ROE ถ้ามากกว่า 10% จะถือว่าโอเคมาก
"หุ้น AAV เขามีข้อดีหลายอย่างโดยเฉพาะตัวผู้บริหาร (ทัศพล แบเลเว็ลด์) สามารถบริหารจัดการสายการบินไทยแอร์เอเชียได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ธุรกิจมีความคล่องตัวสูง ซึ่งต่างจากการบินไทยที่เป็นรัฐวิสาหกิจ ผมเป็นคนหนึ่งที่เชื่อมือ ดร.ปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ ยังไม่กล้าซื้อหุ้น THAI เลย (หัวเราะ) เพราะการบินไทยมีจุดอ่อนหลายอย่างทำให้ความกล้าหดหายไป"
เซียนหุ้นพันล้าน เล่าว่า ได้หุ้นจอง AAV มาประมาณ 300,000 หุ้น จาก บล.กิมเอ็ง, บล.ยูโอบี เคย์เฮียน และ บล.เอเซีย พลัส แต่ขายไปตอนราคา 4 บาท เพราะเห็นว่านักลงทุนมักขายหุ้น IPO เพื่อทำกำไรในวันแรกที่เข้าตลาด หากราคาหุ้น AAV ลงมาในระดับที่เหมาะสม "ผมจะเข้าไปซื้อ" แม้ราคาน้ำมันจะผันผวน และธุรกิจมีการแข่งขันที่ค่อนข้างรุนแรง แต่ก็ยังเชื่อว่าปีนี้ เขาน่าจะทำกำไรได้ดีขึ้น
เซียนหุ้นวีไอรายใหญ่ เผยว่า ตอนนี้ในพอร์ตมีหุ้นประมาณ 20 ตัว มูลค่า "กว่าพันล้านบาท" ส่วน "พระเอก" ในพอร์ตมี 2-3 ตัว หนึ่งในนั้นคือ เวิร์คพอยท์ (WORK) ของ "เสี่ยตา" ปัญญา นิรันดร์กุล เท่าที่คุยกับคุณครรชิต ควะชาติ มือขวาคุณปัญญาเมื่อเดือนก่อน เขาเชื่อว่าผลประกอบการปีนี้ อาจโตขึ้นประมาณ 40%
"ผมชอบหุ้น WORK โดยเฉพาะ “เวิร์คพอยท์ ทีวี” ที่เปิดตัวไปเมื่อเดือนมีนาคม ธุรกิจตัวนี้ในอนาคตจะสร้างรายได้ให้บริษัทค่อนข้างมาก เนื่องจากค่าโฆษณาในทีวีดาวเทียมถูกมากนาทีละ 5,000 บาท ขณะที่ฟรีทีวีขายกันนาทีละ 3-4 แสนบาท โอกาสเติบโตมีมาก ผมซื้อหุ้น WORK ตอนราคา 27-28 บาท แล้วขายส่วนหนึ่งไปช่วงราคา 36-37 บาท ตั้งใจว่าหากลงมา 20-21 บาท อาจซื้อเพิ่ม ส่วนตัวเชื่อในฝีมือของเสี่ยตามาก"
เสี่ยปู่ กล่าวว่า จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ (GRAMMY) เป็น “พระเอก” อีกตัวที่ชอบ มองว่ากล่อง GMM Z จะสร้างรายได้ให้บริษัทจำนวนมาก ใจจริงอยากได้หุ้น GRAMMY เพิ่มเติมอีก แต่หุ้นไม่ค่อยมีให้เก็บเท่าไร อีกตัวที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือ หุ้น เจ มาร์ท (JMART) รูปแบบการทำธุรกิจเขาโอเคมาก คาดว่าจะเติบโตปีละ 30-40% ส่วนตัวมอง "ธุรกิจรับทวงหนี้" กำไรดีมาก เขาสามารถซื้อหนี้ (เสีย) มาบริหารได้ราคาต่ำมาก ล่าสุดก็ไปเช่าที่ดินตรงข้ามเกษตรศาสตร์ทำเป็นตลาดและวางสินค้าของบริษัท
“เวลาผมไปเยี่ยมชมกิจการมักจะไปคนเดียวไม่ได้เกี่ยวเซียนหุ้นรายอื่นไปด้วย ส่วนใหญ่จะให้โบรกเกอร์นัดให้ ทุกวันนี้ก็ยังคงนั่งเทรดอยู่ที่ บล.กิมเอ็ง เป็นหลัก กลยุทธ์การลงทุนก็ยังเหมือนเดิมคือ เน้นดูหุ้นรายตัวมากกว่าดูดัชนี ผมไม่ค่อยสนใจตลาดหุ้นเท่าไรว่าจะขึ้นหรือลง เพราะไม่ได้มีผลต่อหุ้นในมือหากมั่นใจว่าของเราดีจริง”
สำหรับพอร์ตลงทุนในปี 2555 เสี่ยปู่ มีหุ้นอยู่ 40% ส่วนอีก 60% นำไป "ซื้อที่ดินเก็งกำไร" เจ้าตัวมองว่าเก็บที่ดินผืนงามอนาคตมีแต่กำไรกับกำไร ตอนนี้มีอยู่หลายแปลงราคาขึ้นไปเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นแถวสนามบินสุวรรณภูมิ 100 ไร่ มูลค่า 200 ล้านบาท ตรงนั้นทำเลดีมากคลองกว้าง 80 เมตร และไหล่ทางกว้างข้างละ 40 เมตร รวบรวมมาจากชาวบ้านหลายราย ตั้งใจจะซื้อเพิ่มอีก 100 ไร่ นอกจากนี้ ก็มีที่ดินแถวบางใหญ่ประมาณ 23 ไร่ ใกล้รถไฟฟ้าสายสีม่วง ที่ดินย่านวัชรพลอีก 20 ไร่ มูลค่า 100 ล้านบาท คาดว่าจะโดนเวนคืนไป 2 ไร่ และยังมีที่ดินแถวเอกมัยอีก 2 ไร่กว่า เป็นต้น
"ถ้าเจอที่ดินแปลงสวยราคาไม่แพงผมก็จะซื้อไว้อีก ผมไม่ชอบลงทุนทองคำ คิดว่า "หมดรอบ" ไปแล้ว ดูจากสถิติในช่วง 100 ปี ผลตอบแทนทองคำถือว่า "แย่ที่สุด" ไม่มีดอกเบี้ย แถมมีแต่เก็งกำไรระยะสั้น สู้ตลาดหุ้นไม่ได้ที่ให้ผลตอบแทนดีที่สุดในช่วง 100 ปี"
เสี่ยปู่ กล่าวทิ้งท้ายว่า เมื่อสิ้นปี 2554 พอร์ตลงทุนอยู่ในหุ้นแค่ 30% และที่ดิน 70% แม้เปอร์เซ็นต์หุ้นจะน้อย แต่ไม่ได้หมายความว่า เล่นหุ้นลดลง เพียงแต่มูลค่าที่ดินมันมากกว่า..."ปีนี้ ผมหวังว่าจะมีผลตอบแทนจากการลงทุนประมาณ 20% ได้เท่านี้ก็มีความสุขแล้ว" เซียนหุ้นพันล้านกล่าว
จากคุณ |
:
Wild Rabbit
|
เขียนเมื่อ |
:
18 มิ.ย. 55 07:52:57
|
|
|
|