ความคิดเห็นที่ 1 แต่ผมคิดอย่างไรหากขายหมดเลยไม่ว่าจะแบบถัวหรือ fifo มันก็เท่ากันแหละ ลองคิดดูสิ จากคุณ : eakaphan เขียนเมื่อ : วันต่อต้านยาเสพติดโลก 55 12:46:37

ความคิดเห็นที่ 2 ขายแล้วเก็บกำไรไว้ในใจ ^^ จากคุณ : pilioly เขียนเมื่อ : วันต่อต้านยาเสพติดโลก 55 12:57:00

ความคิดเห็นที่ 3 ก็มันเฉลี่ยทุนไง !! คิดอะไรมาก ขายก้อนไหนแล้วกำไร หรือขาดทุน เราก็รู้อยู่แก่ใจ!! ไงก็บันทึกไว้ในไว้ดูเองตะหากก็ได้... จากคุณ : เขียนบน iPhone (satan@เต้ย) เขียนเมื่อ : วันต่อต้านยาเสพติดโลก 55 12:58:01

ความคิดเห็นที่ 4 ก็คุณได้กำไรมานิดนึง มันก็ไปเฉลี่ยกับส่วนที่ยังขาดทุนอยู่ สรุปก็คือ ขาดทุนน้อยลงสำหรับตัวนั้น ไม่ดีเหรอคะ จากคุณ : *Cookies* เขียนเมื่อ : วันต่อต้านยาเสพติดโลก 55 13:08:08

ความคิดเห็นที่ 5 ถ้าขายหมด มันก็ออกมาเท่ากันนั่นแหล่ะ ต้นทุนก็เท่าเดิม แค่จะรับรู้กำไรขาดทุนตอนไหน จากคุณ : rabbit sun เขียนเมื่อ : วันต่อต้านยาเสพติดโลก 55 13:27:49

ความคิดเห็นที่ 6 เท่ากันอยู่ดีครับ จะซื้อมา 10 บาท 1 ไม้ 15 บาท 1 ไม้ ถ้าขายที่ 12 บาท 1 ไม้ ของก้อน 10 ก็ได้กำไร 2 บาท(เงิน) ขาดทุน 3 บาท(หุ้น) ถ้าขายที่ 12 บาท 1 ไม้ ของก้อน 15 ก็ได้ขาดทุน 3 บาท(เงิน) กำไร 2 บาท(หุ้น) สุดท้ายไม่ว่าอย่างไหนก็เหมือนกันคือขาดทุน (10+15)/2 = 0.5 บาท / 1 ไม้ จากคุณ : bakasama เขียนเมื่อ : วันต่อต้านยาเสพติดโลก 55 14:16:06

ความคิดเห็นที่ 7 มัน First in First out ครับ เราต้องคำนวนต้นทุนเอง จากคุณ : ไก่อลาสก้า เขียนเมื่อ : วันต่อต้านยาเสพติดโลก 55 14:23:03

ความคิดเห็นที่ 8 มันเฉลี่ยให้ แต่ถ้าเราซื้อเป็นก้อน ๆ หลายครั้ง  พอตัดขายก้อนที่ต้นทุนสูงกว่าที่จุดทำกำไรสูงกว่าราคาเป้าหมายสำหรับกองแรก ทุนต่างกันเวลาตัดขายได้กำไรมันจะลดทุนก้อนแรกลงด้วย ทำให้ต้นทุนในพอร์ตเหมือนจะต่ำกว่าที่เรารู้อยู่เองจริง ๆ เวลาอยากขายกองแรกที่ราคาใกล้ ๆ ต้นทุนเราอาจขายในราคาที่ต่ำกว่าต้นทุนจริงของกองที่เหลือได้ อาจทำให้เราขาดทุนกำไรไปบ้าง แต่ถ้าเป็นตัวที่ซื้อหลาย ๆ กองแล้วไม่ได้ขายทั้งหมด มีการขายคัทลอสหรือsap บางส่วนช่วงขาลง ก็อาจทำให้ขาดทุนเงินต้นไปด้วยได้เหมือนกัน วิธีที่แน่นอนสุดคือทำตารางexcel ไว้ส่วนตัวเลยถ้าเราไม่ได้ซื้อขายครั้งเดียวที่ราคาเดียว ควรเปิดตารางส่วนตัวแนบด้วยทุกครั้งก่อนตั้งซื้อถัวเฉลี่ย หรือตั้งขายที่จุดทำกำไรที่เหมาะสมสำหรับแต่ละกอง ข้อดีอีกอย่างคือ เมื่อเห็นหุ้นตัวที่มีวิ่ง ๆ ๆ เรามักรีรอ โลภมากจนสุดท้ายมันร่วงกลับมาที่เดิม ถ้าตั้งราคาเป้าหมายไว้ในตารางตั้งแต่แรกซื้อเข้าแล้วต้องปล่อยออกเมื่อถึงเป้าหมายของแต่ละส่วนก็ช่วยลดปัญหาความโลภมากได้ส่วนนึง  แต่ถ้าเราซื้อก้อนเดียวครั้งเดียวสำหรับหุ้นแต่ละตัว หน้าสรุปพอร์ทแสดงต้นทุนและกำไร ณ ราคาตลาดปัจจุบันได้ถูกต้องแล้ว  ถ้าซื้อและขายหมดทั้งกองตลอด ก็ไม่จำเป็นต้องทำตารางexcel เพิ่ม จากคุณ : Panjasila เขียนเมื่อ : วันต่อต้านยาเสพติดโลก 55 14:32:45

ความคิดเห็นที่ 9 ไม่ว่าจะ FIFO หรือว่า Average Cost ยังไงแล้ว ก็ ใกล้เคียงกัน Diff กันนิดหน่อย จากคุณ : OnStep เขียนเมื่อ : วันต่อต้านยาเสพติดโลก 55 14:41:27

ความคิดเห็นที่ 10 ไม่ได้สนราคา Average ของโบรกเท่าไหร่ ดูแต่จำนวนหุ้น เอามาทำ Excel เอง  ซื้อเป็นไม้ ๆ  ตัดขายเป็นช่วง ๆ   รับรู้กำไรก้อนไหนก็ทำเอา ทุนก็ขยับขึ้นลงตาม สะดวกกว่า ไม่งง จากคุณ : Bg-view เขียนเมื่อ : วันต่อต้านยาเสพติดโลก 55 15:17:08

ความคิดเห็นที่ 11 อันนี้เป็นหนึ่งในปัญหาที่เป็นจุดอ่อนของ คนเล่นหุ้นเลย คือ ยึดติดกับราคาที่ซื้อมา  ทั้งๆ ที่มิได้มีผลอะไรในปัจจุบันแล้ว.. ........... ถ้ามีหุ้นอยู่ 2 ตัว   ตัวนึงกำไร  ตัวนึงขาดทุน   แล้วต้องขายตัวนึง คนก็มักจะขายหุ้นตัวที่มีกำไรอยู่   ทั้งๆ ที่ควรจะขาย หุ้นตัวที่คิดว่า อนาคตจะขึ้นได้น้อยกว่าไป จากคุณ : จินหยง เขียนเมื่อ : วันต่อต้านยาเสพติดโลก 55 16:11:38

ความคิดเห็นที่ 12 บันทึกราคาซื้อแต่ละครั้งไว้ใน Excel ครับ เวลาขายก็เลือกเอาว่าเราต้องการกำไรในส่วนที่ซื้อครั้งไหนแล้วบันทึกลงไป ถ้าราคาในตลาดลงมาต่ำกว่าราคาขายก็ซื้อใหม่ ถ้าทำได้แบบนี้ไปเรื่อยๆ การขาดทุนก็จะน้อยลงหรืออาจมีกำไรก็เป็นได้ครับ ส่วนราคาที่ซื้อสูงๆ ก็ปล่อยไว้จนกว่าราคามันจะขึ้นมาถึง แค่นี้คงไม่สับสนมังครับ จากคุณ : เป็นได้แค่กิ๊กเท่านั้น เขียนเมื่อ : วันต่อต้านยาเสพติดโลก 55 16:25:36

ความคิดเห็นที่ 13 คิดเหมือนเจ้าของกระทู้เลยค่ะ ก็เลยยัง port แดงอยู่เลย กลัวสับสน ตอนนี้ก็ได้แต่รอให้ราคาหุ้นสูงกว่าราคาทุนเฉลี่ยแล้วค่อยทะยอยปลอยของออกอะค่ะ จากคุณ : via iPad (StayFerny) เขียนเมื่อ : วันต่อต้านยาเสพติดโลก 55 18:42:28

ความคิดเห็นที่ 14 จะใส่ใจทำไมตราบในที่เงินในพอร์ทมันเพิ่ม จากคุณ : RiverNoReturn เขียนเมื่อ : วันต่อต้านยาเสพติดโลก 55 20:43:07

ความคิดเห็นที่ 15 แนะนำอย่างสุดลิ่มทิ่มประตูครับว่า หุ้นที่ซื้อมาแล้ว ให้ลืมต้นทุนไปซะ ยึดติดกับต้นทุน ก็คือการหลอกตัวเอง นำไปสู่การตัดสินใจที่ไม่มีเหตุผลหลายๆ อย่าง ทั้งการซื้อถัว การรอหลุดดอยถึงขาย เป็นต้น ไม่มีประโยชน์อะไรเกินกว่า ความสบายใจที่ได้ชนะ ความสบายใจว่า ขายได้แพงกว่าซื้อ ส่วนการลืมต้นทุน จะทำให้มุ่งสู่เหตุผลในการขายที่แท้จริง นั่นคือ ถ้าต่อไปมันจะลง ก็ควรขาย ถ้าต่อไปมันจะขึ้น ก็ควรถือหรือซื้อเพิ่ม แค่นั้นเอง ไม่ว่าต้นทุนเท่าไหร่ ปัจจุบันจะกำไรหรือจะขาดทุนอยู่ ไม่มีผลกับการตัดสินใจครับ! แล้วจะไปสนใจมันเพื่ออะไร file excel ของผมไม่เคยจดต้นทุน มีแค่ราคาปัจจุบัน และราคาเป้าหมาย จบ จากคุณ : nopy_yoyo เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 11:11:41