บริการอายัดบัตร ATM ของ 2 ธนาคาร.... เมื่อโดนกรีดกระเป๋า
|
 |
โพสต์นี้ เพื่อแสดงความขอบคุณและเป็นกำลังใจแด่เจ้าหน้าที่ที่ทำหน้าที่ได้ประทับใจ
กลุ่มแรกคือ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สาขาเซ็นทรัล ลาดพร้าว โดยเฉพาะ....
น.ส. ศุภรัตน์ เบญจศีลวัต รองผู้จัดการฯ
น.ส.ศศิวิมล กฤษณะพันธุ์ และ น.ส. สมฤทัย บุญสุข เจ้าหน้าที่บริการลูกค้า
ที่ได้กรุณาดำเนินการอายัดบัตร ATM อย่างรวดเร็ว และเช็คเงินในบัญชีให้ในทันทีที่เข้าไปร้องขอ โดยผ่อนผันการกรอกเอกสารและเซ็นต์ชื่อในเอกสาร (โดยลูกค้ากลับมาเซ็นชื่อให้ทีหลัง เนื่องจากต้องรีบไปอายัดบัตร ATM อีกธนาคารหนึ่ง) นอกจากนี้รองผู้จัดการฯ ยังได้กรุณามอบกระเป๋าผ้าของธนาคารมาให้ใส่กระเป๋าของลูกค้าที่ถูกมิจฉาชีพกรีดเป็นทางยาว จนไม่สามารถใช้การได้อีก
ในขณะที่รีบไปแจ้งอายัดบัตร ATM อีกใบที่ธนาคารกสิกรไทย สาขาที่อยู่ในห้างเดียวกัน กลับได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ธนาคารว่า ให้โทรศัพท์ไปแจ้งที่ Call Center เอง จึงบอกไปว่า เจ้าหน้าที่ธนาคารทำให้ไม่ได้หรือเพราะมีสมุดธนาคารมาด้วย ธนาคารกรุงไทยก็ทำให้เดี๋ยวนี้เอง
เจ้าหน้าที่ธนาคารกสิกรไทย ก็แสนดี......
รีบไปกดบัตรคิวมาให้ แล้วบอกว่า.... ได้ แต่ต้องรอคิว!!!!!!!
อุแม่เจ้า.....วิญญาณนางมารร้ายเข้าสิงทันที
"แล้วนี่ฉันจะรีบวิ่งมาที่ธนาคารทำไมเนี่ย
กว่าจะถึงคิว กว่าเจ้าหน้าที่จะอายัดบัตรให้..... ไอ้โจรกรีดกระเป๋า มันคงกดเงินไปหมดแล้ว
พวกคุณบริการลูกค้าแบบนี้กันหรือ แล้วก็......บลาๆๆๆๆๆ"
เจ้าหน้าที่นางหนึ่ง คงกลัวเสียงเราได้ยินไปถึงไหนๆ ก็เลยลัดคิวลูกค้า (ซึ่งเธอเห็นใจและยินดีให้ลัดคิวของเธอ...ต้องขอขอบคุณคุณลูกค้าที่น่ารักคนนั้นด้วย) ดำเนินการให้ แต่ยังไม่วายมัวกรอกข้อมูลในแบบฟอร์มอยู่
เลยต้องเต้นอีกรอบ ว่า..... "ถ้าคุณมัวชักช้าแล้วเงินฉันโดนกดไปหมดละก็ ฉันเอาเรื่องธนาคารแน่...."
คุณเจ้าหน้าที่ก็เลยรีบอายัดบัตรให้ก่อน แล้วมากรอกแบบฟอร์มทีหลัง.....
เฮ้อ..... "กสิกรไทย สาขาเซ็นทรัลลาดพร้าว" ......
เสร็จจากกสิกรไทย ก็กลับไปเซ็นชื่อในฟอร์มของธนาคารกรุงไทย ที่เจ้าหน้าที่กรอกข้อมูลให้เรียบร้อยแล้ว
เสร็จจากการอายัดบัตร ATM ก็ไปแจ้งความที่ "ศูนย์บริการพิเศษตำรวจนครบาล ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล สาขาลาดพร้าว" ซึ่งอยู่ตรงประตูทางเข้าช่วงกลางห้างเซ็นทรัล และอยู่ตรงข้ามกับป้ายที่ลงรถเมล์
ที่ศูนย์รับแจ้งความ
มี พ.ต.ต.พิเชษฐ์ ฉิมขันธุ์ ผู้รับแจ้ง และ ด.ต.บุลเสฎฐ์ ระดาบุตร ผู้บันทึก โดยแจ้งความว่า เมื่อเวลา 16.30 น. (วันศุกร์ที่ 13 ก.ค. 55....โอ ศุกร์ 13....มันแรงจริงๆ) สันนิษฐานว่า น่าจะโดนกรีดถุงผ้าพีวีซีแบบสะพาย แล้วถูกฉกกระเป๋าสตางค์ไป ช่วงที่กำลังรอลงจากรถเมล์สาย 545....ท่าน้ำนนท์-เซ็นทรัลลาดพร้าว ในรถมีผู้โดยสารรวมทั้งตัวเองประมาณ 3-4 คน (เพราะรถสุดสายที่เซ็นทรัลลาดพร้าว) คุณ ตร.บอกว่า ส่วนใหญ่พวกนี้จะเป็นแก๊งค์ประมาณ 3 คน เลยนึกย้อนหลังไป รู้สึกว่าถูกถ่วงเวลาในการลงจากรถ คือคนที่อยู่ตรงประตู ทำท่ารีๆ รอๆ ไม่ยอมลงรถ แล้วรู้สึกว่า คนที่อยู่ข้างหลังมากระแทก ทั้งที่เบี่ยงตัวหลบให้เขาเดินแซงไป ก็ไม่แซง (คิดว่าไอ่คนกระแทกคงเป็นกรีด)
พอลงจากรถ ก็ข้ามสะพานลอยมาที่ถนนก่อนถึงห้างเซ็นทรัล เพื่อต่อรถเมล์เข้าถนนลาดพร้าว ควานหากระเป๋าสตางค์เพื่อจะหยิบค่ารถ จึงเห็นว่า ถุงที่สะพายโดนกรีดเป็นทางยาว และกระเป๋าสตางค์ใบยาวหายไป ในกระเป๋ามีเงินประมาณ 2,000 บาท บัตร ATM 2 ใบ 2 ธนาคาร(ที่กล่าวถึงข้างบน) บัตรประชาชน บัตรข้าราชการ ใบขับขี่ บัตรบริจาคดวงตา บัตรบริจาคอวัยวะ บัตรห้างต่างๆ บัตร....และเอกสาร ฯลฯ ประมาณเกือบ 20 ใบ
ในขณะที่กรอกข้อมูลเพื่อบันทึกลงในใบแจ้งความ ปากก็บ่นกับคุณตำรวจว่า...."ไอ่โจรมันอยากได้เงิน ก็ให้มันไป แต่อยากได้กระเป๋าและบัตรคืน... มันจะเอามาทิ้งถังขยะบ้างไหมนี่"
พ.ต.ต.พิเชษฐ์ฯ ก็หัวเราะและเดินออกจากห้างฯ ไป....
ทางเราก็นึกว่ามีบัตรอะไรหายบ้าง คุณ ด.ต. ก็พิมพ์บันทึกแจ้งความไปเรื่อยๆ ไล่นึกไป เขียนไป อยู่ประมาณ 10 นาที ก็ยังไม่เสร็จ.....
พ.ต.ต.พิเชษฐ์ฯ ก็เดินกลับเข้ามา พร้อมกับบอกว่า ได้กระเป๋าคุณคืนแล้ว....เห่ย เราก็หัวเราะ(มั่ง) ว่าล้อเล่นเปล่า
พ.ต.ต.พิเชษฐ์ฯ ก็ยื่นกระเป๋ามาให้พร้อมกับบัตร 4- 5 ใบ และเอกสารต่างๆ ที่เลอะเทอะและเปียกน้ำนิดหน่อย
โอ...พระเจ้า กระเป๋าตังค์เราจริงๆ ด้วย...แต่เงินหายหมด : (....
พ.ต.ต.พิเชษฐ์ฯ บอกว่า ไปเดินหน้าห้าง แล้วเห็นถังขยะวางอยู่ เลยเดินไปคุยกะคนที่กำลังคุ้ยเก็บขยะ ก็บอกกับเขาเล่นๆ ว่ามีคนมาแจ้งความว่าโดนกรีดและฉกกระเป๋า เผื่อมันจะเอามาทิ้งบ้าง คนเก็บขยะเลยบอกว่า เจอกระเป๋าใบหนึ่งมีบัตรถูกทิ้งอยู่ด้วย (บัตรถูกดึงออกจากกระเป๋าเกือบหมด) เผอิญมีบัตรข้าราชการซึ่งมีรูปติดอยู่ด้วย ทำให้คุณตำรวจจำหน้าได้ ว่าใช่เรา เลยเก็บมาคืนให้
แทบจะกราบคุณตำรวจเลยนะนั่น เพราะได้ใบขับขี่กับบัตรข้าราชการคืน แล้วก็บัตรอื่นอีก 3-4 ใบ....แค่นั้น ก็ดีใจสุดๆ แล้ว
ยัง...ยังปาติหาริย์ไม่พอ ระหว่างที่รอคุณดาบ ตร. แก้ไขใบแจ้งความตามเอกสารที่ได้คืน คุณพ.ต.ต.พิเชษฐ์ฯ ก็คะยั้นคะยอให้ไปดูถังขยะที่เก็บกระเป๋าได้ ว่ามันคือใบนั้น เลยต้องเดินไปดูไม่ให้คุณตำรวจเสียน้ำใจ ปรากฏว่า เจอบัตรถูกทิ้งอยู่อีกหลายใบ เลยต้องคุ้ยขยะแบบคนเก็บขยะข้างถนน (คนมองกันใหญ่ ว่ายัยป้าคนนี้ ก็มาคุ้ยเก็บขยะกะเขาเหมือนกัน)
สรุปว่าได้บัตรและเอกสารคืนเกือบหมด ที่หายไปแน่ๆ คือ บัตร ATM 2 ใบกับบัตรประชาชน (มันคงเอาบัตรประชาชนไปเดารหัส ATM)
อ้อ.... ทั้งเนื้อทั้งตัว เหลือเงินติดกระเป๋ากางเกงอยู่ 10 บาท (ถ้าไม่มีกะขอคุณ ตร. แน่ๆ.... เหอๆๆๆ) แต่ตอนคุ้ยถังขยะ มีคนเอากระเป๋าสะพายใบใหญ่ใส่ถุงมาทิ้งอีก 1 ใบ มีเงินก้นกระเป๋าอยู่ 15 บาท ก็บอกคุณตร.ว่า เป็นกระเป๋าที่โจรเอามาทิ้งอีกหรือเปล่า ตร. บอกไม่ใช่เป็นกระเป๋าเก่าที่คนเอามาทิ้ง เราเลยบอกว่า มีเงินอยู่ 15 บาท เราเอานะ....(เข้าตาจน เอาดื้อๆ เลย.... เหอๆๆๆ)
เผอิญนึกได้ว่ามีสมุดบัญชีแบงค์นี่หว่า ก็เลยเบิกเป็นเงินติดกระเป๋ากลับบ้าน
ใครที่อ่านมาจนถึงบรรทัดนี้ ช่วยแชร์ด้วยนิคะ
เพื่อเป็นอุทธาหรณ์ให้ระวังภัยจากมิจฉาชีพ และเป็นกำลังใจให้ จนท. ธนาคารกรุงไทย สาขาเซ็นทรัลลาดพร้าว และคุณ ตร. "ศูนย์บริการพิเศษตำรวจนครบาล ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล สาขาลาดพร้าว"
ปล. ได้ไปโพสต์ข้อความข้างบน ในเฟสบุ๊คของธนาคารทั้งสองและตร.นครบาลด้วยแล้ว 
| จากคุณ |
:
ครอบครัวตัว ม   
|
| เขียนเมื่อ |
:
14 ก.ค. 55 14:07:36
|
|
|
|
ให้ครับ สู้ๆๆๆ...
นึกไม่ถึงจริงๆ ค่ะว่า จนท.ธนาคารจะคิดได้แบบนี้
