ข้อความ(น่าจะ)ล่าสุดของคุณเด่นศรี

 
ข้อความ(น่าจะล่าสุด)ของคุณเด่นศรี
http://www.richlife-myhome.com/index.php?lay=show&ac=webboard&WBntype=1&thispage=2

////////////////////

วันนี้ตลาดหุ้นปิด   ผมเลยมีเวลามานั่งเขียนอะไรเล่น     เลยเกริ่นหัวข้อไว้ว่า     จะทำ  DSM   ดีมั้ย  ?

 

คำถามนี้  ผมเอาไว้ถามคนอื่นนะครับ   เพราะผมเองนั่น   DSM  ล้านเปอร์เซนต์อยู่แล้ว

 

มีหลายอย่างที่คนกล่าวชมและตำหนิ   DSM      ถูกบ้างผิดบ้าง    โดยที่ผมไม่ค่อยอยากเข้าไปโต้แย้งหรืออธิบายมาก      เพราะไม่มีใครรู้ในสิ่งที่ผมรู้      

 

นี่แค่เกริ่นครับ  (  อิอิ  )

 
 

ผมไปอ่านในคห.     มีคนกล่าวว่า    DSM     aggressive      ผมได้ยินคำนี้แล้วผมก็แอบอมยิ้ม     เพราะ

 

เมื่อหลายปีก่อนโน้น    คุณมัดเล่ย์  ได้ลองเอา  DSM   ไปทดสอบ     ผมจึงตั้งคำถามส่งไปทางเมล์ว่า     ....  หากเกิดกรณีแบบนี้แล้ว   คุณมัดเล่ย์จะแก้อย่างไร

 

 

 

คำตอบที่คุณมัดเล่ย์ตอบกลับมา     ผมจึงส่งเมล์ไปบอกว่า   .....   สิ่งที่คุณมัดเล่ย์ทำ     นั่นยังไม่ใช่   DSM           

DSM   มีอะไรมากกว่านั้น    

 

 

ตอนนั้นรู้สึกจะเป็นก่อนที่คุณมัดเล่ย์จะไปต่างประเทศ        ผมดูจากคำตอบที่คุณมัดเล่ย์ตอบคำถามผมกลับมา       ผมจึงบอกคุณมัดเล่ย์ว่า     นั่นยังไม่ใช่    DSM

 

 

คำว่า      aggressive       ถ้า   DSM   เป็นถึงขนาดนั้น  ผมคงไม่ทำให้เด็กอายุ  10  ขวบไว้ใช้ลงทุนเลยครับ

 

(  ยิ้มแย้ม  )

 

 


  

 

ความเหมือนหรือความแตกต่างของแต่ละระบบเทรด

 

ในการเปรียบเทียบนี้     ผมยึดกติกาของผมเป็นหลักนะครับนั่นคือ    .....     เด็กอายุ   10  ขวบ  ต้องทำได้   เพราะผมถือว่า     เมื่อสร้างระบบขึ้นมา     ระบบต้องส่งต่อให้ลูกหลานทำต่อจากเราได้

 

เพระผมถือว่า     ระบบเทรด  หรือ  ทรัพย์สินชิ้นหนึ่งของครอบครัว

 

 

การเลือกหุ้น

 

VS        และ      VI       ..........      ลูกผมตอน   10  ขวบ  คงจะไม่สามารถคัดกรองหุ้นตามระบบนี้ได้

KZM    ......................................  ถ้าเลือกทำ   TDEX      ลูกผมตอน  10  ขวบ   ทำได้เลย

DSM  ....................................      แค่เลือกหุ้นที่เค้าชอบ  หุ้นที่เค้าเห็นอยู่ในชีวิตประจำวัน  ลูกผม  10 ขวบก็เลือกได้เลย

 

 

.........................................

 

การเทรด  การตัดสินใจ

 

VS   ....   อันนี้ต้องใช้ความสามารถส่วนตัว       ลูกผมตอน   10  ขวบ  ทำตามได้ยากมาก

VI    .....   อันนี้ลูกผมตอน  10  ขวบก็คงทำตามได้ค่อนข้างยาก   เพราะแม้แต่ผู้ใหญ่ยังต้องอดทนอย่างมาก

KZM .....   อันนี้ลูกผมตอน   10  ขวบก็ทำตามได้ยาก     เพราะต้องมาแบ่งกอง    A     B    C    D    แล้วเอากองนั้นมาซื้อกองนี้      เด็ก   10   ขวบคงได้งงกันหมด    แล้วยังต้องมีการเอา   ออฟชั่นมาเสี่ยงด้วย     เด็ก   10  ขวบทำตามไม่ได้แน่

DSM  ......   ลูกผม   10  ขวบ    ทำตามได้เลย    เพราะทั้งระบบมีแค่รูปแบบเดียว    ใช้ได้ตลอดกาล

 

............................................................................

 

การสรุปบัญชีแต่ละวัน

 

อันนี้แต่ละระบบ    น่าจะทำ   แต่ว่าอยู่ที่ว่า      เวลาที่เสียไปในการทำบัญชีแต่ละวัน

 

ระบบอื่นผมไม่แน่ใจในการใช้เวลาสรุปบัญชีนะครับ 

 

DSM    .........    ถ้ามีหุ้นในพอร์ต    50   ตัว      จะใช้เวลาทำบัญชีไม่เกิน   5  นาที   

 

(  สุดยอดมั้ยละครับ    ( ยิ้มแย้ม ))

 

 ..................................................................

 

การขยายกิจการหรือขยายพอร์ตเพิ่มหุ้น

 

VS   ......   อันนี้ลูกผม   10   ขวบ  ทำตามไม่ได้แน่นอนครับ    เพราะต้องใช้ความสามารถส่วนบุคคลเฉพาะตัว

 

VI  .........    อันนี้ลูกผม   10   ขวบก็ทำตามได้ยาก    เพราะมันจะวนไปที่การเลือกหุ้นเข้าพอร์ต    ต้องคัดกรองหุ้นจากมูลค่าทางบัญชี   

 

KZM   .......   ถ้ายังคงเป็น    TDEX       ลูกผมทำตามได้เลย

 

DSM   .......   อันนี้ลูกผม   10   ขวบ  ทำตามได้เลย    เพราะเอ็กเซลคำนวณเงิน   แบ่งเงิน  สำหรับการขยายพอร์ตให้เป็นส่วน  ๆ   เรียบร้อยหลังทำบัญชีเสร็จทุกเย็นแล้ว

 

 

.........................................

 

 

เมื่อดุจากกติกาว่า      ลูกผมอายุ   10  ขวบจะรับกับระบบใดได้บ้าง    ตั้งแต่ขั้นตอนแรก   เลือกหุ้น       แล้วมาระบบการเทรด     แล้วมาระบบการทำบัญชีรายวัน       และจบด้วยการขยายพอร์ตขยายจำนวนหุ้น

 

 

มันจึงมาลงที่     DSM         

 

 

(  ยิ้มแย้มมมมมมมมม  )

 

 

 

ปัญหาของ    DSM

 

ปัญหาของ    DSM     มีอยุ่แค่เรื่องเดียวครับคือ    .....    ไม่มีคนสอน     (  ยิ้มแย้ม  )

 

 

นี่ใม่ใช่มุขนะครับ   แต่เป็นแบบนั้นจริง  ๆ

 

ถ้ามีคนที่รู้แล้วสอนได้     จะเข้าใจเองว่าทำไมจึงไม่มีคนสอน    (   ไม่ใช่มุขอีกเช่นกัน )

 

 

ผมพูดแบบนี้โดยอาศัยหลักความจริงของทุกคนเองครับ

 

 

ถ้าผมถามว่า     กิจการหนึ่งมีเคล็ดลับในการทำเงินมากมาย        จะยอมสอนให้คนอื่นมั้ย     คำตอบคงจะตอบว่า    ไม่สอน

 

 

ผมคิดแบบนี้แต่ผมไม่ได้เห็นแก่ตัวนะครับ

 

ความลับของธุรกิจ    เป็นสิ่งที่ต้องเก็บไว้อย่างดี      เพราะถ้าเปิดออกหมด   มันจะมีผลร้ายกลับมา   

 

หลายสิ่งหลายอย่างที่ผมประสบมา         จนตั้งใจไว้ว่าจะหยุดถ่ายทอดแล้ว    มีเหตุผลใหญ่สำคัญมาจากกรณีที่ผมจะกล่าวคือ

 

 

ในขณะที่ผมพยายามถ่ายทอด                คนที่นำไปใช้    หลายคนทำตามไม่ได้   ก็กล่าวโทษระบบ

 

บางคนเอาไปทำได้แล้วต่อยอด     ก็บอกว่านั่นเป็นฝีมือของเค้า

 

 

............................

 

นั่นคือสิ่งที่ผมประสบมา      เมื่อทำไม่ได้ก็จะโทษสิ่งที่ผมสอน      แต่ถ้าทำได้ก็จะยกความดีความชอบให้ตัวเอง

 

ยิ่งเมื่อมีระบบอื่นมาก็จะเริ่มกล่าวโทษในสิ่งที่ผมทำ     มีการเปรียบเทียบ   มีการโจมตี     ทั้ง  ๆ  ที่ไม่ได้รู้จริง

 

 

ผมประสบเหตุการณ์แบบนี้บ่อยครั้ง   จนรู้สึกว่า   พอแล้วกับการให้     ถึงเวลาแล้วที่ผมจะหยุดให้คนอื่น    แล้วมอบสิ่งนี้ให้กับคนที่ผมรักแทน    เติบโตไปอย่างเงียบ  ๆ

 

 

.............................................

 

ผมยังคงตอบคำถามในส่วนที่ผมตอบได้     แต่จะไม่ได้บอกวิธีหรือรายละเอียดให้นะครับ      ผมคงทำได้เพียงเท่านี้

 

 

( ยิ้มแย้ม  )

 

 

 

ความเห็นของผมต่อระบบ   KZM

 

ที่ผมกล่าวถึงเฉพาะ    KZM    เพราะผมไม่ได้ไปคลุกคลีกับบอร์ดอื่น     

 

ก่อนหน้านี้ผมอยู่แต่ในคลับอิสระภาพทางการเงินของพันทิพย์     จึงแสดงความเห็นเฉพาะระบบ   KZM   นะครับ

 

 

......................................................

 

ต้องขอออกตัวก่อนว่า     ผมไม่เคยทำ    KZM         ไม่เคยทดสอบ    KZM    นะครับ    แต่เป็นความเห็นที่ได้จากการอ่านกระทู้ในคลับ  ๆ

 

 

....................................................

 

เมื่อก่อนเคยมีคนบอกว่า    ระบบ     DSM    คล้ายกับ   KZM

 

อันนี้ผมดูยังงัยก็ไม่เหมือนกันเลยครับ   คนละทิศ   คนละทางเลย           แต่ถ้าแยกแต่ละจุด  ก็จะลองแยกให้ดูนะครับ

 

 

.................................................

 

 

การเลือกหุ้น

 

 

อันนี้    จะต่างกันชัดเจน          การเลือกหุ้นของระบบ    KZM    จะไม่เปิดกว้างแบบของ    DSM       

 

ถ้ากล่าวกันตรง  ๆ คือ       ระบบ   KZM     ต้องใช้กับหุ้นราคาถูก  ๆ     

 

เพราะหากไปใช้กับหุ้นราคาแพง   ระดับ    300  บาทต่อหุ้น        จะต้องใช้เงินก้อนจำนวนมหาศาลในการคลุมโซน    

 

 

และหุ้นที่จะใช้   จะต้องเป็นหุ้นที่อยู่ในกรอบ     ซึ่งจะต้องเป็นกรอบราคาที่ไม่สูงมากด้วย

 

เช่น  หากเป็นหุ้น   ราคาที่อยู่ในกรอบ   1  บาท  -    300  บาท   อันนี้       KZM    จะทำได้ยาก  

 

เพราะการเอากอง     A      ที่ขายได้กำไรแล้วไปเล่นกอง  บน  บน        ในความคิดผม  ผมเห็นว่าอันตรายมาก

 

 

มันเหมือนการที่เราซื้อของมา    10  บาท    ขายได้    11  บาท    แล้ว   .........  เอาเงิน   11  บาท  ไปพยายามซื้อของราคา   20  บาท

 

ผมมองในแง่เดียวกับการซื้อขายทองคำ

 

ผมซื้อทองคำไว้เมือหลายปีก่อน     ที่ราคาบาทละ    6  พัน     จนราคาตอนนี้   ......  ไม่กล้าคิด

 

ที่ไม่กล้าคิดคือ     ถ้าผมขายทองผมไปตอนนี้    แล้วทองมันขึ้นไปอีก   ผมจะเอาเงินที่ไหนไปซื้อทองคืนจำนวนเท่าเดิม  ( เพราะทองมันแพงกว่าเดิมไปแล้ว  )

 

หรือนอกจาก  ผมจะขายทอง     ไป   10  บาท    ในตอนนี้    แล้วหากมันขึ้นไปอีก    ผมจะตามไปซื้อทองได้อีก   แต่ได้แค่    ......      5  บาท

 

 

อันนี้เป็นกรณีหุ้นขึ้นนะครับ

 

 

สิ่งที่รายย่อยหลายคนเจ็บตัวก็เพราะหุ้นขึ้นแบบนี้ละครับ

 

หุ้นซื้อมา   10   บาท (  1000  หุ้น )   ขายได้   12  บาท  ( 1000  หุ้น )  .................   แล้วหุ้นขึ้นต่อ    จึงเอาเงินจากที่ขายได้   12  บาท    ไปเข้าซื้อไล่ราคาหุ้นที่ราคา    20  บาท  

 

มันเลยได้แค่      600  หุ้น

 

ถ้าหุ้นขึ้นต่อจาก  20  บาทไป   25  บาท  นั่นก็เข้าทาง

 

แต่ถ้ามันลงจาก   20  บาท   มาเหลือ   12  บาทละครับ   แล้วไม่คัดลอส   ( เพราะถ้าขาดทุนจะไม่ขาย  )

 

 

อันนี้เป็นมุมมองของผมนะครับ    

 

 

..............................................................................................

 

การเลือกหุ้น  ( ต่อ  )

 

ถ้าจะทำ   KZM   เฉพาะกับ     TDEX      ก็เป็นอะไรที่ต้องอดทนอย่างมาก

 

อย่างที่ผมอ่านในคห.   ไม่แน่ใจว่าพี่ห่านคำนวณจริงหรือเปล่า    ที่การจะซื้อขายทบไปทบมาให้ได้   1  หมื่นรอบ  ต้องใช้เวลา    40  ปี

 

ถ้าต้องใช้เวลาถึง   40  ปีในการคืนทุน     ผมขอลาเลยครับ

 

อสังหาริมทรัพย์ที่ว่าต้องอดทน  ยังใช้เวลาแค่   10  ปีในการคืนทุน

 

และ   TDEX     เป็นหุ้นที่รวยยาก      เพราะจากราคา     3  บาท  ตอนเซต   600    มาเป็น     7  บาทกว่า  ตอนเซต   1000 

 

ถ้าจะให้    TDEX    ราคา   100  บาท      เซตจะต้องเป็นหมื่นจุดแน่เลยครับ

 

ถ้าเซตถึง   หมื่นจุด   ผมว่าระบบเทรดอื่น    รวยกันมหาศาลไปไม่รู้เท่าไหร่แล้วแน่เลยครับ

 

 

ดังนั้นถ้าทำ     KZM    ให้รวยได้ต้องหนีให้พ้น    TDEX    ด้วย   ไม่งั้นก็ตามระบบอื่นได้ยากเหมือนกัน

 

................................................

 

ถ้าหุ้นลง       KZM    ก็จะฮวบลงมาด้วย

 

ยิ่งหากเซตดิ่งลงมา     แล้ว    KZM   ปล่อยหุ้นได้ไม่ดี     มีการซื่อแล้วหุ้นลงต่ำโซนมาเรื่อย  ๆ        จะมีหุ้นติดดอยเพิ่มขึ้นเรื่อย  ๆ

 

บางคนบอกว่านั้นคือการสะสมหุ้นของ    KZM         แต่ผมอ่านแล้วผมก็อมยิ้มอีก    เพราะในส่วนตัวผมเรียกแบบนั้นว่า    ติดดอย 

 

 

นั่นคงเป็นเหตุผลที่ระบบ    KZM    จึงต้องเอาออฟชั่นมาช่วยแก้สถานการณ์

 

นี่ยิ่งเป็นเหตุผลหลักเลยที่ผมบอกว่า      ......   เด็ก  10  ขวบ ทำตามได้ยากมาก

 

.............................................................

 

 

การใช้พลังของเงินทุน

 

ผมอ่านแล้ว    เห็นการแบ่งโซนของ     KZM    

 

เช่นหากแบ่งเป็น    100  โซน   .........    เงิน   1  ล้านบาท  แบ่งเป็น   100  โซน

 

เท่ากับใช้เงินโซนละ    1  หมื่นบาท

 

ถ้าเป็นมุมมองของผม   ผมคงไม่สนุกด้วย       เพราะการทำเงินแต่ละโซนที่ต่างคนต่างทำแบบนั้น      เท่ากับว่าใช้พลังของเงินทุนแค่   1  เปอร์เซนต์

 

แล้วปล่อยให้อีก   99  เปอร์เซนต์เป็นสินค้าค้างสต็อก

 

เช่นได้กำไรจากโซนที่  1      ก็จะมาทำโซนที่  2    ซึ่งเท่ากับว่า    เงินจากโซนที่  1  จะถูกแช่แข็งไว้  

 

นั่นคือไม่ว่าหุ้นจะไปถึงโซนไหน       การใช้พลังเงินทุน  ก็ยังใช้ได้แค่   1   ส่วน

 

( แต่ถ้าจะบอกว่า   ก็ซื้อรวบโซนเลย    จะเหมือนได้ซื้อโซนสูง  ๆ  ในราคาต่ำ  ๆ      แล้วงั้นจะแบ่งโซนทำไม     ก็เทรดแบบ    VI   เลยดีกว่าครับ      รอเก็บหุ้นราคาต่ำ  ๆ    ไปปล่อยในราคาสูง  ๆ  เลย  )

 

 

แล้วที่น่ากลัวคือ   หากไปถึงโซน    50     แล้วเอาเงินจากโซน  1   2    3   ไปเข้าซื้อโดยไม่มีระบบสำรองรองรับ

 

.............   น่ากลัวเลยครับเหมือนที่บอกว่า    ขายได้ราคา  12  บาท   (  1000  หุ้น )  ไปซื้อ     20 บาท  ( ได้แค่  600  หุ้น  )    แล้วเจอแจ็คพอต  หุ้นตกพอดี

 

 

ตรงนี้อีกเช่นกัน    ที่จะต้องมีเลเวลสูง  ๆ    มาช่วยแก้สถานการณ์      (  ที่บอกว่าเป็น     KZM   เลเวลสูงขึ้นไป  )

 

 

...........................................................

 

ที่ผมคิดเห็นแบบนี้    ไม่ได้มาจากการลองทำ   KZM   นะครับ       แต่มาจากมุมมองที่มองถึงความจริงในแง่ธุรกิจ

 

ธุรกิจจะทำได้ง่าย    เพราะราคาส่วนใหญ่ของสินค้ามีแต่แพงขึ้น     และเป็นแบบ  ซื้อมาราคาถูกกว่าที่ขายได้ตลอด  ( ยกเว้นขายไม่ออก   (  ยิ้มแย้ม )      คงไม่มีธูรกิจไหน    ซื้อสินค้ามา   10  บาทเพื่อขาย   8  บาทนะครับ 

 

 

KZM    ผมจึงมองคล้ายธุรกิจ    ที่เป็นการซื้อถูก  ขายแพง

 

 

ธุรกิจ   จะสั่งสินค้าไม่เยอะ    เช่นสั่งมา   1  โหล  พอขายหมดก็ซื้อใหม่   แต่อย่าลืมว่า     ของทั้ง   12 ชิ้นไม่ได้แยกกันทำงาน

 

 

ของทั้ง   12  ชิ้นจะมีคนมาซื้ออาจจะในเวลาเดียวกันหรือวันเดียวกันหมดทั้ง   12  ชิ้นได้เลย  แล้วเริ่มกระบวนการสั่งสินค้าใหม่มา

 

 

นั่นคือ   เป็นการใช้เงินทุนแบบทั้งก้อนในการทำเงิน

 

 

แต่  KZM   จะไม่สามารถทำแบบนั้นได้    เพราะมีการแบ่งโซนเพื่อป้องกันเงินทุน  ( ต้องบอกว่าจะป้องกันเงินทุนได้  เฉพาะในภาวะตลาดขาขึ้นนะครับ    เพราะถ้าตลอดขาลง    แม้ขาดทุนจะไม่ขาย   แล้วบอกว่าไม่ขาดทุน    แต่มันก็คือ   การจมทุน  นั่นเองครับ   )

 

 

ยิ่งแบ่งโซนให้ละเอียดเท่าไหร่    การป้องกันเงินทุนก็ดีขึ้นเท่านั้น      .....   แต่ก็ทำให้เกิดผลเสียในแง่ของการทำเงิน   ก็จะช้าลงตามไปด้วยเช่นกัน

 

 

.......................................

 

 

มุมมองของผมจึงคิดว่า    ถ้าจะทำ    KZM    ให้ได้ผลระดับสูง     จะใช้แค่   KZM   ระดับเบสิคไม่ได้       เพราะผลตอบแทนจะช้ามาก 

 

ต้องใช้   KZM   ระดับสูงขึ้น   และ  ใช้เครื่องมือของตลาดเข้ามาช่วย

 

 

...........................................

 

  

ดังนั้น     เมื่อมามองถึงประเด็นในหัวข้อของกระทู้ว่า

 

 

จะทำ   DSM    ดีมั้ย ?

 

 

จึงต้องถามว่า     .....  ถ้าทำ   DSM     แล้วใครจะสอน    ( ยิ้มแย้ม  )

 

 

ผมจะไม่อธิบายนะครับว่า       DSM    ง่ายแค่ไหน   ทำเงินได้แน่นอนแค่ไหน

 

 

แต่จะให้ถามกับตัวเพื่อน  ๆ  เองว่า     ......   ถ้าจะทำ    DSM    แล้ว  ใครจะสอน  ?

 

 

ระบบอื่น  มีผู้รู้สอนอยู่แล้ว      แต่  DSM   ไม่มีผู้สอน 

 

 

หากจะทำต้องเรียนรู้ศึกษาแล้วทำเอง

 

 

จึงเป็นระบบที่มีความเสี่ยงมากมาย     เสี่ยงจากความไม่รู้    ไม่เข้าใจ      (  ซึ่งจะว่าไปแล้ว    มันก็ไม่ต้องเข้าใจอะไรมากมาย      เพียงแต่ต้องเข้าใจถึงธรรมชาติของตลาดหุ้น   แค่นั้นเองครับ  )

 

 

เมื่อไม่รู้  ไม่เข้าใจ      จึงผิดพลาดล้มเหลว

 

 

ผมเองก็ไม่อยากให้เพื่อน  ๆ  มาเสี่ยง    มาล้มเหลวกับสิ่งนี้        ใจจริงอยากจะมาบอกเลยด้วยซ้ำครับว่า     ....    เลิกทำ   DSM   เถอะ

 

 

แต่ถ้าคิดว่าความรู้เรื่อง   DSM    เก่า  ๆ นั่น  สามารถช่วยได้   นำมาต่อยอดได้      สามารถมองเห็นความสำเร็จได้       นั่นผมยินดีมากเลยครับ

 

 

....................................................

 

 

ผมมองว่า     เพื่อนที่จะทำ    DSM   เพื่อตัวเอง      รับรองว่า  ไม่ประสบผลสำเร็จครับ    เพราะเพื่อนจะคิดโน้น  คิดนี่   คิดแอดว๊านไปเรื่อย       จากสิ่งที่ง่ายก็จะกลายเป็นสิ่งที่ยาก   แล้วก็ผิดหวังในที่สุด

 

 

แต่ถ้าเพื่อนจะทำ    DSM    เพื่อลูกหลานสืบต่อไป       ผมอยากให้อดทนทำต่อไปครับ        มันเป็นสิ่งที่ง่าย      ยิ่งถ้าคิดให้มันง่ายเพื่อลูกตัวน้อยของเพื่อนเอง      มันก็จะง่ายขึ้นเรื่อย  ๆ        แล้วเพื่อนจะเจอกับระบบง่าย ๆ  ที่สามารถยึดเป็นทรัพย์สินส่งต่อลูกหลานของเพื่อนได้ในอนาคตเลยครับ

 

 

สิ่งนี้  สอนกันไมได้    ......   แต่สืบทอดต่อกันได้ครับ    

 

 

 

( ยิ้มแย้มมมมมมมมมม  )

 

 

 

 

ลืมแจ้งไว้ครับ

 

ราคาหุ้นย้อนหลังที่ผมตั้งใจไว้ว่าจะเก็บราคาไว้หลาย  ๆ ปี  ไว้ในเวปให้เพื่อน  ๆ  ได้นำไปฝึกเทรดกัน     ผมยังคงเก็บราคาไว้ทุกวัน    เพียงแต่ไม่ได้นำมาโพสต์ไว้     เพราะมีพี่ท่านหนึ่งกล่าวเตือนไว้ว่าอาจจะไม่ดี

 

 

ผมจึงลบชื่อหุ้นออก   และ   หยุดโพสต์ไว้ก่อน

 

 

แต่ยังคงเก็บราคาหุ้นใส่แฟ้มไว้ทุกวันทุก   10   นาทีครับ

 

 

จึงต้องขออภัยมา  ณ. โอกาสนี้ด้วยครับ   

 

 

 

คุณแม็กซ์ครับ  

 

หุ้นแทบทุกตัวมีการเคลื่อนไหว    ( หรือเรียกว่า   การทำราคาของจ้าวมือ )  คล้าย  ๆ  กันครับ

 

แต่ที่   TTA    มันสวิงมากมาย   เป็นเพราะช่วงที่เก็บข้อมูล   หุ้นตัวอื่นบางตัวถึงเวลานิ่ง    บางตัวถึงเวลาลง     แล้ว  TTA   ถึงเวลาสวิง  พอดีครับ

 

พอผ่านช่วงสวิงไป     TTA   ก็จะไปนิ่งแทน    แล้วจะมีหุ้นตัวใหม่ที่จ้าวมือเอาขึ้นมาสวิงสลับแทนครับ

 

หุ้นแทบทุกตัว   จะมีการทำราคาครับ    การเคลื่อนไหวโดยสรุปจึงคล้ายกันแทบทั้งหมด

 

ดังนั้น  หากทำระบบเทรดหุ้นครอบคลุมได้แล้วแม้กับหุ้นตัวเดียว      ก็จะสามารถนำไปใช้เทรดกับหุ้นทุกตัวได้เลยครับ     เพราะการขึ้นลงในท้ายสุดแล้วมันเป็นแบบเดียว  ๆ  กัน    เพราะมีการทำราคาจากจ้าวมือแทบทุกตัว

 

...................................................

 

คุณ  GF    ครับ

 

การมีหุ้นขาขึ้นมาก   ๆ         ก็ต้องมีการระวังและเตรียมตัวด้วยนะครับ

 

เพราะหากหุ้นเปลี่ยนเป็นขาลง    ถ้าเรารับมือไม่ได้   พอร์ตเราจะหดลงไปอย่างมากมายครับ

 

ถ้าจะสังเกตุว่า   ขาขึ้นมีหุ้นเยอะเกินไปมั้ย    มีวิธีดูง่าย  ๆ  ครับคือ

 

ถ้าหุ้นเกิดเปลี่ยนทิศทางเป็นขาลง    แล้วสมมุติเราไม่ได้ขายหุ้นในมือที่มีอยู่ตอนนั้นเลย      เราจะมีเงินกองหลังเหลือว่างอยู่สำหรับซื้อหุ้นราคาต่ำหรือไม่

 

ถ้าไม่มีเงินสำรองเหลืออยู๋     อันนี้ต้องระวังแล้วครับ     

 

นั่นคือ  ถ้าหุ้นขึ้นแล้วมีหุ้นเต็มมือ    .......   เราต้องมีเงินเต็มมืออีกก้อนด้วยครับ    สำหรับรอหุ้นที่ตก

 

หุ้นที่เต็มมือจะทำเงินให้เราอย่างต่อเนื่อง          เงินที่เต็มมือจะทำให้เราไม่ต้องมาห่วงเรื่องหุ้นตกแล้วพอร์ตหาย    ครับ

 

( ยิ้มแย้ม  )

 

 



 

จากคุณ	: ไร้แก่นสาร
เขียนเมื่อ	: 16 ก.ค. 55 00:39:22