PANTIP.COM : I12400530 KFSDIV หรือ HI-DIV ดีคะ [การลงทุน]

ความคิดเห็นที่ 11

ระยะยาว คือ ยาวแค่ไหน ปีเดียว สามปี ห้าปี สิบปี ยี่สิบ ตลอดชีวิต
ถ้าเรื่องของกองทุน ดู siamchart + morning star ร่วมกันจะดีกว่าครับ
ตัวเลขของสองเว็บนี้ไม่ตรงกันนะ อันดับของทั้งสองเว็บเลยไม่ตรงกัน
เพราะถ้าดูแค่ siamchart มันแค่ nav(ปัจจุบัน) + ปันผลที่ผ่านมา - nav (อดีตที่เอามาตั้ง)
ถ้าซื้อ HI-DIV ได้ ก็ซื้อ 1VAL-D ได้ สถิติดีกว่าด้วย ไม่มีธนาคารเหมือนกัน หักจากธนาคารอื่นเอา
หรือถ้าเอากองทุนจากธนาคารใหญ่ BKD ก้มาแรงสุด จากสถิติแค่ 1 ปี
ถ้าดูจาก ทั้งปีนี้ + สามปีย้อนหลัง K-Value ก็ดูจะเวิร์ดกว่า HI-DIV/SCBDV
บางกองทุนก็ยังไม่เคยผ่านช่วงเวลาร้ายหนักๆ ก็เลยยังไม่รู้ความแข็งแกร่ง
เช่น ช่วงซับไพรม์ หรือบางกอง อยู่มาเป็น สิบๆ ปี ผ่านวิกฤษ 2540 มาแล้ว ก็ยังมีชื่อจารึกไว้ถึงทุกวันนี้
หรือบางกอง จากบาง บลจ. หายไปเลย หรือไม่ก็อยู่ท้ายตารางตอนนี้
ละมาเปิดกองใหม่ช่วงตลาดเขียว ดังถล่มทลาย
สำหรับคนที่ลงทุนในกองทุน ส่วนใหญ่(มิใช่ทุกคน)ไม่ขยันเท่าคนเล่นหุ้น
ไม่ใช่แค่ฝากเงิน เหมือนฝากความฝันที่จะรวย ความหวังที่จะยกระดับฐานะขึ้นมา
แต่ถึงกระนั้น เราก็ต้องวิเคราะห์เองด้วย ว่าจะเลือกกองทุนไหน
คิดหนักๆ ละอยู่กะมันไปนานๆ ไม่ต้องตามบ่อยๆ เหมือนเล่นหุ้นเอง
กองทุนที่ทำกำไรมากๆ ในขณะที่ตลาดเขียว แน่นอน ใครๆก็ชอบ
แต่กองทุนที่ขาดทุนน้อยกว่าชาวบ้าน ในตอนที่ตลาดแดงนี่สิ ที่เราควรจะฝากไว้ด้วยเหมือนกัน
เคยได้ยินมั๊ย กำไรต้องเป็นสองเท่าของการขาดทุนถึงจะเท่าทุน
กำไร 100% ขาดทุน 50% เป็นเงินเท่าเดิม
เหมือนกัน ขาดทุน 50% ต้องกำไร 100% ถึงจะเท่าทุน
ที่จะบอกคือ ดูให้ละเอียดครับ บางกอง เปิดมา 3ปี สถิติเพิ่งมาดีปีนี้ อ้าว แล้วสองปีที่แล้วเกิดไรขึ้น
หรือ KFSDIV 5 ปี ที่1 3ปี ที่2 พอมาปีนี้ อันดับตก เกิดไรขึ้น
กองแรก ต้นปี nav 10 ปันผล 5 nav ปลายปี 15
กองสอง ต้นปี nav 10 ปันผล 8 nav ปลายปี 12
siam chart ได้ตัวเลขเท่ากันครับ สองกองนี้
มันมีอะไรเล็กๆน้อยๆอีกเยอะครับ เช่น
กองทุนสองกอง ถ้าพูดแค่ปันผล บอกปันผลเท่ากัน ก็เหมือนจะไม่มีอะไร
แต่ระหว่างปันผล ต้นปี กับ ปลายปี ก็ต่างกันแล้วสำหรับคนที่เอาปันผลกลับมาซื้อหน่วยต่อ
ถ้าตลาดปกติ nav ต้นปี ต่ำกว่า ปลายปี เพราะทรัพสินกองทุนมากขึ้น
แปลว่า ถ้าปันผลต้นปี น่าจะซื่อหน่วยลงทุนได้มากกว่า ปันผลปลายปี
ถ้าอีกหนึ่งปีผ่านไป มีคนมาถามว่า สองกองนี้ กองไหนดีกว่า
ก็มีคนมาบอกว่า เหมือนกัน ปีที่แล้ว ปันผล (สมมติ) 2 บาทเท่ากัน เลือกเอากองที่มีบัญชีธนาคารตามสะดวกเลย
หรือ กองทุนสองกอง กองแรก ธรรมเนียมซื้อ 0 % ธรรมเนียมขาย 1%
กองสอง ธรรมเนียมซื้อ 0.5% ธรรมเนียมขาย 0.5%
เหมือนเท่ากัน ไม่มีอะไรใช่มั๊ยครับ ผิดครับ
กองแรก ทำให้เราสร้างเนื้อสร้างตัวได้ไวกว่า
สมมติ สองกองนี้ ผลงานเท่ากันทุกปี กองแรก ได้หนึ่งล้านแรกไวกว่ากองสอง
ละลองทำ exel ดูครับ สมมติ 20%ต่อปีเท่ากัน ลงทุนปีละแสน ผ่านไป 10ปี กองไหนเวลาขาย ได้เงินเยอะกว่า
มันมีศาสตร์และศิลป์อีกเยอะครับ ไหนจะดอกเบี้ยปันผล 10% อีก
กองทุนหุ้น ถ้าเล่นคู่กับกองทุนตราสารหนี้จะดีมากครับ หุ้นตกก็สับเข้าตราสารหนี้
เงินไม่หด แถมเพิ่มวันละนิดละหน่อย หุ้นเริ่มขึ้น ค่อยสับกลับ
และถ้าทำแบบนี้ ค่าธรรมเนียมซื้อขาย ยิ่งมีผลเลยครับ

ปล. ถ้าดูกราฟกองทุน ส่วนตัวผมดู ที่ morning star ครับ
ถ้าเทียบเวลาเดียวกัน เริ่มที่ 10 บาท เท่ากัน ตอนนี้กองไหนอยู่ที่ตรงไหน
http://www.morningstarthailand.com/th/funds/snapshot/snapshot.aspx?id=F000000ROP&tab=13
http://www.morningstarthailand.com/th/funds/snapshot/snapshot.aspx?id=F000002KS1&tab=13
http://www.morningstarthailand.com/th/funds/snapshot/snapshot.aspx?id=F000001AYG&tab=13
ง่ายๆ เส้นแดง คือ หุ้นทั้งกระดาน set ดัชนี ที่ใช้เป็นมาตราฐาน
เส้นฟ้า คือ กลุ่มหุ้นโดยเฉลี่ยตามน้ำหนักที่กองทุนเข้าไปจับ เช่น กลุ่มสื่อสาร กลุ่มพลังงาน กลุ่มธนาคาร ควรสูงกว่า เส้นแดง
เส้นน้ำเงิน ตัวหุ้นที่กองทุนเลือก ควรสูงกว่าเส้นฟ้า
จะสังเกตว่า เส้นฟ้า ของ KFSDIV เท่ากับ HI-DIV เป๊ะๆ
ทีนี้ลองไปดูที่ portfolio จะเห็นว่า sector และ % ใกล้เคียงกันเลย เลยทำให้เส้นฟ้าออกมาเท่าๆกัน
ทีนี้ก็กลับไปดูที่เส้นน้ำเงินใหม่ว่า ตลอดทั้งเส้น อยู่สูงหรือต่ำกว่าสีแดงสีฟ้ายังไงบ้าง ไม่ใช่มองแค่ต้นทางปลายทาง
และนี่ก็เป็นอีกเรื่องที่ morning star เอาไปให้เรตติ้งเป็นดาว
หรือจะดูเทียบปีต่อปีเลยก็ได้ บางกองเวลาแรง แรงจริง เวลาลบ ลบจริง ละก็กลับไปที่กฏ 100%/50% ใหม่
หรือถ้าจะคิดว่า ตอนแรง เกาะไป ตอนลบ ค่อยไปอยู่ตราสารหนี้
นั่นแปลว่ายิ่งลบนานและบ่อยเท่าไหร่คุณต้องอยู่กับ 2-3% ต่อปีของตราหนี้นานเท่านั้น

ปล อีกรอบ ขอขอบคุณทุกท่านที่อ่านมาจนจบ พอดีว่าผมไม่มีอะไรทำ เลยว่างโพส -*-
ผมอาจจะคิดผิด หรือเข้าใจผิดในหลายๆเรื่องก็ได้นะครับ เลยถือโอกาสขอโทษมา ณ ที่นี้ เลยนะครับ

จากคุณ : I-want-to-be-a-Filmmaker

เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 55 00:56:57

ความคิดเห็นที่ 13

คิดคร่าวๆ สมมติกองทุน A และ B 1000 หน่วย nav 10 มูลค่าก่อนปันผล = 10000 ค่าธรรมเนียมซื้อขาย 0.2/0.2
เอาปันผล
A ปันผล0.5 / 1000หน่วย=500 / ภาษี10%=450 / ซื้อเพิ่มที่nav9.5ค่าธรรมเนียม0.2%ที่9.519=47.2738หน่วย / มูลค่าปัจจุบัน1047.2738*ราคาขาย(9.5-0.2%=9.481)=9929.2029
B ปันผล1 / 1000หน่วย=1000 / ภาษี10%=900 / ซื้อเพิ่มที่nav9ค่าธรรมเนียม0.2%ที่9.018=99.8004หน่วย / มูลค่าปัจจุบัน1099.8004*ราคาขาย(9-0.2%=8.982)=9878.4072
ซื้อขายหรือสับกองทุนไม่เอาปันผล (ตราสารหนี้ไม่มีธรรมเนียมซื้อขาย)
A ปันผล0.5 / ขาย1000*(10-0.2%=9.98)=9980 / ซื้อ9980/(9.5+0.2%=9.519)=1048.4295หน่วย / มูลค่าปัจจุบัน1048.4295*ราคาขาย(9.5-0.2%=9.481)=9940.1601
B ปันผล1 / ขาย1000*(10-0.2%=9.98)=9980 / ซื้อ9980/(9+0.2%=9.018)=1106.6755หน่วย / มูลค่าปัจจุบัน1106.6755*ราคาขาย(9-0.2%=8.982)=9940.1593
หรือ C กองทุนไม่ปันผล มูลค่าปัจจุบัน 10000

1 ปีผ่านไป กองทุนทั้งสาม +20% nav A 9.5+20%=11.4 B 9+20%=10.8 C 10+20%=12
C = 1000*(12-0.2%=11.976) = 11976
เอาปันผล
A = 1047.2738*(11.4-0.2%=11.3772) = 11915.0435
B = 1099.8004*(10.8-0.2%=10.7784) = 11854.0886
ไม่เอาปันผล
A = 1048.4295*(11.4-0.2%=11.3772) = 11928.1921
B = 1106.6755*(10.8-0.2%=10.7784) = 11928.1912

ไม่มีปัจจัยอื่นมาเกี่ยวข้อง อุดมคติ ตัวเลขล้วนๆ
ว่าด้วยเรื่อง..
กองทุนปันผล vs กองทุนไม่ปันผล
กองทุนปันผล รอเอาปันผล vs ไม่รอเอาปันผล
กองทุนปันผล ปันผลออกมามาก VS ปันผลออกมาน้อย
เพราะฉะนั้นเรื่องอื่นจึงต้องทำให้เป็นค่าคงที่เท่ากัน เช่น nav เริ่มต้น 10 ค่าธรรมเนียม 0.2% 1ปีกำไร20%
ตามที่ท่านกองทุนหุ้นปันผลแนะนำให้เปรียบเทียบผลตอบแทนจากกองทุนประเภทเดียวกัน
แต่ผมเปรียบเทียบจากกองทุนกองเดียวกันเลยแหละ
ทุน 1หมื่น ต่างกันมากสุด 121.91 (ต่อปี) คิดเป็น 1.2191%
กองทุนที่เหมือนกัน สามารถทำกำไรได้เท่ากัน ต่างกันที่นโยบาลปันผล ปันผลมาก ปันผลน้อย รอเอาปันผล ซื้อขายหรือสับกองทุนไม่เอาปันผล ก็ได้ผลต่าง 1.2191% ทุกๆปี แล้ว
10ปี ก็12% 20ปี24% 30ปี36% 40ปีก็48%
กองทุนกองเดียวกัน แค่ถ้านโนบายปันผล+วิธีลงทุนต่างกัน
40ปี คนนึงมีเงิน 10ล้าน อีกคนมี 15ล้าน คนนึงมี 100ล้าน อีกคนมี 150 ล้าน

ผมเห็นท่านกองทุนหุ้นปันผลพูดแต่ ปันผลเยอะ nav ลงเยอะ ก็ซื้อจำนวนหน่วยได้เยอะ ท่านพูดแบบว่าไม่สนใจ nav เลย
เพราะว่าของจริง คือ ผลต่างระหว่างเงินลงทุนและมูลค่าในอนาคตของเงินก้อนนั้น
(navอนาคต*จำนวนหน่วยลงทุนในอนาคต)
A*B=C
15*10000=150000
19*8000 = 152000
หรือจะพูดเรื่อง cash flow สำหรับบางคนที่ต้องการใช้จ่ายบ้าง นั่นก็แปลว่า
ไม่ได้เอาเงินที่ปันผลกลับไปซื้ออย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย งั้นจำนวนที่จะซื้อตามแผนที่คำนวณไว้ก็ลดไปตามๆกัน
ปันผล เอาแค่พอใช้จ่ายก็พอ สำหรับคนที่ต้องการ cash flow เช่น ปัน 0.5 เราใช้พอ ก็ไม่ต้องไปเลือกกองทุนปันถล่มทลาย 1 บาท
หรือถ้า 0.5 ใช้ต่อปีไม่พอ เราก็คงต้องเลือกกองที่ปัน 1 บาท

ผมถึงบอกว่ามันมีอะไรกว่าที่คุยกันเยอะ
คนนึงถาม กองไหนดี?
คนนึงตอบ กองนี้ปันผลเยอะ
คนนึงตอบ กองนี้ปันผลบ่อย
คนนึงตอบ กองนี้สถิติ(แค่ปีล่าสุด)อยู่อันดับสูง
ผมถามกลับ จะเอาดีทางด้านไหนหล่ะ? ให้จขกท.ดูมันทุกเรื่อง คิดไปเรื่อยๆ และเลือกให้ดีๆ
จะสังเกตได้ว่าผม อธิบายซะยาว แต่มักจบด้วยการให้ จขกท ไปลองหาข้อมูลหรือศึกษาเพิ่มเติม
คิดซะว่าคนที่มาตอบแบบระบุกองทุนมาเลย คือ ร้านขายของ ขายจุดแข็งมาเลยครับ
ส่วนผมเป็นเพื่อน จขกท. อันนั้นไม่ดีอย่างงู้น อันนู้นไม่ดีอย่างงี้
สุดท้าย เมิงอยากซื้ออันไหนตัดสินใจเอง เงินเมิงหนิ -*-
อาจเป็นด้วยนิสัยที่ผมชอบเถียงด้วยเหตุผลหรือถกปัญหา
ถ้าผมอธิบายไป แล้วตอบกลับไม่ได้ แสดงว่าเหตุผลผมก็เข้าท่านะ
หรือถ้าเขาอธิบายมา ผมตอบกลับไม่ได้ แสดงว่า ที่เขาว่ามาก็มีส่วนถูกนะ อะไรประมาณนี้
ทั้งหลายทั้งปวง ผมถือว่าผมตอบจขกท.เป็นหลัก
ไม่ได้ต้องการเชียร์หรือแช่งกองไหนเป็นพิเศษ เตือนว่าควรดูเรื่องนี้เรื่องนี้เรื่องนั้นเรื่องนุ้นด้วยนะ เพื่อประโยชน์ของ จขกท.เอง
ปล. HI-DIV ดีครับ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะเหมาะกับทุกคน หรือตรงตามความต้องการจนเป็นคำตอบสุดท้ายเพียงกองทุนเดียว

จากคุณ : I-want-to-be-a-Filmmaker

เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 55 04:07:37