PANTIP.COM : I12488269 ถ้าจะลงทุนในกองทุนหุ้นที่เน้นปันผลจริงๆๆ ตัวไหนดีครับ hi-div หรือ บัวแก้วปันผล อ่ะครับ [หุ้น]

ความคิดเห็นที่ 5

กองทุนหุ้นปันผล อันดับ 1 (ยามเกษียญ ย้ำ ยามเกษียญ) ผมเล็งไว้ที่ Bcap ครับ
ปันผล 95% ของกำไร ในแต่ละรอบ เท่า BKD แต่ BKD ปันผลปี ละ 2 ครั้ง แต่ Bcap ปีละ 4 ครั้ง (95% เหมาะสำหรับ ตอนเกษียญที่ไม่มีรายได้จากงานประจำ ถ้ายังไม่เกษียญ ต้องเสีย ภาษี 10% บานเบอะครับ ยิ่งปันเยอะยิ่งเสียภาษีเยอะ)
อย่างที่ตอนนี้ BKD ปัน 0.97 จาก nav 5.2 เท่ากับ แค่ครึ่งปีแรก ก้ปันไปประมาณ 18กว่า % แล้ว ยังเหลืออีก ครึ่งปีหลัง
Bcap ราคาซื้อ 0% เท่า nav ครับ เหมาะสำหรับ คนที่กะถือยาวตลอดชีวิต ไม่ขาย (ถ้าไม่คิดขาย รอใช้ปันผลอย่างเดียว ราคาขายจึงไม่เป็นผล) BKD ก็ 0% ครับ Hi-div ตอนนี้ก็ 0% แต่เด๋วจะเปลี่ยนกลับเป็น 0.25% แล้วครับ ส่วนKFSDIV 0.2%
ถ้าราคาขาย BKD+Bcap 1% ครับ ไม่เหมาะกับซื้อๆขายๆ Hi-div ตอนนี้ 0% เด๋วจะเปลี่ยนกลับเป็น 0.25% แล้วครับ KFSDIV 0.2%
ค่าธรรมเนียมการจัดการรวมปีที่ผ่านมา Bcap 1.34% BKD 1.83% Hi-div 2.22 kfsdiv 2.17
แต่ถ้าดูจาก siamchart จะแปลกๆนะครับ เพราะดูเหมือนตกเอาๆ คิดกันให้ดีๆนะครับ ว่าเพราะอะไร ยิ่งปันผลมาก ยิ่งกลับไปซื้อมาก ยิ่งมีจำนวนหน่วยมาก ยิ่งมีตัวหารมาก ผลต่างใน siamchart ยิ่งน้อยลงครับ nav+ปัลผล อาจทำให้ไม่ได้ผลตอบแทนที่แท้จริง ถ้าไมได้เอามา คูณ ด้วย จำนวนหน่วย นะครับ อาจทำให้ตัดสินใจผิดพลาดได้
และ เหมือนที่หลายๆคน คิดว่า เซียนหุ้น ที่ซื้อหุ้น ตอน 2540 กับ 2551 มีหลายคน เพราะว่า ได้ซื้อหุ้นถูก กองทุนที่เปิดมานาน บางกองทุน ก็มี หุ้นของบางบริษัทในราคาถูก ไว้ในมือนะครับ

ปล. ในกระทู้นี้ มีพูดถึงแค่ BKD Hi-div Kgsdiv งั้นผมจะขอไม่พูดถึงกองทุนอื่นนะครับ แต่พอดีว่า Bcap เหมือนเป็นกองทุนพี่น้องกับ BKD เลยขอพูดสักหน่อย

ส่วนอีกวิธีที่ผมสนใจคือ กองทุนหุ้นอะไรยังไงก็ได้ ที่ทำให้ได้ผลตอบแทนมากที่สุด ณ ตอนที่ผมจะเกษียญ แล้วจึงนำไปซื้อ กองทุนหุ้นปันผล ตอนที่เกษียญ คิดว่าคงไม่จำเป็นที่จะต้องซื้อกองทุนที่ปันผลตั้งแต่แรก เพราะผมคิดว่า การ re-investment จากเงินปันผล ของกองทุน ไม่เหมือนหุ้น เพราะถ้าเป็นหุ้น ปันผลมาลงทุนเพิ่ม จะเป็นการลดต้นทุนเฉลี่ย เนื่องจาก พอร์ตหุ้น กับ เงินปันผล แยกส่วนกัน แต่กองทุนปันผล จะเจียดเงินจากกองทุนมาเพื่อปันผล ทำให้ เงินถึงเราจริง แต่ทรัพย์สินที่อยู่ในกองทุนของเราก็ลดลงไปตาม แล้วเรากลับไปซื้อใหม่ ก็เหมือนได้เท่าเดิม แต่ในแง่ความรุ้สึกจะเหมือนว่า หน่วยมากขึ้น ทั้งๆที่ nav ลดลง

ปล2 ในแต่ละกองทุนจะเหมาะสมกับแต่ละคน และแต่ละช่วงเวลาแตกต่างกันไป ช่วงวิกฤต กองทุนหุ้นไหนๆ ก็แพ้กองทุนตลาดเงินกับตราสารหนี้ ช่วงฟื้นตัว set ขึ้นแรงมาก กองทุน passive อิงset จะขึ้นสูงกว่า กองทุนหุ้น active ปกติ ส่วนตลาดผันผวน กองทุนหุ้นปกติ จะได้ผลตอบแทนดีกว่า กองทุน passive เพราะฉะนั้น คุณไม่จำเป็นที่จะต้องถือกองทุนเดียวตลอดเวลา

ปล3 ช่วงเวลาที่จะเกษียญตัวเอง แต่ละคนก็ไม่เท่ากัน แล้วแต่จะตั้งเป้าหมายอ่ะครับ 30 35 40 45 50 หรือ 55 60 ตามปกติ ก็ว่าไป

ปล4 มีคนเคยเปรียบเปรยไว้ว่า กองทุนอันดับ 1 2 3 ในแต่ละปี จะเปลี่ยนชื่อกันไปเรื่อยๆ แต่กองทุนอันดับ 4 5 6 จะชื่อเดิมๆ

สรุปคือ ผมฟันธงไม่ได้ที่จะบอกว่า กองไหนดีที่สุด ในตลอดเวลาที่ถ้าจะถือยาว 10ปี+ 20ปี+ หรือตลอดชีวิต แต่ถ้าขี้เกียดและอยากฟันธงถือแค่กองทุนเดียวยาวๆๆๆๆ ผมคิดว่าคงต้องเป็นกองทุนอันดับ 4 5 6 แหละมั้งครับ แต่ถ้าขยันหน่อย มองภาพรวมคร่าวๆ กว้างๆ คุณอาจถือกองทุน อันดับ 1 2 3 ได้ในทุกๆปี ถ้าไม่อยากทำการบ้านเลย ก็ 4 5 6 ครับ ถ้าพอมีเวลาทำการบ้านสักหน่อย ก็หาว่า กองไหนจะเป็น 1 2 3 ในปีนั้นๆ อย่างน้อยกองทุนรวมก็น่าจะไม่ต้องใช้เวลามากเหมือน ดูหุ้นรายตัว ฟังข่าวดีข่าวร้าย หาเวลาซื้อหุ้นถูก หาเวลาขายก่อนหุ้นตก หรือตัดสินใจ cut lost ตอนเริ่มขาดทุน

จากคุณ : I-want-to-be-a-Filmmaker

เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 55 18:04:59