ความคิดเห็นที่ 1 ยินดีต้อนรับเม่ามือใหม่ครับ เข้ามาเป็นเหยื่อตลาดอีกราย ฮิฮิ จากคุณ : ผมก็เม่าตัวอ่อน (Shinosuke08) เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 55 09:34:59

ความคิดเห็นที่ 2 อายุแค่นี้เริ่มลงทุน  ไม่เยอะหรอกค่ะ  ของเราเริ่ม 47  ช้ากว่าคุณมากนัก เรามองว่าทำงานไปเถอะ  ได้พัฒนาสมอง พัฒนาความสัมพันธ์กับผู้คน  ได้ทำประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติด้วย ส่วนการลงทุนเป็นส่วนหนึ่ง ซึ่งทำให้อนาคตสะดวกสบายมากขึ้น  อาจทำกิจกรรมเพื่อสังคมได้มากขึ้น อย่าไปเคร่งเครียดกับการลงทุนมาก  แต่ขอให้มีวินัย  คือเก็บจริง  ออมจริง  ศึกษาจริง โชคดีในการลงทุนนะคะ จากคุณ : ต๊อตโตะจัง เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 55 09:37:00

ความคิดเห็นที่ 3 ไม่สายค่ะไม่สาย...เพิ่งเริ่มเหมือนกันอายุเท่าๆกัน มัวไปหลงอยู่ในห้องเครื่องแป้งมาเป็นสิบปี....เสียทั้งเวลาเสียทั้งเงิน 555 ^ ^ จากคุณ : ดาวโรย เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 55 09:44:24

ความคิดเห็นที่ 4 ยังไงก็ต้องมีเริ่มต้น ถึงจะอายุมากกว่านี้ก็ต้องเริ่มครับ สำหรับตัวผมถ้าตัวคนเดียว ก็นับว่าได้แล้ว แต่ยังมีลูกที่ยังเล็กอยู่ มันปริ่มๆ เกินไป จากคุณ : huamei เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 55 09:52:01

ความคิดเห็นที่ 5 ผมหลงอยู่ในห้องสินธรมา6-7ปี เสียเวลามากมาย เลยตอนนี้ไปแอบดูสาวๆคุยกันในโต๊ะเครื่องแป้ง สบายใจกว่าเยอะ 555 จากคุณ : thepthaiza เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 55 10:02:11

ความคิดเห็นที่ 6 ดีใจด้วยครับที่ค้นพบตัวเอง ไม่มีคำว่าสาย......ถ้าเริ่มต้น จากคุณ : mr.taty เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 55 10:04:38

ความคิดเห็นที่ 7 *** ผมก็เม่าตัวอ่อน (Shinosuke08) *** ต๊อตโตะจัง ขอบคุณสำหรับคำแนะนำค่ะ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ *** ดาวโรย ว้าววว..เหมียนกัลเลย!! เราเข้ามาพันทิปครั้งแรก เมื่อ 6 เดือนก่อน ก็เริ่มต้นที่ห้องเครื่องแป้ง หลังจากที่เสียเงิน..ช็อปกระจายไปแล้วก็ผันตัวเองออกมาอยู่ที่ห้องสวนลุมพินี หาข้อมูลออกกำลังกาย ดูแลสุขภาพ จนได้ไปเข้าคอร์สโยคะ และทุกวันนี้หลังเลิกงานต้องไปฟิตเนสแถวที่ทำงาน(ราคาถูกเพราะออกแนวบริการสังคม) ฝึกการออกกำลังกายโดยทำทุกวันให้เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันไปแล้ว และก็ผลัดหลงเข้ามาที่ห้องสินธรนี้ ทุกวันนี้เข้าขั้นเสพติด ต้องคอยเข้ามาหา/เช็คข้อมูลทุกวันเลยค่ะ ...ก็นะ เป็นมนุษย์เงินเดือนที่บ้าพลัง หาโน่นทำนี่ตลอด อย่างตอนนี้ก็ไปลงคอร์สเรียนเพิ่มเติมภาษาอีกอ่ะ จากคุณ : kyoto in love เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 55 10:05:09

ความคิดเห็นที่ 8 ณ เวลานี้ อายุ 25 (ยังไม่มีเมียมีลูก)  ผมมีอิสรภาพทางการเงินแล้ว รายได้ทั้งหมดมาจากส่วนต่างราคาหุ้นไม่ใช่ปันผล  เฉลี่ยเดือนละหลักแสนบาทมาหลายปีแล้ว แต่กว่าจะมาถึงขั้นนี้ก็ใช้เวลาลองผิดลองถูกขาดทุนอยู่ 2 ปีเลยครับ กว่าจะเริ่มทำกำไรได้มั่นคง จากคุณ : sukineko เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 55 10:06:37

ความคิดเห็นที่ 9 ไม่สายค่ะ อายุกำลังดีเลยค่ะ ไม่เร็วไม่ช้าเกินไป จากคุณ : xemmy เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 55 10:07:06

ความคิดเห็นที่ 10 ถ้าลงทุนไม่มีคำว่าเม่านะครับ เพราะเม่าใช้ได้กับพวกเล่นหุ้น ไม่ใช่ลงทุนในหุ้น ห้องแป้งนี่เป็นห้องที่ผมเกลียดที่สุดในพันทิปเลยครับ เพราะทำงานหาเงินลงทุน วางแผนไว้อย่างดี แต่เมื่อไหรแฟนผมเข้าห้องแปง หรือ ดูคุณโมเม นั้นหมาวความว่า เตรียม"ตังค์"ไว้เลยโดนแน่ จากคุณ : Nioka เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 55 10:10:56

ความคิดเห็นที่ 11 เริ่มช้า ดีกว่าไม่เริ่มครับ พี่     ปล.ตอนนี้ น้องยังต้องทำงานประจำ อยู่เลย เนื่องจาก ธุรกิจที่ไปทำเอง เจ๊ง    จากคุณ : มารหุ้นแสวงพ่าย เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 55 10:11:59

ความคิดเห็นที่ 12 ไม่สายหรอกค่ะ เริ่มเร็วกว่าเราอีก ขอให้โชคดีในการลงทุนค่ะ จากคุณ : Hana* เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 55 10:14:41

ความคิดเห็นที่ 13 มีอิสรภาพทางการเงินไหม มันก็มีนะ แต่มันไม่แน่นอน ตราบใดที่ตลาดหุ้นยังไปได้สวย ก็ดี แต่เมื่อไรตลาดหุ้นล่ม มันก็เจ๊งครือกัน จากคุณ : *Cookies* เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 55 10:23:28

ความคิดเห็นที่ 14 ไม่ได้ทำงานประจำมาเกือบ 4 ปีแล้ว ไม่ได้เบื่องานไม่อยากทำแต่อย่างใด  แต่ถูกเลิกจ้าง เลยจำเป็นต้องเอาเงินที่สะสมมาจากการทำงานสิบกว่าปีมาลงทุนเพื่อให้มีรายได้ใช้จ่ายในแต่ละปี แต่เนื่องจากเป็นคนที่ไม่อยากมีกิจการของตัวเอง ไม่อยากมีลูกจ้าง ไม่อยากคิดแผนธุรกิจ หรือทำอะไรที่จะให้เครียด เลยมาสรุปอยู่ที่ลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ รายได้หลักอยู่ที่ปันผลหุ้น ปีแรก  ๆ  มีกองทุน  หุ้นกู้บ้าง  แต่ปีนี้จะเน้นหุ้นส่วนใหญ่ เพราะกองทุน หุ้นกู้ไม่ได้เครดิตภาษี จากคุณ : ฉลาดหน้าตาดีมีเงินใช้ เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 55 10:23:33

ความคิดเห็นที่ 15 เห็นถามถึงผุ้ที่เป็นอิสระทางการเงินแล้ว เลยเข้ามาตอบสักหน่อย ก่อนอื่น ยินดีต้อนรับสู่โลกของการลงทุนครับ อายุขนาดไหนข้าไปหรือไม่ บอกไม่ได้ครับ เพราะว่าต่างคนต่างสภาพการณ์กัน ขึ้นกับว่ามีรายได้ (จากการทำงาน จากธุรกิจ เพื่อจะนำมาลงทุนเท่าไร, มีภาระ ค่าใช้จ่ายเท่าไร เป็นต้น) ส่วนจะเป็นเม่าหรือไม่เป็น เราเลือกได้ครับ หาความแตกต่างระหว่างการเป็น แมลงเม่า กับการเป็นนักลงทุนที่ดี ที่ชาญฉลาด ให้ออก แล้วทำตามนั้นด้วยความ มั่นคงและเข้าใจ ใครเขาจะเป็นแมลงเม่าก็เป็นไป ส่วนเราก็ลงทุนของเราไป ไม่ต้องสนใจใครทั้งนั้นครับ ท้ายสุด ผมให้คาถาสามข้อคือ 1. การลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดอย่างหนึ่งก็คือการลงทุนในตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นสุขภาพ ครอบครัว สังคม ความรู้ ความชำนาญ เพราะสิ่งเหล่านี้ จะอยู่ติดตัวเรา ไม่หนีหายไปไหน ถ้าเรามีความรู้ความชำนาญที่ดี ไม่ว่าเรา จะล้มลุกคลุกตลานอย่างไร เราก็จะสามารถลุกขึ้นมาได้ (ถ้าไม่ยอมแพ้ไป เสียก่อน) และที่สำคัญที่สุด สุดท้ายแล้ว การที่เรามีเงินมาก เราย่อมไม่ต้อง การที่จะแลกเงินเหล่านั้นกับความสุขเบื้องต้นของมนุษย์เหล่านี้ จริงไหมครับ 2. อย่าหวังรวยเร็ว และง่าย ในเวลาเดียวกัน การลงทุนนั้นง่ายที่จะประสบความสำเร็จ แต่ต้องใช้เวลาหน่อย ให้มันเงยงอก ออกดอกออกผล จะเอารวยพรุ่งนี้คงไม่ได้ เพราะถ้าอยากรวยเร็วคงต้องไปทำ อย่างอื่น เช่นทำธุรกิจ เป็นต้น (แต่ก็ไม่ง่ายเท่าการลงทุน) 3. อย่าโลภเกินความรู้ความสามารถของตัวเอง เรื่องนี้อธิบายไม่ยาก ถ้าเปรียบไปก็เหมือนกับการดำเนินชีวิตปกติ อะไรก็ตาม ที่เราไม่รู้ย่อมมีความเสี่ยงปนเปผสมอยู่ เช่น เรารับประทานอาหารที่เราไม่เคย รับประทาน เราก็อาจจะแพ้ ปวดท้องได้ หรือเดินทางไปในที่ๆ ไม่เคยไป ก็อาจ หลงทางได้ และหากเราลงทุนเรื่องการเงินในสิ่งที่เราไม่ชำนาญ ไม่รู้ ก็ย่อมมี ความเสี่ยงที่เกิดขึ้นเช่นกัน ดังนั้นในการเริ่มแรก ขอให้ค่อยๆ ลงทุน การขาดทุน เป็นครูที่จะสอนเราได้ และลงทุนในครั้งแรกเท่ากับสิ่งที่เราสามารถเสียมันไปได้ จากนั้นเมื่อมีความชำนาญในทางใดทางหนึ่ง (หุ้นกู้, กองทุน, หุ้นสามัญในบริษัท เฉพาะบางบริษัท, หุ้นทุนในธุรกิจนอกตลาด, หรือแม้แต่แนวทางการลงทุน/เก็ง กำไร ไม่ว่าจะเป็นแนวมูลค่า หรือแนวเทคนิค ก็ตาม) จึงค่อยลงทุนในแบบที่ ตัวเองถนัดได้มากขึ้น ทั้งหมดทั้งปวงก็คือเรื่องของการประเมินความเสี่ยงและ ความน่าจะเป็นที่จะเกิดขึ้นได้ สุดท้ายและท้ายสุด เมื่อเป็นอิสระทางการเงินแล้ว ขอให้เป็นคนเก่ง และเป็นคนดี คือช่วยเหลือผู้อื่น อย่าเอาเปรียบคนที่เก่งน้อยกว่าเรา ไม่เบียดเบียนใคร หมั่นทำ บุญสุนทาน ทำงานเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มอื่นๆ เพื่อฝึกสมองและทำประโยชน์ให้กับ ประเทศชาติยิ่งๆ ขึ้นไป ใช้ชีวิตให้คุ้มค่าและมีประโยชน์ที่ได้เกิดมาครับ ขอให้ประสบความสำเร็จในการลงทุนนะครับ จากคุณ : มือเก่าหัดขับ เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 55 10:24:12

ความคิดเห็นที่ 16 *** คุณมือเก่าหัดขับ ขอบคุณสำหรับคาถา 3 ข้อค่ะ ข้อแรกผ่านฉลุย เพราะที่ผ่านมาเน้นเรื่องนี้ตลอด ลงทุนในตัวเองมาตลอด ข้อสองและข้อสาม จะเป็นเรื่องของเวลาและประสบการณ์ค่ะ ขอบคุณมากๆๆๆๆ นะคะ （●＾o＾●） จากคุณ : kyoto in love เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 55 10:33:11

ความคิดเห็นที่ 17 ก้าวแรกสำคัญที่สุด เมื่อก้าวแรกสำเร็จแล้ว ก้าวต่อไปจะเดินช้า เดินเร็ว หรือก้าวกระโดด เกิดขค้นได้ทั้งนั้น อยู่ที่เรากำหนด เราสร้าง สู้ ๆ อายุไม่เกี่ยว จากคุณ : ไอไอ เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 55 10:38:50

ความคิดเห็นที่ 18 ููู^ ^ ^ สุดยอดเลยค่ะ ขอบคุณ คุณมือเก่าหัดขับ มากค่ะ เรียน จขกท.  เราเริ่มช้ากว่าหลายปี คือ 39  ปี  ตอนนี้ เกือบครบปีแล้ว แต่ก่อนหน้า ก้อ ศึกษาบ้าง  เล็งแล้วเล็งอีกก่อนจะเข้ามา .. ผลงานค่อนข้างแย่  ค่ะ  สงสัยจะไม่เกิน 6 %  กำไรอะนะ   ก้อจะพยายาม สู้กะกิเลส  อะนะ  ไปด้วยกันสิคะ จากคุณ : Steady finance เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 55 10:40:45

ความคิดเห็นที่ 19 ลองดูพวกกองทุนก็ดีนะคะ เท่าที่ลองผิดลองถูกมาเกือบสองเดือน กองทุนให้ผลตอบแทนเรามากกว่าหุ้นค่ะ เราแบ่งไปเล่นกองทุนส่วนหนึ่งหุ้นส่วนหนึ่ง หุ้นเราคงต้องหาประสบการณ์อีกเยอะค่ะ....ยังไปแบบไม่มีแนวทางอะไรเลย ให้คนที่มีประสบการณ์เค้าเล่นแทนไปก่อนก็ดีค่ะ จากคุณ : ดาวโรย เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 55 10:43:18

ความคิดเห็นที่ 20 ยินดีด้วยครับที่จะมาเดินทางสายนี้ คำว่า อิสรภาพทางการเงิน มีไม่กี่กลุ่มที่ใช้กัน บ่งบอกลักษณะของความพอเพียง พอใจ พอดี ของตัวเอง ซึ่งแต่ละคนมีไม่เท่ากัน ผมยังไม่เคยได้ยินคำนี้กับคนทำธุรกิจ พ่อค้า เห็นมีเพียงแต่นักลงทุนและธุรกิจขายตรงซึ่งใช้คำนี้สร้างภาพเพื่อชักจูงคนให้เข้ามาว่าวันหนึ่งจะร่ำรวย จากคุณ : Benny T เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 55 10:44:46

ความคิดเห็นที่ 21 กระทู้นี้อบอุ่นดีจังเลยนะคะ  ดีใจที่ได้พบเพื่อนร่วมอุดมการณ์นะคะ จากคุณ : ต๊อตโตะจัง เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 55 11:04:27

ความคิดเห็นที่ 22 ปกติทำงานประจำอยู่  มีเวลาและสนุกกับการลงทุน ถือว่าลงทุนเพื่อหาค่าขนม ค่าโอที  ยังไม่หวังร่ำรวยมากนัก ยังเม่าๆเช่นกัน  ฮิ จากคุณ : THE FINAL 2 เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 55 11:11:20

ความคิดเห็นที่ 23 ด้วยความยินดีครับ ผมคิดว่า เวลาคนเราทำงานเหนื่อย สักวันหนึ่งเราควรจะเป็นอิสระทางการเงินกันทุกๆ คน เพื่อที่อย่างน้อย เราจะได้ไม่เป็นภาระของผุ้อื่น แต่การเป็นอิสระทางการเงินแล้ว ไม่ได้จะ หมายความว่าเราจะงอมืองอเท้า แต่หากยังมีกำลัง มีความสามารถ เราก็ควรจะทำงานเพื่อ สร้างมูลค่าเพิ่ม สร้างคุณค่าให้กับสังคมต่อไป (ตัวผมเอง ลาออกจากงานมาร่วมทุนกับ เพื่อนเปิดบริษัทเล็กๆ มีลูกน้องสิบกว่าคน ทุกๆ เดือนบริษัทต้องจ่ายส่วนต่างภาษีมูลค่าเพิ่ม, ลูกน้องมีรายได้ ก็ต้องจ่ายภาษี, บริษัทเองมีกำไร ก็จ่ายภาษีอีก เป็นการสร้างมูลค่าเพิ่ม ในอีกรูปแบบหนึ่ง เมื่อเรายังมีกำลัง ยังมีแรง เราก็ควรจะทำงาน ไม่อย่างนั้นคงต้องสมอง ฝ่อเป็นแน่เลย จริงไหมครับ) ซึ่งเรื่องงานนี้เป็นเรื่องสำคัญ การที่เราทำงาน เรายังคงทำธุรกิจ หรือยังทำการค้า หรือทำ อย่างอื่นใดก็ตาม มันเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับตัวเรา ให้กับสังคม และโดยเฉพาะอย่าง ยิ่งสำหรับเพื่อนๆ ที่มีครอบครัว ที่มีลูก ถ้าลุกๆ ท่านเห็นท่านไม่ทำอะไร (คือ ซื้อ/ขายหุ้น เอาแต่ทำกำไรไปในแต่ละวัน หรือลอยไป ลอยมา) ต้องระวังให้มาก ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นว่า ลูกท่านเห็นว่าท่านไม่ทำอะไร เมื่อโตขึ้นมาเขาก็จะ "ไม่ทำอะไร" (ในความเข้าใจของเขา) ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่น่าจะให้เกิดขึ้น คนเราเกิดมา นอกจากมีหน้าที่กับตัวเองแล้ว ยังมีหน้าที่กับคนรอบข้าง และมีหน้าที่กับสังคม ต้องตอบแทนสังคมด้วยครับ (สำหรับผม ตอนนี้อยู่ รพ. พาคุณแม่มาตรวจสุขภาพ ก็เป็น อีกหน้าที่หนึ่งที่รู้สึกสนุกในการทำครับ) ขอให้ประสบความสำเร็จทุกๆ ท่านนะครับ จากคุณ : มือเก่าหัดขับ เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 55 11:13:03

ความคิดเห็นที่ 24 เชื่อคุณ มือเก่าฯ แล้วจะรู่งเอง จากคุณ : หมึกสด เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 55 11:21:35

ความคิดเห็นที่ 25 มาแจมครับ..... เท่าที่อ่านหนังสือมา เทคนิคที่สำคัญที่สุดของนักลงทุนระดับโลก ก็คือความเรียบง่ายนั่นเอง ผมว่าเหมือนการขับรถถ้าเราแตะเบรคบ่อย ก็ต้องเร่งคันเร่งบ่อย รถก็จะสึกหรอมากขึ้น ต่างกับการขับรถด้วยความเร็วคงที่อย่างต่อเนื่อง แตะเบรคเมื่อจำเป็น รถก็ย่อมสึกหรอน้อยกว่า เหมือนการลงทุน ถ้าลงทุนแบบ ผลุบเข้า ผลุบออก ชื่นใจเป็นรอบๆ หรือไม่ ก็เศร้าใจเป็นรอบๆ ระยะยาวคิดว่าไม่คุ้มค่ากับเวลาที่เสียไป การขายทำกำไรมีรายได้ทุกเดือนอย่างมากมาย ไม่ได้บ่งบอกว่ามีอิสระภาพทางการเงิน เพราะขายเสร็จก็ต้องหาทางเข้า วนเวียนเข้าออกไปเรื่อยๆ (วัฎจักรเม่า)  หยุดไม่ได้ ประเด็น คือ จะเป็นแบบนี้ยันเกษียรณได้หรือไม่ จากคุณ : กองทุนหุ้นปันผล เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 55 11:31:03

ความคิดเห็นที่ 26 เป็นนักลงทุนไม่จำเป็นต้องหุ้นเสมอไปครับมีหลายอย่างครับบางคนลงทุนในหุ้นแล้วอาจจะไม่ประสบผลตามที่คาดหวังก็มีแยะมากมายครับ หันไปลงทุนด้านอื่นได้เป็นทวีคุณ แต่ถ้าชอบด้านนี้ควรหาความรู้ก่อนเลยครับ  อายุไม่สำคัญครับดูอยากคุณปู่ไก่ KFC ประสำผลสำเร็จตอนอายุมากแล้ว อยู่ที่การสะสมพลังเงิน, ใจ, ความรู้ ...  บางคนเป็น Vi, Vs แล้วแต่จะถนัดแต่ละคนไม่เหมือนกันครับ > ทุกคนมีเป้าหมายเดียวกัน "ตามหัวข้อที่ท่านตั้งมา" "โจทย์สำคัญ รักษาเงินต้น มีเงินต้องลงทุน ขอให้ รวย รวย รวย ครับ" จากคุณ : ธนบดี เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 55 11:44:42

ความคิดเห็นที่ 27 ขออนุญาต อ้างอิงและขอโทษความเห็น 8 นะครับ ผมว่าแบบที่ว่ามาถือว่าเก่งครับ แต่ยังไม่นับว่ามีอิสรภาพทางการเงินโดยแท้จริงครับ ไม่ได้อะไรครับ เกรงว่า จขกท กำลังไฟแรงและอยากกก เข้าสู่ภาวะแบบนี้ อายุยังเท่าๆผม ผมว่าทำงานประจำไปก่อนดีกว่าครับ จากคุณ : เจ (jaotee) เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 55 11:58:32

ความคิดเห็นที่ 28 ชอบข้อความของคุณมือเก่าหัดขับมากๆเลยครับ ผมเห็นด้วยอย่างยิ่งเรื่องควรทำงานต่อเนื่องครับ การลงทุนหุ้นไม่ได้ใช้เวลามากมายขนาดนั้นทำไมต้องออกจากงานที่ทำ  ซึ่งทำให้เราขาดรายได้โดยไม่จำเป็น หากไม่ชอบสถานที่ทำงานก็เปลียนที่ทำงานซะ หรือออกมาทำส่วนตัวแบบคุณมือเก่าฯ อย่าลืมว่าอายุงานของคนทำงานที่มีประสบการณ์นั้นเป็นมูลค่าเพิ่มที่มีค่าสูงมาก (ขึ้นอยู่กับสายอาชีพและตัวบุคคลด้วย) ยิ่งมีประสบการณ์มากเงินเดือนก็ยิ่งมากตำแหน่งก็สูงตามมา งานจะเครียดมากน้อยอยู่ที่การบริหารจัดการมากกว่า คำว่าอิสระภาพทางการเงินผมว่าส่วนมากพูดเอาเก๋มากกว่า จะมีกี่คนที่ทำได้??? หากไม่มีพื้นฐานที่ดีอยู่แล้วรองรับ ผมเองทุกวันนี้ทำทั้ง 3 อย่างพร้อมกันคือ ทำงานประจำ ทำงานธุระกิจส่วนตัว ลงทุนในหุ้น บอกแบบไม่โม้ว่าทั้ง 3 อย่างที่ทำ หากผมแค่ทำอย่างใดอย่างหนึ่งผมก็มีรายได้เพียงพอไม่เดือดร้อน แต่ผมก็ทำทั้ง 3 พร้อมกัน ผมยังไม่คิดว่าจะออกมาอยู่เฉยๆแล้วบอกว่าผมมีอิสระภาพทางการเงินเลยครับ แต่ผมจะออกมาอยู่เฉยๆลงทุนหุ้นอย่างเดียวอีกไม่นานนักเพราะอายุที่มากแล้ว (เกษียน)ไม่ใช่ไม่อยากทำงาน จากคุณ : ฒ-อ่อนแอ เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 55 12:18:31

ความคิดเห็นที่ 29 ไม่ได้ทำงานประจำ รับงานเป็น project อ่านหนังสือเกี่ยวกับการลงทุน (หุ้น) และเข้ามาศึกษาข้อมูลในสินธรได้ความรู้มากมายค่ะ ตอนนี้กำลังฝึกดูกราฟ  อาจจะต้องขอความรู้จากท่านผู้รู้หลายๆท่านช่วยสอน   ขอบพระคุณล่วงหน้าค่ะ จากคุณ : JAZZY_G เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 55 12:50:41

ความคิดเห็นที่ 30 ชอบคำแนะนำของคุณมือเก่าหัดขับค่ะ  คำแนะนำของคุณฒ-อ่อนแอ บางทีเราเบื่องานไม่สามารถจะเปลี่ยนได้ (โดยเฉพาะข้าราชการ) ทำให้อยากมีอิสระภาพทางการเงินเร็ว ๆ ค่ะ               และขอเป็นกำลังใจให้คุณ kyoto in love  ค่ะ แค่เริ่มก็ชนะแล้ว ไม่ว่าอายุจะเท่าไหร่ สำคัญที่ใจค่ะ จากคุณ : พู่เจริญ เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 55 12:56:43

ความคิดเห็นที่ 31 ชอบความคิดเห็นของคุณ  มือเก่าหัดขับ และคุณ ฒ-อ่อนแอ มากๆ เลยค่ะ ไม่ผิดหวังเลยที่เข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ของห้องนี้ อ่านความคิดเห็นของคุณๆ แล้ว ทำให้เกิดมุมมองใหม่ๆ ขึ้นมากมาย มองอะไรได้หลากหลายขึ้น ขอบพระคุณค่ะ （●＾o＾●） จากคุณ : kyoto in love เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 55 13:03:13

ความคิดเห็นที่ 32 ชอบกระทู้นี้จัง ได้ข้อคิดดีๆ..อบอุ่นเหมือนได้พูดคุยกับญาติผู้ใหญ่ในครอบครัว. จากคุณ : เมฆสี เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 55 13:59:04

ความคิดเห็นที่ 33 ขอบคุณ คุณมือเก่าและสมาชิกทุกท่านครับ สังคมแห่งการแบ่งปันและมุมมองที่หลากหลาย ครับ จากคุณ : THE FINAL 2 เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 55 14:15:26

ความคิดเห็นที่ 34 เป็นอีกกระทู้ ที่รู้สึกถึงความ "ขลัง" ^0^ ... จากคุณ : เก็งกำไรไปวันๆ เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 55 14:23:47

ความคิดเห็นที่ 35 คห.27 jaotee ไม่ว่ากันครับ เพราะว่าคำว่าอิสรภาพทางการเงิน ของแต่ละคนย่อมต่างกันออกไป อย่างที่ผมออกตัวไว้แล้วว่า ยังไม่มีเมียยังไม่มีลูก เงื่อนไขนี้...ผมมีอิสรภาพทางกานเงินแล้วครับ (ถอนเงินออกจากพอร์ตหุ้นทั้งหมด เอามาฝากเฉพาะดอกก็ยังพออยู่พอกิน..อันนี้คือนิยามอิสรภาพของผมครับ) แต่เมื่อมีเมียมีลูก รายจ่ายผมย่อมมากขึ้น อิสรภาพทางการเงินอาจลดลงไปได้ ส่วนงานเงินเดือน ผมไม่เคยทำครับ เพราะที่บ้านมีธุรกิจอยู่แล้ว ก่อนหน้าจะมาลงทุนเต็มตัว ผมก็ช่วยที่บ้านทำธุรกิจไปด้วย ลงทุนไปด้วย "ทำงานประจำไปก่อนดีกว่าครับ"...ผมไม่คิดว่างานประจำมันดีกว่าครับ ถ้าเรามีหนทางที่ดีกว่านั้น(ทำธุรกิจ/ลงทุน) ขอพูดตามตรง อาจมีคนโกธรผมบ้างก็ได้ คือ งานเงินเดือนมันจำกัดความฝันและความตั้งใจของเราไว้ คือ ขยันให้ตายเก่งแค่ไหน มันก็ถูกจำกัดไว้ด้วยเงินเดือนที่คงที่ ไม่ได้ผันแปรไปตามความขยันของเรา มีเฉพาะ การทำธุรกิจ และ การลงทุน ที่ความขยันและความตั้งใจของเรา ส่งผลต่อตัวเราได้อย่างแท้จริง จากคุณ : sukineko เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 55 14:49:22

ความคิดเห็นที่ 36 เจอเหตุการณ์แบบเดียวกะคห.14 แต่ยังไม่มีอิสรภาพทางการเงิน ยังไงก็ยังต้องทำงานประจำ แต่ก็ลงทุนไปด้วยในเวลาเดียวกัน จากคุณ : areewan เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 55 16:58:12

ความคิดเห็นที่ 37 ของเราตอนนี้ยังไม่มีอิสรภาพทางการเงินค่ะ แต่หวังไว้ว่าซักวันหนึ่ง ^^ ตอนนี้ก็พยายามรักษาระเบียบวินัยทางการเงินอยู่ค่ะ แต่บางทีเข้าห้องแป้งก็เผลอไผลไปกับเครื่องสำอาง เข้าห้อง blue ก็ไปเที่ยวตามเค้าซะงั้น 55 เป็นกำลังใจให้ จขกท.ค่ะ เริ่มตอนนี้ไม่สายหรอกค่ะ :) จากคุณ : โมริชิตะอากาเนะ เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 55 17:17:57

ความคิดเห็นที่ 38 เสริมนะครับ คุณ sukineko. ทำงานประจำของข้างบนหลายๆท่าน อาจรวมได้ทั้งทำงานที่กินเงินเดือนทำงานที่มีรายได้เข้ามา ซึ่งก็รวมไปถึงทำธุรกิจด้วยครับ. เป็นการสร้างกระแสเงินสดนอกเหนืจากการลงทุน ซึ่งมีความไม่แน่นอนและผันผวน รวมถึงบางครั้งผลตอบแทนติดลบ ผมว่าประเด็นนี้น่าจะใช้ได้กับทุกคน. ซึ่งเริ่มเข้าสู่โลกการลงทุนในช่องทางปกติ แต่ในกรณีคุณ sukineko ถือว่าได้เปรียบหลายคนตรงที่ไม่ต้องเริ่มจากเป็นพนักงานเพื่อเก็บเงินก้อนแรก แต่ได้โอกาส จากมีธุรกิจครอบครัวสนับสนุน จึงประสบความสำเร็จได้เร็ว เป็นที่น่าอิจฉาครับ เพราะมีต้นทุนสูงถึงติดหุ้น คัทลอสก็สามารถเพิ่มลดทุนได้สะดวก มนุษย์เงินเดือนก็จะเสียเปรียบหน่อยตรงช่วงแรกขนาดพอร์ทจะเพิ่มได้ช้า ขาดทุนจะซื้อเฉลี่ยก็ต้องรอเงิน ส่วนผมยังคงดำเนินชีวิตตามปกติ งานประจำก็ทำต่อมาตลอด ธุรกิจเล็กๆ ทำไปเพื่อรายได้สมำ่เสมอ เพื่อลงทุนในสินทรัพย์ถาวร. งานพิเศษ ทำไปไว้ใช้จ่ายประจำวัน. พอร์ทลงทุนเพื่อฝันในอนาคตว่า จะได้สักเสี้ยวของ ดร.นิเวศน์ จากคุณ : :::GANTZ::: เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 55 17:21:23

ความคิดเห็นที่ 39 ไม่ช้าไปหรอกครับ ผมใกล้จะถึงหลับสี่แล้ว ก็ยังแสวงหาอิสรภาพทางการเงินอยู่เช่นกันครับ สู้ไปด้วยกันคร้าบ จากคุณ : 2ndHand_Fanclub เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 55 23:04:27

ความคิดเห็นที่ 40 เดือนละ 100,000-150,000 บาทครับ จากคุณ : onginthailand เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 55 09:31:41

ความคิดเห็นที่ 41 ขอเข้ามาเป็นกำลังใจด้วยครับ ผมห็เป็นคนหนึ่งที่ติดห้องสินธรนี้อย่างจังเลย แวะมาอ่านกระทู้ทุกวัน ผมพึ่งเริ่มการออมและลงทุนในหุ้นมายังไม่ถึงปี ตอนนี้ผมอายุ 32 ปี ก่อนหน้านี้เงินเก็บแทบไม่มีเพราะดันไปลงที่รถหมด แต่ในที่สุดก็ผ่อนหมด ตอนนี้มีเงินเหลือเก็บออมและลงทุนเต็มที่ ก่อนหน้านี้ที่เก็บเงินไม่ค่อยได้ นอกจากรถแล้ว สาเหตุนึงคือขาดวินัยครับ และเข้าใจเลยว่า การจะออมและลงทุนได้อย่างต่อเนื่องนั้น คุณต้องสร้างระบบช่วยในการออมและลงทุนครับ อย่าไว้ใจใคร โดยเฉพาะตัวเอง แต่ให้สร้างระบบที่ไว้ใจได้ แล้วทำให้เป็นอัตโนมัติ แล้วในที่สุดเราก็จะมีอิสรภาพทางการเงิน โดยแทบไม่เหนื่อยเลยครับ อีกอย่างหนึ่ง บางครั้งการผ่อนอะไรยาวๆก็ดีเหมือนกัน เพราะเราชินกะมันแล้ว พอผมผ่อนรถหมด เงินที่เคยกันไว้จ่ายค่างวดก็เอามาเก็บได้ทันทีโดยไม่รู้สึกลำบากไรเลย นี่เปงตัวอย่างของการทำให้เป็นอัตโนมัติ จากคุณ : Jiratino เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 55 11:20:34