Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
การลงทุนแบบมีกำไร ที่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ติดต่อทีมงาน

updated: 15 ส.ค. 2555 เวลา 17:58:16 น.
โดยธันวา เลาหศิริวงศ์
นายกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า(ประเทศไทย)
www.facebook.com/18thanwa

 
"น้ำไม่ท่วม ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ" คือคำโฆษณาบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่เห็นเด่นชัดบนป้ายขนาดใหญ่ริมถนนวิภาวดีรังสิต ข้อความดังกล่าวบ่งบอกถึงความมั่นใจและความเชื่อมั่นของบริษัทหรือผู้บริหารว่า จะสามารถบริหารจัดการเรื่องน้ำได้อย่างแน่นอน หรือพูดง่ายๆ คือ ผู้ที่กำลังตัดสินใจซื้อไม่ต้องกังวลเรื่องน้ำท่วมเพราะ "เอาอยู่" นั่นเอง


การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นตลอดเวลาในโลกแม้บางเหตุการณ์อาจเกิดขึ้นด้วยความบังเอิญ แต่เราลองมาดูความเปลี่ยนแปลงที่อยู่ในข่าย "ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ" ผ่านกรณีศึกษาต่อไปนี้ ประเทศเกาหลีใต้มีการพัฒนาเชิงบวกเกือบทุกด้านในรอบไม่กี่สิบปีที่ผ่านมา ภาครัฐและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องที่ได้สนับสนุนอุตสาหกรรมรถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเลคทรอนิคส์ โทรศัพท์มือถือ ภาพยนตร์ เกมส์ออนไลน์ ท่องเที่ยว อาหาร ศัลยกรรมเสริมความงาม การเต้นแบบเกาหลี และการเผยแพร่วัฒนธรรมของประเทศในรูปแบบต่างๆ จนได้รับการยอมรับและมีอิทธิพลต่อสังคมโลกมากขึ้น


ประเทศเกาหลีใต้มีขนาดผลิตภัณฑ์มวลรวม (GDP) ใหญ่เป็นลำดับที่ 11 ของโลกแม้มีประชากรเพียง 50 ล้านคน  และได้รับความไว้วางใจในการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกปี 1988  เป็นเจ้าภาพร่วมกับประเทศญี่ปุ่นจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกปี 2002 นอกจากนี้ เกาหลีใต้ยังมีนักกีฬาระดับเหรียญรางวัลกีฬาโอลิมปิก และผลงานในกีฬาฟุตบอลอยู่ในระดับแถวหน้าของโลกอีกด้วย


ประเทศสิงคโปร์  ประกาศเอกราชในปี ค.ศ. 1965 มีประชากรเพียง 5 ล้านกว่าคน แต่มีประชากรหนาแน่นเป็นอันดับสองของโลกอันเนื่องมาจากขนาดพื้นที่และลักษณะภูมิประเทศที่เป็นเกาะ  แม้มีข้อจำกัดและไม่มีแหล่งทรัพยากรธรรมชาติมากนักแต่สิงคโปร์มีขนาดผลิตภัณฑ์มวลรวม (GDP) ถึงครึ่งหนึ่งของไทยโดยอยู่ในอันดับที่ 38 ของโลก สถาบัน IMD ได้จัดอันดับให้เป็นประเทศที่มีความสามารถในการแข่งขันเป็นอันดับที่ 4 ของโลก สิงคโปร์มีความโดดเด่นเรื่องความปลอดภัย สาธารณูปโภค ระบบขนส่งมวลชน ศูนย์กลางทางการเงิน ที่ตั้งของสำนักงานภูมิภาคของบริษัทระดับโลก มีการพัฒนาแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างๆ เช่น ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ คาสิโน การแข่งขันรถฟอร์มูล่าวัน รวมทั้งมีสายการบินชั้นนำของโลกเพื่อความสะดวกในการเดินทางเข้าออกประเทศอีกด้วย การเปลี่ยนแปลงและการพัฒนาของทั้งประเทศเกาหลีใต้และประเทศสิงคโปร์นั้นเป็นเพียงตัวอย่างของประเทศในโลกที่ "ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ" เลย


Amazon.com (AMZN) เริ่มต้นธุรกิจหนังสือออนไลน์ในอเมริกาเมื่อปี ค.ศ. 1994 ปัจจุบันกลายเป็นร้านค้าปลีกออนไลน์ที่ครอบคลุมผลิตภัณฑ์สินค้านานาชนิดที่ใหญ่ที่สุดและให้บริการผู้ซื้อทั่วโลก จุดเด่นที่สำคัญได้แก่ ความหลากหลายของผลิตภัณฑ์สินค้าและอุปกรณ์หนังสืออิเลคทรอนิคส์ (kindle) ด้วยราคาที่สมเหตุสมผล ความสะดวก ปลอดภัย และบริการต่างๆ ที่ร่วมกับพันธมิตรธุรกิจ มียอดขาย 3 ปีย้อนหลังคือปี 2009, 2010 และ 2011 เติบโตก้าวกระโดดอย่างต่อเนื่องที่ 24.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ 34.2 พันล้าน และ 48.0 พันล้านเหรียญตามลำดับ ส่งผลให้ราคาหุ้นเพิ่มจากหุ้นละ 1.5 เหรียญในปี 1997 เป็น 233 เหรียญในปัจจุบันและมีมูลค่าตลาดสูงถึง 105,200 ล้านเหรียญในเวลาไม่ถึง 20 ปี


"วอร์เรน บัฟเฟตต์" ประสบความสำเร็จในการลงทุนแบบเน้นคุณค่าอย่างมากนับตั้งแต่ปี ค.ศ.1965  ผ่านบริษัทเบิร์กไชร์ แฮทธาเวย์ (BRK) สร้างผลตอบแทนทบต้นเฉลี่ย19.8% เอาชนะดัชนี S&P รวมเงินปันผล9.2%  ตลอดเวลา 46 ปีของการลงทุน สร้างผลตอบแทนและความมั่งคั่งให้ผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้น 513,055 % (ห้าแสนหนึ่งหมื่นสามพันห้าสิบห้าเปอร์เซ็นต์)  เทียบกับ 6,397% (หกพันสามร้อยเก้าสิบเจ็ดเปอร์เซ็นต์)  ของดัชนี S&P โดยมี 3 กลยุทธ์สำคัญคือ การเลือกกิจการที่ยอดเยี่ยม (Stock Selection) การลงทุนแบบมุ่งเน้น (Focus Investment) และการถือหุ้นของกิจการเป็นเวลานาน (Period of Investment)


สรุปก็คือ พัฒนาการที่โดดเด่นและความสำเร็จของทั้ง Amazon.com และบริษัท เบิร์กไชร์ แฮทธาเวย์ของวอร์เรน บัฟเฟตต์ ก็น่าจะ "ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ" เช่นกัน


บริษัทจดทะเบียนของไทยจำนวนไม่น้อยที่สร้างความมั่งคั่งและผลตอบแทนหลายเท่าตัวหรือ "หลายเด้ง" ให้กับผู้ถือหุ้นในเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมา ผลประกอบการที่ดีขึ้นและโดดเด่นนั้นเริ่มจากวิสัยทัศน์ของผู้บริหาร กลยุทธ์ทางธุรกิจ การบริหารจัดการและการทำให้เกิดผลจริง เมื่อนักลงทุนเชื่อมั่นกับศักยภาพและมูลค่าทางเศรษฐกิจของกิจการในระยะยาว ก็จะส่งผลสะท้อนมายังราคาหุ้นและมูลค่าตลาดของกิจการโดยรวม ความสัมพันธ์ในทิศทางเดียวกันของกำไรต่อหุ้นและราคาหุ้นเป็นเครื่องพิสูจน์ได้อย่างดีว่า ราคาหุ้นที่เพิ่ม "หลายเด้ง"นั้นสมเหตุสมผลหรือไม่ ถ้ากิจการมีผลประกอบยอดเยี่ยมอย่างต่อเนื่อง ก็ต้องนับว่า "ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ" ที่ราคาหุ้นจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างยั่งยืนเช่นกัน


ทั้งหมดนั้นเป็นกรณีศึกษาที่เกิดขึ้นในอดีต ในทางการลงทุนนั้น ผลตอบแทนที่ผ่านมาไม่ได้การันตีผลตอบแทนในอนาคต นักลงทุนบางคนซื้อหุ้นด้วยความ "บังเอิญ"  นำมาซึ่งผลตอบแทนที่น่าทึ่ง แม้เป็นเรื่องที่น่ายินดีแต่อาจยังไม่น่า "ภูมิใจ" นัก  เพราะอาจจะเป็นการทำกำไรเพียงครั้งคราว  หน้าที่ของ Value Investor จึงต้องเสาะแสวงหากิจการที่ "ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ"  ในราคาปัจจุบันว่ามีส่วนต่างความปลอดภัย (Margin of Safety) มากน้อยเพียงใด หากผ่านเกณฑ์หรือเงื่อนไขลงทุนของตนก็ซื้อและถือไว้ให้นานที่สุด  สุดยอด VI พันธุ์แท้ หรือ "VI สายดำ" นั้น ล้วนหมั่นฝึกฝนวิชาการลงทุนทั้งด้านปรัชญา แนวคิด แนวทาง จิตวิทยาการลงทุน และวิถีการใช้ชีวิตอย่างต่อเนื่อง เพื่อผลตอบแทนที่  "ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ" ในการลงทุนนั่นเอง

 
 

จากคุณ : Wild Rabbit
เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 55 15:44:53




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com