ความคิดเห็นที่ 1 มีเพื่อนสมาชิก  หลังไมค์มาถามดังนี้ From :............... [7 กันยายน 2555 13:09]         สวัสดีค่ะ ขอรบกวนสอบถามเรือง sithai ตอนแรกหนูมีอยู่ 5000 หุ้น ทุนที่ 10.40 บ. ตัดขายไป 2200 หุ้น ตอนราคา 17 บ. ตอนนี้เหลืออยู่ 2800 หุ้น กำไรตอนนี้ 138 % หนูควรทำยังไงดีคะ หนูเป็นมือใหม่มากๆ ได้กำไรเยอะอย่างนี้ ก็ไปไม่เป็นเลยค่ะ จะขายก็กลัวมันขึ้น จะไม่ขายก็กลัวมันลง จะเข้าอีกก็กลัวดอย ขอคำแนะนำด้วยนะคะ ขอบคุณมากค่ะ   ผมตอบกลับไปดังนี้  ถ้าเป็นคำตอบที่อ่านแล้วไม่ถูกใจ ต้องขอโทษด้วยครับ To : ..................... [7 กันยายน 2555 16:54]       คนซื้อขายหุ้น ก็มีกรรมไปอีกแบบ ถึงไม่เหนื่อยกาย ก็เหนื่อยใจ ขาดทุนก็เครียด กำไรแต่ตัวเลขก็เครียด ขายไปแล้วก็ยังเครียด เราเครียดเพราะอะไรครับ คำตอบคือ เพราะเราไม่รู้อนาคตของหุ้น สำหรับผม จะทำปัจจุบัน ณ.ขณะนั้นให้ดีที่สุด อนาคตจะเป็นอย่างไรก็ยอมรับครับ ที่ราคาปิดวันนี้ ขายกี่หุ้น แล้วได้เงินต้นคืน ก็ให้ขายไปจำนวนเท่านั้นครับ ที่เหลือ ก็ให้ถือว่า เป็นหุ้นที่ไม่มีต้นทุน ลองดูกระทู้ที่ผมตั้งซิครับ ผมจะไม่มานั่งนึกว่า ถ้าไม่ขายเมื่อสองวันก่อน ตอนนี้จะได้กำไรเพิ่มอีกสองแสนกว่า เพราะนึกไปก็ไม่มีประโยชน์ มันเหมือนกับ พอรู้อนาคต ก็กลับไปเสียดายอดีต ในภาพประกอบ เป็นการสั่งขายราคาเดียว สองแสนหุ้น ที่ ๒๓.๓๐ บาท ในขณะทื่ตอนนั้น  ยังมีเสนอซื้อค้างอยู่ที่  ๒๓.๔๐ บาท หมื่นกว่าหุ้น คำสั่งแบบนี้  มาร์เก็ตติ้งคู่ใจที่ยูโอบี รู้ดี่ว่า เวลาถือ จะถือนาน  แต่เวลาขาย ใช้เวลาขายแค่เสี้ยวนาทีเท่านั้น ! แก้ไขเมื่อ 11 ก.ย. 55 09:18:45 แก้ไขเมื่อ 10 ก.ย. 55 12:05:02 แก้ไขเมื่อ 10 ก.ย. 55 07:46:32 จากคุณ : endophine เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 55 07:44:11

ความคิดเห็นที่ 2 มาถึงคำถามที่ได้ตั้งไว้  ตามภาพประกอบ 1 จากคุณ : endophine เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 55 07:47:51

ความคิดเห็นที่ 3 ในคำถามทั้งสามข้อข้างต้น ผมเชื่อว่า การตอบโจทย์ให้ถูกต้องว่า ฝากฝันแบบไหนไว้ จึงจะเป็นจรีงได้ ตามปัจจัยพื้นฐานสะสมที่แท้จริงของเรา เป็นคำตอบที่ทำตามได้ยากที่สุด  ????? คนที่เข้าตลาดหุ้นใหม่ๆ แทบจะทุกคน เริ่มเข้ามา  ก็จะมีฝันสีทองอยู่ในหัวใจ โดยตั้งเป้าไว้ว่า จะรายเร็ว ๆ  รวยง่ายๆ  รายมากๆ ฝันแบบนี้  จะเป็นจริงได้   ก็ต้องลงวิ่งแข่งร้อยเมตร  ซึ่งเห็นผลเร็วที่สุด ไม่มีใครอยากวิ่งมาราธอนหรือวิ่งแข่งระยะไกล   เพราะมันเหนื่อยและรู้ผลช้ามาก พอลงวิ่งแข่งไปซักพัก  คนที่มีความสามารถตามปัจจัยพื้นฐาน มีเครื่ืองมืออุปกรณ์พร้อมจะวิ่งแข่งร้อยเมตร ก็จะอยู่แข่งต่อ ซึ่งน่าจะได้แก่พวกนักเก็งกำไรระยะสั้น   ที่มีความสามารถ  มีเครื่องมือในการเป็น เสือปืนไว  ใจเกินร้อย   ชักยิงก่อน แล้วค่อยถามทีหลัง ส่วนคนที่ไม่มีความสามารถ  แต่ยังฝืนล่าฝันด้วยการวิ่งร้อยเมตร ก็คงจะรู้ว่า  มันจะเกิดอะไรขึ้น ? แล้วพอเดินทางแสวงหาเงินต่อไปซักสองสามปี ผลประกอบการของเรา  มันจะบอกเราเองว่า ฝันสีทองที่เราตั้งไว้  มันจะเป็นจริงได้หรือเปล่า ฝากฝันไว้  ฝันจะเป็นจริงได้หรือเปล่า อยู่ที่การแยกแยะความฝันให้ออกดังนี้ ๑ ฝันที่เป็นจริงได้ง่าย   ตามความรู้ ความสามารถของตัวเอง ๒  ฝันที่เป็นจริงได้ค่อนข้างยาก เพราะมันเกิน ความรู้ ความสามารถของตัวเอง ๓  ฝันที่ไกลเกินจริงมากๆๆ   เพราะเป็นฝันที่ไม่มีความรู้ ความสามารถอะไร มารองรับเลย สำหรับผม   ความฝันที่คิดว่าจะทำได้ง่ายที่สุดก็คือ ความฝันที่ไม่เกิน  ความรู้ ความสามารถที่มีอยู่ ตอนซื้อศรีไทย  ผมถึงกำหนดจุดฝันไว้แค่ว่า ราคาที่ซื้อ  จะได้เงินปันผลมากกว่าฝากประจำธนาคาร ซักสองเท่า เป็นความฝันที่ทำได้ง่าย   แต่คนจำนวนมากจะไม่เลือก เพราะไม่ต้องการวิ่งแข่งระยะไกล ไม่มีใครสนใจแข่งวิ่งแข่งระยะไกล   มันน่าเบื่อ รู้ผลช้าถึงช้ามาก + แก้ไขเมื่อ 11 ก.ย. 55 09:23:58 แก้ไขเมื่อ 10 ก.ย. 55 08:43:00 แก้ไขเมื่อ 10 ก.ย. 55 08:16:47 จากคุณ : endophine เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 55 08:12:06

ความคิดเห็นที่ 4 "ฝันที่เป็นจริงได้ง่าย  ตามความรู้ ความสามารถของตัวเอง" ฝันผม ขอแค่ปันผล 7-10% ต่อปี ต่อเนื่อง 15 ปี ผมก็ได้อิสรภาพทางการเงินแล้วครับ จะได้ลาออกจากงานปัจจุบัน ไปทำงานสบายๆ ที่ใจชอบ ไม่ต้องกังวลเรื่องรายรับ จากคุณ : G_Samurai เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 55 08:28:51

ความคิดเห็นที่ 5 สิ่งหนึ่งที่ผมกำหนดไว้ในใจ  เพื่อตามล่าฝันก็คือ จะไม่โลภ เกินความรู้  ความสามารถตามปัจจัยพืิ้นฐานสะสมของตัวเอง กรอบความคิดสำคัญที่สุดอันนี้ มันจะกำหนดให้ฝันที่ต้องการล่า เป็นจริงได้ง่ายขึ้น เพราะเราจะทำเรื่องที่  ไม่เกินความรู้ ความสามารถของเรา มีเพื่อนสมาชิกถามมาทางหลังไมค์ดังนี้ From :.......... [6 กันยายน 2555 14:40]         จากกระทู้แนะนำของคุณเอนโดค่ะ รู้สึกดีมากที่เห็นพอร์ตคุณเอนโดแบบนี้ โดยส่วนตัวเป็นคนอดทนเหมือนกันค่ะ แต่อาจจะเลือกหุ้นไม่เป็น เลยมีข้อสงสัยว่ามีข้อกำหนดในการคัดเลือกหุ้นอย่างไรคะ ตอนนี้ดิชั้นอยู่ในตลาดหุ้นมาประมาณ 2 ปีกว่าแล้ว แต่ว่ายังไม่เป็นชิ้นเป็นอันเสียที แต่โดยรวมของพอร์ตกำไรนะคะ ประมาณ 10% แต่มีหุ้นทั้งหมด 23 ตัว บางตัวกำไรเกือบ 100% แล้ว แต่ว่ามีนิดเดียว บางตัวมีเยอะแต่กำไรไม่กี่% เอง (เขียวประมาณ 16 ตัว แดง 7 ตัว) อยากจะจัดพอร์ตใหม่ด้วย มีข้อแนะนำไหมคะ ขอบคุณค่ะ   ขอตอบทางหน้าไมค์ในกระทู้นี้ครับ ความจริงผมก็มีจำนวนตัวหุ้นใกล้เคียงกับเพื่อนสมาชิกที่ถาม เหตุผลก็คือ  กระจายความเสี่ยง  เพื่อได้เงินปันผลอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งค่อนข้างได้ผล  แต่ว่าเป็นผลเสีย ในด้านมูลค่าตล่าดโดยรวมของพอรฺ์ต ที่เจ้าของคำถามเจอว่า ตัวที่กำไรเยอะ  กลับถือไว้จำนวนน้อย ตัวที่กำไรน้อยๆ  กลับถือไว้เป็นจำนวนมาก ของผมแก้ด้วยการ  ใช้เครื่องมือที่เรียกเองว่า แต้มต่อด้าน margin of safety   ตัวไหนคิดว่ามีแต้มต่อเยอะ  ก็จะซื้อเยอะ ตัวไหนแต้มต่อเหลือน้อยแล้ว  ก็จะซื้อน้อย เพื่อเฉลี่ยปันผลรับโดยรวม ศรีไทยเลยกลายเป็นหุ้น ที่ผมเคยใช้เงินต้นจำนวนมากที่สุด ซิ้อหุ้นเข้าพอร์ตในตอนนั้น ซื้อด้วยเงินต้นจำนวนมากที่สุดในตอนนั้น  เพราะเชื่อว่ามีแต้มต่อดังนี้ ๑  ราคาหุ้นที่คนในตลาดให้  มันมีส่วนลดเกินครึ่ง จากส่ิงที่มีอยู่ในบริษัท   หรือที่เราเรียกว่า  pbv หรือราคาหุ้นหารด้วยมูลค่าหุ้นตามบัญชีต่อหุ้น ๒  ยีลด์ของราคาหุ้นในขณะนั้น   ได้มากกว่าเงินฝากประจำธนาคารสองเท่า ปัจจุบันกลายเป็นห้าเท่ากว่า  แสดงให้เห็นว่า แต้มต่อของเรายิ่งมีมากขึ้น ๓ บริษัทมักจะจ่ายปันผลจนเกือบหมด  จากกำไรสุทธิ แถมบางปีกำไรไม่ถึงปันผล  ก็ยังชักจากกำไรสะสมมาจ่าย ผมเชื่อว่า  มันมีเหตุผลที่เรายังไม่รู้  อยู่เบื้องหลังการกระทำนั้นแน่ๆ จึงเชื่อว่า  ศรีไทยจะมีแต้มต่อด้านการจ่ายเงินปันผลได้สม่ำเสมอ คงสรุปได้ว่า เราจะซื้อหุ้นตัวไหนไว้มาก เราต้องค้นหาแต้มต่อ  ที่เราจะได้เพิ่มจากราคาหุ้น ณ. ขณะนั้นให้ได้ ยิ่งมีแต้มต่อมาก  ก็จะยิ่งซื้อไว้มาก อีกตัวที่ผมใข้หลักการเดียวกันคือ  แป๊บ ซื้อไว้ หนึ่งล้านหกแสนหุ้น ที่ราคาที่คิดว่ามีแต้มต่อมาก ที่ ๑.๕๐ บาทกว่าๆได้ปันผลมาแล้วรวมห้าสิบเจ็ดสตางค์   สะสมเป็นแต้มต่อที่มีมากขึันได้ ! แก้ไขเมื่อ 11 ก.ย. 55 09:31:13 แก้ไขเมื่อ 10 ก.ย. 55 09:28:47 แก้ไขเมื่อ 10 ก.ย. 55 08:47:22 จากคุณ : endophine เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 55 08:39:44

ความคิดเห็นที่ 6 คำถามที่สอง   ไว้เดี่ยว เดี๋ยวคือนานแค่ไหน คำตอบข้อนี้ง่ายมาก เราใช้เครื่องมือแบบไหน  ในการล่าฝัน เดี๋ยวของเรา  ก็จะนานไปตามเครื่องมือนั้นๆ พวกใช้กราฟรายวันเป็นเครื่องมือหลักในการ ล่าฝัน เด๊๋ยวก็จะนานแค่  ไม่เกินสองสามวัน พวกใชักราฟรายสัปดาห์เป็นหลักในการ ล่าฝัน เดี๋ยวก็จะนานเป็นปีๆก็ได้  ตราบใดที่กราฟรายสัปดาห์ยังดีอยู่ พวกต้องการกำไรระยะสั้น  จากการตามข่าว ตามบทวิเคราะห์ เดี่ยวก็จะนานแค่สองสามวัน  หรือสองสามอาทิตย์ คุณธราธิปเคยบอกไว้ว่า ถือ ปตท.สผ. นานถึงหนึ่งปี  เพราะใช้กราฟรายสัปดาห์เป็นหลัก และใช้กราฟรายวัน เป็นตัวเสริมซื้อขาย  เพื่อลดต้นทุนของหุ้นที่ถือ สำหรับผม เดี๋ยว ก็คือนานแค่ไหนก็ได้ ตราบใดที่หุ้นตัวนั้นยังวิ่งในกรอบที่เหนือกว่าอัตราดอกเบีัยเงินฝากธนาคาร ยิ่งหนี่หางจากดอกเบี้่ยเงินฝาก  ก็ยิ่งถือได้นาน ถ้าผลประกอบการยังพอไปได้เรื่อยๆ หรือไม่ก็  ได้ยีลดฺ์น้อยกว่าฝากธนาคาร แต่กิจการ มีการโตตอเนื่อง (เช่น pb) และที่สำคัญมากๆคือ  ถิอแล้วไม่รู้สึกว่า  กำลัง"ทนถือหุ้น" ระหว่างคำว่า "ทนถือหุ้น " กับ "ถือหุ้นทน"   ที่ผมใช้เป็นตัวชี้วัดในการถือศรีไทย ได้ผ่านความกดันครั้งใหญ่ๆมาสองครั้งคือ ครั้งที่โรงงานเกิดไฟไหม้  ได้ข่าวนี้  ทำใจรับล่วงหน้าเลยว่า หุ้นต้องตกแน่ๆ แต่ข่าวที่ตามมาเร็ว  และทำให้ถือต่อก็คือ มีประกันภัยเต็มมูลค่าที่เสียหาย แถมผลประกอบการที่ออกตามมา ขาดทุนเละจากไฟไหม้ แต่ว่า บริษัทต้องจ่ายภาษีเงินได้ หมายความว่าไง มันก็หมายความว่า   ขาดทุนจากไฟไหม้จะต้องได้เงินคืนแน่ๆ จึงไม่สามารถนำมาหักเป็นค่าใช้จ่าย เพื่อไม่ต้องเสียภาษี อีกครั้งที่กดดันจิตใจมากก็คือ   ตอนที่คนในตลาดเริ่มเข้ามาสนใจหุ้นศรีไทย มีการไล่ราคาขึ้นไปสูงสุดที่  ๑๒ บาท แล้วตกกลับลงมาเหลือไม่ถึง ๘ บาท ช่วงนั้น รู้สึกกดดันมากพอสมควร แต่เมื่อใช้ตัวชี้วัด ในภาพประกอบเข้าไปจับ ปรากฏว่า  สภาพจิตของเรา ยังอยู่ในโซน "ถือหุ้นทน" ไมใช่ "ทนถือหุ้น" เพราะยังกินอิ่มนอนหลับ  ดำเนินชีวิตได้ตามปกติ ทั้งๆที่ขาดทุนกำไรไปแล้ว สองล้านบาท   เสี่ยงต่อการจะขาดทุนกำไรเพิ่มมากขึ้นไปอีก ถึงขั้นว่า กำไรที่เหลือ จะน้อยกว่ากำไรที่หดหายไป หรือร้ายสุดๆ ก็คือขาดทุนไปเลย การดูราคาหุ่นแทบจะทุกวันทำการ แต่ถือได้นานๆ  ลองอ่านจากกระทู้นี้ครับ http://topicstock.pantip.com/sinthorn/topicstock/2012/06/I12225464/I12225464.html ! แก้ไขเมื่อ 12 ก.ย. 55 08:08:35 แก้ไขเมื่อ 11 ก.ย. 55 09:37:06 แก้ไขเมื่อ 10 ก.ย. 55 09:23:33 แก้ไขเมื่อ 10 ก.ย. 55 09:04:23 จากคุณ : endophine เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 55 09:00:36

ความคิดเห็นที่ 7 คำถามที่สาม เมื่อไรจะเลี้ยวมาเเอา อันนี้ง่ายถ้าเราคิดว่าง่าย   ยากถ้าเราคิดว่ายาก มันอยู่ที่ว่า "รู้แล้ว ทำได้หรือทำไม่ได้"   หลักการของผม  ยืนอยู่บนความเชื่อที่ว่า รู้เรา ต้องมาก่อนรู้เขา ถ้ารู้ว่าเราฝันไว้แค่ไหน  จะสามารถถือไว้นานแค่ไหน มันก็จะตามมาเอง ส่วนเมื่อไรจะเดี๋ยวมาเอาความฝัน ก็คงต้องบอกว่า  ผมจะทะยอยเลี้ยวมาเอาความฝันที่ฝากไว้ แล้วแต่  " margin of satisfaction " ของตัวเอง เพราะสิ่งเดี่ยวที่เราควบคุมได้แน่ๆแบบร้อยเปอร์เซนต์ ถ้าใจเรารู้จักพอเพียง รู้จักประมาณตนก็คือ หุ้นที่อยู่อยู่ในพอร์ตของเรา หุ้นที่อยู่นอกพอรฺ์ตของเรา   เราไม่มีทางควบคุมได้ ไม่มีทาง รู้จริงๆ เพราะเครื่องมือในการล่าฝันของเรา ไม่สามารถทำนายอนาคตของหุ้นได้ ทำได้แค่ ทำปัจจุบัน ณ ขณะนั้นๆให้ดีที่สุด ยิ่งมีแต้มต่อด้านต้นทุนมาก ผมก็ยิ่งมีทางเลือกให้กับหุ้นตัวนั้นในพอร์ตมากขึันตามนั้น ไม่ทราบว่า  ที่โพสต์มา พอจะตอบคำถามต่างๆ   ที่มีเพือ่นสมาชิกถามมาทางหลังไมค์หรือไม่ครับ ? คงสรุปได้ว่า เรื่องที่ผมทำได้ดีที่สุดในการเดินทางแสวงหาเงินในตลาดหุ้นก็คือ "ถือหุ้นที่คิดว่าดีๆ  ได้ไม่จำกัดเวลา" ความรู้ ความสามารถอย่างอื่น   ด้อยกว่าทั้งพวกเซียนวีไอและพวกเซียนกราฟ อยากให้ข้อคิดว่า ถ้าสิ่งที่เรารู้ตัวเองว่าทำได้ดีที่สุด ไม่สามารถ นำมาแสวงหาเงินในตลาดหุ้นให้กับเราได้ ข้อเสียอีกมากมายที่เราแก้ไขไม่ได้   มันจะค่อยๆบ่อนทำลายเงินที่เราใส่เข้าไปในตลาดหุ้น ในที่สุดอาจถึงขั้นหมดตัว + แก้ไขเมื่อ 11 ก.ย. 55 09:41:45 แก้ไขเมื่อ 10 ก.ย. 55 09:19:02 จากคุณ : endophine เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 55 09:15:38

ความคิดเห็นที่ 8 อ่าน คห 1 ที่เฮียตอบแล้วแบบนึกถึงเลย โรค "รู้งี้" หลายๆท่านคงเป็นแบบนี้ รู้งี้ ขายก่อน รู้งี้ซื้อก่อน  เสียดาย ทั้งขาซื้อและขาขาย  คงต้องใช้เวลาอีกสักพักกว่าจะซื้อ/ขาย แล้วจบ ไม่ต้องคิดมาก จากคุณ : Ezlo เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 55 09:53:16

ความคิดเห็นที่ 9 ขอบคุณครับ  ยังคงได้ความเห็นดีๆ อยู่เสมอๆ ครับ จากคุณ : iroiro เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 55 10:00:08

ความคิดเห็นที่ 11 ขอบคุณครับ  ยังคงได้ความเห็นดีๆ อยู่เสมอๆ ครับ จากคุณ : iroiro เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 55 10:06:09

ความคิดเห็นที่ 12 สุดยอดครับเฮียเคลี่ น้อยคนทำได้ ผมอ่านที่เฮียว่าแล้วจินตนาการไปถึงป๋าบุฟเฟ่   หากมานั่งคิดรู้งี้ทุกจังหวะคงแย่ อีนี่หายไปแล้วสิบยี่สิบล้านดอลล่า เอาจริงบางครั้งก็ต้องทำใจผมเจอบ่อย ฝากฝันแล้วเสียว ไปลับไม่เลี้ยว คห7 เฮียพูดถึงอิสรภาพทางการเงินได้พอเหมาะพอดี ทางธรรม พระไตรปิฎกตอนนหนึ่งหน้าไหนจำไม่ได้แล้ว พูดถึงการดับอาสวะด้วยการใช้สอย เช่นใช้สอยปัจจัย4 หากมากกว่านั้นก็ปรุงแต่งเอาทั้งนั้น วางทางสายกลางแต่ละ ช่วงชีวิตตามฐานะ มนุษย์ยอมยืดๆหดๆได้ อิสรภาพทางการเงินเป็นมายา อิสรภาพทางเวลาก็มายาด้วย จากคุณ : อมหุ้นแล้วยิ้ม เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 55 10:14:50

ความคิดเห็นที่ 13 ขอบคุณเฮียคลายเครียดที่มาอธิบาย ฝันที่เป็นจริงบนพื้นฐานของความจริงที่เป็นไปได้ให้ฟังกันนะคะ เตือนสติและให้หลักคิดได้มากเลยค่ะ ชอบมาก ๆ เลยค่ะ ขออนุญาตนำไปปรับใช้กับตัวเองนะคะ จากคุณ : ลูกปันผล เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 55 10:30:26

ความคิดเห็นที่ 14 ขอบคุณทุกๆท่าน ที่แวะเข้ามาอ่านและออกความเห็นครับ ถ้าช่วยโหวตให้ด้วยก็จะดีครับ เสียเวลาพิมพ์นานเหมือนกัน ใครที่สามารถนำข้อความในกระทู้นี้ไปต่อยอด ให้เหมาะกับความสามารถตามปัจจัยพื้นฐานของตัวเองได้ จะยินดีมากๆ เลยครับ   ต้องขออภัย ที่ไม่สามารถแจกกิฟท์ให้อย่างที่วุถึง จะเก็บส่วนหนึ่งไว้่แจกตอนสิ้นเดือนครับ แก้ไขเมื่อ 10 ก.ย. 55 10:40:06 จากคุณ : endophine เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 55 10:39:06

ความคิดเห็นที่ 15 ขอบพระคุณอ.endophine ที่สละเวลามาเล่าสิ่งที่คิด สิ่งที่ทำ ให้ได้อ่านกันค่ะ ประสบการณ์ล้ำค่าที่เล่ามา คาดว่าน่าจะมีคนนำไปใช้เพื่อเป็นประโยชน์ในชีวิตจริงได้ตามเจตนาของอาจารย์ค่ะ(ส่วนจะถึง 80%หรือไม่คงขึ้นอยู่กับความสามารถของแต่ละคนแล้วล่ะค่ะ) ขอให้อาจารย์และครอบครัวมีความสุขค่ะ จากคุณ : Driverblue เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 55 11:03:09

ความคิดเห็นที่ 16 ขอบคุณเฮียมากๆคะที่มาให้ความรู้ ขอให้พอร์ตเฮีย 1000 ล้าน ในเร็วๆนี้ จากคุณ : นิกม์ เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 55 11:13:52

ความคิดเห็นที่ 17 แฮะ แฮะ  คุณ driverblue  เรียกแค่คุณดีกว่าครับ ไม่เคยนึกอยากได้โซ่เกียรติยศ  จากคำว่าอาจารย์   ทื่คุณนิกส์ว่ามา นั้นแหละครับ ฝันที่ไกลเกินจริง  จากความรู้ ความสามารถของเราครับ ! จากคุณ : endophine เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 55 11:26:35

ความคิดเห็นที่ 18 สุดยอดครับ จากคุณ : rain pk son (rain pk son) เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 55 11:31:40

ความคิดเห็นที่ 19 เนื้อหาดีมากเลยครับ คนส่วนมากก็คิดว่า จะรายเร็ว ๆ  รวยง่ายๆ  รายมากๆ โดยเฉพาะ มาเห็นกำไรหลาย100% ดูสวยงาม แต่ชีวิตจริงก็แบบนี้ ก็ไม่ง่าย ไม่เร็ว ต้องผ่านการขึ้นๆลงๆมาเท่าไหร่ แต่รวยมากๆเป็นไปได้เสมอ จากคุณ : Pigou เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 55 11:37:17

ความคิดเห็นที่ 20 บังเอิญคิดว่าเก็บมาได้เกือบ 80%ที่อาจารย์กรุณาส่งให้(ย้างงงยังเรียกอาจารย์อีก) ไม่ใช่โซ่แซ่กุญแจมือค่ะอาจารย์ เพราะนับถือทุกคนที่ให้ความรู้ผู้อื่นมาเสมอ มีคำถามอยากถามอยู่ตลอดค่ะ แต่คอยเก็บคำตอบได้เสมอ เลยเป็นคำถามที่ไม่ต้องถาม^_^ จากคุณ : Driverblue เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 55 12:23:35

ความคิดเห็นที่ 21 ดูจากกระทู้แนะนำที่ผ่านผ่านมา..... คิดว่าพวกเราส่วนมากชอบ ตัวปลา มากกว่า อุปกรณ์ ตกปลา นะครับ มีอย่าง  endophine  อีกสักสิบคนใน พันทิพย์ คอยกระตุ้นต่อม ชตอ ของพวกเรา..........   เด็กไทยรับ AEC ได้ ส.บ.ม.......................... จากคุณ : มาอีกแล้ว เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 55 12:43:29

ความคิดเห็นที่ 22 _/\_  ขอคุณมากครับ จากคุณ : Gunner_Noy_Skywalker_5 เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 55 12:48:31

ความคิดเห็นที่ 23 เห็นด้วยกับเฮียครับ "ทำสิ่งที่ถูกต้อง เดี๋ยวสิ่งดีๆก็จะตามมาเอง" จากคุณ : watmyung เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 55 12:55:21

ความคิดเห็นที่ 24 _/|\_ ขอบคุณครับเฮีย   จากคุณ : helga เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 55 12:57:04

ความคิดเห็นที่ 25 ขอบคุณกระทู้เฮียอีกครั้ง.....ครั้งนี้มันจุดประเด็นให้ผมตรงที่ เฮียเอ็นโดฯอายุมากกว่าผม....ก็คง 1 ทบกว่าๆ....ยังถือหุ้นยาวได้ แต่ผมพึ่งทำงานพึ่งเข้าตลาด.....กลับรีบ....อยากซื้อ...อยากมีหุ้น ทั้งๆที่อายุในตลาดหุ้นผมยังเหลืออยู่อีกมาก....ไม่สมควรที่จะรีบเลยแม้แต่น้อย ผมตอบคำถามตัวเองได้แล้วครับ...หาหุ้นปันผลดี 1 ตัว...กองทุนอสังหาที่ถืออยู่ 1 ตัว ซื้อเฉลี่ยด้วยเงินที่เท่าๆกันจากการหัก ณ ที่จ่าย(ด้วยตัวเอง)จากบัญชีเงินเดือน มันลงก็จะได้ซื้อมากๆ....มันขึ้นก็จะได้ซื้อน้อยๆ....ถ้ามันยังจ่ายปันผลในอัตราที่ผมต้องการก็ปล่อยไปแบบนั้นเรื่อยๆ จะได้มีเวลาทำงานได้เต็มที่....แล้วค่อยเอาเงินโบนัสที่ได้จากการมีเวลาทำงานเต็มที่ ....มารอซื้อหุ้นที่มีโอกาสจะทำ "คลายเครียดเรโช" แบบเฮียบ้าง..... ขอบคุณที่เตือนสติครับ _/\_ จากคุณ : Nat_YFS2011 เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 55 13:11:17

ความคิดเห็นที่ 26 ขอบพระคุณเฮียเอ็นโดมากครับ.. หลักการ แนวทาง ของเฮีย ทำให้หลายๆท่านในตลาดหุ้น รอดพ้นและยืนยงมาได้จนทุกวันนี้ จากคุณ : ธราธิป เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 55 13:14:33

ความคิดเห็นที่ 27 ผมเพิ่งขายหุ้นที่ถือมา3ปีไปส่วนหนึ่งก่อนXD กำไรเกือบ100% ขายเพร่ะงบไม่ได้ดังใจ555 ขายเสร็จอีกสัปดาห์วิ่งมาราคาเดิมที่ขาย อดได้ปันผล แต่ผมก็เฉยๆครับ(ถ้าคิดมากคงไม่มีความสุขอย่างเฮียว่า) จากคุณ : Dr.โอ เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 55 13:22:47

ความคิดเห็นที่ 28 นับถือ  พี่ Endo ครับ จากคุณ : ลองถ่าย เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 55 13:34:24

ความคิดเห็นที่ 29 เห็นด้วยอย่างยิ่งสำหรับ...  " รู้เรา ต้องมาก่อน รู้เขา " ...ถ้า รู้เรา ยังทำได้ไม่ดีพอ แล้วจะไป รู้เขา ได้ลึกซึ้งจริงหรือ ? จากคุณ : NaiPhorDee เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 55 14:13:16

ความคิดเห็นที่ 30 เฮียเราสุดยอดจริงๆ ถึงแม้พอร์ตจะไม่ใหญ่เท่าเฮีย แต่ก็จะพยายามดูเฮียเป็นตัวอย่าง  แต่ขอบอกว่าเล่นหุ้นไม่เคยเครียดมีขึ้นมีลง กำไรสลับขาดทุน ก็ยังกินอิ่มนอนหลับไปเที่ยวได้ทุกปี จากคุณ : m-ko เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 55 17:29:57

ความคิดเห็นที่ 31 จากคุณ : nusarathi เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 55 19:49:47

ความคิดเห็นที่ 32 ขอบคุนที่มาให้ข้อคิดดีคับเฮีย เรื่องคลายเครียดเรโชผมชอบมากคับ และใช้มาถึงปัจจุบัน เคยขาดทุนหุ้น50% และตัวนั้นก็ทำกำไรได้60% โดยที่ผมไม่ได้เครียดมากมาย เพราะได้ข้อคิดจากเฮียนี่ละคับ พอใจผลตอบแทนตามความรู้ที่มีคับ อยากได้ผลตอบแทนเพิ่มก็เพิ่มความรอบรู้คับ จากคุณ : ลูกชิ้น (wigraipat) เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 55 19:53:32

ความคิดเห็นที่ 33 ขอบคุณทุกๆท่านอีกครั้ง ที่เข้ามาอ่าน และร่วมออกความเห็นครับ ผมมีความเชื่ออีกอย่างว่า ถ้าเราทำอะไรฝืนความรู้ ความสามารถของตัวเราเอง   เราจะทำไม่ได้ดี บางคนไม่ถนัดลงทุนแบบดูปัจจัยพื้นฐาน บางคนไม่ถนัดลงทุนแบบเก็งกำไรด้วยกราฟ ด้วยข่าวหุ้่นเด็ด พอจริตเราไม่ให้กับวิธีการนั้นๆ  แต่ก็ฝืนทำ เพราะโลภเห็นคนอื่นรวยง่าย รวยเร็ว จากวิธีนั้นๆ  ก็จะฝืนทำ ความเสียหายก็จะเกิดตามมาอย่างแน่นอน เอาเป็นว่า  แต่ละคนต้องหาให้ได้ก่อนว่า จริตของเราเหมาะสมและเข้าได้ กับวิธีการลงทุนแบบไหน  แล้วก็ลองทำไปตามนั้น แต่ที่แน่ๆ ที่ผมจะไม่ยอมทำคือ ทำแล้วได้เงิน แต่ต้องเครียดมากๆ ต้องเกาะติดหุ้นตลอดเวลา ที่ไม่ยอมทำแน่ๆ  ก็เพราะว่ารุ้จักพอเพียงและพอใจ ในชีวิตการเดินทางแสวงหาเงิน  ไปตามแนวทางที่เราถนัด ถูกจริตของเรา ลองอ่านความเห็นเพิ่มเติมได้จากกระทู้นี้ครับ โดยเฉพาะ ความคิดเห็นที่ ๔ http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/topic/I12636376/I12636376.html#4 ! แก้ไขเมื่อ 11 ก.ย. 55 10:01:45 จากคุณ : endophine เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 55 09:57:47

ความคิดเห็นที่ 34 ขอบคุณครับเฮีย ^^ คืออ่านกระทู้เฮียเชียร์ซื้อตัวนี้ทีไรชอบมาก เลยต้องหาวิธีซื้อตามทู๊กที ไม่ว่ากันนะครับ ;D ซื้อตัวความสุขนะครับ แหะ แหะ   ยิ่งซื้อตามยิ่งมีความสุขถึงแม้จะคนละแนวทาง แต่ก็เล็งความสุขอันเดียวกันครับ (^/\^) ขอบคุณคร้าบบ จากคุณ : SundayroyaL เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 55 11:24:14

ความคิดเห็นที่ 35 เข้ามาอ่าน ติดกิฟต์ และโหวตค่ะ กราบขอบพระคุณสำหรับข้อคิดดี ๆ เสมอมาค่ะ จากคุณ : หวานใจกัปตัน เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 55 17:13:45

ความคิดเห็นที่ 36 จะบอกว่า ชอบกระทู้นี้มากเลยครับ ผมยังจำวันแรกที่เจอเฮียได้เลย เรื่องที่ผมประทับใจเฮียมากที่สุด ก้อคือแนวคิดเรื่องนี้ล่ะครับ การที่ทำอะไรตาม "ปัจจัยพื้นฐาน" ของตัวเอง จำไม่ได้แล้วว่าตอนนั้นคุยกันเรื่องหุ้นตัวไหน แต่เฮียบอกแค่ว่า ผมขายตัวนัน้ เพื่อมาถือตัวนี้ เพราะตัวนี้ ให้ยีลด์สูงกว่า (เผลอๆ ไอ้ตัวศรีไทยเนี่ยล่ะ) กลับบ้านไป ผมยังไปเม้าให้เพื่อนฟังเลย เพื่อนผมยังบอกว่า เฮ้ย ง่ายแค่นี้เองเหรอ(ฟร่ะ) (แล้วพวกเราทำไรอยู่ฟร่ะเนี่ย 55+) แต่จะบอกว่า เรื่องง่ายๆ แบบที่เฮียคิดนี่ล่ะ ที่ผมทำไม่ได้ เพราะปัจจัยพื่นฐานผมไม่มีแบบเฮียครับ 55+ จากคุณ : m_ple เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 55 22:50:42

ความคิดเห็นที่ 37 ขอบคุณ ทุกๆท่านที่เข้ามาอ่าน และร่วมออกความเห็นอีกครั้งครับ แก้ไขเมื่อ 12 ก.ย. 55 08:47:32 จากคุณ : endophine เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 55 08:45:43

ความคิดเห็นที่ 38 คุณเอมเปิ้ล ถ้าวันวันอาทิตย์ที่  ๑๔ ตุลาคม เที่ยงถึงบ่ายสี่โมง มีเวลาว่าง แวเะมาบรรยายเศรษฐศาสตร์มหภาค ให้เพื่อนๆ ฟังหน่อยครับ ! จากคุณ : endophine เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 55 08:46:30

ความคิดเห็นที่ 39 คุณ endophine ครับ เมื่อวานนี้ไปแถวรัชดาภิเษก  แวะไปที่ Big C     ๑. ที่ GMS ถามหา MARGIN  CALL คนขายบอกไม่เคยได้ยิน ไม่มี ฯ ปรากฎว่า วางอยู่ในชั้นใกล้กับที่เขาบอกไม่มีนั่นเอง   ๒. ที่ร้านนายอินทร์ถามหาหนังสือของ นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์ คนขายค้นในคอมพ์บอกไม่มีคนเขียนชื่อนี้  ผมต้องบอกชื่อหนังสือ " ๕ วิธีสู่วิถีชีวิตไม่ป่วย" (ซึ่งสำนักพิมพ์นายอินทร์เป็นผู้พิมพ์จำหน่ายด้วย)  ผมเคยซื้อไปเล่มหนึ่งแล้วที่สาขา มอลล์รามคำแหง  ครั้งนี้ตั้งใจจะเอาไปให้ลูกศิษย์ในงานเกษียณ ฯ ปีนี้  และมีเจ้าหน้าที่อีกคนมาค้นจึงพบว่ามี  ทั้งนี้   อาจเป็นเพราะสถานที่อาจคับแคบ  หนังสือจึงมีหนังสืออื่น ๆ วางทับ ( แต่ซื้อแพงกว่าเดิมยี่สิบบาทเพราะไม่ได้เอาบัตรสมาชิกไป มันน่าจะออนไลน์)  ที่นำมาเล่าในฐานะคุณ endophine เคยเขียนหนังสือ ว่า คนขายมีส่วนลดยอดจำหน่ายสินค้าตัวจริง  เพราะไม่อาจหาคนที่สนใจในหน้าที่ของตัวเองได้ วิธีที่ง่ายก็ปฏิเสธไม่มีไว้ก่อน จากคุณ : jinvet เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 55 11:05:16

ความคิดเห็นที่ 40 ขอบคุณพี่ jinvet  ที่เล่าให้อ่านครับ จากคุณ : endophine เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 55 11:21:59

ความคิดเห็นที่ 41 ขอบคุณเฮียมากๆ จากคุณ : C_yada เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 55 05:36:11

ความคิดเห็นที่ 42 ขอบคุณมากค่ะ อ่านแล้วมีประโยชน์มาก ๆ เลยค่ะ จากคุณ : ยังยิ้มได้จ้า เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 55 19:35:11

ความคิดเห็นที่ 43 ได้ความรู้ทุกครั้งที่เข้ามากระทู้เฮียครับ ขอบคุณครับผม จากคุณ : หลังอาน เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 55 21:13:29