ความคิดเห็นที่ 1 1. ต้องขายเมื่อครบ 5 ปี ปฏิทินค่ะ  ตอนออกกองทุนใหม่ๆ หลายๆ แห่งเขาให้ขายได้ปีละ 2 ครั้ง ด้วยซ้ำไป  แต่ตอนหลังก็เปลี่ยนเป็นขายได้ทุกวัน  คำว่าทุกวันหมายถึงเฉพาะคนที่ครบกำหนด ซึ่งบางบลจ.เขาเข้มงวด  ไม่ครบไม่ให้ขาย  บางบลจ.ไม่คุณจะขายก็ขายเลย ไม่ว่า แต่คุณไปรับ ผิดชอบเรื่องภาษีเอง  เข้าใจแล้วนะคะ 2 . ผิดค่ะ และถึงแม้ว่าคุณยังไม่ได้ใช้สิทธิทางภาษีสำหรับเงินก้อนนั้นเลย  คุณก็ต้องถูกหัก ณ ที่จ่ายอยู่ดีค่ะ 3. ปีนึงจะซื้อกี่กองก็ได้ ปีหน้าจะซื้อกี่กองก็ได้  แต่อย่าเกินสิทธิ์ก็แล้วกัน จากคุณ : ต๊อตโตะจัง เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 55 18:53:59

ความคิดเห็นที่ 2 สามารถขายคืนได้ทุกวันทำการ เพียงแต่ขายแล้วผิดเงื่อนไขการใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีหรือไม่ เป็นอีกเรื่องครับ ข้อกำหนด ของการขายคืน แล้วไม่ผิดต่อสรรพากร คือ หน่วยลงทุนที่ซื้อ จะขายคืนได้ก็ต่อเมื่อมีการลงทุนผ่านมาแล้ว 5 ปีปฏิทิน ตามเลขปี พ.ศ. โดยนับปี พ.ศ. ที่ซื้อเป็นปีที่ 1 ได้ทันที จนถึงปีที่ขายคืน คำนวณ ปีที่ขายคืน - ปีที่ซื้อ + 1 > 5 ปี โดย .... สิ่งที่ ซื้อ มา และ ขายคืน คือ จำนวนหน่วนลงทุน ไม่ใช่เงินลงทุน ดังนั้นไม่ว่าจะผ่านไปกี่วัน หรือนานเท่าไหร่ก็ตาม จำนวนหน่วยลงทุนที่ ซื้อก็จะคงที่ (ถ้าไม่สับเปลี่ยน)  ...... ดังนั้น ที่ซื้อ 10,000 บาท ค่า NAV 10 บาทต่อหน่วย จะได้หน่วยลงทุน 1,000 หน่วย พรุ่งนี้  ราคา NAV ขึ้นเป็น 11 บาท รขาย จะได้เงิน 11,000 กำไร 1,000 บาท เกินจากการขายหน่วยลงทุนทั้งหมดคือ 1,000 หน่วย นั่นหมายถึงขายหมด ไม่เหลือที่จะนำไปใช้ลดหย่อนภาษีเลยครับ ..... และเมื่อซื้อมา และขานออกไป โดยระยะเวลาการลงทุนไม่ถึง 5 ปีปฏิทิน กำไรที่ได้ (1,000 บาท) ต้องนำไปรวมเป็นรายได้ เพื่อคำนวณภาษีด้วยครับ สำหรับการซื้อ LTF เพื่อนำไปใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษี สามารถซื้อกองทุนไหน ก็ได้ จะซื้อกองทุนใหม่ หรือกองทุนเก่าที่เคยซื้อไว้แล้วก็ได้ครับ จากคุณ : pjuk เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 55 18:56:06

ความคิดเห็นที่ 3 ไม่ผิดครับ ถ้าคุณไม่นำ LTF ไปลดหย่อนภาษี กำไรที่คุณได้หักภาษี 10% ครับ แต่ถ้าคุณนำ LTF ไปหักลดหย่อนภาษีแล้ว ก็ยังสามารถขายคืนได้ครับ แต่คุณต้องเสียค่าปรับ ต้องเสียภาษีในส่วนที่หักลดหย่อนไปครับ แต่ถ้า LTF ที่คุณซื้อไปเช่นกอง A คุณนำไปลดหย่อนแล้ว ต่อมาซื้อกอง B โดยที่ยังไม่นำไปลดหย่อน ตรงนี้กอง B คุณสามารถขายคืนได้ครับ ไม่ผิดกติกา แต่ต้องเสียภาษี 10% เท่านั้นเอง จากคุณ : kjingjo เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 55 18:57:36

ความคิดเห็นที่ 4 อย่างงี้ถ้าต้องการลดหย่อนภาษี ต้องขายไม่หมดใช่ไหมครับ ต้องเหลือหน่วยลงทุนเก็บไว้บ้างใช่ไหมครับ ให้มีเหลืออยู่ในกองทุนใช่ไหมครับ ถึงจะมานำลดหย่อนได้ใ่ไหมครับ ยังมองไม่เห็นภาพ ยกเปนตัวเลขให้ดูหน่อยได้ไหมครับ เช่น ซื้อไป 10000 บาท NAV 10 บาทต่อหน่วย ได้หน่วยลงทุน 1000 หน่วย พรุ่งนี้ NAV ขึ้น เป็น 11 บาท อยากจะขาย หน่วยลงทุนคืน  500 หน่วย ได้เงินกลับมา 5500 บาท อย่างงี้ผิดเงื่อนไขไหมครับ จากคุณ : chaiwat209 เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 55 19:10:21

ความคิดเห็นที่ 5 ห้ามขายแม้แต่หน่วยเดียวครับ ไมงั้นผิดเงื่อนไขการหักภาษี จากคุณ : เขียนบน iPhone (nammak) เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 55 19:35:43

ความคิดเห็นที่ 6 10,000 บาท ซื้อ ได้  1,000 หน่วย ถ้าขายไปแล้วเหลือ 1 หน่วย ก็นำไปใช้ลดหย่อนภาษี โดยหักออกจากเกงินได้ = 1 หน่วย x 10 บาท = 10 บาท ถ้าขายแล้วเหลือ 900 หน่วย ก็นำไปใช้สิทธิ์ลดหย่อนได้ = 900 x 10 บาท = 9,000 บาท แต่จากการที่มีการขายคืน ส่วนที่ซื้อไว้ ก่อนใช้ลดหย่อนภาษี ทำให้กำไรที่เกิดจากส่วนที่ขายคืน ต้องนำไปรวมเป็นรายได้เพื่อเสียภาษีด้วยครับ แต่ถ้าทั้งหมดใช้ลดหย่อนภาษีไปแล้ว แล้วค่อยมาขายคืน ก็ต้องนำภาษีที่เสียน้อยไป ส่งคืนให้สรรพากร พร้อมดอกเบี้ย 1.5% ต่อเดือนครับ จากคุณ : pjuk เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 55 19:45:14

ความคิดเห็นที่ 7 ถ้าต้องการลดหย่อนภาษี ซื้อ 10,000 บาท ก็นำไปหักจากรายได้ก่อนการคำนวณภาษี ในปีนั้น คุณก็จะเสียภาษีน้อยลง เช่น สมมติว่าลดภาษีไปได้ 1000 บาท แต่เมื่อนำไปลดหย่อนภาษีแล้ว คุณต้องถือไว้ 5 ปี ทั้ง 1000 หน่วย จึงจะครบเงื่อนไข ถ้าคุณขายก่อนครบ 5 ปี ไม่ว่าจะขายบางส่วนหรือทั้งก้อน สรรพากรจะเรียกภาษีส่วนที่ถูกลดหย่อนคืน พร้อมค่าปรับด้วย จากคุณ : *Cookies* เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 55 19:49:52

ความคิดเห็นที่ 8 ขอบคุณมากๆครับในข้อมูล ผมมือใหม่จริงๆครับ อยากจะถามให้แน่ใจที่สุดครับไม่ชอบเป็นเหยื่อการลงทุนครับ ต้องศึกษาให้ท่องแท้ครับก่อนลงสนาม จากคุณ : chaiwat209 เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 55 19:57:09

ความคิดเห็นที่ 9 ขอถามอีกอย่างครับ ลงทุน LTF ต้องลงทุนในวงเงินไม่เกิน 15% ของเงินได้แต่ละปีใช่ไหมครับ เงินได้นี่ต้องเป็นเงินได้สุทธิหรือป่าวครับ และคำถามสุดท้ายครับ ถ้าวันนั้นเริ่มแรกลงทุนซื้อไป 10000 บาท ของ SCBLT1 ค่า NAV เป็น 10 อีกอาทิดต่อมา ซื้อของ SCBLT1 แบบเดิม อีก 10000 บาท ค่า NAV เป็น 11 อยากถามว่า การซื้อแต่ละครั้งในกองทุนแบบเดียวกัน คือจะลงทุนแยกกันคนละส่วนใช่ไหมครับ ของใครของมันในการซื้อแต่ละครั้งใช่ไหมครับ ขอรบกวนอีกนิดนึงนะครับ จากคุณ : chaiwat209 เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 55 20:05:44

ความคิดเห็นที่ 10 ห้ามเกิน 15% ของเงินได้ทั้งปี ก่อนหักค่าใช้จ่าย และค่าลดหย่อนทุกประเภทครับ และไม่เกิน 5 แสนบาทครับ การซื้อแต่ละครั้ง แม้จะเป็นกองทุนเดียวกัน ....ก็ จะแยกกัน ทั้งต้นทุน และระยะเวลาการลงทุนครับ จากคุณ : pjuk เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 55 20:32:17

ความคิดเห็นที่ 11 1.ซื้อ - ขาย ภายในปีแรกไม่ผิดสัญญา (ค่าธรรมเนียม scblt1 0.25% แต่เทรดหุ้นแค่ 0.15% เล่นเกร็งกำไร แนะนำเล่นหุ้นไปเลย เพราะ fee แพงและมี T+3 ไม่ทันใจ) 2.ขาย หลัง 5 ปี ไม่ผิดสัญญา *ลดหย่อนได้เฉพาะปีแรกที่ซื้อ 3.สมมติรายได้ทั้งปีคุณ 100,000 ลดหยอนไม่เกิน 15% = 15,000 บาท ซึ่งคุณสามารถซื้อ ltf ที่ลดหย่อนได้เต็มจำนวณ คือ 150,000 บาท ;ซื้อมากกว่าแสนห้าก็ได้ แต่ลดหยอนได้ max 15,000 บาท เหมือนเดิม 4. นโยบายกองทุน scblt1 คือ ลงทุนในหุ้น 70%, Nav จะเปลี่ยนแปลงตามดัชนี set index ในวันนั้นๆ ;จะซื้อวันนี้ หรือพรุ่งนี้ เค้าก็ยังคงลงทุนซื้อตามนโยบายกองทุนนั้นๆ จะเปลี่ยนก็แต่ Nav จะเป็น Nav เฉลี่ยของ 2 วันที่ซื้อ แก้ไขเมื่อ 10 ก.ย. 55 21:26:30 จากคุณ : มองจนได้ เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 55 21:21:54

ความคิดเห็นที่ 12 http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/topic/I12631526/I12631526.html Navของทุกวันจะอัพเดจหลังตลาดซื้อขายปิด(หลัง 16.30 น. ของทุกวัน) ซึ่งราคา Nav จะเปลี่ยนแปลงใกล้เคียงกับ set index ของทุกวัน ปล อยากรู้ว่า กองทุนนั้นๆ ลงทุนในหุ้นตัวเยอะๆกี่เปอร์เซ้น ลอง search พอตพอริโอย้อนหลัง 3 6 เดือน ได้ครับ จากคุณ : มองจนได้ เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 55 21:39:11

ความคิดเห็นที่ 13 ^ ^ ^ ... ซื้อเกิน เวลาขายแล้วกำไร ต้องเอาไปคำนวนเป็นเงินได้ เพื่อเสียภาษีด้วย จากคุณ : ปลาทูออนไลน์ เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 55 22:25:16