ความคิดเห็นที่ 1 ผมว่าบอกมันก็บอกได้แหละครับ แต่ไม่ใช่ทุกคนจะทำได้ เหมือนทำกับข้าว ผมเห็นเจ้าของร้านขนมร้านนึง ดังมาก รอคิวนานมาก เขียนหนังสือวิธีทำขนมขาย แล้วก็วางขายมันในร้านนั่นแหละ แต่คนก็ยังเข้าร้านเค้าอยู่ ซื้อไปแล้วมันก้ทำไม่ได้เหมือนเค้าหรอกครับ จากคุณ : TauRuZ_PaSSeRBy เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 55 17:19:07

ความคิดเห็นที่ 2 อาจจะบอก แต่บอกไม่หมด บอกแค่ผิวเผิน..... จากคุณ : เขียนบน iPad (sao_in_bkk) เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 55 17:20:06

ความคิดเห็นที่ 3 ทุกวันนี้ไม่มีความลับหรอกครับ ความรู้ทุกคนมีเท่ากันหมดอยู่ที่ว่าใครจะหยิบมาใช้ได้มากกว่าก็เท่านั้นครับ อีก 100 ปีข้างหน้าผมคิดว่าหาคนจนคงลำบาก เพราะจะมีแต่คนรวย จากคุณ : noteperfect เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 55 17:22:44

ความคิดเห็นที่ 4 เคล็ดลับความรวยคือเขียนหนังสือเคล็ดลับความรวย จากคุณ : ลำบากชีวิต เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 55 17:23:33

ความคิดเห็นที่ 5 เค้าบอกคับ แต่กว่าเค้าจะบอก มันก็เป็นเรื่องที่เก่าแล้วทุกคนรู้บ้างแล้ว ถ้าอยากรวยจากการฟังเคล็ดลับจากคนรวย ต้องถามและตอบตัวเองให้ได้ว่า เค้ายังไม่ได้บอกอะไรเรา จากคุณ : Embryon เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 55 17:23:43

ความคิดเห็นที่ 6 มันก็ต้องมีกั๊กๆกันบ้าง บางอย่างก็อาจเปิดเผยไม่ได้ แก้ไขเมื่อ 12 ก.ย. 55 17:27:51 จากคุณ : mulcomp เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 55 17:24:57

ความคิดเห็นที่ 7 มันก็เหมือนบอกคนที่อยากผอมอะครับ กินแต่พอดี งดของหวาน ของทอด ของมัน ออกกำลังกายอาทิตย์ละ 3-4 วัน ต่อสัปดาห์ พักผ่อนให้เพียงพอ ผมการันตีได้เลยครับ ถ้าทำแบบนี้ได้สม่ำเสมอไม่อ้วนแน่นอน ความยากของมันคือ วินัยในการทำสิ่งเหล่านี้ได้จนผอมหรือเปล่า ความรวยก็ไม่ต่างกัน พูดถึงกรณีที่ไม่ได้โชคดีเกิดมารวยหรือถูกหวยนะครับ จากคุณ : ออสระโอ เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 55 17:28:33

ความคิดเห็นที่ 8 การศึกษาสมัยนี้ สอนให้เด็กทำตามตำรา มากกว่า ออกนอกตำรา ทุกคนเรียนหนังสือ จบออกมา อยากเป็นลูกจ้าง ได้เงินเดือนดี ตำแหน่งสูงๆ มีใครอยากออกมาทำเอง ลุยเอง เป็นเจ้าของกิจการบ้างไหม จากคุณ : kasimasi เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 55 17:30:18

ความคิดเห็นที่ 9 1# เปรียบเทียบดีครับ คนทำอาหารเก่งเขียนตำราอาหารใช่ว่าแม่บ้านจะทำอร่อยเท่าหรืออร่อยกว่า ตาม 6# บอก รวมถึงเฮงด้วยครับ บางคนเขาเก่ง+เฮง ขาดอันใดอันหนึ่งไม่ได้เลยนะครับ จากคุณ : .NetMagic เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 55 17:30:28

ความคิดเห็นที่ 10 เปิดเผยไม่ได้ เพราะอมฮอลล์ซอฟท์ใหม่อยุ่ จากคุณ : MANHATTAN เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 55 17:34:40

ความคิดเห็นที่ 11 คนที่มี dynamical จะสำเร็จ... จากคุณ : bitter sugar เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 55 17:34:51

ความคิดเห็นที่ 12 ต่างเวลา ต่างความคิด ต่างนิสัย ต่างสถานะ ต่างฐานะ ฯลฯ แค่นี้ก็ทำให้คนเราแตกต่างแล้วค่ะ แต่ "ความแตกต่าง" ทำให้เกิด "การเปลี่ยนแปลง" จากคุณ : nannan47 เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 55 17:37:58

ความคิดเห็นที่ 13 #10 เพราะอาจมีเรื่องกับสรรพากรนะฮ๊าฟฟฟฟ  จากคุณ : mulcomp เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 55 17:38:50

ความคิดเห็นที่ 14 นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ(มากๆ) กับ นศ.หรือคนทั่วๆไปที่ชอบอ่านหนังสือ"พ่อสอนลูกรวย"อ่านจบเป็นสิบๆเล่มก็ไม่เห็นจะรวยสักที --' เพื่อนๆคิดว่า อะไรคือ ความต่าง ??? --- จากคุณ : Gretchen   ^ ความแตกต่างคือคนแรกลงมือทำ แต่อีกคนเอาแต่ฝันว่าจะรวย ทางไปสู่ความมั่งคั่งมันไม่ได้ลับอะไร เค้ารู้กันมาหลายพันปี  ทั้งชาวตะวันตก ชาวตะวันออก ใครๆก็รู้ได้ แต่น้อยคนลงมือทำได้อย่างสม่ำเสมอ "ความขยัน ความมีวินัย ความประหยัด ความไม่ฟุ้งเฟ้อ  หามากกว่าใช้ สะสมทรัพย์สินดี ไม่ประมาท" จากคุณ : เต่าหยวนเปียว เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 55 17:39:06

ความคิดเห็นที่ 15 ชีวิตไม่ใช่สูตรสำเร็จครับ ความรู้ก็ต่างกัน นิสัยก็ต่างกัน ประสบการณ์ก็ต่างกัน สถานะการณ์ก็ต่างกัน คงยากที่จะประสบความสำเร็จโดยการเลียนแบบอย่างเดียว คงต้องนำไปคิดตามเพื่อเป็นแรงบันดาลใจมากกว่า จากคุณ : พ่อน้องนา เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 55 17:39:25

ความคิดเห็นที่ 16 1 ในเคล็ดลับความรวยคือ ลงมือทำครับ ผมเที่ยบกับเพื่อนคนนึงที่เคยเรียนมาด้วยกัน พื้นฐานทางบ้านใกล้เคียงกัน เพื่อนผมจบมาไม่เคยสมัครทำงานประจำที่ไหนมาก่อน เริ่มทำธุรกิจส่วนตัว เริ่มจากเล็กๆ ลองเปลี่ยนทำธุรกิจหลายๆอย่าง สุดท้ายเจอในสิ่งที่ใช่ ตอนนี้เป็นเจ้าของธุรกิจขนาดกลางที่ดูดี มีอนาคต มีลูกน้องหลายสิบคน ส่วนผม ตามสูตรคนจบตรีส่วนมาก สมัครเข้าทำงานประจำกับบริษัทเอกชน เรียนต่อโทเพื่อเพิ่มความรู้และเพิ่มโอกาสในการหางาน ทำงานนานๆ เงินเดือนก็จะเพิ่มตามประสบการณ์ ถามว่ารายได้ดีไหม ก็ต้องตอบว่าดี แต่ถ้าถามว่าจะรวยไหม คงตอบว่าคนทำงานออฟฟิศอย่างเดียว คงจะนับว่าเป็นคนรวยได้ยาก แถมคนที่ทำงานประจำได้เงินเดือนสูงๆจะมีปัญหาเรื่องติดกับดักของเงินเดือน คิดอยากจะออกไปทำอะไรเอง ก็จะมากังวลว่ารายได้ต่อเดือนจะน้อยกว่าเงินเดือนที่ได้ตอนนี้ไหม รายได้ต่อเดือนจะมั่นคงได้แน่ๆแบบเงินเดือนไหม สำหรับผม เคล็ดลับความรวยที่รู้ แต่ยังไม่ได้ทำ คือ ยังไม่ได้ลงมือทำอะไรเลย ......ยกเว้น พยายามลงทุนในหุ้นนี่แหละ :-) จากคุณ : new แมงเม่า เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 55 17:40:18

ความคิดเห็นที่ 17 ผมก็ อ่านหนังสือพ่อรวยสอนลูก ครับ เป็นแรงบันดาลใจ ตั้งแต่ สมัยเมื่อหลายปีมาแล้ว   ปัจจุบัน ผมถือว่าตัวเอง มีอิสรภาพทางการเงินแล้วครับ ผมคิดว่า สูตรแห่งความรวยมันจะมาอัตโนมัติ เหมือนปลูกต้นไม้หนะ ต้องอดทน และตั้งใจจริง  วิธีที่จะรวยนั้นมันไม่ยากหรอก เป็นวิธีที่ง่ายๆ ไม่ซับซ้อน แต่ทำจริงนั้นยาก ยากมากๆ สมมุติให้  เมสซี่ เขียนวิธีเล่นฟุตบอลให้เก่ง คุณว่าถึงคุณอ่านจบ10รอบ คุณจะเล่นเก่งเหมือนเมสซี่มั๊ย .........มันก็เหมือนๆกันหนะครับกับหนังสือการลงทุน ที่อ่านวิธีการได้ แต่ปฎิบัติจริงยาก อยู่ที่คนๆนั้นด้วย จากคุณ : เชน (zgm1111) เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 55 17:40:30

ความคิดเห็นที่ 18 เอิ่ม มันไม่ใช่แค่ดวงนะ หรือไม่ใช่แค่โชคดีด้วย คนสมัยก่อนอาจจะโชคดีในแง่ที่ว่าขยันซื่อสัตย์อดทน รู้จัก้ข้าหาคนใหญ่คนโตเท่านั้น แต่พวกเขาเหล่านี้มี "มุมมอง" ค่ะที่ไม่เหมืินคนทั่วไป ไม่ใช่เขาไม่สอน ไม่เปิดเผย เพียงแต่มันอยู่ที่คุณจะทำได้แบบเขาหรือเปล่า บางเรื่องถึงจะรู้ก็ไม่ทำก็เยอะแยะไป หรือบางเรื่องเหมือนเรื่องธรรมดา แต่ขอโทษเหอะ พอโอกาสมาคุณ กล้าจะทำได้อย่างเขาหรือเปล่า ยกตัวอย่าง คุณตันคุณกล้าที่จะออกจากระบบ ที่มั่นคงที่ล้อมคุณอยู่หรือเปล่่า คุณมีมุมมองเหมือนเขาหรือเปล่า. คุณกล้าที่จะล้มมั้ย เอาง่ายๆนะคะ คนส่วนมากยังไม่กล้าออกจากระบบกันเลย จากคุณ : amakin เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 55 17:40:35

ความคิดเห็นที่ 19 บอกแล้วมีประโยชน์อะไรจ๊ะ จากคุณ : คุณดี. ซี. เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 55 17:41:38

ความคิดเห็นที่ 20 #1 กับ #7 นิยามไว้ถูกต้องตามความคิดของผม จากคุณ : basic10th เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 55 17:42:26

ความคิดเห็นที่ 21 ไม่แปลกที่คุณ จขกท. คิดว่าคนส่วนใหญ่ที่รวยมากๆได้มาเพราะฟลุ้ก ถ้าคุณมอกออกว่าทำไมคนรวยเหล่านั้นรวย คุณคงจะรวยเช่นกัน การบริหารธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ ไม่ได้มาเพราะโชคช่วย แต่มันเป็นส่วนผสมของความสามารถที่ไม่ใช่แค่ความรู้ในตำรา เงินทุน ความมั่นใจ การเมือง การบริหารบุคลากร เป็นต้น สิ่งที่ผมกล่าวนักศึกษาระดับด็อกเตอร์ก็ไม่มี คุณ จขกท. เคยสงสัยมั้ยทำไมผู้บริหารเงินเดือนหลายแสน ทำหน้าที่แค่เซ็นเอกสารวันละแผ่นสองแผ่น จากคุณ : Securesoft เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 55 17:49:52

ความคิดเห็นที่ 22 คนรวยไม่ใช่คนที่ผิด ไม่ใช่คนไม่ดีนะครับ คนรวยส่วนใหญ่ไม่ได้ฟลุคหรอกครับ ส่วนใหญ่มากจากบุคคลิก นิสัย และโอกาสทั้งนั้น ขยัน อดออม รู้จักขวนขวานหาความรู้ ใฝ่ดี จิตใจดี เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ช่วยเหลือและให้โอกาสผู้ที่ด้อยกว่าอยู่เสมอ รู้จักใช้โอกาสที่มีให้เป็นประโยชน์ สุภาษิตนี้ยังใช้ได้เสมอนะครับ 1. อย่านอนตื่นสาย 2. อย่าอายทำกิน 3. อย่าหมิ่นเงินน้อย 4. อย่าคอยวาสนา จากคุณ : tasuko เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 55 17:56:38

ความคิดเห็นที่ 23 ต่อให้บอกหมดก็ทำไม่ได้เหมือนเขาหรอกครับถ้าคุณไม่เข้าใจถ่องแท้ในแบบของเขา จากคุณ : Exzion เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 55 18:00:01

ความคิดเห็นที่ 24 ส่วนหนึ่งจากความเห็น #14 เห็นด้วยครับ ที่บอกว่าเค้ารู้กันมาเป็นพันปี เพียงแต่มีโอกาส มีความกล้าหรือไม่ สิบคนกล้า ก็มีห้าคนตาย สามคนล้มละลาย หนึ่งคนพอได้ มีคนเดียวที่สำเร็จ ลองอ่าน ซุนวู สามก๊ก หรือ นิยายอิงประวัติศาสตร์ มันสอดแทรกอยู่ในนั้้น เช่นธุรกิจที่ร่ำรวยคือ ธุรกิจผูกขาด ธุรกิจที่กำไรงามคือบ่อนและซ่อง ปัจจัยสี่คือของตาย มีวิกฤกสงครามมันจะมา กั๊กตุน ปิดกัน หนีภาษี เช่นพวกเกลือเถื่อน ของฟุ่มเฟือยคือของกำไรงาม เพราะลูกค้าต้องรวย หรือ กิเลศหนา กาลเวลาเปลี่ยนแปลง แต่หลักการเหมือนเดิม ปัจจัย4 กลายเป็น 4++มือถือ อินเตอเนท วิถีชีวิต เช่น apple รวยไม่ใช่เพราะขายโทรศัพท์ มันคือ lifestyle มีแล้วติด ใช้ดำรงชีพ เพราะแอพที่มันทำให้คุณขาดไม่ได้เช่น streamingpro map safari youtube line ibanking  เป้นต้น ในประเทศเราคนที่รวยคือกล้าที่จะทำเสนอผลประโยชน์ที่จะได้สัมปทาน และ ดูแลธุรกิจด้วยการเล่นการเมือง ดึงผู้มิอิธิพลมาเป็นลูกน้อง จ่ายงบประมาณเพื่อซื้อพรรคพวก ดูเจ้าของหุ้นตัวใหญ่หรือรายชื้อทั้งหลายท่านก็ทราบ ผมว่าถ้าทำให้ตัวเองเป็นอิสระทางการเงิน อยู่อย่างคนธรรมดา ชีวิตจะมีความสุขกว่า อย่าไปรวยมากขนาดนั้นเลย มันต้องแลกเยอะเกินไป จากคุณ : สายลมที่อ่อนใหว เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 55 18:03:53

ความคิดเห็นที่ 25 ใช้ให้น้อยกว่าที่หาได้ แค่นี้เอง รวยแน่นอน บางคนอ่านหนังสือเป็นตั้งๆ ก็ทำตามไม่ได้ครับ ผมมีเงินก็เพราะใช้แต่ของเก่าๆ ถูกๆ ใครจะมองยังไงผมก็ไม่แคร์ ไม่เห็นจะยาก ส่วนเรื่อง รวยมากรวยน้อย อย่าเพิ่งคิด ก่อนอื่นต้องไม่สร้างหนี้ และไม่มีหนี้ อันนี้สำคัญ จากคุณ : bomz เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 55 18:03:58

ความคิดเห็นที่ 26 คุณลงทุนธุรกิจสิ อย่าเล่นไพ่,ไฮโลรายวัน จากคุณ : นักลงทุน999 เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 55 18:15:37

ความคิดเห็นที่ 27 วิธีคิด โอกาส และจังหวะ คือปัจจัยสำคัญ จากคุณ : SLK55AMG เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 55 18:21:06

ความคิดเห็นที่ 28 แต่เราก็สงสัยว่า ทำไมเขาไม่รวย ??? o.O ทำไมเขาถึงเป็นแค่พนักงานธนาคาร และไม่ได้ประกอบธุรกิจอะไรเลย ?? (ตอนนั้นเราเรียนสายวิทย์นะ แต่เราก็ชอบสงสัยว่า ทำไมเด็กบริหารเขาถึงไม่รวย >< ทั้งๆที่เขาเรียนเกี่ยวกับธุรกิจ เกี่ยวกับเงิน) แสดงว่า มันต้องมีอะไรสักอย่าง ที่เป็น "ความแตกต่าง" ระหว่าง 1. นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ(มากๆ) กับ นักศึกษาที่เรียนบริหารและจบไปเป็นแค่พนักงานบริษัท 2. นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ(มากๆ) กับ นศ.หรือคนทั่วๆไปที่ชอบอ่านหนังสือ"พ่อสอนลูกรวย"อ่านจบเป็นสิบๆเล่มก็ไม่เห็นจะรวยสักที --' >>>>>>  จขกท  ก็ได้คำตอบแล้วไม่ใช่เหรอ  ------ 1. พนักงานบริษัท กับคนทำธุรกิจเอง  จะไปเทียบกันได้ยังไง 2. นักธุรกิจ กับคนที่นั่งอ่านหนังสือแล้วไม่ลงมือทำ  จะไปเทียบกันได้ยังไง อีกเรื่องคือ  ความฟลุ๊ค  ของบอกว่าไม่จริง  ถ้าคุณไม่เอาตัวเองไปอยู่ในช่วงเวลาและโอกาส  ปละความสามารถของตัวคุณเอง  ช่วงที่เหมาะสมในการจะประสบความสำเร็จ  มันไม่มีคำว่าฟลุ๊คหรอก  ที่คนรวยบอกว่าตัวเองฟลุ๊คนะเค้าถ่อมตัว  เช่น  คนเล่นหุ้นชอบพูดว่า  ถ้าตัวเองมีเงินไปช้อนหุ้นตอน subprime ป่านนี้รวยไปแล้ว  คนที่ได้หุ้นตอนนั้นมันฟลุ๊คกัน  จริงหรือ  ไปย้อนอ่านกระทู้เก่าสิ  แล้วไปดูอารมณ์ตลาดตอนนั้นดูว่าถ้าเป็นตัวเอง  แน่ใจเหรอว่าแค่มีเงินแล้วจะรอดมาได้  คนรู้จักหลายคนที่เจ๊งหนักๆตอนนั้นเดินออกจากตลาดไปแล้วไม่เคยกลับมาแก้ตัวได้อีกเลย เพราะมีเงินแยะแล้วเจ๊งหมดตูด จากคุณ : tjlove เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 55 18:33:23

ความคิดเห็นที่ 29 ผิดตั้งแต่คิดว่ารวยเพราะ ฟรุ็คแล้วครับทุกความรวยเริ่มจากความลำบาก อดทน ขยัน ทั้งนั้นครับ ส่วนพวกที่ได้รับการส่งต่อความรวยมาจากบรรพบุรุษ เค้าถือว่าโชคดีกว่าคนอื่นเท่านั้นเอง แต่ถ้าไม่เก่งสักพักก็หมดครับ คนที่คิดว่าการเป็นคนรวยมันง่ายเพราะมองแต่ภายนอกเห็นความสะดวกสะบาย แต่ตั้งแต่เกิดจนถึงทุกวันนี้ผมยังไม่เคยเห็นคนรวยสบายเลยสักกะคนเดียวครับ จากคุณ : amnuaysilpa 63 เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 55 18:38:21

ความคิดเห็นที่ 30 ให้สังเกตุดู คนที่ประสบความสำเร็จมากๆ มักจะล้มเหลวมามากเช่นกัน ฉะนั้นก่อนจะรวยต้องเจ๊งก่อน แต่ปัญหาคือจะมีกี่คนที่ต่อสู้ และไม่ยอมล้มตลอดไป จนกลับมารวยได้และความลับอีกอย่างคือ เขาลักไก่หรือโกง แต่ไม่มีใครจับได้ คนเก่งไม่มีหรอกครับ แต่อาศัยจังหวะกับโอกาส และกล้าที่จะเสี่ยงคือลงมือทำ เป็นพนักงานบริษัทหรือลูกจ้างที่มีรายได้ประจำ ความเสี่ยงน้อยกว่าเจ้าของกิจการแบบเทียบกันไม่ได้เลยนะครับ แก้ไขเมื่อ 12 ก.ย. 55 18:44:49 จากคุณ : นิยมวัตถุ เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 55 18:41:39

ความคิดเห็นที่ 31 อยากรวยต้องทำยังไง ไม่ใช่ความลับนะ มีชีวประวัติคนรวยให้หาอ่านได้เยอะแยะ แต่คนที่รู้แล้ว แต่ไม่รวย เพราะไม่ลงมือทำมากกว่า จากคุณ : Horizon Blue เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 55 18:54:27

ความคิดเห็นที่ 32 เคยได้ยินคาถา " 5 ถึง " บ้างไหมละ? จากคุณ : มีหล่อซู (ทีหล่อซู) เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 55 19:11:29

ความคิดเห็นที่ 33 เหล่าศิษย์ถามอาจารย์เซนว่า "ท่านอาจารย์ ทำอย่างไรจึงจะประสบความสำเร็จ?" อาจารย์เซนตอบว่า "วันนี้พวกเจ้าจะได้เรียนรู้ในสิ่งที่ธรรมดาที่สุด และง่ายดายที่สุด นั่นคือให้ทุกๆ คน แกว่งมือไปข้างหน้าให้ไกลที่สุด จากนั้นแกว่งกลับไปด้านหลังให้ไกลที่สุด" กล่าวจบจึงปฏิบัติให้เหล่าศิษย์ดูเป็นตัวอย่าง 1 รอบ จากนั้นกล่าวต่อไปว่า "นับตั้งแต่วันนี้ พวกเจ้าจงทำเช่นนี้ติดต่อกันวันละ 300 ครั้ง ทุกๆ วัน ทุกคนสามารถทำได้หรือไม่?" บรรดาศิษย์เซน พากันสงสัย เอ่ยถามว่า "พวกเราต้องทำเช่นนี้ไปเพื่ออะไร?" อาจารย์เซนชี้แจงว่า "หากพวกเจ้าสามารถปฏิบัติได้สำเร็จ อีก 1 ปีให้หลังพวกเจ้าจะทราบถึงหนทางที่นำไปสู่ความสำเร็จ" เหล่าศิษย์ล้วนคิดตรงกันว่า "เรื่องง่ายๆ เช่นนี้ ใครๆ ก็ย่อมทำได้" จากนั้นจึงเริ่มปฏิบัติ เวลาผ่านไป 1 เดือน อาจารย์เซนถามเหล่าศิษย์ว่า "การแกว่งแขนที่ข้าให้พวกเจ้าปฏิบัติ มีใครยังทำต่อเนื่องอยู่บ้าง?" ศิษย์เซนส่วนใหญ่ต่างตอบด้วยความภาคภูมิใจว่า ยังปฏิอยู่ อาจารย์เซนจึงผงกศีรษะด้วยความพอใจ พลางกล่าวว่า "ดีมาก" เวลาผ่านไปอีกเดือนหนึ่ง อาจารย์เซนเอ่ยถามอีกครั้งว่า "ยังมีกี่คนที่แกว่งแขนอยู่?" ปรากฏว่ามีศิษย์เซนประมาณครึ่งหนึ่งที่ยังคงปฏิบัติอยู่ ส่วนที่เหลือกว่าครึ่ง ล้วนถอดใจล้มเลิกไปแล้ว เมื่อครบเวลา 1 ปีที่กำหนด อาจารย์เซนจึงได้สอบถามเหล่าศิษย์อีกครั้งว่า "กิจกรรมแกว่งแขนอันแสนง่ายดายนี้ ใครยังคงทำอยู่บ้าง?" ในครั้งนี้ มีศิษย์เพียงผู้เดียวที่ชูมือขึ้นและกล่าวด้วยความภาคภูมิใจว่า "อาจารย์ ข้ายังทำอยู่" อาจารย์เซนจึงกล่าวกับศิษย์ทั้งหมดว่า "ข้าเคยบอกพวกเจ้าว่าเมื่อภารกิจนี้สิ้นสุด พวกเจ้าจะทราบถึงหนทางที่นำไปสู่ความสำเร็จ ที่ข้าอยากจะบอกพวกเจ้าก็คือ ในโลกนี้สิ่งที่ทำได้ง่ายดายที่สุดก็มักจะเป็นสิ่งที่ทำได้ยากเย็นที่สุด และสิ่งที่ยากเย็นที่สุดก็สามารถจะกระทำได้อย่างง่ายดายเช่นกัน ที่บอกว่ามันง่ายดาย เนื่องเพราะขอเพียงยอมลงมือทำ ใครๆ ก็สามารถทำได้ แต่ที่บอกว่ามันยากเย็นก็เพราะผู้ที่สามารถยืนหยัดกระทำอย่างต่อเนื่องยาว นานนั้นกลับมีไม่มาก ปัญญาเซน : ความสำเร็จที่จริงแท้ มาจากการฝึกฝน ยืนหยัดปฏิบัติ อย่างต่อเนื่องสมํ่าเสมอ จากคุณ : ExpressNet เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 55 19:30:12

ความคิดเห็นที่ 34 เคยได้ยินไหมครับ ขยัน อดทน ไม่มีวันอดตาย แต่ถ้าจะรวย ต้องมีวาสนา นี้คือเรื่องจริง ที่คนทั้วไปหาว่าเลอะเทอะ เก่งไป ขยันไป อดทนไป มีครบแต่ไม่รวย ทำไรก็ไม่รุ่ง หรือคิดต่างบางทีก็ไม่ได้ทำให้เราแต่ต่าง หรือประสบความสำเร็จนะครับ เพราะดวงมันมาแค่นี้ครับ ไปดูซิครับ ก่อนปั่นหุ้นตัวไก่ เจ้าสัวคงคำนวนเเล้ว ว่าดวงเหนือดวง ว่าจะเอาชนะเม่าได้ กำไรเป็นกอบเป็นกำ เจ้าสัวทำไร มีซินแส ตลอดนะครับ จากคุณ : addot เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 55 19:36:32

ความคิดเห็นที่ 35 ถ้ารวยกันหมด......แล้วใครจะจนครับ ปล.ขอร้องให้ราชบัณฑิตยสถาน ยกเลิก คำว่า "จน" และใช้คำว่า "ไม่รวย" ในพจนานุกรม (อย่างน้อยก็มีคำว่ารวยอยู่ในนั้นแหละว้า......) 555 จากคุณ : isaranew57 เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 55 19:41:52

ความคิดเห็นที่ 36 วัดกันที่รวย จน อย่างเดียวไม่ได้ เนื่องจาก คนรวยมีหลายจำพวก  รวยเพราะเส้นสายดี  รวยเพราะเข้าหาผู้หลักผู้ใหญ่เก่ง  รวยเพราะทำอาหารเก่ง เปิดร้านอาหารได้ใหญ่โต  รวยเพราะมุบมิบเรื่องยักยอกเก่ง  ตัวอย่างคนรวยเหล่านี้ จะหาได้มากในประเทศไทย     แต่คนรวยประเทศอื่นๆ เขาก็เป็นลักษณะอย่างอื่น เช่น รวยเพราะฉลาด รวยเพราะมีความมุ่งมั่น    ถ้าจะให้ คนรวยเพราะฉลาด เพราะความมุ่งมั่น มาเกิดและโตในเมืองไทย  เขาเหล่านั้นก็อาจจะกลายเป็นคนจนไปโดยปริยาย  เพราะสิ่งแวดล้อมมันต่างกัน   หรือ ถ้าให้คนรวยในเมืองไทย อย่างเช่น รวยเพราะยักยอกทุจริต หรือ รวยเพราะเส้นสายดี ไปอยู่ในประเทศอื่น ก็อาจจะกลายเป็นคนจนก็ได้  เพราะประเทศอื่น เขาก็มีวัฒนธรรมที่ไม่เหมือนกับประเทศไทย จากคุณ : The Peak เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 55 20:06:56

ความคิดเห็นที่ 37 เอาแบบใกล้ตัวเลยนะ คุณเคยตั้งใจอ่านหนังสือสอบมากๆหรือเปล่า แต่ทำไมไม่ได้คะเต็ม ทำไม่ทำไม่ถูกหมดทุกข้อ แล้วทำไม่เพื่อนที่คุณคิดว่าเขาอ่านหนังสือน้อยกว่าหรือเท่ากับเราถึงได้คะแนนมากกว่า คุณสงสัยหรือเปล่า ก็เหมือนกันการที่คนๆหนึ่งจะประสบความสำเร็จได้มันต้องประกอบด้วยหลายๆอย่าง ความสามารถ โอกาส และจังหวะเวลา จากคุณ : เขียวเขียว เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 55 20:19:42

ความคิดเห็นที่ 38 คนเราไม่ได้รวยเพราะ ขยัน มานะ อดออมครับ ทำไมโรงเรียนจะไม่สอนให้คนเป็นลูกจ้าง ก็ขนาดคนสอนยังเป็นลูกจ้างเลย ^ ^ คนเรารวยเพราะ พอ พอเมื่อไหร่รวยทันที แสนล้านไม่หยุดดิ้น ก็ไม่รวยครับ จากคุณ : มะลิ บาน บาน เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 55 20:31:33

ความคิดเห็นที่ 39 <เพิ่มเติม> ลืมตอบคำถาม คนรวยแล้วไม่บอกก็มี แต่บังเอิญผมเจอคนรวยที่บอกเนี่ยสิ ^ ^ครูผมเองแหละ จากคุณ : มะลิ บาน บาน เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 55 20:36:42

ความคิดเห็นที่ 40 เค้าก็บอกๆ แต่พันเปอร์เซนต์ บอกไม่หมด จากคุณ : ช้างแดง_1 เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 55 21:31:18

ความคิดเห็นที่ 41 ถ้าผมรวยแล้วจะบอก จากคุณ : พระจันทร์เต็มดวง เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 55 22:34:56

ความคิดเห็นที่ 42 ขอโทษนะครับที่ จขกท.บอกว่า คนรวยที่เป็นคนไทย ส่วนใหญ่คือ ฟลุค!  <<<< ผมว่าเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่าใครมันจะฟลุ๊คครับ มันเกิดจากความตั้งใจทำครับ ไม่งั้นเค้าไม่ทำหรอก  ถ้าฟลุ๊คก็ถูกหวยชุด 30-40 ใบ รวย 100 ล้านครับ จากคุณ : คุณหนูตื่นสาย เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 55 23:18:45

ความคิดเห็นที่ 43 ทั่วๆไปคนรวยมีคุณสมบัติตามความเห็น 12 และ 22 ครับ คนรวยอยู่ที่พฤติกรรมที่แตกต่าง การใช้ชีวิตที่แตกต่าง การเข้าใจความเสี่ยง ของยังงี้สอนกันไม่ได้ มันฝังมาในนิสัย สอนกันได้ก็รวยกันหมดแล้ว คุณสมบัติเพิ่มเติมคือส่วนใหญ่จะมีคนเกือบจะรวยแต่ไม่รวยอยู่เยอะครับ ก็คือพอมีเงินก็เริ่มใช้แสดงฐานะแสดงความมั่งคั่งเนื่องจากเข้าใจผิด เห็นคนอื่นทำได้มีได้ เป็นการตัดโอกาสตัวเองอย่างมาก ซึ่งช่วงนี้เป็นช่วงที่ปริมาณเงินของคุณสามารถเพิ่มขึ้นในอัตราเร่ง แต่คุณกลับทำตรงกันข้ามคือไปทำให้มันลดในอัตราเร่งครับ ลองดูเหตุหลักๆที่ทำให้เงินลดโดยอัตราเร่งนะครับ -รถยนต์หรูคันละ 2-3 ล้านขึ้นไป -บ้านจัดสรรหลังละ 20 ล้านขึ้นไป -การลงทุนขยายกิจการให้เป็นหน้าเป็นตาโดยไม่เข้าใจความเสี่ยง น่าจะมีหลักๆเท่านี้ที่เป็นปัจจัยหลักในการลดเงินของคุณ สมมุติคุณมีเงินสด 30 ล้านขึ้นไป แล้วทำทั้งสามอย่าง เงินคุณก็ลดหายไปเป็นจำนวนมากแล้วครับ ผมว่าเงินสดประมาณ 30 ล้านเป็นจำนวนเงินพอดีที่จะทำให้คุณรวยขึ้นในอัตราเร่งเป็น 100 ล้านได้ภายในไม่ถึง 15 ปีครับ โดยวิธีง่ายๆคือการวางเงินในที่ๆดอกเบี้ยสูงกว่าเงินฝากประจำนิดนึง บวกกับเงินรายได้ต่อปีสัก 2 ล้านบาททุกปี เท่านี้ก็จะเป็นร้อยล้านได้อย่างง่ายดายครับ คุณสามาถเพิ่มรายได้โดยการทำทรัพย์สินให้สร้างรายได้ เช่นการให้เช่าที่ดิน ตึกแถว บ้าน ที่มีอยู่ อีกทางหนึ่งอย่าปล่อยให้ไม่ทำเงินครับ ผมเห็นคัวอย่างคนที่มีหลักพันล้านเขาก็ขับรถธรรมดาทั่วไปพวกแคมรี่ 2.0 แอคคอร์ด หรือ เทนน่า บ้านก็เน้นปลูกบนที่ดินตัวเอง บ้านเล็กที่ใหญ่เน้นมูลค่าที่ดินในอนาคต นิสัยอันนี้ก็ติดมาจนมีเงินเป็นพันล้านแล้วก็ยังแก้ไม่หาย หุหุ อันนี้ก็ขึ้นกับว่าคุณทำได้ไหม ผมไม่ได้บอกว่าไม่ให้ใช้เงิน แต่อย่าใช้หนักไปที่ 3 อย่างข้างต้น คุณมีเงิน 30 ล้าน คุณจะซื้อเครื่องอำนวนความสะดวกอะไรหรือไปเที่ยวต่างประเทศปีละหลายครั้งมันก็ไม่ทำให้เงินต้นคุณลดลงหรอกครับ เอาเงินไปใช้ชีวิตดีกว่าไปแบกภาระทั้งบ้านรถโรงงาน หนักๆทั้งนั้น จากคุณ : son of rich เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 55 23:47:52

ความคิดเห็นที่ 44 แล้วแต่คนครับ บางทีบอกไป ก็ทำไม่ได้ บางทีบอกไป คนฟังหาว่าบ้าก็มีอีก บางทีบอกไป โดนหัวเราะใส่หน้า (ว่าพี่โกหกผมอะดิ) หลายๆ ทีเลยไม่รู้จะบอกไปทำไม ถ้าไม่ถามจริงๆ เรื่องฟลุ๊คไหม ผมไม่ทราบ ไม่ขอออกความเห็น แต่ผมเชื่ออยู่หนึ่งอย่างคือ คนโชคดี = คนที่พร้อม + มีโอกาส ถ้าเราทำตัวให้พร้อมจริง "โอกาสนั้นสร้างได้" ถ้าพร้อมจริง และ สร้างโอากาสได้ ก็จะเป็นคนโชคดีตลอดครับ จากคุณ : มือเก่าหัดขับ เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 55 00:31:58

ความคิดเห็นที่ 45 ผมว่า .. คนรวย , คนที่ประสบความสำเร็จ .. เค้าก็บอกเกือบทั้งหมด (แต่ไม่บอกทั้งหมด) ความรู้บางอย่าง .. ไม่สามารถสอนกันได้ .. ต้องเรียนรู้ และ หาทางเข้าใจมัน ด้วยตัวเราเอง .. จริง ๆ แล้ว .. คนที่อ่านหนังสือ พ่อรวยฯ แล้วไม่รวยซักที .. เป็นเพราะ .. พวกเค้า อ่าน อย่างเดียว .. คือ อ่านแล้วได้แรงบันดาลใจจริง .. แต่ .. ไม่ยอมลงมือปฏิบัติอะไรซักอย่าง .. เหมือนอ่านหนังสือออมเงิน .. อ่านอยู่นั่นแหละ .. แต่ตัวเอง ก็ออมเงินไม่ได้อยู่ดี .. เพราะอ่านเสร็จ .. ออกจากบ้าน .. เพื่อนพาไปเดินห้าง .. เจอของฟุ่มเฟือย แต่ถูกใจเรา .. มีหรือ จะอดใจไหว .. ตังค์ก็พอมีอยู่ .. เลยจัดมาซะ .. ในหนังสือชุด พ่อรวยฯ .. จะมีประโยคนึง ที่เค้าจะบอกบ่อยมาก ๆ คือ .. "คิด ทำ มี" "คิด" ใคร ๆ ก็คิดได้ .. แต่คิดอย่างเดียวก็ไม่เกิดประโยชน์ .. ต้อง "คิด" แล้ว "ทำ" .. พอ "ทำ" แล้ว เราถึงจะ "มี" "คิด ทำ มี" ... (คิด + ทำ = มี) จากคุณ : ห ล่ อ ทุ ก อ ณู รู ขุ ม ข น เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 55 09:24:04

ความคิดเห็นที่ 46 ผมเห็นคนรวยที่มีชื่อเสียงและมีการออกสื่อมาบ้าง โดยเฉพาะเกี่ยวกับเรื่องหุ้นและบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เนี่ย วิศวฯ จุฬา เพียบเลยนะครับ น่าทึ่งจริงๆ จากคุณ : 2ndHand_Fanclub เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 55 17:39:27

ความคิดเห็นที่ 47 เค้าบอกในสิ่งที่เรายังไม่รู้ในอดีต ซึ่งในปัจจุบันเราอาจจะรู้แล้ว แต่เราย้อนเวลากลับไปทำแบบเค้าไม่ได้ เหมือนกะว่าเค้าคาดการแนวโน้มว่าอนาคตจะเป็นอย่างไรแล้วลงมือทำ จากคุณ : เม่าอสูร (Jenjutakarn) เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 55 19:31:31

ความคิดเห็นที่ 48 หา The Richest Man in Babylon มาอ่าน เคยเห็นในกระทู้เก่าๆ ด้วยมั่ง จากคุณ : Spetsnaz เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 55 19:47:05