ความคิดเห็นที่ 1 แต่ปัญหาของ VI มือใหม่ คือ... การหาราคาที่แท้จริงของหุ้นแต่ละตัว..  ทำยังไงให้สามารถหาได้อย่างแม่นยำ เพราะไม่งั้น จู่ๆ ไปซื้อหุ้นไม่ดูตาม้าตาเรือ... BANPU 700, PTT 400 ก็ดอยกัน ไม่รู้ว่ามันจะไปถึงที่เก่าหรือไม่.. ผมว่า... ทั้ง VI ทั้ง TA ต่างก็เก็งกันทั้งนั้น TA เก็งราคา ส่วน VI เก็งผลประกอบการในอนาคต  ถ้าบริษัทเป็นไปตามที่เก็งก็ดีไป.. แต่ถ้าเก็งผิด.. ?? ทนถือเพื่อรอให้วันนึงมันจะกลับมาที่เก่าเหรอครับ ?? จากคุณ : หมอก้อนหิน เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 18:56:03

ความคิดเห็นที่ 2 ผมว่า ที่คุณว่า มันขัดกัน ตรงที่ว่า  วิธีเล่น 1.ซื้อให้ถูกจังหวะ (ราคาต่ำๆ) 2.ขายเมื่อแพง (ราคาสูงๆ) เทคนิค ใจเย็นๆ ไม่ต้องสนใจราคามาก รอเป็น ไปทำอย่างอื่นซะ !!!   บอกให้ซื้อราคาต่ำๆ ขายราคาสูงๆ แต่บอกไม่ต้องสนใจราคา.. ???  แล้วจะรู้ได้ไง ว่าที่ซื้อมันราคาต่ำแล้ว..  แล้วรู้ได้ไงว่าที่ขาย มันราคาสูงแล้ว..  ต่ำแล้ว ยังมีต่ำกว่า.. สูงแล้วยังมีสูงไปอีก.. ???  จากคุณ : หมอก้อนหิน เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 18:58:37

ความคิดเห็นที่ 3 หุ้นต้องสนใจราคา แต่ถ้าคุณซื้อสูง จะไปขายต่ำทำไม ??? ถ้าถือและรอนาน ติดดอยนาน แสดงว่า "การเลือกธุรกิจของคุณยังไม่ดีพอ ???" ถ้าเลือกธุรกิจไม่ดีพอ แสดงว่า "ความรู้คุณยังไม่พอ ???" ปล.ทุกอย่างอยู่ที่ความพยายามของคุณว่ามากพอ ??? (ทุกอย่างมีคำตอบในตัวอยู่แล้ว) จากคุณ : นักลงทุน999 เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 19:01:41

ความคิดเห็นที่ 4 คห.3 ก็นั้นไงครับ.. ถ้าเลือกซื้อหุ้นแล้วดันไม่วิ่งบอกความรู้ไม่พอ... แต่จั่วหัวว่า ทำง่าย?? สรุป มันง่ายหรือยากกันแน่ครับ ก็ที่ผมถามไงครับ.. จะรู้ได้ไงว่า.. ไอ้ที่จะซื้อ มันสูงหรือต่ำ.. ไอ้ที่จะขายมันสูงหรือต่ำ ไปจากมูลค่าพื้นฐาน ก็ต้องอาศัยการวิเคราะห์ธุรกิจ เก็งผลประกอบการ.. ซึ่งมัน "ไม่ง่าย" ... แก้ไขเมื่อ 15 ก.ย. 55 19:04:55 จากคุณ : หมอก้อนหิน เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 19:03:35

ความคิดเห็นที่ 5 มันง่ายแต่จะยากขึ้นเมื่อคุณต้องการมากขึ้น จากคุณ : ExpressNet เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 19:13:38

ความคิดเห็นที่ 7 ถามคำเดียว สรุปว่า ... มัน "ง่าย" หรือ "ยาก" ครับ จากคุณ : หมอก้อนหิน เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 19:24:44

ความคิดเห็นที่ 8 ง่ายครับ ^^ (สำหรับผมนะ) ปล.อยู่ที่ความรู้+ประสบการณ์>วิเคราะห์+สังเคราะห์ออกมาได้ถูกตัวมากที่สุดนั่นเอง แต่ถ้าความรู้น้อย ก็วิเคราะห์ลำบาก ผิดตัว ก็เม่าดอยไป เพราะวิธีการต่างๆ จะผิดมาตั้งแต่แรกนั่นเอง ^^ ปล.ความเห็นที่ 6 ของผมถูกลบ ^^ (ผิด ???)>มันมีค่าต่อผู้อื่นมากนะ ไม่ใช่มาเล่นกล ^^ แก้ไขเมื่อ 15 ก.ย. 55 19:32:42 แก้ไขเมื่อ 15 ก.ย. 55 19:28:30 จากคุณ : นักลงทุน999 เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 19:27:11

ความคิดเห็นที่ 9 VI ระยะยาว VI 2530-> 2555  ทุน 120 ขายที่ 1280   966% VI ระยะสั้น VI 2530-> 2537  ทุน 120 ขายที่ 1700  1316% VI 2541-> 2550  ทุน 120 ขายที่ 920    666% VI 2552-> 2555  ทุน 380 ขายที่ 1280  2368% VI ระยะยาว กำไร   966% VI ระยะสั้น  กำไร  4350%   สรุป VI ระยะยาวแพ้ VI ระยะสั้นครับ แล้วถ้าลงลึกใน detail อีก VI ระยะสั้นจะแพ้ Trader ครับ นี่คือหลักสัจธรรมครับ จากคุณ : noteperfect เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 19:41:09

ความคิดเห็นที่ 10 ทางทฤษฎีใช่ครับ แต่ทางปฎิบัติผมว่า VI ชนะ DayTrade ครับ ^^ จากคุณ : นักลงทุน999 เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 19:46:55

ความคิดเห็นที่ 11 หุ้นขึ้น มีแต่เซียน ลิงจิ้มก็ยังกำไร รอดูขาลง ระวังเหลือแต่เตี่ยว จากคุณ : por_sas_a เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 19:47:17

ความคิดเห็นที่ 12 Day จะ Cut จนหมดมากกว่าที่จะ Let Profit Run ส่วน VI จะเอาตัวรอดได้ในระยะยาวแบบยั่งยืนกว่า (ในทางปฏิบัติ) ปล.พวก Day ที่มาโชว์กำไร ไม่ลองโชว์ Cut แดงๆ มาบ้างล่ะครับ ^^ จากคุณ : นักลงทุน999 เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 19:50:18

ความคิดเห็นที่ 13 เหมือนคุณมีต้นไม้อยู่ต้นนึงแล้วใส่เหล็กดัดไว้ครับจะเป็นรูปอะไรก็แล้วแต่ ช้าง ม้า กระต่าย คุณวางโครงไว้แล้วไม่ไปแตะต้องมันเลย ผลสุดท้ายเหล็กที่ดัดไว้กระต่ายจะกลายเป็นช้างครับ คือผิดรูปผิดร่างนั้นเอง แต่ถ้าวางโครงไว้แล้วหมั่นเล็มมันทุกวัน สุดท้ายจะได้ ของอย่างที่ต้องการ มีแบบฟลุ้คๆเท่านั้นครับ ที่จะใส่เหล็กไว้ แล้วต้นไม้งอกออกมาเป็นไปตามโครงที่วางไว้ โดยไม่ตัดเล็มเลย ถ้าทำได้แบบนี้ แสดงว่าคนวางโครงจะต้องวางเหล็กไว้อย่างรัดกุมมากๆ ครับ ซึ่งคนทั่วไปไม่มีทางทำได้ครับ ถ้าเปรียบเทียบกับการลงทุนก็เหมือนกับต้องใส่ใจดูทุกวันนั่นเองครับ แก้ไขเมื่อ 15 ก.ย. 55 19:52:57 จากคุณ : noteperfect เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 19:51:01

ความคิดเห็นที่ 14 พี่note ประเด็นคือเราไม่รู้ครับ ว่ามันจะขึ้นแค่ไหนลงแค่ไหน Vi ความเสี่ยงน้อยกว่า trader ครับ ยิ่งซื้อขายบ่อยจะเพิ่มความเสี่ยงตัวเอง แต่ยอมรับใครสามารถคาดเดาอารมตลาดได้แม่นมากๆเนี่ยเซียนโคด จากคุณ : VWG เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 19:51:11

ความคิดเห็นที่ 15 สำหรับผม TRADER ความเสี่ยงต่ำกว่า VI ครับ ผมว่าแล้วแต่ สไตล์ครับ จากคุณ : noteperfect เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 19:54:11

ความคิดเห็นที่ 16 มันไม่มีอะไรง่ายหรอกครับ แต่ช่วงที่ผ่านมา setเป็นขาขึ้น เพราะมีแต่ข่าวดีๆ มันเลยดูว่าง่าย และมันก็ง่ายจริงๆ ลองset เป็นขาลง ก็เหนื่อยกันอีกแหละครับ ไม่ว่าจะเล่นแบบไหน สรุป คือขึ้นอยู่กับว่า set และ ภาพรวมของตลาดทั้วโลก ว่าเป็นขาขึ้น หรือขาลง จะยาก หรือง่ายก็ตรงนี้แหละครับ ส่วนราคาหุ้น จะถูกหรือแพง ก็ขึ้นอยู่กับราคาสินค้านั้นๆ ในช่วงเวลานึง มีขึ้นมีลง ตลอด เช่น banpu ptt ครับ จากคุณ : Page setup เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 20:08:26

ความคิดเห็นที่ 17 SET จะขึ้นไปเท่าไร ไม่รู้ แต่ผมเชื่อว่า ในอีก 10 ปีข้างหน้า ผมเชื่อว่า จะต้องมีวันที่ SET จะต่ำกว่า 1200 แน่นอน ถ้าเป็น VI แบบดร. ไม่ใช่พวก vi ลากกินตับ VI ด้วยกัน คือ เป็นประเภทเหมือนเป็นเจ้าของกิจการ ซื้อแล้วไม่ค่อยขาย อยู่กันยาวๆ กินปันผล ตรงนี้ไม่ใช่จังหวะซื้อแน่ครับ ลองอ่านอันนี้ดู "ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร" บอกว่า ปัจจุบันเลือกหุ้นลงทุนยากขึ้น มีหุ้นดี แต่ราคาแพง โดยหุ้นที่อยู่ในพอร์ต ส่วนใหญ่เป็นหุ้นชั้นดีที่เน้นลงทุนระยะยาวไม่มีกำหนดเวลา และเห็นแนวโน้มอนาคตไกล ๆ ได้ ขณะที่หุ้นอีกส่วนที่ถือติดพอร์ต แต่จำนวนน้อย คือหุ้นที่คุณภาพอาจไม่ดีเท่าแบบแรก แต่ราคาถูก ซึ่งจะถือไม่นาน เมื่อราคาขึ้นระดับหนึ่งแล้วจะขาย ส่วนหุ้นที่ชอบคือมีลักษณะอำนาจเหนือคู่แข่ง และเพิ่มขึ้นเรื่อย มีธุรกิจเป็นเบอร์ 1 ครองมาร์เก็ตแชร์ที่สูง "ดร.นิเวศน์" ชี้อุตสาหกรรมที่กำลังจะมาจริง ๆ ในไทยเริ่มมองยาก จึงหันมาลงทุนต่างประเทศ แต่ถ้าให้แนะนำหุ้นที่ไม่กระทบจากปัจจัยภายนอก เช่น กลุ่มสาธารณูปโภค ผลิตน้ำ ส่วนอุตสาหกรรมที่ไม่น่าลงทุนคือ Pure Community ได้แก่ เหล็ก ปิโตรฯ ถ่านหิน จากคุณ : kanstk เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 20:32:55

ความคิดเห็นที่ 18 ใครเป็นคนพาพูดครับ "เหลือแต่เตี่ยว" ชอบมากเลย จากคุณ : Sawakato เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 20:35:09

ความคิดเห็นที่ 19 ในขณะที่ ตรงนี้ ณ SET ที่อยู่ระดับนี้ ถ้าเราคิดว่า มันจะมีต่ำกว่านี้แน่ในอีก 10 ปี แต่เราก็ไม่รู้ว่า มันจะขึ้นไปถึงไหน และแน่นอนเราก็ไม่รู้ว่า มันจะลงเมื่อไร ก็ควรซื้อแล้วใช้เทคนิค พิจารณาถึงจุด stop loss ควบคู่ไปด้วยก็ถือว่า ดีครับ อย่างน้อยก็ลดความเสี่ยงของการติดดอยไปได้ระดับนึงนะครับ จากคุณ : kanstk เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 20:37:20

ความคิดเห็นที่ 20 daytrade  ต้องดีกว่า  vi   แน่นอน           cut ไว  ไม่มีดอย   ได้เงินชัวร์ จากคุณ : ลำพูนหนาวมาก เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 21:26:01

ความคิดเห็นที่ 22 ตั้งแต่ผมอยู่ในเกมส์การลงทุนมา ไม่เคยมีวันไหนที่ผมรู้สึกว่าการลงทุนเป็นเรื่องง่าย เพราะถ้าหากมันเป็นเรื่องง่ายทุกคนที่เดินเข้ามาในตลาดก็คงจะรวยกันไปหมดแล้ว แต่ที่ผมยังอยู่ในตลาดเพราะผมดีใจที่เกมส์นี้มันไม่ง่าย จึงทำให้ผมชนะพวกที่เดินเข้ามาในตลาดแล้วคิดว่า "ใครๆก็รวยได้" จากคุณ : ilovesassygirl เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 55 09:22:24

ความคิดเห็นที่ 23 คุณ note ครับคุณเอาดัชนีทั้งตลาดตัดสิน คุณไม่ได้เอาตัวหุ้นตัดสินหรอครับ ไม่คยได้ยินหรือว่าลงทุนหุ้นถูกตัวที่สามารถเอาชนะตลาด !!! ได้อย่างราบคาบ เอ่อสำหรับบางท่านคิดว่า daytrade คัทได้เงินไว สบายกว่า vi ให้ไปดูกระทู้แนะนำ พอร์ท 200 ล้าน daytrade ทำไม่ได้แน่ หรือคุณไปดูกระทู้คุณ Endrophine แล้วคุณจะเข้าใจ จากคุณ : .NetMagic เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 55 09:31:44

ความคิดเห็นที่ 24 #23 สำหรับผมได้รอบล่ะ 30% ก็ขายทิ้งครับแม้หุ้นจะขึ้นต่อก็ตามครับ แม้จะรวยสู้พวก vi ไม่ได้แต่ผมคิดว่าผมเสี่ยงน้อยกว่า มันเป็นสไตล์ผมครับ ผมได้เงินมาก็เอาออกมาใช้ครับ เงินลงทุนในพอร์ตมีแค่ 1 ล้านเท่านั้นครับไม่มีมากกว่านี้ คือสมมุติว่าได้ 1,300,000 ผมก็จะเอาออกมา 3 แสนครับ เอาตังค์มาใช้ แล้วเล่นรอบใหม่ ได้อีก 3 แสน ก็เอามาใช้ครับ เป็นสไตล์ผมครับ ถึงแม้คนบอกว่า ทำไมผมไม่เอาเงินมาทบต้นเพื่อเพิ่มทวีคุณ ผมจะบอกให้ครับว่าความสุขของผมคือการใช้เงินครับ ไม่ใช่เห็นตัวเลขในพอร์ตเยอะๆ จากคุณ : noteperfect เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 55 18:26:26