ข่าว ดี SSI และ กลุ่ม เหล็กครับ
|
|
http://www.manager.co.th/China/ViewNews.aspx?NewsID=9550000119294
ผู้ผลิตเหล็กกล้ายักษ์ใหญ่จีนระงับการผลิตในเซี่ยงไฮ้ สะท้อนศก.ชะลอตัว
เอเยนซี/รอยเตอร์ส--วานนี้ (27 ก.ย.) บริษัทเป่าซาน ไอรอน แอนด์ สตีล จำกัด (เป่าสตีล) ผู้ผลิตเหล็กกล้ายักษ์ใหญ่ของจีน ประกาศระงับการผลิตในโรงงานที่ตั้งอยู่ในเขตหลัวจิงของเซี่ยงไฮ้ชั่วคราว เพื่อป้องกันบริษัทขาดทุน ถือเป็นสัญญาณใหม่ชี้ให้เห็นถึงราคาเหล็กกล้าลดต่ำเกือบ 3 ปี และการชะลอตัวทางเศรษฐกิจในจีน เฮเลน หลิว นักวิเคราะห์อาวุโสแห่ง UOB-Kay Hian เผยว่า ด้วยความต้องการจากบริษัทที่ต้องใช้เหล็กกล้าอย่างอู่ต่อเรือลดน้อยลง ผู้ผลิตเหล็กกล้าทั้งเป่าสตีลและอันกังสตีล ต่างก็กำลังประสบปัญหา พร้อมเสริมว่าการระงับการผลิตชั่วคราวอาจจะเกิดขึ้นต่อไป ขึ้นอยู่กับว่ารัฐบาลสามารถชดเชยส่วนที่ขาดทุนได้หรือไม่ เฮเลน ยังกล่าวอีกว่า โรงงานในเซี่ยงไฮ้ยังคงคุ้มค่าที่จะเปิดดำเนินการ เนื่องจากเทคโนโลยีที่ทันสมัย โดยการใช้ขั้นตอนการถลุงเหล็กแบบโคเร็กซ์ (Corex) ที่ใช้ถ่านหินธรรมดาในการผลิตเหล็กดิบ ทางรัฐบาลจีนพยายามสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจ โดยอนุมัติโครงการโครงสร้างพื้นฐานมูลค่ากว่า 150,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อต้นเดือนก.ย.ที่ผ่านมา รวมทั้ง เงินอีกหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อกระตุ้นโครงการลงทุนและการก่อสร้างสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น รถไฟใต้ดินและสนามบิน จัง เตี้ยนปั๋ว ผู้ช่วยประธานบริษัทเป่าสตีล กล่าวว่า การลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาลอาจแก้ไขได้เพียงด้านความรู้สึก แต่ผมไม่คิดว่าจะเป็นการเพิ่มความต้องการเหล็กกล้าได้ การดำเนินการของบริษัทฯ นี้ สะท้อนให้เห็นถึงแรงบีบที่กระทบต่อผู้ผลิตเหล็ก อะลูมิเนียม ซีเมนต์และสินค้าอื่นๆ โดยผู้ผลิตเหล่านี้เติบโตอย่างรวดเร็ว และมีการลงทุนโรงงานใหม่ๆ รวมทั้งสินทรัพย์อื่นๆ พุ่งสูงขึ้นในช่วงก่อนวิกฤตการณ์ทั่วโลกปี 2551 มาร์ค วิลเลียมส์ นักวิเคราะห์ทางเศรษฐศาสตร์ เผยว่า มีสัญญาณการกำหนดต้นทุนที่สูงเกินไปในการผลิตเหล็กและอุตสาหกรรมอื่นๆ นอกจากนี้ ความเจ็บปวดที่ภาคอุตสาหกรรมในจีนที่จะต้องแบกรับนั้น เกินกำลังการป้องกัน เนื่องจากบริษัทหลายแห่งจากทั่วโลกได้ประโยชน์จากการขายสิ่งของเครื่องใช้และสินค้าทุนให้แก่จีน ความต้องการเหล็กของจีนได้รับผลกระทบจากการควบคุมของรัฐบาล ซึ่งกำหนดการเรียกเก็บการก่อสร้าง เพื่อป้องกันการลงทุนที่มากเกินไป และราคาบ้านที่ไม่คงที่ นอกจากนี้ การต่อเรือก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน กลุ่มอุตสาหกรรมกล่าวว่า การสั่งซื้อลดลง 50 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว (2554) และอู่ต่อเรือกว่า 12 แห่งอาจจะต้องปิดกิจการลง เมื่อต้นเดือนก.ย.ที่ผ่านมา ราคาเหล็กเส้นที่ใช้เป็นหลักในการก่อสร้าง ตกฮวบลงมาที่ 24 เปอร์เซ็นต์ในปีนี้ แตะราคาต่ำในรอบ 3 ปี ซึ่งคิดเป็น 3,206 หยวน รวมทั้ง แร่เหล็กซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตเหล็กกล้า ก็มีราคาต่ำกว่า 87 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ตัน เนื่องจากความต้องการเหล็กในจีนลดลง ส่งผลถึงความต้องการวัตถุดิบในการผลิต ตามที่สมาคมเหล็กและเหล็กกล้าจีนรายงาน ผู้ผลิตเหล็กกล้าของจีนสูญเสียเงินมหาศาลในช่วง 4เดือนแรกของปี และจำนวนการผลิตเหล็กกล้าดิบ (Crude steel) ของจีนลดลง 2 เปอร์เซ็นต์เมื่อกลางเดือนก.ย. คิดเป็น 1,857,000 ตัน/วัน นอกจากนี้ ในวันเดียวกัน (27 ก.ย.) รัฐบาลรายงาน ผลกำไรสุทธิของบริษัทอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่สุดของจีน ลดลงในเดือนส.ค.ที่ผ่านมา คิดเป็น 6.2 เปอร์เซ็นต์จากปีก่อนหน้า สำนักงานสถิติแห่งชาติ เผยว่า ผลกำไรของรัฐวิสาหกิจอย่างเป่าสตีลนั้น ตกลง 12.7 เปอร์เซ็นต์จากปีก่อนหน้า ขณะที่บริษัทเอกชนอื่นๆ กลับเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 15.1 เปอร์เซ็นต์ ทางเป่าสตีลระบุว่าผลกำไรครึ่งปีแรกร่วงลงมาที่ 53 เปอร์เซ็นต์ และคาดว่าราคาเหล็กกล้าจะยังคงอยู่ภายใต้แรงกดดันในช่วงครึ่งปีหลัง อุตสาหกรรมบางแห่งยังได้รับผลกระทบหนักกว่า อาทิ ผู้ผลิตแผงโซลาร์จีน ขาดทุนกว่าร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปีนี้ เนื่องจากความต้องการลดลง และหลังจากที่มีการฟื้นฟูเศรษฐกิจของจีน นักวิเคราะห์กล่าวว่า อุตสาหกรรมการผลิตเหล็กกล้าและซีเมนต์จะพบกับความต้องการที่ลดลงกว่าในช่วงที่มีกระแสการลงทุนที่เพิ่มขึ้น หน่วยงานรัฐประกาศให้อุตสาหกรรมซีเมนต์ แผงโซลาร์ กังหันลมและอื่นๆ ให้ลดกำลังการผลิตลง โดยเสนอข้อคิดเห็นว่าอุตสาหกรรมเหล่านี้อาจะทำให้บริษัทล้มละลายหรือปรับเปลี่ยนให้มีการรวมบริษัทกัน ตามข้อมูลของนิตยสารอินเวสต์เตอร์ไชน่า เป่าสตีลได้กรรมสิทธิ์โรงงานผลิตเหล็กกล้าดังกล่าวเมื่อปี 2551 ด้วยมูลค่า 14,000 ล้านหยวน และผลิตแผ่นเหล็กที่ใช้สำหรับการต่อเรือ อุปกรณ์ขุดเจาะน้ำมันและการก่อสร้าง ในแต่ละปีสามารถผลิตได้ 3 ล้านตัน เมื่อปลายปีที่แล้ว (2554) บริษัทฯ มีพนักงานราว 117,000 คน และมีผลกำไรราว 18,000 ล้านหยวน
จากคุณ |
:
แล้วแต่ดวง
|
เขียนเมื่อ |
:
29 ก.ย. 55 14:14:54
|
|
|
|