Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
Mega Trend โดย ธันวา เลาหศิริวงศ์ ติดต่อทีมงาน

05 ต.ค. 2555 เวลา 08:00:50 น.
คอลัมน์ คิด วิเคราะห์ แยกแยะ : ธันวา เลาหศิริวงศ์



การเปิดตัว iPhone 5 มียอดการสั่งซื้อทั่วโลกสูงเกินความคาดหมาย ทำให้คิดถึงเรื่อง "จอที่สาม" ที่ผมได้กล่าวถึงเมื่อครั้งเข้าร่วมเสวนา "Mega Trend กับตลาดหุ้นไทย" ในรายการ Money Talk @SET เมื่อต้นปีที่ผ่านมา "Mega Trend" หรือ "แนวโน้มใหญ่" นั้น มีผลทั้งด้านบวกและด้านลบ มากหรือน้อยต่อผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนในแต่ละอุตสาหกรรมแตกต่าง กันไป และส่งผลต่อราคาหุ้นและการลงทุนของเราอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

Mega Trend ที่นิยมพูดถึงกันอย่างมากได้แก่ สังคมผู้สูงอายุ (aging society) สังคมความเป็นเมือง (urbanization) ซึ่งเป็นผลดีในระยะยาวต่อผู้ประกอบการธุรกิจการแพทย์ สุขภาพ พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจอื่นที่เกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตาม ยังมีแนวโน้มใหญ่อื่นที่น่าสนใจ ได้แก่

แนวโน้มแรก คือ ความเปลี่ยนแปลงหรือความผิดปกติทางธรรมชาติที่รุนแรง ผันผวนและถี่มากขึ้น เป็นแนวโน้มใหญ่ที่ควบคุมไม่ได้ เราจึงรับรู้ข่าวสารบ่อยขึ้นทั้งสภาวะแห้งแล้ง อากาศร้อนหรือหนาวมากกว่าปกติ น้ำท่วม แผ่นดินไหว ไฟป่า พายุ หรืออุบัติภัยต่าง ๆ ความผิดปกตินี้ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเกษตร อาหาร พลังงาน ตลอดจนการผลิต ทำให้ขาดความสมดุลของอุปสงค์และอุปทาน จึงควรพิจารณาลงทุนในกิจการที่มีเทคโนโลยี มีการกระจายความเสี่ยง พร้อมรองรับและจัดการกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันต่าง ๆ แม้จะเป็นปัจจัยที่ไม่สามารถควบคุมได้และมีโอกาสเกิดขึ้นน้อย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่เกิดขึ้นเลย

แนวโน้มที่สอง คือ โลกมีข้อจำกัดทางภูมิศาสตร์น้อยลง เป็นแนวโน้มใหญ่ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะประเทศที่มีความพร้อมและนโยบายเปิดกว้างของประเทศด้วย เราจึงเห็นการเคลื่อนย้ายเงินทุน การศึกษา การเดินทาง การแพทย์ แรงงาน แหล่งผลิต และอื่น ๆ ตัวอย่างที่พบเห็นบ่อยขึ้นคือ การเคลื่อนย้ายของเงินทุนไปยังประเทศที่มีโอกาสได้ผลตอบแทนสูงกว่า บริษัทระดับโลกลงทุนด้านการผลิตในประเทศที่ให้ผลตอบแทนสูงสุด การเคลื่อนย้ายแรงงานจากถิ่นกำเนิดไปต่างประเทศ การเดินทางไปเพื่อรับการรักษาตัวในต่างประเทศ ชาวต่างประเทศเดินทางเพื่อหลบภาวะอากาศที่ร้อนจัดหรือหนาวจัด เป็นต้น

แนวโน้มที่สาม คือ จอที่สาม (The 3rd Screen) ในอดีต จอที่เรารู้จักอันดับแรกสุดคือจอโทรทัศน์ ซึ่งภาคธุรกิจใช้เป็นช่องทางสื่อสารทางเดียวกับผู้บริโภคจำนวนมาก ต่อมาเริ่มมีการใช้จอที่สองหรือจอคอมพิวเตอร์ ซึ่งทำให้ภาคธุรกิจติดต่อผู้บริโภคและตอบสนองได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ปัจจุบันคือยุคของจอที่สาม หรือจอที่อยู่กับอุปกรณ์เคลื่อนที่ (mobile devices) นั่นเอง นอกจากใช้งานง่าย สะดวก ยังเป็นอุปกรณ์พกพาส่วนตัว ส่งผลให้มีปริมาณเพิ่มมากขึ้นอย่างมาก กิจการที่ดีจำเป็นต้องกำหนดกลยุทธ์ทางธุรกิจ นำเทคโนโลยีมาใช้และพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคได้ อย่างดี อุตสาหกรรมที่ได้ประโยชน์จากแนวโน้มใหญ่นี้คือ ผู้ประกอบการธุรกิจสื่อสารและธุรกิจเกี่ยวเนื่อง จากประมาณการใช้งานและความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นนั่นเอง

แนวโน้มที่สี่ คือ พลังงานและอาหารจะเป็นทรัพยากรที่มีความสำคัญยิ่งขึ้น แนวโน้มใหญ่นี้สืบเนื่องจากพฤติกรรมของมนุษย์ที่ต้องการความสะดวกสบายและ สิ่งที่ดีขึ้นไปเรื่อย ๆ เราจึงจะเห็นสิ่งอำนวยความสะดวกมากขึ้น การบริโภคที่ดีขึ้น จะทำให้ความต้องการของทั้งพลังงานและอาหารขาดความสมดุลเพิ่มขึ้นอีก หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ ทั้งพลังงานและอาหารกลายเป็นทรัพยากรที่มี ความสำคัญและมีค่ายิ่งขึ้น จึงไม่น่าแปลกใจที่จะเห็นราคาปรับตัวสูงขึ้นไปเรื่อย ๆ เมื่อเวลาผ่านไป ผู้ประกอบการที่เป็นเจ้าของหรือมีเทคโนโลยีในการเพิ่มมูลค่าจึงเป็นผู้ได้ประโยชน์จากแนวโน้มนี้ในอนาคตด้วย

แนวโน้มสุดท้ายที่กล่าวถึงคือ การเติบโตของประเทศที่กำลังพัฒนามีความสำคัญต่อการเติบโตของโลก ประเทศเหล่านี้ล้วนมีจำนวนประชากรมาก และมีความจำเป็นต้องพัฒนาประเทศด้านโครงสร้างพื้นฐาน สาธารณูปโภค และอุตสาหกรรมทุกด้าน แนวโน้มนี้ยังคงดำเนินต่อไปอีกนับสิบปี และประเทศไทยก็อยู่ในกลุ่มประเทศเหล่านี้ด้วย ธุรกิจที่ได้เปรียบด้านแข่งขันอย่างยั่งยืนและดำเนินกิจการในประเทศที่กำลัง พัฒนา จะเป็นผู้ได้ประโยชน์จากแนวโน้มใหญ่นี้อย่างต่อเนื่องยาวนาน

ที่กล่าวมาเป็นเพียงส่วนหนึ่งของแนวโน้มใหญ่ ในฐานะ value investor เราต้องศึกษา วิเคราะห์แนวโน้มใหญ่ในมุมมองของเราว่ามีอะไรบ้าง หากสามารถคาดการณ์แนวโน้มใหญ่ได้ถูกต้อง และเลือกลงทุนในบริษัทที่ได้ประโยชน์จากแนวโน้มใหญ่ดังกล่าว ธุรกิจต้องมีผลประกอบการที่ดี ส่งผลให้ราคาหุ้นและมูลค่าของกิจการปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น และสร้างความมั่งคั่งได้อย่างต่อเนื่องแน่นอน อย่างไรก็ตาม นักลงทุนบางท่านอาจไม่ชอบลงทุนในหุ้นที่อยู่ใน Mega Trend แต่เลือกลงทุนในกิจการบางชนิดที่ตนชอบแทนก็ได้ เพียงแต่เราต้องรู้ เข้าใจถึงเหตุผลและเป้าหมายของการลงทุนของตนอย่างดีว่าทำไมเราจึงตัดสินใจลง ทุนแบบนั้น

 
 

จากคุณ : Wild Rabbit
เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 15:36:47




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com