ความคิดเห็นที่ 1 ผมเอามาคิดต่อ เงินประเภทใหน ที่ทำให้เดือดร้อนชีวิต ? ก็ขอต่อยอดไปตามภาพประกอบข้างใต้ + จากคุณ : endophine เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 09:27:10

ความคิดเห็นที่ 2 พอตีความตามภาพประกอบข้างบน มันกลับกลายเป็นว่า ไอ้เงินที่ว่าเป็นเงินเย็นๆ  ในทางเศรษฐศาสตร์ภาคครัวเรือน กลับกลายเป็นเงินที่ทำให้เร่าร้อนด้านจิตใจ ถ้าเงินเย็น ไม่กลายเป็นเงินร้อนหลังเข้าตลาดหุ้น ก็คงไม่มีคน ที่นอนไม่หลับ   ทั้งๆที่กำเงินเย็นจากนอกตลาดหุ้น เข้ามาในตลาดหุ้น ไปๆมาๆ  เงินจะร้อนจะเย็น  ก็ขึ้นอยู่กับเจ้าของเงิน จะใช้ความรู้ความสามารถแบบไหน  เข้าไปบริหารจัดการกับเงินก้อนนั้น จัดการดี เงินเย็นก็ยังคงเป็นเงินเย็น จัดการไม่ดี  เงินเย็น ก็จะกลายเป็นเงินที่ทำให้เร่าร้อนด้านจิตใจ ตอนนี้เงินเย็นจำนวนมากที่อยู่นอกตลาดหุ้น กำลังจะกลายมาเป็นเงินร้อนอกร้อนใจ   ที่อยากเข้ามาเอากำไรแบบง่ายๆจากตลาดหุ้นไปแล้ว เมื่อวันศุกรฺ์ที่ผ่านมา   รุ่นน้องที่รู้จักโทรมาเล่าเรื่องญาติที่เป็นมาร์เก็ตติ้งมือใหม่ ญาติบอกว่า  เดี๋ยวนี้มีอาแปะ อาเจ็ก อาซิ้่มเงินถุงเงินถัง บอกว่าจะโยนเงินให้สิบล้าน  แล้วทำให้มันกำไรให้หน่อย เพราะฟังจากสื่้อ   ตลาดหุ้นทำให้รวยง่ายดี ญาติมาร์เก็ตติ้งของรุ่นน้อง    ไม่กล้ารับ แต่ให้เบอร์มือถือของลูกพี่ใหญ่  ที่ไปออกสื่อ่ทีวีบ่อยๆ ให้ช่วยรับเงินเย็นจากเศรษฐีเงินเย็น  รับไปช่วยบริหารต่อให้ด้วย คือเขากลัวเงินเย็นที่ว่า   จะกลายเป็นเงินร้อนดังไฟนรกเมิ่อให้เขารับผิดชอบเอง   ก่อนหน้านั้นหนึ่งวัน  ผมก็เจอเพื่อนร่วมรุ่นโรงเรียนเดียวกัน เธอมานั่งประจำอยู่ที่โบรกเกอร์แห่งหนึ่งในเซ็นทรัล ปิ่นเกล้า คุยกันไป คุยกันมา เงินเย็นๆ  ที่เธอเอาเข้าตลาดมาเกือบสองปีแล้ว จนป่านนี้  ก็ยังเป็นเงินร้อนๆ   ที่ทำให้เธอต้องมานั่งลุ้นราคาหุ้น ที่ห้องค้าทุกวัน ผมถามไปว่า  สรุปแล้ว ได้กำไรหรือขาดทุน ? คำตอบคือ ขาดทุน จะไม่ให้ขาดทุนได้ไง เคยแนะนำให้อยู่บ้าน  เปิดเนตแล้วซื้อขายดัวยตัวเอง หาข้อมูลด้วยตัวเอง เธอบอกว่า ทำไม่ได้  อยู่บ้านไม่มีข้อมูลเด็ดเหมือนในห้องค้า   ข้อมูลเด็ด  มีมาทั้งจากเพื่อนนักลงทุน และมาร์เก็ตติ้ง ผมถามไปว่า  มีข้อมูลเด็ดเต็มไปหมด  แล้วทำไมยังขาดทุน ? เธอยิ้มๆ  ไม่มีคำตอบกลับมา ลงท้ายก็มึนหนักเข้าไปอีก เมื่อเธอถามว้า  พีอีสูง หริอพีอีต่ำดี     ผมถามกลับ  ไม่รู้หรือว่าพีอีคืออะไร คำตอบคือ  ไม่รู้   สรุปแล้ว  ซื้อขายไปตามกระแสสังคมในเวบบอร์ด เอ๊ยในห้องค้าเท่านั้น   ถ้าตีความว่า  เงินเย็นหรือเงินร้อนต่างกันตรงที่   มันทำให้เราทุกข์ใจหรือเปล่า เงินเย็นๆ  จำนวนมากที่เคยอยุ่กับเรา   ก็จะกลายเป็นเงินร้อนในตลาดหุ้น ส่วนเงินร้อนๆ  ของบางคน  ก็กลายเป็นเงินเย็นๆได้ ขอยกตัวอย่างที่เห็นๆคือ เงินร้อนจากมาร์จิ้นของคุณชิณณ์  ซึ่งมักจะซื้อหุ้นเพียงตัวเดียวทั้งพอร์ต แถมซื้อด้วยวงเงินมาร์จิ้นเพิ่มเข้าไปด้วย เงินร้อน  กลายเป็นเงินเย็นได้   ก็เพราะความรู้ ความสามารถเฉพาะตัวของคุณชิณณ์ ที่ลอกเลียนแบบได้ยากมากๆ   เพราะมันเกี่ยวพันไปถึง   เดิมพันของสภาพจิตใจด้วย ถ้าเอาตามภาพประกอบข้างบน ตอนนี้  คุณกำลังถือเงินเย็นหรือเงินร้อน   เข้ามาในตลาดหุ้นครับ   ถ้ากินได้ นอนหลับทุกคืน  ไม่ว่าหุ้นพุ่งพรวดหรือดิ่งนรก ก็ถือว่า มันเป็นเงินเย็นก็แล้วกัน ตีความแบบนี้ ผมถือเงินเย็นเข้ามาในตลาดหุ้น เกินกว่าสิบปีแล้วครับ + แก้ไขเมื่อ 09 ต.ค. 55 07:45:42 แก้ไขเมื่อ 08 ต.ค. 55 11:07:46 แก้ไขเมื่อ 08 ต.ค. 55 10:32:56 แก้ไขเมื่อ 08 ต.ค. 55 10:23:45 แก้ไขเมื่อ 08 ต.ค. 55 09:58:45 แก้ไขเมื่อ 08 ต.ค. 55 09:53:22 จากคุณ : endophine เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 09:47:08

ความคิดเห็นที่ 3 เห็นภาพเลย เงินเย็น เงินร้อน^^ จากคุณ : Hana* เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 09:55:17

ความคิดเห็นที่ 4 เงินเย็น ใจเย็น  กินได้นอนหลับสบายแม้จะติดดอยค่ะ จากคุณ : คนน่ารักที่อยากรวย เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 10:37:44

ความคิดเห็นที่ 5 = ตอนนี้เงินเย็นจำนวนมากที่อยู่นอกตลาดหุ้น กำลังจะกลายมาเป็นเงินร้อนอกร้อนใจ   ที่อยากเข้ามาเอากำไรแบบง่ายๆจากตลาดหุ้นไปแล้ว = ถึงแม้ว่าการลงทุนในปีนี้ จะได้กำไรมากกว่าผลตอบแทนเฉลี่ยของพอร์ตในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา มากพอสมควร แต่ ไม่ว่า เมื่อไหร่ และ อย่างไร สำหรับผม ... ผมไม่เคยคิดว่า การลงทุนเป็นเรื่องง่ายๆเลยครับ ... แก้ไขเมื่อ 08 ต.ค. 55 12:46:41 จากคุณ : Unsign เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 10:41:40

ความคิดเห็นที่ 6 ดัน ท่านผู้อาวุโส ขึ้น แนะนำ ดีกว่า ครับผม ...............อย่างน้อน เด็กเด็ก อ่านแล้ว พอได้ อาหาร สมองบ้าง....................................... จากคุณ : มาอีกแล้ว เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 10:42:38

ความคิดเห็นที่ 7 ขอบคุณทุกๆท่าน ที่แวะเข้ามาอ่านและออกความเห็นครับ ขอบคุณ คุณมาอีกแล้วที่ช่วยโหวต คุณ unsign    วันนั้นรุ่นน้องเล่าต่อเรื่องญาติมาร์เก็ตติ้งมือใหม่ด้วยว่า ญาติถึงกับมึน  ที่่เช้าขึ้นมา ในห้องค้า มีแต่ข่าวเด็ด ข่าววงในเต็มไปหมด ไม่รู้ว่าลูกค้าแต่ละคน   ไปเอาข้อมูลมาจากไหน   เห็นด้วยครับ การลงทุน  ต้องเริ่มจากเห็นว่ามันยาก แต่จะพยายามทำมันง่ายขึ้น จากประสบการณ์ บวกความรู้ ความสามารถเท่าที่เรามีอยู่ครับ ไม่ใช่โผล่เข้าตลาดมาปั๊บ เฮ้ยง่ายดีเว้ย   ซื้อขายตามลายแทงใบ้หุ้น  ยังไงก็รวย วิธีการแบบนี้เขาทำกันมาไม่รู้กี่รอบ ของขาขึ้นใหญ่ของตลาดหุ้น ลงท้าย  คนที่รอดได้  ทั้งตลาดหุ้นขาขึ้นครั้งใหญ่และขาลงครั้งใหญ่ คือคนที่ทำตามเครื่องมือที่มีประสิทธิ์ภาพของตัวเอง ไม่ใช่คนที่ตามแห่  ไปตามกระแสคนส่วนใหญ่ ณ ขณะนั้น ! แก้ไขเมื่อ 09 ต.ค. 55 07:47:42 แก้ไขเมื่อ 08 ต.ค. 55 12:25:31 แก้ไขเมื่อ 08 ต.ค. 55 10:53:21 จากคุณ : endophine เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 10:52:00

ความคิดเห็นที่ 8 สวัสดีครับ เฮียเอ็นโด เฮียตกผลึก ล้ำลึก ถึงที่สุดแล้ว.. ขอบพระคุณมากครับ จากคุณ : ธราธิป เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 10:52:45

ความคิดเห็นที่ 9 มาโหวต และ มาเชียร์ค่ะพี่เอ็นโดฯ บ่าย ๆ จะมาอ่านโดยละเอียดอีกครั้งนะคะ ่ จากคุณ : Attention Please* เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 11:19:28

ความคิดเห็นที่ 10 สวัสดีครับ เฮียเอ็นโดฯที่เคารพ ขออนุญาตแชร์เรื่องเงินเย็นในส่วนของผมมั่งดีกว่า เงินเย็นของผมคือ เงินที่ซื้อเฉลี่ยได้ทุกเดือน ตามจำนวนเงินที่กำหนดไว้แล้ว และก็ซื้อเฉลี่ยมันต่อไปเรื่อยๆ ราคาลงก็ได้หุ้นเพิ่ม ราคาขึ้นก็ได้ซื้อนิดเดียว เงินเดือนออกปุ๊บ หักซื้อหุ้นเลย แล้วก็คอยตามดูอยู่ห่างๆ แบบห่วงๆน้อยๆ เอาเวลามาตั้งใจทำการทำงาน ให้ก้าวหน้า...จะได้มีเงินเย็นเพิ่มขึ้นอีก ด้วยความเคารพครับผม __/ll\__ จากคุณ : Nat_YFS2011 เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 12:14:58

ความคิดเห็นที่ 11 เกิดมาเป็นมนุษย์สุดลำบาก         มิอาจพรากบรรพ์กฎกำหนดสอน ต้องเดินซ้ายป่ายขวาตามมารดร   เข้ามาในสินธรจะเหลือเรอะ จะเลือกทางวีไอหรือไล่หุ้น            หรือตามคนเคยคุ้นปั่นหุ้นเหรอ ฝึกตามใจค้นไปจนได้เจอ             ชอบแบบเผลอทิ้งใว้ไม่เดือดร้อน แฮ่ ในที่สุดก็ต้องเลือกทางที่ให้เรามีความสุขเจ้าค่ะ จากคุณ : Driverblue เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 12:54:36

ความคิดเห็นที่ 12 ขอบคุณครับเฮีย ^^ เงินร้อนหรือเงินเย็น เมื่อทำกำไรได้ ก็กลายเป็นเย็นอก เย็นใจทั้งนั้นแล ... ฉะนั้น อย่าขาดทุนของปู่บัฟช่วยได้ครับ จากคุณ : SundayroyaL เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 14:10:01

ความคิดเห็นที่ 13 ตลอดเวลาที่อยู่ในตลาดหุ้นมา ผมคิดว่าผมเข้าใจความหมายของมันดี จนมาวันนี้ที่ได้อ่านกระทู้นี้ของเฮียถึงรู้ว่าผมเข้าใจถูกแค่ครึ่งเดียวครับ จากคุณ : Masterben เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 14:38:58

ความคิดเห็นที่ 14 มือใหม่ได้ความรู้กรุ่นเก่า ก็ถือว่าเป็นประโยชน์มากกกก(เก่าแต่ต้องเก๋าด้วย) เก่าแบบที่จะเล่า คงไม่กล้าทำตาม แต่ก็เรียนรู้ไว้แค่นั้้นเอง   อาทิตย์ที่ผ่านมา เจออาแป๊ะ คนนึง ไปห้องค้าทุกวัน มีเพื่อนฝูง เป็นก๊วน เล่นด้วยกัน ถามแป๊ะเล่นหุ้นมากี่ปีแล้ว แป๊ะบอก ตั้งแต่ปี 32 เจอมาทุกวิกฤต เล่นแบบเดย์เทรด เล่นกันทุกวันกำไรบ้าง ขาดทุนบ้าง  ตอนตลาดบูม ๆ จิ้มตัวไหนก็กำไรหมด  นับมาถึงปัจจุบัน  ยังขาดทุนอยู่  เกิดความสงสัย เลยเกิดบทสนทนาขึ้น เรา :    แป๊ะ รู้จัก PE ไหม? แป๊ะ :  ไม่รู้จัก   เรา :    งง? เรา :   แล้วเล่นยังไง  แป๊ะ : เล่นเฉพาะตัวที่เคยเล่น ก็จะรู้นิสัยหุ้น   เรา :   งง?  อีกรอบ เรา :   ปัจจุบัน  เล่นตัวไหน? แป๊ะ : TCAP   เรา :  เล่นเพราะอะไร? แป๊ะ : รู้จักนิสัยหุ้น  เรา :  รุ้จัก ดร.นิเวศน์ไหม? แป๊ะ : รู้จัก  เรา :  เล่นหุ้นเป็นไงบ้าง? แป๊ะ :งั้น ๆ แหละ  ถ้าไม่เล่นหลังวิกฤต ก็ไม่กำไรหรอก เรา:  งง? แป๊ะเล่นมา  ทั้งก่อนและหลัง  ทำไมไม่กำไร? บทสนทนานี้  สอนให้รู้ว่า อยู่ในตลาดมาก่อน ไม่ได้แปลว่าจะเก่งกว่าเสมอไป ขอโทษ เฮีย endophine  ด้วย  ถ้าทำให้รกกระทู้  แค่อยากจะบอกว่า เก่าแล้วต้องเก๋าด้วย  อย่างเฮียนี้  ขอซูฮกให้ จากคุณ : boozy bird เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 17:21:44

ความคิดเห็นที่ 15 น้ำตาจะไหลเฮียให้เกียรติพูดถึง   เพิ่มเติม เพิ่งเห็นพิมพ์ผิดตั้งสองคำ แก้ไขเมื่อ 08 ต.ค. 55 18:32:12 จากคุณ : หมึกสด เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 18:28:04

ความคิดเห็นที่ 16 เพื่งเข้ามาอ่านตอนดึกแล้วค่ะ และขอแปะกิ๊ฟต์ และโหวตเช่นเคยค่ะ เชื่อมั่นตามหลักการ "ลงทุน" ในหุ้น คือต้องนำเงินเย็นที่เราไม่มีแผนจำเป็นต้องใช้ภายในระยะเวลา 2-3 ปีนี้เอามาลงทุนค่ะ อันนี้ต้องกันเงินจากส่วนที่จำเป็นต้องใช้ทุกอย่างเอาไว้แล้ว และต้องคอยเตือนสติตัวเองว่าอย่าใจร้อน พยายามอย่าตั้งความหวังเอาไว้สูงเกินไป ว่าจะต้องได้กำไรเท่านั้นเท่านี้ภายในเวลารวดเร็ว เงินเย็นก็ยังเย็นอยู่ได้ ด้วยความใจเย็นของเราค่ะ ถ้าใจร้อนขึ้นมา เงินเย็นตอนแรกก็จะกลายเป็นเงินร้อนทีหลังค่ะ กราบขอบพระคุณพี่เอ็นโดฯ ที่ให้ข้อคิดแก่นักลงทุนทุก ๆ คนเสมอมาค่ะ จากคุณ : หวานใจกัปตัน เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 21:39:10

ความคิดเห็นที่ 17 คิดเสมอว่าเงินเย็นคือเงินที่หายไปแล้วยังใช้ชีวิตต่อได้โดยไม่เดือดร้อน วันที่เข้าตลาดเมื่อเก้าปีที่แล้ว คิดว่าเงินที่ลงไปหากกลายเป็น0 ก็ไม่เดือดร้อน หุ้นขึ้นลงก็ไม่ค่อยได้ดู กะซื้อกินปันผลอย่างเดียว ทยอยลงทุนเพิ่มไปเรื่อย ๆ ทำคลายเครียดไปหนึ่งรอบไม่รวมปันผล แต่หลายเดือนมานี้ตกอยู่ในสภาพอยากซื้อแต่ราคาสูงเหลือเกิน กับ อยากขายแต่เสียดาย จนต้องไม่เปิดดูพอร์ตเลยหลาย ๆ วัน บริหารอารมณ์ ความหวัง ความกลัวในใจยากเหลือเกินสำหรับตลาดหุ้น จากคุณ : Ganit เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 07:56:01

ความคิดเห็นที่ 18 ขอบคุณมากนะคะ เราก็ไม่เคยคิดว่าตลาดง่ายเลยค่ะ ยิ่งเข้ามาตลาดแล้ว รู้เลย mr.market มีอยู่จริง... บางวันมันทำให้เราอารมณ์ดี บางวันมันทำให้เราอารมณ์เสีย ทั้งกลัว ทั้งโลภ... พอกลัวมากๆ หรือโลภมากๆ ก็กลับมาถามตัวเองว่า เราบ้าไปป่ะเนี่ย... ไร้สาระ ก็แค่เงินในหุ้น จะคิดอะไรมากไป หมดไปก็หาใหม่... มันก็คงไม่ทำให้ชีวิตเรากินได้หลายมื้อมากกว่าเดิมหรอกมั้ง ทุกข์ร้อน เคลียดไปก็ไม่มีประโยชน์ หลังๆ ก็โลภให้น้อยลง มองโลกตามความเป็นจริงมากขึ้น... เอาอารมณ์ออกไปเถอะ มันไม่มีประโยชน์ที่จะดิ้นตาม mr.market โลภ... กับกลัว พอทำใจได้ละคะ แต่ตอนนี้ก็กลัวตัวเองจะรักหุ้นที่ถือมากเกินไปมากกว่า เพราะอารมณ์หวง ห่วง มันทำให้คนเรายึดติดมากเกินไป เฮ้อ ไม่ดีเลยนะคะ ^^" คงต้องค่อยๆตัด แล้วนิสัยเสียอีกอย่าง คือชอบบ่น เลิกไม่หายสักที ขอให้ได้บ่น พอบ่นเสร็จก็จบ (ไม่ได้เครียดนะคะ แต่เป็นอารมณ์ขอให้ได้ระบายอ่ะ พอระบายแล้วก็สบายใจ) พอมาฟังที่ผู้อาวุโสเขียน.. ได้คิด ว่ามันคงเป็นเงินเย็นมั้งค่ะ ทำให้เราไม่เคลียดอะไรมากมาย พอร์ตเราเองก็ยังเล็ก.. ทยอยออมเงินสะสมทุกเดือน แบ่งเงินเป็นสองก้อน เดือนละไม่เท่าไร สำหรับใครบางคน... ก้อนแรกหักลงหุ้นทุกเดือน ซื้อบ้าง ไม่ซื้อบ้าง ตามสถานการณ์ อีกก้อนเก็บเป็นเงินสด เพื่ออยากไว้ทำอะไรในอนาคต อาจจะเรียนต่อ ซื้อของ หรืออะไรก็ตามแต่ ถ้าไม่รู้จะทำอะไรก็คงเอามาลงทุนเนี่ยแหละค่ะ เฮ้อออ การเริ่มต้นมันก็ยากนะคะ เหนื่อยเหมือนกัน กว่าจะเข้าที่เข้าทางคงอีกหลายปี แต่ก็ไม่ท้อค่ะ จะค่อยๆ เดิน ค่อยๆ ก้าว วันนี้ไม่ถึง พรุ่งนี้ยังไม่ถึง แต่สักวันต้องถึงแน่ๆค่ะ ถ้าคนเราไม่ยอมแพ้ และมีความมุ่งมั่นมากเพียงพอ... ps ชอบอ่านกระทู้พี่มากค่ะ อ่านทีไรได้สติทุกที ขอบคุณมากนะคะ -/\- จากคุณ : amakin เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 08:43:53

ความคิดเห็นที่ 19 ขอบคุณทุกๆท่าน  ที่แวะเข้ามาอ่าน และช่วยออกความคิดเห็นที่ดีๆครับ อยากบอกว่า ดีใจที่มีคนชอบอ่านกระทู้ที่โพสต์ ทั้งๆที่   ไม่เคยใบ้หุ้นเด็ดให้ใคร   ที่คุณ boozy bird  เจอมา ทำให้นึกไปถึงประสบการณ์แนวนอน กับแนวตั้ง ถ้าเป็นประสบการณ์แนวนอน  มันก็จะวนลูบ วนไปเวียนมาอยู่แค่นั้นแหละ   ตลาดหุ้นขาขึ้นใหญ่ ก็ได้กำไร  ขาลงใหญ่ก็ขาดทุน บวกลบกันแล้ว  พอร์ตก็ไม่ไปไหน ความจริงกระทู้ที่ผมตัดข้อความของคุณหมึกสดมาต่อยอด แต่ละคนก็ตอบได้ดีๆทั้งนั้น เพียงแต่ของคุณหมึกสด มันเหมือนกับที่เขาเรียกว่า vital sign   คืออ่านปั๊บ รู้ความหมายในทันที   พอเอามาคิดต่อ น่าแปลกใจ  เงินเย็นๆของหลายคนทั้งในชีวิตจริง และในโลกออนไลน์ ละลายหายไปในตลาดหุ้นแบบไม่สมควร ต่อให้มันเป็นเงินเย็นในทางเศรษฐศาสตร์ครัวเรือน มันก็เป็นเงินที่ร้อนแผดเผาใจ เจ้าของเงินเย็นอยุ่ตลอดเวลา ลงท้าย  ผมเลยขอวัด vital sign   ของเงินเย็น หรือเงินร้อน   ด้วยอาการทางกาย "ที่การกินอิ่ม  นอนหลับ" โดยส่วนตัว  ผมเชื่อว่า  mr. market  ไม่ได้อยุ่ในตลาด แต่มันอยู่ในใจของเราเองต่างหากครับ ! แก้ไขเมื่อ 09 ต.ค. 55 11:18:16 จากคุณ : endophine เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 09:06:16

ความคิดเห็นที่ 20 โอ้ จริงค่ะ mr.market ไม่ได้อยู่ในตลาด แต่อยู่ในใจเรา.. ลึกซึ้งค่ะ ลึกซึ้ง จากคุณ : amakin เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 09:13:47

ความคิดเห็นที่ 21 ลืมไปอีกประเด็น เงินเย็นจากนอกตลาด จะกลายมาเป็นเงินเย็นหรือเงินร้อนในตลาดหุ้น ก็ขึ้นอยุ่กับว่า  เงินเย็นก้อนนั้น เข้าตลาดหุ้นตอนไหน ถ้าเข้ามาตอน หุ้นราคาหนึ่งบาท เงินก็จะเย็นกว่า เข้ามาตอนหุ้น ราคาสิบหกบาท ในภาพประกอบถึงสิบหกเท่า !!!! กาพประกอบผิด  ที่ถูกต้องอยู่ในข้อความต่อไปครับ ! แก้ไขเมื่อ 09 ต.ค. 55 09:16:47 แก้ไขเมื่อ 09 ต.ค. 55 09:16:15 จากคุณ : endophine เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 09:15:09

ความคิดเห็นที่ 22 ! ! จากคุณ : endophine เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 09:17:20

ความคิดเห็นที่ 23 แต่ละวันพอร์ทบวกลบหลักแสนยัง กินอิ่มนอนหลับ แสดงว่าเงินผมคงจะเย็นแล้ว แต่มันคงเย็นลงเพราะประสบการ์ณมากขึ้นมากกว่า เหตุผลที่สำคัญคือไม่ค่อยได้ซื้อขาย เลยไม่รู้จะรู้สึกกับตัวเลขไปทำไม เห็นด้วยว่าเงินเย็นเป็นเงินที่ไม่มีความจำเป็นต้องใช้ แต่ผมก็ยังอยากได้เพิ่มเพราะอยากอยู่ได้แบบไม่ต้องกินต้นเงินเย็นครับ ขอบคุณเฮียเอ็นโดครับ จากคุณ : Lita_T เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 21:04:26

ความคิดเห็นที่ 24 @23 สมเป็นจอมยุทธ์จริงครับ พอรต์แดงไม่ร้อนใจว่าแน่แล้ว พอร์ตเขียวไม่ดีใจแน่ยิ่งกว่า จากคุณ : หมึกสด เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 22:25:20

ความคิดเห็นที่ 25 อ่านกระทู้เฮียเอ็นโดรฯ แล้วได้ข้อคิดอีกแล้ว อาทิตย์ที่ผ่านมาเป็นอาทิตย์ที่เราไม่มีความสุข เพราะใจเราร้อนไปจริงๆ ค่ะ ขอบคุณนะคะที่ช่วยเตือนสติ จากคุณ : zaieiew เขียนเมื่อ : 14 ต.ค. 55 17:36:25

ความคิดเห็นที่ 26 http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f=1&t=54227&sid=4d5abdc4ddfdca0e206e8cedda4e433f สุดยอดพี่viคนนึงคับ เนื้อหาข้นขลั่ก ไม่ต้องมองหุ้นที่พี่เขาแนะนำหรอกนะ แนวคิดแบบเอามาใช้ได้เลย อ่านแล้วก็อยากไปเรียนกับพี่เขาจริงๆ อยากให้สินทร มีกระทู้แบบนี้บ้าง ไม่ใช่เอะอะๆ ก็แจกหุ้นเป็นตัวๆ แล้วก็เฮโลเป็นอะไรก็ไม่รู้ จากคุณ : ห้องนี้มีรักให้พักพิง เขียนเมื่อ : 14 ต.ค. 55 22:54:44