Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
คาถาเล่นหุ้นไม่จน ติดต่อทีมงาน

คอลัมน์สารพันปัญหาเงินทอง: ประวีร์ พิชัยศรทัต

         เรียนคุณประวีร์ที่นับถือ
         ดิฉันได้ติดตามอ่านคอลัมน์ของคุณประวีร์ สังเกตเห็นว่าช่วงนี้มีผู้อ่านหลายท่านเขียนเข้ามาในหัวข้อการลงทุนในตลาดหุ้นบ่อยครั้ง ทำให้ดิฉันนึกถึงคำกล่าวเรื่อง หลักการลงทุนในตลาดหุ้น ซึ่งบอกไว้ว่าการเล่นหุ้นก็เหมือนกับการค้าขาย ต้องพยายามซื้อให้ถูกแล้วไปขายให้แพง ดูแล้วการเล่นหุ้นให้ได้กำไรก็ไม่น่าจะยากเย็นแต่อย่างไร แต่พอเอาเข้าจริงๆ แล้ว ไม่เห็นมีนักลงทุนซักกี่คนที่ทำได้สำเร็จดังว่าจนได้กำไรงาม และร่ำรวยขึ้น โดยเฉพาะนักลงทุนหน้าใหม่ที่ยังไม่เข้าใจตลาดหุ้นดี พอเห็นการเล่นหุ้นเหมือนการเล่นขายของ คงคิดว่าได้กำไรกันง่ายๆ แต่หลังจากได้ลงทุนไประยะหนึ่ง ก็ชักจะรู้สึกว่าถูกหุ้นเล่น (งาน) แทนที่จะเล่นหุ้น ที่ได้ยินมาว่าเล่นหุ้นแล้วได้กำไรง่าย สงสัยชักจะไม่จริงดังว่าแล้ว ยิ่งซื้อยิ่งติด ยิ่งซื้อยิ่งถูกลง แล้วจะทำอย่างไรดีคะ
         สุมีนา

         ตอบ คุณสุมีนา
         พวกฝรั่งที่เป็นต้นแบบของการลงทุนในหุ้นได้เขียนตำราเอาไว้ โดยมีแนวคิดหรือหลักการเกี่ยวกับการเล่นหุ้นไว้มากมายที่ล้วนน่าสนใจและใช้ได้ผลดีครับ และสมาคมนักลงทุนไทยก็ได้แนะนำเอาไว้เป็นประเด็นที่น่าคิด วันนี้จึงขอเอาบางส่วนมาเป็นประเด็นพูด สำหรับนักลงทุน (ใหม่) ทั้งหลายไว้ลองพิจารณาดูนะครับ แม้แต่นักลงทุนมือเก่าที่รู้สึกว่าเป้าหมายคลาดเคลื่อนอยู่เสมอก็ลองพิจารณาพินิจพิเคราะห์ก็ได้ครับ

         ข้อที่1 กล่าวว่า อย่าได้ไปคิดรวยแบบแตะปุ๊บติดปั๊บนะครับ ต้องใช้เวลาและความคิดก่อนที่จะเป็นนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จ ต้องยอมรับสัจธรรมเหมือนคนในอาชีพการงานทั้งหลายว่าต้องมีความอดทนและมีอุตสาหะในการเรียนรู้และพัฒนา ไม่มีสูตรสำเร็จหรือทางลัดใด ๆ ในการเล่นหุ้น สรุปก็คือ อย่าหวังรวยเร็ว          

         ข้อที่ 2 ก็สืบเนื่องจากข้อที่ 1 ครับ เมื่อไม่ควรหวังรวยเร็วก็อย่าไปเริ่มลงทุนหากรู้สึกว่ายังไม่มีเงินสะสมเพียงพอสำหรับการใช้จ่ายอย่างน้อย 9-12 เดือน เพราะการลงทุนใช่ว่าจะกำไรตั้งแต่วันแรก หุ้นบางตัวซื้อแล้วต้องถือไว้สักระยะหนึ่งจึงจะได้กำไร ดังนั้นจึงต้องมีเงินสำรองระหว่างรอผลตอบแทนสำหรับคนที่เงินเดือนเป็นรายประจำคงผ่านเรื่องนี้ไปได้ครับ

         ข้อที่ 3 ก็คือต้องรู้ถึงเป้าหมายของการลงทุนว่าเราต้องการอะไร ระหว่างผลตอบแทนแบบเงินที่ได้ประจำ (Income) ยกตัวอย่างเช่น เงินปันผลหรือดอกเบี้ย หรือต้องการให้เงินลงทุนเติบโต(Growth) คือราคาหุ้นมีการปรับตัวขึ้นเป็นลำดับ

         ทั้งนี้เพื่อป้องกันความสับสนในการเลือกหุ้นที่จะลงทุนครับ เช่น ต้องการให้เงินทุนงอกเงยเร็ว (เก็งกำไร) แต่กลับไปซื้อหุ้นประเภทที่ไม่ค่อยมีสภาพคล่อง ผลประกอบการค่อนข้างดี จ่ายเงินปันผลสูง เป็นต้นครับ ผลตอบแทนที่ได้รับก็จะไม่ตรงกับเป้าหมายที่วางไว้

         ข้อที่ 4 ควรเริ่มซื้อหุ้นของกิจการที่มีชื่อเสียง ผลประกอบการดี หารายงานวิเคราะห์ง่ายและซื้อง่ายขายคล่องครับ หรืออาจจะซื้อหุ้นบลูชิป เพราะไม่ว่าสภาวะตลาดจะเป็นยังไง ในระยะยาวหุ้นนี้ก็ยังให้ผลตอบแทนเสมอ ถึงจะไม่มากนัก แต่ความเสี่ยงก็ต่ำครับ

         ข้อที่ 5 ต้องมีเหตุผลสนับสนุนอย่างชัดเจนถึงแนวโน้มการเพิ่มของราคาหุ้น ก่อนจะซื้ออย่าเอาความรู้สึกมาเป็นเกณฑ์ เพราะว่าราคาหุ้นจะเพิ่มขึ้นตามปัจจุบันพื้นฐานของกิจกรรมครับ

         ข้อที่ 6 ไม่จำเป็นต้องซื้อขายปรับพอร์ตฟอลิโอบ่อยๆ เพราะกำไรที่ควรจะได้ต้องสูญเสียไปกับค่าคอมมิชชั่น หากเลือกหุ้นที่จะซื้อได้แล้วควรเก็บไว้ซักระยะหนึ่ง ไม่ควรซื้อมาขายไปตลอดเวลา เพราะเสียโอกาสในการทำกำไรแบบต่อเนื่องนะครับ

         ข้อที่7 คือกระจายความเสี่ยงการลงทุน อย่าไปลงทุนในหุ้นตัวใดตัวหนึ่งเพียงตัวเพียงเพราะไม่มีบริษัทใดจะมีผลประกอบการดีต่อเนื่องทุกปีตลอดไป แต่อย่างไรก็ตาม สมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทยก็เสนอข้อคิดว่า ไม่ควรรกระจายความเสี่ยงมากจนเกินไป เช่น บางท่านมีหุ้นในพอร์ตหลายสิบตัวในเวลาเดียวกัน ทำให้ไม่สามารถติดตามราคาหุ้นและผลประกอบการได้ใกล้ชิดทุกตัวครับ

         ข้อที่ 8 ควรตั้งจุดขาดทุนสูงสุดที่รับได้ไว้ในใจ ซึ่งเขาว่าเหมือนกับเบรกของรถยนต์ เพราะหากเลือกซื้อหุ้นผิดแล้วราคาตกลง ต้องกล้าขายทิ้งเมื่อถึงจุดที่กำหนดอย่ามั่นใจว่าหุ้นจะขึ้นไป เพราะหุ้นจำนวนมากมักจะลงแต่ไม่ค่อยขึ้น

         และข้อสุดท้าย ต้องหมั่นค้นคว้าและอ่านบทความเรื่องการลงทุนและกลยุทธ์อยู่เสมอเพราะกระแสความเปลี่ยนแปลงในตลาดการเงินนั้นเกิดขึ้นตลอดเวลาและรวดเร็วมากครับตามหลักตำราพิชัยสงครามบอกว่าถ้ารู้เขารู้เราแล้วรบร้อยครั้งก็ชนะร้อยครั้งครับ--จบ--

         ที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์

จากคุณ : เม่าน้อยสู่พญาปลวก
เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 55 15:38:04




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com